ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: สาระน่ารู้วิธีการลดความอ้วนและกระชับสัดส่วนที่ทำด้วยตัวเอง [สั่งพิมพ์]

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 18:51
ชื่อกระทู้: สาระน่ารู้วิธีการลดความอ้วนและกระชับสัดส่วนที่ทำด้วยตัวเอง
น่ารู้! เรื่อง คอเลสเตอรอล
คอเลสเตอรอลหรือไขมันตัวการหลักอีกอย่างที่ทำให้น้ำหนัก ตัวเพิ่มมากขึ้นค่ะ และตัวการที่ให้ คอเลสเตอรอล เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ก็มาจากอาหารการกินที่คุณรับประทานเข้าไปนั่นแหละค่ะตัวดี เลยทีเดียวค่ะ และวันนี้เราก็นำเรื่อง คอเลสเตอรอล ที่น่ารู้สำหรับคุณที่กำลังอ้วนและกำลังจะลดความอ้วนด้วยค่ะ หากว่าคุณเลิกพฤติกรรมการกินสารอาหารที่ไปเล่งให้คอเลสเตอรอลสูงขึ้นได้จะ เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะไม่ใช่แค่น้ำหนักจะลดลงเท่านั้นนะค่ะ คอเลสเตอรอลสูง ๆ ของคุณก็จะลดลงและไม่เกิดเป็นอันตรายและไม่ก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาอีกด้วยค่ะ
น่ารู้! คอเลสเตอรอล

ถ้าเป็นคอเลสเตอรอลดีจะเรียกว่า HDL คอเลสเตอรอล มีหน้าที่กำจัดคอเลสเตอรอลออกจากผนังเส้นเลือดและป้องกันการเกิดเส้นเลือด แข็งตัว ส่วนคอเลสเตอรอลร้ายที่ไม่น่าพิสมัยเรียกว่า LDL คอเลสเตอรอล ที่จัดเป็นตัวร้ายก็เพราะเป็นไขมันที่สะสมบนผนังเส้นเลือดมีผลทำให้ผนังเส้น เลือดหนา แข็ง และเกิดเป็นก้อนอุดตัน หากมีการสะสมเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดแข็งตัว ถ้าเกิดกับเส้นเลือดที่นำเลือดจะออกซิเจนไปสู่กล้ามเนื้อหัวใจจะทำให้เกิด ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดซึ่งเป็นอันตรายมาก

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้ เช่น กรรมพันธุ์ ความอ้วน การรับประทานอาหารที่มีคอลเลสเตอรอลสูง โดยเฉพาะอาหารที่มาจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ต่าง ๆ (โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ติดมัน) นม ไข่ หอย ปลาหมึก เครื่องในสัตว์ (เช่น ตับ) นอกจากนี้โรคหรือภาวะบางอย่าง ก็อาจมีผลรบกวนสมดุลไขมันในเลือดได้เช่นกัน

เมื่อคอเลสเตอรอลเป็นมหันตภัยเงียบที่จ้องเล่นงานสุขภาพได้ทุกขณะจึงควร ปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง อาทิ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไข่ นม เนย ฯลฯ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบว่ามีคอเลสเตอรอลสูงควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทางการแพทย์ แนะนำว่าคนที่มีอายุเกิน 20 ปีไปแล้วควรตรวจดูคอเลสเตอรอลทุก 5 ปี ฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการพอกพูนของคอเลสเตอรอลรีบปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมเสียนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สวยด้วยแแพทย์


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 18:53
น่ารู้! เรื่อง ยาลดความอ้วน
เป็นที่รู้กันดีว่า ณ ปัจจุบันยาลดความอ้วนนั้นไม่ค่อย เป็นที่ยอมรับที่จะให้รับประทาน ยาลดความอ้วน อย่างพร่ำเพื่อ เนื่อจาก ยาลดความอ้วน นั้นมีผลต่อร่างกายโดยตรง โดย ยาลดความอ้วน จะเป็นยาที่ฤทธิ์ต่อระบบประสาทคือจะกระตุ้นระบบส่วนกลางของระบบประสาทและไป ลดความถี่ของความรู้สึกหิวเท่านั้น ซึ่ง ยาลดความอ้วน นี้เป็นตัวยาควบคุมซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น และร้านที่จะขาย ยาลดความอ้วน นี้ได้จะต้องได้รับใบอนุญาตเท่านั้น ฉะนั้นหากใครจะซื้อยาลดความอ้วนมารับประทานควรจะตัวเช็คให้ดีเพื่อไม่ให้ เกิดผลข้างเคียงหรือว่าควรจะปรึกษากับแพทย์จะเป็นการดีที่สุดค่ะ นั้นเรามาทำความรู้จักกับยาลดความอ้วนให้มากขึ้นกว่านี้กันดีกว่าค่ะ

เรื่อง ยาลดความอ้วน

การใช้ยาลดน้ำหนักทุกชนิดจะทำให้น้ำหนักลดลงได้ในช่วงที่กินยา แต่น้ำหนักจะสูงกลับขึ้นเท่าเดิมเมื่อหยุดยาด้วยอาการที่เรียกว่า yo-yo effect คือผู้ใช้ยาจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะร่างกายปรับสภาพให้เผาผลาญพลังงานน้อยไป

ยาลดความอ้วนส่วนใหญ่จัดเป็นอนุพันธ์ของแอมเฟตามีน (amphetamine) ที่เป็นยาประเภทเดียวกับยาบ้า แต่พัฒนายาให้มีผลข้างเคียงต่อระบบประสาทน้อยกว่า

- ข้อควรระวัง ยาลดความอ้วน

ข้อควรระวังของยาที่เตือนโดยบริษัทยาผู้ผลิตว่า อาจเกิดผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือนอนไม่หลับ เวียนศีรษะ วิตกกังวล ปวดศีรษะ สั่น ตาพร่า หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดการติดยาและห้ามใช้ยาลดความอ้วนใน ผู้ป่วยที่มีประวัติเคยใช้ยาในทางที่ผิดหรือมีภาวะซึมเศร้า

แต่การใช้ยาลดความอ้วนช่วยในการลดน้ำหนักได้บ้างหากปฏิบัติอย่างถูกต้อง โดยออกกำลังกายลดอาหารอย่างเหมาะสมควบคู่กันไป ส่วนคนที่ใช้ยาลดความอ้วนแต่ไม่มีการปฏิบัติอย่างถูกต้องยังกินอาหารเหมือน เดิมไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อเผาผลาญพลังงานยาก็ใช้ไม่ได้ผล ทำให้หลายคนใช้วิธีเพิ่มปริมาณยามากขึ้นเพราะหวังว่าจะสามารถควบคุมน้ำหนัก ได้ซึ่งเมื่อใช้ยาเกินปริมาณก็จะทำให้เกิดอันตรายจากผลข้างเคียงของยา ประชาชนที่ซื้อยาลดความอ้วนรับประทานเอง จึงเป็นอันตรายมาก

ส่วนใหญ่คนที่ใช้ยาลดความอ้วน เมื่อวัดปริมาณค่าดัชนีมวลกายมักพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ความต้องการลดความอ้วนมักมาจากเกิดจากกระแสเลียนแบบดาราหรือต้องการทำตามเพื่อน

- การหาดัชนีมวลกาย

การหาดัชนีมวลกายทำได้ง่าย ๆ คือนำน้ำหนักตัวหน่วยเป็นกิโลกรัมหารด้วยส่วนสูงหน่วยเป็นเมตรยกกำลังสอง แล้วนำมาวัดค่ามาตรฐานสากล หากต่ำกว่า 20 หมายความว่าน้ำหนักตัวต่ำกว่ามาตรฐาน 20.0-24.9 หมายถึง น้ำหนักปกติสำหรับประเทศไทยอยู่ที่ 18.5-24.9 ค่า 25.0-29.9 หมายถึงน้ำหนักเกิน ค่า 30.0-39.9 หมายถึงโรคอ้วนมากกว่า 40 หมายความว่าโรคอ้วนรุนแรงการคำนวณวิธีนี้ ไม่ใช้กับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต สตรีมีครรภ์และนักกีฬา

- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

ลำดับแรกคงต้องเริ่มจากความมุ่งมั่นจากนั้นรับประทานอาหารให้น้อยลงวันละ 500 กิโลแคลอรี่ น้ำหนักตัวจะลดลงได้ประมาณ 0.45 กิโลต่อสัปดาห์ ถ้าปฏิบัติได้จริงในช่วง 10 เดือน จะลดได้ 18 ก.ก.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากมีผลต่อน้ำหนักตัวที่ลดลงแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง ความเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ ลดลง แนะนำให้ออกกำลังกายครั้งละ 20-30 นาที 5-7 วันต่อสัปดาห์

- พฤติกรรมการรับประทาน

เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น รับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้ช้าลง เคี้ยวอาหารให้นานขึ้นก่อนกลืนอาหาร จะทำให้รู้สึกอิ่ม จะบริโภคได้น้อยลง เป็นต้น ที่สำคัญต้องไม่ซื้อยารับประทานเอง เพราะอาจอันตรายถึงชีวิต

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 18:55
ปัญหาการลดน้ำหนักที่ไม่ได้ผล "มีสาเหตุ!!"
คุณผู้หญิงเคยสังสัยกันไหมว่าไม่ว่าจะมีสูตรลดน้ำหนักหรือเคล็ดลับลดความ อ้วนซักกี่วิธีก็ไม่ได้ช่วยในเรื่องของน้ำหนักตัวให้ลดลงเลยสักที เพราะปัญหาการลดน้ำหนักที่ไม่ได้ผลมี สาเหตุนะซิค่ะ และวันนี้เราก็จะคุณผู้หญิงมาไขปัญหาการลดน้ำหนักที่ไม่ได้ผลพร้อมกับบอกถึง สาเหตุที่น้ำหนักไม่ลดลงสักที เพื่อให้คุณผู้หญิงได้ลองนำปัญหาการลดน้ำหนักที่ไม่ได้ผลเหล่านั้นไปปรับใช้ กับตัวของคุณดูค่ะ และคุณผู้หญิงได้รู้ถึงสาเหตุการลดน้ำหนักที่แน่นอนของตัวคุณเองแล้ว ต่อไปเรื่องการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนก็จะไม่เป็นอุปสรรค์และง่ายขึ้นอีก ด้วยค่ะ

ปัญหาการลดน้ำหนักที่ไม่ได้ผล

- การกักเก็บน้ำ

ลองลดอาหารที่เป็นสาเหตุของการกับเก็บน้ำในร่างกายมากขึ้น เช่น เกลือ น้ำอัดลม ฯลฯ และหันมากินผลไม้อย่างแตงโม ส้ม ซึ่งจะช่วยลดการกักเก็บน้ำและขจัดน้ำในร่างกายได้มาก

- แพ้อาหาร

อาการแพ้อาหารอาจเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่อาจทำให้น้ำหนักตัวของคุณไม่ ขยับลง การแพ้อาหารที่ส่งผลต่อน้ำหนักที่พบกันมากที่สุด คือ การแพ้ข้าวสาลี เนื่องจากข้าวสาลีมีส่วนผสมของกลูเตนที่อาจรบกวนระบบการย่อย การแพ้ข้าวสาลีจึงทำให้มีปัญหาในการย่อยอาหารมีอาการท้องผูก ท้องอืด คลื่นไส้ เป็นตะคริวง่าย อารมณ์แปรปรวน และอยากอาหาร นอกจากนี้อาจเช็คอาการแพ้อย่างอื่นด้วยเพราะอาจส่งต่อน้ำหนักตัวและเกิด อาการบวมได้เช่นกัน

- พันธุกรรม

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า พันธุกรรมมีความสัมพันธ์กับการเป็นโรคอ้วนถึง 30-40% อย่างไรก็ตามถ้าคุณบังเอิญมียีนอ้วนก็ใช่จะหมดหวังว่าจะลดน้ำหนักไม่ได้ เพราะนักวิจัยชาวเยอรมันพบว่า คนที่ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง ก็อาจช่วยลดน้ำหนักได้

- การออกกำลังกายแบบเดิม ๆ

ร่างกายของเราสามารถปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรการออกกำลังกายที่คุณทำเป็น ประจำ โดยใช้พลังงานน้อยลง ดังนั้น การเปลี่ยนกิจวัตรการออกกำลังกายหรือลองออกกำลังแบบใหม่ ๆ จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นซึ่งจะช่วยเผาผลาญพลังงานของ ร่างกาย

- นอนไม่พอ

งานวิจัยหลายชิ้นพบความเชื่อมโยงระหว่างการนอนหลับกับฮอร์โมนที่มีอิทธิพล ต่อพฤติกรรมการกินของเรา ซึ่งได้แก่ ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ที่รับผิดชอบต่อความรู้สึกหิวและเลปติน (Leptin) ที่จะบอกสมองว่า เมื่อไหร่ควรจะหยุดกินแต่ถ้าคุณนอนไม่พอฮอร์โมนเกรลินจะเพิ่มขึ้น ขณะที่เลปตินจะลดลงผลก็คือความอยากเพิ่มขึ้นและไม่รู้สึกอิ่ม

คนส่วนใหญ่ต้องการนอนประมาณวันละ 7-9 ชั่วโมง บางคนนอนมาก บางคนนอนน้อย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่านอนแค่ไหนถึงจะพอ? ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ให้นอนนานที่สุดเท่าที่ต้องการติดต่อกันหลาย ๆ วัน จากนั้นการนอนของคุณจะคงที่ และคุณจะพบได้ว่า ตัวเองตื่นเองได้หลังจากนอนครบชั่วโมงที่ต้องการ (บวกลบ 15 นาที) เมื่อรู้ว่าตัวเองนอนเท่าไหร่ก็ทำเป็นกิจวัตรจะช่วยลดน้ำหนักได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก momypedia


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 18:56
ทํายังไงให้ผอม? เรามีคำตอบ!!
ใครมีคำถามที่ว่า ทํายังไงให้ผอม? วันนี้คุณจะได้เจอคำตอบก็ที่นี่แหละค่ะ และที่สำคัญสำหรับคำถาม ทํายังไงให้ผอม? นั้นเรามีวิธีลดน้ำหนักให้ได้ผลมาฝากคุณผู้หญิงทั้งหลายแล้วค่ะ โดยต่อไปคุณจะไม่ต้องกังวัลเรื่องความอ้วนอีกต่อไป และที่สำคัญคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวคุณอยาง ทํายังไงให้ผอม? นั้นคงจะไม่มากวนใจและดังก้องหูว่า ทำยังไงให้ผอม? ทำยังไงให้ผอม? ทำยังไงให้ผอม? อีกต่อไปแล้วล่ะค่ะนั้นเรามาดูวิธีลดน้ำหนักให้ได้ผลกันเลยค่ะ

ทํายังไงให้ผอม? วิธีลดน้ำหนักให้ได้ผล

1.ชั่งน้ำหนักทุกวัน จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ 12 ปอนด์ใน 2 ปี อันนี้เป็นผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ส่วนผู้ที่ชั่งสัปดาห์ละครั้งจะลดได้ครึ่งเดียวคือ 6 ปอนด์ (ใน 2 ปี) เหตุผลก็เพราะว่า การชั่งน้ำหนักจะทำให้เราทราบการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักและปรับพฤติกรรมการ กิน

2.ห้ามดูทีวีเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน ให้หากิจกรรมอื่นที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายแทน

3.กินอาหารที่มีเส้นใย 4 กรัมในทุกมื้ออาหารเหตุผลก็คือ อาหารที่มีไฟเบอร์หรือเส้นใยจะทำให้ร่างกายดูดซึมแคลอรีช้าลงโดยที่เราไม่ หิวหรือรู้สึกขาดแคลน

4.นอนให้เพียงพอ 7 ชั่วโมงต่อคืน ซึ่งเรื่องนี้เคยพูดกันมาหลายครั้งแล้วว่า การนอนไม่เพียงพอจะทำให้เราหิวกว่าปกติเนื่องจากระดับฮอร์โมนในการควบคุม ความหิวจะลดต่ำลง

5.ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว ข้อนี้ทราบกันดีว่าน้ำนอกจากช่วยขับถ่ายของเสียแล้วยังทำให้ประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารดีขึ้นถึง 30%

6.อย่าทำงานเกิน 9 ชั่วโมง การนั่งทำงานเป็นเวลานานนอกจากทำให้ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวแล้ว ยังก่อให้เกิดความเครียดซึ่งไปส่งผลกระทบโดยตรงต่อฮอร์โมนในร่างกาย

สุดท้ายลดการกินอาหารประเภทแป้งขัดขาว น้ำตาลฟอกขาว เพราะจะทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและร่างกายดูดซึมได้ เร็วและมาก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชน


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 18:58
"วิธีควบคุมน้ำหนัก "ให้คงที่"
วิธีควบคุมน้ำหนักอาจจะเป็นเรื่องยากของใครหลาย ๆ คน และยิ่ง การควบคุมน้ำหนักให้คงที่ ด้วยแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ยากกว่าสำหรับใครหลาย ๆ คนอีกเช่นเดียวกัน แต่วันนี้ วิธีควบคุมน้ำหนัก จะไม่เป็นเรื่องยากของคุณอีกต่อไปค่ะ เพราะเรามี วิธีควบคุมน้ำหนักให้คงที่ มาฝากกัน ซึ่ง วิธีควบคุมน้ำหนัก จะเป็นวิธีที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันของคุณได้ค่ะ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายใน การควบคุมน้ำหนัก แล้วที่สำคัญด้วย วิธีควบคุมน้ำหนัก นี้ยังจะช่วยคุณประหยัดเวลาของคุณได้ในแต่ล่ะวันกับการออกกำลังกายอีกด้วยนะ ค่ะ นั้นเรามาดู วิธีควบคุมน้ำหนัก "ให้คงที่" กันเลยดีกว่าค่ะ

วิธีควบคุมน้ำหนัก

1. เลือกทานผักผลไม้ให้มากเข้าไว้ หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงจากไขมัน

2. ลดอาหารที่ให้แคลอรีสูง เช่น ปาท่องโก๋ กล้วยทอด เนย รวมทั้งอาหารฟาสฟู้ดทั้งหลาย

3. ดื่มนมพร่องมันเนย แทนนมพร้อมดื่มแบบธรรมดาหรือชนิดหวาน

4. ลดการทานของหวานทุกชนิดหรือทานให้น้อยที่สุด

5. ลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกอย่าง

6. ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยวันละ 30 นาที หรืออาทิตย์ละ 3 ครั้ง

7. หากระยะทางไม่ไกลมากก็ให้ใช้การเดินแทนการนั่งรถ

8. ใช้บันไดแทนลิฟท์เพื่อเป็นการออกกำลังไปในตัว

9. หากิจกรรมเบา ๆ ทำต่อเนื่องในแต่ละวัน เช่น ทำงานบ้าน เล่นกับลูก ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก woman's

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 18:59
วิธีลดแคลอรี่ไฟเบอร์ลดความอ้วน "ช่วยน้ำหนักลดอย่างง่ายดาย"
ไฟเบอร์ลดความอ้วนและช่วยน้ำหนักลดอย่างง่ายดายพอได้ยิน แบบนี้แล้วคุณผู้หญิงคงต้องรับประทานไฟเบอร์กันเยอะ ๆ แล้วล่ะค่ะ ไฟเบอร์ลดความอ้วน ได้อย่างไรวันนี้เราจึงพาคุณผู้หญิงมาทำความรู้จักกับเจ้า ไฟเบอร์ลดความอ้วน ด้วยนะค่ะ ก่อนที่คุณผู้หญิงจะเริ่มทำการรับประทานเจ้าไฟเบอร์ก็ต้องมาทำความรู้จักกัน ซะก่อนเพื่อดูว่า ไฟเบอร์ลดความอ้วน ได้จริงอะเปล่า อยากรู้มาดูกันต่อเลยดีกว่าค่ะ

ไฟเบอร์ หรือ เส้นใยอาหาร คือ ส่วนของโครงสร้างของพืช เช่น กิ่ง ก้าน เมล็ด เป็นส่วนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้มีอีกชื่อหนึ่งว่าเซลลูโลส ซึ่งมี 2 ชนิดคือ ไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้และไฟเบอร์ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ

เมื่อรับประทานไฟเบอร์ซึ่งเป็นสารที่ไม่ให้พลังงานเข้าไปในร่างกายมันจะเข้า ไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็วและอิ่มได้นานช่วยลดความอยากอาหารลงไป และสามารถลดพลังงานที่จะได้รับจากอาหารได้จึงส่งผลให้ลดน้ำหนักได้

ไฟเบอร์ลดความอ้วน

1. ไฟเบอร์ช่วยให้อาหารเดินทางเร็วขึ้นและมีเวลาอยู่ในระบบทางเดินอาหารสั้นลงจึงช่วยลดการดูดซึม

2. ไฟเบอร์ไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหารทำให้ลดความอยากอาหารและรับประทาน อาหารได้น้อยลง หากใช้ร่วมกับการควบคุมชนิดและปริมาณอาหารและออกกำลังกายร่วมด้วยจะยิ่งให้ ผลดีในการลดน้ำหนัก

3. จากหลาย ๆ การทดลองพบว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีไฟเบอร์ อย่างน้อย 2 กรัมขึ้นไปช่วยให้น้ำหนักลดลงได้

ใครที่รู้ตัวว่าอ้วนและอยากลดความอ้วนลองหันมาทานอาหารจำพวกไฟเบอร์ดูกันดีกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 19:05
“อยากหุ่นเพรียว "เลือกกินอาหารตามรูปร่างซิค่ะ”
หากอยากหุ่นเพรียวขึ้นอยู่การเลือกกินอาหารตามรูปร่างด้วย นะค่ะขอบอก เพราะจริง ๆ แล้ววันนี้เราจะเอาใจคุณผู้หญิงที่ อยากหุ่นเพรียว ให้ลองได้กินอาหารตามรูปร่างของคุณ มาดูกันซิว่ารูปร่างแบบไหนควรจะกินอาหารแบบใดและประเภทใดบ้าง สำหรับคนที่ อยากหุ่นเพรียว ต้องฟังเอาไว้เลยนะค่ะ  
อยากหุ่นเพรียว

- คนผอม : ควรทานให้ครบ 5 หมู่ และแบ่งมื้ออาหารเป็น 4-5 มื้อ เน้นอาหารที่ย่อยง่ายและให้พลังงานสูงแต่ไขมันปานกลาง เช่น ข้าวกล้องผสมข้าวขาว เนื้อปลา

- คนผอมและมีกล้ามเนื้อ : ควรเน้นโปรตีนจากเนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมันธัญพืชต่าง ๆ และกระตุ้นการดูดซึมสารอาหาร ด้วยจมูกข้าว ส้ม แอปเปิ้ลเขียว เป็นต้น

- คนมีกล้ามเนื้อมาก : ควร ทานอาหารโปรตีนจากเนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดหนัง สันในหมูและเนื้อวัว ไข่ ควรมีผักผลไม้ทุกมื้อ และนมไขมันต่ำไฮแคลเซียมเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ

- หุ่นมาตรฐาน : ต้อง รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ มีความหลากหลาย ไม่ทานซ้ำ ๆ เพื่อลดการสะสมของสารตกค้าง เลือกทานข้าวที่ผ่านการขัดสีน้อยนอนหลับอย่างเพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง

- หุ่นมาตรฐานและมีกล้ามเนื้อ : ควรทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ธัญพืช ข้าวซ้อมมือ ปลา ไก่ไม่ติดหนัง หรือมังสวิรัติสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

- คนออกกําลังกายน้อย : ควร ทานอาหารไขมันต่ำแต่มีโปรตีนสูงในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ ไก่ไม่ติดหนัง ปลา ไข่ และนมไขมันต่ำเป็นประจําทุกเช้า คนลักษณะนี้มีโอกาสอ้วนได้ง่ายจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง

- คนอ้วนซ่อนรูป : ควร รับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผักผลไม้ ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท โปรตีนจากเต้าหู้ หรือเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ระหว่างวันให้ทานถั่วเป็นอาหารว่างไม่เกิน 20 เม็ด/วัน (ยกเว้นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไม่ควรทาน) เพื่อกระตุ้นร่างกายให้มีการเผาผลาญมากขึ้น เลี่ยงอาหารรสเค็มและหวานจัดที่ทําให้เกิดการบวมน้ำ

- คนอ้วน : ควรทานอาหารไขมันต่ำ เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง เนื้อปลา เต้าหู้ น้ำพริกผักลวก ก๋วยเตี๋ยวน้ำ แกงจืด แกงส้ม ต้มยํา ยําต่าง ๆ ส่วนผลไม้เน้นที่มีน้ำเยอะไม่หวานมาก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการทานอาหารเช้าทุกวันและลดปริมาณอาหารแต่ละมื้อ ลงอาจดื่มน้ำก่อนและเคี้ยวให้ช้าลง

- คนอ้วนร่างใหญ่ : ควรทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญประเภทธัญพืช ถั่ว ผักที่มีสีเข้ม เช่น บล็อกโคลี่ กะหล่ำปลีม่วง บีทรูท คะน้า ผักโขม แครอท หรือพืชตระกูลเบอรี่ เช่น ราสเบอรี่ สตรอเบอรี่ อาหารเส้นใยสูง เช่น ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท เส้นบุก รวมทั้งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไขมันต่ำและย่อยง่าย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก daradaily

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 19:10
รู้จัก "เมตาบอลิซึม" ช่วย "ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว" ได้!!
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเมตาบอลิซึมตัวช่วยที่จะทำให้ ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ได้ เมตาบอลิซึม คือ ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย นั่นเองค่ะ หากคุณอยากจะลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วก็ต้องให้ เมตาบอลิซึม ช่วยกันแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าจะมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้เมตาบอลิซึมทำงานดีล่ะ วันนี้เรามีวิธีมากบอกด้วยค่ะ อยากหุ่นดีหุ่นสวยก็ต้องฟังไว้นะค่ะแล้วคุณจะสามารถลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ได้อย่างไม่น่าเชื่อกันเลยทีเดียวค่ะ

เมตาบอลิซึม

เพราะระบบเมตาบอลิซึมทำงานได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ พวกเธอกินตามใจปากได้โดยเข็มตาชั่งแทบไม่กระดิกขึ้นสักขีด เมื่ออายุมากขึ้นผู้หญิงส่วนใหญ่จะรู้ตัวดีว่า หากขืนกินไม่บันยะบันยังเอวจะหนาเตอะกลายเป็นห่วงยาง ถึงเวลาที่จะเลิกกังวลใจได้แล้วเพราะเรามี 3 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มอัตราเร่งการเผาผลาญแคลอรีภายในร่างกาย ซึ่งจะทำให้หุ่นของคุณเพรียวกระชับดูดีได้ทันตาเห็น

1. ยกลูกเหล็ก

เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยการเผาผลาญอย่างได้ผลเยี่ยม การยกลูกเหล็กจะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ถึง 2 ใน 3 ส่วน อาหารที่คุณกินเข้าไปจะกลายไปเป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ในการทำหน้าที่ ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่การหายใจหรือกะพริบตา ยิ่งคุณทำบ่อยครั้งมากเท่าไหร่ระบบการเผาผลาญของคุณก็จะยิ่งทำงานได้รวดเร็ว และดีมากขึ้นตามไปด้วย

- ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

การออกกำลังที่กล้ามเนื้อแขน ขา หลัง ไหล่ หน้าท้อง ขณะที่คุณนั่งทำงานหรือนั่งรถ โดยการนั่งหลังตรงแล้วก้มตัวลงให้มือแตะเท้าเกร็งกล้ามเนื้อท้องไว้ จากนั้นยืดตัวขึ้นมานั่งหลังตรงใช้มือทั้งสองข้างจับที่หลังบริเวณเอวออกแรง กดหลังพร้อมกับแอ่นตัวและแหงนหน้าขึ้น ทำแบบนี้สลับกันไปจนครบ 10 นาที หรืออาจใช้วิธีหมุนหัวไหล่และยืดกล้ามเนื้อคอบ้างขณะที่นั่งทำงานอยู่หน้าจอ คอมพิวเตอร์

- ทานเของเผ็ด

เติมพริกสดหรือพริกไทยลงในอาหารไม่ว่าจะผัดหรือทอด จากรายงานการศึกษาของมหาวิทยาลัยลาวาลในแคนนาดา (Laval University) พบว่าเครื่องปรุงรสเผ็ดเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างพลังงานการเผาผลาญ สารที่พบในพริกไทยช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนซึ่งเร่งระบบ เมตาบอลิซึมให้ทำงานเร็วขึ้นและปริมาณแคลอรีก็จะถูกเผาผลาญเพิ่มมากขึ้น

- เสริมสร้างต่อมไทรอยด์

"พลังงานเมตาบอลลิซึมที่ต่ำอาจมีสาเหตุมาจากต่อมไทรอยด์ที่ทำหน้าที่ควบคุม การเผาผลาญพลังงานมีประสิทธิภาพด้อยลง" มาริลีน เกรนวิลล์ ผู้เชี่ยวชาญกล่าว ส่งผลให้พลังงานเมตาบอลลิซึมของคุณลดลง 3 เท่า ปัญหาต่อมไทรอยด์ผิดปกติมักพบมากในผู้หญิงที่มีอายุเกิน 40 ปี ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เพื่อให้ตรวจหาความผิดปกติดังกล่าว วิธีทำให้ต่อมไทรอยด์แข็งแรงคือทานอาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่น ปลา ธัญพืช นม ลดอาหารที่มีสารกอยโทรเจน (goitrogens) ซึ่งมีผลเสียต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะอาหารจำพวกกะหล่ำปลี หัวผักกาด จะมีสารดังกล่าวอยู่มาก ควรรับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินบีคอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อต่อมไทรอยด์

2. เคลื่อนไหวร่างกาย

จัดสรรเวลาช่วงเช้าก่อนเริ่มกิจวัตรประจำวันปกติของคุณสัก 10 นาที ออกมาขยับแข้งขยับขานอกบ้านหรือจะทำในบ้านก็ได้ โดยเริ่มการยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อน แล้วเริ่มเดินหรือวิ่งระยะสั้น ๆ คุณอาจออกกำลังด้วยการขี่จักรยานอาจขี่ต่อเนื่องกัน 30 นาที เวลาขับรถไปซื้อของก็ให้จอดรถให้ห่างจากร้านค้า เพื่อคุณจะได้เดินไปได้เป็นเวลา 10 นาที หรือจะออกกำลังกายด้วยการทำงานบ้าน การให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวจะช่วยเพิ่มอัตราความเร็วในการเผาผลาญแคลอรี

- วิ่งหรือเดินเร็ว ๆ

การเคลื่อนไหวร่างกายด้วยความรวดเร็วเป็นหนึ่งในวิธีการที่ช่วยเผาผลาญ แคลอรีได้ดีที่สุด ลองใช้วิธีเดินเร็ว ๆ สลับกับการเดินจ๊อกกิ้งสั้น ๆ ทุก 2-3 นาที วิธีการเดินเร็ว ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในที่ทำงานได้โดยเลือกช่วงเวลาว่างสั้น ๆ เช่น เวลาก่อนพักทานอาหารกลางวันหรือจะทำหลังเลิกงานก็ได้เดินเร็ว ๆ สัก 10 นาที การออกกำลังกายที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นในระหว่าง 55-85 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดจะมีผลทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 19:11
- ดื่มชาสักถ้วย
การดื่มเครื่องดื่มที่ปริมาณคาเฟอีนเล็กน้อยก่อนออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้น การทำงานของระบบเมตาอบลิซึมให้มีประสิทธิภาพดี จากการศึกษาของ The American Journal Clinical Nutrition พบว่าชาเขียวเป็นเครื่องดื่มชั้นยอดที่มีสารเคทซิน โพลีฟีนอลล์ (catechin polyphenols) ซึ่งช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรี

- งดเว้นอาหารที่พลังงานสูง

หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตขัดขาวจำพวกแป้งอย่างขนมปังและอาหารที่มีน้ำตาล เพราะอาหารเหล่านี้ให้พลังงานที่จะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลในร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายเกิดความเฉื่อยชา ผลคือคุณพอใจที่จะนั่งจุ้มปุ๊กกินขนมอยู่บนโซฟามากกว่าจะลุกขึ้นไปออกกำลัง กายในโรงยิม

3. ทานอาหารที่มีประโยชน์

การกินอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยกระตุ้นให้ระบบเมตาบอลิซึมทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพและสารอาหารที่ได้จากการย่อยจะถูกร่างกายดูดซึมไปใช้เนื่องจาก ระบบย่อยอาหารของคุณสามารถเผาผลาญแคลอรีได้ในระยะเวลาอันสั้น การรู้จักเลือกบริโภคอย่างชาญฉลาดทุกวันจะทำให้คุณสนุกกับการกินโดยไม่ต้อง กลัวอ้วน

- เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการกินอย่างถูกวิธี

อาหารเช้าสำคัญที่สุดถ้าคุณไม่ทานอะไรเลยหลังจากปล่อยให้ท้องว่างมาตลอดคืน บ่อยเข้าร่างก่ายคุณก็จะเคยชินและปรับตัวให้เข้ากับภาวะอดอาหารนั้น ด้วยการเผาผลาญพลังงานให้ช้าลงเพื่อเก็บสะสมไขมันอาหารเช้าที่ดีที่สุดต้อง ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตคอมเพล็กซ์และโปรตีน เพราะสารอาหารทั้งสองชนิดนี้จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม

- ทานน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง

การทานอาหารมื้อละน้อย ๆ แต่ทานถี่ ๆ วันละ 5-6 มื้อ จะช่วยให้ระบบเมตาบอลิซึมของคุณทำงานได้อย่างต่อเนื่องซึ่งดีกว่าการทิ้ง ช่วงระยะเวลาทานอาหารแต่ละมื้อให้ห่างกัน และเพื่อให้ระบบเมตาบอลิซึมของคุณมีประสิทธิภาพต้องแน่ใจว่าอาหารทุกมื้อที่ ทานประกอบด้วยสารอาหารประเภทโปรตีน

- ดื่มมาก ๆ

ระบบย่อยอาหารต้องอาศัยน้ำช่วยในการลำเลียงอาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร ข้อดีอีกประการคือน้ำทำให้คุณรู้สึกอิ่มจึงรับประทานอาหารได้น้อยลง

