ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: ข้อมูลศัลยกรรมเกาหลี [สั่งพิมพ์]

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:05
ชื่อกระทู้: ข้อมูลศัลยกรรมเกาหลี
โดนขอร้อง แกมบังคับ ฮ่าฮ่า จากแอดมินของซิลิโคนคลับให้เขียนเรื่องศัลยกรรมของเกาหลี เนื่องจากวันดีคืนดีคุยๆกันอยู่ว่าอยากไปเกาหลี ก็เลยเล่าให้ฟังว่าอ้อเรารู้ๆว่าแถวไหนดี ทีนี้เขาเลยเห็นว่ามีข้อมูลเยอะน่าจะแบ่งปันในเวบบ้าง อีกอย่างเจ้าของเวบใจดีมากๆที่ช่วยแนะนำเรื่องคางให้เพื่อนเรา ไงบุญคุณนี้ต้องชำระ ค่ะ อิอิ


ข้อมูลเหล่านี้ เราสะสมมาเป็นปีแล้วละค่ะ เริ่มตั้งแต่ที่คิดว่าตัวเองแก้มใหญ่บ้าง หน้าใหญ่บ้าง แล้วเมื่อก่อนเวลาหาในเวบไทยทีไรก็ไม่ค่อยมีข้อมูลพวกนี้เท่าไร จึงตัดสินใจทำ research ตามเวบเมืองนอก สะสมมาเรื่อยๆ มาเผยกันวันนี้ในเวบนี้หมดเปลือก อิอิ หมดตัวเลยค่ะไม่มีการกั๊กใดๆทั้งสิ้น ส่วนรูปจริงๆแล้วอยากเอามาลงเยอะๆแต่เกรงเวบไซต์จะล่มซะก่อน ไงก็กดคลิ้กลิ้งไปตามคลีนิคต่างๆได้เลยนะค่ะจะมีรูปตัวอย่างย่อยๆมากมาย ความคิดในบทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณาณในการอ่านนะค่ะ ผิดพลาดประการใดก็แนะนำติชมกันได้ค่ะ

ราคาที่เขียนเป็นราคาโดยคร่าวๆ ที่สืบทราบมาจากคนไข้ที่เคยไปทำแต่ราคาในแต่ละเคสนั้นไม่แน่นอนตายตัวแล้ว แต่ความยากง่าย ถ้าสนใจคงต้องสอบถามกับทางคลีนิคได้เลยค่ะ

1 USD ประมาณ 32 บาท เป็นอัตราแลกเปลี่ยนของวันนี้ค่ะ ยังไงก็อาจจะมีขึ้นมีลงเรื่อยๆ ทุกวันนะค่ะ

ถ้าใครได้มาอ่านแล้วสนใจบทความนี้ รบกวนให้เครดิตผู้เขียนหน่อยนะค่ะ เพราะกว่าจะเก็บรวบรวมข้อมูล แปลศัพท์ทางแพทย์มาเนี่ยก็ใช้เวลาเหมือนกันค่ะ ขอบคุณนะค่ะ


ในประเทศเกาหลีนั้น การศัลยกรรมนับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ว่ากันว่าถ้าเรานั่งรถไปลงที่ถนนชื่อดังย่านนึง จะมีร้านคลีนิคศัลยกรรมตั้งเรียงกันเป็นว่าเล่น อย่างกับร้านกาแฟเลยละค่ะ ขนาดขึ้นรถไฟที่นั่น เหลือบไปเห็นป้านโฆษณาบนรถไฟ ยังต้องมีโฆษณาคลีนิคศัลยกรรมอยู่ด้วยเลย) มีคนไทยหลายๆท่านให้ความสนใจเกี่ยวกับการศัลยกรรมของประเทศเกาหลี อีกทั้งยังมีเอเย่นเปิดโครงการศัลยกรรมที่เกาหลีเป็นเรื่องเป็นราว ดังนั้นจงขอพูดถึงการทำศัลยกรรมใบหน้าของเกาหลีที่กำลังนิยมอยู่ในตอนนี้ ว่าทำไมถึงได้ดัง คนหลายๆประเทศถึงบินไป และทำไมหลายๆคนจึงไปแบบผ่านเอเย่น
เนื่องจากประเทศเกาหลีนั้นเป็นประเทศชาตินิยม คนเกาหลีหลายๆคนไม่สามารถหรืออาจจะสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้บ้างเล็กน้อย (แน่นอนค่ะมีเด็กๆน้องๆรุ่นใหม่ที่เรียนโรงเรียนสอนภาษา ไปโตเมืองนอก อีกเยอะแยะที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี แต่คนเหล่านี้ก็มักจะไม่ได้ทำงานในคลีนิคศัลยกรรมซะด้วยสิ)
ในบางคลีนิคนั้นก็จะมีล่ามภาษาอังกฤษประจำอยู่บ้าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนต่างชาติ แต่ในบางคลีนิคที่เป็นที่นิยมของคนเกาหลีเอง การที่เราจะเดินดุ่มๆเข้าไปแล้วไปคุยกับหมอ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ

ทางประเทศญี่ปุ่นเองเดี๋ยวนี้กำลังนิยมไปทำศัลยกรรมความงามที่เกาหลีกันมาก มีบริษัทนำเที่ยวที่พร้อมที่จะนำนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นไปเกาหลีทั้งพา เที่ยวและศัลยกรรมพร้อมๆกัน มีบริการส่วนลดให้กับลูกค้าพร้อมกับมี contact กับหลายๆคลีนิคที่เกาหลีค่ะ รวมถึงการดูแลที่เยี่ยมยอดทั้งก่อนและหลังทำ การเฝ้าติดตามจนเราบินกลับประเทศ ซึ่งก็ค่อนข้างแพงสำหรับบางคน ดังนั้นในกระทู้นี้จึงอยากให้ข้อมูลสำหรับบางท่านที่สนใจ และอยากเปรียบเทียบว่ามันดีหรือต่างจากเมืองไทยอย่างไร คุ้มค่ากับการบินไปทำไหม
ว่ากันว่าที่เกาหลีนั้นมีถนนที่ผู้คนเรียกกันว่า Cosmetic Surgery Street เป็นย่านที่มีคลีนิคศัลยกรรมตั้งอยู่เยอะมาก ยังกับร้านกาแฟเลยละค่ะ การเดินทางนั้นก็ประมาณ 40 นาทีจากสนามบินแห่งชาติเกาหลี(Incheon International Airport) หลังจากนั้นก็ขึ้นรถไฟไปอีกหน่อยประมาณ 20 นาทีกว่าๆก็จะถึง Kangnam เป็นแหล่งศัลยกรรมที่่านี่ละค่ะ
เนื่องจากที่พักที่เกาหลีที่ใกล้ๆย่านศํลยกรรมนั้นก็จะมีตั้งแต่ 50 USD ขึ้นไป ซึ่งเป็นโรงแรมระดับธรรมดาๆ ไม่แพงมาก ถ้าจะเอาถูกๆหน่อยก็ต้องนั่งรถไปไกลนิดนึง
ต่อมาจะขอกล่าวถึงรายการศัลยกรรมต่างๆที่นิยมๆกันนะค่ะ
- ศัลยกรรมตา
- ศัลยกรรมจมูก
- ศัลยกรรมลดโหนกแก้ม (Zygoma Reduction)
- ศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
- ศัลยกรรมลดกราม (Jaw (Mandible) Reduction)
- การลดน่อง (Calf Reduction)
- การศัลยกรรมเต้านม และอื่นๆ

double_eyelid_surgery.jpg (38.73 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 37)

double_eyelid_surgery.jpg

B4AfterEyesSurgeryPtosis.jpg (25.26 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 33)

B4AfterEyesSurgeryPtosis.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:42
ถ้าจะกล่าวถึงการศัลยกรรมในบ้านเราจริงๆแล้วก็ก้าวหน้าไปไกลไม่แพ้เกาหลี เช่นกัน มีหมอชื่อดังหลายท่านที่เชี่ยวชาญในการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อความสวยงาม ด้วยเทคนิคและวิธีที่ทันสมัยไม่แพ้เกาหลี แต่ถ้าจะพูดถึงความแตกต่างในแต่ละด้านของการศัลยกรรมระหว่างไทยกับเกาหลี นั้น ขอยกเป็นข้อๆดังนี้ค่ะ
ในการศัลยกรรมตาของ ไทยและเกาหลีนั้น หลักๆก็จะคล้ายคลึงกัน คือเป็นการศัลยกรรมที่ทำให้ตาโตขึ้น มีตาสองชั้นคมขึ้น ทางฝั่งเกาหลีนั้นจะมีกรรมวิธีหลากหลายประเภท ทั้งแบบ มีรอยแผลเป็นและไม่มีรอย
ในแบบไม่มีรอยตะเข็บนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ มีหนังตาค่อนข้างบาง ไขมันน้อย และผิวหนังชั้นตาค่อนข้างเต่งตึงสักหน่อย ในเทคนิคแบบนี้นั้นจะมีแผลเป็นแต่น้อยมากและจะค่อยๆหายไปเอง
แบบมีรอยนั้น เหมาะสำหรับคนที่มีหนังตาหนา ไขมันเยอะ หรือเนื้อค่อนข้างหย่อน
ในการเย็บแบบมีรอยก็แบ่งเป็นหลักๆได้สอง แบบ
แบบแรกเรียกว่า Dynamic Fixation เป็นการเย็บชั้นตาลงไปไม่ลึกมากกับโครงสร้างของหนังตา เช่น กล้ามเนื้อตา ผลที่ได้ก็คือแผลเป็นนั้นเรียบและสม่ำเสมอ เพราะการเย็บไม่ลึกมาก และยืดหยุ่นเคลื่อนที่ได้เวลาหลับตาจึงดูเป็นธรรมชาติ
ข้อเสียก็คือ ยากที่จะทำให้ชั้นตาเท่ากัน เนื่องจากการเป็นการเย็บที่ไม่ลึกมาก บนโครงสร้างที่เคลื่อนที่ตลอดเวลาจึงกำหนดความสูงของรอยเย็บให้เท่ากันยาก
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:45
จากรูป รอยแผลเป้นจากการเย็บแบบ dynamic น้อยแทบไม่สังเกตุเห็น
ดังนั้นวิธีนี้จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์และเทคนิคชั้นสูงในการเย็บ แนะนำวิธีนี้สำหรับตาคนเอเชีย
ต่อมาคือแบบ Static Fixation เป็นการเย็บผิวหนังลงไปลึกผลก็คือเกิดรอยแผลไม่เรียบ
javascript:;
javascript:;

Eyelid_Pt5.jpg (16.37 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 30)

Eyelid_Pt5.jpg

B_scar3.jpg (6.17 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 60)

B_scar3.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:45
จากรูปรอยแผลเป็นจากการเย็บแบบ static
ข้อดีก็คือ ง่ายต่อการทำให้ชั้นตาเท่ากัน (วิธีนี้หมอไทยบางท่านก็ยังใช้วิธีนี้กันอยู่ เพราะง่ายและสะดวกและหมอสมัยก่อนๆก็เช่นกัน)

