การเสริมซิลิโคนเป็นทางเลือกยอดนิยมในด้านศัลยกรรมความงาม ไม่ว่าจะเป็นการเสริมหน้าอก เสริมจมูก หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยซิลิโคนเป็นวัสดุที่ใช้เสริมเพื่อให้ได้รูปร่างตามต้องการ แต่บางครั้งหลังการเสริมซิลิโคนอาจเกิดภาวะ "ผังผืดเกาะซิลิโคน" หรือที่เรียกว่า Capsular Contracture ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถส่งผลกระทบต่อความสวยงามและความสะดวกสบายของผู้ที่ทำการเสริมซิลิโคน
ผังผืดเกาะซิลิโคนคือการที่ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อพังผืดหรือแคปซูลรอบ ๆ ซิลิโคนที่ถูกเสริมเข้าไปในร่างกาย โดยปกติแล้วเนื้อเยื่อพังผืดนี้จะบางและไม่ก่อให้เกิดปัญหา แต่ในบางกรณี ระบบภูมิคุ้มกันอาจตอบสนองต่อซิลิโคนในลักษณะที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้พังผืดหนาและแข็งขึ้น ซึ่งจะกดทับซิลิโคนและส่งผลกระทบทั้งในเรื่องของรูปร่างและความรู้สึก
หลายปัจจัยสามารถเป็นสาเหตุของการเกิดผังผืดเกาะซิลิโคนได้ ได้แก่:
การติดเชื้อหลังการผ่าตัด – การติดเชื้อในบริเวณที่เสริมซิลิโคนอาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างผังผืดขึ้นมารอบ ๆ ซิลิโคน
ปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกัน – ร่างกายบางคนอาจตอบสนองต่อซิลิโคนในลักษณะที่รุนแรง สร้างพังผืดหนาและแข็งขึ้น
คุณภาพของซิลิโคน – ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐานอาจกระตุ้นการสร้างผังผืดมากขึ้น
การผ่าตัดที่ไม่ถูกต้อง – เทคนิคการผ่าตัดที่ไม่เหมาะสมอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดผังผืด
เลือดคั่งหลังการผ่าตัด – หากมีเลือดคั่งในบริเวณที่เสริมซิลิโคน อาจกระตุ้นให้เกิดพังผืด
บริเวณที่เกิดผังผืดหลังศัลยกรรม มีอะไรบ้าง
บริเวณที่เกิดผังผืดหลังการศัลยกรรมมีดังนี้
หน้าอก: เมื่อเสริมซิลิโคนในหน้าอก ร่างกายจะสร้างผังผืดรอบซิลิโคน ซึ่งอาจทำให้หน้าอกแข็ง หรือมีรูปร่างผิดปกติได้ (Capsular Contracture).
จมูก: หลังการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ผังผืดอาจเกิดขึ้นรอบๆ ซิลิโคน ทำให้จมูกแข็ง หรือบิดเบี้ยว.
ใบหน้า: การเสริมซิลิโคนที่บริเวณใบหน้า เช่น คางหรือแก้ม อาจทำให้เกิดผังผืดรอบๆ ซิลิโคนที่ทำให้มีความรู้สึกตึงหรือบิดเบี้ยว.
ผังผืดเกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อซิลิโคนที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม และสามารถเกิดได้ในบริเวณที่มีการเสริมซิลิโคน.