- รับประทานอาหารที่มีใยอาหาร

ผัก ผลไม้สด และธัญพืชช่วยเพิ่มอัตราเร่งในการเผาผลาญพลังงาน จึงควรรับประทานทุกวันรวมถึงเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวซ้อมมือ ข้าวไรย์ และข้าวบาร์เลย์ในปริมาณมากๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health Plus
โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 19:12
วิธีลดแคลอรี่ "ลดอ้วน"
วันนี้พาคุณผู้หญิงมารู้จักกับวิธีลดแคลอรี่เพื่อที่จะ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดความอ้วนและลดน้ำหนัก แล้วด้วย วิธีลดแคลอรี่ นี้คุณจะสามารถลดแคลอรี่ได้ 100 แคลอรี่ต่อวัน เชียวนะ พูดแค่นี้ก็คงจะอยากรู้ วิธีลดแคลอรี่ กันแล้วใช่ไหมล่ะค่ะว่าต้องทำอย่างไรกันบ้างถึงจะสามารถลดแคลอรี่ได้ตั้ง 100 แคลอรี่แน่ะ นั้นเรามาเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า วิธีลดแคลอรี่ กันก่อนเพื่อปูทางไปสู่ความผอมเพรียวได้อย่างง่าย ๆ ที่ใครก็ต้องอิจฉาเพื่อเราหุ่นดีขึ้น นั้นมาดู วิธีลดแคลอรี่ "ลดอ้วน" กันเลยค่ะ

10 วิธีลดแคลอรี่ "ลดอ้วน"

1. เวลาจะเจียวไข่ให้ใส่ผักสด เช่น หัวหอม มะเขือเทศ เห็ดสดลงไปด้วย และใช้วิธีทอดด้วยน้ำแทนจะทำให้อิ่มท้องเร็วขึ้น และน้ำมันที่ตัดออกไปก็คือการกำจัดไขมันที่จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรง

2. เปลี่ยนจากทานข้าวขาวมาทานข้าวกล้อง และเปลี่ยนจากขนมปังขาวธรรมดามาทานขนมปังโฮลวีตแทน เส้นใยในข้าวกล้องและขนมปังโฮลวีตจะช่วยเรื่องขับถ่ายทำให้น้ำหนักลดลงได้

3. เลิกทานขนมปังพร้อมเนย จะช่วยกำจัดปริมาณแคลอรี่ได้ถึง 75 กิโลแคลอรี่ ต่อขนมปัง 1 แผ่น

4. ทานข้าวน้อยลง 1 ทัพพีสามารถลดได้ 80 แคลอรี่ ทำทั้ง 3 มื้อกำจัดไป 240 แคลอรี่

5. เปลี่ยนขนาดแก้วที่ใส่น้ำผลไม้ให้เล็กลง หรือถ้าดื่มจากกล่องก็ลดขนาดจากกล่อง 250 ซีซี มาเป็น 200 ซีซี แทน

6. เวลาจะเติมน้ำตาลในชาหรือกาแฟ ให้เปลี่ยนมาใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลสามารถลดได้ 32 แคลอรี่

7. ใช้นมพร่องมันเนย แทนครีมเทียม

8. เวลาทานสลัดผัก ลดปริมาณน้ำสลัดลง 1 ช้อนโต๊ะ จะลดแคลอรี่ได้ 60 แคลอรี่ ถ้าลดปริมาณน้ำสลัดแบบน้ำใสลง 1 ช้อนโต๊ะ จะกำจัดไปได้อีก 45 แคลอรี่

9. ทานอาหารเช้าที่ให้พลังงานต่ำ เช่น แกงจืดผักใส่เต้าหู้หรือผัดผักใส่เนื้อสัตว์ไม่ติดมันและอาหารใน 1 มื้ออนุญาตให้มีอาหารประเภททอดหรือผัดได้เพียง 1 อย่างเท่านั้น

10. ถ้าใส่น้ำตาลเพียงครึ่งซอง หรือลดปริมาณน้ำตาลจาก 2 ช้อนชา (2 ก้อน) เป็น 1 ช้อนชา (1 ก้อน) จะลดได้ 15 แคลอรี่

รู้อย่างนี้แล้วถ้าไม่อยากให้แคลอรี่เกินมาตรฐานและอยากลดน้ำหนักได้สมใจก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-29 19:13
อาหารลดคอเลสเตอรอล "ลดอ้วน"
อาหารลดคอเลสเตอรอลย่อมต้องลดความอ้วนอย่างแน่นอนค่ะ ณ ปัจจุบันนี้สภาวะการแข่งขันในการทำงานและการเร่งรีบในแต่ละวันทำให้หลาย ๆ คนนั้นไม่เลือกการซื้ออาหารมารับประทานเน้นสะดวกไว้ก่อนเป็นดีที่สุด คุณจึงได้รับอาหารส่วนใหญ่ที่มาจากแป้ง น้ำตาลและไขมันเป็นหลังทำให้คุณนั้นอ้วนและน้ำหนักขึ้นค่ะ ฉะนั้นวันนี้เราจึงขอแนะนำในการเลือก อาหารลดคอเลสเตอรอล ให้มากขึ้นเพื่อให้คุณนั้นมีน้ำหนักที่ลดลงได้อย่างที่คุณต้องการค่ะ หากคุณได้ลองเลือก อาหารลดคอเลสเตอรอล กันซักนิดหยุดคิดก่อนซื้อสักหน่อยคุณก็สามารถที่กลับมาหุ่นดีได้อย่างง่าย ดายค่ะ ไม่เชื่อต้องลองดูกับ อาหารลดคอเลสเตอรอล "ลดอ้วน" ค่ะ

น่ารู้! อาหารลดคอเลสเตอรอล "ลดอ้วน"

1. อาหารกลุ่มข้าวและแป้ง ต้องทานให้พอดีไม่ควรงดรับประทานเลยเพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงส่งผลให้ ร่างกายเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ สำหรับข้าวและแป้งที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักควรให้เลือกที่ ผ่านการขัดสีน้อย เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ธัญพืช เพราะจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายช้า ๆ

2. อาหารกลุ่มโปรตีนหรือเนื้อสัตว์ เลือกที่ไม่ติดหนัง ติดมัน หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น แฮม ไส้กรอก กุนเชียง เพราะให้พลังงานสูงและมีไขมันซ่อนอยู่มาก

3. นม เลือกรสจืดไขมันต่ำ หากเป็น โยเกิร์ต แนะนำรสธรรมชาติหากต้องการมีรสชาติก็ให้เติมผลไม้สด

4. อาหารกลุ่มไขมัน ไขมันยังมีความจำเป็นต่อร่างกายเพื่อใช้ในการละลายวิตามินบางตัว แนะนำให้เลือกไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว ยกเว้นน้ำมันปาล์ม กะทิจากมะพร้าวและการปรุงประกอบอาหารแนะนำให้ใช้วิธีอบ ต้ม นึ่ง ตุ๋น ย่าง ผัด แทนการทอดด้วยน้ำมันมาก ๆ

5. อาหารให้เส้นใยสูง ได้จากผักและผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง (ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ) เป็นส่วนใหญ่ เพราะเส้นใยโดยเฉพาะชนิดที่ละลายน้ำ เช่น เพกตินในแอปเปิ้ล สตรอว์เบอร์รี่ ข้าวโอ๊ต จะมีเมือกมาก เมือกจะทำหน้าที่เกาะคอเลสเตอรอลแล้วขับออกจากร่างกาย สำหรับเส้นใยชนิดไม่ละลายน้ำเป็นยาระบายตามธรรมชาติป้องกันท้องผูก

6. เลือกทานอาหารที่มีพลังงานต่ำ เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต รสธรรมชาติ

7. ฝึกวางแผนการรับประทานอาหาร หากต้องไปงานเลี้ยงโดยในวันนั้นก่อนไปงานเลี้ยงต้องเลือกทานอาหารไขมันต่ำเส้นใยสูงไว้ก่อน

8. มีการดัดแปลงอาหารให้เป็นอาหารพลังงานต่ำ เช่น น้ำสลัด พบว่าน้ำสลัดมีน้ำมันพืชเป็นส่วนประกอบ หากมีการดัดแปลงจากน้ำสลัดมาเป็นน้ำยำก็จะทำให้ได้อาหารที่มีไขมันต่ำ

9. ถ้ายังงดดื่มชา กาแฟไม่ได้ เวลาชงดื่มอย่าใส่น้ำตาลหรือครีมเทียม

10. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:43
อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร? "มีเคล็ดลับมาบอก!!!"
มีคำถามจากกลุ่มผู้หญิงทั้งหลายว่าอยากหุ่นดีต้องทําอย่างไรวันนี้ เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณขจัดคำถามที่ว่า อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร ออกไปจากใจคุณได้ค่ะ เราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนนั้นอยากจะมีหุ่นดีน้ำหนักน้อยด้วยกันทั้งนั้น แล้วเราจะมีวิธีจัดการกับปัญหาที่ว่า อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร นั้นเรามาดูเคล็ดลับกันเลยดีกว่าค่ะ


อยากหุ่นดีต้องทําอย่างไร?

น้ำหนักส่วนเกินลดยังไงก็ไม่ลง นอกจากการควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วยังมีวิธีที่สามที่ช่วยต่อกรกับ ไขมันนั่นก็คือ "สู้ด้วยจิตใจ" กลอเรีย โทมัส ที่ปรึกษาด้านฟิตเนสบอก

ในทางทฤษฏีการลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยาก การกินอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนแต่พอประมาณออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเสริม สร้างกล้ามเนื้อและสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ แต่ดูเหมือนความเบื่อหน่าย ความเครียด และอารมณ์ที่สับสนทำให้คุณอดใจไม่ไหวหยิบไอศกรีมดับเบิ้ลช็อกชิปใส่ปาก อันเดียวไม่พอเผลอ ๆ ถึงสอง อาหารกับความรู้สึกเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นตามหลักเหตุผลแล้ว หากคุณต้องการกำจัดน้ำหนักส่วนเกินแล้วคุณต้องเอาชนะความอยากกินให้ได้

1.รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง

การทำความรู้จักพฤติกรรมการลดน้ำหนักของตัวเองถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีจงทำเครื่องหมายหน้าข้อความต่อไปนี้ที่ตรงกับคุณ

- ฉันลงมือควบคุมอาหารวันจันทร์พอวันพุธทุกอย่างก็กลับสู่อีหรอบเดิม
- กินช็อกโกแลตทั้งทีอันเดียวไม่พอหรอกอย่างฉันต้องครึ่งกล่อง
- ฉันลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ลงสักที
- เครื่องชั่งน้ำหนักที่อยู่ในห้องน้ำเป็นสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้
- อาหารเป็นชีวิตจิตใจของฉัน
- ฉันต้องคอยควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักอยู่เป็นประจำ
- ฉันกินจุมาก
- ฉันติดอาหารบางอย่างงอมแงม ต้องกิน ขาดไม่ได้
- ฉันชอบกินตามใจปากตัวเอง
- ฉันกินได้เรื่อย ๆ ทั้งวัน
- ฉันไม่มีเวลาออกกำลังกาย
- ฉันไม่สนว่าอาหารชนิดไหนที่ควรระมัดระวัง
- ฉันลดน้ำหนักมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนน้ำหนักยิ่งเพิ่ม
- เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ฉันกินน้อย แต่พอกลับบ้าน กินไม่ยั้ง
- ฉันมักกินอาหารที่ลูกๆ กินเหลือทิ้งไว้
- กินให้อิ่ม อย่าให้เหลือ นี่คือสิ่งที่ฉันยึดถือ
- ฉันหลอกตัวเองเป็นประจำว่าอาหารที่กินไม่ทำให้อ้วน
- ฉันจะกิน ๆ เวลารู้สึกหดหู่หรือเครียด

สิ่งที่ควรทำ

มีเหตุผลมากมายที่ทำให้แผนควบคุมน้ำหนักของคุณล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นเพราะเบื่องานที่ทำหรือกินเพราะต้องการดับความเครียด ซึ่งวิธีต่อไปนี้จะช่วยหยุดความล้มเหลวดังกล่าวได้ เริ่มจากประเมินสิ่งที่คุณทำมาก่อนหน้านี้โดยการทำเครื่องหมายหน้าแบบสอบถาม ที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อหาสาเหตุของความล้มเหลว เขียนสิ่งที่คุณพยายามทำก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมน้ำหนักโดยแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อ หัวข้อแรกคือ "สิ่งที่ทำสำเร็จ" และ "สิ่งที่ทำไม่สำเร็จ" นึกถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายหลังการลดน้ำหนักล้มเหลว โดยคิดถึงผลในระยะสั้นและผลในระยะยาว จากนั้นไปที่ขั้นตอนที่ 2


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:43
2.ความมุ่งมั่นตั้งใจ? ลืมมันไปซะ!

การบอกกับตัวเองว่าอย่ากินนั่นกินนี่วิธีนี้ไมได้ผล เพื่อหยุดตามใจปากคุณต้องสร้างความสำนึกให้เกิดกับจิตส่วนลึกของคุณก่อน

- หยุดตำหนิตัวเองที่เผลอไปกินเอแคลช็อกโกแลตเข้าความมุ่งมั่นตั้งใจหามี ประโยชน์ไม่ในเวลาที่คุณกำลังลดน้ำหนัก นั่นเพราะไม่ว่าคุณจะบอกกับจิตสำนึกของคุณมากแค่ไหนคุณต้องทำให้จิตใต้สำนึก เกิดความมุ่งมั่นเสียก่อน สมองของคุณตอบสนองต่อคำแนะนำที่คุณบอกแต่จะลบคำปฏิเสธทิ้ง ดังนั้นถึงคุณจะบอกกับตัวเองว่า "ฉันต้องไม่กินขนมพุดดิ้งชิ้นนั้นเพิ่มอีก ฉันต้องไม่กินอีกเป็นอันขาด" คุณรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ลบคำว่า "ไม่" ออกแล้วคุณจะได้คำตอบ จะเห็นว่าความมุ่งมั่นตั้งใจไม่สามารถครอบงำจิตใต้สำนึก

สิ่งที่ควรทำ

พิจารณาชีวิตแต่ละด้านของคุณมีด้านใดบ้างที่ความมุ่งมั่นตั้งใจให้ผลกับคุณ เกิดอะไรขึ้นเวลาที่คุณต้องการจำกัดอาหารบางอย่าง คุณสามารถปฏิเสธขนมขบเคี้ยวในงานปาร์ตี้หรือยอมทิ้งอาหารในจานเพราะอิ่มแปล้ ได้หรือไม่ จงซื่อสัตย์กับตัวเองด้วยการเขียนคำตอบที่แท้จริงลงไป คุณอาจพบว่าความมุ่งมั่นตั้งใจช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เวลาคุณอยากกินอาหารมาก ๆ ถึงเวลาที่คุณน่าจะมองหาวิธีอื่นที่มีประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่า

3.สังเกตนิสัยที่ไม่ดี

ประสบการณ์การกินในวัยเด็กมีอิทธิพลต่อการเลือกกินในตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นจงระมัดระวังเรื่องอาหารการกินของคุณให้ดี

- รูปแบบการกินอาหารของเรามักได้รับอิทธิพลมาจากพ่อแม่และคนรอบข้าง ถ้าคุณถูกเลี้ยงให้โตมากับการกินเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอดกรอบย่อมอาจทำให้ คุณชอบกินอาหารประเภทนี้เมื่อโตขึ้น ถ้าคุณถูกเลี้ยงให้โตมากับการกินผักที่ปลูกเองในบ้านก็ย่อมทำให้คุณมีแนว โน้มกินผักไปตลอดชีวิต การกินอาหารพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวอาจเป็นช่วงเวลาสบาย ๆ ผ่อนคลายหรืออาจเป็นเวลาของการมีปากเสียงซึ่งพบได้บ่อยตอนคุณเป็นเด็ก เวลากินข้าวหมดจานคุณจะได้ขนมเป็นรางวัลหรือถูกไล่ให้ไปนอนโดยไม่มีข้าวตก ถึงท้องเวลาดื้อ เมื่อเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงเพราะคุณโตเป็นผู้ใหญ่คุณก็มักพยายามทำ อะไรที่ตรงข้ามกับประสบการณ์ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ

สิ่งที่ควรทำ

ตรวจสอบนิสัยการกินภายในจิตใต้สำนึกของคุณคุณเป็นคนประเภทไหน กินอะไรไม่ระวัง หรือกินจนเกลี้ยงจานไม่เหลือซักเม็ด ถึงแม้จะกินอิ่มแล้วก็ตาม คุณอาจขอให้แฟนญาติพี่น้องหรือเพื่อนคอยเตือนสติคุณ เวลาคุณใช้จิตใต้สำนึกเป็นตัวตัดสินใจเรื่องการกิน เช่น การหยิบคุกกี้ในกระป๋องมากกินโดยไม่คิด


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:44
4.ใช้จินตนาการ

ใช้ประโยชน์จากจิตใต้สำนึกของคุณและค่อย ๆ นำการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ชีวิตประจำวัน

- เวลาที่คุณรู้สึกสงบผ่อนคลายอย่างเต็มที่จิตใต้สำนึกมีความสำคัญ ดังนั้นจงเปิดรับการเปลี่ยนแปลงและคุณสามารถบงการจิตใต้สำนึกให้ทำตามฝันและ แรงบันดาลใจของคุณได้ การฝึกทำสมาธิเป็นประจำจะช่วยให้คุณทำจิตใจให้สงบเยือกเย็นได้ไม่ยาก ในข้อเท็จจริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติอย่างการฝันกลางวันหรือช่วงเวลาก่อนนอนหรือหลังตื่น นอนถือเป็นช่วงที่จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย

สิ่งที่ควรทำ

นั่งในท่าสบาย ๆ บอกกล้ามเนื้อแต่ละส่วนให้ผ่อนคลายกระทั่งกล้ามเนื้อแต่ละส่วนรู้สึกหนัก จินตนาการว่าตัวคุณนั่งอยู่ชั้นบนสุดของบันไดนับถอยหลังจาก 20 ลงไป หายใจเข้าลึก ๆ ระหว่างถัดบันได้ลงมาแต่ละขั้นจนถึงขั้นสุดท้าย กำหนดสมาธิไปที่ลมหายใจเข้าออกกระทั่งจิตใจสงบผ่อนคลายอย่างเต็มที่ คราวนี้ให้เลือกข้อความจากแบบสอบถามที่คุณทำเครื่องหมายไว้ขึ้นมา 1 หัวข้อ คุณอยากจินตนาการอย่างไร ตัวอย่างเช่น "ฉันลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ลงสักที" ให้บอกกับตัวเองแทนว่า "ฉันลดน้ำหนักได้ตามที่ต้องการ" หลับตาลงพร้อมนำข้อความนี้มาจินตนาการเป็นภาพนึกภาพตัวคุณเองในแบบที่คุณ อยากเป็น คุณเห็นตัวเองลดน้ำหนักได้สำเร็จเติมรายละเอียดต่าง ๆ สีสันเสียง และความรู้สึกให้กับภาพในจินตนาการของคุณดื่มด่ำความสุขกับภาพบวกนี้ตราบ เท่าที่คุณต้องการจากนั้นลืมตาขึ้น

5.เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง

มอบความรักให้ร่างกายของคุณพุ่งเป้าที่จะทำให้หุ่นดีและร่างกายแข็งแรงโดยการตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง

- คนส่วนใหญ่ลดน้ำหนักไม่ได้ผลเพราะอยากมีหุ่นดีในแบบที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณมีหุ่นตัน ลำตัวหนา การควบคุมอาหาร วิ่ง ว่ายน้ำ หรือไม่ว่าจะวิธีใดในโลกนี้ก็ไม่อาจทำให้รูปร่างของคุณเหมือนนางแบบ แอล แมคเฟอร์สัน ไปได้ ยิ่งคุณพยายามจะเป็นมากเท่าไรโอกาสที่จะลดน้ำหนักให้ได้ตามเป้าหมายก็มีน้อย เท่านั้น น้ำหนักมีความสัมพันธ์กับภาพลักษณ์และเมื่อคุณยอมรับรูปร่างตามธรรมชาติของ คุณคุณก็สามารถทำให้ตัวเองดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

สิ่งที่ควรทำ

ใช้เวลา 5 นาทีในตอนเช้ากล่าวย้ำข้อความที่เป็นบวกกับตัวเอง เช่น "ฉันชอบหุ่นตัวเอง" หรือ "ฉันดีใจที่น้ำหนักลดลงใกล้เคียงกับที่ฉันตั้งใจไว้" การทำเช่นนี้อาจทำให้คุณรู้สึกแปลก ๆ ในตอนต้น แต่หลังจากนั้นสักพักคุณจะเชื่อในสิ่งที่คุณบอกกับตัวเอง

6.ทำวันนี้ให้ดี

เพื่อให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จคุณต้องจัดการกับนิสัยที่ไม่ดีของคุณและรูปแบบการกินที่ไม่ดีในแต่ละวัน

- คุณกินของว่างจำพวกมันฝรั่งทอดกรอบและช็อกโกแลตมาเกือบตลอดทั้งชีวิต การบอกตัวเองว่าจะไม่แตะต้องของว่างไขมันสูงพวกนี้อีกจึงเป็นเรื่องที่เป็น ไปไม่ได้ อย่าบอกตัวเองว่าวันนี้คุณจะไม่กินมันฝรั่งทอดกรอบหรือช็อกโกแลตเพราะจิตใต้ สำนึกของคุณตอบสนองต่อเวลาในปัจจุบันได้ดีที่สุด แต่จงกล่าวข้อความเหล่านี้แทน เช่น "ทุกวันนี้ฉันกำลังเดินหน้าลดน้ำหนักเพื่อให้ใส่ยีนส์ตัวใหม่ได้ ทุกวันนี้ฉันระมัดระวังเรื่องอาหารการกินอย่างมากและฉันรู้ว่าฉันควรหยุดกิน ทันทีที่รู้สึกอิ่มและหายหิว"

สิ่งที่ควรทำ

จดจำเป้าหมายให้ขึ้นใจลองหาคำตอบดูว่า การไปให้ถึงน้ำหนักที่ตั้งเป้าไว้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน จำไว้ว่าองค์การอนามัยโลก (The World Health Organization) แนะให้ลดน้ำหนักได้ไม่เกิน 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ จากนั้นกำหนดเป้าหมายขั้นต่อไปที่เล็กลงอันจะนำไปสู่จุดหมายได้สำเร็จง่าย ขึ้น วิธีนี้จะทำให้คุณเดินไปตามเป้าที่กำหนดไว้โดยไม่สะเปะสะปะและทุกครั้งที่ คุณเดินไปถึงเป้าหมายนั้นให้คุณกล่าวชมเชยตัวเองจากนั้นเดินหน้าสู่เป้าหมาย ต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health Plus
โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:45
สร้าง! แรงจูงใจในการออกกําลังกาย "เพื่อหุ่นสวย"
คุณผู้หญิงท่านไหนที่ขาดแรงจูงใจในการออกกําลังกายฟังทาง นี้ค่ะ เพราะเรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการช่วยสร้าง แรงจูงใจในการออกกําลังกาย เพื่อให้คุณมีรูปร่างที่สวยและหุ่นดีมาฝากกันอีกด้วยค่ะ แน่นอนว่าอาจจะมีคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านที่ไม่ค่อยจะมีเวลาในการออกกำลังกายมากนักจึงทำให้เกิดการละเลยใน การออกำลังกาย แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างนะค่ะ ลองมาสร้าง แรงจูงใจในการออกกําลังกาย ดูแล้วเรื่องในชีวิตประจำวันของคุณจะดูมีเวลาเหลือที่จะออกำลังกายมากยิ่ง ขึ้น นั้นเรามาดูวิธีสร้างแรงจูงใจในการออกกําลังกายกันเลยดีกว่าค่ะ เพื่อที่ทุกคนจะได้มีหุ่นที่สวยสมใจนะค่ะ
สร้าง! แรงจูงใจในการออกกําลังกาย

1. จงไปสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสที่ไหนสักแห่งไว้ก่อน เมื่อจ่ายตังค์ไปแล้วเดี๋ยวความเสียดายก็บังเกิดและก็จำต้องไปออกกำลังกาย เอง เพราะค่าสมาชิกหลายตังค์อยู่ถือเป็นแรงจูงใจที่ใช้ได้ทีเดียว


2. ให้คิดไว้เสมอว่า หุ่นสวย น้ำหนักลด ต้องออกกำลังกายวันไหนไม่ออกกำลังกายวันนั้นเราจะต้องอ้วนขึ้นเพราะไม่ได้ ใช้พลังงานเท่าที่อาจจะโดนคนอื่นล้อว่าอ้วนได้


3. ลงทุนซื้อชุดออกกำลังให้สวย ๆ จะได้เพิ่มความอยากใส่ไปออกกำลังกายไง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:46
แผนการลดความอ้วน อย่างได้ผล! สูตรสำเร็จของการไดเอ็ต
จะไดเอ็ตกันทั้งทีควรจะวางแผนการลดความอ้วนกันสักหน่อย เพื่อให้ได้สูตรสำเร็จของการไดเอ็ตอย่างได้ผลที่คุณพึงพอใจ หากว่าคุณคิดถึง แผนการลดความอ้วน ไม่ออกลองหันมามองเรากันสักหน่อยแล้วคุณได้ทางออกของ แผนการลดความอ้วน ในครั้งนี้ค่ะ แล้วต่อไปเรื่องน้ำหนักตัวของคุณอาจจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ที่สำคัญเรื่องการลดความอ้วนอาจจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับคุณเลยที เดียวล่ะค่ะ คุณพร้อมที่จะวางแผนการลดความอ้วนไปพร้อมกับเราแล้วรึยังค่ะ ถ้าพร้อมแล้วมาดูแผนการลดความอ้วนกันได้เลยค่ะ
แผนการลดความอ้วน อย่างได้ผล!

1. จำไว้ว่ายิ่งคุณจัดหนักกับมื้อเช้ามากเท่าไหร่ อัตราการเผาผลาญและการลดไขมันก็ยิ่งมีประสิทธิภาพ โดยอาจกินไข่กับขนมปังโฮลวีต โยเกิร์ตกับมูสลี่และผลไม้หรือนมพร่องมันเนยกับผลไม้พวกเบอร์รี่และโปรตีน เชค

2. ลองดื่มชาเขียวหลังกินอาหารทุกมื้อ เพื่อช่วยสร้างการเผาผลาญไขมันและรับมือกับความอยากของหวาน

3. ใช้เวลาอย่างน้อยสัปดาห์ละครึ่งชั่วโมง ถ้าจะให้ดีคือ ตอนดื่มกาแฟยามเช้าวันจันทร์เพื่อวางแผนในการควบคุมอาหารแต่ละมื้อรวมทั้ง ของว่างไว้ล่วงหน้า จำไว้ว่าการวางแผนจะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ถึงเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง ขึ้น เมื่อคุณมีเมนูที่ต้องการไว้พร้อมในแต่ละสัปดาห์

4. เราทุกคนควรได้รับประทานผักหรือสลัดอย่างน้อย วันละ 3 ถ้วยตวง ในมื้อกลางวันควรมีสลัดอยู่ครึ่งหนึ่งรวมทั้งช่วงของว่างและก่อนอาหารเย็น โดยเตรียมผักสลัดใส่ถ้วยแช่ตู้เย็นไว้เพื่อความสดใหม่ ให้คุณได้กินพร้อมกันทั้งครอบครัว

5. สำหรับของว่าง พยายามจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดไม่ควรเกิน 30 กรัม และมีโปรตีนอย่างน้อย 5 กรัม เพื่อให้ได้แป้งน้อยลง ซึ่งโปรตีนจะยังช่วยให้คุณรู้อิ่มได้โดยไม่ต้องเพิ่มแคลอรีเกินกว่าที่กำหนด ไว้

6. ตั้งเป้าไว้ว่าจะหาของกินทุก 3-4 ชั่วโมงในระหว่างวัน เพื่อกระตุ้นเมตาบอลิซึ่ม

7. โปรตีนเชคเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับชดเชยพลังงานหลังออกกำลังกาย หรือชาร์จพลังช่วงเช้ารวมทั้งของว่างเหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์รีบเร่งในแต่ ละวัน

8. กินผักสด ๆ เป็นของว่าง จะทำให้คุณได้รับวิตามิน และแร่ธาตุ นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้คุณหิวปั่นป่วนในช่วงบ่ายได้

9. ย้ำอีกครั้งว่าการวางแผนนำไปสู่ความสำเร็จในการความอ้วน พกพาของว่างโปรตีนสูงติดตัวไปด้วย เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องสรรหาของกินแคลอรีสูงมาระงับความหิว

10. หากคุณได้รับสารอาหารจากผักและโปรตีนมากเพียงพอในมื้อกลางวัน คุณก็มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการหิวขนมหวาน ๆ ในตอนบ่ายน้อยลง

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกขนมเพื่อสุขภาพที่ใช้นมถั่วเหลืองแทนนมสดและมีเป็นสูตร โลว์ชูการ์ได้ด้วยนะ การเปลี่ยนหรือลดอาหารและขนมที่คุณกินตามปกติในแต่ละวันก็มีผลให้ตัวเลขบน ตาชั่งลดลงจนคุณแปลกใจเลยล่ะ แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาสักหน่อยก็ตาม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก lisa



โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:48
วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี "ไขความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเพื่อ หุ่นสวย"
วันนี้พาคุณผู้หญิงมาไขความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเพื่อหุ่นสวยและให้ได้รู้กับวิธีลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีเพื่อ ให้ลดน้ำหนักให้ได้ดั่งใจคุณค่ะ เพราะหากว่าเราได้รู้ วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี แล้วล่ะก็เรื่องการควบคุมน้ำเอ่ย การลดความอ้วนเอ่ย การลดน้ำหนักเอ่ย สำหรับคุณผู้หญิงแล้วก็จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้นได้ทันทีค่ะ ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองนั้นมัวแต่เข้าใจในเรื่องการลดน้ำหนัก ๆ แบบผิววิธีอยู่นั่นแหละ นอกจากจะไม่ช่วยให้ผอมและหุ่นดีแล้วอาจจะทำให้กับมาเบอะเบะอีกต่างด้วย ฉะนั้นแล้วเราควรจะมารู้จักกับ วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี นะค่ะ เพื่อให้ได้หุ่นสวยสมใจคุณอย่างไรล่ะค่ะ

วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี "ไขความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง"

1. การควบคุมอาหารไม่ถูกเวลา

ส่วนใหญ่มักเลือกอดอาหารเช้าแล้วมาทานหนักในตอนเย็นซึ่งสอดคล้องกับการใช้ ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ความเป็นจริงร่างกายเราต้องการอาหารเช้าเพื่อใช้เป็นพลังงานทั้งวัน ส่วนตอนเย็นและตอนกลางคืนร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารน้อย ถ้าทานเข้าไปมากก็จะถูกสะสมในรูปของไขมัน ดังนั้นผู้ที่อดอาหารโดยวิธีนี้จึงมักมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง

2. การควบคุมอาหารไม่ถูกประเภท

บางคนอดข้าวแต่หันไปทานกาแฟวันละหลาย ๆ แก้วแทน ความเป็นจริงกาแฟมีทั้งน้ำตาลและครีมเทียมที่ทำมาจากน้ำมันปาล์มเป็นส่วน ใหญ่ให้พลังงานสูงกว่าทานข้าวทำให้หิวบ่อย จึงต้องทานวันละหลาย ๆ แก้ว ทำให้การควบคุมอาหารประสบกับความล้มเหลว


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:48
3. มีการแนะนำให้ผู้ต้องการลดน้ำหนักทานผลไม้มาก ๆ

ตามตำราของคนตะวันตกความเป็นจริงชาวตะวันตกนิยมผลไม้รสเปรี้ยวมีแคลอรี่ต่ำ เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่คนไทยหรือคนเอเซียส่วนใหญ่นิยมทานผลไม้รสหวานมีแคลอรี่สูงหรือถ้าผล ไม้รสเปรี้ยวก็มักจะมีเครื่องจิ้มมีรสหวาน ดังนั้นการแนะนำให้ทานผลไม้มาก ๆ ควรเน้นเฉพาะผลไม้รสไม่หวานหรือมันและงดเครื่องจิ้มที่มีรสหวานเช่นน้ำปลา หวาน

4. มีความเชื่อว่าการลดน้ำหนักจำนวนมาก ๆ

ในเวลาสั้น ๆ เป็นวิธีการที่ดีและได้ผล ความเป็นจริงการลดน้ำหนักมาก ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ นั้น มักเป็นการขับน้ำออกจากร่างกาย เช่น การขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ยาถ่าย เพราะน้ำหนักมากกว่าไขมันและเมื่อดื่มน้ำเข้าไปทดแทนน้ำหนักก็จะกลับเพิ่ม ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว การลดน้ำหนักที่ดีต้องเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปและใช้ระยะเวลาในการลด น้ำหนักต่อเนื่องและนานพอสมควร

5. การควบคุมอาหารทำให้ต้องเลิกทานอาหารที่โปรดปราน

หลายคนปฏิเสธที่จะควบคุมอาหารเพราะเหตุนี้ ความจริงคุณยังสามารถรับประทานอาหารที่ชอบได้ทุกอย่าง แต่ถ้าเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น อาหารที่มีไขมันสูง รสหวานจัด ก็ควรทานแต่น้อย หรือไปลดอาหารส่วนอื่นแทน

6. วุ้นเส้น

คนทั่วไปทราบว่าวุ้นเส้นนั้นทำจากถั่วเขียวจึงคิดว่าทำให้อ้วนน้อยกว่าข้าว บางคนทานวุ้นเส้นแทนข้าว ความเป็นจริงวุ้นเส้นแม้ทำมาจากถั่วเขียวแต่กรรมวิธีการผลิตเป็นการสกัดเอา เฉพาะส่วนที่เป็นแป้งออกมาเกือบ 90% เป็นแป้ง มีส่วนที่เป็นโปรตีนและกากอาหารน้อยมาก วุ้นเส้นขนาด 1 มัด หรือ 1 ห่อเล็ก หนัก 50 กรัม ให้พลังงานได้ถึง 170 แคลอรี่ ซึ่งใกล้เคียงกับข้าวสาร หนัก 50 กรัม ให้พลังงาน 175 กิโลแคลอรี่ ส่วนวุ้นเส้นที่ทำจากแป้งมันก็มีแคลอรี่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นการทานวุ้นเส้นจึงให้พลังงานใกล้เคียงกับข้าว การรับประทานมาก ๆ ก็ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน ความเป็นจริงไขมันทุกชนิดให้พลังงานได้สูงเหมือนกันดังนั้นการรับประทานมาก ก็ยิ่งทำให้อ้วนได้มากเหมือนกันการรับประทานควรจำกัดปริมาณ

7. การผ่าตัดเอาไขมันออกและการดูดไขมัน

สามารถใช้ในการลดน้ำหนักได้ ความเป็นจริงการผ่าตัดเอาไขมันออกและการดูดไขมันมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดไขมัน ส่วนเกินได้เฉพาะที่เพื่อความสวยงามเท่านั้น การผ่าหรือดูดไขมันเพื่อลดน้ำหนักทั้งตัวนั้นทำไม่ได้และมีอันตรายมากปกติ แพทย์จะไม่ทำให้

8. น้ำมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันรำ หรือน้ำมันปลาที่มีโอเมก้า 3 สามารถรับประทานมาก ๆ ได้ยิ่งทานมากยิ่งได้ประโยชน์มาก

9. ทัศนะที่ว่าท้องแตกดีกว่าของเหลือ

ความเป็นจริงไม่มีใครท้องแตกมีแต่คนอ้วน ควรปรับความคิดใหม่ไม่ควรเสียดายอาหารที่เหลือคิดเสียว่าปล่อยให้อาหารเหล่า นั้นเป็นขยะอยู่ภายนอกดีกว่าเอามาเป็นขยะภายในร่างกายเรา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก อสมท.



โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:58
สูตรลดน้ำหนัก อย่างได้ผล!!
เมื่อพูดถึงสูตรลดน้ำหนักคุณผู้หญิงหลาย ๆ คนที่กำลังมองหา สูตรลดน้ำหนัก นี้คงจะได้เฮกันแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญยังเป็น สูตรลดน้ำหนัก แบบง่าย ๆ แต่ได้ผลอย่างแน่นอน และสูตรลดน้ำหนักที่ว่ามานี้เป็นวิธีการกินลดน้ำหนักนั่นเองค่ะ ซึ่งเป็น สูตรลดน้ำหนักอย่างได้ผล จริง ๆ นะ ขอบอก...ขอบอก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองแล้วแหละค่ะว่าจะมีความตั้งใจจริง กับสูตรลดน้ำหนักนี้กันขนาดไหนกันบ้าง สูตรลดน้ำหนักอย่างได้ผล นี้จะได้ผลอย่างจริงจังก็ต่อเมื่อคุณทำควบคู่ไปกับการควบคุมปริมาณอาหารใน แต่ละมื้ออย่างเคร่งครัดอีกด้วยค่ะ นั้นเรามาดู สูตรลดน้ำหนัก อย่างได้ผล!! กันเลยดีกว่าค่ะ

2 สูตรลดน้ำหนัก

1. วิธีนี้อาจทำให้ร่างกายโหยและจะหักโหมกินอาหารในมื้อต่อไปมากขึ้น ก็มีทางแก้ง่าย ๆ คือต้องดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ หรือขจัดความหิวด้วยการนำเม็ดแมงลักมาแช่ในน้ำอุ่น 1 แก้ว แล้วเติมน้ำหวานลงไปเล็กน้อยรอให้เม็ดแมงลักพองตัวแล้วดื่มให้หมด เพราะพลังงานที่เกิดจากการกินเม็ดแมงลักเข้าไปถูกใช้มากที่สุด ควรกินเม็ดแมงลักก่อน 5 โมงเย็น

2. เน้นออกกำลังกายให้นานกว่าปกติเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกิน นั่นคือหากจะลดน้ำหนักลงครึ่งกิโลกรัมใน 1 สัปดาห์ ต้องออกกำลังกายเผาผลาญไขมันให้ได้วันละ 500 กิโลแคลอรี และต้องออกกำลังติดต่อกันทั้ง 7 วัน แต่การออกกำลังกายทุกวันอาจหนักเกินไปทำให้ร่างกายไม่มีเวลาพักผ่อน อาจเกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า โทรมเร็วกว่าปกติได้

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดควรเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งแล้วแต่ความเหมาะสม แต่ถ้าทำทั้งสองวิธีควบคู่กันไปใน 1 วัน ด้วยการลดกินอาหารลงประมาณ 250 กิโลแคลอรี และออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันวันละ 250 กิโลแคลอรี ก็จะช่วยให้ไม่โหยอาหารและช่วยให้น้ำหนักค่อย ๆ ลดลงอย่างถาวรอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:58
วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว "ด้วยวิธีธรรมชาติอย่างได้ผล!!!"
วันนี้เรามีอีกหนึ่งวิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วด้วยวิธี ธรรมชาติอย่างได้ผล! มาฝากคุณผู้หญิงที่อยากผอมเพรียวและหุ่นดีกับเค้าบ้างค่ะ เรื่องน้ำหนักตัวนั้นผู้หญิงหลาย ๆ คนให้การใส่ใจรูปร่างกันค่อนข้างมาก และสำหรับคนที่สนใจอยากจะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนอย่างรวดเร็ววันนี้เราก็มี วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว มาฝากกันแล้วนะค่ะ ซึ่งตัวช่วยใน วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว แบบธรรมชาตินี้เป็นสิ่งที่คุณอาจจะคิดไม่ถึงว่าสิ่งนี้ช่วยคุณได้จริงหรือ ไม่ ฉะนั้นเรามาดู วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว "ด้วยวิธีธรรมชาติอย่างได้ผล!!!" กันเลยค่ะ
วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้ประเทศไทยเราสามารถปลูกองุ่นได้อย่างเป็นล่ำเป็นสันแล้ว องุ่นที่เราเคยนำเข้าต่างประเทศด้วยราคาแสนแพงก็ลดบทบาทลง เพราะตอนนี้สามารถหาซื้อองุ่นเมดอินไทยแลนด์ได้อย่างสะดวกสบาย

ในองุ่นนั้นมีแร่ธาตุเสริมให้เนื้อเยื่อแข็งแกร่งและสดใสเพราะอุดมไปด้วย วิตามินซี สำหรับสาว ๆ หรือคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินนั้นอย่าได้วิตกกังวลอีกต่อไป หาซื้อองุ่นสด ๆ ไม่ว่าจะเป็นชนิดสีเขียวหรือแดงมารับประทานเมื่อรู้สึกหิวขึ้นมาทุกครั้ง หรือใครที่อยากลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วก็ลองรับประทานข้าวกล้องประมาณ 150 กรัม กับองุ่นสดครึ่งกิโลกรัม และดื่มน้ำประมาณ 3 ลิตรต่อวัน รับประกันว่า น้ำหนักคุณลดลงแน่แต่อย่าเผลอไปซื้อพวกของขบเคี้ยวมารับประทานแก้หิวด้วยก็ เป็นพอ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 09:59
วิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเอง "แบบง่ายที่สุด"
ต่อไปนี้จะเป็นวิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเองแบบง่ายที่สุด ค่ะ สำหรับ วิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเอง นี้อันแรกนั้นก็ทำขึ้นอยู่ที่การลดแบบง่าย ๆ กันก่อนก็แล้วนะค่ะ เริ่มจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่ใกล้ตัวเราแล้วต้องเกิดขึ้นทุกวันเริ่มจากสิ่ง นี้จะช่วยให้ วิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเอง นี้ได้ผลอย่างดีที่เดียวค่ะ สำหรับใครต้องการ วิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเอง นี้ก็ลองนำไปใช้กันดูได้เลยนะค่ะ อันที่สองคือตัวช่วยที่ดีค่ะนั่นคือการออกกำลังแต่จะออกกำลังกายแบบไหนนั้น เรามีคำแนะนำอยู่ วิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเอง "แบบง่ายที่สุด" นี้ค่ะ
วิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเอง

วิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือการลดพลังงานจากอาหารและการออกกำลังกายหรืออาจจะทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน

- ลดพลังงานจากอาหาร รับประทานอาหารพวกผักผลไม้ให้มากไม่ปรุงอาหารด้วยไขมัน

- ลดอาหารไขมัน เช่น อาหารทอด ผัด เช่นปาท่องโก๋ กล้วยทอด ไก่ทอด ฟิซซ่า โรตี กะทิ

- ดื่มนมพร่องมันเนย งดเนย

- ลดการบริโภคน้ำตาล ของหวาน

- ลดสุรา

- การออกกำลังกาย ใช้การเดินแทนการนั่งรถ ใช้บันไดแทนการขึ้นลิฟต์ ไปเล่นกับลูก ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน


ขอขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:00
วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง "หุ่นสวย หุ่นผอมเพรียว"
วันนี้เราพาคุณผู้หญิงมารู้จักกับวิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเองเพื่อ หุ่นสวย หุ่นผอมเพรียว กันค่ะ ใครจะรู้ดีว่าผู้หญิงมีความต้องการในเรื่องลดน้ำหนักได้ดีขนาดไหน นอกจากผู้หญิงอย่างเราที่ต้องการลดน้ำหนักเพื่อให้มีหุ่นสวย หุ่นผอมเพรียว จริงไหมค่ะ ฉะนั้นจึงมี วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง มากมายที่ผลุดขึ้นมามากมายที่มีทั้งดีและไม่ได้ แต่วันนี้เราอยากจะแนะนำอีก 6 วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ที่จะช่วยให้คุณผู้หญิงมี หุ่นสวย หุ่นผอมเพรียว ได้สมใจ แต่งานนี้ต้องขึ้นอยู่ที่คุณแล้วล่ะค่ะ เพราะว่า วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง ของเราในวันนี้นั้นขอบอกเลยค่ะว่าเป็นวิธีที่ง่ายมาก ๆ และนอกจากนี้ยังไม่มีการเน้นเรื่องการอดอาหารหรือการออกกำลังกายแต่อย่างใด อีกด้วยฉะนั้นหลาย ๆ คนสบายใจกันได้เลยค่ะ นั้นเรามาดูวิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเองกันเลยดีกว่าจะได้นำไปปรับใช้ได้ทันถ่วง ทีค่ะ


6 วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง

วิธีที่ 1 คือ การชั่งน้ำหนักทุกวัน มหาวิทยาลัยมินนิโซตาสำรวจผู้ใหญ่ที่พยายามลดน้ำหนัก 1,800 คน พบว่าผู้ที่ชั่งน้ำหนักทุกวันสามารถลดส่วนเกินไปได้เฉลี่ย 12 ปอนด์ ตลอด 2 ปี เทียบกับการชั่งน้ำหนักเป็นรายสัปดาห์ที่ลดได้ 6 ปอนด์ เพราะตัวเลขบนตาชั่งจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรจะทำอย่างไร หากน้ำหนักเริ่มขึ้นก็อาจถึงเวลาที่จะต้องหลีกเลี่ยงของหวาน


วิธีที่ 2 ดูทีวีไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนั่งติดขอบจอเป็นกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดการเผาผลาญแคลอรี และยังนั่งนิ่งเป็นเป้าของโฆษณาอาหารจังก์ฟู้ดที่ออนแอร์อยู่ตลอด โดยผู้ใหญ่ที่ดูทีวีเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน มีแนวโน้มจะเพิ่มแคลอรีจากการกินขนมขบเคี้ยว 7% เทียบกับผู้ที่ดูทีวีไม่ถึง 2 ชั่วโมง

วิธีที่ 3 กินไฟเบอร์ทุกมื้อ เพราะอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะมีแคลอรีต่ำกว่าและไม่ทำให้โหย จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยทัฟส์พบว่า ผู้หญิงที่กินไฟเบอร์ 13 กรัม ในแต่ละวันหรือน้อยกว่านั้นมีโอกาสที่จะน้ำหนักเกินมากกว่าเมื่อเทียบกับ ผู้หญิงที่กินไฟเบอร์มากกว่า

วิธีที่ 4 นอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมง เพราะผลศึกษาของมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า คนที่นอนน้อยจะมีระดับฮอร์โมนที่ควบคุมการเจริญอาหารต่ำทำให้มีความเสี่ยง ที่จะอ้วน โดยคนที่นอนหลับ 4 ชั่วโมง หรือน้อยกว่านั้นจะมีโอกาสอ้วนมากกว่าคนที่นอน 7 ชั่วโมง ถึง 234%


วิธีที่ 5 ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน เพราะน้ำมีส่วนช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญเร็วขึ้นโดยไม่เพิ่มแคลอรีแก่ร่างกาย แต่นำแคลอรีไปใช้


วิธีที่ 8 อย่าทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิพบว่า ผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มมักจะทำงานล่วงเวลาซึ่งทำให้ไม่มีเวลากินอาหารและออก กำลังกาย รวมทั้งความเครียดก็ส่งผลต่อน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:01
วิธีกินลดการลดความอ้วนด้วยวิธีธรรมชาติ ต้อง! "มะเขือเทศ"
การลดความอ้วนด้วยวิธีธรรมชาตินั้นวันนี้เราของนำเสนอ "มะเขือเทศ" ที่จะใช้ใน การลดความอ้วนด้วยวิธีธรรมชาติ ในแบบง่าย ๆ ได้เลยค่ะ เพราะจากหนังสือพิมพ์ชื่อดังของประเทศอังกฤษนั้นได้เผย การลดความอ้วนด้วยวิธีธรรมชาติ นี้ว่า "มะเขือเทศ" นั้นมีสารช่วยปรับระดับของฮอร์โนในร่างกายของคนเราให้มีความรู้สึกอิ่มนาน และเป็นเหตุให้ตัวเราเองลดการบริโภคขนมขบเคี้ยวทั้งหลายได้เป็นอย่างดีที เดียวเชียวค่ะ และไม่ใช่แค่เพียงมะเขือเทศในการลดความอ้วนแต่งเพียงเท่านั้นนะค่ะ มะเขือเทศยังช่วยในเรื่องผิวพรรณได้ดีอีกด้วยนะค่ะ ฉะนั้นแล้วใครกำลังมองหา การลดความอ้วนด้วยวิธีธรรมชาติ ต้อง! "มะเขือเทศ" นะค่ะ เรียกได้ว่าได้ประโยชน์สองต่อเลยทีเดียวค่ะ

การลดความอ้วนด้วยวิธีธรรมชาติ "มะเขือเทศ"

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการพบว่า มะเขือเทศเป็นอาหารที่ช่วยลดความอ้วนได้โดยไม่จำเป็นต้องไปพยายามลดอาหารและ ออกกำลังกายจนหน้าดำหน้าแดงเลย

หนังสือพิมพ์รายวัน "เดอะ เดลี่ เอกซ์เปรสส์" ชื่อดังเมืองอังกฤษรายงานว่า นักวิจัยมหาวิทยาลัยรีดดิงของสหรัฐฯ ได้ศึกษากับสตรี 17 คน โดยให้กินแซนด์วิชที่ทำด้วยขนมปังขาวชนิดที่มีหัวผักกาดแดงหรือมะเขือเทศ เป็นไส้เป็นอาหาร

ปรากฏผลว่า ผู้ที่กินแซนด์วิชที่ประกบมะเขือเทศจะพากันรู้สึกอิ่มทนนานที่สุดและไม่ค่อย ไปหาของขบเคี้ยวกินพร่ำเพรื่อ อันเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อ้วนอย่างหนึ่ง ดร.จูซี่ เลิฟโกรฟ์ หัวหน้าโครงการวิจัยเชื่อว่าเป็นเพราะมะเขือเทศมีส่วนประกอบที่ไปปรับระดับ ฮอร์โมนซึ่งทำให้รู้สึกหิวเสียใหม่ได้จึงทำให้ไม้ค่อยรู้สึกหิว

"แม้จะยังไม่อาจบอกได้ว่า ส่วนประกอบที่สำคัญเป็นอะไรแต่มันก็ให้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง" เขาบอก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:02
วิธีการกินลดความอ้วน "จากของว่าง"
เรื่อง กิน กิน กิน เป็นที่รู้กันดีกว่าเป็นเรื่องยากที่จะไม่ตามใจปากโดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเราด้วยแล้ว วันนี้เราจึงหาวิธีกินลดความอ้วนมา ฝากค่ะ ซึ่งเป็น วิธีกินลดความอ้วน "จากของว่าง" นั้นก็หมายความว่าเราจะมาช่วยให้คุณผู้หญิงที่ชอบทานของว่างแบบเลิกไม่ได้ แต่เราจะปรับการกินเพื่อให้ทำการรลดความอ้วนและลดน้ำหนักกันจากของว่างเนี่ย แหละค่ะ ใครอยากรู้ว่า วิธีกินลดความอ้วน เป็นอย่างไรบ้างคงต้องมาลองปฏิบัติกันเลยดีกว่าค่ะ เชื่อเถอะค่ะว่า วิธีกินลดความอ้วน "จากของว่าง" นี้ช่วยคุณได้ค่ะ

เคล็ดลับ วิธีกินลดความอ้วน "จากของว่าง"

กฎของการกินของว่างไม่ให้อ้วน คือ กินไม่เกิน 100 แคลอรี่ ต่อ 1 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาอาหาร แต่ควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใยสูง เช่น ผลไม้ เป็นหลัก จากนั้นก็ค่อยเพิ่มโปรตีนหรือไขมันที่ดีต่อสุขภาพเพื่อให้อิ่มได้นานขึ้น เช่น

- ถ้าอีก 1 ชั่วโมง จะถึงเวลาอาหารมื้อต่อไป ก็ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล

- ถ้าอีก 2 ชั่วโมง จะเป็นเวลาอาหารมื้อต่อไป ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล กับเนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

- ถ้าอาหารมื้อต่อไปจะได้เวลาในอีก 3 ชั่วโมง ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล เนย ถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ และแคร็กเกอร์ธัญพืช 5 แผ่น

- ถ้าอาหารมื้อต่อไปจะมาถึงในอีก 4 ชั่วโมง ก็ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล เนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ แคร็กเกอร์ธัญพืช 5 แผ่น และนมสดชนิดพร่องไขมัน 1 แก้ว

สำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการบริโภคอาหารเสริมธาตุ เหล็กด้วย เพราะธาตุเหล็กที่ได้จากผักและผลไม้ส่วนมากร่างกายจะดูดซึมได้ยาก

เป็นเรื่องธรรมชาติที่ใคร ๆ ก็ต้องการมีรูปร่างที่ดูดี ฉะนั้น ใครที่ชอบกินจุบจิบแต่ไม่อยากอ้วนก็ลองกินตามที่เราแนะนำดูนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก woman's

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:04
เคล็ดลับ วิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผล "แบบมีความสุข"
เบื่อรึยังกับวิธีการลดน้ำหนักที่ไม่ได้ผลแถมมีความทุกข์กายและทุกข์ใจอีกต่างหาก วันนี้เราเสนออีกเคล็ลับวิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลแบบ มีความสุขมาฝากคุณผู้หญิงเพื่อให้เป็นอีกหนึ่ง วิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผล ของคุณค่ะ ใครอยากรู้ว่า วิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผล นี้จะได้หรือไม่ได้ผลมากเพียงไรรบกวนต้องลองฝึกปฏิบัติด้วยตัวคุณเองถึงจะ รู้...อิอิอิ แต่ขอบอกว่า วิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผล นี้จะอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นในการ ลดน้ำหนักค่ะ ซึ่งเชื่อว่าคุณผู้หญิงทุกคนจะได้ประโยชน์อย่างมากกับวิธีการลดน้ำหนักที่ ได้ผลแบบมีความสุขนี้อย่างแน่นอนค่ะ


8 เคล็ดลับ วิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผล

1. เลือกรับประทานแต่โปรตีนที่ย่อยง่ายและมีกากใยไฟเบอร์สูง

อาหารโปรตีนที่มีลักษณะตรงกับคอนเซ็ปต์นี้ก็คือ โปรตีนที่ได้จากพืช อันได้แก่ เมล็ดถั่ว ธัญพืช และเห็ดชนิดต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานน้อยลง เพราะเป็นอาหารที่ย่อยได้ง่ายและย่อยได้หมดจดไม่หลงเหลือเป็นสารพิษตกค้างใน ร่างกาย อีกทั้งยังเป็นอาหารที่มีกากสูงสามารถช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณคล่องตัวดี ขึ้น

2.สนุกสนานเพลิดเพลินกับการเล่นยิมนาสติกกลางสายน้ำ

ไม่ว่าจะในสระน้ำหรือทะเลคุณก็สามารถบริหารร่างกายกระชับหุ่นได้อย่างสุข สำราญบานใจ ยิ่งในช่วงเวลาที่อากาศร้อนอย่างนี้การได้สวมชุดว่ายน้ำเก๋ ๆ แล้วกระโจนลงไปแหวกว่ายอยู่ในน้ำย่อมจะให้ความเย็นสบายกว่าไปกระโดดโลดเต้น กลางแดดเปรี้ยง ๆ เป็นไหน ๆ อีกทั้งไม่เกิดแรงกดแรงกระแทกให้กล้ามเนื้อต้องช้ำชอกด้วยทั้งนี้ก็เพราะน้ำ จะช่วยต้านพยุงเรือนร่างของเราเอาไว้

3.แข็งแรงหุ่นดีด้วยบร็อกโคลี่แสนอร่อย

ผักสวย ๆ มากด้วยคุณค่าวิตามินเอ ซี และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น เหล็ก สังกะสี โพแทสเซียม ซีเลเนียม และเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยปกป้องร่างกายจากมะเร็งร้ายทั้งยังช่วยขัดขวางการสะสมตัวของ ไขมัน

4.พักเรื่องกินไว้ก่อนเข้านอนดีกว่า

ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่า การทำตัวเป็นบังอรเอาแต่นอนจะสามารถช่วยทำให้คุณผอมเพรียวลงได้ ทั้งนี้เพราะในขณะที่คุณกำลังหลับฮอร์โมนชนิดหนึ่งซึ่งช่วยกระตุ้นการเจริญ เติบโตจะสามารถทำงานเผาเผลาญไขมันได้ดีที่สุด มิหนำซ้ำการได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ยังช่วยให้สมองแจ่มใสไม่แก่ก่อน วัย และไม่ดูอิดโรยทั้ง ๆ ที่คุณรับประทานอาหารน้อยลง

5.ตัดรายการของกินจุกจิกที่มากด้วยแคลอรีออกจากวงจรชีวิต

จากที่เคยดื่มน้ำอัดลมก็เปลี่ยนมาดื่มน้ำสะอาดธรรมดา จากที่เคยชอบรับประทานขนมทอดกรุบกรอบเป็นของว่างก็เปลี่ยนมารับประทานผลไม้ สดแทน แค่นี้ก็สามารถลดแคลอรีลงไปได้วันละเป็นร้อยกิโลแล้วขอบอก

6.ดื่มน้ำสักแก้วสองแก้วก่อนอาหารเสมอ ๆ

เพราะน้ำสามารถช่วยคลายความหิวและความอยากอาหารได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำให้คุณดื่มน้ำเยอะ ๆ ก่อนรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ และในระหว่างวันก็ควรดื่มน้ำมาก ๆ ให้ได้อย่างน้อยสักวันละ 2 ลิตรขึ้นไป เพื่อผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวลแต่รับรองว่าน้ำหนักตัวจะลดลงอย่างเหลือ เชื่อ

7.กระชับหุ่นได้ตลอดทั้งวัน ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ

รู้ไหมว่าแค่ถูบ้านเพียงครึ่งชั่วโมงคุณก็สามารถจะเผาผลาญพลังงานออกไปได้ ถึง 125 กิโลแคลอรี ซึ่งก็พอ ๆ กับแคลอรีที่ซ่อนอยู่ในช็อกโกแลต 100 กรัมนั่นแหละ และถ้าคุณขี่จักรยานออกไปซื้อของหรือได้เดินขึ้นบันไดสัก 10 นาที ไขมันในร่างกายของคุณก็จะถูกเผาผลาญให้สูญสลายไปได้เกินกว่า 100 กิโลแคลอรี

8.รับประทานผลไม้รสเปรี้ยวหุ่นจะได้เพรียวได้สมใจ

เนื่องจากผลไม้รสเปรี้ยวจะเป็นแหล่งวิตามินซีสูง ซึ่งในวิตามินซีมีสรรพคุณที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้และยังช่วยดึงไขมัน จากแหล่งะสมในร่างกายออกมาเผาผลาญ แถมยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นโดยเฉพาะไม่ทำ ให้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ง่าย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:06
วิธีลดความอ้วนที่ได้ผลเร็วที่สุด ภายใน 42 วัน
ใครกำลังท้อแท้กับการลดความอ้วนมาฟังข่าวดีทางนี้จ้า เพราะเรามีวิธีลดความอ้วนที่ได้ผลเร็วที่สุด ภายใน 42 วัน มาฝากกันด้วย สำหรับ วิธีลดความอ้วนที่ได้ผลเร็วที่สุด ใช้เวลาเพียงแค่ 42 วัน นับว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ไกลเกินความสามารถของคุณผู้หญิงทั้งหลายนะค่ะ อย่างที่เล่าไปว่า "ผู้หญิงหุ่นไม่ดีไม่มีหรอก มีแต่ผู้หญิงขี้เกียจเท่านั้น" ฉะนั้นแล้วหากว่าคุณผู้หญิงอยากให้ วิธีลดความอ้วนที่ได้ผลเร็วที่สุด ของเรานั้นสำฤทธิ์ผลและเป็นไปตามเป้าหมายที่คุณวางไว้ละก็ก็ต้องอดทนแล้วก็ ห้ามขี้เกียจเป็นอันขาดนะค่ะ เพราะว่า วิธีลดความอ้วนที่ได้ผลเร็วที่สุด อยู่ตรงหน้าคุณแล้วค่ะ แค่ 42 วัน ไม่นานเกินไปใช่ไหมค่ะ

วิธีลดความอ้วนที่ได้ผลเร็วที่สุด ภายใน 42 วัน สู้ ๆ ๆ ๆ

1. 7 วัน (แห่งการต่อสู้)

สัปดาห์แรกถือว่าเป็นสัปดาห์ที่หินมาก ๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นลดน้ำหนัก เพราะคุณจะรู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลาเห็นอะไรก็เผลอที่จะหยิบใส่ปากไม่ได้

- วิธีที่ดีที่สุดในการหยุดพฤติกรรมอันน่าเสี่ยงนี้ก็คือ ให้มุ่งความสนใจไปที่มื้อเช้าโดยพยายามกินมื้อเช้าให้เยอะเข้าไว้ เพราะนอกจากจะทำให้ท้องอิ่มได้นานแล้วยังช่วยให้แคลอรี่กับร่างกายไปใช้อีก ตั้ง 350 แคลอรี่เชียวแน่ะ

2. 14 วัน (แห่งการหงุดหงิด)

ระยะนี้คุณจะรู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษไม่ว่าจะขยับตัวไปทำอะไรก็พานจะอารมณ์ บ่จอยไปซะหมด ทั้งนี้เนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารของคุณ จากที่เคยกินอย่างพระราชากลับกลายเป็นว่า ไอ้นั่นก็แตะไม่ได้ ไอ้นี่ก็แคลอรี่เยอะ จึงทำให้เกิดความเครียดและความกดดันตามมาจนคุณอาจรู้สึกหมดกำลังใจถึงขั้น หันหลังให้กับการไดเอ็ทไปตลอดชีวิตก็เป็นได้

- วิธีที่จะรับมือกับพายุอารมณ์ในช่วงนี้ก็คือ ให้เบี่ยงเบนความสนใจด้วยการหันหน้าเข้าหาเพื่อน ๆ พูดคุยปรึกษากันซะหน่อย ไม่แน่นะคุณอาจจะปิ๊งไอเดียเจ๋ง ๆ ที่จะนำมาใช้ในการลดน้ำหนักต่อไปก็ได้

3. 21 วัน (แห่งความอยาก)

ช่วงนี้คุณจะรู้สึกอยากกินอาหารมากขึ้นเพราะอยู่ในช่วงที่มีประจำเดือนพอดีเห็นอะไรก็อยากไปซะหมด

- วิธีแก้ก็คือ ลองเปลี่ยนจากกินอาหารวันละ 3 มื้อ (เช้า กลางวัน เย็น) ไปเป็นแบ่งกินเป็นมื้อย่อย ๆ ประมาณ 4-6 มื้อดูสิคะ วิธีนี้จะช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่ สามารถขจัดความเหนื่อยล้าและช่วยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นด้วยค่ะ

4. ครบ 42 วัน น้ำหนักยังไม่ลด

หลังจาก 6 สัปดาห์ผ่านไปคุณจะรู้สึกว่าร่างกายเฟิร์มมากขึ้นมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แต่ทำไม๊ ทำไม น้ำหนักยังไม่ลดลงซักที

- ขอบอกว่าที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะปกติกล้ามเนื้อจะมีน้ำหนักมากกว่าไขมันอยู่ แล้ว เพราะ 70% ของกล้ามเนื้อเป็นน้ำในขณะที่ไขมันมีน้ำแค่ 20% เท่านั้นเอง ฉะนั้นอย่าเพิ่งด่วนถอดใจไปซะก่อนค่ะให้คอนตินิวลดน้ำหนักอย่างนี้ต่อไปแห ล่ะ และท่องเอาไว้ว่า ยิ่งมีกล้ามเนื้อมากก็ยิ่งเผาผลาญแคลอรี่ได้มาก แต่ถ้าคุณเกิดหมดแรงฮึดขึ้นมาจริง ๆ ให้นำยีนส์ตัวเก่งที่เคยใส่ไม่ได้แล้วมาลองสวมดูสิคะหรืออาจจะส่องกระจก สำรวจดูตัวเองว่าไขมันตรงไหนลดไปบ้าง อาจจะช่วยเรียกกำลังใจกลับคืนมาได้นะ

เอ้า...ได้เคล็ดลับดี ๆ ไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้กันนะคะ จะได้อวดหุ่นสวยให้ใคร ๆ ได้เห็นเร็ว ๆ ไงล่ะ
Tips

สำหรับสาว ๆ ที่ตอนนี้กำลังหิวจนตาลายและเริ่มที่จะคว้าเค้กก้อนโตมากินหยุดก่อนค่ะ คุณลองหันมากินผลไม้ข้างล่างนี้แก้หิวกันดูมั้ยคะ รับรองว่าเวิร์กกว่าเป็นไหน ๆ

- แอปเปิ้ล

มีเพคตินช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก และลดคอเลสเตอรอล ทานแอปเปิ้ล 1 ลูก จะช่วยลดความหิวได้ ถ้าทาน 2-3 ผลต่อวัน จะช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้

- ถั่ว

ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ที่พบมากในถั่วจะช่วยเคลือบผิวกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนานลดความอยากอาหารได้ดีเลยล่ะ

- มะนาว

น้ำมะนาวคั้นสด ๆ 1 แก้ว ให้พลังงานเพียง 9 กิโลแคลอรี แถมยังมีวิตามินซีสูงมาก ช่วยป้องกันการเป็นหวัด ขับเสมหะ และแก้ไอได้ดีอีกด้วย

- ส้ม

ควรรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่งเพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Woman Plus

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:07
วิธีลดความหิว "ลดอ้วน"
วิธีลดความหิวใครว่ายากหากแต่ว่าเราจะทำหรือไม่เท่านั้น เรื่องตามใจปากคุณผู้หญิงหลายคนมักจะห้ามไม่ได้แต่ถ้าท่องไว้ในใจเสอมว่า หุ่นดี น้ำหนักลด ไม่ได้นะเดี๋ยวอ้วน ท่องไว้ค่ะ เมื่อคิดว่าอยากขึ้นมาให้รีบไปให้ห่างจากอาหารจานโปรดของคุณซะทันทีค่ะ นี้ก็เป็นอีกหนึ่ง วิธีลดความหิว แบบเริ่มต้นที่เรานำมาฝากให้ แต่ วิธีลดความหิว เพื่อให้คุณผู้หญิงนั้นลดความอ้วนและหุ่นดีได้นั้นมีมากกว่านี้อีกค่ะ และวันนี้เราก็นำเคล็ดลับ วิธีลดความหิว "ลดอ้วน" มาฝากกันด้วยค่ะ ลดความอยาก ลดความหิว ลดอ้วนได้ชะงักเชียวนะค่ะ

7 วิธีลดความหิว

1. กินให้บ่อย ประมาณ 4 ชั่วโมงครั้ง แต่ต้องกินแค่ผักหรือเนื้อสัตว์ ห้ามคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลเด็ดขาดเพราะจะทำให้หิวยิ่งกว่าเดิม

2. ต้องกินมื้อเช้า จะได้ไม่หิวเป็นสองเท่าในมื้อเที่ยง

3. เคลื่อนไหวมาก ๆ ร่างกายจะได้หลั่งสารเอ็นโดฟีนออกมาทำให้ไม่รู้สึกหิว

4. กินโปรตีนเยอะ ๆ เพราะจะช่วยให้อิ่มเร็วและอิ่มนาน

5. หลีกเลี่ยงงานปาร์ตี้ เพราะบางคนจะกินได้มากขึ้นเมื่ออยู่กับเพื่อน

6. ซ่อนขนมขบเคี้ยว เพราะกลิ่นของมันจะทำให้เราอยากอาหารมากขึ้น

7. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เช่นนั้นร่างกายจะอ่อนเพลียซึ่งจะส่งผลให้หิวมากกว่าปกติ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชน

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:08
วิธีการลดความอ้วนด้วยตนเอง "ของคนชอบกิน"
คนที่ชอบตามใจปากหรือคนชอบกินฟังทางนี้เลยนะจ๊ะถ้าอยากจะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน เพราะวันนี้เรามี 8 วิธีการลดความอ้วนด้วยตนเอง มาฝากคุณ ๆ ทั้งหลายค่ะ การตามใจปากนั้นแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากอยู่สักหน่อยที่จะทำให้ตัวเองเลิกตาม ใจปากได้ แต่ด้วย วิธีการลดความอ้วนด้วยตนเอง นี้น่าจะช่วยให้คุณลดความอยากของคนชอบกินได้มิใช่น้อยเลยล่ะค่ะ แล้วด้วย วิธีการลดความอ้วนด้วยตนเอง นี้คุณจะต้องลดน้ำหนักและลดความอ้วนได้อย่างแน่นอนเลยค่ะ ถ้าคุณสามารถปฏิบัติตาม 8 วิธีการลดความอ้วนด้วยตนเอง นี้ได้นะค่ะ

8 วิธีการลดความอ้วนด้วยตนเอง

1. ตรวจร่างกาย

พบหมอเพื่อตรวจสุขภาพบอกหมอด้วยว่าคุณคิดจะทำอะไร และตรวจระดับความดันเลือด คลอเลสเตอรอล น้ำตาลในเลือดและไทรอยด์ ด้วยนะคะ เมื่อทุกอย่างผ่านคุณก็พร้อมที่จะเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น