ทีนี้คำถามก็คือ ทำไมทำตาที่เกาหลีจึงดีกว่าที่อื่น เทคนิคเขาดีกว่าหรืออย่างไร
- การทำตานั้น ถ้ารอยพับตาถูกเย็บในชั้นบางๆและตื้นๆ ผลก็คือรอยแผลจะไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแต่น้อยมาก (หมอเกาหลีมักจะเน้นเทคนิคไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น) หมอไทยก็มีเช่นกันค่ะ อันนี้ต้องหาข้อมูลกันในเวบซิลิโคนคลับนี้ละค่ะ
- การฉีดยาชา ถ้าฉีดยาชาอย่างช้าๆด้วยเข็มบางๆ จะไม่เจ็บและการบวมหลังจากนั้นจะน้อยลงไปตามลำดับ(ซึ่งเกาหลีจะเน้นเรื่อง การลดบวมจากการผ่าตัดมาก เนื่องจากลูกค้าหลายๆคนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ และต้องเดินทางกลับประเทศหลังผ่าตัด จึงไม่อยากให้เกิดปัญหาหน้ากับพาสปอร์ตไม่เหมือนกัน เท่าไร )
- รอยเย็บ ถ้าเย็บให้ถูกมุม การกระทบและบาดเจ็บของเนื้อเยื่อจะเกิดน้อยที่สุด เลือดก็จะออกไม่มาก ผลก็คือแผลหายเร็วมีรอยแผลเป็นน้อยที่สุด
การศัลยกรรมเปิดหัวตา(Medial Epicanthoplasty)
เป็นการศัลยกรรมเพื่อกำจัดรอยพับแบบมองโกเลีย (มันคล้ายๆกับรอบพับที่แบบมองๆไปแล้วเหมือนคนๆนั้นง่วงนอนค่ะ ที่พับลงมาครึ่งตา)ซึ่งเป็นรอยพับตรงหัวตาซึ่งทำให้ตาดูห่างๆและเล็กเหมือ นบูกอัลมอนด์
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:46
javascript:;

1.jpg (19.96 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 36)

1.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:47
จากรูป การเปิดหัวตาพร้อมกับทำตาสองชั้น
ผลที่ได้จากการเปิดหัวตาก็คือ
- ตามองดูใกล้กันมากขึ้น
- เปิดตาให้กว้างขึ้น กำจัดรอยพับแบบมองโกเลีย ทำให้ตาสดใจไม่เหมือนคนง่วงนอน
- ทำให้ตาดูอ่อนโยนลง
เขาใช้เทคนิคที่เรียกว่า Epicanthoplasty : เป็นเทคนิคที่ใช้กันมานานกว่าสิบปี เป็นการสร้างรอยพับใหม่ให้หัวตาทำให้ตาเปิดกว้างขึ้นค่ะ (อันนี้หมอไทยก็ทำกันหลายๆท่านค่ะ)
อีกทั้งยังมีการแก้ตา การกำจัดถุงใต้ตา การเพิ่มไขมันใต้ตา การกำจัดรอยคล้ำใต้ตา ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ก็คล้ายๆกับหมอศัลยกรรมเมืองไทย ดังนั้นขอไม่กล่าวถึงนะค่ะ
ส่วนสนนราคาการทำศัลยกรรมตาที่เกาหลีก็หลากหลาย ตั้งแต่ 2500 USD ขึ้นไป ไม่รวมค่าเดินทางค่าห้องพัก
การศัลยกรรมตานั้นระยะพักฟื้นแค่ สามถึงสี่วันก็ถือว่าสามารถเดินออกไปข้างนอกชอบปิ้งได้แล้วละค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:48
สำหรับคลีนิคไหนที่มีชื่อด้านการทำศัลยกรรมตานั้น เห็นเขาว่าๆกันว่าคลีนิคมิโกะค่อนข้างเชี่ยวชาญค่ะ (ถ้าใครมีความสามารถด้านภาษาเกาหลีหรือจีน สามารถเดินเข้าไปดูตามคลีนิคได้เลยค่ะ) ทางคลีนิคไม่มีเวบไซต์ภาษาอังกฤษค่ะ แต่มีล่ามภาษาอังกฤษและแมนดาริน พนักงานคนอื่นส่วนใหญ่พูดอังกฤษไม่ได้เลยค่ะ ดูลิ้งทำตาของมิโกละกันนะค่ะ www.migoclinic.com/c_eye/eye8.asp เดี่ยวจะหาลิ้งคลีนิคศัลยกรรมอื่นๆมาฝากตอนท้ายบทความด้วยค่ะ (แต่ยังไงถ้าสนใจก็อยากให้ไปศึกษารายละเอียดกันอีกรอบนะค่ะเพื่อความมั่นใจ)
อ้อ อยากจะบอกว่าเรื่องราคานั้น บางคลีนิคก็มีราคาต่างชาติกับราคาคนเกาหลีค่ะ (ซึ่งอาจจะถูกกว่าสักสองเท่าตัว) หมอบางคลีนิค(ได้ยินเขาเล่าๆมา) ก็ไม่ค่อยพอใจถ้าเราไปถามต่อราคาว่าทำไมราคาคนเกาหลีถูกกว่าเน้นว่าบางคลีนิ คเท่านั้นคะ
อย่างไรซะหลายๆคนไปทำที่เกาหลีแล้วอยากจะแก้ตาบ้านเราก็มี อาจจะธรรมชาติไป ไม่เหมาะกับรูปหน้าหรืออะไรก็ตาม หรือบางทีปัญหาการสื่อสารก็สำคัญ คือไม่สามารถสื่อกับหมอให้เข้าใจได้(อันนี้สำคัญมากค่ะ )บางท่านก็ว่าที่ญี่ปุ่นจะเซียนเรื่องนี้กว่า อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลค่ะ

ทีนี้มากล่าวถึงศัลยกรรมเสริมจมูกกันบ้าง อยากจะบอกว่าหมอที่ไทยจะเก่งในเรื่องศัลยกรรมจมูกด้วยซิลิโคนแท่งมากกว่า เกาหลีนะค่ะ (จากการเปรียบเทียบด้วยสายตาตัวเอง ) หมอไทยอาจจะเจอเคสคนที่มีเนื้อจมูกเยอะๆบ่อยกว่าหมอเกาหลี อีกอย่างคือจมูกคนไทยนั้น ฐานกระดูกกว้าง ปลายหนา บางคนปีกบานเนื้อเยอะน่าจะเหมาะกับซิลิโคนแท่งซึ่งเนื้อเยอะๆสามารถรองรับ ได้ จึงเรียกว่าหมอไทยนั้นจะเก่งในเรื่องการเสริมด้วยซิลิโคนแท่งมากกว่าเพราะ มันตรงประเด็นกับจมูกคนไทยเลยละค่ะ แต่ทีนี้ลองพิจารณาที่หลายๆท่านบอกว่าทำไมต้องไปแก้หรือไปทำจมูกที่เกาหลี
หมอศัลยกรรมเกาหลีนั้นจะใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่ซับซ้อนกว่าไทย (หมอเกาหลีไม่ค่อยปลื้มแท่งซิลิโคนสักเท่าไหร่ อาจจะเนื่องจากว่าคนเกาหลีส่วนใหญ่เนื้อจมูกจะไม่เยอะเหมือนคนไทย ปลายก็ไม่ค่อยบาน) ยกตัวอย่างเช่น กระดูกซี่โครง silitex( เกาหลีคิดขึ้นเอง เป็นการเอาข้อดีของซิลิโคนมาผสมกับข้อดีของกอร์เท๊กซ์) กอร์เท็กซ์ เดอร์โมแฟต คาทิเลจ อัลโลเดริม รวมทั้งซิลิโคนแท่ง (แต่ขอเน้นว่าถ้าเป็นซิลิโคนแท่งหมอไทยจะชำนาญกว่าค่ะ ที่เกาหลีจะไม่ค่อยนิยมสักเท่าไร)
ตัวอย่างวัสดุต่างๆที่ใช้ในการศัลยกรรมจมูก
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:49
เริ่มจาก Gortex
javascript:;

11.jpg (47.44 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 33)

11.jpg

โดย: keawaru19    เวลา: 2010-4-28 20:50
สวยดีค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:52
Medpor พร้อมลิ้ิงค์วิธีการตัดมาใช้งาน www.porexsurgical.com/english/surgical/smedpor.asp

4.jpg (6.05 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 43)

4.jpg

5.jpg (20.54 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 39)

5.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:54
alloderm เป็นการนำเนื้อเยื่อผิวหนังขนาด 1-2 มม สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อให้เนื้อเยื่อนี้เจริญเป็น collagen ผลการรักษาได้ผลดีและอยู่ได้นาน ใช้ไดักับเนื้อเยื่อต่างๆแม้กระทั่งเหงือก ปาก รอยย่นมุมปาก จมูก คางและอื่นๆค่ะ

ย.jpg (27 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 37)

ย.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:54
ต้องบอกว่าการศัลยกรรมจมูกนั้นเป็นการศัลยกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง เอาออก เอาเข้า บ่อยมากๆ เลยคิดว่าน่าจะเป็นสาเหตุให้ทางหมอศัลของเกาหลีเห็นปํญหาตรงนี้จากซิลิโคน แท่ง จึงเน้นเสริมจมูกด้วยอุปกรณ์ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า อย่างsilitex (ซึ่งเอาออกยากกว่าซิลิโคนแท่ง) แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือสวยงาม เข้าไปกับรูปโครงจมูกของเรา แต่ทีนี้ถ้ามีปัญหาต้องเอาออกหรือไม่ชอบรูปทรงเนี่ยนะสิ หมอไทยคงไม่ชอบเอาออกให้เป็นแน่ ขนาดซิลิโคนแท่งธรรมดาเวลามีปัญหากลับไปหาหมอบางคนยังพูดจาบ่ายเบี่ยงเลย ก็คงต้องบินกลับไปที่เกาหลีให้ทางหมอที่นั่นเอาออกให้ค่ะ
ส่วนคนที่มีปัญหาจากการศัลยกรรมด้วยซิลิโคน เนื้อหายไป แล้วต้องการจะแก้ไขจริงๆเพราะไม่อยากเสริมด้วยซิลโคนแท่งอีกต่อไป อันนี้ก็เห็นสมควรว่าไปทำที่นั่นน่าจะดีกว่านะค่ะเพราะหมอท่านนึงที่เห็นที่ เกาหลีจะเก่งในเรื่องศัลยกรรมซ่อมแซมจมูกจริงๆ แต่อาจจะไม่ใช่ทำแค่ครั้งเดียวเสร็จ ต้องมีการทำสองถึงสามครั้งกว่ารูปร่างจะกลับคืนมาให้สวยใกล้เคียงกับจมูกคน ปกติที่โด่งสวยงาม ส่วนวิธีการนั้นมีมากมายเยอะแยะเหลือเกิน หมอที่ดังๆในเรื่องศัลยกรรมจมูกที่นั่นก็คือคุณหมอจุง หรือจัง อันนี้ไม่แน่ใจ (Dr. Jung) มีเวบไซต์ของตัวเองคือ www.nose.co.kr/ คุณหมอคนนี้ต้องบอกว่าเทคนิคมากมายจริงๆค่ะ ไงก็ขออนุญาติเอารูปตัวอย่างมาแปะนะค่ะ เป็นศัลยกรรมเพื่อการแก้ไขจริงๆ แต่สนนราคาเนี่ยก็แพงไปด้วย เริ่มต้น 3500 USD ขึ้นไปนะค่ะแล้วแต่เคสยากง่าย
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:56
จากรูป คนนี้เคยเสริมด้วยสิริโคนแท่งได้สักสี่เดือนไม่มีปัญหา หลังจากนั้นปลายเริ่มยุบลงทำให้เห็นรอยสิริโคน คุณหมอก็แก้เอาซิลิโคนออกแล้วเสริมใหม่ (วิธีการคงต้องเมลส์ถามคุณหมอแล้วละค่ะท่าทางซับซ้อนเหลือเกิน)
สำหรับรูปตัวอย่างจมูกอีกมากมายคลิ้กไปดูได้ที่
www.nose.co.kr/english/recent/recent01.a...lag=8&LangType=1
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 20:57
ทีนี้ขอพูดถึงเรื่องการรักษาตัว หลังเสริมจมูก ทำอย่างไรให้ลดบวม(สำหรับคนที่แพ้ง่ายบวมง่าย)