ผังผืดเกาะซิลิโคนหน้าอกเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสร้างเนื้อเยื่อพังผืด (capsule) รอบ ๆ ซิลิโคนที่ถูกเสริมเข้าไปในหน้าอก ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติที่ร่างกายจะทำเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนจากวัสดุแปลกปลอม (ซิลิโคน) ที่ถูกใส่เข้าไป อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีเนื้อเยื่อพังผืดนี้อาจหนาขึ้นและหดตัว ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวด รูปร่างหน้าอกผิดเพี้ยน หรือความรู้สึกไม่สบายตัว
สาเหตุที่ทำให้เกิดผังผืดเกาะซิลิโคนหน้าอกมีหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึง:
การติดเชื้อหลังการผ่าตัด – การติดเชื้อในช่วงหลังผ่าตัดอาจกระตุ้นการสร้างผังผืดที่หนาและแข็งขึ้น
การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน – ระบบภูมิคุ้มกันของบางคนอาจตอบสนองต่อซิลิโคนในลักษณะที่รุนแรง ทำให้เกิดพังผืดหนาขึ้น
เลือดคั่งหลังการผ่าตัด – หากมีเลือดคั่งหรือน้ำเหลืองสะสมบริเวณที่เสริมซิลิโคน อาจกระตุ้นการสร้างผังผืด
การวางตำแหน่งซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม – การเลือกตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องในการวางซิลิโคนอาจทำให้การสร้างผังผืดเป็นไปในทิศทางที่ไม่ดี
คุณภาพของซิลิโคน – ซิลิโคนที่มีคุณภาพต่ำหรือไม่ได้มาตรฐานอาจกระตุ้นการสร้างพังผืด
การผ่าตัดที่ไม่ถูกต้อง – เทคนิคการผ่าตัดที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ละเอียดอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผังผืดเกิดขึ้น
การสลายผังผืดเกาะซิลิโคนหน้าอก
การสลายผังผืดเกาะซิลิโคนหน้าอก (Capsular Contracture) สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและคำแนะนำของแพทย์ ดังนี้
การนวดหน้าอก: การนวดหน้าอกตามคำแนะนำของแพทย์สามารถช่วยให้ผังผืดบางลงและลดความตึงเครียด ช่วยให้ซิลิโคนกลับสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมและลดอาการผิดปกติที่เกิดจากการหดตัวของผังผืด.
การใช้ยา: การใช้ยาสตีรอยด์ (Steroid) เช่น การทายาหรือการฉีดยา สามารถช่วยลดการอักเสบและบรรเทาผังผืดที่เกิดขึ้น ช่วยให้ผังผืดบางลงและทำให้หน้าอกมีลักษณะที่ดีขึ้น.
การผ่าตัด (Capsulectomy): ในกรณีที่ผังผืดหนาหรือรุนแรงจนไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้ แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดเอาผังผืดออกและปรับตำแหน่งของซิลิโคนใหม่ วิธีนี้ช่วยให้รูปร่างและความยืดหยุ่นของหน้าอกกลับมาดีขึ้น.
การฉีด Hyaluronic Acid หรือ PRP: การฉีด Hyaluronic Acid หรือ Platelet-Rich Plasma (PRP) อาจช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อและลดการเกิดผังผืดในบางกรณี.
การรักษาผังผืดควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย.
ผังผืดเกาะซิลิโคนบริเวณจมูก
ผังผืดเกาะซิลิโคนบริเวณจมูก (Nasal Capsular Contracture) คือภาวะที่ร่างกายสร้างผังผืดรอบๆ ซิลิโคนที่เสริมเข้าไปในจมูก โดยปกติแล้วผังผืดจะเกิดขึ้นเป็นกระบวนการธรรมชาติเมื่อร่างกายมองเห็นซิลิโคนเป็นสิ่งแปลกปลอม แต่บางครั้งผังผืดอาจหนาหรือแข็งขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น:
จมูกผิดรูป: ซิลิโคนอาจเคลื่อนที่หรือทำให้ปลายจมูกบิดเบี้ยว
จมูกแข็งหรือตึง: ผังผืดที่หนาหรือแข็งอาจทำให้จมูกรู้สึกตึงหรือไม่ยืดหยุ่น
อาการเจ็บปวด: การสร้างผังผืดอาจทำให้เกิดการดึงรั้งและอาการเจ็บปวดบริเวณจมูก
บวมและอักเสบ: ในบางกรณี ผังผืดอาจกระตุ้นให้เกิดการบวมและอักเสบรอบๆ ซิลิโคน
การเกิดผังผืดนี้อาจมีสาเหตุจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน การติดเชื้อ หรือการระคายเคืองจากวัสดุซิลิโคน การผ่าตัดที่ไม่เหมาะสม หรือการกระทบกระแทกหลังการเสริมจมูก.
สาเหตุการเกิดผังผืดจมูก
สาเหตุการเกิดผังผืดในจมูก (Nasal Capsular Contracture) สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้:
การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน: เมื่อเสริมซิลิโคนหรือวัสดุเสริมในจมูก ร่างกายจะมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกปลอมและจะสร้างผังผืด (แคปซูล) รอบๆ เพื่อป้องกัน ซึ่งเป็นกระบวนการทางธรรมชาติของระบบภูมิคุ้มกัน แต่ในบางกรณี ผังผืดอาจหนาหรือกระชับเกินไป ทำให้เกิดปัญหาจมูกผิดรูปหรือแข็ง.
