[เล่าประสบการณ์] ดูดไขมันต้นแขน ที่รัตตินันท์คลินิก *แผลเล็กมากๆ* มีรูป

iamsoymilk

สวัสดีค่า

รีวิวนี้มีรูป(แต่น้อย)นะ เพราะตอนไปทำ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเขียนรีวิว

แต่พอทำเสร็จ.. ผลงานมันฟินจริง เราเลยอยากจะเขียนแชร์

ตัวหนังสืออาจเยอะหน่อย แต่รับรองอ่านแล้วได้ประโยชน์กับคนที่กำลังจะดูดไขมันแน่นอนค่า

เราเป็นสาวร่างอวบนะคะ (ถึงอ้วน 555)  สูง 155 ซม หนักตั้ง 56 กก

ไขมันส่วนอื่นอ่ะ บอกเลยว่า.. มีเยอะ แต่อะไรก็ไม่เออเจ้นเท่าที่ต้นแขนค่ะ !!

เพราะว่า เราเป็นคนหุ่นแอปเปิ้ล  ช่วงบนจะใหญ่กว่าช่วงล่าง

ซึ่งตอนเราผอม แขนก็ใหญ่ยุแล้ว  ยิ่งตอนนี้อวบจัด ไขมันยิ่งไปสะสมที่หน้าอกและต้นแขนเยอะมาก

มันทำให้เราดูเป็นผู้หญิงอวบ ที่ตัวป้อมๆ 5555


แต่เราเป็นคนชอบใส่เดรส เพราะมันสบาย ชุดก็ไปปิดที่หน้าท้องและต้นขาหมด  แต่ต้นแขนอ่ะ ปิดไม่ได้

ไขมันนูนเป็นก้อนเลยค่ะ โดยเฉพาะตรงข้อศอก ใส่แขนสั้นไม่สวย ต้องใส่แขนยาวเท่านั้นถึงจะปิด

แต่ประเทศไทยก็ร้อนเหลือทน  ใส่แขนยาวไม่ไหวเด้ออ!
  
เห้อออออ.. ไปค่ะพี่สุชาติ ! ไปดูดไขมันให้จบๆ ไป


เริ่มต้นเราก็เสิร์จ Google เลย ขึ้นคลินิก M อันแรกเลยค่า

โอ้โห รีวิวทั้งเขียน ทั้งคลิปเยอะมากกกกกก!!

อ่านดูก็แบบ เออ น่าสนเนาะ คนทำเพียบเลย แถมดูชิลอ่ะ ดูไม่เจ็บ ไม่น่าจะมีคนตาย 5555

เลยแอดไลน์ไป  ได้โปรมาอีก!! ดูดจุดละ 6900 ทักไปถามเค้าก็บอกให้ถ่ายรูปไปประเมิน

แล้วเค้าก็ประเมินว่า  ไม่ถึง 3 หมื่น  ว๊ายยยยย!  ถูกจัง

ไปค่ะ พี่สุชาติ  ไปคลินิกนี้  Go! Go! Go!


ไปถึงมีหมอมาประเมินให้  ยิบย่อยมากค่ะ

บอกแขนอิชั้นเนี้ยะ ต้องดูดจุดนั้นจุดนี้  เป็น 10 จุด ตีราคาไปเป็นแสน

แต่ลดให้นะ  ราคาเหมา ดูด bodytite เหลือ 6 หมื่น ดูดธรรมดา เหลือ 5 หมื่น โอเคมั้ย??   

อิชั้นก็อึ้ง.. เกินงบมาเยอะจังวะ  

ขณะที่ขอหมอไปนั่งคิดแปบ  ก็ถามเซลล์ว่า คุณหมอ ล.น. ล่ะคะ คนทำ ไม่มาประเมินเองเหรอ

เซลล์บอกว่า คุณหมอ ล.น. ไม่ทำแล้วค่ะ เป็นแค่พรีเซนเตอร์

อ่าวววว แล้วใครทำให้อิชั้นคะ ????

