เสริมจมูกหมอจำนงค์หรือที่คลีนิคไหนดี

thiwarat

อยากทำจมูกให้โด่งกว่านี้หน่อยไม่ทราบทำที่ไหนดี อยากขอคำแนะนำ เพราะว่าเคยอ่านหลายกระทู้แล้วบอกว่าที่คลีนิกแห่งหนึ่งย่านรังสิตคลองต้นๆ  มีทำจมูแต่ติดต่อยาก จะติดต่อได้แค่ทางไลน์ หรือในเฟสบุ๊ค หาข้อมูลที่อื่นก็ไม่ค่อยมี (มีแต่หน้าม้าเยอะมากคอยเชียร์) นอกจากนี้ที่นี่มีผู้ช่วยหมออายุก็ประมาณ 40 กว่าๆ แค่คนเดียว เห็นบอกว่าทำตั้งแต่แผนกต้อนรับลูกค้าไปจนถึงจ่ายยาและรอส่งลูกค้าเลยทีเดียว แต่ที่น่าสงสัยเป็นผู้ช่วยแพทย์แต่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพนีี่ทำได้ด้วยเหรอ


ก่อนทำก็ต้องโอนเงินก่อนด้วย ถ้าโอนไปแล้วไม่ทำก็จะโดนยึดเงิน แถมค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับที่อื่นแล้วก็ไม่ได้จะแตกต่างสักเท่าไหร่เลย เห็นที่ีแตกต่างก็คือเรื่องมาตรฐานนี่แหละ หากเปรียบเทียบมันคล้ายๆ กับอู่ซ่อมรถยนต์ กับศูนย์ยังไงยังงั้น


ในกระทู้บอกว่าหมอจะอายุมากสักหน่อยใส่แว่นสายตา หลังจากที่ไปทำจมูกแล้วปรากฏว่าเอียงแก้หลายครั้งก็ไม่หาย บางรายก็เน่าต้องเอาออก ที่่สำคัญคือติดต่อหมอก็ไม่ได้ต้องผ่านผู้ช่วยรายนี้คนเดียวเท่านั้น ตอนก่อนโอนเงินก็พูดจาดี แต่พอหลังจ่ายเงินแล้วเริ่มพูดจาไม่ค่อยดีแล้ว สุดท้ายก็ต้องไปให้หมอที่อื่นแก้ เหมือนเสียเงินไปฟรีๆ แถมเจ็บตัวอีกก็เลยกลัวค่ะ  


เลยอยากขอคำแนะนำคุณหมอทีเก่งๆ ที่สายตาดีๆ และพอจะหาประวัติหรือข้อมูลของหมอได้ด้วยนะคะ (หมอที่จบจากเมืองจีนก็ยังไม่วางใจค่ะ แบบว่ากระแสเมืองจีนดังน่ะค่ะ ^_^)และติดต่อหมอโดยตรงไ้ด้ด้วยค่ะ เอาแบบที่ดูมีมาตฐานและเป็นมืออาชีพหน่อยค่ะ


ขอเพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

ปล. ขออนุญาติหน้าม้าไม่ต้องมาเม้นท์เชียร์นะคะ

      พอดีไปอ่านเจอภาพพีี่ที่เขาไปทำตามาค่ะ เตือนไม่ให้เชื่อภาพรีวิว เพราะภาพมันแต่งได้

๋ีJureerat

เอาสิ่งที่ควรคำนึงก่อนจะตัดสินใจทำศัลยกรรมมาให้ลองอ่านกันดูค่ะ

1. ดูทีมงานแพทย์ว่าเป็นอย่างไร มีทีมงานแค่ไหน ความพร้อมและเชี่ยวชาญของผู้ให้คำปรึกษา สถานประกอบการบางแห่ง Save Cost  เสียจนน่าเกลียดหรือแทบไม่ลงทุนเลย อันนึ้ก็สามารถพิจารณาได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าควรเสี่ยงหรือไม่ และเมื่อเปรียบเทียบราคากับที่อื่นซึ่งอาจจะไม่แตกต่างกันมากนักเสียทีเดียว