- ขอกล่าวถึงยาซึ่งได้มาจากพืชและสมุนไพรธรรมชาติที่ช่วยลดบวมได้เป็นอย่างดี นะค่ะ
1. เอ็นไซม์ที่สกัดมาจากสับปะรด (Bromelain) เป็นเอ็นไซม์ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเยอรมันนีว่าสามารถช่วยรักษาการ อักเสบที่เกิดจากการผ่าตัด โดยเฉพาะบริเวณจมูกและไซนัส อีกทั้งยังช่วยรักษาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฟา อาหารไม่ย่อย และมะเร็งได้อีก
2. ขมิ้นชัน (Tumeric) ขึ้นชื่อในเรื่องการช่วยรักษาการอักเสบ และสร้างภูมิต่อต้านมะเร็ง มีรายงานจาก The International Journal of Cancer ว่าสารในขมิ้นชันนั้นสามารถฆ่าเชื้อมะเร็งที่โตในแลปได้
3. Quercetin เป็นสารเคมีในผักและผลไม้ มีประโยชน์หลายด้าน รวมถึงความสามารถในการต้านไวรัส โดยเฉพาะการติดเชื้อในทางเดินหายใจ รวมทั้งลดการอักเสบและมีสารต่อต้านมะเร็ง
4. วิตามินซี จะเป็นการดีกว่าถ้าเรารับประเทานผลไม้ที่มีวิตามินซีโดยตรง
5. ใบบัวบก ซึ่งรู้จักกันดีว่าน้ำใบบัวบกช่วยแก้ช้ำใน และยังมีสรรพคุณอื่นๆอีกมาก
6. ครีมบัวหิมะ(BAO FU LING) อันนี้เขาว่ากันว่าช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนังได้ (แต่ยังไม่ได้รับรองเป็นทางการ)
- พยายามเดินออกกำลังหลังจากผ่าตัดเพื่อให้เลือดลมเดินสะดวกไม่ไปคั่งอยู่ที่ แผลผ่าตัดนะค่ะ
- ประคบน้ำเย็น
- ดื่มน้ำเยอะๆ
- ลองใช้ Traumeel ซึ่งก็คือครีม arnica ที่มักจะถูกใช้เพื่อบำบัดอาการบาดเจ็บเฉียบพลัน ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุใด (คล้ายเรพาริลบ้านเรา) ทำมาจากพืชเช่นกันค่ะ ส่วน arnica แบบเม็ดก็มีเช่นกันค่ะ
ยิ่งถ้าเป็นการผ่าตัดใหญ่ๆอย่างกรามหรือ โหนกแก้มซึ่งจะมีการบวมที่มากกว่าจมูกแล้วแนะนำให้กิน Bromelain กับขมิ้นชันล่วงหน้าสักอาทิตย์ค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:02
มาถึงไฮไลท์ของงาน การผ่าตัดลดความกว้างของใบหน้า หรือ Facial bone contouring สำหรับคนที่อยากให้หน้าเล็กลง
แยกออกได้เป็น
การผ่าตัดลดกราม (Jaw ,mandible, Reduction) มีคำถามที่ตามมาคือ ถ้าอายุยังน้อยสามารถไปตัดกรามได้หรือไม่ คำตอบคือได้ แต่ตัดไปแล้วอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกกรามอยู่ตลอดเวลา เพราะกระดูกใบหน้ายังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นจะเป็นการดีที่จะรอให้อายุสัก 28 ขึ้นไป เมื่อกระดูกใบหน้าอยู่ตัวแล้ว และไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก ถึงไปตัดกรามค่ะ
การผ่าตัดกระดูกกรามนั้นที่เกาหลียังแบ่งออกได้อีกเป็นสองแบบคือ
- การผ่าตัดลดมุมกราม (Mandible angle resection)
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:04
สวยงามครับ
อยากทำมั้ง

F_vertical.jpg (12.33 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 35)

F_vertical.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:04
เป็นการตัดมุมกรามและเกรามุมกรามเพื่อให้มุมกรามดูโค้งมนขึ้นไม่เป็นเหลี่ยม ผลจากการผ่าตัดมุมกรามนี้จะมองเห็นได้เมื่อจากด้านข้าง จะกลมมนไม่มีเหลี่ยมเงามากวนใจ เหมาะสำหรับคนที่มีมุมกรามเป็นเหลี่ยมชัดเจนมองด้านข้างแล้วมุมกรามแข็งๆดู ไม่นุ่มนวล แต่การลดมุมกรามนี้ไม่มีผลต่อความเปลี่ยนแปลงด้านหน้าแต่อย่างใด (ศัลยแพทย์ไทยส่วนใหญ่ผ่าตัดมุมกรามด้วยวิธีนี้)
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:05
- การผ่าตัดแยกกระดูกแนวตั้ง  (Sagittal splitting osteotomy)

F_sagittal.gif (6.54 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 35)

F_sagittal.gif

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:05
เป็นการผ่าตัดแยกกระดูกด้านนอกออกซึ่งมาสารถลดความกว้างของมุมกรามด้านหน้า ลงได้
ทั้งนี้การผ่าตัดส่วนล่างของใบหน้า(กราม) เพื่อทำให้ใบหน้าดูแคบลงนั้น แพทย์ศัลยกรรมของเกาหลีนิยมผ่าตัดร่วมระหว่างแยกกระดูกกับลดมุมกรามเข้าด้วย กันเพื่อให้ได้ผลการผ่าตัดอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นความเปลี่ยนแปลง
การผ่าตัดลดกรามนั้นเป็นการผ่าตัดใหญ่ แต่แพทย์เกาหลีชอบทำกันจริงๆ ไม่ว่าคลีนิคเล็กๆหรือใหญ่ๆก็จะมีการให้บริการศัลยกรรมลดกรามทั้งนั้น ส่วนเทคนิคนั้น จะเป็นการผ่าจากด้านในปากถัดจากฟันกรามซี่สุดท้าย ซึ่งหลายๆท่านที่สนใจการผ่าตัดกรามคงได้เคยอ่านมาแล้วบ้างจากเวบไทย ของเกาหลีก็คล้ายกันค่ะ จะต่างกันตรงที่เกาหลีถ้าอยากลดความกว้างของหน้าด้านตรง จะมีการผ่าตัดแยกกระดูกด้านนอกร่วมด้วย
การผ่าตัดกรามจะใช้เวลาในการรักษาตัวหลังผ่าตัดค่อนข้างนาน อย่างน้อยก็สองอาทิตย์กว่าจะลดบวมให้หน้ากลับมาเหมือนกับหน้าปกติ(ก่อนตัด) แต่หลายๆคนอาจจะบ่นว่าทำไมไม่เห็นเปลี่ยนเลย จริงๆแล้วมันยังยุบบวมเรื่อยๆค่ะ บางท่านก็เลยไปถึงสี่เดือนถึงจะเห้นผลก็มี ฉะนั้นใครคิดจะไปผ่าตัดกรามที่เกาหลี เตรียมตัวพักที่นั่นสองอาทิตย์เป็นอย่างต่ำนะค่ะ
ทีนี้จะทราบได้อย่างไรว่าปลอดภัยหรือเปล่า แพทย์ที่ทำการผ่าตัดกรามจะต้อง ทำการเอ็กซเรย์ใบหน้าส่วนล่างก่อนทำการผ่าตัด จะได้เห็นแนวเส้นประสาทว่าวางพาดมายังไง การจะตัดได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการวางพาดตัวของเส้นประสาท(เส้นสีดำ ใหญ่ๆในรูปที่วางพาดมาตามแนวฟันค่ะ) จะต้องตัดห่างจากแนวเส้นประสาทนั้นสักสองเซ็นต์ค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:06
จากรูปเป็นแนวเส้นประสาทสีดำๆตาม แนวฟันที่หมอจะพิจารณาร่วมว่าจะตัดได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ

Trigeminal_nerve.gif (36.41 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 42)

Trigeminal_nerve.gif

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:08
จากรูปคือฟิล์มเอ็กซเรย์แนวเส้น ประสาทที่พาดใต้แนวฟันค่ะ อาจจะมองยากนิดนึง

molar_fig1-20100306.jpg (28.68 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 34)

molar_fig1-20100306.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:09
ทีนี้แพทย์จะวินิจฉัยว่าใครสมควรตัดหรือมิสมควรตัดอาจจะใช้ฟิมล์เอ็กซเรย์ ควบคู่กันไปด้วย ว่าเส้นประสาทเราอยู่ใกล้ไกลกับแนวกรามแค่ไหน มิฉะนั้นโอกาสที่จะเสี่ยงไปโดนเส้นประสาททำให้ใบหน้าเสียรูปเป็นไปได้สูงมาก ค่ะ ซึ่งทางคลีนิคของเกาหลีแทบทุกที่จะทำการเอ็กซเรย์ตรวจเลือด ตรวจความดันดูความพร้อมก่อนเข้าทำการผ่าตัดอยู่แล้วค่ะ บางคลีนิคก็อาจจะดูเล็กไปสักนิดจนน่าใจหาย แต่มาตรฐานของเขาก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง(ในเรื่องความปลอดภัย) แต่ในเรื่องความสวยงามและสมมาตรนั้น สืบทราบมาว่าโรงพยาลที่ชื่อ ID hospital จะเป็นโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ (สังเกตุนะค่ะบางคลีนิคได้แต่ตัดแต่ลืมคำนึงถึงความเท่ากันระหว่างหน้าซีก ขวากับซ้ายค่ะ) แต่โรงพยาบาลนี้ขึ้นชื่อทางด้านสมมาตร และสนนราคาก็แพงใช่ย่อยเช่นกันค่ะ อ้อจะมีล่ามภาษาอังกฤษคอยดูแลอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกันค่ะ เวบไซต์โรงพยาบาลค่ะ eng.idhospital.com/sub02/index302.asp คุณหมอชื่อ Dr.Park Sang-Hoon คุณหมอพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:10
ตัวอย่างแรกเป็นการตัดกรามจาก ID Hospitalค่ะ เป็นการตัดกรามรวมทั้งเลื่อนคาง ทำหน้าให้สมดุลย์ขึ้นค่ะ

777.jpg (42.64 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 35)

777.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:12
.........123--!

