ฝากข้อความ
- jrada
- ขอบคุณจราตะเองน้อยน้อยหรือมากค่ะ. เจ็บมากไหมตอนทำ
- ศจี
- ถามว่า หมอเหลาให้เข้ากับหน้าไหม อันนี้ไม่แน่ใจจะคะ แต่ที่แน่ๆหมอบุญถิ่นจะเหลาสิลิโคนให้พอดีกับจมูกคะ คือเนื้อน้อยโด่งน้อย เนื้อเยอะก็ได้โด่งเยอะ ถ้าอยากให้เข้ากับหน้าเเนะนำว่า ให้บอกคุณหมอดีกว่าคะ ว่าขอให้ทำให้เข้ากับใบหน้าเรา ส่วนประคบร้อน-เย็น ไม่ต้องประคบเลยคะ กลับบ้านมากินยาตามหมอจ่ายมา แล้วก็ดูเเลตัวเองคะ (ตามคำเเนะนำของพยาบาล) ส่วนสิลิโคนมีขากับไม่มีขา เท่าที่ทราบคือสิลิโคนมีขาเป็นสิลิโคนสำเร็จรูปคะที่ทำออกมาแล้วจะได้ลักษณะที่ไม่ต่างกันมาก เพราะหมอจะเหลาออกจากเดิมตามที่หมอจะเสริมให้ ส่วนสิลิโคนไม่มีขามันมีหลายแบบคะ แบบสำเร็จรูป หรือแบบเหลาเองก็อาจทำให้ได้ปลายจมูกที่ดูยาวขึ้นหรือที่เรียกว่าหยดน้ำคะ
jrada: ตะเองถามหน่อยจราพอดีนัดทำกับหมอบุญถิ่นเขาเหลาซิลิโคลนให้เหมาะกับหน้าไหมค่ะแ ...
- jrada
- เป็นโรคผิวแบบนี้ จะเสริมจมูกได้ไหมค่ะ
ผมเป็นโรคประจำตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นโรคผื่นแพ้ที่ผิวหนัง ชนิดหนึ่ง
ที่เรียกว่า sebderm หรือ โรคผื่นไขมันอักเสบ
ซึ่งเป็นโรคที่เป็นๆหายๆ เวลาที่เป็นก็ทรมานมากเลยครับ
..
หากร่างกายผมอ่อนแอ เครียด นอนไม่พอ กินอาหารบางอย่างที่แพ้
..
อากาศหนาวไปนิด ร้อนไปหน่อย ผิวแห้งเพราะอยู่ห้องแอร์นานไป
ก็เป็นขึ้นมา บางครั้งเป็น 2-3 วันก็หาย บางครั้งก็เป็นอาทิตย์
ความจริงในต่างประเทศ คนเป็นโรคนี้กันมากทีเดียวครับ
ส่วนในเมืองไทย คนเป็นโรคนี้ก็มากพอสมควร
.
แต่ที่เป็นหนักๆ มีไม่มากนัก (ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น)
พบได้ทุกคนเวลาที่ร่างกายอ่อนแอ เพียงแต่ว่าจะเป็นมากหรือน้อยเท่านั้น
บางคนก็เรียกว่า รังแคผิวหน้า
..
เพราะมันลอก เป็นขุยๆ ที่ร่องจมูก คิ้ว และแนวไรผม หรือแม้แต่ในหู
..
หรือเป็นผื่นแดงตามหน้าผาก ข้างแก้ม คิ้ว
...
ซึ่งช่วงไหนเป็นมาก จะเป็นผื่นนูนขึ้นมา และจะคันมาก
..
เขาบอกว่าเมื่อก่อน คนไทยไม่ค่อยเป็นโรคนี้กันนัก
ฝรั่งน่ะเป็นมากกว่า แต่พอไลฟ์สไตล์ของที่เราเปลี่ยนไปเหมือนฝรั่งมากขึ้น
.
คือทำงานอยู่แต่ในห้องแอร์ ทานอาหารไม่เหมาะสม
และเกิดความเครียดก็เป็นมากขึ้นทุกที
..
และยิ่งอาการหนักในหน้าหนาว ซึ่งผมจะต้องเป็นทุกปี ทรมานทีเดียวครับ
แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะโรคนี้ไม่ได้เป็นโรคติดต่อ
..
อย่างไรก็ตาม เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันสักนิด
.
สำหรับคนที่เป็นโรคนี้เหมือนกับผม
.
หรือคนที่ไม่ได้เป็น จะได้รู้ที่มาที่ไปของโรคนี้
..