สำหรับกรณีนี้เชื่อไหมว่าสามารถสร้างความร่ำรวยให้พวกเขาได้ภายในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี เจ้าหน้าที่สถานประกอบการบางแห่ง สามารถออกรถได้ 2 - 3 คันเลย ในขณะที่ลูกค้าซึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ยังอยู่ในวัยเรียน และต้องอดออมเงินเพื่อให้ได้ความสวยมา ลองพิจารณาดูแล้วกันว่าคุ้มหรือไม่กับสถานประกอบการที่เอาเปรียบเห็นแก่ได้และไม่ค่อยมีจรรยาบรรณแบบนี้ เพราะราคาที่ทำไม่ใช่พัน สองพันบาท  แล้วถามว่าเขาทำได้อย่างไร

ลองยกตัวอย่างเป็นตุ๊กตาสักตัวนึงแล้วกันนะคะว่า  ในหนึ่งวันมีผู้เข้ารับบริการขั้นต่ำ 2 รายต่อวัน และเฉลี่ยรายได้ที่ได้รับ 15,000 บาทต่อราย เท่ากับ 30,000 บาทต่อวัน ใน 1 เดือนเท่ากับ 26 วัน ก็เท่ากับ 780,000 บาทต่อเดือน และเท่ากับ 9,360,000 บาทต่อปี  และสมมติว่าสถาบบริการแห่งนั้นมีบุคลากรเพียง 2 ราย เท่านั้น"  อือม์น่าคิดนะคะมินาเล่าสถานบริการเหล่านี้จึงผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด


และยิ่งเศรษฐกิจแบบที่นี้ด้วยแล้วยิ่งต้องพิจารณาและไตร่ตรองให้มากขึ้นไปอีกหลายเท่าเลยทีเดียว


2. อย่างหลงเชื่อในภาพ หรือโฆษณาที่เห็น ยกตัวอย่างเช่น ภาพก่อนทำ ไม่แต่งหน้าเลย  แต่ภาพหลังทำ แต่งหน้าเสียสวยเช้ง แบบนี้มันก็จะมองหลอกตา (หรือบางทีก็ใช้อุปกรณ์แต่งภาพเสริมเข้าไปอีก) ซึ่งโดยความจริงแล้ว ไม่ว่าภาพก่อนทำหรือหลังทำ ควรเหมือนกัน แบบนี้ก็ต้องลองพิจารณาดูเองแล้วหล่ะว่าเขาใช้เครื่องมือทางธุรกิจด้วยความจริงใจมากน้อยแค่ไหน เพราะนิยามของโฆษณาอย่าลืมว่า "จะบอกกล่าวความจริงเพียงครึ่งนึงหรือส่วนนึงเท่านั้น


3. การให้คำปรึกษา บางสถานประกอบการ ผู้ให้คำปรึกษาแม้จะดูจากภายนอกว่ามีประสบการณ์ (อายุ) แต่เมื่อสอบถามกลับไม่รู้เรื่องเลยก็มี บางกรณีก็อาศัยบุคคลภายนอกให้คำปรึกษาหรือให้สอบถามผ่านทางไลน์แทนเสียอีก (ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าเขาก็คงมีรายได้จากหัวคิวในส่วนนี้บ้างไม่มากก็น้อย ทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของสถานประกอบการนั้นๆ เลยก็ได้ ตรงนี้ก็ควรที่จะพิจารณาให้รอบคอบ)


4. บางสถานประกอบการ ก็อาจมีโปรโมชั่นเช่นแนะนำลูกค้ามาให้ส่วนลดเท่านั้นเท่านี้หรือมีหัวคิวให้ หรือเรียกอย่างสวยหรูหน่อยว่าคอมมิชชั่น เป็นต้น  (ลูกค้า หรือนักเรียน นักศึกษาที่เข้ามาทำ บางราย สามารถทำเป็นอาชีพมีรายได้เป็นกอบเป็นกำเลยก็มี จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของธุรกิจหน้าม้า)  ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรหาข้อมูลให้มากหน่อย อย่าใจร้อน เพราะตอนเงินอยู่กับเราอะไร อะไรก็ดีไปหมด แต่ตอนเงินไปอยู่กับเขาแล้วนั่นสิ คงต้องมานั่งเสียใจ


5. เมื่อเข้าไปใช้บริการก็ควรศึกษา และควรเก็บหลักฐาน เอกสาร ทุกชิ้นหรือที่เป็นไปได้ไว้ เพราะบางทีสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเราโดยไม่รู้ตัว