7.jpg (37.61 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 29)

7.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:13
ตัวอย่างที่สองเป็นเคสตัดกรามจาก OZ clinic ค่ะ(คุณหมอชื่อพาร์คเหมือนกัน ฮ่าฮ่า หลายพาร์คมากค่ะ พูดภาษาอังกฤษเก่งมากค่ะ)

F_botox.jpg (7.94 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 40)

F_botox.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:14
ตัวอย่างที่สามเป็นการทำให้หน้า สมมาตรขึ้นของ IDHospital ค่ะ

00.jpg (39.59 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 29)

00.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:15
หลังการผ่าตัดผู้ป่วยควรจะบริหารกรามบ่อยๆเพื่อป้องกันกรามล๊อคค่ะ อันนี้คุณหมอที่ทำการผ่าตัดคงจะแนะนำอีกทีเรื่องการดูแลหลังการผ่าตัดค่ะ
ส่วนอีกหลายๆคลีนิคที่มีการผ่าตัดกรามเดี่ยวแนะนำด้านล่างบทความนะค่ะไปอ่าน ให้เพลินๆทีหลังได้ค่ะ
สนนราคาของโรงพยาบาลนี้ก็แพงเช่นกันค่ะ เริ่มต้น 4500 USD พักโรงพยาบาลฟรีสองคืนค่ะ
ส่วนที่คลีนิคอื่นๆก็อาจจะถูกหรือแพงกว่า บางที่ก็ประมาณ 3500 USD ค่ะ (ราคาต่างชาติ)
การเตรียมตัวรับกับอาการบวมนั้นแนะนำให้กินสมุนไพรที่กล่าวไว้ข้างต้นเพื่อ ลดการบวมและอักเสบค่ะ

อ้อลืมเล่าให้ฟังว่า เคยมีเพื่อนของเพื่อนไปผ่าตัดลดกรามที่ไทยนี่หละค่ะกับหมอชื่อดังท่านนึง ไม่ขอเอ่ยนามนะค่ะ ราคาก็แพง(แสนต้นๆ) แถมผ่าตัดเสร็จจากกรามที่เป็นแค่ข้างละเหลี่ยมกลายเป็นหน้ากระจกสี่เหลี่ยม (นึกออกไหมค่ะว่าการตัดกรามไม่ใช่แค่ตัด จะต้องเกลากรามด้านข้างให้สวยเนียนไปตามรูปกรามจริงๆด้วย ) แต่หมอท่านนี้สักแต่จะตัดแต่ไม่เกลาให้เขา เลยกลายเป็นหน้าด้านข้างมีข้างละสองเหลี่ยมค่ะ น่าสงสารจริงๆ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:15
ต่อมาขอพูดถึงการผ่าตัด วีไลน์(v-line) หน้าแบบวีไลน์คือหน้ารูปไข่นั่นเอง คางมนๆ เรียวๆ
การผ่าตัดวีไลน์ก็คือการผ่าตัดช่วงล่างของใบหน้าให้แคบและเรียวลงนั่นเองมี การผ่าตัดรวมสองขั้นตอนค่ะ
1. เป็นการผ่าตัดลดขนาดกราม (ตัดมุมกรามและตัดแยกกระดูกด้านนอกออก)
2. ลดความกว้างของกระดูกคาง
ไม่ขอกล่าวในส่วนของการผ่าตัดลดขนาดกรามนะค่ะเพราะได้พูดแล้วข้างต้น
การลดความกว้างของกระดูกคางดูได้จากรูปชัดเจนเลยค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:17
สนนราคาในการผ่าตัดวีไลน์นั้นก็บวกไปสองเท่าตัวของการผ่าตัดกรามค่ะ(คำนวณดู นะค่ะ ) อาจจะมีส่วนลดในบางคลีนิคถ้าทำการผ่าตัดเกิน 10,000 USD ค่ะ
มาดูรูปตัวอย่างวีไลน์กันเลยค่ะ เป็นรูปตัวอย่างจาก ID Hospital ค่ะ(ที่เอาตัวอย่างจากไอดฮอสพิทัลมา เนื่องจากว่าเห็นเขาว่ากันว่าที่นี่จะเชี่ยวชาญด้านนี้ที่สุดค่ะ

vline_simul.gif (395.04 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 29)

vline_simul.gif

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:27
เหนื่อย....จัง
พักแปบน่ะคับ
วิชาการมากมาย
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:28
เนี่ยะเลยเป็นเหตุผลที่ทำมห้ผมอยากไปเกาหลี
ไปกันน่ะ
ไปกันๆ
จัดทริปในดั้งโด่งเลยครับ
อยากไปมากมาย
น๊าาาาาาาาาา....
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:29
ต่อๆๆ..........
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:30
เราว่าคางแหลมไปนิดหรือเปล่า? แต่ถ้ายิ้มอาจจะกำลังพอดี เอะหรือว่าคางพอดีแล้วแต่ส่วนโหนกแก้มยังกว้างอยู่เลยดูคางแหลม?

1010.jpg (35.44 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 21)

1010.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:31
นี่เรยยยยยยยย....ว๊าววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
การผ่าตัดลดโหนกแก้ม (Cheek (Zygoma) Reduction) ก็เป็นอีกวิธีนึงในการลดความกว้างของใบหน้าโดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างเราๆ ทีนี้ถามว่าเกาหลีกับไทยต่างกันไหม ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงโครงสร้างโหนกแก้มของเรากันก่อนว่าในการจะลด ความกว้างของโหนกแก้มนั้นมีสามจุด กระดูกโหนกแก้มนั้นจะมีส่วน body และ arch ส่วนบอดี้คือส่วนหน้า (หมายเลข 1) เป็นส่วนที่เพิ่มความนูนของใบหน้าทำให้หน้าเกิดมิติ ส่วนที่ 2 ก็เช่นกัน ซึ่งคนแถบๆเอเชียนั้นจะมีส่วนนี้มากกว่าคนแถวๆยุโรป (สังเกตุได้ว่าคนยุโรปมักจะชอบเสริมโหนกแก้ม ซึ่งเป็นการเสริมส่วนนี้ค่ะ) และ ส่วน 3 คือส่วนด้านข้าง (arch) คือส่วนกำหนดความกว้างของใบหน้าเรานี่ละค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:31
ในการลดความกว้างและความสูงของโหนกแก้มนั้นการตัดกรอกระดูกโหนกแก้มมักจะไม่ ได้ผลสักเท่าไรเพราะกระดูกโหนกแก้มเป็นกระดูกที่บาง และอาจจะส่งผลในอนาคตเมื่อกระดูกเราบางลง
การผ่าตัดลดโหนกแก้มที่เกาหลีนั้น จะขอกล่าวถึงวิธีที่ทราบว่าเขาทำๆกันนะค่ะ คือเคยได้ยินเพื่อนบอกว่าที่เกาหลีเขาทุบโหนกแก้มกัน (เห็นจากทีวี) อันนี้จากการที่ศึกษามา ไม่เห็นคนไปทุบ ก็เลยไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าเขามีกี่วิธี อันนี้ขอกล่าวถึงวิธีทั่วไปที่คลีนิค หรือโรงพยาบาลหลายๆแห่งที่เกาหลีนิยมกันค่ะ
หลายๆคลีนิคก็จะมีการตัดส่วนที่ 1 กับ 3 (หมอบางท่านก็ตัดส่วนที่ 2 ด้วยอย่างเช่นหมอPark ที่ Ozclinic เขากล่าวว่ามันทำให้เมื่อยุบทั้งสามจุดแล้ว ทำให้ดูกลมกลึงขึ้นกว่าการตัดยุบแค่สองจุด ) แล้วเลื่อนกระดูกที่ตัดเข้าไปไปหลังจากนั้นก็ใช้ตัวช่วยในการยึดกระดูกให้ ติดกัน ไม่ว่าจะเป็นสกรู ลวดหรือมินิเพลต (mini-plate)

45.JPG (20.35 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 28)

45.JPG

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:32
ในการลดความกว้างและความสูงของโหนกแก้มนั้นการตัดกรอกระดูกโหนกแก้มมักจะไม่ ได้ผลสักเท่าไรเพราะกระดูกโหนกแก้มเป็นกระดูกที่บาง และอาจจะส่งผลในอนาคตเมื่อกระดูกเราบางลง
การผ่าตัดลดโหนกแก้มที่เกาหลีนั้น จะขอกล่าวถึงวิธีที่ทราบว่าเขาทำๆกันนะค่ะ คือเคยได้ยินเพื่อนบอกว่าที่เกาหลีเขาทุบโหนกแก้มกัน (เห็นจากทีวี) อันนี้จากการที่ศึกษามา ไม่เห็นคนไปทุบ ก็เลยไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าเขามีกี่วิธี อันนี้ขอกล่าวถึงวิธีทั่วไปที่คลีนิค หรือโรงพยาบาลหลายๆแห่งที่เกาหลีนิยมกันค่ะ
หลายๆคลีนิคก็จะมีการตัดส่วนที่ 1 กับ 3 (หมอบางท่านก็ตัดส่วนที่ 2 ด้วยอย่างเช่นหมอPark ที่ Ozclinic เขากล่าวว่ามันทำให้เมื่อยุบทั้งสามจุดแล้ว ทำให้ดูกลมกลึงขึ้นกว่าการตัดยุบแค่สองจุด ) แล้วเลื่อนกระดูกที่ตัดเข้าไปไปหลังจากนั้นก็ใช้ตัวช่วยในการยึดกระดูกให้ ติดกัน ไม่ว่าจะเป็นสกรู ลวดหรือมินิเพลต (mini-plate)
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:33
วิ๊งๆๆๆ
Wow
เห็นทางสว่างแร็วววววววววววววววววววว

44.jpg (19.16 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 28)