2. สะสางตู้กับข้าว

ความอยากคือศัตรูตัวฉกาจที่สุดหลายคนบอกว่าไม่มีพลังใจที่จะลดน้ำหนัก พลังใจไม่ได้มาเกี่ยวอะไรด้วยเลยนะคะ ความอยากคือความอยาก และไม่ว่าใครก็รับมือกับมันยาก นอกจากจะทำให้มันยากแก่การพอใจ ดังนั้นโละของโปรดในตู้เย็นทิ้งซะ

3. จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย

ไม่ใช่แค่ที่บ้านเท่านั้นที่คุณต้องดูแลให้ปลอดอาหารขยะคุณต้องดูแลที่ทำงาน ด้วย ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมงานที่ซื้อขนมมาเลี้ยงคุณต้องขอว่าอย่าซื้อมาเพื่อคุณ หรือถ้าเขาจะซื้อก็ขอให้ซื้อของกินดีมีประโยชน์ วางจานผลไม้ไว้ข้าง ๆ จานบิสกิตและไม่มีการต่อรอง ต้องมีน้ำเปล่าติดบ้านเสมอแช่เย็นไว้จะได้ดื่มอร่อย ถ้าคุณเคยดื่มแต่น้ำหวานมานานการดื่มน้ำเปล่าอาจไม่ถูกปากคุณในช่วงแรกดัง นั้นให้บีบมะนาวใส่ลงไปไม่นานคุณก็จะปรับตัวได้ค่ะ

4. เก็บหลักฐาน

ให้ถ่ายรูปตัวเองไว้ช่วงที่กำลังฝึกฝนตัวเองอยู่นั้น คุณควรชั่งน้ำหนักและวัดขนาดรูปร่างตัวเองเก็บไว้ การรู้น้ำหนักสามารถเป็นสิ่งที่ผลักดันคุณได้และให้เริ่มบันทึกสิ่งที่คุณ ทานเข้าไป เพราะคุณไม่รู้หรอกว่ากินอาหารขยะไปมากแค่ไหนจนกว่าคุณจะเริ่มบันทึกเอาไว้ และครั้งต่อไปคุณจะเลือกทานได้อย่างดีเยี่ยม

5. ขอความช่วยเหลือ

การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งเรื่องนิสัยการกินและนิสัยด้านอารมณ์ คุณควรหาที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ในการพูดคุย คุณอาจจะไม่มั่นใจในตัวเองหรืออาจจะคิดว่าไม่มีความสุขกับการได้ทำแบบนี้ ฉะนั้นหากคุณตั้งใจจริงจะต้องอดทนค่ะ

6. ยอมรับความจริง

คุณต้องตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงและเห็นผลได้และจดบันทึกเอาไว้ด้วย ทำสัญญากับตัวเองและลงนามไว้ด้วยถ้าคุณต้องลดให้ได้ 20 กิโลกรัม ก็ตั้งเป้าไว้ที่ 10 กิโลกรัมและจัดการกับอีก 10 กิโลกรัม เมื่อคุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ถ้าคุณต้องลดให้ได้ 50 กิโลกรัม ให้มุ่งมั่นลด 20 กิโลกรัม จากนั้นแบ่งลดคราวละ 5 กิโลกรัมไปเรื่อย ๆ การมีเป้าหมายที่เห็นผลได้จะทำให้คุณมีกำลังใจ จะมีอยู่บางสัปดาห์ที่น้ำหนักตัวของคุณไม่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นจริง ๆ ถ้าคุณออกกำลังกายก็จะมีช่วงหนึ่งที่ตราชั่งไม่แสดงความเปลี่ยนแปลง แต่คุณควรถามตัวเองบ่อย ๆ ว่า "เป้าหมายของฉันคืออะไร" ถ้าเป้าหมายคือสุขภาพดีและรูปร่างกระชับและถ้าคุณยังเลือกกินแต่ของดีมี ประโยชน์ก็ไม่สำคัญหรอกว่าตราชั่งแสดงผลอย่างไร

7. มุ่งมั่นสร้างหลักยึดของตัวเอง

เช่น คำคมให้กำลังใจ วลีคลาสสิก และเป้าหมายของคุณที่เขียนไว้และแปะในที่ ๆ คุณจะอ่านได้เป็นประจำ เช่น ประตูห้องน้ำ กระจก ประตูตู้เย็นและตู้กับข้าว มันเป็นการเตือนใจคุณเรื่อย ๆ ขอให้คุณเป็นครูฝึกและคนผลักดันให้ตัวเอง วิธีนี้ทำให้คุณประหยัดเงินและเอาเงินไปซื้อชุดชั้นในเซ็กซี่ตัวจิ๋วใส่แทน ชั้นในเก่าของคุณ

8. ออกกำลัง

สุดท้ายที่คุณต้องทำก็แค่เคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งหมายถึงออกกำลัง เริ่มต้นง่าย ๆ ก่อนคุณไม่สามารถทำสำเร็จชั่วข้ามคืนหรอกค่ะ และไม่สามารถทำทั้งหมดในคราวเดียวจำไว้ว่าเริ่มช้า ๆ และทำได้จริงคุณกำลังไต่ระดับการฝึกฝนเท่าที่คุณทำได้คือทำให้ดีที่สุดในแต่ ละช่วงเวลาอย่าหมดศรัทธาในตัวเอง เชื่อสิว่าคุณทำได้!!!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:09
วิธีแก้หิว "กินตอนกลางคืน อ้วน"
คุณผู้หญิงที่มักจะห้ามจิตห้ามใจของตัวเองไม่ให้กินตอนกลางคืนเพราะกลัวความอ้วนจะถามหาล่ะก็ วันนี้เรามี วิธีแก้หิว "กินตอนกลางคืน อ้วน" ได้ค่ะ สำหรับ วิธีแก้หิว กินตอนกลางคือ มีด้วยกัน 5 ข้อเท่านั้นเองค่ะ เป็น วิธีแก้หิว ที่ไม่ยากเลยค่ะ แต่สำหรับบ้างคนที่ กินตอนกลางคืน จนเกิดความเคยชินแล้วการจะทำใจให้เลิกกินตอนกลางคืนในทีเดียวซะเลยอาจจะดู เป็นเรื่องยากอยู่สักหน่อย แต่ก็ต้องพยายามไม่กินตอนกลางคืนให้ได้นะค่ะ นั้นเราลองมาใช้ 5 วิธีแก้หิว "กินตอนกลางคืน อ้วน" กันดีกว่าค่ะ

5 วิธีแก้หิว "กินตอนกลางคืน อ้วน"

1. กินอาหารให้ครบทั้งสามมื้อ เช้า กลางวัน และเย็น คนที่หิวตอนกลางคืนมักชอบงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งหรือไม่กินอาหารอย่างสมดุล ในระหว่างวัน

2. ติดป้ายไว้ที่ประตูตู้เย็นหรือตู้กับข้าวว่า "งดบริการหลังอาหารค่ำ"

3. แปรงฟันทันทีหลังอาหารค่ำเพื่อเตือนตัวเองว่า ห้ามกินอาหารอีกแล้ว

4. ไม่กินอาหารพร้อมกับการทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปด้วย เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ดูทีวี หรือนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะได้ไม่กินมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว

5. การกินมื้อดึกอย่างเดียว ไม่ได้เป็นสาเหตุของน้ำหนักขึ้นแต่เกี่ยวกับจำนวนแคลอรีที่คุณกินมากกว่า เวลากิน ฉะนั้นเลือกกินอาหารแคลอรีต่ำไว้ก่อนถ้าไม่อาจเลี่ยงการกินตอนกลางคืนได้ จริง ๆ

6. ถ้าคุณกินตอนกลางคืน เนื่องจากปัญหาทางจิตใจคุณต้องหันมาใส่ใจปัญหาที่เกิดขึ้นและดูแลตัวเองใน วิธีการที่ได้ผลจริง ๆ หาวิธีการที่ไม่ใช่การกินในการรับมือกับความเครียดของคุณแทน


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:09
ท่าออกกําลังกายลดหน้าท้อง "แบบไม่ต้องซิทอัพ"
วันนี้ชวนคุณผู้หญิงมาลดพุงกับท่าออกกําลังกายลดหน้าท้องซึ่ง ไม่ต้องใช้การซิทอัพแม้แต่น้อยค่ะ หลาย ๆ คนมีความเข้าใจว่า ท่าออกกําลังกายลดหน้าท้อง ส่วนใหญ่นั้นก็จะใช้แต่ท่าซิทอัพเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วยังมี ท่าออกกําลังกายลดหน้าท้อง อีกมากมายที่จะช่วยให้คุณลดหน้าท้องได้อย่างดีทีเดียวโดยไม่ต้องใช้ท่าซิ ทอัพก็ได้ค่ะ วันนี้เราเลยขอนำท่าออกกําลังกายลดหน้าท้องมาฝากคุณผู้หญิงกันด้วยค่ะด้วย ท่าออกกําลังกายลดหน้าท้องที่เราจะสอนกันในวันนี้ยังจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อ หน้าท้องให้คุณได้อีกด้วยค่ะ
ท่าออกกําลังกายลดหน้าท้อง "ลดพุงสร้างกล้ามเนื้อ"

- บริหารหน้าท้องและหลังส่วนล่าง

วิธีการ คือ ยืนแยกเท้ากว้างกว่าช่วงสะโพก งอเข่าเล็กน้อย กดไหล่ลง เกร็งหน้าท้องแล้วแอ่นช่วงเชิงกรานมาด้านหน้าจนหลังงอเล็กน้อย จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มแล้วเปลี่ยนมาแอ่นช่วงเชิงกรานไปด้านหลังทำเซ็ตละ 15 ครั้ง 2 เซ็ต

- บริหารหน้าท้องและลำตัว

วิธีการ คือ นั่งลงบนพื้น ยืดขาออกมาด้านหน้า ต้นขาชิดกัน ปลายนิ้วเท้าชี้ไปด้านหน้า เกร็งหน้าท้องแล้วเอนตัวไปด้านหลัง วางแขนช่วงล่างลงกับพื้น ฝ่ามือวางราบปลายนิ้วชี้ออกนอกตัว เริ่มด้วยการวางแขนซ้ายแล้วยกแขนขวาขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับบิดลำตัวไปทาง ซ้ายแล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น จากนั้นเปลี่ยนแขนแล้วบิดตัวไปด้านขวาบ้างทำสลับกัน 20 ครั้งเป็นหนึ่งเซ็ต ทำ 2 เช็ต

- บริหาร แขน หน้าท้อง ลำตัว และขา

วิธีการ คือ ยืนกางเท้ากว้างกว่าช่วงไหลเล็กน้อยย่อตัวจากช่วงสะโพกแล้ววางมือทั้งสอง ข้างลงบนพื้นด้านหน้าเท้าห่างออกไปราวหนึ่งฟุต ก้มศีรษะลงเกร็งหน้าท้องเอาไว้ยกเท้าซ้ายขึ้นแล้ววาดเท้ามาด้านหน้าเท้าขวา พร้อมกับงอเข่าขวาลงและลดสะโพกลงหาพื้น พยายามให้ขาซ้ายเหยียดตรงเอาไว้ จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้นแล้วเปลี่ยนมาทำแบบเดียวกันกับขาอีกข้างหนึ่งทำ สลับกันจนครบ 12 ครั้ง ถือเป็นหนึ่งเซ็ต ทำซ้ำ 2 เซ็ต


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:11
เทคนิค วิธีลดพุงแบบง่ายๆ
เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจกำลังมีปัญหาอยากจะลดพุงกันอยู่ใช่ไหมค่ะ นั้นเราไม่รอช้าขอนำเสอนเทคนิควิธีลดพุงแบบง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ลดพุงของได้อย่างจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีลดพุงแบบง่ายๆ นี้ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองด้วยนะค่ะ จะเพิ่งแต่เทคนิคและไม่ลงมือปฏิบัติไม่ได้นะค่ะ นั้นเราลองมาศึกษา เทคนิค วิธีลดพุงแบบง่ายๆ กันก่อนเลยดีกว่าค่ะ หวังว่า เทคนิค วิธีลดพุงแบบง่ายๆ นี้จะช่วยให้คุณๆ ลดพุงกันได้ทุกคนนะค่ะ

วิธีลดพุงแบบง่ายๆ

- การแพ้อาหาร

บางครั้งอาการท้องบวมอาจเกิดจากอาการระคายเคืองหรือการติดเชื้อของระบบย่อย อาหารในช่องท้อง หรืออาจรวมถึงการรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้บวมน้ำและยังรวมไปถึงการมีรอบ เดือนด้วย แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าหน้าท้องของคุณบวมขึ้นผิดปกติหลังทานอาหารบางชนิดให้ สันนิษฐานได้ว่าคุณน่าจะมีอาการแพ้อาหารเข้าให้แล้ว จากสถิติพบว่าอาหารจำพวกแป้งและนมมีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้และบวมมากที่สุด

- อาหารลดน้ำหนัก

คนที่ชอบหวังพึ่งอาหารลดน้ำหนักจำพวกโลว์แฟ้ตหรือแฟ้ตฟรีมักจะมีปัญหาพุง ป่อง เนื่องจากคุณจะคิดว่ามันเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำจึงสามารถกินมากกว่าปกติ อาหารพวกนี้อาจมีพลังงานน้อยกว่าปกติแต่มันก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้น ทางที่ดีหันมารับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นจะดีกว่า รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีเอนไซม์ช่วยย่อยอาทิ น้ำมะนาว น้ำส้มสายชูสกัดจากแอปเปิ้ลหรือผักสดต่าง ๆ

- กินช้า ๆ แต่บ่อย ๆ

เลิกนิสัยรีบกินรีบไปซะทีค่อย ๆ เคี้ยวอาหารช้า ๆ เพื่อให้ประสาทรับรู้ของเราค่อย ๆ รู้สึกอิ่ม และในแต่ละมื้ออย่ากินให้เยอะจนอิ่มแน่นท้อง คุณควรแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อย่อย ๆ แต่อย่ากินขนมจุบจิบจำพวกขนมนมเนยต่าง ๆ เลือกกินผลไม้หรือธัญพืชเมื่อหิวระหว่างมื้อจะดีกว่า


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:12
- ขจัดสารพิษ

แอลกอฮอล์ คาเฟอีน และนิโคตินในบุหรี่มีผลร้ายต่อระบบเผาผลาญอาหารของร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายบวมน้ำและยังก่อให้เกิดเซลลูไลท์อีกด้วย ดังนั้นเมื่อรู้เหตุดังนี้แล้วก็แค่ลดละเลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และ คาเฟอีนต่าง ๆ และเลิกสูบบุหรี่ไปซะด้วยเลยในเวลาเดียวกัน

- หัดกินสักนิด

ในกระเพาะของเราจะมีแบคทีเรียอาศัยอยู่เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร แต่บางครั้งแบคทีเรียเหล่านี้ก็อาจถูกกำจัดไปจากสภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยหรือการรับประทานอาหารบางชนิด แนะนำให้คุณรับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติเป็นประจำเพื่อปรับสมดุลแบคทีเรีย กลุ่มที่เป็นประโยชน์ จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและช่วยให้หน้าท้องของคุณบวมน้อยลง ด้วย

- ดื่มน้ำให้มาก

น้ำเป็นเสมือนขุมทรัพย์แห่งความงามจริง ๆ รวมไปถึงอาการบวมน้ำนี้ด้วยคุณควรดื่มน้ำให้ได้อย่างต่ำ 8 แก้วต่อวัน แต่วิธีการดื่มนั้นอย่าดื่มหมดแก้วในคราวเดียวควรจิบน้ำบ่อย ๆ เรื่อย ๆ เพราะการที่คุณดื่มน้ำแก้วใหญ่ในคราวเดียวจะทำให้กระเพาะปัสสาวะของคุณขยาย ใหญ่ ถ้าจะให้ดีลองเลือกดื่มชาสมุนไพรอาทิ ชาเป็ปเปอร์มินต์ หรือชาคาโมไมล์แทนน้ำเปล่า โดยเฉพาะการดื่มในช่วงหลังอาหารจะช่วยให้อาหารที่คุณรับประทานเข้าไปย่อยได้ ดีขึ้นด้วย

- บริหารกล้ามเนื้อหัวใจ

ผู้หญิงหลายคนเชื่อว่าการซิตอัพทุกวันจะช่วยให้หน้าท้องแบนเรียบ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย แม้ว่าการซิตอัพจะช่วยสร้างกล้ามท้องแต่ถ้าร่างกายของคุณนั้นยังปกคลุมด้วย ชั้นไขมันแล้วล่ะก็หน้าท้องเรียบตึงก็จะไม่มีวันโผล่มาให้เห็นหรอก ดังนั้นจึงจำเป็นที่คุณจะต้องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างต่ำ 3 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไปผนวกกับการซิตอัพคราวนี้ แหละสวยตึงแน่นอน

- หายใจลึก ๆ

เมื่อคุณหายใจเข้าออกแบบลึก ๆ จะช่วยให้ร่างกายจะคลายความตึงเครียดออกมา รวมทั้งยังช่วยในการเติมออกชิเจนและพลังชีวิตให้ร่างกายด้วย ทุกครั้งที่คุณหายใจให้พยายามหายใจให้ลึกเข้าไปยังท้องอย่าหยุดเพียงแค่เก็บ ลมไว้ในช่องอกการหายใจเข้าออกจากท้องเป็นนิสัยจะช่วยกระชับให้กล้ามเนื้อ หน้าท้องแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

- นวดกระชับหน้าท้อง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการนวดช่วยได้จริง ๆ เนื่องจากการนวดท้องนั้นช่วยไล่ลมที่กักเก็บไว้ในช่องท้องได้และช่วยทำให้ ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นด้วย วิธีการนวดก็ไม่ยากเพียงวางฝ่ามือลงบนท้องแล้วนวดวนตามเข็มนาฬิกา ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น คุณอาจใช้ครีมจำพวกกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องร่วมด้วยก็ได้

เป็นไงบ้างได้อ่านสาเหตุการมีพุงแล้วหรือยังแล้วคุณละจะปฎิบัติกันได้หรือ ไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง อยากมีหุ่นสวยไม่มีพุงก็ปฏิบัติได้แล้วเปลี่ยนวิธีการกินใหม่กันนะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:13
วิธีลดหน้าท้อง ด้วยอาหารอย่างได้ผล!!!
หลากหลายวิธีลดหน้าท้องที่หากว่าคุณยังไม่เคยใช้ได้ผลลอง มาเจอกับ วิธีลดหน้าท้อง ของเราดูซิค่ะ เป็นวิธีที่เราคิดว่าง่ายมากขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณเลือกรับประทานเท่านั้น แต่บางคนอาจจะว่ายากก็ได้ค่ะเพราะการใช้ชีวิตประจำวันหรือการเลือกอาหารของ แต่ล่ะคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่หากว่าคุณอยากจะ ลดหน้าท้อง โดยที่ไม่ต้องเสียเหงื่อก็ต้องใช้ วิธีลดหน้าท้อง ด้วยอาหารของเราเนี่ยแหละค่ะเป็นวิธีที่ดีที่สุดและไม่มีวิธีไหนจะดีเท่านี้ อีกแล้ว หากว่าคุณใช้วิธีลดหน้าท้องของเราแม้ว่าคุณจะไม่มีเวลาไปออกกำลังกายแต่คุณ ก็ยังสามารถที่จะทำให้หน้าท้องของคุณแบนราบได้อย่างง่ายดาย เพียงปรับการกินหรือการเลือกอาหารเท่านั้น เพียงแค่นี้คงไม่อยากอะเนอะหากคิดจสวยซะอย่าง

วิธีลดหน้าท้อง

แคลอรี่ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะทำให้หน้าท้องเพิ่มหรือลดแต่อาหารบางอย่างดู จะมีผลต่อไขมันกลางลำตัวของเรามากกว่า เมื่อไม่นานมานี้ผู้เชี่ยวชาญจากการศึกษาแบบต่อเนื่องของ Framingham Nutrition รายงานว่า ผู้หญิงที่กินน้อยลงไปเกือบ 400 แคลอรี่ต่อวัน แต่เลือกอาหารที่มีสารอาหารน้อยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสองเท่าครึ่งในการมี หน้าท้องใหญ่ขึ้น เมื่อเทียบกับคนที่กินมากกว่าแต่กินอาหารที่ดีกว่า คุณจึงไม่จำเป็นต้องอดอาหารเพียงแต่ต้องรู้จักเลือกอาหารให้มากขึ้น เพื่อปราบหน้าท้องให้อยู่ในที่ในทาง นั่นก็คือ 4 อาหาร ต่อไปนี้

1. ผักและผลไม้

ผู้หญิงลดขนาดเอวได้ด้วยการแทนที่อาหารที่เป็นแป้งขัดขาวและน้ำตาลด้วย คาร์โบไฮเดรตจากผักและผลไม้โดยเฉพาะที่มีสีส้ม นี่เป็นการรีวิวจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน นอกเหนือจากเส้นใยอาหารที่ทำให้คุณรู้สึกอิ่มยาวนานกว่า นักวิจัยยังคาดว่า แอนตี้ออกซิแดนท์ อย่างเช่น วิตามินซีและเบต้าแคโรทีนคือสิ่งที่ช่วยกำจัดไขมันหน้าท้องออกไปได้

2. โปรตีน

การกินโปรตีนมากขึ้นทำให้คุณอิ่มและเพิ่มพลังงานซึ่งนำไปสู่การลด น้ำหนักโดยรวม และสำหรับคนที่อายุมากกว่า 40 จะช่วยลดไขมันหน้าท้องได้เป็นพิเศษ นี่เป็นผลการค้นพบของวิทยาลัยสกิดมอร์และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน แต่งานวิจัยชี้ว่าการกินโปรตีนในปริมาณสูง ๆ อาจทำให้ไตทำงานหนัก เพราะอาจทำให้เกิดการสูญเสียแคลเซียมได้ ควรตั้งเป้ารับแคลอรี 25% จากโปรตีน (ถ้าคุณกินวันละ 2,000 แคลอรี่ นั่นก็คือ 500 แคลอรี่ จากโปรตีน) และเลือกโปรตีนแบบไร้ไขมัน อย่างเช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ นมไร้ไขมัน ปลาและสัตว์ปีกไร้หนัง ถั่วเป็นแหล่งที่ดีอีกอย่างหนึ่งแต่อาจมีแคลอรี่ค่อนข้างสูง

3. เซเลเนียม

นี่เป็นแร่ธาตุที่ช่วยต่อสู้มะเร็งและเชื่อมโยงกับไขมันหน้าท้อง จากการสำรวจคนอเมริกันมากกว่า 8,000 คน คนที่มีระดับเซเลเนียมและแอนตี้ออกซิแดนท์อื่น ๆ ในเลือดน้อยกว่าจะมีรอบเอวที่ใหญ่กว่า เซเลเนียมพบในอาหารหลายชนิดแต่มันอาจยากที่จะรู้ว่าคุณได้รับปริมาณครบตาม ที่แนะนำหรือเปล่า (55 ไมโครกรัม) เพื่อให้ได้ปริมาณตามต้องการลองกินวิตามินเสริมหรือกินอาหารให้หลากหลาย


4. ไขมันที่ดี

การวิจัยชิ้นหนึ่งของสเปนชี้ให้เห็นว่า มันง่ายกว่าที่จะรักษาความผอมเพรียวด้วยการกินไขมันแบบไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (เช่น น้ำมันมะกอก) และโอเมก้า-3 (ส่วนใหญ่พบในปลา แต่ก็มีในเมล็ดต้นแฟลกซ์ น้ำมันวอลนัตและเต้าหู้) ในขณะที่ไขมันเมก้า-6 (มีมากในซีเรียลน้ำมันข้าวโพดและไข่) เป็นเหตุให้ไขมันหน้าท้องเพิ่มพูน แต่ไขมันที่ควรกำจัดโดยสิ้นเชิงก็คือ ไขมันทรานส์ที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร


ในการศึกษาของมหาวิทยาลัยเวกฟอเรสต์ลิงที่กินอาหารแบบที่คนอเมริกาทั่วไปกิน เป็นเวลา 6 ปี มีน้ำหนักมากขึ้นเทียบเท่ากับน้ำหนักมนุษย์ 10 ปอนด์ ถ้าไขมันที่พวกมันกินคือ ไขมันทรานส์อย่างเดียวเทียบกับพวกที่กินไขมันที่เพิ่มขึ้น 30% นั้นจะเพิ่มขึ้นในส่วนของหน้าท้องด้วย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:14
วิธีลดพุงอย่างรวดเร็ว "ได้ผลจริง!!!"
วันนี้เรามีวิธีลดพุงอย่างรวดเร็วมาฝากคุณผู้หญิงกันอีก เช่นเคยค่ะ ด้วย วิธีลดพุงอย่างรวดเร็ว นี้จะช่วยทำให้คุณผู้หญิงมีความมั่นใจมากขึ้น และยิ่งหากว่าคุณนั้นมีธุระหรือนัดเดทกับหนุ่มจำเป็นต้องใส่เสื้อผ้ารัดรูป คงจะกลุ้มอกกลุ้มใจกับไขมันส่วนเกินน้อยอย่างพุงมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะค่ะ นั้นเราไม่ต้องรอช้ามาเริ่ม วิธีลดพุงอย่างรวดเร็ว ด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ ด้วย วิธีลดพุงอย่างรวดเร็ว นี้จะทำให้คุณลดพุงน้อย ๆ ของคุณได้อย่างทันถ่วงทีค่ะ เป็นการ ลดอ้วนลดพุง ไปในตัวอีกด้วยนะค่ะ
วิธีลดพุงอย่างรวดเร็ว

- ซิทอัพ

เป็นการออกกำลังกายขั้นเบสิคที่ให้ผลดีเสมอแต่ให้ลองเปลี่ยนจากเดิมที่นอน ราบ และยกช่วงตัวท่อนบนขึ้นมาเป็นการนอนราบปกติและยกขาทั้งสองข้างขึ้นลงแทน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการปวดหลังและไหล่ได้และคุณยังได้บริหาร กล้ามเนื้อต้นขาและบั้นท้ายไปพร้อม ๆ กัน สำหรับครั้งแรกอาจจะยากหน่อยที่ต้องเกร็งยกขาขึ้นและยกได้ไม่สูงนักแต่พอทำ ไปสักพักคุณจะยกขาได้สูงจนทำมุมเป็น 90 องศากับลำตัวเลยทีเดียว และเป็นวิธีที่เรียกเหงื่อได้ดีทีเดียว


- ทานอาหาร

ช่วงนี้คงต้องฝืนความรู้สึกอย่างมากในการงดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมันในอาหารจานโปรด แต่ก็คงไม่ฝืนเกินไปที่จะหันมาทานจำพวกผักผลไม้สารพัดชนิด จะทานสดแบบสลัดหรือจะนำไปต้ม นึ่ง ผัด ทอด ก็แล้วแต่ความชอบได้เลยค่ะ แต่ควรระวังในเรื่องของการใช้น้ำมันและการเติมน้ำตาลปรุงรสด้วย ผักที่แนะนำให้ทานในช่วงดูแลรูปร่าง เช่น บร็อกโคลี่ มะเขือเทศ แตงกวา หอมหัวใหญ่ ส่วนผลไม้ก็ต้องยกให้ ฝรั่ง แอปเปิ้ล กล้วย และส้ม


- ฝึกหายใจ

อย่าหายใจทิ้งไปวัน ๆ เท่านั้นค่ะ เพราะการหายใจมีส่วนอย่างมากในระบบไหลเวียนโลหิตและระบบเผาผลาญอาหารในร่าง กาย การหายใจที่ถูกต้องคือการหายใจอย่างช้า ๆ และลึก ๆ และทุกครั้งที่หายใจเข้าหน้าท้องจะป่องออกเพื่อรับลมเข้าและแบนลงเมื่อหายใจ ออก ลองหาเวลาพักจากงานสัก 10 นาที นั่งหรือยืนตัวตรงในท่าสบายเริ่มหายใจเข้าออกช้า ๆ เป็นจังหวะ ข้อดีคืออย่างของการกำหนดลมหายใจคือ คุณจะรู้สึกอิ่มจากอาหารแต่ละมื้อนานขึ้นและอยากอาหารได้น้อยลงด้วย


- ความเชื่อที่เข้าใจผิด

เป็นความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า ถ้าใส่เสื้อผ้ารัด ๆ หรือหาอะไรมารัดร่างกายในส่วนที่อวบอ้วนให้แน่นจนแทบจะหายใจไม่ออกเพื่อให้ ผอมลง เพราะจริง ๆ แล้วการทำเช่นนั้นจะยิ่งทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกเจ็บซ้ำกล้ามเนื้อและไม่ มีทางกำจัดไขมันได้ แถมซ้ำไขมันที่ถูกบีบรัดมาก ๆ จะกระจายไปอยู่ตามส่วนอื่นของร่างกายเข้าไปอีก วิธีที่ดีที่สุดคือการใส่เสื้อผ้าสบายตัวหันมาออกกำลังกายและเลือกทานอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพจะเวิร์คกว่าค่ะ


- ทางรัดการลดพุง

จนแล้วจนรอดรอบเอวก็ยังลดไม่ถึง 1 เซนติเมตร เวลาก็กระชั้นเข้ามาอีกแค่ไม่กี่วันเห็นทีต้องพึ่งทางลัดซะแล้ว ลองหันมาใช้ความทันสมัยดูค่ะ อย่างการใช้คลื่นอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีผลวิจัยออกมาแล้วว่า คลื่นดังกล่าวสามารถช่วยลดกระชับสัดส่วนได้จริง โดยจะเป็นไปในลักษณะของการบริหารที่จะทำให้กล้ามเนื้อหดและคลายตัวสลับกันไป มาทุก ๆ 5 วินาที จะรู้สึกได้เลยว่า กล้ามเนื้อมีการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนผลที่ได้ก็ไม่ต่างจากการไปออกกำลังกาย และสามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกายเพียงใช้แค่ 20 นาที จะให้ผลเหมือนซิทอัพ 240 ครั้งเชียวค่ะ ซึ่งอุปกรณ์ที่ได้ผลจริงและกำลังเป็นที่นิยมกันมากขณะนี้คือ เข็มขัดกระชับสัดส่วน


อย่าปล่อยให้พุงอวบ ๆ เป็นตัวบั่นทอนความมั่นใจในวันหรือคืนพิเศษของคุณนะคะ เพราะความมั่นใจในรูปร่างและบุคลิกที่ดี คือความประทับใจแรกเห็นค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Slim Up


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:19
6 ท่าโยคะลดน้ำหนัก
Obesity Therapy เป็นโยคะแบบประยุกต์เพื่อให้ลดสัดส่วน ซึ่ง คุณครูแฮ้งค์-ปรีชา พุฒทอง ได้ทำการศึกษาและทดลองมานานกว่า 3 ปี จนได้รับลิขสิทธ์และการการันตีว่าช่วยลดไขมัน 6 จุดในร่างกาย กับ 6 ท่าโยคะลดน้ำหนัก

ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ข้อต่อยืดหยุ่น ลดอาการเมื่อยล้า สร้างสมดุลให้ร่างกายและจิตใจรวมถึงพัฒนาทักษะในการควบคุมการใช้อวัยวะ ให้รู้ถึงจังหวะการหายใจ และสอนให้รู้สึกตัวในขณะปฏิบัติ โดยทั้ง 6 ท่าโยคะลดน้ำหนัก นี้จะเป็นท่าพื้นฐานใน 35 ท่าโยคะ Obesity Therapy ที่ทำง่ายและได้ผลดี

6 ท่าโยคะลดน้ำหนัก ได้แก่

1.ท่าหน้าวัวประยุกต์

A. ยืนตัวตรงเท้าชิดติดกัน มือขวาจับปลายผ้าขนหนูข้างหนึ่ง ยกแขนขวาขึ้นแล้วงอข้อศอกลงไปด้านหลังศีรษะ แขนซ้ายแนบติดลำตัวงอแขนไว้ด้านหลังขนานกับช่วงเอว จับปลายผ้าขนหนูอีกข้าง

B. หายใจเข้า มือขวาออกแรงดึงผ้าขนหนูขึ้นให้แขนขวาชิดใบหู
C. หายใจออก มือซ้ายดึงผ้าขนหนูลงจนแขนซ้ายตึง ระวังอย่าให้แขนซ้ายแยกออกจากลำตัว และต้องดึงผ้าให้ตึงตลอด ทำต่อเนื่องจนครบ 10 ครั้ง ครั้งที่11 ลดแขนทั้งสองให้ขนานกันดังภาพแล้วออกแรงดึงผ้าให้ตึง ปล่อยแขนลงผ่อนคลาย ทำซ้ำอีกข้าง ท่านี้จะช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณท้องแขนได้เป็นอย่างดี Happy

2. ท่าเรือกลไฟ

A. ยืนตัวตรงกางขาออกกว้างเป็น 3 เท่าของช่วงไหล่ ขาเหยียดตรงเปิดปลายเท้าขวาให้ตั้งฉากกับลำตัว หายใจเข้า หงายฝ่ามือยกแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นขนานกับพื้น หายใจออก หมุนตัวมาทางขวามือ 90 องศา

B. หายใจเข้าประสานมือดันนิ้วชี้ขึ้นเหนือศีรษะ ยืดแขนให้ตึง หายใจออก งอเข่าขวาให้ตั้งฉากไม่เกินนิ้วโป้งเท้า

C. หายใจเข้า เกรงขายืดแขนให้ตึง หายใจออก ยืดตัวตรง แขม่วท้อง

D. หายใจเข้า เกร็งขายืดตรง กลับไปท่าเริ่มต้น ทำแบบนี้ข้างละ 3 ครั้ง ท่านี้จะช่วยลดไขมันท้องแขน และสะโพก ได้บริหารปีกสะบักกลางหลัง และกล้ามเนื้อต้นขา

3. ท่าบิดลำตัว

A. นั่งหลังตรง ใช้ขาซ้ายไขว้ขาขวา ปลายเท้าขวาวางข้างสะโพก อกชิดติดเข่า แขนซ้ายกอดหัวเข่าขวา

B. หายใจเข้าให้ลึก วาดแขนขวาไปทางด้านหลังวางไว้ที่เอว หายใจออก แขม่วท้องบิดเอวหันหน้าไปทางด้านหลัง หายใจเข้าหันหน้ากลับท่าเริ่มต้น ทำ 3 รอบแล้วเปลี่ยนข้าง ท่านี้จะช่วยลดเอว หน้าท้อง ต้นขา ปีกสะบัก และแนวขอบอก

