ตอนหลังแผนกตรงที่ฝนอยู่ ได้ย้ายไปออฟฟิศที่คลินิกตรงสยาม คราวนี้ยิ่งหนักใหญ่ คนสวย ๆ เพียบ!!! คือดูดีกันเต็มไปหมด ทั้งพี่เซล ทั้งลูกค้าที่มาทำ ฝนยิ่งรู้สึกตัวเองด้อย จนกว่าจะรู้ตัวอีกที คนก็ทักว่าทำไมฝนเป็นคนที่ดูเศร้า ดูไม่ร่าเริง ไม่ยิ้มเลย เป็นอะไรรึเปล่า ฝนเองก็ไม่รู้สึกตัวนะ ถ้าไม่มีคนมาทัก
![]()
ก่อนทำศัลยกรรม
แต่ในที่สุด...ที่คลินิกมีเปิดรับพนักงานทำศัลยกรรม Make Over !!!แต่มีการติดสัญญานะต่อการทำ 1 อย่างอะไรแบบนี้ เท่ากับแลกในส่วนที่ไม่ได้จ่าย ตอนแรกที่เห็นฝนบอกเลยว่า เฉย ๆ เพราะไม่คิดว่าเราจะได้ทำ หรือ เราจะแก้ตรงไหนได้ แต่ฝนก็ลองยื่นสมัครดู ได้เข้าไปปรึกษาคุณหมอ ตอนปรึกษาฝนบอกคุณหมอว่า หนูไม่อยากหน้าเหลี่ยมอีกแล้ว วันนั้นตอนที่ฝนปรึกษาคุณหมอ ก็เล่าให้คุณหมอฟังชุดใหญ่เลยว่า เรามีปัญหาตรงไหนบ้าง เพราะฝนรู้สึกว่าเป็นคนที่กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง แถมดั้งยังแหมบอีก รวมแล้วทุกอย่างคือไม่ชอบหน้าตัวเองเลย ไม่รู้น้ำตามาจากไหน มันไหลออกมาตลอดเวลาที่คุยกับคุณหมอ มันเหมือนเป็นปมในใจจริง ๆ
![]()
ก่อนทำศัลยกรรม
ลืมบอกไปก่อนปรึกษาทางคลินิกจะมีเก็บภาพก่อนและหลังของเราด้วยบ็บภา มีการเซ็นสัญญา และมีการถ่ายรูปทุกขั้นตอนการทำเลย ปรึกษากับคุณหมอนานมาก ถ้าให้เล่าให้หมด วันนี้กระทู้คงไม่จบ ฝนเลยย่อยมาเป็นข้อ ๆ ดีกว่า
สรุปคำปรึกษาของคุณหมอ สิ่งที่เราต้องแก้มีทั้งหมด 6 ข้อ ตามนี้เลย
1. ลดโหนกแก้ม : เพราะฝนเป็นคนที่โหนกแก้มสูง เห็นชัด คุณหมอบอกว่ามันทำให้หน้าดูแก่ ถ้าลดโหนกแก้มลงจะทำให้ช่วงบริเวณใบหน้าดูเพรียวลงได้
2. ตัดกราม : เพราะฝนกรามเป็นเหลี่ยมเห็นชัดเจนมาก! คุณหมอบอกว่าในส่วนของกรามฝน คุณหมอจะตัด! ให้เข้ารูปเพื่อรับกับใบหน้า
3. เลื่อนคาง : คุณหมอบอกว่าถ้ามองจากมุมด้านข้าง คางด้านล่างจะยื่นออกมามากกว่าปากด้านบน ทำให้หน้าดูไม่สมส่วน คุณหมอจะเลื่อนคางของฝนให้อยู่ในที่ควรจะเป็น
4. ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม : ส่วนนี้เป็นการกำจัดถุงกะเปาะไขมันออก เพื่อปรับให้หน้าเรียวเล็ก!!!
5. ดูดไขมันกรอบหน้า : เพื่อเก็บให้หน้าเข้ารูปเรียวเล็กถึงขีดสุดเลยค่ะ คุณหมอคอนเฟิร์มตรงนี้ว่าถ้าครบตามนี้ หน้าเล็กเรียวสวยแน่นอน!
6. เสริมจมูกซิลิโคน : จากที่เห็นว่าฝนดั้งแหมบมาก ใส่แว่นทีไรคือแว่นตก คุณหมอก็บอกว่าถ้าหน้าทำเต็มขนาดนี้แล้วก็ต้องมีดั้งด้วย
ฟังแล้วก็สตั้นท์ไป 3 วิ! นี่หน้าเราต้องทำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!?!
คุณหมอบอกว่าจะทำให้ฝนสวยกว่าเดิมจนใครต่อใครที่ล้อต้องยอมรับเลยล่ะ ตอนแรกฝนโทรไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็เป็นห่วง แต่ฝนก็บอกแม่ว่า ฝนอยากทำจริง ๆ และฝนก็มั่นใจว่ามันจะต้องออกมาดี
เคสของฝนจะแบ่งเป็นสองครั้ง และต้องมีคุณหมอถึงสองคนในการทำศัลยกรรมครั้งนี้ โดยรอบแรก จะเป็นคุณหมอสมบูรณ์ ไหวพริบ คุณหมอจะลดโหนก ตัดกราม เลื่อนขากรรไกร ส่วนรอบที่สอง คุณหมอวลภ ศุภวณิช หรือคุณหมอเชี้ยว รับหน้าที่ดูดไขมันกรอบหน้า ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม และ ทำจมูก แต่จะต้องทำห่างกันประมาณ 1 – 2 เดือน เพราะต้องรอพักฟื้นหลังจากทำส่วนแรกก่อน
ศัลยกรรมรอบที่ 1 : ลดโหนก ตัดกราม เลื่อนขากรรไกร
![]()
ก่อนเข้าห้องศัลยกรรม
และแล้วก็ถึงวันที่ฝนจะเปลี่ยนตัวเอง คือวันที่เข้ามาทำ ลดโหนกแก้ม ตัดกราม เลื่อนคาง เป็นวันแรกที่เหยียบที่ทำงานแล้วตื่นเต้นมากค่ะ ปกติมันเป็นความเคยชิน ว่าเราก็มาทำงานที่นี่แหละ แต่พอเป็นวันนี้ที่ต้องเปลี่ยนตัวเองจริง ๆ ก็เลยรู้สึกกลัวปนตื่นเต้นขึ้นมาเลยแต่ก้าวขามาขนาดนี้แล้วจะให้ถอยก็คงไม่ได้! ถามตัวเองซ้ำ ๆ ถ้าวันนี้เราไม่ทำ อีก 5 ปีข้างหน้าจะรู้สึกเสียดายมั้ย ไม่ใช่แค่เพราะคำพูดของใคร แต่เป็นเพราะตัวเราเองก็อยากเปลี่ยนแปลง เพราะอย่างนั้นต้องลุยอย่างเดียวค่ะ
![]()
ก่อนเข้าห้องศัลยกรรม