44.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:34
จากรูปการผ่าตัดแบบติดลวด mini plate,หรือสกรูค่ะ
บางคลีนิคก็จะทำการผ่าตัดสองทาง คือผ่านทางจอนผมแผลเป็นประมาณ 3 มิลลิเมตร กับเข้าทางปากเพื่อไปตัดส่วนหน้าของโหนกแก้ม บางคลีนิคก็ผ่านทางปากอย่างเดียว (ที่เกาหลีส่วนใหญ่จะเข้าสองทางค่ะ ) หมอไทยก็มีเช่นกัน ที่โด่งดังมีชื่อเสียงได้แก่คุณหมอจรัญ เพราะคุณหมอเป็นหมอท่านแรกที่คิดค้นวิธีการผ่าตัดลดโหนกแก้มผ่านทางปากคนแรก ของโลก(ถ้าจำไม่ผิด)ค่ะ สนนราคาของคุณหมอก็ 90,000 บาทค่ะ ส่วนทางเกาหลีจะเน้นวิธีการผ่าตัดเข้าสองทาง ซึ่งหมอบางท่านก็บอกว่าการผ่าตัดทางจอนผมร่วมด้วยนั้นเป็นวิธีเก่าแล้ว แต่ในทางกลับกันหลายๆท่านเชื่อว่าการผ่าตัดเข้าทางจอนผม(สำหรับการผ่าตัดที่ เกาหลีจะมีแผลเป็นเล็กมากแค่ 3 มิล) ร่วมด้วยนั้นเป็นการลดการกระแทกเนื้อเยื่อต่างๆให้มีการอักเสบและบอบช้ำน้อย เท่าที่สุด ทำไมหรือค่ะ? เนื่องจากว่าการผ่าตัดโหนกแก้มเป็นการผ่าตัดใหญ่ ฉะนั้นจึงต้องระวังการกระทบกรเทือนเนื้อเยื่อต่างๆ และการที่เราไปเซาะแยกเนื้อเยื่อกับกระดูกมากๆนั้น ไม่ได้เกิดผลดีสักเท่าไรค่ะ เนื่องจากหลังผ่าตัดนั้น หลายๆคนมีปัญหาเนื้อหย่อนหลังจากที่ยุบโหนกแก้มแล้ว แต่หมอหลายๆท่านก็แก้ด้วยการยุบโหนกแก้มลงแต่ไม่มากเกินควร 0.5 cm เพราะเชื่อว่ายิ่งยุบน้อยเท่าไรก็ยิ่งมีผลต่อเนื้อหย่อนน้อยเท่านั้น อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณาณนะค่ะ ว่าจะเชื่อแบบไหน
ภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ คือ
- เลือดไหลไม่หยุดและมีอาการบวม
- การติดเชื้อ
- การไม่สมมาตรของใบหน้า (ป้องกันได้ด้วยการผ่าตัดอย่างระมัดระวัง ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยก็สามารถป้องกันปัญหานี้ได้)
- การบาดเจ็บของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงส่วนหน้าผาก ดังนั้นการผ่าตัดเข้าสองทางจึงค่อนข้างจะดีกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ ของเนื้อเยื่อให้น้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของเส้นประสาทค่ะ
ทีนี้ถามว่าที่ไทยมีการผ่าตัดแบบไหนบ้างก็ต้องบอกว่ามีทั้งแบบผ่านจอร์นหู กับแบบเข้าในปาก หรือผ่าตัดทั้งจอนหูและในปากร่วมกัน (ถ้าคิดจะไปปรึกษาคุณหมอที่ไทย ยังไงก็ต้องถามเรื่องนี้ให้เคลียนะค่ะว่าเข้าทางไหนกันแน่ ที่สืบทราบมาคุณหมอจรัญจะผ่าตัดเข้าทางปาก อ้อมีอีกท่านคือคุณหมอจุฑาค่ะ ) และของไทยแท้ต้องติดสกรูค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:35
จากรูปสกรูสามารถมองเห็นได้ในแผ่น เอ็กซเรย์


จากรูปเป็นฟิล์มเอ็กซเรย์การลดความ กว้างของใบหน้า(ลดโหนกแก้ม ตัดกราม ทำวีไลน์) ของ ID Hospital ซึ่งจะมีสกรูติดค่ะ

rrrr.jpg (16.6 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 23)

rrrr.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:35
ลืมบอกไปว่าคลีนิค Oz clinic นั้นการลดโหนกแก้มบนใบหน้าจะไม่ติดสกรูค่ะ

ถ้าถามว่าแล้วมีแบบไม่ติดสกรูด้วยหรอค่ะ ขอตอบว่ามีค่ะ หลายๆคลีนิคในเกาหลีคำนึงถึงข้อเสียข้อนี้ดี เพราะหลายๆท่านไม่ชอบความรู้สึกที่ว่ามีสิ่งแปลกปลอมมาติดในหน้าของเรา จึงได้คิดค้นวิธีใหม่เป็นการผ่าตัดแบบไม่ติดสกรู
ทำอย่างไรหรือค่ะ?
คือการทำการตัดส่วนโหนกแก้มส่วนหนึ่งแบบ incomplete คือตัดแต่ไม่หมด แล้วก็ตัดส่วนที่สามหลังจากนั้นย้ายส่วนที่สามจมเข้าไปในกระดูกด้านข้างๆจอน ผมทิ้งไว้แบบนั้นโดยที่ไม่ต้องติดเหล็ก ลวดหรือสกรูใดๆ หลังจากนั้นร่างกายจะสร้างกระดูกมาสมานส่วนที่ไม่มีการเชื่อมเอง ก็เสร็จขั้นตอนค่ะ
ถามว่าแล้วมันดีกว่าหรือเปล่า หมอบางท่านเชื่อว่า (อ้างอิงมาจากคุณหมอ Hong-Cheol Lim จากคลีนิค Mecca Esthetic Clinic www.psmecca.com ) การที่ไม่ติดสกรูนั้นสามารถลดคามกว้างของโหนกแก้มได้มากกว่าการติดสกรูแน่ นอนค่ะ บาง และที่สำคัญไม่มีลวด เหล็ก หรือสกรูอยู่บนใบหน้าเราให้กวนใจค่ะ (เวลาเราไปเอ็กซเรย์ใบหน้าพวกเหล็กลวดอะไรพกนี้เห็นชัดเจนบนฟิล์มเอ็กซเร ย์ค่ะ ) ดูภาพกันเลยนะค่ะ ว่ามันต่างกับแบบสกรูจริงไหม
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:36
จากรูปเปรียบเทียบด้านขวา เป็นการติดสกรู ด้านซ้ายไม่ติดสกรูค่ะ จะเห็นได้ว่าด้านซ้ายดูแคบกว่าด้านขวาเล็กน้อย สักประมารสองสามมิล (ถือว่าลดได้เยอะนะค่ะ)

qrerer.jpg (17.36 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 25)

qrerer.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:36
แล้วทีนี้ผลหลังจากผ่าตัดหรือค่ะ บางท่านบอกว่าเวลาคลำ(แบบไม่ติดสกรู) เราก็จจะเจอปุ่มกระดูกตรงส่วนที่ไม่ได้ต่อกับส่วนสองนะค่ะ เป็นปุ่มเล็กๆนิดเดียวไม่ก่อให้กิดความรำคาญ ดีกว่าติดสกรูค่ะเพราะไม่อยากไปหาหมอแล้วเจอลวดบนแผ่นเอ็กซเรย์ใบหน้าค่ะ อันนี้แล้วแต่ชอบนะค่ะ
ส่วนสิ่งที่ต้องระวังนะค่ะคือ Sagging skin การหย่อนยานของเนื้อหลังจากผ่าตัดลดกระดูกโหนกแก้ม อันนี้ให้คำนึงถึงวิธีการผ่าตัดให้ดีอย่าให้คุณหมอไปรบกวนหรือแยกเนื้อเยื่อ กับกระดูกมากไปไม่งั้นอาจจะมีผลหลังผ่าตัดในเรื่องผิวหย่อนค่ะ บางคนก็บ่นหลังจากผ่าตัดแล้วตอนแรกขอให้หมอลดให้เยอะๆ (บางคลีนิคที่ชาวเกาหลีนิยมไปกันอย่างเช่น cinderella มักจะตัดลดแบบเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จนหน้าเล็กเลยค่ะ ) พอผลที่ออกมาคือหน้าเล็กไปเลยแต่ได้แก้มหย่อนเข้ามาเลยอยากเสริมกระดูกโหนก แก้มกลับไป อิอิ อันนี้พิจารณาคลีนิคดีๆนะค่ะ บางคลีนิคก็ตัดมากเกิน บางคลินิคทำพอดีๆเพราะเข้าใจเรื่องพวกนี้ดีค่ะ
อีกอันนึงคือ ความสมดุลระหว่างหน้าด้านขวากับซ้าย อย่างที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าคุณหมอ Park จาก IDhospital จะเชี่ยวชาญด้านนี้ค่ะ
ส่วนวิธีลดการบวมก็หาอ่านได้จากการ ลดอาการบวมหลังจากผ่าตัดเสริมจมูกค่ะ
ขอปิดประเด็นเรื่องผ่าตัดโหนกแก้มนะค่ะ ยังไงถ้าสนใจคลีนิคไหนก็หาอ่านได้หลังบทความด้านล่างนะค่ะ เดี่ยวจะเอารายชื่อคลีนิคมาแนะนำกัน
ขอเครดิตรูปภาพใก้กับคุณหมอพาร์ค จากคลีนิค ozclinic มา ณที่นี้ด้วยนะค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:38
มาต่อเรื่อง Facial contouring
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:38

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:39
มาว่ากันถึงเรื่องของการผ่าตัดกระดูกคางบ้างค่ะ
การเสริมคางของเกาหลีนั้นสำหรับคนคางสั้นหรือคางหุบนั้น ก็มีทั้งใส่แบบซิลิโค กอร์เท็กซ์ เม็ดพอร์ ไขมัน ผ่าตัดผ่านข้างในปาก ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้นๆค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีอีกวิธีนึงที่นิยมเช่นกัน และผลที่ได้ก็ค่อนข้างธรรมชาติ คือการผ่าตัดเลื่อนคางด้วยกระดูกจริงของเรา หลักการก็คือการตัดกระดูกตรงส่วนคาง แล้วเลื่อนกระดูกคางของเราไปด้านหน้าและติดลวดค่ะ สำหรับการผ่าตัดแบบนี้ในไทยก็มีเช่นกันค่ะ ที่เคยได้ยินมาก็คุณหมอจุฑา จันทร์ศรีค่ะ ส่วนที่เกาหลีกรรมวิธีก็คล้ายกันเลยค่ะ วิธีก็ดูได้จากรูปค่ะ รูปแรกเป็นการตัดกระดูกคาง รูปที่สองคือการเลื่อนไปด้านหน้าแล้วใช้วัสดุเชื่อมคางเข้าด้วยกันค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:40
การตัดเลื่อนคางที่ยาวเกินไป กรรมวิธีก็คือตัดกระดูกคางออกสองส่วน แล้วเลื่อนเข้าค่ะ ดูจากรูปเลยนะค่ะ
ส่วนการพักฟื้นอันนี้ก็ไม่นานประมาณหกวันได้ค่ะแล้วแต่ว่าใครบวมมากน้อยแค่ ไหน

7053.jpg (18.5 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 25)

7053.jpg

F_mento_reduce.jpg (25.56 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 25)

F_mento_reduce.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:41
ต่อไปคือการผ่าตัดเสริมหน้าผาก
อยากทำที่สุดในสามโลก..............เรย
เค้าว่ากันว่า ดาราเกาหลี ทำกันเยอะมากกกกกกกกกก