๋ีJureerat

6. กรณีทีมงานหรือผู้ช่วยแพทย์ที่เข้าเคสด้วยนั้น หากในกรณีที่ไม่ได้จบเฉพาะทางมาด้านนี้ (เช่นพยาบาลซึ่งจำเป็นอย่างที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ) และต้องมีแพทย์อยู่ด้วยทุกครั้งไม่สามารถดำเนินการเองได้  อีกกรณีนึงเท่าที่ทราบผู้ช่วยแพทย์ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพจะไม่สามารถฉีดสารเหลวอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับผู้เข้ารับบริการเองได้ถึงแม้จะมีแพทย์อยู่ด้วยก็ตาม เพราะถือว่าผิดกฏหมาย (อย่างไรรอผู้รู้มาช่วยเสริมค่ะ)


7. สถานประกอบการบางแห่ง ก็ทำราวกับเป็นสถานให้บริการเถื่อน หากได้ลองเดินเข้าไปใช้แล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือน ปกปิด ซ่อนแร้น (สังเกตุได้ตั้งแต่หาลูกค้าเข้าร้าน) อันนี้ก็ไม่ควรไว้วางใจ และกล้าที่จะปฏิเสธ เดินออกมา แม้เขาจะเชิญชวนหรือให้เหตุผลสารพัดสารเพแบบชักแม่น้ำทั้งห้าก็ตาม ดีกว่ามานั่งเสียใจภายหลัง


8. บางสถานประกอบการจะเห็นผุ้เข้ารับบริการเป็น "เหยื่อ"  มากกว่า เป็น "ลูกค้า"  จึงควรต้องระวัง บางรายมาไกลจากต่างจังหวัดแล้วมาเสียรู้ก็มีอยู่มาก อย่างตามข่าว สาร ทางทีวี หรือสื่อสิ่งพิมพ์

9.  สำหรับข้อนี้ไม่แน่ใจค่ะ เคยอ่านผ่านๆ ตาว่า สถานประกอบการ ที่เปิดตามเวลาราชการ จะต้องมีแพทย์อยู่ประจำตามเวลาที่เปิดที่ระบุไว้ สำหรับข้อนี้ไม่แน่ใจจริงๆค่ะ (รอผู้รู้อีกเช่นกัน)


10. ประสพการณ์เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจอย่างหนึ่ง แต่ก็ต้องไม่ลืมความจริงที่ว่า "สังขารมักจะสวนทางกับความแม่นยำ"  ยิ่งเฉพาะเจาะจงไปบนใบหน้าเราด้วยแล้วอึ๋ย........ส์ส์  มันจึงเป็นปัจจัยหรือองค์ประกอบอย่างหนึ่งสำหรับการพิจารณาเพื่อตัดสินใจ ปัจจัยที่สำคัญอีกตัวหนึ่งก็คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ว่ามีความทันสมัยเพียงใด


11. สถานบริการบางแห่งมักจะอวดอ้างว่าอยู่สมาคมโน้น สถาบันนี้ (ทั้งๆ ที่บางทีไม่ได้มีบทบาทสำคัญอะไรในสมาคมหรือสถาบันนั้นๆเลย นอกจากเป็นสมาชิกเพี่อรับรู้ ข่าวสาร ของสมาคม หรือสถาบันเท่านั้น) เพื่อทำให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น


   ดังนั้นเมื่อคิดที่จะทำศัลยกรรม ก็ควรหาข้อมูลให้รอบคอบ พินิจ พิเคราะห์ พิจารณาว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน บางรายอาจเพียงใช้เครื่องสำอางก็สามารถทำให้สวยได้โดยไม่ต้องไปพึ่งมีดหมอ ให้เสียเงินมากมาย บางรายไปทำเพราะเห็นว่าถูกเพียงไม่กี่บาท (ทั้งที่จริงแล้วอาจแพงกว่าด้วยซ้ำ )  แถมไปแล้วก็ยังมีคิวนาน อีก  จึงทำให้มีธุรกิจขายคิวเกิดขึ้น

