การฉีด ฟิลเลอร์ปาก เป็นการใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” เพื่อช่วยเติมเต็มหรือเสริมให้ริมฝีปากกลับมาดูอวบอิ่ม เต่งตึง ชุ่มชื้นขึ้น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เป็น HA นั้น จะสามารถสลายเองได้หมด 100% เมื่อเวลาผ่านไป ไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้าง

เมื่อเทียบกับการแก้ไขรูปปากโดยการผ่าตัดที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ต้องคอยรักษาแผล และมีความเสี่ยงอีกหลายอย่าง การผ่าตัดเมื่อมีความผิดพลาดก็แก้ไขได้ยาก การฉีด ฟิลเลอร์ปาก จึงเป็นทางเลือกที่สะดวก เจ็บน้อยและปลอดภัยมากกว่า

บริเวณริมฝีปาก ประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก แต่สามารถฉีด ฟิลเลอร์ปาก ด้วยเทคนิคเข็มคมได้เนื่องจากเนื้อเยื่อในจุดหนึ่งๆของริมฝีปาก มีเส้นเลือดมาเลี้ยงจากทุกทิศทาง จึงทำให้ไม่เกิดปัญหาเมื่อฉีด ฟิลเลอร์ปาก และมีเพียงเส้นเลือดหลักที่อยู่ลึกลงไปเพียงเส้นเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีด ฟิลเลอร์ปาก โดยเฉพาะก็มีความปลอดภัย 100%

แต่แน่นอนว่าถ้าพลาดฉีด ฟิลเลอร์ปาก กับแพทย์ที่ไม่มีความเชียวชาญด้านกายวิภาค ไม่รู้จักเส้นเลือดต่างๆบนใบหน้าดีพอ ก็อาจจะเกิดอันตราย ฟิลเลอร์อุดตันในเส้นเลือดได้ หรือถ้าฉีด ฟิลเลอร์ปาก โดยเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม ก็จะก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวได้เช่นกัน

สำหรับกรณีที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ คือคนไข้ที่เคยผ่านการผ่าตัดริมฝีปากมากก่อน แล้วต้องการฉีด ฟิลเลอร์ปาก ต้องแจ้งแพทย์ว่าเคยผ่าตัดมาก่อนเสมอ เพราะในกรณีนี้เส้นเลือดบางส่วนของคนไข้จะโดนรอยแผลที่เป็นผังผืดปิดกั้น ทำให้แพทย์ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการฉีด ฟิลเลอร์ปาก มากขึ้น และมีความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์ และฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดมากกว่าในเคสปกติ

แต่ถึงแม้จะเกิดการอุดตันเส้นเลือดเล็กๆบริเวณดังกล่าวนี้ ด้วยเทคนิคการแก้ไขที่มีในปัจจุบันก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ และแก้ไขให้กลับคืนมาได้ภายใน 7-14 วัน โดยที่ไม่ทำให้เกิดเนื้อตายหรือตาบอด ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยเกือบ 100%

ดังนั้น การฉีด ฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกฉีด ฟิลเลอร์ปาก กับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาแทรกซ้อนจากการฉีดฟิลเลอร์ หรือถ้าหากเกิดปัญหาก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

เครดิตบทความจาก : https://rwcclinic.com/