หมอเวร ทำให้ค่ะ หมอไหนเข้าเวรวันนั้น หมอคนนั้นก็ทำ ..เซลล์ตอบ

ว๊ายยยยยยยย  หมอเวรคือใคร ชื่อแซ่ก็ไม่รู้ ผลงานก็ไม่เคยเห็น  

นี่มาตามคลิปที่หมอ ล.น. นางดูดให้ แล้วคนไข้ฟินนะคะ ! ไม่โอค่ะ ไม่โอ ขอบาย

กลับค่ะ พี่สุชาติ

iamsoymilk

จากนั้น อิชั้นก็ยังหาหมอที่จะทำให้ต่อไป  โดยการเสิร์จหาใน Google

ซึ่งสิ่งที่อิชั้นต้องการคือ ผลงานที่ดี(ดูดแล้วแขนสวย)  ราคาที่โอเค(ไม่แพงเกินใจจะอดทน) และความปลอดภัย(ไม่ตาย)

ขอแค่ 3 สิ่งไม่ขออะไรมาก ไม่อยากดูดแล้วต้องมาตามรักษาตัวค่ะ บอกเลย

แต่ตอนนั้นก็ยังหาไม่ได้ค่ะ


จนวันนึง อิชั้นได้เปรยๆ ให้หมอที่ดูแลผิวหน้าอิชั้นฟัง ว่าอิชั้นอยากดูดไขมันแขน คุณหมอมีหมอแนะนำมั้ยคะ?  

คุณหมอก็บอกให้ไปหา  คุณหมอสุทธิพงษ์ ที่รัตตินันท์คลินิก

ด้วยความที่ดูแลผิวหน้ากันมานาน มีความเชื่อถือกันในระดับหนึ่ง ก็มั่นใจว่า

ตามนิสัยของคุณหมอแล้ว คุณหมอน่าจะแนะนำสิ่งดีๆ ให้

เราก็เลยแอดไลน์ไปถามราคาที่ รัตตินันท์คลินิก พบว่า..


ราคาแต่ละส่วน  

แขน 40,000 บาท
แผ่นหลัง 40,000 บาท
หน้าท้อง 60,000 บาท
เอว 40,000 บาท
สะโพก 40,000 บาท
ขาด้านนอก 40,000 บาท
ขาด้านใน 40,000 บาท
ขาด้านหน้า 40,000 บาท
ขาด้านหลัง 40,000 บาท
น่อง 40,000 บาท
หน้าอก 40,000 บาท

อุ้ยว๊ายย.. ดูดแขน bodytite ไม่นับจุด ทั่วแขน 40,000

เออ ราคาก็พอไหวนะ ก็เลย ไปค่ะ ไปปรึกษาเลยค่ะ

ไปถึงต้องชมว่า พนักงานต้อนรับ เต็มใจให้ข้อมูลอย่างร่าเริงมาก

ถามไรนางก็ตอบอย่างยาว และเป็นประโยชน์กับคนไข้

แถมไม่ฮาร์ดเซลล์เลยค่ะ  จะทำก็จัดไป ถ้ายังไม่ก็ตามสบายคุณพี่เลย  ..เออดีชอบจัง..

จากนั้นก็ได้คุยกับคุณหมอ เธอเปิดรูปให้ดู เป็นรูปคนไข้ที่ดูดไปแล้ว Before – After เยอะมาก

แต่ส่วนใหญ่เป็นหน้าท้อง กับต้นขา คนดูดแขนน้อยอ่ะ

ซึ่งเรากังวลเรื่องดูดแล้ว แขนจะยาน คุณหมอก็บอกว่า เนื้อยังตึงอยู่ ดูดแล้วไม่ยานหรอก

แต่ดูดแล้วก็ไม่ได้แขนเล็ก ตึงเปรี๊ยะแบบคนผอมนาจา  มันก็จะเล็กลงแต่นิ่มๆ

แล้วก็ยังมีขนาดใหญ่กว่าคนผอมอยู่ เพราะไขมันที่แทรกอยู่ในกล้ามเนื้ออ่ะ ไม่สามารถดูดออกมาได้

อืมมมมม ก็เข้าใจได้ เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว

ซึ่งหลังไปปรึกครั้งนี้ เราก็ยัง ไม่นัดนะ เพราะจะไปต่างประเทศ  เลยนิ่งๆ ไปก่อน

แต่ก็สอบถามทางไลน์อยู่เรื่อยๆ ตามนิสัยคนขี้สงสัย 5555

จนล่าสุด .. หลังจากโอนจองไป 10,000 บาท  

(ที่นี่ค่าจองแพงนิดนึง เพราะวันนึงหมอรับแค่ 2 เคสเท่านั้น หากเราเบี้ยวเนี้ยะ คุณหมอก็เสียคิวไปเลย 1 คิว อันนี้ก็เข้าใจได้)

เราก็ได้ฤกษ์ทำวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์  (ที่เลือกวันศุกร์เพราะที่นี่หลังทำ 1 วัน เค้าจะนัดไปทำแผล)