4. ท่ายืดส่วนหลัง

นั่งหลัง ตรง ยืดขาทั้งสองข้างไปด้านหน้าเกร็งปลายเท้าให้ตั้งฉาก หายใจ เข้ายกแขนทั้งสองข้างเหนือศีรษะ หายใจออก คว่ำมือแล้วค่อยๆ ก้มตัวลง เกร็งกล้ามเนื้อบริเวณช่วงเอว แล้วใช้นิ้วชี้เกี่ยวนิ้วโป้งเท้า ค่อยๆ ก้มตัวลงอีก งอศอกเล็กน้อยค้างไว้ประมาณครึ่งนาที (สำหรับคนที่ไม่สามารถเกี่ยวนิ้วได้ อย่าฝืน ให้จับบริเวณใต้เข่าและก้มตัวเท่าที่ทำได้) ยืดตัวขึ้นช้าๆ ท่านี้จะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย บริหารกล้ามเนื้อส่วนหลัง และต้นขา

5. ท่าสะพาน

A. หายใจเข้านอนหงายขนานกับพื้น งอขาชันเข่า เอามือจับที่ส้นเท้า เกร็งหัวเข่ากดคางกับหน้าอก

B. หายใจเข้า ยกสะโพกขึ้นเท่าที่ทำได้ (ใช้มือค้ำที่เอวได้) หายใจออก หายใจเข้า เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพก หายใจออก ค่อยๆ วางตัวลงกับพื้น ทำ 4 ครั้ง ท่านี้จะช่วยลดไขมันหน้าท้อง ต้นขา และบริหารกล้ามเนื้อหลัง

6. ท่าศพ

นอนเหยียด ขา กระดกปลายเท้า เกร็งเท้า เข่า ต้นขา สะโพก ขมิบก้น เกร็งส่วนคอ กำหมัดแล้วเกร็ง โดยเกร็งส่วนละ 2 วินาที แล้วปล่อยให้ผ่อนคลายเป็นท่าจบและนอนพัก การเกร็งส่วนต่างๆ จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ไอเอ็นเอ็น

clip_image001.jpg (201.14 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 2)

ท่าโยคะลดน้ำหนัก

ท่าโยคะลดน้ำหนัก

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:20
เคล็ดลับ หุ่นเฟิร์ม กระชับทุกสัดส่วน
วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับหุ่นเฟิร์มกระชับทุกสัดส่วนและ ที่สำคัญนะค่ะไม่ใช่คุณจะมี หุ่นเฟิร์ม กระชับทุกสัดส่วนเท่านั้นนะ แต่เคล็ดลับ หุ่นเฟิร์ม นี้ยังเป็นวิธีที่ง่าย ๆ อีกด้วยค่ะ เพียงแค่คุณใช้เวลาตอนอยู่หน้าทีวีก็ยังได้เลยค่ะ ลองหันมาหุ่นเฟิร์มกันตอนอยู่หน้าทีวีนอกจากจะได้หุ่นเฟิร์มกระชับทุกสัด ส่วนยังได้ลดน้ำหนักแถมหุ่นยังดีอีกต่างหากใครไม่ทำเป็นไม่ได้เลยจริงไหมค่ะ กับเคล็ดลับนี้ ดีกว่าจะมัวมานั่งดูทีวีแบบเฉย ๆ และหยิบนั่นกินนี่อย่างนี้มีแต่อ้วนออกอ้วนออกนะค่ะ รองใช้เคล็ดลับ หุ่นเฟิร์ม กระชับทุกสัดส่วนนี้ดูค่ะนอกจากคุณจะเพลินไปกับการดูทีวีแล้วยังได้ออกกำลัง กายอย่างสนุกสนานและเพลินไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีอีกต่างหากค่ะ
หุ่นเฟิร์ม กระชับทุกสัดส่วน

- วิธีลดแขน

ในท่ายืน ก้มตัวลง วางมือข้างหนึ่งลงบนเก้าอี้ ถือขวดน้ำหรือดัมเบลเอาไว้ในมืออีกข้างหนึ่ง งอข้อศอกทำมุม 90 องศา จากนั้นยืดแขนข้างที่ถือขวดน้ำขึ้นไปข้างหลังตรง ๆ หยุด แล้วกลับสู่ท่าเริ่ม ทำซ้ำข้างละสองเซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง
- วิธีลดก้น

คุกเข่า จากนั้น ก้มตัวลงเท้าข้อศอกลงบนพื้น ศีรษะก้มลงเกือบแตะพื้น เตะขาข้างหนึ่งขึ้นไปข้างหลังสูง ๆ จากนั้นลดขาลง ทำซ้ำ 20 ครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนข้าง

- วิธีลดหน้าท้อง

นอนหงายวางแขนไขว้กันไว้ใต้ศีรษะชันเข่าขึ้นทั้งสองข้างเท้าวางราบกับ พื้น จากนั้นค่อย ๆ ยกศีรษะและอกขึ้นจากพื้นพร้อมกับเหยียดขาข้างหนึ่งขึ้นข้างบนค้างไว้ครู่ หนึ่งก่อนกลับสู่ท่าเริ่ม จากนั้นทำซ้ำแต่เปลี่ยนเป็นยกขาอีกข้างหนึ่งพยายามยกขาแต่ละข้างให้ได้ 6 ครั้ง และค่อย ๆ เพิ่มเป็น 10 ครั้ง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:21
6 วิธีออกกําลังกาย "หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วน"
วันนี้เรามี 6 วิธีออกกําลังกาย ให้ หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วนค่ะ คุณผู้หญิงคนไหนที่ยังไม่เบื่อกับ วิธีออกกําลังกาย ล่ะก็เราของท้าให้คุณลอง 6 วิธีออกกําลังกาย ของเราค่ะ แล้วคุณจะได้มี หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วนอย่างที่ใจคุณต้องการเลยค่ะ เรียกได้ว่าห่างไกลไขมันหรือน้ำหนักที่กวนใจคุณไปได้เลยค่ะ ด้วย 6 วิธีออกกําลังกายนี้นอกจากจะทำให้หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วนแล้วประเด็นหลักของวิธีออกกําลังกายนี้ต้องการให้คุณนั้นมีหน้า ท้องแบนราบ ไหล่และแขนเข้ารูป ต้นแขนกระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ขาเรียวสวย สะโพกกลมกลึง ระบบไหลเวียนในร่างกายแข็งแรง ที่สำคัญนะค่ะวิธีออกกําลังกายนี้ยังไม่ยุ่งยากแถมใช้เวลาเพียงนิดเดียวเท่า นั้นค่ะ นั้นเรามาเริ่ม 6 วิธีออกกําลังกาย กันเลยดีกว่าค่ะ


6 วิธีออกกําลังกาย

1.หน้าท้องแบนราบ

เริ่มด้วยการนอนคว่ำลงกับพื้นให้แขนด้านในและหัวเข่าชิดพื้นไว้ จากนั้นค่อย ๆ ชันศอกทั้งสองข้างขึ้นยันพื้นไว้โดยให้แขนทั้งสองข้างนี้แยกออกจากกัน ความกว้างประมาณสะโพก พร้อมกันนั้นให้ใช้ปลายนิ้วเท้ายันพื้นไว้ให้ลำตัวลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ออกแรงบริเวณหัวไหล่กดลำตัวลงสู่พื้น พยายามเกร็งนิ้วเท้าและแขนด้านในไว้อย่าให้ลำตัวติดพื้น กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องจะตึงขึ้นทรงตัวให้อยู่ในท่านี้ประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำประมาณ 3-4 ครั้ง หรือให้ครบ 1 นาทีก็ได้

2.แขนและหัวไหล่เข้ารูป

ท่าชกลมนี้สามารถทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้ไม่แพ้ท่าอื่น ๆ เริ่มด้วยท่ายืนแยกเท้าความกว้างประมาณสะโพก ก้าวขาซ้ายไว้ด้านหน้าขาขวาเล็กน้อยโดยบิดส้นเท้าซ้ายเข้าด้านในเล็กน้อย ปลายเท้าขวาหันออกไปด้านหน้า ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นให้ข้อศอกแนบลำตัวไว้กำมือไว้ให้แน่นและวางไว้ใน ตำแหน่งใต้คาง ปล่อยหมัดขวาแย็บออกไปด้านหน้าพร้อมเหยียดขาขวาให้ตึงด้วย ระหว่างนี้อย่าลืมบิดสะโพกไปด้านขวาเล็กน้อยหมัดที่ปล่อยออกไปพยายามเหยียด ให้ตึงและฝ่ามือคว่ำลง จากนั้นให้สลับหมัดเป็นอีกข้างหนึ่งอย่างรวดเร็วหมัดข้างที่ดึงกลับให้กลับ มาไว้ที่ตำแหน่งใต้คางเช่นเดิม

3.ต้นแขนกระชับ

อุปกรณ์เสริมที่ต้องนำมาใช้สำหรับท่านี้ก็คือ ดัมเบลล์ค่ะ เมื่อเลือกดัมเบลล์ที่เหมาะสมแล้วให้ยืนแยกเท้าทั้งสองข้างออกประมาณสะโพก โดยให้ฝ่ามือที่ถือดัมเบลล์หันเข้าลำตัว ก้าวขาขวาไปทางด้านหลังและยกส้นเท้าไว้เหนือพื้นค่อย ๆ งอเข่าขวาลงให้อยู่ในระดับข้อเท้าซ้าย จากนั้นค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาระดับหัวไหล่โดยให้ฝ่ามือหันเข่าหัวไหล่ค่อย ๆ ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะทำซ้ำท่านี้ โดยสลับข้างขาไปเรื่อย ๆ ประมาณ 8-12 ครั้งค่ะ

4.เพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อขา

นอนหงายบนพื้นราบงอเข่าซ้ายขึ้นค่อย ๆ ดึงหัวเข่าขวาให้ชิดกับหน้าอก จากนั้นค่อย ๆ เหยียดขาขวาขึ้นตั้งฉากกับพื้นช้า ๆ โดยใช้มือทั้งสองข้างจับบริเวณต้นขาไว้ เพื่อช่วยในการทรงตัว ค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จากนั้นจึงเริ่มทำซ้ำอีกครั้งโดยสลับทำอีกข้างหนึ่ง

5.ขาเรียวสวยพร้อมสะโพกกลมกลึง

ยืนแยกเท้าทั้งสองข้างออกเล็กน้อยวิ่งอยู่กับที่ โดยระหว่างที่วิ่งให้ยกหัวเข่าสูงเท่าที่จะทำได้ แกว่งแขนสลับข้างไปเรื่อย ๆ ในระหว่างการวิ่ง วิ่งไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพื่อกล้ามเนื้อขาและสะโพกที่กระชับมากยิ่งขึ้น

6.กระตุ้นระบบไหลเวียนในร่างกาย

ท่าบริหารนี้ไม่ยากสักเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองค่ะ เพราะท่านี้ก็คือการเต้นสะบัดร่างกายทั้งตัว เพื่อเพิ่มการไหลเวียนในร่างกาย อาจจะเปิดเพลงประกอบลีลาก็ได้ค่ะ เช่น เพลงฮิปฮอป ร็คแอนด์โรล รับรองว่าทั้งสนุกและช่วยให้แข็งแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อเชียวค่ะ


อย่าลืมนะคะว่า ควรออกกำลังกายให้สนุกควบคู่ไปกับการทานอาหารให้สมดุลรับรองค่ะว่าคุณสาว ๆ จะมีหุ่นเฟิร์มสวย และแข็งแรงไม่แพ้สาวคนอื่น ๆ แน่นอน เห็นไหมคะว่าจะสวยทั้งทีไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย จริงไหมคะ?

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สวยด้วยแพทย์

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:22
วิธีลดคอ "เป็นชั้น ๆ" ภายในหนึ่งสัปดาห์
เอาล่ะคะสาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาคอเป็นชั้น ๆ คออ้วน แล้วก็อยากลดคอล่ะก็ วันนี้เรามีข่าวดีเรื่อง วิธีลดคอ "เป็นชั้น ๆ" ภายในหนึ่งสัปดาห์ มาฝากกันด้วยค่ะ สำหรับ วิธีลดคอ จะช่วยให้คุณผู้หญิงนั้นมีคอดูเรียวขึ้นและสวยขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ค่ะ และไม่เพียงเท่านั้น วิธีลดคอ นี้ยังช่วยให้คุณกระชับกล้ามเนื้อคอกันอีกด้วยค่ะ สำหรับคุณผู้หญิงที่มี คอหนา คออ้วน หรือ คางสองชั้น ก็สามารถช่วยคุณได้เช่นเดียวกันค่ะ ฉะนั้นเราไม่ต้องรอช้าเรามาดู วิธีลดคอ "เป็นชั้น ๆ" ภายในหนึ่งสัปดาห์ กันเลยดีกว่าค่ะ

วิธีลดคอ "เป็นชั้น ๆ"

- นอนราบ ใช้มือ 2 ข้างกุมลำคอไว้ ยกศีรษะสูงจากพื้นประมาณ 1/2 นิ้ว เกร็งค้างไว้ 30 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้ง

- นอนราบ แขนแนบลำตัว ยกศีรษะและไหล่ขึ้นจากพื้นประมาณ 1 ซม. บิดหน้าไปทางซ้ายช้าๆ เปลี่ยนข้าง ทำซ้ำ 10 ครั้ง

- นั่งยืดตัวตรง วางมือที่ต้นคอเหนือไหปลาร้า เงยหน้า มือรั้งผิวหนังให้ตึง ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 15 ครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health&Cuisine

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:23
ต้นแขนใหญ่ทําไงดี? เรามี! "ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับ มาฝาก"
ต้นแขนใหญ่ทําไงดี? ต้นแขนใหญ่ทําไงดี? ปัญหานี้กำลังมีทางออกสำหรับคุณผู้หญิงแล้วค่ะ จะอะไรนะเหรอก็ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับที่ เรากำลังจะหยิบยกมาฝากกันนะซิค่ะ ด้วย ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับ นี้คุณจะลืมคำถาม ต้นแขนใหญ่ทําไงดี? ไปเลยนะจะบอกให้ค่ะ ขอเพียงตั้งใจอะไรก็ทำได้จริงไหมค่ะ อย่างกับคำที่คุ้นหู เป้าหมายมีไว้พุ่งชน อิอิอิ ฉะนั้นแล้วใครอยากอวดเรียวแขนงาม เฟิร์ม กระชับ ไม่เด้งดึ๋งก็ต้องมาเริ่มจาก ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับ ที่เรานำมาฝากกันในวันแล้วล่ะจ๊ะ เริ่มเร็วก็ลดเร็วนะจ๊ะจะบอกให้

ท่าบริหารลดต้นแขน เฟิร์ม กระชับ

1. ท่ายืดกล้ามเนื้อต้นแขน

- นอนราบกับพื้นมือขวาถือดัมเบลล์ขนาดเหมาะมือ เหยียดแขนขวาตั้งตรงใช้มือซ้ายยืดแขนขวาไว้ให้มั่นคง

- พันเฉพาะปลายแขนขวาลงช้า ๆ (ช่วงต้นแขนตั้งแต่หัวไหล่ถึงข้อศอกอยู่ในแนวเดิม) โดยวาดมือไปยังหัวไหล่ซ้าย จากนั้นยืดแขนขึ้นสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำ 1-3 ชุด ชุดละ 8-12 ครั้ง แล้วสลับทำที่แขนอีกข้าง

2. ท่าต้นแขนเอียงลาด

- นั่งบริเวณขอบเก้าอี้มือจับขอบเก้าอี้ไว้โดยให้ช่วงมือห่างเท่าความกว้างของ หัวไหล่ หันนิ้วมือไปทางด้านหน้าจากนั้นเลื่อนสะโพกโดยก้าวเท้าไปข้างหน้าให้พ้นจาก ที่นั่งกระทั่งเข่างอตั้งฉากกับพื้น 90 องศา

- ลดระดับสะโพกลงซึ่งจะทำให้หัวไหล่ลดระดับลงด้วยท่านี้จะทำให้ต้นแขนเอียงลาด และข้อศอกชี้ไปทางด้านหลัง จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำ 1-3 ชุด ชุดละ 8-12 ครั้ง

3. ท่าวิดพื้น

- คุกเข่าโดยเหยียดแขนตรงตั้งฉากกับพื้นหัวเข่าอยู่ในแนวเดียวกับสะโพกและเกร็งหน้าท้องไว้

- ลดระดับหน้าอกลงสู่พื้นโดยให้ข้อศอกแนบลำตัวไว้ตลอดเวลาค้างไว้ชั่วครู่ จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำ 1-3 ชุด ชุดละ 8-12 ครั้ง


ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะแต่ต้องกระซิบให้ทราบสักนิดว่าถึงจะบริหารให้กระชับ ยังไง โดยธรรมชาติแล้วกล้ามเนื้อหลังต้นแขนจะแกว่งเล็กน้อยเวลาที่คุณเคลื่อนไหว แขนไปมาจึงไม่ต้องวิตกกังวลนะคะ เอาล่ะค่ะ...หมดเวลาปกปิดต้นแขนด้วยเสื้อแขนยาวรุ่มร่ามกันแล้ว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สวยด้วยแพทย์


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:24
วิธีลดต้นแขน "แบบได้ผลและเรียวเล็ก"
วันนี้ชวนคุณผู้หญิงมาบอกลาต้นแขนใหญ่ด้วยวิธีลดต้นแขนแบบ ได้ผลแล้วคุณจะได้มีแขนที่เรียวขึ้นและเล็กขึ้นอีกด้วยค่ะ ด้วย วิธีลดต้นแขน ต่อไปนี้จะช่วยให้คุณมีแขนที่กระชับไม่หย่อนคล้อยและทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ขึ้นอีกด้วยค่ะ ถ้าคุณผู้หญิงได้ลองนำ วิธีลดต้นแขน ไปฝึกปฏิบัติตามกันดูนะค่ะ เพราะเป็น วิธีลดต้นแขน แบบง่าย ๆ ที่คุณก็สามารถทำเองได้ที่บ้านที่สำคัญใช้เวลาไม่มาก เชื่อว่า วิธีลดต้นแขน นี้คุณผู้หญิงน่าจะสนุกไปกับการลดต้นแขนที่ช่วยให้คุณบอกลาแขนล่ำใหญ่ได้ อย่างง่ายดายและเมื่อคุณมีแขนที่เรียวเล็กสมใจแล้วก็จะได้ใส่เสื้อโชว์แขน ได้อย่างมั่นใจกันเลยทีเดียวค่ะ

วิธีลดต้นแขน

- บริหารต้นแขนด้านใน นั่งตรงขอบเก้าอี้ถือเวทหรือขวดน้ำที่มีขนาดพอดีมือ แล้วโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยใช้มือซ้ายยันเข่าเพื่อพยุงตัว ส่วนข้อศอกขวายึดไว้กับเข่าขวาด้านในยกเวทหรือขวดน้ำเข้าหาไหล่ทำสัก 20 ครั้ง สลับกันทั้งสองข้าง

- บริหารต้นแขนด้านนอก ยืนแยกเท้าและงอเข่าเล็กน้อย มือถือลูกบอลยกขึ้นเหนือศีรษะ งอข้อศอกและส่งลูกบอลไปด้านหลังจนจรดต้นคอ กลับสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำอย่างน้อย 30 ครั้ง

- บริหารไหล่ มือ ซ้ายและขวาถือขวดน้ำข้างละใบไว้ที่ระดับสะโพกค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ แล้วเหวี่ยงไปข้างหลัง วนเป็นรูปวงกลมทำประมาณ 10 รอบ แล้วเปลี่ยนสลับข้าง

- บริหารไหล่และหลัง ยืนแยกเท้าและงอเข่าเล็กน้อยในมือทั้งสองถือพ็อคเก็ตบุคข้างละ 2-3 เล่ม พักไว้ตรงหน้าขาค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นสูงถึงระดับไหล่ ชูแขนเหยียดตรงเกร็งกล้ามเนื้อพร้อมลดแขนลงช้า ๆ ทำซ้ำประมาณ 20 ครั้ง

- บริหารอกและแขน ตั้งเก้าอี้วางชิดผนังมือเกาะที่ขอบเก้าอี้ทรงตัวเหยียดแขนตรงยืนบนปลายเท้า จากนั้นงอศอกดึงตัวเข้าหาเก้าอี้ให้ใกล้ที่สุดแล้วยืดแขนออกทำซ้ำสัก 30 ครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก front

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:25
วิธีการลดต้นขา "ใหญ่" อย่างได้ผล!!!
ความกังวลใจของสาวขาใหญ่คงเป็นเรื่องน่ากลุ้มใจหนักมิใช่น้อยค่ะ วันนี้เราจะช่วยคุณคลายความกังวลใจในเรื่องนี้ด้วยวิธีการลดต้นขา "ใหญ่" อย่างได้ผล!!! ที่จะทำให้คุณนั้นได้อวดเรียวขาของคุณได้อย่างไม่ต้องอายใครอีกต่อไปค่ะ สำหรับ วิธีการลดต้นขา นี้เราก็ยังมาด้วยกันหลาย วิธีการลดต้นขา เพื่อให้คุณผู้หญิงได้ลองเลือกกันอย่างหลากหลายค่ะ คุณผู้หญิงท่านไหนที่อยากจะอวดเรียวขาก็ต้องตั้งใจกับวิธีการลดต้นขาที่นำมา แนะนำนี้กันหน่อยแล้วค่ะ แล้ว วิธีการลดต้นขาใหญ่ นี้ไม่ใช่แค่ลดต้นขาเท่านั้นนะค่ะ แต่ยังจะช่วยให้เรียวขาของคุณให้เล็กลงกระชับขึ้นแล้วขายังเรียวสวยอีกต่าง หากค่ะ ฟังแบบนี้แล้วพร้อมกับ วิธีการลดต้นขา "ใหญ่" อย่างได้ผล!!! นี้กันแล้วรึยังค่ะ


วิธีการลดต้นขา "ใหญ่"

- ว่ายน้ำ

เพราะการว่ายน้ำช่วยให้บริหารได้ทุกสัดส่วนของร่างกายรูปร่างดูเพรียวลงแล้ว ยังแข็งแรงขึ้นอีกด้วย โดยท่าที่ช่วยลดต้นขาได้มากที่สุดก็คือ ท่าฟรีสไตล์ ซึ่งคุณต้องตีขาควบคู่ไปกับการว่ายน้ำ ใครที่ต้องการเห็นผลเร็ว ๆ แนะนำให้เหยียดมือตรง ๆ เกาะขอบสระแล้วตีขาสลับกันไปมาทำจนรู้สึกเหนื่อยจึงพัก แล้วทำซ้ำอีกสัก 10 เที่ยว จะรู้สึกว่าร่างกายเผาผลาญช่วงต้นขาให้เพรียวลงได้

การบริหารร่างกายลดต้นขา มีให้เลือกทำกัน 3 ท่า ได้แก่

- ท่านอน

โดยหาผ้าปูหรือเบาะรองนั่งมารองก้นเพื่อรับน้ำหนักและป้องกันการเจ็บก้น นอนหงายไปกับพื้นจากนั้นยกขาขึ้นทั้งสองข้างขึ้นเหยียดตรงค้างเอาไว้ แยกขาออกจากกันไปทางด้านข้างแล้วหุบขาทำซ้ำไปมา 20 ครั้ง และปิดท้ายด้วยการปั่นจักรยานกลางอากาศอย่างน้อย 80 ครั้ง

- ท่านั่ง

ให้นั่งเหยียดขาให้ตรงแล้วยกขาขึ้นจากพื้นเล็กน้อยโดยสลับขาซ้าย- ขวา อย่างน้อย 100 ครั้ง

- ท่ายืน

ยืนหันข้างให้กับกำแพงวางมือบนกำแพงเหยียดขาข้างที่ไม่ได้ชิดกำแพงยกขึ้นมา 90 องศา ด้านหน้าพยายามให้ขนานกับพื้นทำอย่างน้อย 10 ครั้ง ต่อด้วยการยกขาขึ้นทางด้านข้างและด้านหลังอย่างละ 10 ครั้งเหมือนกัน จากนั้นเปลี่ยนเป็นขาอีกข้างหนึ่งทำซ้ำ ๆ เหมือนกัน


ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาต้นขาใหญ่อีกต่อไปหากคุณทำตามคำแนะนำเป็นประจำ สม่ำเสมอล่ะก็รับรองได้เลยว่า ต้นขาของคุณจะลดลงได้อย่างทันตาเห็น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Woman's


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:26
"วิธีลดสะโพกและต้นขา" แบบเร่งด่วน! ใน 2 สัปดาห์
สาวไหนสะโพกใหญ่ต้นขาใหญ่ฟังทางนี้เพราะเรามีเรื่องดี ๆ จะมาบอกค่ะ เพราะวันนี้เรามีวิธีลดสะโพกและต้นขาแบบ เร่งด่วนใน 2 สัปดาห์ มาฝากกันอีกด้วยค่ะ สำหรับ วิธีลดสะโพกและต้นขา นี้นอกจากจะทำให้คุณมีต้นขาที่ไร้ไขมันสะโพกสวยแถมยังเป็นการกระชับสัดส่วน กันอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญ วิธีลดสะโพกและต้นขา นี้ยังใช้ระยะเวลาแค่เพียงสั้น ๆ แค่เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้นก็เห็นผลทันใจดีไหมล่ะค่ะ ใครอยากมีสะโพกสวยต้นขาเรียวก็ลองมาใช้ วิธีลดสะโพกและต้นขาแบบเร่งด่วน นี้ดูค่ะ สำหรับวิธีลดสะโพกและต้นขานี้จะเป็นการใช้โยคะ 5 ท่า แต่ได้ผลดีมากทีเดียวค่ะ

วิธีลดสะโพกและต้นขา กับโยคะ 5 ท่า

โยคะทั้ง 5 ท่านี้ต้องทำต่อเนื่องกันไป สำหรับคนที่เริ่มฝึกหรือน้ำหนักตัวมากให้ยกขาเท่าที่ทำได้ แต่ต้องเกร็งขาและสะโพกทำติดต่อกัน 3-5 รอบ ไม่ควรเล่นหลังจากรับประทานอาหาร

1. ท่ายืนภูเขา ยืนตัวตรง กางขาเท่าช่วงไหล่ หายใจเข้าลึก ๆ กางแขนออก ยกขาขวาไปข้างหน้า เหยียดแขนและขาให้ตึง หายใจออก

2. ท่าดวงดาว หายใจเข้า งุ้มปลายเท้า วาดขาขวาออกด้านข้าง แขนขวาชูขึ้นด้านบน หายใจออก

3. ท่าเครื่องบิน หายใจเข้า วาดขาขวาไปทางด้านหลัง ลดแขนขวาลง กางแขนทั้งสองข้างโน้มตัวลงเล็กน้อยให้ลำตัวขนานกับพื้น หายใจออก

4. ท่ากิ่งไม้ หายใจเข้า เคลื่อนแขนทั้งสองข้างไปข้างหน้า ประนมมือยืดแขน-ขาให้ตึง หายใจออก

5. ท่าต้นตาล หายใจเข้า ขาขวาแตะพื้น เกร็งตัว แขนทั้งสองชูขึ้น เหยียดแขนให้ตรง หายใจออก ลดแขนทั้งสองข้างลงข้างลำตัว กลับสู่ท่ายืนภูเขา แล้วทำสลับขาข้างซ้าย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health&Cuisine


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:27
3 วิธีลดก้น สวย เฟิร์ม กระชับ
อยากลดก้นทำไงดี? หมดคำถามนี้เพราะมาเจอ 3 วิธีลดก้น สวย เฟิร์ม กระชับ ที่นี่แล้วจ้า อิอิอิ ก้นใหญ่เบอะบะไม่หน้ามองเท่าไหร่สำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ จริงไหมค่ะ วันนี้เลยสันหา วิธีลดก้น ให้สวย เฟิร์ม กระชับมาฝากค่ะ สำหรับ วิธีลดก้น คุณผู้ชายเองก็ใช้ได้เหมือนกันนะค่ะไม่ใช่ว่าจะใช้ได้เฉพาะคุณผู้หญิงเท่า นั้นค่ะ และขอบอกกันเลยนะค่ะว่าวิธีลดก้นนี้เป็นวิธีที่สุดแสนใจง่ายดายเชื่อว่าคุณๆ ทุกคนต้องปฏิบัติตามได้อย่างแน่นนอน หาก่าปฏิบัติตามไม่ได้ให้นึกไว้ในใจว่า เพื่อก้นสวย...ก้นสวย...ก้นสวย...เข้าไว้นะค่ะ แล้วต่อไปใจไได้ไม่ต้องเจอกับคำถามที่ว่า อยากลดก้นทำไงดี? อีกต่อไปแล้วนะค่ะ
3 วิธีลดก้น

1. ให้ตั้งลำตัวตรงด้วยเข่าทั้งสองข้าง วางแขนสองข้างปล่อยสบายอยู่ข้างลำตัว ปลายนิ้วแตะไว้ที่ต้นขา

2. หายใจเข้าให้ลึกค่อย ๆ เอนตัวไปด้านหลัง ให้รักษาตำแหน่งของหลังลำตัวและต้นขาทั้งสองข้างให้เหยียดเป็นแนวเส้นตรง พยายามเกร็งกล้ามเนื้อตั้งแต่ช่วงต้นขาไปจนถึงกล้ามเนื้อก้นให้ตึงเท่าที่จะ ทำได้ ยิ่งสามารถทำให้ตึงมากเท่าไหร่ก็จะทำให้เอนลำตัวไปด้านหลังได้มากยิ่งขึ้น ตามที่ต้องการ

3. หยุดค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วปล่อยลมหายใจออกและเอนตัวขึ้นมาเพื่อยิ่งขึ้นกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น เริ่มจากวันละ 5 ครั้งในสัปดาห์แรก แล้วเพิ่มเป็นวันละ 10 ครั้งในสัปดาห์ที่ 2 และ 3 หลังจากนั้นค่อยเพิ่มเป็นวันละ 15 ครั้ง ในสัปดาห์ที่ 4 และ 5 ก็จะสามารถสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของบั้นท้ายที่จะกระชับขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Twenty-Four Seven

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:28
วิธีลดต้นขาและน่อง เพื่อ "ขาสวย ๆ"
คุณผู้หญิงที่อยากจะมีขาสวย ๆ ล่ะก็วันนี้เรามีวิธีลดต้นขาและน่องมา ฝากให้คุณได้มีขาสวย ๆ สมใจกันเลยทีเดียวค่ะ สำหรับ วิธีลดต้นขาและน่อง นี้จะใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาที เท่านั้น และ วิธีลดต้นขาและน่อง ก็มีด้วยกันแค่ 3 ท่าสุดง่ายและง่ายสุด ที่จะช่วยขจัดไขมันส่วนเกินในต้นขาและน่องของคุณให้มีขาสวย ๆ และขาเรียว ๆ สมใจกันเลยค่ะ แต่ทว่าคุณต้องขยันและฝึกปฏิบัติอย่างเคร่งครัดถึงจะเรียกได้ว่าวิธีลดต้นขา และน่องถึงจะได้ผลนะค่ะ นั้นเรามาดูวิธีลดต้นขาและน่อง เพื่อ "ขาสวย ๆ" กันเลยดีกว่าค่ะ

วิธีลดต้นขาและน่อง

- ท่ายืนย่อตัว ถือดัมเบลล์

ยืนตัวตรงอยู่ข้างหน้าเก้าอี้แยกเท้าออกจากกันประมาณช่วงสะโพก มือทั้งสองข้างถือดัมเบลล์ข้างลำตัวหันฝ่ามือเข้าด้านใน จากนั้นให้ค่อย ๆ ย่อตัวลงเหมือนกับกำลังนั่งลงบนเก้าอี้ รักษาลำตัวให้ตรงระวังอย่าให้หัวเข่าเลยออกมาจากแนวปลายเท้า เมื่อนั่งลงแตะเก้าอี้เพียงเล็กน้อยก็ค่อย ๆ ยืนขึ้นสู่ท่า
เริ่มต้น

- ท่าก้าว-คุกเข่า

ยืนตัวตรงเท้าชิดกันมือทั้งสองข้างถือดัมเบลล์ข้างลำตัวหันฝ่ามือเข้าด้านใน จากนั้นก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้ามาก ๆ ลงน้ำหนักที่เท้าซ้ายแล้วค่อย ๆ ย่อเข่าลงจนเข่าขวาแตะที่พื้นและเข่าซ้ายงอเป็นมุมฉาก รักษาลำตัวให้ตรงจากนั้นให้ลงน้ำหนักที่ขาซ้ายและค่อย ๆ ยกตัวขึ้นกลับสู่ท่าเริ่มต้นแล้วทำสลับกับขาขวาอีกครั้ง เมื่อทำสลับขาแล้วให้ยืนเกาะพนักเก้าอี้ไว้แล้วค่อย ๆ ดึงเท้าขวาไปยังก้นทำสลับกับเท้าซ้ายอีกครั้ง

- ท่าก้าวขึ้นบันได

ยืนตัวตรงบนขั้นบันไดเท้าชิดกันมือทั้งสองข้างถือดัมเบลล์ข้างลำตัวหันฝ่า มือเข้าด้านใน จากนั้นให้ก้าวเท้าขวาไปข้างหลังน้ำหนักตัวทิ้งลงทีเท้าซ้ายเต็มฝ่าเท้า แล้วค่อย ๆ ย่อเข่าซ้ายลงจนเท้าขวาเกือบจะแตะพื้นแล้วยกตัวขึ้นสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำอีกครั้งแล้วสลับขาอีกข้างหนึ่งเสร็จแล้วให้นอนลงกับพื้นขาเหยียดตรง แล้วดึงเข่าเข้าหาหน้าอกโดยใช้มือจับที่ใต้ขาอ่อนทำสลับกันกับขาอีกข้าง