การติดเชื้อหลังการผ่าตัด: การติดเชื้อหลังการเสริมจมูกสามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างผังผืดมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ซิลิโคนหรือวัสดุเสริมในจมูกเคลื่อนที่หรือเกิดการผิดรูป.
การระคายเคืองจากซิลิโคน: วัสดุซิลิโคนหรือวัสดุเสริมบางชนิดอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือปฏิกิริยาแพ้จากร่างกาย ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างผังผืดมากขึ้น.
การบาดเจ็บหรือการกระทบกระแทก: หากจมูกได้รับการกระทบกระแทกหรือบาดเจ็บหลังการเสริม อาจทำให้ซิลิโคนหรือวัสดุเสริมเคลื่อนที่หรือทำให้เกิดการสร้างผังผืดเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ.
เทคนิคการผ่าตัดที่ไม่เหมาะสม: หากการเสริมจมูกทำโดยศัลยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผังผืด.
ปัจจัยทางพันธุกรรม: บางคนอาจมีแนวโน้มในการสร้างผังผืดมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับลักษณะทางพันธุกรรมที่ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อการเสริมวัสดุต่างๆ ในร่างกายได้มากกว่าปกติ.
การรักษาผังผืดที่เกิดขึ้นในจมูกสามารถทำได้หลายวิธี โดยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมและปลอดภัยในการรักษา.
การสลายพังผืดบริเวณจมูก
การสลายผังผืดบริเวณจมูก (Nasal Capsular Contracture) ที่เกิดจากการเสริมซิลิโคนหรือวัสดุเสริมในจมูก สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ดังนี้
การนวดจมูก: การนวดจมูกเบาๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ช่วยลดความตึงเครียดและทำให้ผังผืดบางลง ส่งผลให้ซิลิโคนหรือวัสดุเสริมในจมูกสามารถเคลื่อนที่ได้ดีขึ้นและไม่ทำให้จมูกแข็งหรือผิดรูป.
การใช้ยา: แพทย์อาจแนะนำการใช้ยาสตีรอยด์ เช่น การทายาหรือการฉีดยาในพื้นที่ที่มีผังผืด เพื่อช่วยลดการอักเสบและทำให้ผังผืดบางลง ช่วยลดอาการผิดปกติที่เกิดจากผังผืดเกาะ.
การฉีดสเตียรอยด์ (Steroid Injections): การฉีดสเตียรอยด์เข้าไปในบริเวณที่มีผังผืดช่วยลดการอักเสบและการเกิดผังผืด ช่วยปรับสภาพจมูกให้กลับมาดีขึ้นและลดอาการผิดปกติ.
การผ่าตัด (Capsulectomy): หากผังผืดหนาหรือรุนแรงจนไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้ แพทย์อาจต้องผ่าตัดเพื่อเอาผังผืดออกและปรับตำแหน่งของซิลิโคนหรือวัสดุเสริมใหม่ ซึ่งช่วยให้รูปร่างของจมูกกลับมาเหมือนเดิมและทำให้จมูกไม่แข็งหรือผิดรูป.
การรักษาผังผืดในจมูกควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย.
การเลือกศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและการใช้ซิลิโคนที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงของผังผืด นอกจากนี้การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด เช่น การนวดและการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้เช่นกัน
ผังผืดเกาะซิลิโคนเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังการเสริมซิลิโคน แต่หากได้รับการรักษาที่ถูกวิธีสามารถช่วยบรรเทาและแก้ไขอาการได้ โดยการเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ, ใช้ซิลิโคนที่มีคุณภาพ และการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดอย่างถูกต้องจะช่วยลดโอกาสในการเกิดผังผืดได้อย่างมาก หากคุณพบปัญหาหรืออาการที่ไม่ปกติหลังการเสริมซิลิโคน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที.หากคุณกำลังมองหาการเสริมจมูกและหน้าอกที่ได้ผลลัพธ์สวยงามและปลอดภัย มาร่วมประสบการณ์ความงามกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Vincent Clinic เรามีแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและการดูแลอย่างมืออาชีพ พร้อมกับการใช้ซิลิโคนที่ได้มาตรฐานจาก FDA ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยในระยะยาว
Vincent Clinic มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคุณด้วยการใช้เทคนิคที่ทันสมัยและปลอดภัย อย่ารอช้า! มาเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่คุณมั่นใจได้กับเรา พร้อมสัมผัสผลลัพธ์ที่คุณต้องการ.
ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020
Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc. All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style