*ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ขอแสดงความยินดีกับน้อง “สะบาย” ผาสุข พราหมเทพ Let Me In Thailand Season 4 Reborn  คนที่ 8 สาวหน้าเบี้ยวชีวิตอาภัพผู้มีใจรักบริการ ผู้โชคดีที่ได้รับเลือกให้ศัลยกรรมพลิกชีวิตกับทีมแพทย์ไทย หนึ่งในนั้นคือ หมอตี๊ อมรพงษ์ วชิรมน ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมช่องปาก ใบหน้าขากรรไกร และทันตกรรมจัดฟัน

น้องสะบายต้องส่งตัวเองเรียนมหาวิทยาลัยเพราะทางบ้านมีฐานะไม่ดีนัก อีกทั้งในอดีตเคยประสบอุบัติเหตุทางถนนทำให้ต้องผ่าตัดข้อเท้า ซึ่งการผ่าตัดนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินกว่ากำลัง จึงทำให้ทางบ้านต้องตัดสินใจขายที่ดินผืนสุดท้ายไป อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่หายไปจนเกิดวิกฤตทางการเงิน

*ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

และยิ่งไปกว่านั้น น้องสะบายมีอายุเพียง 23 แต่กลับมีใบหน้าที่ดูเหมือนคนอายุ 33 ปัญหารูปหน้าของน้องสะบายคือขากรรไกรบนสั้นและขากรรไกรล่างยื่นยาวออกมา ทำให้มีการหายใจที่ผิดปกติ รวมถึงฟันไม่สบกัน เวลาเคี้ยวอาหารก็เคี้ยวได้ไม่ละเอียด จนทำให้เป็นโรคกระเพาะ จุดเริ่มต้นของการเป็นผู้โชคดีของน้องสะบายมาจากการเห็นเพื่อนเปิดดูรายการ Let Me In Thailand จึงเกิดความสนใจและลองศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเอง เมื่อโอกาสมาถึงก็ไม่รอช้า น้องสะบายส่งใบสมัครทันที หวังว่าจะได้โอกาสพลิกชีวิตอย่าง Let Me In คนอื่น ๆ ที่ผ่านมา

*ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

*ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

หมอตี๊ อมรพงษ์ วชิรมน ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมช่องปาก ใบหน้าขากรรไกร และทันตกรรมจัดฟัน กล่าวว่าใบหน้าของน้องสะบายนั้น ควรได้รับการแก้ไขด้วยการออกแบบโครงสร้างใบหน้าใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีนำร่องการผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์ NEMOTEC 3D ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้า, ฟัน และปัญหาทางเดินหายใจไปพร้อม ๆ กันได้ดียิ่งขึ้น

(ภาพ 3 มิติ จำลองโครงสร้างใบหน้าของน้องสะบาย)

เทคนิคดังกล่าวจะสามารถจำลองโครงสร้างใบหน้าหลังผ่าตัดของคนไข้ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดออกมาเป็นภาพ 3 มิติได้ ทำให้แพทย์มองเห็นรายละเอียดโครงสร้างใบหน้าได้อย่างละเอียดมากขึ้น ใบหน้าของน้องสะบายมีอัตราส่วนที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำยิ่งขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงในการกระทบเส้นประสาทให้น้อยลง อีกทั้งยังได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น ไม่มีแผลด้านนอกให้เห็น บอบช้ำน้อยและพักฟื้นเร็วขึ้น

น้องสะบายหวังว่าการทำศัลยกรรมในครั้งนี้ จะพลิกชีวิตให้เหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง ช่วยให้น้องสะบายและครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เคย ต้องขอชื่นชมศักยภาพของทีมแพทย์ไทยที่ได้พลิกชีวิตน้องสะบาย จากคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้ายิ้ม ไม่กล้าเจอผู้คน เปลี่ยนเป็นคนที่มีความมั่นใจเต็มร้อย กล้ายิ้ม กล้าพูด กล้าแสดงออกมากขึ้น การเคี้ยวอาหารก็สะดวกมากขึ้น ที่สำคัญคือได้มีใบหน้าและบุคลิกภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม ขอเป็นกำลังใจให้น้องสะบายได้ทำตามความฝันที่ตั้งใจไว้ต่อไปค่ะ