หมายเหตุ : ดัมเบลล์ที่ใช้หนักประมาณ 2-5 กิโลกรัม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:29
เคล็ดลับ วิธีทําให้ขาเรียวสวย ภายใน 7 วัน
เมื่อคุณผู้หญิงทั้งหลายได้ยินเคล็ดลับวิธีทําให้ขาเรียวสวย ภายใน 7 วัน คุณผู้หญิงหลายคนอาจจะสงสัยว่า เคล็ดลับ วิธีทําให้ขาเรียวสวย ภายใน 7 วัน นี้จะใช้ได้จริงหรือ นั้นต้องขอบอกเลยค่ะว่าเคล็ดลับ วิธีทําให้ขาเรียวสวย นี้ไม่ใช่แค่จะช่วยให้ ขาวเรียวสวย เท่านั้นนะค่ะ แต่วิธีทําให้ขาเรียวสวยนี้ยังช่วยให้คุณมีเรียวขาที่กระชับและได้สัดส่วน มากยิ่งขึ้นอีกด้วย จริง ๆ แล้วเรียวเรียวขาของคนเราเป็นส่วนที่สามารถลดได้ง่ายที่สุดเพราะมีการออก กำลังกายจากการเดินในทุก ๆ วันอยู่แล้ว ฉะนั้นแล้วเรามาดูเคล็ดลับ วิธีทำให้ขาเรียวสวย ภายใน 7 วัน กันเลยดีกว่าค่ะ

เคล็ดลับ วิธีทําให้ขาเรียวสวย

- 4 กฎสำหรับขาสวย

1. เน้นรับประทาน "โปรตีน" แคลอรี่ต่ำ - ไร้ไขมัน เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่อาจสึกหรอ
2. รับประทาน "ไขมัน" ที่จำเป็นต่อร่างกาย เพื่อช่วยให้ผิวมีความเปล่งปลังและไม่แห้งกร้าน
3 เน้นรับประทานอาหารที่มี "โปเตสเซียม" และ "มีน้ำ" เยอะ ๆ ซึ่งจะช่วยให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น เป็นการลดการคั่งน้ำในร่างกาย อาการบวมและเซลลูไลท์
4. เน้นรับประทานผลไม้ประเภท "ส้มหรือมะนาว" เพื่อช่วยให้การเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

- อาหาร 5 ประเภทที่แนะนำ

1.กล้วย
2.ไข่
3.ปลาแซลมอน - เนื้อไก่
4.ผลไม้ประเภทส้มและมะนาว
5.ผลอโวคาโด้

การรับประทานอาหารตามแผนนี้ต้องทาน "สลัดผัก" ทุกวันแทนมื้อหลัก 1 มื้อหรือแทนของว่าง ควรเต็มผักจำพวก "หน่อไม้ฝรั่ง" หรือ "เซเลรี่" เข้าไปด้วยก็ยิ่งดี ส่วนอาหารมื้ออื่น ๆ ควรเน้นทานส่วนผสมอาหาร 5 ประเภทข้างต้นเป็นหลัก นอกจากนี้ยังสามารถดื่มกาแฟ ชาประเภทต่าง ๆ และน้ำเปล่าได้ตามปกติ แต่พวกน้ำหวาน น้ำอัดลมควรงด

ทำได้ตามนี้ ขาเรียวสวย (ขึ้น) ....อาจไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชน


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:30
5 วิธีทําให้ขาเรียว เล็ก สวย
วันนี้เรามีวิธีทําให้ขาเรียว เล็ก สวย มาฝากกันค่ะ คุณผู้หญิงที่อยากจะให้ขาเรียว เล็ก สวย ต้องมาปฏิบัติ วิธีทําให้ขาเรียว เล็ก สวย ของเรากันเลยดีกว่าค่ะ เป็น วิธีทําให้ขาเรียว เล็ก สวย แบบง่าย ๆ เพียงแค่คุณนั้นสละเวลาเพียงแค่เล็กน้อยแล้วหันมาทำการออกกำลังด้วย วิธีทำให้ขาเรียว เล็ก สวย ที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้เท่านั้น เพียงแค่คุณตั้งใจรับรองว่า วิธีทำให้ขาเรียว เล็ก สวย นี้ช่วยคุณได้อย่างแน่นอนค่ะ ใครอยากมีขาเรียว เล็ก สวย ก็มาฝึกปฏิบัติกันเลยค่ะ

5 วิธีทำให้ขาเรียว เล็ก สวย

1. ท่าบริหารบั้นท้าย : เป้าหมายคือขาอ่อนส่วนหน้าและกำจัดบั้นท้ายหนาโดยออกกำลังกล้ามเนื้อที่ก้น

วิธีทำ : ยืนแยกขา งอเข่าเล็กน้อย หลังตรง มือเท้าสะเอว งอเข่าทำมุมเก้าสิบองศาแล้วเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยจนตัวค้อมลงมาหาขาอ่อน ส้นเท้าแนบพื้นลดตัวลงไปกระทั่งก้นอยู่ในระดับเดียวกับเข่า เกร็งไว้หนึ่งวินาทีจากนั้นค่อย ๆ หวนกลับมาท่ายืนทำซ้ำ 20 ครั้ง

2. ท่ายืดเส้นสายขาอ่อน : เป็นท่าทำยากแต่ถ้าอยากให้กล้ามเนื้อขาอ่อนหน้าขาและหลังขาแข็งแรงก็คุ้มค่าน่าทำ

วิธีทำ : ยืนตรงยื่นขาหนึ่งไปข้างหน้า ตัวตรง หน้าท้องแขม่ว งอเข่าลงทิ้งน้ำหนักที่ส้นเท้าเพื่อใช้งานกล้ามเนื้อสะโพก เกร็งไว้หนึ่งวินาทีแล้วค่อย ๆ กลับท่าเดิมทำซ้ำ 15 ครั้ง จากนั้นทำกับขาอีกข้าง 15 ครั้งเช่นกัน

3. ขาอ่อนปราดเปรียว : เป็นท่าที่เหมาะสำหรับออกกำลังขาอ่อนด้านใน

วิธีทำ : นอนตะแคงซ้าย งอเข่าขวาพาดพื้น ขาซ้ายตรง ค่อย ๆ ยกขาซ้ายขึ้น เกร็งไว้หนึ่งวินาทีแล้วยกลงทำซ้ำ 15 - 20 ครั้ง แล้วสลับกับขาอีกข้าง

4. ออกกำลังขาอ่อนส่วนนอก : ท่านี้เน้นที่ขาอ่อนด้านนอกเพื่อให้แข็งแรงได้รูป

วิธีทำ : นอนตะแคงข้าง งอเข่าขวาเล็กน้อย มือขวารองรับศรีษะไว้ ขาซ้ายเหยียดตรงแล้วค่อย ๆ ยกขึ้น เกร็งไว้หนึ่งวินาทีแล้วลดลงทำซ้ำ 15 - 20 ครั้ง จากนั้นสลับทำกับอีกข้าง

5. ขาอ่อนเรียว : เตรียมตัวให้ดีสำหรับท่านี้ซึ่งจะออกกำลังขาอ่อนด้านในและนอกสุด ๆ

วิธีทำ : ยืนตรงแยกขา มือเท้าสะเอว ย่อเข่าขวาลงแล้วก้าวเท้าออกมาข้างหน้ากระทั่งขาอ่อนขวาขนานกับพื้น อย่าให้เข่ายื่นเลยข้อเท้าขวา ค่อย ๆ รั้งเท้าซ้ายกลับกดแนบพื้นเพื่อสร้างแรงต้านกระทั่งเท้ามาคู่กันและกลับสู่ ท่าเดิม ทำซ้ำกับขาซ้าย ทำข้างละ 15 - 20 ครั้ง
หมายเหตุ : ให้ทำวันละสองครั้ง (เช้าและเย็น)

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะเพียงแค่คุณเจียดเวลาให้กับการออกกำลังกายบ้าง ไม่ใช่เพื่อแค่ขาเรียวเล็กที่สวยงามอย่างเดียว แต่ยังได้ในเรื่องของสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์



โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:32
เครื่องดื่มลดน้ำหนัก "แบบธรรมชาติได้หุ่นสวย"
วันนี้เรามีสูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนักแบบธรรมชาติได้หุ่น สวยมาฝากคุณผู้หญิงกันอีกแล้วค่ะ สำหรับ สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก นี้ก็จะเป็น สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก แบบขั้นตอนง่ายแต่ได้หุ่นสวยสมใจ ใครอยากรู้ว่า สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก นี้จะได้ผลมากน้อยเพียงใดต้องมาลองทำสูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนักนี้กันเองแล้ว ค่ะ นอกจากสูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนักนี้จะช่วยลดน้ำหนักได้แล้วยังช่วยขจัดสารพิษ ในร่างกายของคุณได้อีกด้วยค่ะ นอกจากจะได้หุ่นสวยแล้วยังได้สุขภาพดีพวงมาด้วย

2 สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก

1. สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก : สตรอเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ผสมราสป์เบอร์รี่ช่วยให้หุ่นดีเพราะมีวิตามินซี และโพแทสเซียม ช่วยขจัดไขมัน

ส่วนผสม : ต้มชาผลไม้ 500 กรัม ปล่อยให้เย็น เทชาผลไม้ออกครึ่งหนึ่งแล้วใส่น้ำแข็งลงไปใส่สตรอเบอร์รี่และแอปริคอตหั่น ชิ้นเล็ก ๆ อย่างละ 50 กรัม ราสป์เบอร์รี่ 5 ลูก ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา

2. สูตรเครื่องดื่มลดน้ำหนัก : สับปะรด

น้ำสับปะรดให้รสอร่อย และยังช่วยลดความอ้วน เพราะสับปะรดช่วยขจัดน้ำและสารพิษในร่างกาย และกล้วยทำให้อิ่มนาน

ส่วนผสม : หั่นกล้วย 1 ผล น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ มะพร้าวขูด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำสับปะรด 200 มิลลิกรัม แล้วปั่นเข้าด้วยกัน


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:33
การเผาผลาญแคลอรี่ "แบบเร่งด่วน!!!"
มาเร่งการเผาผลาญแคลอรี่แบบด่วนๆ ๆ ๆ กันดีกว่าค่ะ นอกจาก การเผาผลาญแคลอรี่ ที่รวดเร็วนั้นจะช่วยในเรื่องของการลดไขมันและการลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย ของเราแล้ว การเผาผลาญแคลอรี่ ยังมีส่วนช่วยให้สุขภาพดีปราศจากโรคอ้วนอีกด้วยค่ะ ฉะนั้นแล้วไม่ว่าคุณจะมีกรรมพันธ์ที่ทำให้ การเผาผลาญแคลอรี่ ช้าก็ตามทีเถอะค่ะ วิธีต่อไปนี้จะช่วยในเรื่องการเผาผลาญแคลอรี่อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ได้อีกด้วยค่ะ ฉะนั้นแล้วใครอยากมีหุ่นดี น้ำหนักลด ผอมเพรียว หรืออยากลดความอ้วนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ก็มาทางนี้เลยจ้า

การเผาผลาญแคลอรี่ "แบบเร่งด่วน!!!" อย่างได้ผล

งานศึกษาวิจัยชิ้นใหม่ ๆ ชี้ว่าคุณสามารถหลอกล่อร่างกายให้เผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยวิธีเหล่านี้

- กินโอเมก้า -3

ทำไมการกินอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า -3 จึงช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้? โอเมก้า -3 ช่วยให้น้ำตาลในเลือดสมดุลและลดอาการอักเสบซึ่งช่วยการทำงานของระบบเผาผลาญ มันยังอาจช่วยลดการดื้อต่อฮอร์โมนเลปติน ที่นักวิจัยพบว่ามันสัมพันธ์กับความเร็วในการเผาผลาญไขมัน การศึกษาวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Obesity Research พบว่า หนูที่ได้รับน้ำมันปลาในจำนวนมากพร้อมกับการออกกำลังสามารถลดน้ำหนักได้ ในการกินกรดไขมันโอเมก้า -3 เป็นอาหารเสริมผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้กินวันละ 1,000-2,000 มิลลิกรัม ถ้าไม่ชอบน้ำมันปลาลองกินน้ำมันจากเมล็ดแฟล็กซ์หรือวอลนัตก็ได้

- หันไปหาชาเขียว

ชาเขียวมีชื่อนานแล้วในเรื่องของสารโพลีฟีนอลที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนต์ แต่หลักฐานใหม่เผยว่าสารประกอบที่ชื่อคาเตชิน (Catechin) อาจทำให้การเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น นักวิจัยได้ศึกษาหลายครั้งในกลุ่มผู้ที่ลดน้ำหนักและพบว่าคนที่ดื่มชาเขียว ลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม โดยคาเตชินอาจทำให้การออกซิเดชั่นไขมันดีขึ้น แต่คุณจะดื่มเท่าไหร่ดีล่ะ? การศึกษาชิ้นหนึ่งชี้ว่าถ้าคุณดื่มชาเขียวห้าถ้วย (ถ้วยขนาด 8 ออนซ์) คุณจะสามารถเพิ่มการใช้พลังงานได้ราว 90 แคลอรีต่อวัน

- ลดไขมันทรานส์

คุณคงเคยได้ยินมาแล้วว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพแต่ไขมันทรานส์ยังทำให้ความสามารถ ของร่างกายในการเผาผลาญไขมันลดลงด้วย เพราะมันทำให้ระบบชีวเคมีในร่างกายของคุณเพี้ยนไป โดยไขมันทรานส์จะจับตัวกับไขมันและเซลล์ตับและทำให้การเผาผลาญช้าลง การกินไขมันทรานส์ยังนำไปสู่การดื้ออินซูลินและอาการอักเสบทั้งสองอย่างมีผล ต่อระบบเผาผลาญและอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้

- เลือกออร์แกนิก

ถ้าคุณกำลังชั่งใจว่าจะซื้ออาหารออร์แกนิกดีหรือเปล่าข่าวนี้อาจทำให้คุณ ตัดสินใจได้ ผลไม้ ผัก และธัญพืชที่ปลูกโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงทำให้ระบบเผาผลาญไขมันคุณเดินเครื่องแบบ เต็มสตรีม เพราะมันไม่ทำให้ธัยรอยด์ของคุณต้องเจอกับสารพิษแต่ผลิตผลที่ไม่ได้เป็นออร์ แกนิกจะบล็อกระบบเผาผลาญของคุณ โดยไปรบกวนการทำงานของธัยรอยด์ซึ่งเป็นเหมือนเทอร์โมสตัตของร่างกาย ที่กำหนดว่ามันจะเดินเครื่องเร็วแค่ไหน

- คิดถึงโปรตีน

ร่างกายคุณย่อยโปรตีนช้ากว่าไขมันและคาร์โบไฮเดรตคุณจึงรู้สึกอิ่มนานกว่า นอกจากนี้ มันยังช่วยเร่งระบบเผาผลาญด้วยในกระบวนการที่เรียกว่า Thermogenesis ร่างกายของคุณสามารถใช้ราว 10% ของแคลอรีที่กินเข้าไปสำหรับการย่อย ฉะนั้นเพราะมันใช้เวลานานกว่าในการเผาผลาญโปรตีน ร่างกายของคุณจึงใช้พลังงานมากกว่าในการดูดซึมอาหารที่มีโปรตีนสูง โบนัส อีกอย่างก็คือ งานศึกษาชิ้นหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ของมหาวิทยาลัยเพอร์ดิวพบว่า อาหารที่มีโปรตีนสูงอาจช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อของร่างกายที่เป็นตัวเผาผลาญ ไขมันที่ดีที่สุด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:34
รักษารูปร่าง ด้วย! แคลอรี่ในผลไม้
วันนี้ชวนคุณผู้หญิงมารักษารูปร่างด้วยแคลอรี่ในผลไม้ค่ะ เมื่อคุณผู้หญิงได้รู้รายละเอียดของ ตารางแคลอรี่ผลไม้ ของเราที่นำมาฝากกันในวันนี้ก็จะทำให้คุณผู้หญิงได้รู้ว่า ตัวเรานั้นควรจะหันมารับประทานผลไม้ชนิดไปไหนกันบ้างที่จะช่วยในการรักษารูป ร่างของคุณได้อีกด้วยค่ะ ซึ่ง แคลอรี่ในผลไม้ ที่เรานำมาบอกกันในวันนี้คุณผู้หญิงสามารถเลือกรับประทานได้ตามใจชอบกันเลย นะค่ะ เพราะ แคลอรี่ในผลไม้ ตัวที่เราเลือกมาในวันนี้จะมีค่าเพียงแค่ 40 แคลอรี่ เท่านั้น ซึ่งนอกจากจะช่วยในการรักษารูปร่างให้สวยแล้วยังทำไม่ให้น้ำหนักขึ้นแถม สุขภาพดีมาก ๆ อีกด้วยค่ะ นั้นคราวหน้าจะซื้อผลไม้ทั้งทีก็อย่างลืมดูแคลอรี่ในผลไม้ด้วยนะค่ะ

ตาราง แคลอรี่ในผลไม้

1. แอปเปิ้ล 1 ผลขนาดกลาง น้ำหนักประมาณ 65 กรัม ให้พลังงาน 40 แคลอรี่

ในแอปเปิ้ลเรายังได้รับวิตามินซีซึงวิตามินซีเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายให้ สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนังเรานั้นเอง ช่วยในการยืดหยุ่นและกระชับตัวของผิวและยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วยคะ เห็นไหมคะว่าทานผลไม้แล้วยังไม่อ้วนแถมยังได้บำรุงผิวด้วย

2. แคนตาลูป 1 ชิ้น น้ำหนักประมาณ 250 กรัม ให้พลังงาน 40 แคลอรี่

ผลไม้สีส้มหน้าตาน่ารับประทานชิ้นนี้มีประโยชน์อย่างไร? แคนตาลูปมีวิตามินเอมากซึ่งอยู่ในรูปของเบต้าแคโรทีนทั้งยังเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระให้แก่ร่างกายบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใส

3. องุ่น 12 ผล น้ำหนักประมาณ 75 กรัม ให้พลังงาน 40 แคลอรี

ในองุ่นจะมีสารโฟลิฟินอลช่วยร่างกายในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด หัวใจ ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด คนจีนใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ ท้องผูก ข้ออักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ

4. กล้วยหอม 1/2 ผล น้ำหนักประมาณ 30 กรัม ให้พลังงาน 40 แคลอรี่

เรื่องของกล้วยนั้นมีประโยชน์มากเลยล่ะค่ะ คนทำงานที่กำลังเครียดอยู่นั้นลองทานกล้วยสักครึ่งผลสิคะจะช่วยให้คลาย เครียดได้ เพราะในกล้วยมีสารเซโทนินช่วยให้อารมณ์ดีและยังเพิ่มพลังแรงของร่างกาย ชาวตะวันตกเชื่อกันว่ากล้วยนั้นเป็นผลไม้คลายเครียดชั้นดีทั้งยังได้วิตามิน บีหกอีกด้วย

5. สับปะรด 1 ชิ้น น้ำหนักประมาณ 85 กรัม ให้พลังงาน 40 แคลอรี่

เที่ยง ๆ หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้วเสริมด้วยสับปะรดสักหนึ่งชิ้นดีไหมคะควร เลือกสับปะรดที่อมเปรี้ยวนิดนึง เพราะว่าไม่ต้องกังวลกับระดับน้ำตาลและยังได้วิตามินซีเพิ่ม สับปะรดเป็นแหล่งของแมกนีเซียมปกป้องเซลล์ร่างกายจากอนุมูลอิสระช่วยลดระดับ ความดันเลือดและป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ แมกนีเซียมจะทำงานคู่กับวิตามินดีช่วยป้องกันการสูญสลายของเนื้อกระดูก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:34
อาหารลดพุง "ไร้กังวลเรื่องน้ำหนัก"
ใครมีพุงกันบ้างเอ่ย...ใครอยากลดพุงอย่างได้ผลกันบ้างน๊า...วันนี้เรามีอาหารลดพุงไร้ กังวลเรื่องน้ำหนักตัวมาฝากกันค่ะ และ อาหารลดพุง ที่เรากำลังจะแนะนำกันวันนี้เป็น 4 อาหารลดพุง ที่จะช่วยสลายไขมันหน้าท้องหรือพุงของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ๆ เลยล่ะค่ะ แล้วเมื่อคุณได้ลอง 4 อาหารลดพุง ของเราเข้าไปแล้วจะไร้กังวลเรื่องห่วงยางน้อยที่ค่อยติดแหงกเป็นเพื่อนคู่ คุณอยู่นั่นแหละไม่ยอมไปไหนซะที ต่อไปเค้าคงจะไม่มากวนใจคุณ ๆ อีกแล้วล่ะค่ะ ก็คุณมีตัวช่วยกันแล้วนี่ค่ะ นั้นเรามาดู 4 อาหารลดพุง ที่จะช่วยคุณ ๆ กันดีกว่าค่ะ

4 อาหารลดพุง


1. อะโวคาโด อะโวคาโดอุดมไปด้วยสารเบตาซิสโตสเตอรอลซึ่งช่วยในการดูดซึมคอเลสเตอรอลมี เส้นใยอาหารทั้งชนิดที่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยขจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกายและชนิดที่ไม่ละลายน้ำซึ่ง ช่วยป้องกันอาการท้องผูกปริมาณแนะนำต่อวัน 1/4 ถ้วย

2. บรอกโคลี่ นักวิจัยระบุว่าสารอาหารอย่างแคลเซียมช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีที่จะสะสม ไว้เป็นไขมันส่วนเกินได้ และบร็อกโคลี่ก็มีดีที่เป็นแหล่งแคลเซียมซึ่งไม่มีไขมันปริมาณแนะนำ 1 1/2 ถึง 2 ถ้วย

3. ถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนมีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักได้ โดยเฉพาะถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืชต่าง ๆ เช่น อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง เมล็ดดอกทานตะวัน เมล็ดฟักทอง พิสทาชิโอ ปริมาณแนะนำต่อวัน 2 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำมัน เลือกกินน้ำมันที่มีประโยชน์ช่วยลดน้ำหนักได้ น้ำมันพืชต่าง ๆ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันชา น้ำมันถั่วเหลือง ปริมาณแนะนำต่อวัน: 1 ช้อนโต๊ะ

นอกจากดูแลเรื่องอาหารการกินแล้วก็ต้องออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ชีวจิต

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:35
วิธีลดไขมัน "สูตรเด็ดที่คุณห้ามพลาด!"
วันนี้เราพาคุณผู้หญิงอยากหุ่นดี หุ่นสวย มารู้จักกับสูตรเด็ดวิธีลดไขมันแบบ ได้ผล หากว่าคุณตั้งใจอะไรก็ทำได้จริงไหมค่ะ แต่ วิธีลดไขมัน นี้จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางและตัวช่วยที่จะทำให้คุณผู้หญิงได้ไปถึงเป้าหมายที่ วางไว้ได้เร็วยิ่งขึ้น มีคนเคยพูดไว้ว่า "ผู้หญิงไม่สวยไม่มีหรอก มีแต่ผู้หญิงขี้เกียจเท่านั้น" ฉะนั้นแล้วหากคุณผู้หญิงไม่ขี้เกียจอะไรก็ย่อมสำเร็จ ดังเช่นที่ว่า คุณผู้หญิงนั้นอยากมีรูปร่างที่ดี หุ่นสวย ผอมเพรียว เชื่อว่าคุณผู้หญิงทุกคนย่อมทำได้จริงไหมค่ะ ฉะนั้นแล้วเรามี วิธีลดไขมัน ซึ่งเป็นสูตรเด็ดตัวช่วยที่คุณห้ามพลาดเพื่อช่วยให้คุณสำเร็จได้เร็วขึ้นนะ ค่ะ


4 วิธีลดไขมัน เด็ด เด็ด เด็ด!

1. เล่นโยคะตอนเช้า เพียงแค่ 15 นาที การเล่นโยคะในตอนเช้าจะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้นการย่อยดีขึ้น ทั้งหมดนำไปสู่การเผาผลาญไขมันและแคลอรีที่มากขึ้นและสุขภาพจิตจะดีไปตลอด ทั้งวันด้วย


2. ท้าทายตัวเองสัปดาห์ละอย่าง การออกกำลังเพื่อให้ตัวเองแข็งแรงและดูดีไม่ได้ผลดีเท่ากับการออกกำลังอย่าง มีเป้าหมาย เพราะการตั้งเป้าหมายจะทำให้คุณฝึกตัวเองเต็มที่ขึ้น ลองตั้งเป้าหมายในแต่ละสัปดาห์ เช่น การวิ่งขึ้นลงบันไดอย่างรวดเร็ว 10 รอบ แข่งเทนนิสหรืออกกำลังกายที่คุณไม่เคยลองมาก่อน เช่น เต้นระบำหน้าท้อง หรือชกมวย

3. ยกน้ำหนักพร้อมคาร์ดิโอ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสลับวันกับการยกน้ำหนักเป็นเรื่องดี แต่การออกกำลังแบบคาร์ดิโอสัก 20-30 นาที ด้วยความหนักที่หลากหลายกันหลังการยกน้ำหนักจะช่วยเผาผลาญไขมันในระหว่าง นั้นและหลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมง ลองวอร์มอัพด้วยการออกกำลังแบบคาร์ดิโอสัก 7 นาที ตามด้วยการยกน้ำหนัก 40 นาที และออกกำลังแบบอินเทอร์วัลอีก20 นาที มันจะช่วยคุณเผาผลาญไขมันได้สูงสุดในเวลาน้อยที่สุด


4. สั้นและหนักหน่วง หมดสมัยของการออกกำลังหรือยกน้ำหนักนาน ๆ แล้ว ทุกวันนี้เป็นเรื่องการออกกำลังแบบสั้น ๆ แต่มีประสิทธิภาพ การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Sports Medicine and Physical Fitness ชี้ว่า การยกน้ำหนักแบบหนัก ๆ ในช่วงสั้น ๆ ทำให้กล้ามเนื้อพัฒนาดีขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการยกน้ำหนักตามปกติ และทำให้มีกล้ามเนื้อที่ปราศจากไขมันมากกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa



โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:37
วิธีลดความอ้วนด้วยตัวเอง "เพื่อหุ่นดี หุ่นสวย"
ใครอยากหุ่นดี หุ่นสวย ฟังทางนี้จ้า เพราะเรามีวิธีลดความอ้วนด้วยตัวเองหรือวิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเองมา ฝากกันด้วยนะ สำหรับสาวไหน วิธีลดความอ้วนด้วยตัวเอง ควรต้องฟังไว้เลยจ้า ยิ่งเป็นสาวออฟฟิตด้วยแล้วน้ำหนักตัวมักจะขึ้นง่ายกว่าสาว ๆ วัยรุ่น และ สาว ๆ วัยทีน เพราะสาวออฟฟิตส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยจได้ขยับเนื้อขยับไปไหนสักเท่าไหร่เวลา ที่รับประทานอะไรเข้าไปก็ไม่ค่อยจะเผาผลาญทำให้น้ำหนักตัวนั้นขึ้น ง๊าย...ง่าย ต่างจากสาว ๆ วัยรุ่นที่ยังอยู่ในวันเรียนมักจะมีกิจกรรมให้เผาผลาญมากกว่า และด้วย วิธีลดความอ้วนด้วยตัวเอง ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับอย่างดีที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณนั้นมีหุ่นดี หุ่นสวย ได้สำเร็จจ้า นั้นเรามาฟัง เคล็ดลับ วิธีลดความอ้วนด้วยตัวเอง นี้กันเลยดีกว่าค่ะ

เคล็ดลับ วิธีลดความอ้วนด้วยตัวเอง

- ขยันทานผลไม้

หัดตัวเองให้เป็นคนชอบทานผลไม้และทานให้มาก ๆ แต่ต้องเลือกดูผลไม้ที่ไม่หวานจนเกินไป ส่วนผลไม้ต้องห้ามก็คือ ทุเรียน เงาะ ขนุน ลำไย ละมุด เป็นต้น

- ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ

การทานอาหารควรให้ความสำคัญกับอาหารมื้อหลักทั้ง 3 มื้อ คือเช้า กลางวัน เย็น ซึ่งทานก่อน 6 โมงเย็น และหลังจากนั้นก็ไม่ควรทานอะไรอีก แต่ถ้าหากทนไม่ไหวก็ลองดื่มชาเขียวร้อนสักแก้วก็ช่วยให้หายอยากได้

- ดื่มน้ำเป็นประจำ

การดื่มน้ำก็สำคัญ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยให้ได้วันละ 6-8 แก้ว

- เคี้ยวช้า ๆ เข้าไว้

หัดตัวเองให้เป็นคนเคี้ยวอาหารให้นาน ๆ อย่างน้อย 10 ครั้งต่อหนึ่งคำ เพราะไม่งั้นแล้วขืนคุณเคี้ยวเร็วจะทำให้คุณทานได้เยอะกว่าเดิมนะคะ

- อย่าทานพร้อมทำกิจกรรมอื่น

ห้ามทานอาหารไปพร้อมกับทำกิจกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ เล่นอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การนั่งรถ เพราะจะทำให้คุณทานได้มากกว่าปกติโดยไม่รู้ตัว แล้วความอ้วนก็จะตามมาเป็นเงาตามตัวคุณเลยทีเดียว

- การดื่มนม

หากก่อนนอนคุณต้องดื่มนม ไม่ว่าจะเป็นนมเปรี้ยว นมพร่องมันเนย ก็ควรดื่มก่อนนอน 4 ชั่วโมง

- เบเกอร์รี่ได้ แต่น้อย

จริง ๆ แล้วถ้าอยากผอมก็ไม่ควรทาน แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ทานได้สัปดาห์ละครั้งเท่านั้น แล้วก็ไม่ใช่ว่ากินแบบเต็มอิ่มนะคะแค่ชิ้นสองชิ้นพอ

- เชื่อมั่นในตัวเอง

เลือกทานอาหารที่คุณเห็นว่ามีแคลอรีต่ำที่คุณเชื่อว่าเหมาะกับคุณ อย่าปล่อยให้เพื่อน ๆ ชักจูงหรือท้าทายจนคุณปล่อยตัวปล่อยใจไปกับอาหารที่มีไขมันสูงได้

- หนึ่งจานก็เพียงพอ

ถึงแม้ว่าคุณจะหิวมากแค่ไหนก็ตามให้สั่งอาหารมาทานก่อนหนึ่งจาน อย่าเพิ่งสั่งจานที่สองเพราะแค่จานเดียวก็ทำให้คุณอิ่มได้ จำไว้เลยนะคะหนึ่งจานต่อหนึ่งมื้อเท่านั้น

- เน้นผักมากกว่าเนื้อสัตว์

เวลาที่จะทานอาหารให้สังเกตก่อนว่า มีผักในปริมาณแค่ไหน เนื้อสัตว์ก็เช่นกัน จากนั้นให้ทานผักก่อนแล้วตามด้วยเนื้อสัตว์หรือทางที่ดีก็เขี่ยเนื้อสัตว์ ออกไปเลย

- เลี่ยงอาหารไขมันสูง

อาหารไขมันสูงอย่างแกงกะทิหรือน้ำอัดลมทุกชนิดควรงดทานไปเลยนะคะ เพราะถ้าทำได้จะทำให้ลดน้ำหนักลงได้ง่ายขึ้น

- ชา กาแฟวันละหนึ่งถ้วย

ถ้าเป็นไปได้หากใครที่ชอบทานชา กาแฟ หรือโอวัลติน ควรทานแค่วันละ 1 แก้วก็พอ และถ้าไม่ใส่น้ำตาลเลยก็จะดีมาก

- งดลูกอมทุกชนิด

ลูกอมทั้งที่ทานเล่นหรือที่ใช้ระงับกลิ่นปากล้วนมีแต่น้ำตาลเป็นส่วนประกอบเพราะฉะนั้นก็ไม่ควรทานบ่อย ๆ


การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมเป็นกิจวัตรแบบนี้ก็จะทำให้คุณมีรูปร่างดีไร้ไขมันส่วนเกินแล้วล่ะค่ะ แถมยังมีสุขภาพที่ดีอีกต่อหนึ่งด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก woman's


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:38
ทำยังไงให้หุ่นดี? "เคล็ดลับหุ่นดี" อยู่นี่แล้ว!!!
ใครมีคำถามนี้ "ทำยังไงให้หุ่นดี?" กันบ้างจ๊ะ อยากได้คำตอบต้องมาดู "เคล็ดลับหุ่นดี" เพราะว่าอยู่ที่นี้แล้วจ้า... หากว่าคุณ ๆ สามารถทำ "เคล็ดลับหุ่นดี" นี้ได้รับรองว่า คำถามที่ว่า "ทำยังไงให้หุ่นดี?" ปิ๋วไปไกลจนไม่ต้องคิดเพราะมีไมีคำถามนี้วนเวียนในหัวกันเลยนะขอบอก สำหรับ เคล็ดลับหุ่นดี นี้มีไว้บอกสำหรับสาว ๆ ที่อยากจะมีหุ่นดีอย่างแรงกล้าแล้วทำทุกอย่างได้อย่างเป็นกิจวัตรเพียงเท่า นี้ เคล็ดลับหุ่นดี เป็นอันสัมฤทธิ์ผลหุ่นดีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือกันเลยทีเดียวค่ะ นั้นเรามาดูเคล็ดลับหุ่นดีกันเลยค่ะ

4 เคล็ดลับหุ่นดี

1. การซับน้ำมันออกจากอาหาร

การซับน้ำมันส่วนเกินออกจากอาหารก่อนรับประทานเป็นวิธีง่าย ๆ ในการลดแคลอรี่ส่วนเกิน น้ำมันส่วนนี้เป็นไขมันที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายเพราะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ เลยค่ะ อีกทั้งอาจเข้าไปอุดตันในหลอดเลือด แต่การซับน้ำมันออกจากอาหารนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้ปริมาณที่แน่นอนขึ้น อยู่กับว่า อาหารที่เรารับประทานนั้นมันเยิ้มแค่ไหนนะคะ สมมติว่าเราซับน้ำมันออกมาได้ถึง 1 ช้อนชา นั่นก็หมายความว่า เพื่อน ๆ สามารถลดพลังงานไปได้ 40 แคลอรี่และไขมันอีก 4-5 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากเลยค่ะ ฉะนั้นการซับน้ำมันออกจากอาหารก็ใช่ว่า จะทำให้อาหารที่มีไขมันเพียบกลายเป็นอาหารแคลอรี่ต่ำลงไปทันที ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรี่สูง ๆ ไว้ก่อนดีกว่านะคะ ดีกว่าจะมานั่งซับมันออกเพื่อทำให้รูปร่างดี

2. อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า

การทำตัวให้คล่องแคล่วเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาใช้เวลาให้คุ้มค่าไม่ว่าจะอยู่ ที่ไหนจะทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นอย่างได้ผลนะคะ ในขณะทำงาน แทนที่จะใช้โทรศัพท์ภายในติดต่อกับเพื่อนร่วมงานควรจะลุกขึ้นและเดินไปหาเขา แทน เมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อน ๆ อยากจะคุยกับเขานะคะ ถ้าอยู่ที่โรงยิม อย่ายืนเฉยและปล่อยให้เวลาผ่านไปขณะรอคิวเครื่องออกกำลังกายหรืออะไรก็ตาม กระโดดตบหรือวิ่งอยู่กับที่ไปพลาง ๆ จะเป็นการวอร์มอัพที่ดีค่ะ เวลาหยิบของพยายามย่อให้สุด เวลาที่ย่อหยิบของจากพื้นไม่ว่าจะเป็นตอนไปเดินช้อปปิ้งหรือที่ไหนก็ตามทุก ครั้งที่เราย่อจะให้กล้ามเนื้อได้ยืดหยุ่นนะคะ

3. ออกกำลังกายตอนไหนดี

การออกกำลังกายช่วงเย็นหรือช่วงเช้าอย่างไหนจะทำให้ผอมเร็วกว่ากัน เพื่อน ๆ หลายคนคงเคยได้ยินคนเถียงกันเรื่องนี้มาบ้างแล้วนะคะ บางคนบอกว่า การออกกำลังกายในช่วงเช้าก่อนอาหารเช้าจะช่วยให้เผาผลาญไขมันได้มากกว่า เพราะร่างกายจนเปลี่ยนไขมันที่เก็บสำรองไว้ให้เป็นพลังงานด้วย แต่ก็มีบางคนบอกว่าการออกกำลังกายให้เหงื่อออกช่วงเย็นนั้นดีกว่าเพราะทั้ง วันที่ผ่านมากล้ามเนื้อของเราได้วอร์มเต็มที่พร้อมกับการออกกำลังกายแล้ว แต่ความจริงแล้วมันไม่สำคัญหรอกค่ะ สำหรับชีวิตที่แสนจะวุ่นวายในยุคนี้ พ.ศ. นี้ สิ่งสำคัญก็คือ การหาเวลาสะดวกที่เพื่อน ๆ จะได้ออกกำลังกายอย่างจริง ๆ จัง ๆ และทุ่มเทได้เต็มที่จะได้ผลที่ดีกว่านะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:40
วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ "หุ่นสวย"
วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ คงไม่นานเกินไปหรอกเนอะที่ จะมีหุ่นสวยและผอมเพรียว ด้วย วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ นี้ หากว่าคุณสามารถใช้ วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ นี้ได้สำเร็จล่ะก็เชื่อว่า หุ่นสวย ๆ ไม่เกินเอื้อมปราถนาอย่างแน่นอนค่ะ และต่อไปอยากใส่ชุดไหนอวดใครตอนไหนก็ยังได้เลยหรือแม้แต่จะอวดหุ่นสวยตอนใส่ ชุดว่ายน้ำก็ไม่เป็นสองรองใครเลยนะขอบอกพูดมาก็มากแหละหลายคนคงจะอยากรู้ กัแล้วใช่ไหมค่ะว่า วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์ "หุ่นสวย" นี้ต้องทำอย่างไรกันบ้างมาดูกันเลยค่ะ


6 วิธีลดความอ้วนภายใน 7 สัปดาห์

1. ใช้ฟิตเนสบอล

ถ้าคุณยังไม่มีก็ไปหาซื้อแบบที่ราคาไม่แพงมาสักใบหนึ่งได้แล้ว ใช้มันเพื่อออกกำลังกายหน้าท้องและขา 5 วันต่อสัปดาห์ ตอนเช้า 5-10 นาที มีทั้งท่าบริหารแบบง่าย ๆ และแบบยาก ๆ ที่หลากหลายพอจะให้คุณไม่เบื่อ

2. เพิ่มเติมการยกน้ำหนัก

ถ้าคุณยังไม่ได้ยกน้ำหนักเป็นประจำก็เริ่มต้นได้แล้ว ตั้งเป้าให้ได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรบริหารกล้ามเนื้อกลุ่มหลัก ๆ ทั้งหมด ทำแต่ละท่า (8-12 ครั้ง) 2-3 เซ็ต ใช้น้ำหนักที่หนักพอจะทำให้กล้ามเนื้อล้า เมื่อทำซ้ำครั้งสุดท้ายเริ่มจากกล้ามเนื้อกลุ่มใหญ่ ๆ เช่น ขา แขน แล้วค่อยบริหารกล้ามเนื้อกลุ่มเล็ก

3. เปลี่ยนการยกน้ำหนัก

ถ้าคุณยกน้ำหนักเป็นประจำอยู่แล้วลองท้าทายกล้ามเนื้อให้มากขึ้นมันเป็น เรื่องจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนการออกกำลังกายของคุณทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ การเปลี่ยนแปลงสร้างความท้าทายให้ร่างกายต้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

4.เพิ่มความท้าทายให้การเสียเหงื่อ

เสริมการออกกำลังแบบอินเทอร์วัล (Intervals) เข้าไปในระหว่างการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ โดยเร่งจังหวะการออกกำลังให้หนักขึ้นในช่วงสั้น ๆ เป็นระยะ ๆ ตลอดการออกกำลังและนี่จะช่วยให้เผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น

5. ประเมินนิสัยการกินอาหาร

แม้กระทั่งการเปลี่ยนเล็กน้อยก็มีผลในการลดแคลอรี เช่น การลดเครื่องดื่มหวาน ๆ ที่เคยกินในแต่ละวันจะช่วยคุณประหยัดแคลอรีได้อย่างน้อย 1,000 แคลอรีต่อสัปดาห์

6. เคลื่อนไหวให้มากขึ้นในระหว่างวัน

อย่าประเมินอำนาจของการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่ำเกินไป เพราะนอกจากการออกกำลังประจำวันแล้ว พยายามเคลื่อนไหวให้มากขึ้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันจะช่วยเร่งการเผาผลาญแคลอรีของคุณอีกแรงหนึ่ง

หากทำตามดังนี้แล้ว ครบ 7 สัปดาห์ คุณจะมีหุ่นสวยใส่ชุดว่ายน้ำอวดหุ่นเพรียวบางได้อย่างไม่อายใครแล้วล่ะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:40
เคล็ดลับ วิธีลดความอ้วนแบบเร่งด่วน
วันนี้เรามีเคล็ดลับวิธีลดความอ้วนแบบเร่งด่วนมาฝากค่ะ สำหรับสาวไหนอยากลดความอ้วนหรือลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนกันบ้างเพื่อให้ทันงาน อะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้ งานรวมรุ่น งานสังสรรค์ต่าง ๆ งานแต่งงาน ฯลฯ ด้วย วิธีลดความอ้วนแบบเร่งด่วน นี้รับรองช่วยคุณได้ค่ะ นอกจากเรื่องการควบคุมอาหารหรือการออกกำลังกายเป็นสิ่งเหล่าเป็นตัวช่วยทีดี แล้วแต่ที่ดียิ่งกว่าก็คือการปรับเปลี่ยนนิสัยและทำจิตใจให้เข้มแข็มก็เป็น อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดของการลดน้ำหนักและลดความอ้วนเลยค่ะ ถ้าคุณ ๆ ปฏิบัติตามเคล็ดลับ วิธีลดความอ้วนแบบเร่งด่วน นี้ได้อย่างเคร่งครัดล่ะก็รับรองว่าหุ่นสวย ๆ ไม่ไปไหนอย่างแน่นอนแถมยังได้สวยเร็วอีกต่างหาก นั้นเราอย่ามัวช้าอยู่ใยมาเริ่มวิธีลดความอ้วนแบบเร่งด่วนกันได้เลยค่ะ

7 วิธีลดความอ้วนแบบเร่งด่วน

1.เคี้ยวอาหารให้ละเอียดพยายามเคี้ยวให้นานกว่าเดิม การเคี้ยวอาหารนาน ๆ นอกจากทำให้เรารู้รสชาติอาหารมากยิ่งขึ้นแล้วยังช่วยให้รับสัญญาณจากสมองที่ สั่งการว่าอิ่มแล้วจ้าก่อนที่จะอิ่มมากจนเกินไป

2. ดื่มน้ำก่อนและหลังอาหาร 1-2 แก้ว ช่วยลดพื้นที่บรรจุอาหารในกระเพาะไปได้ส่วนหนึ่ง

3. ไม่ทำตัวเป็นตู้กับข้าวหรือตู้เย็น อย่าเสียดายอาหารที่เหลืออยู่ถ้ารู้สึกว่าอิ่มแล้วให้รวบช้อนเลย เพราะสิ่งเหล่านี้คือส่วนเกินที่ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนเป็นไขมันได้

4. ช่วงควบคุมน้ำหนักพยายามอย่านอนดึก ดึกสุดไม่ควรเกิน 5 ทุ่ม เพราะนอกจากจะทำให้ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมน้ำหนักหลั่งออกมาน้อยแล้ว ถ้านอนดึกกว่านี้มีสิทธิ์หิวแล้วตบะแตกแน่นอน

5. เติมออกซิเจนให้ร่างกายเพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญง่าย ๆ เพียงคุณดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร พยายามฝึกให้เป็นนิสัย ท่องเอาไว้เลยว่า น้ำช่วยเร่งการเผาผลาญอาหารและช่วยให้ผิวพรรณสดใส

6. วันเสาร์หรืออาทิตย์ หาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก็ยังดี เช่น ตีแบด เล่นเทนนิส ว่ายน้ำ เดินเร็ว กระโดดเชือก โยคะ ไทชิ รำกระบอง

7. ไม่กินจุบจิบ เพราะการกินจุบจิบทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอดเวลา เป็นการเร่งการสะสมไขมันให้ร่างกายทางอ้อม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:41
เคล็ดลับลดความอ้วน แบบเจ๋ง ๆ
เอาล่ะค่ะวันนี้เรามีเคล็ดลับลดความอ้วนแบบเจ๋ง ๆ มาฝากกัน แถมยังเป็น เคล็ดลับลดความอ้วนง่าย ๆ ที่คุณหรือใครก็สามารถทำได้ขอเพียงมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ สำหรับ เคล็ดลับลดความอ้วน คุณเองก็สามารถที่ใช้ร่วมไปกับกิจวัตรประจำวันของคุณได้อีกด้วยค่ะ ฟังแค่นี้ก็ดูว่า เคล็ดลับลดความอ้วน นี้ง่ายแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ เพราะว่าไม่ต้องรบกวนเวลาส่วนตัวของคุณอีกด้วย เอาล่ะค่ะใครที่กำลังมีความกังวลใจเรื่องน้ำหนักและความอ้วนก็ลองนำ เคล็ดลับลดความอ้วน นี้ไปใช้กันดูได้เลยนะค่ะ กับ เคล็ดลับลดความอ้วนแบบเจ๋ง ๆ
5 เคล็ดลับลดความอ้วน

1. ไม่ควรงดอาหาร ไม่ว่าจะมื้อใดมื้อหนึ่งเพราะจะทำให้หิวและทานมื้อถัดไปมากขึ้น ที่สำคัญไม่ควรงดอาหารเช้าเพราะอาหารเช้าจะช่วยให้ทานอาหารมื้ออื่นๆ ได้น้อยลง

2. ทานอาหารให้อิ่มพอดี ไม่ควรทานจนรู้สึกอึดอัดหรือหลายคนเสียดายอาหารที่เหลือ แต่นั่นแหละ คือตัวการเพิ่มความอ้วนทางที่ดีควรกำหนดปริมาณอาหารที่จะรับประทานแต่ละมื้อ ให้พอเหมาะ โดยการตักแต่พอดีและระว่างทานควรเคี้ยวช้า ๆ จะทำให้ทานอาหารได้น้อยลงและรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น

3. กินน้ำ/ลูกอมแทนขนม ในระหว่างวันหากรู้สึกหิวลองเปลี่ยนจากการทานขนมเป็นน้ำเปล่าหรือลูกอมแทน ในส่วนของลูกอมนั้นมี 20 แคลอรี ช่วยให้หายหิวได้ประมาณ 20 นาที แต่ไม่ควรทานเป็นของจุกจิกเพราะความหิวหายไปจริงแต่ฟันผุอาจมาเยือนแทน

4. ใช้บันไดแทนลิฟต์ หากห้องเรียนหรือห้องทำงานอยู่บนชั้นที่ไม่สูงมากก็ควรใช้บันไดหรือหากอยู่ บนชั้นสูง ๆ ควรออกจากลิฟต์ก่อนถึงชั้นที่อยู่ประมาณ 2 ชั้น แล้วชั้นที่เหลือใช้เดินขึ้นบันไดแทนเพราะการเดิน 5-10 นาที เป็นวิธีช่วยเผาผลาญแคลอรีระหว่างวันได้ดี

5. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนดึกจะยิ่งทำให้อยากทานของจุกจิกตรงกันข้ามหากได้นอนเต็มที่ร่าง กายจะสามารถเพิ่มระบบเผาผลาญได้มากขึ้นจากปกติถึง 40%

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมข้างต้นมีส่วนช่วยลดแคลอรีส่วนเกินที่ไม่พึงประสงค์ ของคุณผู้หญิงได้อย่างดี ที่สำคัญเป็นวิธีความอ้วนที่ไม่ต้องอดทั้งยังรักษาสมดุลให้ร่างกายแข็งแรง สดใสอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:42
อาหารลดความอ้วน "ยิ่งกินยิ่งผอม"
อีกหนึ่งหนทางแห่งการลดความอ้วน นั่นคือ อาหารลดความอ้วน "ยิ่งกินยิ่งผอม" นั่นเองค่ะ แหม๋...เมื่อสาว ๆ หลาย ๆ คนได้ยินคำว่า "ยิ่งกินยิ่งผอม" คงอดให้ความสนใจแล้วยิ้มกลุ้มกลิ่ม ๆ เป็นไม่ได้เลยใช่ไหมค่ะ ยิ่งคุณสาว ๆ ที่ชอบกินแบบไม่หยุดด้วยแล้วล่ะก็ได้เฮกันก็คราวนี้แหละค่ะ แล้วคุณสาว ๆ อยากรู้กันรึยังเอ่ยว่า อาหารลดความอ้วน ที่ว่ามานี้มีอะไรบ้างน๊า...ที่ ยิ่งกินยิ่งผอม นั้นเราก็ไม่รอช้ามาดู 5 อาหารลดความอ้วน "ยิ่งกินยิ่งผอม" กันเลยค่ะ เพราะอาหารลดความอ้วนเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญและลดความอยากอาหารให้น้อยลงจนคุณสามารถลดน้ำหนักได้ตามต้องการ

5 อาหารลดความอ้วน "ยิ่งกินยิ่งผอม"

1. พริก ผลการวิจัยในประเทศญี่ปุ่นพบว่า สารแคปไซซิน (Capsaicin) ในพริกช่วยลดการอยากอาหารได้

2. ถั่วเปลือกแข็ง เช่น วอลนัต อัลมอนด์ แม้ถั่วหนึ่งกำมือจะมีแคลอรีสูงถึง 165 กิโลแคลอรี แต่ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย Purdue สหรัฐอเมริกา พบว่า การกินถั่วเปลือกแข็งช่วยกระตุ้นร่างกายให้เผาผลาญดีขึ้นอีก 11 เปอร์เซ็นต์และลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจได้ด้วย

3. เต้าหู้ ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยหลุยส์เซียนาสหรัฐอเมริกาพบว่า การกินเต้าหู้ 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนกินอาหารช่วยลดความอยากอาหารได้ 42 เปอร์เซ็นต์

4. น้ำส้มสายชูวินิการ์ ผลการวิจัยจากประเทศสวีเดนพบว่า หากกินน้ำส้มสายชูวินิการ์พร้อมมื้ออาหาร กรดอะซิติกในน้ำส้มสายชูจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลงจึงอิ่มนานขึ้น

5. ลูกแพร์ นอกจากจะมีไฟเบอร์สูงแล้วผลการวิจัยในบราซิลยังพบว่า ผู้หญิงที่กินลูกแพร์ขนาดเล็กหลังมื้ออาหารเป็นเวลา 2 เดือน มีน้ำหนักลดลง 1/2 กิโลกรัม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health&Cuisine


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:43
อาหารช่วยลดน้ำหนัก "เผาผลาญไขมันได้ดี"
เอาล่ะค่ะวันนี้เรามีตัวช่วยพิเศษในการช่วยคุณผู้หญิงในการลดน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น นั่นก็คืออาหารช่วยลดน้ำหนักนั่น เองค่ะ เพราะว่า อาหารช่วยลดน้ำหนัก นี้สามารถช่วยในเรื่องของการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว นอกจาก อาหารช่วยลดน้ำหนัก จะช่วยในเรื่องของการเผาผลาญไขมันแล้วยังช่วยในเรื่องของสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ นั้นเราลองมาใช้อาหารช่วยลดน้ำหนักเพื่อให้การลดน้ำหนักของคุณเป็นไปได้ อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกันดีกว่าค่ะ นั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะว่า อาหารช่วยลดน้ำหนักนี้มีอะไรบ้างน๊า...

5 อาหารช่วยลดน้ำหนัก

1. เกรปฟรุต เคยได้ยินเรื่องเกรปฟรุตไดเอ็ตหรือเปล่า? ดูเหมือนมันจะมีเหตุผลดี ๆ บางอย่างที่รับรองชื่อเสียงของเกรปฟรุตในการต่อสู้กับไขมัน ในการศึกษาของสคริปคลินิกในเมืองลาจอลล่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ นักวิจัยพบว่า การกินเกรปฟรุตครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารอาจช่วยคนเราลดน้ำหนักได้จริง ๆ กลไกของมันยังไม่เป็นที่เข้าใจชัดเจน แต่ผลของมันก็ยืนยันได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้เกรปฟรุตยังมีสารต้านมะเร็งอย่างเช่น ไลมินอยด์และไลโคปีน และเกรปฟรุตครึ่งลูกก็มีแค่ 39 แคลอรีเท่านั้นเอง

2. ปลาซาร์ดีนส์ มันเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมันก็ดีสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ด้วยเช่นกัน ซาร์ดีนส์อุดมด้วยโปรตีนที่ช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดคงที่ทำให้เรารู้สึกอิ่ม และช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ มันยังอุดมด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรง แต่ยังช่วยทำให้อารมณ์ดี (ซึ่งจะทำให้คุณอยากกินจุบจิบน้อยลง)

3. ฟักทอง มันมีเส้นใยสูงและแคลอรีต่ำ มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า การบริโภคเส้นใยมาก ๆ สัมพันธ์กับประโยชน์ทางสุขภาพกายมากมายรวมทั้งการดูแลน้ำหนักด้วย มันปรุงอาหารได้หลายอย่างทั้งอร่อยและอิ่มด้วย

4. เนื้อสัตว์ อาหารโปรตีนสูงสัมพันธ์กับการลดน้ำหนักด้วยเหตุผลหลายอย่าง โปรตีนกระตุ้นการเผาผลาญช่วยให้อิ่มนานกว่าและช่วยลดความอยากกินมากจนเกินไป

5. ชาเขียว นี่อาจไม่ใช่อาหารแต่ชาเขียวก็ยังเป็นทางออกที่ดีในการลดน้ำหนัก ไม่ต้องพูดถึงการที่มันอุดมด้วยแอนตี้ออกซิแดนต์ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจช่วยการ ย่อยและจัดการกับน้ำตาลในเลือด มันยังเพิ่มอัตราการเผาผลาญและเร่งการเผาผลาญไขมันจึงช่วยคนเราในการลด น้ำหนักได้ งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าดื่มชาเขียววันละ 5 ถ้วย อาจช่วยลดไขมันได้ดีนอกจากนี้แทนนินในชาเขียวยังเป็นตัวช่วยคลายเครียดที่ดี ด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:44
เคล็ดลับ ลดน้ำหนักไม่ให้โทรม "เราทำได้"
วันนี้เรามีอีกหนึ่งวิธีลดน้ำหนักไม่ให้โทรมใคร ๆ ก็สามารถทำได้มาฝากกันค่ะ เพราะบางคนนั้นมักจะหักโหมกับการลดน้ำหนักกันเป็นอย่างมากจนทำให้ร่างกาย เสื่อมโทรมโดยที่ไม่รู้ แม้ว่าน้ำหนักจะลดลงแต่ร่างกายกับแย่ลงอย่างนี้เรียกว่าไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ ฉะนั้นแล้วหากว่าคุณอยากจะ ลดน้ำหนักไม่ให้โทรม อยู่ล่ะก็ลองมาฟัง เคล็ดลับ ลดน้ำหนักไม่ให้โทรม ต่อไปนี้ น่าจะช่วยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดน้ำหนักของคุณได้ที่สำคัญยังไม่ทำให้ คุณต้องโทรมหรือมีสุขภาพที่ย่ำแย่อีกต่างหาก

เคล็ดลับ ลดน้ำหนักไม่ให้โทรม

การลดน้ำหนักไม่ให้โทรมคุณสามารถทำได้โดยลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มี อยู่ในอาหารประเภทข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง น้ำตาล เช่น จากปกติรับประทานข้าวมื้อละ 1 จานเต็ม ๆ อาจลดเหลือเพียงแค่ครึ่งจาน หรืออาจเลือกรับประทานข้าวเพียง 1 มื้อต่อวัน ส่วนมื้ออื่น ๆ ที่เหลือให้เน้นผัก ผลไม่ เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น ปลานึ่ง ทั้งนี้หากรับประทานข้าวแล้วก็ไม่ควรรับประทานก๋วยเตี๋ยวหรือขนมปังในวัน เดียวกันอีก

สำหรับประโยชน์จากการลดคาร์โบไฮเดรตจะช่วยให้ร่างกายที่ปกติจะเผาผลาญคาร์โบ ไฮเดรตที่รับประทานเข้าไปใหม่เป็นอันดับแรก ก็จะหันไปเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายแทน

ส่วนอาหารชนิดอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างควบคุมน้ำหนัก คือ อาหารทอดน้ำมัน เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ รวมทั้งชา กาแฟ ที่ใส่ครีมปริมาณมาก น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน

นอกจากการใส่ใจเรื่องอาหารการกินแล้วยังต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าจะให้เห็นผลควรจัดสรรเวลาออกกำลังกายอย่างน้อย 4-5 เดือน เช่น การยกเวต เซ็ตละ 15 ครั้ง เพื่อกระชับต้นแขน หรือซิตอัพลดหน้าท้อง เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์



โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:45
เคล็ดลับ ว่ายน้ำลดความอ้วน
มีคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านตั้งคำถามที่ว่าว่ายน้ำลดความอ้วนได้ ไหม วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับ ว่ายน้ำลดความอ้วน มาฝากกันด้วยนะค่ ว่ายน้ำจัดเป็นกีฬาเพื่อสุขภาพอีกวิธีหนึ่งเลยค่ะ นอกจาก ว่ายน้ำลดความอ้วน ได้แล้วการว่ายน้ำยังช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ แข็งแรงอีกด้ว และที่สำคัญกีฬาว่ายน้ำจัดเป็นกีฬาที่มีความสนุกสนาน ใครอยากลดความอ้วนมีรูปร่างดีก็หันมาลองว่ายน้ำกันดูได้เลยนะค่ะ แต่ก่อนที่คุณจะ ว่ายน้ำลดความอ้วน นั้นก่อนอื่นก็อย่าลืมที่จะต้องวอร์อัพก่อนทุกครั้งเหมือนกับกีฬาประเภทอื่น ๆ นะค่ะ นั้นเรามาดูเคล็ดลับว่ายน้ำลดความอ้วนกันเลยค่ะ

4 เคล็ดลับ ว่ายน้ำลดความอ้วน

1. ท่าฟรีสไตล์ เป็นท่าที่ว่ายได้เร็วที่สุดและทำให้พลังแข็งแรง นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อท้อง และกล้ามเนื้อหัวไหล่แข็งแรงด้วย แต่มักมีปัญหากับการหายใจผิดวิธี อย่างไรก็ตามท่านี้ถือว่ามีประโยชน์และเผาผลาญแคลอรีได้มากทีเดียวครับ

Tip : ท่าฟรีสไตล์เป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรีได้ 30 แคลอรี ทุก 10 นาที


2. ท่ากบ เป็นท่าที่ช่วยขยายปอดทำให้หน้าอก ขา หัวไหล่ และกล้ามเนื้อแขนแข็งแรง ที่สำคัญควรอบอุ่นร่างกายก่อนว่ายท่านี้มิฉะนั้นอาจเกิดการบาดเจ็บที่หัว เข่าหรือบริเวณหลังได้ รวมทั้งอย่าโผล่ศีรษะพ้นน้ำตลอดเวลาเพราะจะทำให้มีผลเสียต่อคอครับ

Tip : ท่ากบเป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรีได้ 60 แคลอรี ทุก 10 นาที


3. ท่ากรรเชียง ทำให้กล้ามเนื้อท้อง หลัง ขา แขน และหัวไหล่แข็งแรง จึงเหมาะสำหรับผ่อนคลายหลังจากนั่งทำงานมาทั้งวันครับ

Tip : ท่ากรรเชียงเป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรีได้ 80 แคลอรี ทุก 10 นาที


4. ท่าผีเสื้อ ช่วยเหยียดร่างกายและทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ควรมีครูสอนให้ว่ายอย่างถูกต้องเสียหน่อยนะครับ มิฉะนั้นอาจเกิดอาการเจ็บหัวไหล่และหลังได้

Tip : ท่าผีเสื้อเป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรีได้ 150 แคลอรี ทุก 10 นาที


นอกจากการว่ายน้ำทั้ง 4 ท่าจะช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณแข็งแรงรวมทั้งช่วยให้ระบบการหายใจ ระบบหัวใจ และการไหลเวียนของเลือดทำงานดียิ่งขึ้นแล้ว กีฬาว่ายน้ำยังถือเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับคนที่ไม่สามารถออกกำลังด้วย วิธีอื่นได้ เช่น คนที่มีปัญหาหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท คนที่ปวดหลังบ่อย ๆ หรือมีปัญหาข้อเข่าหรือสะโพกเสื่อมก็หันมาว่ายน้ำหรือออกกำลังกายอย่างเต็ม ที่ เพราะกระดูกไม่ต้องรับแรงกระแทกของน้ำหนักตัว

ที่สำคัญหากคุณว่ายน้ำเป็นประจำจะสามารถบริหารร่างกายได้ครบทุกส่วน เพราะฉะนั้นใครที่อยากลดความอ้วนมีรูปร่างสวยสมสัดส่วนแถมแข็งแรงอีกต่างหาก ก็หันมาว่ายน้ำกันได้แล้วล่ะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก SLIM UP

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:46
ลดน้ำหนัก ด้วย วิธีเล่นฮูลาฮูบ
วันนี้เรามีวิธีเล่นฮูลาฮูบมาฝากค่ะ เพราะด้วย วิธีเล่นฮูลาฮูบ นี้จะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักและลดความอ้วนได้นั่นเองค่ะ ตอนเด็ก ๆ นั้น คุณผู้หญิงอาจจะเคยเล่นฮูลาฮูบเพียงเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น นั้นลองมาย้อนวัยไปกับ วิธีเล่นฮูลาฮูบ แบบสนุก ๆ เหมือนตอนเมื่อสมัยยังเป็นเด็กอยู่จะได้ไม่รู้สึกว่า วิธีเล่นฮูลาฮูบ นี้เป็นเพียงการลดน้ำหนักให้ผอมลงแต่เพียงเท่านั้น คุณจะได้สนุกไปกับวิธีเล่นฮูลาฮูบโดยไม่รู้สึกว่า ตะขิดตะขวงใจแต่อย่างใด แล้วการลดน้ำหนักของคุณก็จะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหน่ายอีกต่อไปด้วยค่ะ นั้นเรามาสนุกไปกับวิธีเล่นฮูลาฮูบกันเลยดีกว่าค่ะ
วิธีเล่นฮูลาฮูบ

อุปกรณ์ : เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดควรเลือกใช้ฮูลาฮูปที่หนักราว 3 ปอนด์ คุณอาจใช้ฮูลาฮูปแบบธรรมดาทั่วไปก็ได้ แต่อาจจะไม่เห็นผลในแง่การออกกำลังอย่างชัดเจน เท่ากับการใช้ห่วงที่หนักสักหน่อย

ระยะเวลา : 30-40 นาที

ขั้นตอน วิธีเล่นฮูลาฮูบ

1. ย่ำอยู่กับที่ 3 นาทีเพื่อวอร์มอัพ

2. คล้องห่วงเข้ากับสะโพกและหมุนไปมา 3-5 นาที

3. ยืนแยกขากว้างเท่าช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ออกด้านซ้ายเล็กน้อย วางห่วงบนพื้นข้างเท้าซ้าย จับส่วนบนของห่วงด้วยมือซ้าย ยกขาขวาขึ้นด้านข้างให้สูงระดับสะโพกหรือสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันกลิ้งห่วงออกให้ห่างตัวและยกแขนขวาขึ้นเหนือหัว ทำซ้ำ 12 ครั้ง แล้วเปลี่ยนไปอีกข้างหนึ่งทำซ้ำ 12 ครั้งเช่นกัน

4. หมุนห่วงรอบสะโพก 3-5 นาที

5. ยืนแยกขากว้างเท่าช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ตรงไปข้างหน้า สองมือจับห่วงไว้หน้าตัวแบบเดียวกับจับพวงมาลัยรถและยกเท้าขวาขึ้นทางด้าน ข้างสองครั้ง ขณะที่หมุนห่วงไปทางด้านขวา จากนั้นยกขาซ้ายขึ้นทางด้านข้างสองครั้งพร้อมกับหมุนห่วงไปทางซ้าย (ทั้งนี้นับเป็นหนึ่งครั้ง) ทำ 2 เซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้ง

6. หมุนห่วงรอบสะโพก 3-5 นาที

7. ยืนแยกขากว้างเท่าช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ตรงไปข้างหน้า ถือห่วงไว้ในมือแบบเดียวกับจับพวงมาลัยรถ หมุนตัวไปข้างซ้ายเล็กน้อยและเหยียดแขนขวาข้ามไปจับด้านซ้ายของห่วง ขณะที่ทำท่านี้เขย่งปลายเท้าขวาขึ้นด้วยทำซ้ำอีกด้านหนึ่ง (ทั้งหมดนับเป็นหนึ่งครั้ง) ทำสองเซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้ง

8. หมุนห่วงรอบสะโพก 3-5 นาที

9. นอนหงายบนพื้นยกขาทำมุม 90 องศากับพื้นถือห่วงไว้ในมือซ้ายและวางเท้าทั้งสองข้างแตะเบา ๆ ที่ด้านล่างของห่วง เหยียดแขนขวาขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมกับยกไหล่ขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อย (พยายามอย่าให้บั้นเอวยกตามไปด้วย) และลดขาลงจนกระทั่งอยู่เหนือพื้นสองสามนิ้ว กลับสู่ท่าเริ่มต้นนับเป็นหนึ่งครั้ง ทำซ้ำ 2 เซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้ง โดยเปลี่ยนมาเป็นข้างขวาในเซ็ตที่สอง

10. คูลดาวน์ด้วยการย่ำอยู่กับที่ 3 นาที (อย่าลืมยืดเส้นสายปิดท้ายสักหน่อยด้วย)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 10:49
วิธีซิทอัพ ที่ถูกต้อง
แน่นอนว่าหลายคนคงจะรู้จักกับวิธีซิทอัพที่จะช่วยให้คุณ เสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนหน้าท้องและเป็นการลดพุงลดอ้วนไปในตัวอีกด้วยค่ะ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จัก วิธีซิทอัพ ที่ถูกต้อง การรู้จัก วิธีซิทอัพ ที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณ ๆ ทั้งหลายไม่ปวดเมื่อยและไม่ทำให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายต้องผิดปกติอีกด้วยนะค่ะ วันนี้เรามารู้จักกับ วิธีซิทอัพ ที่ถูกต้องแบบเบื้องต้นกันก่อนดีกว่าค่ะ เพื่อให้คุณทั้งหลายไม่ได้ออกกำลังกายโดยการซิทอัพอย่างผิดวิธีอีกต่อไปค่ะ

วิธีซิทอัพ

"ซิทอัพ" คือ ท่าออกกำลังกายที่นอนราบกับพื้นแล้วเกร็งหน้าท้องยกตัวท่อนบนขึ้นนั่นเอง

ท่าที่ทำกันเป็นปกติก็คือ นอนราบ ขาเหยียดตรง ยกตัวท่อนบนขึ้นในท่านั่งเทตัวก้มลงจนศอก (เกือบ) ชิดเข่า เสร็จแล้วก็มานั่งบ่น ปวดนั่นเมื่อยนี่ ก็แหม๋...เพราะทำท่านั้นกล้ามเนื้อส่วนสะโพกต้องใช้แรงมากและนานไปจะทำให้ กระดูกสันหลังส่วนล่างคดงออีกด้วย

ที่ถูกต้องตรงประเด็นของการออกกำลังกายท่านี้ก็ต้อง ชันเข่าขึ้น มือประสานกันไว้ท้ายทอย ยกตัวขึ้นลงอย่างช้า ๆ ในระดับไม่สูงนัก คือไม่เกิน 45 องศา กล้ามเนื้อที่จะถูกใช้งานมากที่สุดก็จะเป็นหน้าท้องตามจุดประสงค์ในการลด ห่วงไขมันด้วยท่านี้แล

ขอขอบคุณข้อมูลจาก momypedia

clip_image001.jpg (13.34 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 1)

วิธืซิทอัพ

วิธืซิทอัพ

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 11:00
วิธีเผาผลาญไขปั่นจักรยานลดความอ้วน "หุ่นฟิต"
ชวนคุณผู้หญิงมาปั่นจักรยานลดความอ้วนให้หุ่นฟิตสวยกันดี กว่าค่ะ ปั่นจักรยานลดความอ้วน ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ไม่แพ้การไปออกกำลังกายในฟิตเนสเลยนะค่ะ เพราะการปั่นจักรยานนั้นคุณสามารถเลือกได้ว่าจะออกไปปั่นข้างนอกบ้านก็ได้ บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่งที่ผ่อนคลาย หรือว่าอยากจะลอง ปั่นจักรยานลดความอ้วน ภายในบ้านโดยใครเครื่องออกกำลังกายปั่นยานนั่นเองค่ะ ซึ่งพื้นที่ในการใช้ก็คงไม่มากมาย แต่ขอบอกเลยค่ะว่าการปั่นจักรยานลดความอ้วนช่วยเร่งการเผาพลานไขมันได้ดีนัก แล