    โครงหน้าบางรายค่อนข้างมาตรฐาน ซึ่งอาจทำไม่ยากก็จะออกมาดี ก็จะกลายเป็นว่าสถานประกอบการแห่งนั้นเก่งเป็นต้น อย่างเช่นการทำปากกระจับ หรือกรีดตาก็มีหลายๆ ที่ที่ทำเก่ง จึงไม่อยากให้เสี่ยงกับของถูกและบอกแบบปากต่อปาก และควรศึกษาให้ดีๆ หากไปทำกับคลีนิคที่เอ่ยมาข้างต้นคุณอาจจะไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลย เหมือนกับภาพที่คุณมาลงนั่นแหละค่ะ  บอกตรงๆ ว่าทั้งน่ากลัวและเสี่ยง เพราะใบหน้าเรามีเพียงหน้าเดียวเท่านั้นเอง

   จึงอยากเอามาแบ่งปันประสบการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องๆ ที่ยังอยู่ในวัยเรียน และที่ยังหาเงินเองไม่ได้ เพราะมันเป็นจุดหนึ่งที่สถานประกอบการบางแห่งใช้เป็นทางทำมาหากินกับผู้คนเหล่านี้ โดยส่วนตัวคิดว่าหากเราช่วยกันให้ข้อมูล ข้อแนะนำพวกเขาเท่าที่ให้ได้แล้ว สักวันหากเราไปประสบเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายๆ กันแบบนี้บ้าง อานิสงที่เราทำไว้ก็จะช่วยให้เรารอดพ้นปลอดภัยได้บ้างเช่นกัน

หมายเหตุ : สำหรับด้านล่างนี้เป็นลิงค์หน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองผู้เข้ารับบริการเผื่อมีประโยชน์

                http://newsser.fda.moph.go.th/hpsc/frontend/theme/view_channel.php?Submit=Clear&ID_Oth_Complain=00000016


                      https://thth.facebook.com/pages/%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99/633712913387627


http://women.kapook.com/view63665.html

ปรางมณี

เห็นด้วยค่ะบางที่เครื่องมือไม่มีอะไรเลยพูดง่ายๆว่าแทบไม่มีต้นทุนเลยแต่ขึ้นราคาทุกปีเทึยบเท่าคลึนิคทันสมัยบางที่ให้ไปปรึกษาใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของที่นั่นอันนี้ต้องระวังค่ะถึงแม้ที่ปรึกษาคนนั้นจะอ้างว่าเป็นหมอก็ตามแต่่เป็นหมอด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านศัลยกรรมหรือมีคลีนิคอยู่ในระแวกเดียวกันระวังถูกหลอกค่ะ  บางที่ก็เป็นคลีนิคแบบครอบครัวไม่ต้องลงทุน คลีนิคลักษณะนี้จะค่อนข้างเขึ้ยวเลี่ยงได้ก็ดี และบางที่ที่เคยเจอปล่อยให้คนมารับบริการเฝ้าคลีนิคให้ เจ้าหน้าที่ไม่อยู่กมีหรือไม่เจ้าหน้าที่ก็เอาลูกเอาสามีดูท่าทางอันธพาลสักเต็มหลังมานั่งเฝ้าก็มีน่ากลัค่ะคลีนิคบางแห่งเจ้าหน้
าที่ขึ้นโรงพักเป็นว่าเล่นก็ต้องระวัง  บางทีก็สงสัยนะเจ้าหน้าที่ห่วยแตกบางแห่งทำไมหมอไม่เปลี่ยนคน เพราะคนพวกนี้บางทีทำให้หมอเสียชื่อก็มี

ปรางมณี

บางแห่งบอกทำได้ธรรมชาติมากหมือนไม่ได้ทำเลยก็สงสัยนะแล้วจะไปทำทำไมเสียเงินเป็นหมื่น  ส่วนเรากลัวเรื่องซิลิโคนปลอมค่ะแบบตอนแรกตกลงว่าเป็นของอเมริกาแต่พอตอนทำดันเป็นของทำเลียนแบบราคาถูกแทนกรณีนี้มีใครแนะนำไม๊คะว่าจะรูได้อย่างไรว่าเป็นของแท้หรือเทียม ตอนนี้เราเลยยังไม่กล้าทำยิ่งล่าสุดก็เพิ่งมีข่าวเรื่องคนไปทำคางแล้วตายเราเลยกลัว