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:42
เคยเห็นหน้าผากโหนกนูนของดาราเกาหลีไหมค่ะ หลายๆคนก็เลยฮิตไปทำการเสริมหน้าผากกัน ถ้าบ้านเราที่เห็นๆว่ามีหน้าผากโหนกนูนสวยก็คงน้องปอยนี่ละค่ะ วัสดุที่ใช้ในการเสริมหน้าผากนั้น เป็นซิลิโคนที่จัดเตรียมมาเพื่อหน้าผากเราโดยเฉพาะ จะจัดวัดสำหรับหน้าผากเราเองเลย หรือบางครั้งถ้าเราอยากจะใช้ไขมันตัวเองก็ได้ แต่ก็ต้องมีการผ่าตัดหลายที่และมีการจัดคัดไขมันอย่างดีไว้มิฉะนั้นการสูญ เสียไขมันในระหว่างทีฉีดกลับเข้าไปและหลังจากที่ปลูกไขมันถ้าเราเลือกไขมัน เกรดไม่ดีอาจจะติดได้น้อยด้ยค่ะ อันนี้เห็นเขาว่ามีคลีนิคที่เกาหลีที่เชียวชาญด้านไขมันโดยเฉพาะชื่อคุณหมอ ยัง ยีฮุย เวบไซต์ www.kangnamps.co.kr Kangnam plastic surgery Dr Young Yihui ค่ะ ส่วนข้อดีข้อเสียระหว่างซิลิโคนกับไขมันนั้น คือซิลิโคนจะอยู่ถาวร (คล้ายๆหน้ากากแต่สวมตรงหน้าผากค่ะ) ใช้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ในการจัดทำแผ่นหน้ากากหน้าผาก โดยใช้พลาสเตอร์เป็นหลอมจำลองหน้าผากเราค่ะ กรรมวิธีก็คือเจาะแผลไปที่หนังศรีษะประมาณสี่ถึงห้าเซ็นต์แล้วใส่ซิลิโคน เข้าไปค่ะ ดูรูปค่ะ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:43
555+
เจ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง.....มั๊กคัฟ
ไปทำกาน ไปทำกาน

F_foreheadimplant.jpg (4.73 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 27)

F_foreheadimplant.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:45
ส่วนการเสริมด้วยไขมันข้อดีคือไม่มีแผลเป็นค่ะแต่หลังจากนั้นไขมันอาจจะสลาย อาจจะต้องมีการมาเติมทุกๆหกเดือนค่ะ
เกือบทุกคลีนิคที่เกาหลีจะมีบริการเสริมหน้าผากโดยซิลิโคนนะค่ะ ยังไงก็หาอ่านรายละเอียดได้ค่ะ อาจจะยากนิดนึงเพราะป็นภาษาเกาหลี แต่บางคลีนิคก็มีบริการภาษาอังกฤษค่ะ

F_forehead.jpg (6.37 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 24)

F_forehead.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:46
การผ่าตัดลดกล้ามเนื้อน่อง (Calf Reduction)
กล้ามเนื้อที่สวยงามเป็นที่ต้องการของทุกๆคน แต่โชคร้ายที่ผู้หญิงเอเชียส่วนใหญ่มีกล้ามเนื้อน่องที่สั้น อีกทั้งประเทศเกาหลีเป็นประเทศแรกที่คิดค้นการลดกล้ามเนื้อน่องขึ้นมา
เมื่อก่อนนั้น การลดน่องมักจะเน้นไปที่การลดไขมัน แต่ผลจากการดูดไขมันนั้นไม่น่าประทับใจสักเท่าไร เนื่องจากว่าน่องคนเรานั้นประกอบไปด้วยมัดกล้ามเนื้อซะส่วนใหญ่ มีไขมันเพียงนิดเดียว
ดังนั้นการลดกล้ามเนื้อ Gastrocnemius เป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลมากที่สุด ส่งผลให้น่องดูยาวขึ้นและผอมลง
หลากหลายวิธีในการลดน่อง
1. การฉีดโบทอกซ์ไปที่มัดกล้ามเนื้อ Gastrocnemius เมื่อสิบปีก่อนนั้นเป็นที่นิยมกัน แต่เนื่องจากผลที่เกิดขึ้นนั้นไม่ถาวรจะต้องมาฉีดเรื่อยๆจึงไม่เป็นที่นิยม ในปัจจุบัน
2. การบล็อกเส้นประสาทโดย การฉีดสารพิษเข้าไป การผ่าตัดด้วยคลื่นความถี่วิทยุ(Radiofrequency Ablation)
การบล็อคเส้นประสาท Gastrocnemius นั้นเป็นวิธีง่ายและมีแผลเป็นน้อย แต่เป็นผลที่ไม่น่าพอใจสักเท่าไร เนื่องจากการบล็อคนั้นสามารถลดกล้ามเนื้อ Gastrocnemius แบบธรรมดาๆเท่านั้น ในบางส่วนของ Gastrocnemius อาจจะเกิดการขยายตัวขึ้น และขาอาจจะดูโก่งๆผิดรูปได้ ผลลัพธ์ทีได้ไม่แน่ไม่นอน ดังนั้นวิธีนี้จึงไม่เป็นที่นิยมสักเท่าใด
3. การผ่าตัดด้วยคลื่นวิทยุเพื่อลดมัดกล้ามเนื้อ (Radiofrequency Muscle Ablation ) ถึงแม้ว่าการผ่าตัดด้วยคลื่นวิทยุเพื่อลดมัดกล้ามเนื้อนี้จะสามารถลดกล้าม เนื้อและพังผืดได้เยอะ แต่ผลที่ได้ก็คือกล้ามเนื้อแข็งๆเหมือนหิน ดังนั้นจึงจะต้องมีการผ่าตัดเพิ่มตามมาอีกครั้งเพื่อลดความแข็งตรงนี้
การพักฟื้นหลังผ่าตัดก็นาน และการลดมัดน่องข้างๆได้น้อยมาก
4. การผ่าตัดลดกล้ามเนื้อ Gastrocnemius บางส่วน (Partial gastrocnemius muscle resection) เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างแน่นอน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของน่องอย่างเห็นได้ชัด
เป็นการผ่าตัดไปยังส่วนมัดกล้ามเนื้อที่ต้องการลด ดังนั้นเราจึงสามารถควบคุมผลลัพธ์ให้ออกมาแน่นอนชัดเจนได้
เนื่องจากว่าในพังผืดกล้ามเนื้อไม่มีเส้นเลือดสำคัญๆหรือเส้นประสาทอยู่ ดังนั้นการกระทบกระทั่งหลอดเลือดหรือกล้ามเนื้อจึงไม่เกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าการพักฟื้นหลังผ่าตัดจะใช้เวลานานเช่นกัน แต่ว่าผลที่ได้ก็คุ้มค่าคะ
เครดิตจากคุณหมอ park ของ OZ clinic ค่ะ
ตัวอย่างการผ่าตัดลดน่องจาก OZ Clinic ค่ะ คุณหมอท่านนี้มีชื่อเสียงในด้านลดกล้ามเนื้อน่องมากค่ะ

leg_model.jpg (8.27 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 27)

leg_model.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:47
มาถึงการผ่าตัดหน้าอกและส่วนอื่นๆของร่างกาย

อันนี้ขอไม่พูดถึง

เนื่องจากคุณหมอในไทยหลายๆท่านนั้นเก่งในด้านนี้มากอยู่แล้ว

อย่างที่เขาว่ากันว่าถ้าหน้า เกาหลี ถ้าต่ำกว่าหน้า ให้มาบ้านเรา ฮ่าฮ่า (แบบว่าแอบเหนื่อยเล็กน้อย )

ขอขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านบทความ

มีอะไรผิดพลาดแย้งมาได้เลย
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:48
Wow
      Wow
           Wow
                 รายชื่อคลีนิ คในเกาหลีมาฝาก

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:49
มาถึงการเดินทาง สถานที่
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:50
ในเกาหลีใต้นั้น มีคลีนิคศัลยกรรมมากมาย โดยเฉพาะย่าน Apgujeong(???) เป็นแหล่งชอปปิ้ง แฟชั่นแบรนด์แนมต่างๆ คล้ายๆกับว่าเป็นศูนย์กลางของเมือง (Gangnam) เป็นย่านที่ได้ชื่อว่า "The Beverly Hills of Seoul"
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:51
การเดินทางไป Apgujeong  (ไม่กล้าเรียกเป็นภาษาไทย กลัวเรียกผิด อิอิ)

จากสนามบินนั้นสามารถนั่งรถสาย Chenho-dong (No.606) เส้นทางดินรถดังนี้ค่ะ
Incheon Airport- Apgujeong-dong - Samseong Stn. - Olympic Parktel

ทางรถไฟสามารถนั่งรถไฟสาย Seoul Subway Line 3(สายสีส้ม) มาลงที่สถานี Apgujeong เมื่อออกมาจากสถานี คุณจะมองเห็นคลีนิคอยู่ข้างหน้าคุณอย่างน้อยก็ 2-3 คลีนิค


สำหรับที่พักใกล้ๆสถานี Apgujeong

Noblesse Yeoksam Hotel (อันนี้เราหาข้อมูลเอาเองนะค่ะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าดีไหม แต่แค่สามร้อยเมตรจากสถานี)
โรงแรม Young Dong Hotel ห่างจากสถานีประมาณ 700 เมตรค่ะ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมเอามาลงได้เลยนะค่ะ


ที่พักย่านอื่นค่ะ

เคยมีคนมาที่ไปเกาหลีใต้มาเขียนแนะนำคิมเกสเฮ้าส์ค่ะ เห็นว่าไม่ไกลจากเมืองมาก ที่พักสดวกสบายค่ะ เห็นมีคนไทยไปริวิวในเวบไซต์ด้วยค่ะ www.kimsguesthouse.com/kimseng/default_kim.htm
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:52
การเดินทางไป Apgujeong

image2_1.jpg (51.78 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 22)

image2_1.jpg

โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:54
ที่หามาได้เนี่ยแบบว่าเอาพอเรียกน้ำย่อยนะค่ะ จริงๆแล้วเขาว่าถ้าไปเดินที่นั่นจริงๆมีเยอะกว่านี้มาก เฮ้อ รวบรวบไม่หมดค่ะ

รายชื่อคลีนิคศัลยกรรมประเทศเกาหลีใต้

- ID Hospital ( Dr.Park Sang-Hoon) มีเวบไซต์เป็นภาษาอังกฤษด้วยค่ะ eng.idhospital.com/en.asp มีชื่อเสียงทางด้านกระดูกใบหน้า การผ่าตัดลดโหนกแก้ม คาง การทำวีไลน์ การสมมาตรของใบหน้า มีล่ามภาษาอังกฤษช่วยดูแลช่วยเหลือรู้สึกว่าจะชื่อ โซอี้ (zoe) คุณหมอพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ ถ้าทำการลดกระดูกใบหน้า จะมีแถมบริการบำรุงผิวหลังผ่าตัดเพื่อลดอาการบวมและอักเสบฟรีด้วยค่ะ สนนราคาก็แพงเอาการ แล้วแต่เคสๆไปค่ะ (มีการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างอื่นด้วย ทั้งตา จมูก .... แต่จะเก่งเรื่องกระดูกใบหน้า) ราคาคงต้องสอบถามกับทางคลีนิคค่ะฃ