ปั่นจักรยานลดความอ้วน

การปั่นจักรยานให้ผลลัพธ์ที่ดีมากเพราะเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก หากทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่องจะช่วยเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อช่วงขาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงหน้าท้อง ก้น และหากใช้อุปกรณ์บางอย่างเพิ่มจะช่วยบริหารแขนได้ด้วยเพียงแค่มีแท่งยก น้ำหนัก 1 คู่ ที่หนักไม่มากก็เพียงพอแล้ว

การปั่นจักรยานนั้นดีกว่าการวิ่งเพราะจะไม่ส่งผลกระทบกับข้อเท้า หัวเข่า และหลัง คุณอาจเริ่มจากการปั่นแบบช้า ๆ โดยไม่มีแรงเสียดทานหรือเรียกว่าขั้นพื้นฐาน แล้วค่อยเพิ่มความเร็วในการปั่นและน้ำหนักที่แป้นถีบมากขึ้นเหมือนปั่นขึ้น เขาและเช่นเดียวกับการออกกำลังกายทุกประเภท เคล็ดลับที่จะบริหารร่างกายให้ได้ผลก็คือ ทำทุกวันบ่อย ๆ แม้จะใช้เวลาไม่มากก็ตาม
วิธีการปั่นจักรยานลดความอ้วน

- อบอุ่นร่างกาย

ปรับที่นั่งให้สูงพอที่จะเหยียดขาเวลาปั่นได้ เมื่อวางเท้าบนแป้นขนานกับพื้นหัวเข่าจะต้องทำมุม 10-15 องศา ถ้าที่นั่งอยู่ต่ำเกินไปจะทำให้รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นและทำให้หัวเข่าต้องออก แรงมากกว่าปกติ ถ้าอยู่สูงเกินไปทำให้ต้องเคลื่อนไหวส่วนอุ้งเชิงกราน ทำให้หลังส่วนล่างต้องรับน้ำหนักมากที่จับสามารถปรับระดับได้ ขั้นแรกเริ่มจากระดับ "สูง" ก่อนวางมือทั้งสองข้างขนานกันบนที่จับจากนั้นค่อยลดระดับลงเพื่อเพิ่มความ โค้งให้แผ่นหลัง

- ความเร็วและแรง

ถ้าคุณยังไม่ชินเริ่มจากการปั่นแบบธรรมดาที่ความเร็ว 60 รอบต่อนาที (1 รอบต่อวินาที) นาน 10 นาที จากนั้นเริ่มปรับให้ชันมากขึ้น ปั่น 10 นาที สลับกลับไปที่แบบธรรมดาอีก 10 นาที ทำแบบนี้อาทิตย์ละ 3 ครั้ง 3 วัน เป็นเวลา 3 อาทิตย์ ก่อนที่จะเริ่มโปรแกรมถัดไป

เมื่อเริ่มชำนาญมากขึ้นแนะนำให้เริ่มปั่น 80-90 รอบต่อนาที สลับกับแบบธรรมดา 15 นาที และแบบชัน 15 นาที และแบบธรรมดา 15 นาที ทำ 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์ อย่างน้อย 3 อาทิตย์ก่อนที่จะเข้าโปรแกรมที่สูงขึ้นต่อไป

หลังจากชินกับระดับต่าง ๆ แล้ว ลองเปิดเพลงเพื่อกำหนดความเร็วสำหรับการปั่นแบบธรรมดาและแบบชัน ในขั้นนี้อาจสลับด้วยการเดินได้และเพิ่มเวลาขึ้นอีก 2 อาทิตย์

- แขนยก

วิธีเพิ่มความกระชับให้แขนทุก ๆ 5 นาที ระหว่างปั่นจักรยานให้ยกน้ำหนัก 3 นาที โดยยกแขนสลับกันขณะที่ปั่นจักรยานแบบธรรมดาทำซ้ำ 5 เซต

- แขนรวบ

ถือลูกน้ำหนักเอาไว้ยืดแขนทั้งสองข้างแนบสะโพกพร้อมทั้งปั่นจักรยานแบบ ธรรมดาด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 5 นาที จากนั้นพับข้อศอกยกแขนท่อนล่างขึ้นแนบหน้าอกอย่างช้า ๆ ให้รู้สึกว่าร่างกายกำลังเคลื่อนไหว

- แขนยกสูง

หลังจากปั่นจักรยานอุ่นเครื่องได้ 5 นาที ที่ความเร็วปานกลางยกแขนขึ้นสูงเหนือศีรษะจากนั่นค่อย ๆ ลดแขนต่ำลงแนบสะโพก ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ ประมาณ 3 นาที


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 11:01
วิธีเผาผาญไขมัน และ แคลอรี่
วันนี้เรามีวิธีเผาผลาญไขมันและแคลอรี่มาฝากคุณผู้หญิงค่ะ โดยเฉลี่ยแล้วสาว ๆ ออฟฟิตจะได้รับพลังงานในแต่ละวันวันล่ะ 1,800-2,200 กิโลแคลอรี ซึ่งได้รับพลังงานจากอาหารที่ทานเข้าไป แต่คุณผู้หญิงนั้นมักจะเผาผลาญไขมันไปเพียง 700-2,000 กิโลแคลอรีเท่านั้น ซึ่งส่วนที่เหลือของคุณผู้หญิงจะกลายมาเป็นไขมันส่วนเกินหรือไขมันสะสมนั่น เองค่ะ และสิ่งนี้แหละค่ะที่จะทำให้คุณน้ำหนักขึ้นเรียกว่าไม่ลงกันเลยทีเดียวค่ะ ฉะนั้นวันนี้เราก็เลยต้องนำ วิธีเผาผลาญไขมัน มาฝากเพื่อให้คุณผู้หญิงได้ใช้พลังงานกันอย่างเต็มที่เลยล่ะค่ะ และ วิธีเผาผลาญไขมัน และ แคลอรี่ ที่เรากำลังจะแนะนำมีด้วยกัน 5 ท่าด้วยกันค่ะ

หาก ต้องการลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เราจะต้องเผาผลาญพลังงานมากถึง 7,700 กิโลแคลอรี การออกกำลังกายต่างชนิดกันจะช่วยเผาผลาญไขมันและพลังงานตั้งแต่ 150-1,200 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมง หากรู้จักเลือกท่าออกกำลังกายก็จะช่วยให้เผาผลาญไขมันและพลังงานได้มากใน ระยะเวลาอันสั้น วันนี้มีโปรแกรมออกกำลังกาย 5 ท่าที่ใช้เวลาไม่นานและเห็นผลจริงมาให้ลองยืดเส้นยืดสายต้านไขมันกัน

5 วิธีเผาผลาญไขมัน และ แคลอรี่

1.โปรแกรมคาร์ดิโอ เริ่มอุ่นเครื่องเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญไขมันและพลังงานของร่างกายโดยเดิน เร็วหรือวิ่งเหยาะ ๆ 5 นาที จากนั้นเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น 5 นาที แล้วพักสัก 2 นาที

2.ท่าจั้มพ์ ยืนตัวตรงเท้าห่างประมาณช่วงไหล่ทิ้งน้ำหนักตัวที่ปลายเท้า มือทั้งสองข้างชูดัมบ์เบลน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมขึ้นเหนือศีรษะ งอข้อศอกเล็กน้อย กระโดด 5 ครั้ง แล้วเหยียดแขนลงข้างหน้า พักสักครู่แล้วชูแขนขึ้นทำซ้ำ 5 รอบ

3.ท่าเครื่องบิน ยืนตัวตรง เท้าห่างประมาณช่วงไหล่ แขนทั้งสองข้างถือดัมบ์เบล เตะขาซ้ายไปด้านหลัง (ไม่ต้องเหยียดตรง) โน้มตัวไปข้างหน้าให้หลังขนานกับพื้น เมื่อทรงตัวได้เริ่มกางแขนออกให้ขนานกับพื้น เกร็งค้างไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วจึงเอาแขนลงสลับขาทำซ้ำ 12 รอบ

4.ท่าปั่นจักยานสลับข้าง นอนหงายมือทั้งสองประสานไว้ที่ท้ายทอยยกขาขึ้นทำท่าเหมือนปั่นจักรยานใน อากาศ ยกไหล่ซ้ายบิดตัวไปทางขวาสลับข้าง 3 ครั้ง ปล่อยศีรษะแนบพื้นมือยังคงประสานที่ท้ายทอยประมาณ 5 วินาที แล้วทำซ้ำอีก 5 รอบ

5. ท่าวงกลม โดยยืนตัวตรงปลายเท้าแยกห่างประมาณ 2 ช่วงไหล่ ก้มตัว เหยียดแขนตรง ปลายนิ้วแตะพื้น วาดแขนออกด้านข้างวนเป็นวงกลม พักสักครู่ก่อนทำซ้ำ 10 รอบ

เมื่อทำติดต่อกันครบ 5 ท่า จะช่วยเผาผลาญไขมันและพลังงานได้ประมาณ 500 กิโลแคลอรี สำหรับท่าที่ 2 และ 4 หากเร่งจังหวะได้เร็วขึ้น จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health&Cuisine

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 11:03
"อยากหุ่นสวย" ห้ามทำพฤติกรรมต่อไปนี้!
ใครอยากหุ่นสวยต้องฟังทางนี้เลยนะจ๊ะ เพราะว่าเรามีพฤติกรรมที่ห้ามทำถ้าคุณยัง อยากหุ่นสวย อยู่นะค่ะ เพราะหากว่าคุณยังทำพฤติกรรมต่อไปนี้ที่เรากำลังจะบอกเนี่ยนะ ซึ่งเป็นสาเหตุให้คุณบรรทอนความมั่นใจในการอยากหุ่นสวยหุ่นดีได้นะขอบอก แล้วถ้าใครยัง อยากหุ่นสวย อยู่ละก็ให้เลิกพฤติกรรมนี้ซะเดี๋ยวนี้ รับรองว่าหุ่นคุณต้องสวยและเช้งกระเด๊ะอย่างแน่นอนค่ะ เอาล่ะค่ะก่อนที่จะสายเกินแก้จนอ้วนไม่รู้ทำไงเราก็มาฟัง พฤติกรรมห้ามทำ! ของสาว "อยากหุ่นสวย" กันดีกว่าค่ะ

พฤติกรรมห้ามทำ! ของสาว "อยากหุ่นสวย"

1. ทำงานตอนกลางคืน

เวลาเย็นถึงค่ำควรเป็นเวลาที่เราจะได้ผ่อนคลายแต่ถ้าคุณยังขยันนั่งทำโอที อยู่ ความเครียดนี่ล่ะจะไปกระตุ้นฮอร์โมนให้เกิดการสะสมไขมันที่หน้าท้อง คนที่ยิ่งเครียดจึงมักจะยิ่งลงพุงและถ้าคุณทำงานดึกจนกระเพาะย่อยอาหารเย็น ไปหมดแล้ว น้ำย่อยก็จะเริ่มออกมาอาละวาดอีกรอบจนต้องวิ่งหามื้อดึกกันตาลายและนั่นก็ เป็นที่มาของไขมันส่วนเกินที่สะสมขึ้นเรื่อย ๆ

2. ให้อาหารเป็นรางวัลตัวเอง

การที่คุณเป็นคนชอบสังสรรค์หรือชอบพาเพื่อน ๆ ไปกินเลี้ยงกันจะทำให้คุณอ้วนเร็วมากแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะด้วยพฤติกรรมนี้จะทำให้คุณติดนิสัยการช่างกินอย่างไม่ทันสังเกต

3. ไปซุปเปอร์มาเก็ตตอนหิว

รวมทั้งร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านด้วยเพราะคนที่เดินผ่านขนมเรียงรายสองข้างทาง โดยมีน้ำย่อยร้องหาอาหารอยู่ในกระเพาะ มักจะลืมตัวซื้อของกินมากกว่าปกติและมักจะเป็นอาหารต้องห้ามประเภท คุ้กกี้ เค้ก ช็อกโกแลต ที่ไม่มีโอกาสได้กินระหว่างไดเอท

4. ใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่

เสื้อผ้าหลวม ๆ อาจจะใส่สบายแต่มันจะทำให้คุณไม่รู้ตัวว่าอ้วนขึ้นและคนที่ใส่กางเกงตัวใหญ่ ๆ มักจะกินตามสบายแบบลืมอิ่ม เพราะกางเกงไม่ช่วยบอกเลยว่าถึงเวลาที่ต้องหยุดได้แล้ว นอกจากนี้คนที่ใส่เสื้อผ้าพอดีตัวจะควบคุมรูปร่างได้ดีกว่าร้อยละ 20 เลยทีเดียวค่ะ

5. ไม่นับแคลอรีอาหาร

อย่างน้อยคุณก็ควรจะมีสมุดจดบันทึกอาหารจานเด็ดที่กินเข้าไปอย่างคร่าว ๆ จะได้กะได้ถูกว่าวันนี้กินเข้าไปมากน้อยแค่ไหน และมื้อเย็นยังจะกินตามใจปากได้อยู่หรือเปล่า คนที่ไม่จดเลยมักจะรู้สึกเราก็ไดเอทอยู่ตลอดเวลานี่นาเพราะไม่ได้กินอะไร หนัก ๆ เลย แต่ลืมคิดไปว่ากล้วยแขก 2-3 ชิ้น โดนัท 1 อัน ทุเรียน 1 เม็ดที่กินรองท้องไป รวม ๆ กันแล้วให้พลังงานมากกว่าข้าวทั้งจานเสียอีก

6. ออกกำลังแบบซ้ำซาก

การออกกำลังกายท่าเดิมทุก ๆ วัน ช่วงแรกอาจได้ผลดีแต่ต่อมาร่างกายคุณจะเริ่มเคยชินกับการเคลื่อนไหวแบบนั้น และจะเริ่มใช้พลังงานน้อยลง นั่นเพราะร่างกายปรับตัวได้แล้วเลยไม่ต้องออกแรงมากเท่าวันแรก ๆ จึงควรจะเปลี่ยนท่าหรือวิธีออกกำลังกายทุก 2 อาทิตย์ เพื่อให้น้ำหนักลดลงสม่ำเสมอหรืออาจจะออกกำลังกายหลาย ๆ อย่างรวมกันก็ได้ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก woman's


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 11:03
เคล็ดลับหุ่นสวย "ช่วงวันหยุด"
ช่วงวันหยุดแบบนี้ไม่ดีแน่ ๆ ถ้าเกิดกลับมาอ้วนเบอะบะน้ำหนักขึ้นอาจจะโดนล้อได้ วันนี้เรานำเคล็ดลับหุ่นสวยมา ฝากในช่วงวันหยุดดี ๆ แบบนี้ค่ะ แม้จะเป็นช่วงวันหยุดที่มีงานสังสรรค์มากมายแต่คุณก็ยังหุ่นดีได้ดั่งเดิม ด้วย เคล็ดลับหุ่นสวย ของเราเนี่ยแหละค่ะ เอาล่ะค่ะใครไม่อยากจะอ้วนขึ้นน้ำหนักขึ้นในช่วงวันหยุดแบบนี้ก็มาตั้งใจฟัง เคล็ดลับหุ่นสวย ของเรากันเลยนะค่ะ ขอบอกว่าเคล็ดลับหุ่นสวยนี้ดีจริงๆ นะ

เคล็ดลับหุ่นสวย

- 10 นาที ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยออกกำลังกายเบา ๆ หลังตื่นนอน เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานมากกว่าเดิม และความเพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าสำหรับวันหยุดสุดสบายนี้

- 15 นาที ใช้เวลาขณะดูนั่งทีวีหรือคุยโทรศัพท์ออกกำลังกายเบา ๆ โดยการเกร็งหน้าท้องเข้าออกและบิดเอวไปมา หรือยืนตัวตรงปล่อยไหล่สบาย ๆ แขม่วท้องแล้วผ่อนหายใจออกอย่างต่อเนื่องช่วยกระชับกล้ามเนื้อท้องให้เฟิร์ม ขึ้น

- 20 นาที เดินเร็ว ๆ ก่อนมื้ออาหารกลางวันและเย็นช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานดียิ่งขึ้น

- 30 นาที หาดีวีดีออกกำลังกายที่คุณชอบมาลองทำตามที่บ้านโดยสลับสับเปลี่ยนดีวีดีออก กำลังกายที่สนใจไปเรื่อย ๆ เช่น อาทิตย์นี้ออกกำลังกายแบบแอโรบิก อาทิตย์ถัดไปออกกำลังกายแบบโยคะ ฯลฯ การออกกำลังกายเป็นประจำทุกสัปดาห์จะช่วยให้คุณร่างกายแข็งแรงและหุ่นเฟิร์ม เร็วขึ้น

- 35-40 นาที มีงานวิจัยรายงานว่า ระบบเผาผลาญในร่างกายจะค่อย ๆ ลดลงหลังจากตื่นนอน 8 ชั่วโมงแล้ว คุณจึงควรไปวิ่งออกไปกำลังกายในช่วงเวลา 17.00-19.00 น. ประมาณ 35-40 นาที ให้ระบบเผาผลาญกลับมาทำงานตามปกติแถมช่วยสลายไขมันขณะนอนหลับได้ดี

- 60 นาที ออกไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะหรือเดินชอปปิ้งไม่เพียงเป็นการพักผ่อนหย่อนใจใน ช่วงวันหยุด แต่ยังช่วยเผาผลาญพลังงานจากอาหารที่คุณกินเข้าไปมากมาย การเดินเล่นแค่ 1 ชั่วโมง สามารถเผาผลาญได้ถึง 240 แคลอรี

- 90 นาที งานบ้านทุกอย่างสามารถช่วยคุณเผาผลาญแคลอรีได้ อย่างเช่น ขัดห้องน้ำ 1 ครั้ง เผาผลาญพลังงานได้ 55 แคลอรี ล้างรถ 1 ครั้ง เผาผลาญพลังงานได้ 350 แคลอรี รีดผ้า 1 ครั้ง เผาผลาญพลังงานได้ 300 แคลอรี

- 2 ชั่วโมง การดื่มน้ำเปล่า 1-2 แก้ว ทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำซึ่งจะทำให้คุณหิวมากขึ้นและกินหนักกว่าเดิม

- 8 ชั่วโมง คนที่นอนหลับสนิทครบ 8 ชั่วโมง และเข้านอนไม่เกินเที่ยงคืนระบบเผาผลาญจะทำงานได้ดีมากกว่าคนอดนอนถึง 40% รู้อย่างนี้แล้วอย่ามัวไปเป็นตระเวนท่องราตรีจนใบหน้ามัวหมองรีบกลับบ้าน เข้านอนพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อผิวสวยสุขภาพดีกันดีกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก momypedia


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 11:04
เคล็ดลับ หุ่นสวยด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าเรื่องน้ำหนักขึ้นคุณผู้หญิงคงจะไม่ต้องการจริงไหมค่ะ วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับหุ่นสวยด้วยตัวเองมา ฝากคุณผู้หญิงค่ะ เราเชื่อว่าการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนของคุณผู้หญิงแทบทุกคนนั้นคงจะให้ ความสำคัญไม่แพ้การดูแลเรื่องหน้าตาเลยใช่ไหมล่ะค่ะ แล้วด้วย เคล็ดลับ หุ่นสวยด้วยตัวเอง นี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคุณผู้หญิงในการลดน้ำหนักและลดความอ้วนได้ อย่างดีเลยที่เดียวค่ะ คุณพร้อมจะหุ่นสวยด้วยตัวเองกันรึยังค่ะ

หุ่นสวยด้วยตัวเอง

ต้องควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ซึ่งในส่วนของอาหารนั้นควรควบคุมการทานอาหารให้กลายเป็นนิสัยหรือปฏิบัติให้ เคยชิน โดยลดปริมาณการรับประทานไขมันลงให้หันมาทานโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแทนใน ปริมาณที่พอเหมาะกับที่ร่างกายต้องกาย เพราะไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากไขมัน โปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรต หากเหลือจากที่ร่างกายต้องการนำไปใช้ก็จะถูกสะสมในรูปของไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเช่นกัน และควรเลือกทานอาหารที่มีมันต่ำหรือมีใยอาหารสูงในแต่ละมื้อ

การออกกำลังกายก็ควรออกเป็นประจำอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งช่วงแรกของการลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่น้ำหนักที่ลดลงจะเป็นส่วนของน้ำก่อนแล้วในระยะต่อมาถึงจะเป็นส่วน ของไขมันและที่ลดลงอย่างไม่ได้ตั้งใจตามมาก็คือส่วนของกล้ามเนื้อซึ่งเป็น โปรตีนจากนั้นน้ำหนักก็จะคงที แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเพราะถ้าหยุดไปจะทำให้ น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก woman's



โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 11:06
สูตรลดน้ำหนักภายใน 1 เดือน (คุณเองก็ลดได้!)
เรื่องน้ำหนักหรือเรื่องความอ้วนคงเป็นปัญหาที่หนักอึ้งสำหรับผู้หญิงอย่างเรา ๆ กันมิใช่น้อย วันนี้เราจึงมีสูตรลดน้ำหนักภายใน 1 เดือน มาฝากคุณผู้หญิงที่อยากจะกำจัดปัญหาอ้วนน้ำหนักเกินไปให้พ้นจากตัวคุณเองค่ะ ด้วย สูตรลดน้ำหนักภายใน 1 เดือน เราเชื่อว่าคุณก็ลดอ้วนได้อย่างแน่นอนค่ะ ขอแค่คุณนั้นปฏิบติตาม สูตรลดน้ำหนักภายใน 1 เดือน ของเราอย่างถูกต้องและถูกทางเราเชื่อว่า คุณจะต้องน้ำหนักลดได้ภายใน 1 เดือน อย่างแน่นอนค่ะ คุณพร้อมจะลดไขมันไปกับ สูตรลดน้ำหนักภายใน 1 เดือน กันแล้วรึยังเอ่ย

สูตรลดน้ำหนักภายใน 1 เดือน

- เลิกอดลดน้ำหนัก

ฟังดูแปลกแต่เป็นความจริงหลายคนคิดว่าถ้าอยากผอมต้องอดอาหาร แต่เชื่อหรือไม่ถ้าคุณอดมื้อเช้าหรือกินมื้อเช้าน้อย เช่น ขนมปังแผ่นเดียว กาแฟแก้วเดียว หรืออดมื้อเย็นสักระยะหนึ่ง อาจทำให้คุณน้ำหนักลดในช่วงแรกแต่จะกลับมาอ้วนได้ในหลัง เคล็ดลับการคุมน้ำหนักคือ "กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ เน้นมื้อเช้ากินให้อิ่มและครบห้าหมู่ก่อน 9.00 น. กินมื้อเที่ยงตรงเวลา และสำคัญที่สุดคือการกินมื้อเย็นก่อน 18.00 น." คนที่กินมื้อดึกจะลงพุงได้ง่าย


- เลือกสักนิดคิดก่อนกิน

บอกตัวเองว่าเพราะเราตามใจตัวเองจึงมีปัญหารูปร่างอย่างทุกวันนี้ ดังนั้นหากตั้งใจลดน้ำหนักจริง ๆ ต้องเริ่มเลือกของกินบ้าง เลี่ยงของทอด ของมัน ขนมขบเคี้ยว ควรงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก กาแฟ หรือช็อกโกแลตเย็น เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เพราะเพียง 1 แก้วใหญ่ก็ให้พลังงานเกินเท่ากับกินอาหารมื้อใหญ่ทีเดียว แต่ก็ไม่ต้องถึงกับหย่าขาดกับของชอบคุณอาจกินของที่ชอบได้สัปดาห์ละหนึ่ง ครั้งในมื้อเช้าสุดสัปดาห์ก็ได้

-        หาตัวช่วยที่ไม่ใช่ยาลดความอ้วน

เพราะอาจลดน้ำหนักได้เร็วในช่วงแรกแต่ส่งผลเสียรุนแรงต่อระบบประสาทและเกิด โยโย่กลับมาอ้วนยิ่งกว่าเดิมเมื่อหยุดยา ตัวช่วยที่ดีได้แก่ น้ำเปล่า ต้องดื่มบ่อย ๆ ให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร (8-10 แก้ว) ไม่ใช่เพื่อให้อิ่มน้ำแต่ร่างกายต้องใช้น้ำในการเผาผลาญไขมัน คนที่ดื่มน้ำน้อยจึงมีแนวโน้มอ้วนง่ายผักสดก็เป็นตัวช่วยดูดซับไขมันในอาหาร ที่ดี ผลไม้อย่างฝรั่งหรือแอปเปิ้ลช่วยแก้หิวระหว่างมื้อได้ มีการใช้สารสกัดจากธรรมชาติบางชนิดเป็นตัวช่วยควบคุมน้ำหนัก เช่น สารสกัดไคโตซานจากเปลือกสัตว์ทะเล สาร HCA จากส้มแขก เพื่อสกัดกั้นไขมัน และสารสกัดจากถั่วขาว เพื่อสกัดกั้นแป้งจากอาหารทำให้คุณได้รับพลังงาน ส่วนกินจากอาหารลดลง หรือสารสกัดชาเขียวก็ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันสะสมให้เป็นพลังงาน โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบว่าได้ผลและปลอดภัยจริงใส่ใจอ่านฉลาก ผลิตภัณฑ์อีกนิดให้แน่ใจว่ามีตรา อย.รับรอง และไม่ควรมีส่วนผสมของครีมเทียมหรือน้ำตาล


- นอนเร็วก็ผอมเร็ว

อีกเคล็ดลับคือ นอนเร็วแต่หัวค่ำไม่เกินสี่ทุ่มนอนหลับให้ได้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญพลังงาน แต่ถ้าคุณนอนดึกแม้จะนอนยาวตื่นสายร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้คุณหิวบ่อย กินเยอะ และสะสมไขมันมากขึ้น

แม้จะมีเคล็ดลับและตัวช่วยมากมายแต่ผลสำเร็จก็ขึ้นกับความตั้งใจ อาจเพิ่มการออกกำลังกายอีกเพียงเล็กน้อย เช่น เดินต่อเนื่อง 30 นาที ก็จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้เร็วยิ่งขึ้น ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้อย่างจริงจัง ติดตามผลคืบหน้าทุก ๆ สัปดาห์ แล้วเตรียมพบกับรูปร่างใหม่ ชีวิตใหม่ ที่ไม่ลงพุงอึดอัดเหมือนเดิม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health Plus

โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 11:07
วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ
ใครอยากมีหุ่นดี หุ่นสวย แบบธรรมชาติ ต้องมาลองสูตรค่อยไปค่อยไปแต่ถ้าจะเร่งด่วนก็ทำได้ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณกับวิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาตินี้ เลยค่ะ ด้วย วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ นี้จะช่วยให้คุณหุ่นดี ผอมเพรียว ได้อย่างง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ด้วย วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ แบบนี้คุณสามารถที่จะควบคุมให้เป็นไปตามที่คุณกำหนดเองได้ เพราะว่าทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวคนเพียงคนเดียวแล้วล่ะค่ะ ถ้าคุณสามารถทำตามวิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาตินี้ได้ครบทุกข้อและทุกวันเชื่อ ว่า หุ่นดี หุ่นสวย ผอมเพรียว ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอนค่ะ ถ้าอยากให้เป็น วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติเร่งด่วน คุณก็ต้องสปีดแต่ล่ะข้อให้มากขึ้นนะค่ะ

สูตร วิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติ

- ดื่มน้ำส้มคั้นสด ๆ

เพราะวิตามินที่มีอยู่ในน้ำส้มจะช่วยดูดซึมสารอาหารที่สำคัญ แล้วหากสาวคนไหนรับประทานส้มเป็นผลด้วยก็จะช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกวิธี หนึ่ง เพราะส้มจะมีเส้นใยธรรมชาติที่ทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว

- ทานผักผลไม้เป็นประจำ

แม้ว่าอาหารจำพวกผักจะให้พลังงานน้อยแต่ก็ให้สารอาหารจำนวนมากที่ร่างกายคน เราต้องการ ส่วนผลไม้ก็ควรเลือกทานที่ให้พลังงานต่ำ เช่น มะม่วง ฝรั่ง แตงโม ชมพู่ หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวานจัด และให้พลังงานสูง

- อาหารจำพวกธัญพืช

อาจจะทานเป็นมือเช้าแต่ต้องเป็นธัญพืชชนิดไขมันต่ำด้วยนะค่ะ ธัญพืชอุดมด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำการย่อยช้า ๆ เข้าสู่ร่างกายเราก็จะรู้สึกอิ่มท้องนานขึ้น

- การเคลื่อนไหวร่างกาย

หาเวลาให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวให้ได้เหงื่อบ้าง หากมีเวลามากพอก็หาเวลาออกกำลังกาย เล่นกีฬา ช่วงแรกเริ่มต้นวันละประมาณครึ่งชั่วโมงก็ยังดี แล้วพอร่างกายเริ่มปรับเข้าที่ก็เพิ่มการออกกำลังกายเป็นวันละ 1 ชั่วโมง จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี แถมได้สุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย (การเคลื่อนไหวของร่างกายอย่างเร็ว ๆ ช่วยเผาผลาญได้ 140 แคลอรีภายในครึ่งชั่วโมง)

- พยายามเคี้ยวอาหารช้า ๆ

การที่เราทานอาหารด้วยความรวดเร็วจะทำให้เรากินได้มากเกินพิกัดโดยที่ไม่รู้ ตัว ที่สำคัญสาว ๆ จำไว้ให้ดีว่าไม่ควรทานอาหารหลัง 6 โมงเย็น หรือช่วงกลางคืนดึกดื่นเป็นอันขาด เพราะช่วงนี้แหละที่ทำให้เราต้องเจอกับปัญหาอ้วน ๆๆๆ เข้าสักวัน

ด้วยเคล็ดลับวิธีลดความอ้วนแบบธรรมชาติง่าย ๆ แบบนี้ หากสาว ๆ คนไหนปฏิบัติเป็นประจำก็สบายหายห่วงตัดความกังวลเรื่องไขมันส่วนเกินหรือ เรื่องของความอ้วนไปได้เลยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก woman's


โดย: joy234    เวลา: 2011-4-30 11:08
วิธีการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ แต่ได้ผล!!
ต่อไปนี้คือวิธีการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ แต่ได้ผลเกินคาดในเวลาที่คุณจำกัดได้ ด้วย วิธีการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ นี้จะทำให้คุณสามารถลดน้ำหนักได้อย่างสบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกันที เดียวล่ะค่ะ สำหรับคุณผู้หญิงที่อยากผอมอย่างไร้กังวลก็ต้อง วิธีการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ วิธีนี้นับว่าเวิร์คแบบสุด ๆ เลยค่ะ ว่าแล้วอย่ารอช้าที่จะกำจัดไขมันส่วนเกินที่เป็นเพื่อนเรามาอย่างยาวนานให้ ออกไปด้วย วิธีการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ กันเถอค่ะ

วิธีการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ

1. เจือจางน้ำผลไม้ ผสมน้ำผลไม้ที่คุณโปรดปราน (ครึ่งหนึ่งของปริมาณที่คุณเคยดื่ม) กับน้ำเปล่าหรือน้ำแร่แบบมีฟอง คุณสามารถตัดลดแคลอรี่ลงไปได้อย่างน้อย 85 แคลอรี่ ต่อแก้ว ซึ่งหมายถึง 2 กิโลในหนึ่งปี

2. เคี้ยวหมากฝรั่ง งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ ค้นพบว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาลตลอดทั้งวันเพิ่มอัตราการผลาญได้ราว 20% ที่สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าปีละ 10 ปอนด์

3. จิบชาเขียวก่อนออกไปเดิน คาเฟอีนช่วยปลดปล่อยกรดไขมันของคุณจึงเผาผลาญไขมันได้ง่ายกว่า และโพลีฟีนอล (ที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์) ในชาเขียวก็ดูจะทำงานร่วมกับคาเฟอีนในการเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ (ถ้าคุณความดันโลหิตสูงอย่าใช้เคล็ดลับนี้)

4. หลอกต่อมรับรส การจิบยาแก้ไอรสเมนธอลหรือยูคาลิปตัสจะช่วยระงับอาการอยากอาหารได้อย่างชะงัดในทันที

5. เพิ่มรสชาติเผ็ดร้อน การเติมพริกลงในอาหารจะทำให้คุณทานอาหารช้าลงและพริกยังช่วยเพิ่มการผลาญพลังงานอีกด้วย

6. อย่าอยู่เฉย การขยับแข้งขยับขาหรืออยู่ไม่สุขตลอดเวลาจะช่วยคุณเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น ซึ่งอาจมากถึงวันละ 700 แคลอรี่เลยล่ะ

7. เช่าหนังผีมาดู คุณมีความอยากอาหารน้อยลงเวลาที่กลัวแต่จะกินมากขึ้นถ้าโกรธหรือมีความสุข

8. มองตัวเอง งานวิจัยบอกว่า การมองตัวเองในขณะกินอาหารอาจทำให้คุณกินน้อยลงได้ 22-32 เปอร์เซ็นต์

9. วิดพื้น ก่อนที่คุณจะเปิดถ้วยไอศกรีมวางมันลงก่อนแล้วก็ทำท่าวิดพื้นซัก 10 ครั้ง การทำกิจกรรมทางกายบางอย่างจะทำให้คุณสำนึกถึงเป้าหมายของคุณขึ้นมาได้

10. ดมกลิ่น เวลาที่อยากกินขนมเค้กหรือคุกกี้หอมกรุ่นพวกนั้นเหลือเกินลองทำแบบนี้ดู สูดกลิ่นมันสัก 30 วินาทีก่อนกิน มันจะเป็นการตอบสนองต่อความอยากที่จะช่วยให้คุณหยุดกินได้แค่คุกกี้ชิ้น เดียว

11. กินปลา ปลา ที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 เช่น ทูน่า แม็กครีล และแซลมอน อาจช่วยคุณลดน้ำหนักได้ด้วยการเผาผลาญไขมันให้ดีขึ้น คนที่น้ำหนักเกินซึ่งกินอาหารแคลอรี่ต่ำที่มีปลาด้วยทุกวันลดน้ำหนักได้ มากกว่าคนที่ไม่ได้กินปลาเลยราว 20%

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

โดย: jarune    เวลา: 2011-4-30 11:37
ขอบคุณมากๆค่ะ มีประโยชน์มากๆค่ะ
โดย: H_L_O_N_G    เวลา: 2011-4-30 11:48
ว้าวเยอะมาก   แต่ขอบคุณมากๆคัพ




ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com:8080/) Powered by Discuz! X3.2