ต้องอดอาหาร และน้ำ ก่อนทำ 6 ชั่วโมง เราก็อดไปนะ  แต่พอใกล้ทำก็ทนไม่ไหว

ขอดื่มน้ำ พนักงานบอกจิบๆ ได้ ที่ห้ามเพราะไม่อยากให้ปวดฉี่ระหว่างทำ อ่อ.. งี้นี่เอง



จากนั้นเค้าก็ให้ไปชั่งน้ำหนัก วัดอัตราส่วนไขมัน และถ่ายภาพเก็บไว้

ตอนนั้น 11 โมง พนักงานก็เชิญไปขึ้นเขียง เอ๊ย ไปห้องผ่าตัด

ที่เคาน์เตอร์ที่ว่าหรูหราสวยงามแล้ว  ข้างหลัง

ยังแบ่งเป็นหลายห้องมาก และล้วนแต่ตกแต่งอย่างหรูหรา สะดวกสบาย

ซึ่งอิชั้นไม่ได้ถ่ายมา ใครจะไปรู้ว่าตัวเองจะมาเขียนเล่าประสบการณ์  555


พอไปถึงห้องดูดไขมัน  

ที่ห้องนี้มีหลายอย่างที่คลินิกนี้ตั้งใจออกแบบเพื่อความรู้สึกดีๆ ของคนไข้

มันทำให้เราปลื้ม และรู้สึก Exclusive มาก จะเล่าให้ฟัง

ห้องผ่าตัดนี้ กว้างพอสมควร แบ่งเป็น 3 โซน

โซน 1 ทางเข้า และห้องคุณหมอ เราเดินผ่านแค่แว้บๆ

โซน 2 ห้องรับรองแขก  มีโซฟา และห้องสุขา

( มีส้วมชักโครก แต่ไม่มีท่อน้ำนะ คือเป็นชักโครกและแผ่นรองซับน้ำข้างใน อันนี้คือ เห็นแล้วปลื้มจริง คุณหมอไม่จำเป็นต้องเสียเงินทำตรงนี้ก็ได้  ให้เราไปฉี่ข้างนอกก็ได้  แต่ที่นี่ใส่ใจออกแบบเพื่อความสะดวกสบายของคนไข้อย่างแท้จริง)

ห้องนี้ให้ผู้ติดตามหรือแฟนมานั่งได้แพร้พนึง  คงเพื่อลดความกังวลใจของผู้ติดตามหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ

แต่รู้สึกว่า เออ เค้าใจดีมากอ่ะ ที่ให้คนของเรามาดูสถานที่ผ่าตัดได้

หลังจากพนักงานเปลี่ยนชุดให้เราเสร็จ คุณหมอก็เข้ามาทักทาย

และเอาปากกามาวาดที่แขน  ดูดให้ทั้งแขน เลยไปถึงข้างหลังเลย  ใจดีมาก

ยกเว้นหน้าแขนนะ เพราเส้นประสาทเยอะ

แล้วคุณหมอก็ออกไป ตอนนี้เราถ่ายรูปตัวเองไว้ด้วย ขอปิดหน้านะ กลัวญาติๆ เห็นแล้วเอาไปเมาท์ 555

iamsoymilk

โซน 3 ห้องผ่าตัด ห้องนี้ถูกดูแลให้ปลอดเชื้อทุกอย่าง  

พนักงานพาเราไปนอนบนเตียงผ่าตัด ให้สวมถุงมือ และถุงเท้าหนาๆ ด้วย

และปลายเท้ายังมี.. แผ่นอุ่นขา!!  

ใครขึ้นเขียงบ่อยจะรู้ (แม้แต่แค่ไปทำฟันก็เหอะ) เวลาตื่นเต้นมือและปลายเท้ามักจะเย็นจนรู้สึกหนาว

และมันทำให้ตัวเราเริ่มสั่น ซึ่งผ้าห่มของทุกคลินิกไม่ช่วยอะไร แต่ที่นี่มีแผ่นอุ่นขา ซึ่งช่วยได้มากๆๆ


จากนั้นหมอก็เอาน้ำเกลือ แต่ไม่รู้ผสมอะไรไหมนะ อาจเป็นยาชารึป่าว  มาค่อยๆ ฉีดเข้าไปจนแขนบวมเป่งจนจะแตก

ณ จุดๆ นี้คือ ทั้งเจ็บและแสบ ไม่ได้เจ็บสุดจนทนไม่ไหว แต่มันแบบมาเรื่อยๆ จนอยากรู้ว่าเมื่อไหร่จะจบสักที

