สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ กับเจ๊มดแดง แฝงพวงมะม่วง กับเม้าส์มอยศัลยกรรมและความงามในช่วง เม้าส์ ไม่เมาแมว มีแววสวยค่ะ ชั้นอยากมีคาง ชั้นอยากมีคาง ชั้นอยากสวยเหมือนใจเริง ชั้นจะได้มีผู้ชายมาเปย์เงินให้ชั้นเยอะๆ แหมแค่คางสวยได้รูปก็เป็นต่อแล้วนะคะ วันนี้เรายังอยู่กับเรื่องคางค่ะปัญหาของสาวๆที่อยากหน้าเรียวสวยได้รูปตามแบบฉบับสาวสวยยอดนิยมเลย

หลังจากที่เรารู้กันไปแล้วนะคะ ว่าเราอยู่ในข่ายที่ต้องเสริมคางหรือถ้ามีคางแล้วเราจะสวยแน่นอนฟันธง ร้อยเปอร์เซนแล้วล่ะก็ วันนี้ค่ะเจ๊ก็จะนำสาวๆทุกท่านที่สนใจจะมีคางที่สวย ใบหน้าเรียวได้รูปนั้นต้องนำอะไรมาอยู่ในร่างกายของเรา นั่นก็คือวัสดุที่ใช้ในการเสริมคางนั่นเองค่ะ

สำหรับวัสดุที่ใช้หลักๆของการเสริมคางเลยนั่นก็คือการนำซิลิโคนมาใส่เข้าไปในคางเรานั่นก็คือซิลิโคนนิ่มนั่นเองค่ะ เพราะเจ้าซิลิโคนนิ่มเนี่ยมีความยืดหยุ่นสูงและผิวสัมผัสดูเหมือนธรรมชาติจริงๆชนิดที่เรียกได้ว่าผู้ชายมาจับก็ยังไม่รู้ค่ะและก็ยังมีความทนทานปลอดภัยสูงและไม่มีผลค้างเคียงใดๆอีกด้วย

สำหรับข้อนี้นะคะจะเป็นการสกัดเอาไขมันนำมาปรับรูปหน้าค่ะโดยส่วนใหญ่วิธีนี้จะเป็นวิธีการสกัดไขมันที่ค่อนข้างแข็งแรงพอที่จะนำมาปลูกถ่ายในบริเวณคางได้ ซึ่งโอกาสที่จะอยู่รอดก็มีถึง 70% ทีเดียวแต่สำหรับวิธีนี้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจจะมีอาการบวมเล็กน้อยแต่เมื่อผ่านไปช่วง 3 เดือนจะเริ่มคงที่และอยู่ได้อย่างถาวร วิธีนี้จะไม่ทำให้เรามีแผลเป็นและไม่มีการผ่าตัดใดๆ จึงถือว่าเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดค่ะ

อีกวิธีนึงที่เจ๊นำมาบอกกันในวันนี้คือวิธีการผ่าตัดเลื่อนกระดูกคางค่ะ อาจฟังดูน่ากลัวนิดนึง แต่ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์สมัยนี้การผ่าตัดไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเสมอไปเพราะวิธีนี้ คุณหมอจะทำการผ่าตัดโดยจะเปิดแผลในช่องปากเพื่อทำการผ่าตัดกระดูกคางแล้วย้ายเลื่อนออกมาข้างหน้า เป็นวิธีที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูงนิดนึง ซึ่งหลังการผ่าตัดนั้นใบหน้าของเราจะมีโครงที่ยาวชัดเจนอย่างเป็นธรรมชาติและแก้มก็จะดูเล็กลงด้วยค่ะ วิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคบางชนิด หรือมีปัญหาทางพันธุกรรมบางอย่างค่ะ

ก็ได้ทราบกันไปแล้วนะคะสำหรับ ใครที่ควรจะทำศัลยกรรมคางบ้าง และวัสดุที่ใช้ในการทำนั้นมีแบบไหนบ้างรวมไปถึงวิธีการผ่าตัด เจ๊ก็เอาข้อมูลดีๆแบบละเอียดมาฝากกันทีเดียวเลย เดี๋ยวเรายังจะกลับมาเรียนรู้เรื่องคางสำหรับใครที่อยากจะทำศัลยกรรมเสริมคางกันอีกในครั้งหน้านะคะ เกี่ยวกับวิธีในการปฏิบัติตัวในระหว่างและหลังการทำคางมาฝากกันค่ะ แล้วพบกันนะคะ


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.bearyprecious.com

เรียบเรียงโดย สำนักข่าวดั้งโด่งดอทคอม