- Migo clinic คุณหมอลี พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย มีล่ามแมนดารินและภาษาอังกฤษค่ะ แต่พนักงานส่วนใหญ่พูดแมนดารินหรืออังกฤษไม่ได้เลย เก่งในด้านตาค่ะ ราคาในการแก้ตา 2.3 ล้านวอน (1 วอน = 0.028 บาท) ตกประมาณ 66,000 บาทค่ะ เวบไซต์ไม่มีภาษาอังกฤษค่ะ www.migoclinic.co.kr ตัวอย่างผลงานการทำตา www.migoclinic.com/c_eye/eye8.asp

- Oz Clinic คุณหมอ park เก่งเรื่องการลดน่องค่ะ เวบไซต์มีภาษาอังกฤษ คุณหมอพูดอังกฤษได้ดีมากค่ะ แต่คลีนิคเล็กมาก ราคาก็ไม่แพงมาก เวบไซต์ drpark.co.kr/eng/index.htm

- BK DongYang คุณหมอเก่งเรื่องใบหน้าเช่นกันค่ะ แต่ชื่อเสียงการดูแลหลังผ่าตัดไม่ค่อยดีเท่าที่ควรค่ะ(คุณหมอออกจะไม่ง้อคน เห็นเขาว่างั้น) ราคาก็ไม่แพงเท่า ID hospitalแต่ต่างกันไม่เท่าไรค่ะ เวบไซต์เป็นภาษาอังกฤษ มีล่ามภาษาอังกฤษค่ะ eng.bkdy.co.kr/photo/photoList.asp?cate=face

- คุณหมอ Hong-Cheol Lim จากคลีนิค Mecca Plastic Surgery ค่ะ คุณหมอบอกว่าพูดอังกฤษได้ค่ะ แต่ไม่มีเวบไซต์ภาษาอังกฤษค่ะ ยังไงถ้าสนใจคุณหมอก็ติดต่อได้ที่อีเมลส์ lim00771@yahoo.com, lim00771@hanmail.net ส่วนเวบไซต์คลีนิค www.psmecca.com/

- คลีนิคแฟซไลนท์(ไม่มีข้อมูลค่ะ) www.face-line.co.kr/gnuboard4/index.html

- คลีนิคสมอลเฟซ เป็นที่นิยมของคนเกาหลีมากค่ะ ไม่มีล่ามอังกฤษค่ะ คลีนิคไม่มีเวบไซต์ภาษาอังกฤษค่ะ แต่ตัดโหนกก็คือยุบจริง เจ็บจริง เห็นจริง อิอิ ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ เพราะคนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นคนเกาหลีค่ะ ขอเอาลิ้งตัวอย่างการตัดโหนก กราม ลดใบหน้าให้ดูนะค่ะ www.small-face.com/zgezge/htm/smallface_...f8d9474e3018dcc4a203 ลองกดๆสุ่มๆไปนะค่ะเดี่ยวก็เจอคนที่ลดหน้าใหญ่ค่ะ

- สมอลเฟซอีกที่นึงค่ะ ยกเอาตัวอย่างมาให้เห็นกันเลยดีกว่า แบบว่าไม่มีภาษาอังกฤษค่ะในเวบ www.smallface.co.kr/photo6.html#1 คุณหมอพูดอังกฤษไม่ได้ค่ะ แต่มีล่ามภาษาอังกฤษเป็นคนจีนชื่อ Guo Rongr ong อีเมลส์: small_face@hanmail.com

- เมกเฟซ อิอิ คลีนิคเกาหลีนี่หลายๆเฟซกันจริงๆ สำหรับคนที่มีความพยายามในเรื่องภาษาเกาหลี ลองดูนะค้ะwww.makeface.co.kr/bbs1/bna_lst.php?category=k

- โซลพีเอสค่ะ www.seoulps.co.kr/main/main.asp

- โรเมียน(คุณหมอมีวีดีโอตัวอย่างในในยูทูปเยอะค่ะ www.romian.co.kr/
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 21:54
- เรียลคอสเมติกค่ะ เวบไซต์เป็นภาษาอังกฤษค่ะ เห็นว่ามีการชนะการประกวดรางวัลศัลยกรรมอะไรกันด้วย www.realcosmetic.com/english/

- เจลิมค่ะ เวบไซต์มีภาษาอังกฤษค่ะ www.jelimps.com/eng/jelim01.html

- แกรนพลาสิติกเซอเจอรี่ เห็นว่าทำจมูกสวยค่ะ ส่วนรูปตัวอย่างลองคลิ็กด้านซ้ายล่างๆหน่อยมือที่มีรูปเยอะๆอะค่ะ เวบไซต์ค่ะ www.grandsurgery.com/ เวบไซต์ไม่มีภาษาอังกฤษค่ะ แต่คลีนิคมีล่ามภาษาอังกฤษค่ะ ชื่อ เอวา อีเมลส์ heejung1022@hotmail.com

- ซินเดอเรลล่าคลีนิค คนเกาหลีนิยมกันค่ะ แต่เห็นคนไปลดกระดูกใบหน้าแล้วแบบว่าลดให้เยอะมาก (แต่คนเกาหลี กับพวกดาราเกาหลีจะแวะเวียนมาคลีนิคนี้บ่อยๆค่ะ) บางคนหลังไปทำมาแล้วอยากเสริมโหนกแก้มกลับเข้าไปก็มี เพราะหน้าหย่อนไป ฮ่าฮ่า www.cindyclinic.com/ ลิ้งดารา www.cindyclinic.com/star/star_list.php


สำหรับคนต่างชาตินั้น แนะนำพยายามหาคลีนิคที่มีล่าม หรือคุณหมอสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีนะค่ะ เพราะว่าอันนี้สำคัญมาก
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 22:00
เครดิต
http://www.siliconeclub.com
ด้วยน่ะครับ ..........ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆน่ะคับ