สุดท้ายกระบวนการนี้ก็เสร็จ แอบนานเหมือนกัน คุยกับคุณหมอจบไปหลายเรื่องเลย

คุณหมอคุยเก่งมาก ห้องไม่เงียบเลย อาจเพราะคุณหมอไม่อยากให้เราไปโฟกัสกับความเจ็บมากไป ซึ่งมันก็ได้ผล

พนักงานให้เรากลับไปนั่งรอที่ห้องรับรอง  สัก 15-20 นาที เพื่อรอให้แขนพร้อมกับการดูด



แล้วก็ถึงเวลาดูด  หมอเจาะรูที่แขน แต่เราไม่รู้สึกเลย ตอนดูดก็รู้สึกหน่วงๆ เป็นบางจุด ไม่เจ็บเลย

แต่มีบ้างที่ต้องฉีดยาชาเพิ่ม แสบยาชามาก แต่มันก็ดีกว่าเจ็บ อยากสวยต้องทน

ตอนนอนหงาย พนักงานถามว่า อยากปิดตามั้ย กลัวมองเห็นอะไรน่ากลัวหรือเปล่า?

เราบอกไม่ต้องปิด เพราะเราชอบมองไฟเพดานที่นี่  ซึ่งตกแต่งไฟเพดานเป็นรูปท้องฟ้า และใบไม้

มันให้ความรู้สึกผ่อนหลาย เหมือนนอนอยู่กลางทุ่งหญ้า ไม่ใช่เตียงผ่าตัด

ซึ่งเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ออกแบบมาแบบใส่ใจคนไข้ และเราชอบมาก

หลังจบการดูดข้างขวา ก็มาถึงข้างซ้าย ที่ต้องฉีดยาชาใหม่ทั้งแขน เพื่อเพิ่มความชาไปอีก

โอ้ยยยยยยยยยย  เจ็บแสบถึงทรวง  มีพนักงานมาจับมือให้กำลังใจ



พนักงานที่นี่น่ารัก ไม่หยิ่ง ถามอะไรก็ตอบแบบจริงใจ ไม่ขอไปที และคอยสังเกตคนไข้ตลอด

บางทีก็ดูสีหน้าเรา แล้วบอกหมอว่า หน้าเราดูกังวลๆ หมอก็ตอบว่า กังวลก็ถูกแล้ว

5555555555555  โถถถถถถถ่ ก็คนดูดไขมันอยู่ ก็ต้องกังวลอยู่แล้วอ่ะ อยากทำหน้าสบายนะ แต่มันก็มักคิดไปก่อน =  =

บางครั้งก็ถามว่า อยากดูมั้ย อยากดูไขมันมั้ย เราก็งง อึกอักๆ คือไรนะ ดูไขมัน?

พนักงานก็เอาสายมาให้ดูว่า นี่ไขมันกำลังถูกดูดนะ ในสายมีไขมันสีขาวๆ เหลืองๆ วิ่งปรื้ดๆ เลย

ไม่มีเลือดก็เลยดูไม่น่ากลัว

ดูดจบ 2 แขน ตอนนั้นเวลาก็ประมาณบ่าย 2 แล้ว หลังคุณหมอออกจากห้องไป

พนักงานก็ให้เราเขยิบขึ้นนั่งสูงๆ  แต่เนื่องจากแผลไม่ได้เย็บสนิท เพื่อให้น้ำเกลือระบายออกให้หมด

เราเอาแขนยันเตียงเพื่อเขยิบตัวแรงไปหน่อย เลือดพุ่งปรี๊ดจากแผล กระเซ็นเป็นทางยาวบนพื้น

เกรงใจพนักงานมาก  แต่เค้าก็ไม่ดุคนไข้ และพากันเช็ดพื้น

iamsoymilk

จากนั้นพนักงานช่วยกันห่อแขนเราด้วยแผ่นดูดซับ จนหนาเตอะเลย

ใครเคยอ่านรีวิวว่าต้องเตรียมผ้าอนามัยมาพันแผลกันน้ำไหล ไม่ต้องเตรียมนะ ที่นี่เค้าจัดการให้หมด

หลังจากพันจนแน่นหนา ก็ใส่ชุดกระชับทับอีกที

ตอนนี้แขนเราบวมหนาเตอะมาก คือหุบแขนไม่ได้ ต้องกางๆ ออกนิดหน่อยตลอด

ออกมาที่ห้องรับรอง มีอาหารวางรออยู่ !  เป็นแซนวิชแฮมชีส น้ำแดง น้ำเปล่า และยา

พร้อมทั้งถุงผ้า ใส่ชุดทำแผลสำหรับทำที่บ้าน ครบ!

