ข้อดี
1.ช่วยให้ปลายจมูกโด่ง ยาว และมีสโลปที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เพราะเป็นกระดูกส่วนที่ตรงและบางที่สุด
2. มีเทคนิค สำหรับแก้ไขรูปร่างจมูกได้ทุกแบบ
3.ไม่มีการใช้ซิลิโคนปลายจมูกเป็นร่างกายเราเองทั้งหมด ไม่มีวันทะลุ
4.เป็นเทคนิคเฉพาะจากเกาหลี ที่คุณหมอในเกาหลีนิยมใช้ในการเสริมจมูก
ข้อเสีย
1.ต้องดูแลตัวเองดีๆหลังผ่าตัดเพราะแก้ไขไปถึงระดับโครงสร้างของจมูก
2.ต้องการเวลาพักฟื้นแน่ๆ 1-2 วัน
“ตัดสินใจจะแก้จมูกกับที่นี่”
พอเราตัดสินใจจะแก้จมูกกับที่นี่ ก็จะมีพนักงานมาบอกการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดค่ะ สำหรับจมูกรีคอนหมอเบนซ์ ไม่ได้เป็นแบบปรึกษาแล้วทำเลย แต่จะต้องปรึกษาก่อนแล้วค่อยนัดวันมาทำศัลยกรรมทีหลัง ก็พนักมาบอกเรื่องวิธีการดูแลไม่มีอะไรมากค่ะ ส่วนใหญ่จะให้งดของจำพวก แอลกอฮอล์, วิตามิน, อาหารเสริม และดูแลร่างกายให้แข็งแรงก่อนผ่าตัดค่ะ
เราก็ทำตามทุกข้อเลยค่ะ พอถึงวันทำอยากบอกว่าหิวนิดหน่อย เพราะอดข้าวอดน้ำตั้งแต่ก่อนนอน แต่เราได้เสริมจมูกจริงๆ ตอนเที่ยง ระหว่างนั้นก็มีพนักงานคอยมาคุยด้วยตลอด ให้เซ็นเอกสารเอายามาให้ชุดใหญ่มาก ก่อนเข้าห้องผ่าตัด เค้าก็ให้เราไปถ่ายรูปก่อนทำเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วก็ไปใส่เสื้อคลุม หมวกคลุมหัว สุดท้ายต้องล้างหน้าด้วยค่ะ เค้าบอกว่าเพื่อป้องกันเชื้อโรคและการติดเชื้อในห้องผ่าตัดค่ะ พนักงานบอกว่าเรื่องนี้สำคัญมากยิ่งเป็นการศัลยกรรมที่ใกล้หน้าเท่าไหร่ ยิ่งต้องสะอาดมากเท่านั้น
พอเราเดินเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอวิสัญญีแพทย์เค้าก็ถามว่าเรากินข้าวไปล่าสุดเมื่อไหร่ เราสูงเท่าไหร่หนักเท่าไหร่ เคยดมยาสลบมาก่อนมั้ยแบบนี้ค่ะ ซึ่งเราเคยดมยาสลบมาแล้ว เลยไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ คุณหมอก็ให้เรานอนที่เตียง แล้วก็มีฉีดยาสักพักเราก็สลึมสลือแล้วหลับไปเลย ตื่นขึ้นมารอบแรกคือรู้สึกเหมือนมีคนเรียกชื่อ เราก็อึนๆ ลืมตามาแป๊ปเดียวก็หลับต่อค่ะ ตื่นมาจริงๆ อีกที ก็ตอนเข้ามาอยู่อีกห้องแล้วค่ะ ตื่นขึ้นมาเห็นมีพยาบาลมานั่งข้างๆ พี่พยาบาลก็เอาน้ำกับข้าวต้มมาให้กินค่ะ ตอนนั้นแบบเหมือนขึ้นสวรรค์เพราะตอนตื่นมามันมึนๆ อึนๆ เจ็บๆ แต่พอได้กินของร้อนๆ แล้วมันโล่งค่ะ รู้สึกดีขึ้นมาเลย พอกินเสร็จได้ซักพัก ก็กลับบ้านค่ะ พนักงานก็เอายาเอากระเป๋ามาให้ แล้วก็เรียกแท็กซี่ให้เราด้วย
พี่พนักงานถ่ายให้ตอนเรานอนพัก น่ากลัวมาก
ก่อนกลับก็ถ่ายรูปไว้อีกรอบค่ะ ตอนนั้นพูดอู้อี้มาก
“หลังแก้จมูกแล้วนั้น...”
กลับมาถึงบ้านตอนเย็นๆ แต่ด้วยความที่มันมึนมาก เราก็นอนต่อเลยค่ะ แต่นอนราบก็ไม่ได้เพราะกลัวเลือดมันค้างในจมูก แต่ด้วยความมึนของเราจะไปซื้อที่หนุนคอก็ไม่ไหว เราเลยเอาหมอนมาหนุนหลังเยอะๆ แทน ตื่นมาอีกครั้งก็บ่ายๆ ของอีกวันแล้วค่ะ ช่วงนั้นเราก็กินโจ๊ก 3 มื้อเลย เพราะมันไม่อยากกินอะไรแข็งๆ หรือเผ็ดๆ เลย มันแบบไม่อยากแสบจมูกน่ะค่ะ พอเข้าวันที่ 3 ก็เริ่มกินข้าวปกติแต่เป็นแบบพวกอาหารที่รสไม่จัด พวกผัดผัก ต้มจืด ประมาณนี้ค่ะ ส่วนเรื่องดูแลเราจะประคบเย็นที่ช่วงแก้มข้างๆ จมูกแทนค่ะ ไม่กล้าเอาคลูเจลมาวางตรงจมูกตรงๆ เพราะกลัวมันเบี้ยว