จบซ่ะที

~~~~เห้อ~~~~เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น จิงๆ 55+


ต้องไปเกาหลี ให้ ด๊ายยยยยยยยยย

.............ไปกันน่ะค้าบ...............ไปกัน....ไปกัน
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 22:13
อ่านกันให้ตาแฉะไปเรยยยยยยยยยยยยยย
โดย: pumpui    เวลา: 2010-4-28 22:25
แก้ไขล่าสุดโดย pumpui เมื่อ 2010-4-28 22:27

คุงพี่จะเข้ามากราบลาจ้ะ พอดีว่าสนใจจะไปโมทั้งตัวเหมือนกันที่เกาหลี อิอิ




คุงพี่แพ็คของใช้ กะกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย...งานนี้ไม่สวย ไม่กลับ 55++






งานนี้เตรียมเดินช้อปกันสู้ตาย!!!!!




แร้วเจอกันที่เกาหลีคุงน้อง...จุ๊ฟ จุ๊ฟ..


โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 22:33
แก้ไขล่าสุดโดย pumpui เมื่อ 2010-4-28 22:27

คุงพี่จะเข้ามากรา ...
ต้นฉบับโพสต์โดย pumpui เมื่อ 2010-4-28 22:25



     พี่PumPui ทำเอาผม
ฮาแตกกกกกกกกกก...ไปพักใหญ่เรยที่เดว
กว่าจะมา โำพสตอบพี่ได้
คิดได้ไงอ่ะคับ
แจ๋มมากเรย 55+
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 22:34
แก้ไขล่าสุดโดย pumpui เมื่อ 2010-4-28 22:27

คุงพี่จะเข้ามากรา ...
ต้นฉบับโพสต์โดย pumpui เมื่อ 2010-4-28 22:25



ถือว่า ตอบตกลงแล้วน่ะครับ
คุณพี่คนสวย555+

เรามีโปรเจคไปเกาหลีกันกับครอบครัว ดั้งโ่ด่ง น๊า

Admin ครับ จัดทริป จัดชิงโชค ด่วนน่ะคับ 555+
โดย: pumpui    เวลา: 2010-4-28 22:39
ถือว่า ตอบตกลงแล้วน่ะครับ
คุณพี่คนสวย555+

เรามีโปรเ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย karat เมื่อ 2010-4-28 22:34


ถูก!!!!  YES!!!!


โดย: Lamos    เวลา: 2010-4-28 22:44
ไปไป   ไปก้อไป

คุณตันก้อคุณตันเถอะ งานนี้ เจอ คุงkarat

นะ ......  ทัวร์ยกแท้งค์ไปกับแก๊งดั้งโด่ง


โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 22:44
เดวจะ ได้ไปกู้เงิน อดีตนายก มาทำโครงการนี้ 555+
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 22:46
แก้ไขล่าสุดโดย karat เมื่อ 2010-4-28 22:49
ถูก!!!!  YES!!!!
ต้นฉบับโพสต์โดย pumpui เมื่อ 2010-4-28 22:39


ชอบรูปของเจ๊ จัง คัฟ
ฮาดี ฮาได้อีก
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 22:49
ไปไป   ไปก้อไป

คุณตันก้อคุณตันเถอะ งานนี้ เจอ คุงkarat

...
ต้นฉบับโพสต์โดย Lamos เมื่อ 2010-4-28 22:44



    งืมๆ
แล้วเราจะทำไงดีล่ะ
โออิชิเค้า...ส่งฝา...ชิงโชค
เราส่ง.....อะไร....มาชิงโชค กันดีล่ะ
โดย: TITAN    เวลา: 2010-4-28 22:49
ข้อมูลเพียบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ จริงๆ

สุดยอดเลย.... กูรู มาเอง
โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 22:54
ข้อมูลเพียบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ จริงๆ

สุดยอดเลย....  ...
ต้นฉบับโพสต์โดย TITAN เมื่อ 2010-4-28 22:49



  กะว่า อยากต่อ  ศัลยศาสตร์พลาสติก แล้วล่ะ อิอิ
ช๊อปชอบ
โดย: Lamos    เวลา: 2010-4-28 22:54
งืมๆ
แล้วเราจะทำไงดีล่ะ
โออิชิเค้า...ส่งฝา...ชิงโช ...
ต้นฉบับโพสต์โดย karat เมื่อ 2010-4-28 22:49



    เขียนชื่อคุณพร้อมชู้ ...เอ้ยที่อยู่!!!

แนบภาพ B4&After

ตู้ปอณอ ขอ ขอ คอ บลาๆๆ

ฮาๆๆ

คิดมะออกหมดมุข  ง่วง zzzzZZZZZ.....


โดย: karat    เวลา: 2010-4-28 23:05
เขียนชื่อคุณพร้อมชู้ ...เอ้ยที่อยู่!!!

แนบภาพ B4&After
...
ต้นฉบับโพสต์โดย Lamos เมื่อ 2010-4-28 22:54



    ถ้าต้องเขียนชื่อพร้อมชู้ ...สงสัย ไม่พอล่ะครับ
เยอะเหลือเกิ๊นน อิอิ


ง่วงแล้วหรอคัฟ อิิอิ นอน ไวจัง
โดย: hisui    เวลา: 2010-4-29 00:02
ชอบที่เกาหลีมีภาพจำลองให้ลูกค้าดูก่อนผ่าตัดจริงน่ะค่ะ ว่าออกมาแล้วจะเป็นยังไง จะมีเกือบทุกที่เลยค่ะ
เสียดายที่แพงมากๆ ทัวร์ศัลยกรรมแต่ละที่ ทำอย่างเดียวก็สองสามแสนละ เชียร์ให้ทำเลยค่ะ ไม่ต้องหรูมากก็ได้ แนวแบกเป้กันไปเองอ่ะ ลุยดี อิอิ
โดย: karat    เวลา: 2010-4-29 09:26
ชอบที่เกาหลีมีภาพจำลองให้ลูกค้าดูก่อนผ่าตัดจริงน่ะ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย hisui เมื่อ 2010-4-29 00:02



    อิอิ แอบบอกน่ะครับ
ตอนนี้ผมกำลังทำโปรแกรมเกี่ยวกับการฝังรากฟันเทีนม เป็นโปรเจคที่Nectec ร่วมกับ มหาวิทยาลัย มหิดล+สงขลา บลาๆๆ
ทำโปรแกรม ให้คุณหมอใช้ ในการจำลองภาพสามมิติ ฝังรากฟันเทียม
เมื่อวานนี้เองครับ....
ผมได้ลองไปคุยกับ พี่ๆที่Nectecอ่ะคับ
(พอดีตอนนี้ทำงานอยู่ที่นิ๊)
ถึงเรื่อง จะคิดทำโปรแกรมเกี่ยวกับ การทำศัลยกรรม
ในอนาคตเราอาจมีโปรแกรมดังกล่าวเป็นของตัวเอง
ระยะแรกอาจทำเล่นๆเป็นต้นแบบ ก่อนอ่ะครับ
น่าสนุกมากๆๆ
พี่ๆ ที่Nectec ก้อ ให้การสนุบสนุนอ่าครับ
เตรียมผลักดันเต็มที่
ยังไง ถ้าออกมาแล้ว จะลองเอาไหปให้ hisui ใช้เป็นคนแรกเลยน่ะคับ
โดย: hisui    เวลา: 2010-4-29 23:11
อิอิ แอบบอกน่ะครับ
ตอนนี้ผมกำลังทำโปรแกรมเกี่ยว ...
ต้นฉบับโพสต์โดย karat เมื่อ 2010-4-29 09:26



ถ้ามีแล้ว คุณหมอต้องอัพราคาขึ้นรึป่าวอ่ะ 55 ขอให้โปรแกรมมีต้นทุนต่ำ คุณภาพสูงละกัน อิอิ
อย่างนี้คุณหมอทั้งหลายต้องอัพฝีมือกันขึ้นอีกนะคะ อิจฉารุ่นน้องๆจังที่จะได้มีโอกาสใช้ ส่วนเราคงรอถึงตอนนั้นไม่ไหวแน่ๆ อาจจะได้ใช้ตอนที่ไปดึงหน้าตึง 555
โดย: karat    เวลา: 2010-4-30 11:14
555+
สงสัยอ่าครับ
ที่คุยเรื่องการตลาด ตอนแรกกะทำ เป็นFree Program อ่ะครับ
แล้วพัฒนาเรื่่อยๆๆ อ่ะครับ
อย่างที่ว่า สงสัย รุ่นน้อง คงหน้าตา แป๊ะะๆๆ  กันทุ๊กกกๆๆ...คน

โดย: karat    เวลา: 2010-4-30 11:14
ถ้ามีแล้ว คุณหมอต้องอัพราคาขึ้นรึป่าวอ่ะ 55 ขอให้โ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย hisui เมื่อ 2010-4-29 23:11



    เดวถ้าเสร็จ จะเอามาให้ลองใชน่ะครับสุดสวย
โดย: chalisas    เวลา: 2010-4-30 19:13
สุดยอดดดด ข้อมูลแน่นปึ๊ก..เกาหลีที่ไฝ่ฝัน
โดย: karat    เวลา: 2010-4-30 23:20
สุดยอดดดด ข้อมูลแน่นปึ๊ก..เกาหลีที่ไฝ่ฝัน ...
ต้นฉบับโพสต์โดย chalisas เมื่อ 2010-4-30 19:13


แย้ๆๆๆ มีคนร่วมอุดมการแล้ว....
โดย: kurama    เวลา: 2010-5-2 09:27
ข้อมูลแน่นมากมาย ได้ความรู้เยอะเลยค๊าบ

ขอบคุณเน้อ ว่าแล้วก็ไปเกาหลีกัน
โดย: UnjUnG    เวลา: 2010-5-5 10:40
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ   กำลังจะไปผ่าตัดกราม
โดย: karat    เวลา: 2010-5-5 23:00
สุดยอดดดด ข้อมูลแน่นปึ๊ก..เกาหลีที่ไฝ่ฝัน ...
ต้นฉบับโพสต์โดย chalisas เมื่อ 2010-4-30 19:13



    ว่างๆ เราจัดทัวร์ กันในบอร์ดน่ะครับ
อิอิ  อยากให้ แอดมิน...จัดจัง
แอดมิน จ๋า...ได้ยินไหมเอ๋ย
โดย: karat    เวลา: 2010-5-5 23:01
ข้อมูลแน่นมากมาย ได้ความรู้เยอะเลยค๊าบ

ขอบคุณเน้อ ว ...
ต้นฉบับโพสต์โดย kurama เมื่อ 2010-5-2 09:27



    มีเพื่อนแร้ววววววว...
โดย: karat    เวลา: 2010-5-5 23:02
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ   กำลังจะไปผ่าตัดกราม :victo ...
ต้นฉบับโพสต์โดย UnjUnG เมื่อ 2010-5-5 10:40



    ผ่าแล้วเอามารีวิว ให้ดูบ้างน่ะครับ
จะปูเสื่อรอน่ะครับพี่ UnjUng
โดย: kurama    เวลา: 2010-5-5 23:12
ที่ชวนไปเค้าชวนไปช็อปนะ เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก เกาหลีน่ะ

แต่เดี๋ยวเดือนกรกฎาคมวางแพลนไปฮ่องกงไว้...เค้าลดทั้งเกาะกันง่ะ

ไปป่าวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
โดย: karat    เวลา: 2010-5-6 01:10
ที่ชวนไปเค้าชวนไปช็อปนะ เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก เกาหลีน่ะ

...
ต้นฉบับโพสต์โดย kurama เมื่อ 2010-5-5 23:12


จิงหรอครับ  ตกข่าวอีกแล้วเรา...
555+ น่าไปจัง
เดวจะมาคอนเฟิร์มน่ะครับ
โดย: kurama    เวลา: 2010-5-6 09:29
ถ้าจำม่ะผิดฮ่องกงมานจาลดตั้งแต่มิถุนายนอ่ะคับ ไปเรื่อยๆ

จนถึงสิงหาคม รึว่ากันยาม่ะแน่ใจ งิงิงิงิ ช็อปกระจาย
โดย: onrasa    เวลา: 2010-5-6 18:51
ที่เมืองไทยมี หมอคนไหนทำได้บ้างคะ รบกวนแนะนำหน่อยค่า
โดย: karat    เวลา: 2010-5-7 20:25
ที่เมืองไทยมี หมอคนไหนทำได้บ้างคะ รบกวนแนะนำหน่อยค่ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย onrasa เมื่อ 2010-5-6 18:51

ทำอารายเอ๋ยครับ
ถ้าทำอย่างเคส เกาหลีที่ว่า น่าจะยังน่ะ
แต่ถ้ามีแล้ว เพื่อนๆมาัอัพให้ฟังหน่อย
โดย: up2gua    เวลา: 2010-5-27 16:18
ว้าว *0*

เค้าก็อยากเกิดมาหน้าตาดีเหมือนกัน

แต่ยังเรียนไม่จบเลย +งบน้อยด้วย

อยากจะเสรอมดั้งทำหน้าเล็ก ทำปากบาง ลดโหนกแก้ม

ลดความอ้วน ลดน่อง

อยากขาว


ก้ได้แค่อยาก

T^T
โดย: zaiii    เวลา: 2010-6-28 01:27
คุณ karat  ถ้าจะไปกันจริงๆช่วย ติดต่อมาที่ 082 636 4423 ด้วยนะคะ

คืออยากไปมาหลายปีแล้วแต่ไม่รู้จะคลำหาทางไปยังไง ไปคนเดียวก็ไม่กล้า พูดเกาหลีก็ไม่เป็น อังกฤษก็ไม่กระเตื้อง

โดนส่วนตัวอยากตัดกรามมากเลยค่ะ มันเป็นปมในชีวิต น่าเกลียดมากกก ขอไปด้วยคน อย่าลืมชวนนะคะ
โดย: uuti    เวลา: 2010-6-28 03:39
ข้อมูลเยอะมากเลย  ขอบคุณนะค่ะ
โดย: mosflytarp    เวลา: 2010-7-21 04:27
งานแรก เก็บ ตังเลย 555+
โดย: biscuit    เวลา: 2010-7-23 02:14
เห็นวิธีการทำหน้าแบบv-lineของเกาหลีแล้วสุดยอด
หน้าเรียวสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ่ายรูปมุมไหนคงออกมาเพอร์เฟกต์อ่ะ
แต่เมื่อวานเปิดยูทูปดูรายการทูไนท์โชว์อันเก่าที่พาเข้าไปดูห้องผ่าตัดที่เกาหลี
ทั้งลดน่อง กับลดทั้งหน้า ทั้งทุบโหนก ทุบขมับ เสริมคาง
บรึ๋ยยยยยยยย ปกติประสาทแข็งมากแต่ต้องถึงกับเบือนหน้าหนี
ได้แต่นั่งไหว้บรรดาหมอๆอยู่หน้าจอคอม...คนเป็นหมอนี่สุดยอดจริงอะไรจริง
เอางานศิลปะมาบวกกับเลือดเนื้อหนังมังสา โอ้
โดย: ใบยาว    เวลา: 2010-7-24 15:33
สุดยอดคร่า...ขอบคุงมากนร้าคร้า
โดย: kukbest    เวลา: 2010-10-23 03:03
ค่าใช้จ่ายเหยียบล้านเลยไหมค่ะเนี่ย
โดย: superstark    เวลา: 2010-10-25 10:43
อยากไปทำอะครับแต่ เงินนี่สิ อยากหน้าเรียว แล้วลดรอยหน้าผาก


ว่าแต่ รอยแดงที่แก้มพวกปผลเป้นสิวไปหาหมอที่ไหนดีเหรอครับพี่ๆพอทราบไหม
โดย: zego2524    เวลา: 2010-11-8 09:17
อ่านไม่ไหว -*-
โดย: nhongkaf    เวลา: 2010-11-16 12:48
ข้อมูลแน่นจิงๆคัฟ




ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com:8080/) Powered by Discuz! X3.2