ขึ้นเขียงมาหลายที่ เพิ่งเคยเจอแบบนี้

จ่าย 40,000 บาท กับสถานที่ กับการดูแล กับอาหาร  และถุงผ้า

บอกเลยว่า รู้สึกดีมากๆๆๆ



พนักงานถามว่า เอาไขมันกลับบ้านได้นะ เอามั้ย เราบอก ขอถ่ายรูปพอ =  =



แขน 2 ข้าง เราดูดได้ 800 cc เยอะมากกกกกก หมอว่าเยอะกว่าขาบางคนอีก 5555555


ก่อนกลับ คุณหมอบอก หลังจากนี้ให้ดื่มน้ำตลอด เพราะเสียน้ำมาก และห้ามถอดแขนจนกว่าจะ 24 ชั่วโมง

ก็คือพรุ่งนี้ พนักงานจะจัดการถอดให้เอง และไม่ห้ามกินอะไร อยากกินไรก็กินได้หมด

มื้อเย็นเราก็ไปจัดอาหารทะเลเลย 5555555555555  


และกลับบ้านนอน ตอนนอนก็กางๆ แขนนอน ไม่สบายเท่าไหร่ เพราะรำคาญแผ่นดูดซับ แต่ก็ทนเอาแค่คืนเดียว



วันถัดมา ไปถอดแขนออก พบว่า ข้างในแผ่นดูดซับเต็มไปด้วยเลือดกับน้ำเกลือ  แต่ไม่มีไหลออกมาเลอะที่นอนเลย

แผ่นนี้นี่ ทำงานได้ดีงามจริงๆ  สมแล้วที่ทนรำคาญ

จากนั้นพนักงานก็ทำแผลให้ และห้ามเราอาบน้ำ 3 วัน



นี่คือรูปก่อนทำ และหลังทำ 1 วัน จะเห็นว่าแขนเล็กลง แต่ยังดูหนังย้วยๆ บางจุดบวมๆ

แผลเรามี 3 จุด ที่เหลือข้อศอก 2 จุด ใต้รักแร้ 1 จุด

หลังจากดูดไป 3 วัน เราวัดแขนทันที เล็กลง 3 เซนติเมตรทั้ง 2 ข้าง

ขนาดว่าตอนนี้ยังบวมน้ำเกลืออยู่นะ

ซึ่งหมอบอก จะกระชับขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 6 เดือน


ส่วนชุดกระชับนั้น ที่คลินิกนี้ เค้าให้ใส่ 24 ชั่วโมงแค่ 3 วันแรกเท่านั้น

นอกนั้นให้ใส่แค่วันละ 12 ชั่วโมง ห้ามใส่ทั้งวันเด็ดขาด

ไม่งั้นแขนจะบวม เพราะน้ำเหลืองคั่ง ควรให้น้ำเหลืองได้ระบายบ้าง

ซึ่งเราก็ฟินเลย 555555 เป็นคนขี้อึดอัดอยู่แล้ว ดีมากที่ไม่ต้องใส่ 24 ชม

ตอนนี้ครบ 1 เดือนแล้ว แผลเล็กมากกกกกกกก



แขนก็เล็กลงอีก 1 เซน เป็นทั้งหมด 4 เซน ฟินมากกก      

และนี่คือทั้งหมดของความปลื้มปริ่ม เลยมาเขียนเล่าให้ฟัง  แบบละเอียดมาก (จริงๆ ละเอียดได้กว่านี้อีก แต่เกรงใจคนอ่าน)

ใครอ่านได้มาถึงตรงนี้  กราบขอบพระคุณเลย

หากคุณกำลังจะดูดไขมัน ก็ขอให้รีวิวของเราได้เป็นประโยชน์กับคุณบ้างก็ดีใจแล้วค่ะ ^^

tanew01

ใช่ๆ เราเห็นคนใน Facebook เยอะมากๆเลย เขาบอกว่า คุณหมอเก่ง แล้วก็ใจดีอีกด้วย พนักงานก็น่ารัก ไม่ว่าใครไปแล้ว ก็ติดใจกันทั้งนั้นเลย  เราว่าเขาเป็นอันดับ 1 เลยนะ สำหรับเรื่องเกี่ยวกับพวก การดูดไขมัน ปลูกผม ผ่าตัดลดน้ำหนัก อะไรงี้

http://www.rattinanclinic.com/