เราเริ่มเขียนรีวิวไว้นานมากแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ลงซะที อยากให้ทุกคนได้เห็นฝีมือของคุณหมอจุฑาค่ะ
ใครจะว่าคุณหมอยังไงก็แล้วแต่นะคะ แต่สำหรับเรารักคุณหมอมาก คุณหมอเปลี่ยนชีวิตเราจริงๆค่ะ
หลังทำกับคุณหมอแล้ว เรามั่นใจขึ้นมาก จากที่ไม่กล้าเอาผมทัดหู ไม่มั่นใจเวลาจะหันข้างถ่ายรูป
ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นแล้วค่ะ คุณหมอเปลี่ยนชีวิตเราไปเลยค่ะ
รีวิวนี้ ขออนุญาตเซนเซอร์รูปนะคะ เพราะไม่ได้บอกใครว่าทำเลย บอกแค่คนสนิทเท่านั้นค่ะ
มีอะไร สงสัยถามเราได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคำถามค่ะ เข้าใจความรู้สึกก่อนทำ เราเองก็ตื่นเต้นมากๆเลย
แต่เราทำมาปีกว่าแล้วอาจจะลืมอะไรหลายๆอย่างไป จะตอบเท่าที่จำได้นะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนนะคะ
เราได้คิวกลางเดือน พฤษภา 2014 นะคะ ได้ทำจริงๆ ก็ปลายๆเดือนค่ะ โดนเลื่อนเกือบสองอาทิตย์ค่ะ
วันที่ 25 ที่คลินิคโทรมาให้เข้าไปที่คลินิคตอน4โมงเย็น
ไปถึงนั่งรอสักพักเค้าก็เจาะเลือดวัดความเข้มข้น วัดความดัน
สักพักก็เข้าพบคุณหมออีกครั้งค่ะ (ครั้งแรกคือที่มาปรึกษาก่อนจองคิว)
คุณหมอเราว่าเค้าพูดจาตรงๆติดตลกนะคะ แต่บางคนคงไม่ชอบ สำหรับเราคุยกับเค้า เค้าจะมีมุกตลอดค่ะ
คุณหมอก็ถามอีกรอบว่าสรุปจะเอาออกจริงหรอ โหนกกับกรามเราไม่ใหญ่มาก แต่สำหรับเรามันใหญ่มากๆค่ะ
เราก็ย้ำว่าเอาออกค่ะ ไม่ชอบหน้าตัวเองเลย คุณหมอก็โอเค ถ่ายรูป วัดขนาดที่จะตัดออก
โดยยึดเอาระหว่างคิ้ว กลางจมูก และ ปากเป็นหลักในการวัดค่ะ
แต่เราไม่ได้ดูรายละเอียดที่คุณหมอวัดนะคะ แต่ท่านเอาใจใส่ และตั้งใจมากๆค่ะ ใช้ไม้บรรทัดวันเป๊ะๆเลยค่ะ
การตัดกรามของคุณหมอจะตัดไล่มาจนเกือบถึงคางเลย
หลังพบคุณหมอเสร็จเราก็ออกมาเซ็นเอกสาร และก็จ่ายเงินที่เค้าเตอร์
พนักงานและพี่ๆทุกคนพูดจาดี ยิ้มแย้ม ต้อนรับดีมากนะคะ
ค่าทำ ทั้งหมด 120,000 ถ้วนค่ะ
จากนั้นประมาณ5โมงกว่า มีพี่ผู้ชายใส่แว่น พาไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลเปาโลค่ะ
แต่เลือดเราเข้มข้นผ่านมา2% (เราได้ 37% มาตรฐานพี่เค้าบอกเลือดต้องเข้มข้น 35% จ้า)
พี่ที่ขับรถพาไปเอกซเรย์เลยแนะนำให้ซื้อเลือดเพิ่มไว้ถุงนึงค่ะ (2,000บาท)
หลังจากนั้นเค้าก็ขับมาส่งที่คลินิค พี่ที่คลินิคถามเราว่าจะนอนที่นี่หรือกลับไปนอนที่บ้าน
เพราะคืนนี้ยังไม่ได้ผ่า ยังมีคิวค้างอยู่หลายคิวฃ เราเลยขอกลับบ้านก่อน
วันรุ่งขึ้น ที่คลินิคโทรมาเลื่อนว่าตอนนี้ยังมีคิวก่อนหน้าหลายคิว เลื่อนไปประมาณ2-3วันค่ะ ถึงคิวแล้วจะโทรมาแจ้งตอนเช้าฃ
9โมงกว่าๆของวันที่ 25 ที่คลินิคบอกให้เข้าไปตอน6โมงเย็น โดยทานอาหารตามปรกติ
เราก็คาดว่าคงยังไม่ได้ผ่าวันนั้นค่ะ
คืนวันที่ 26 พยาบาลบอกให้งดอาหารหลังเที่ยงคืนค่ะ เราดีใจมาก สุดท้ายก็ได้ทำซะที
ประมาณเที่ยงๆ วันที่ 27 พี่พยาบาลบอกให้อาบน้ำสระผม เตรียมตัวค่ะ
13.30 พี่พยาบาลมาพาไปเข้าห้องผ่าตัดค่ะ
ในห้องผ่าตัดมีคุณหมอและพบาบาลหลายคนเลยค่ะ ประมาณ 4-6คนได้
เค้าให้เรานอนบนเตียง และก็ชวนคุยเพื่อให้เราคลายเครียดไม่กังวลค่ะ
สัก 5 นาที ก็เอายา เราคิดว่าน่าจะเป็นยาสลบ มาหยอดจมูก ให้เรากลืนค่ะ สัก5วิ เราก็สลบไปค่ะ