โรคผื่นไขมันอักเสบ (Seborrheic Dermatitis)
เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง พบบ่อยมาก
ลักษณะคล้ายรังแค (Seborrheic)
ต่างกันตรงที่รังแคเป็นสะเก็ดเฉพาะที่ศีรษะ
และไม่มีอาการอักเสบของหนังศีรษะ
ส่วนโรคผื่นไขมันอักเสบจะมีอาการอักเสบของหนังศีรษะร่วมด้วย
ถ้าเผลอไปแกะหรือเกาอาจจะมีน้ำเหลืองเยิ้ม
หรือถ้าทิ้งไว้นานๆไม่รักษา สะเก็ดจะหนามากขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้ผมร่วงได้
....
....
โรคนี้มักจะพบการอักเสบของผิวหนังที่อื่นร่วมด้วย
เช่น หน้าผาก, แก้ม, โคนคิ้ว, ข้างจมูก,
.
คาง, หลังหู, กลางอก, กลางหลัง หรือ ขาหนีบ
ลักษณะเป็นผื่นแดงๆ และมีสะเก็ดบางๆ เป็นๆหายๆ
...
....
.....
..
มักเป็นตอนที่ร่างกายอ่อนแอ เช่น เครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ
หรือช่วงที่เจ็บป่วย ไม่สบาย
..
สาเหตุของโรค
โรคนี้ เขาเชื่อว่าเป็นเพราะเชื้อยีสต์ที่ชื่อ p.ovale
.
หลังจากที่พบปริมาณเชื้อนี้มากกว่าคนปกติในคนที่มีอาการ
.
คือต่อมไขมัน จะมีเชื้อยีสต์ชื่อ p. ovale อาศัยอยู่
.
คือพอไขมันผลิตมาก ยีสต์ในต่อมนี่มันก็จะเพิ่มจำนวนมาก
.
ซึ่งไปทำให้ผิวหนังให้เกิดอาการระคายเคือง
.
เกิดอาการแดง และผิวลอกเป็นขุย
..
การรักษา
..
ต้องทำใจครับว่า โรคนี้เป็นตลอดชีวิต ไม่มีทางรักษาให้หายขาด
แต่โรคนี้มักเป็นๆหายๆ ถ้าใช้ยาแก้แพ้แรงเกินไปในเวลานานๆ
(โดยเฉพาะที่หน้า) จะทำให้สิวขึ้น ผิวหน้าบางลง
เส้นเลือดฝอยขยายตัว ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของยาแก้แพ้
..
สรุปว่าใครที่เป็น sepderm เหมือนกันกับผม
...
ก็ขอให้หมั่นดูแลตัวเองให้มากกว่าคนปกติ
....
ลด, เลี่ยง และเลิก สิ่งที่จะไปกระตุ้นให้ sebderm กำเริบ
...
ลดความเครียด นอนหลับให้เพียงพอ อย่าให้ผิวหน้าแห้ง
..
อย่าล้างหน้าบ่อย อย่าโดนแดดจัด งดสูบบุหรี่
.
เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
..
งดอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนจัดๆ
...
ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ให้หลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง
..
ที่อาจกระตุ้นให้เกิด sebderm เช่น อาหารทะเล ไข่ อาหารที่เผ็ดมากๆ
.
- jrada
- เป็นโรคผิวแบบนี้ จะเสริมจมูกได้ไหมค่ะ
ผมเป็นโรคประจำตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นโรคผื่นแพ้ที่ผิวหนัง ชนิดหนึ่ง
ที่เรียกว่า sebderm หรือ โรคผื่นไขมันอักเสบ
ซึ่งเป็นโรคที่เป็นๆหายๆ เวลาที่เป็นก็ทรมานมากเลยครับ
..
หากร่างกายผมอ่อนแอ เครียด นอนไม่พอ กินอาหารบางอย่างที่แพ้
..
อากาศหนาวไปนิด ร้อนไปหน่อย ผิวแห้งเพราะอยู่ห้องแอร์นานไป
ก็เป็นขึ้นมา บางครั้งเป็น 2-3 วันก็หาย บางครั้งก็เป็นอาทิตย์
ความจริงในต่างประเทศ คนเป็นโรคนี้กันมากทีเดียวครับ
ส่วนในเมืองไทย คนเป็นโรคนี้ก็มากพอสมควร
.
แต่ที่เป็นหนักๆ มีไม่มากนัก (ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น)
พบได้ทุกคนเวลาที่ร่างกายอ่อนแอ เพียงแต่ว่าจะเป็นมากหรือน้อยเท่านั้น
บางคนก็เรียกว่า รังแคผิวหน้า
..
เพราะมันลอก เป็นขุยๆ ที่ร่องจมูก คิ้ว และแนวไรผม หรือแม้แต่ในหู
..
หรือเป็นผื่นแดงตามหน้าผาก ข้างแก้ม คิ้ว
...
ซึ่งช่วงไหนเป็นมาก จะเป็นผื่นนูนขึ้นมา และจะคันมาก
..
เขาบอกว่าเมื่อก่อน คนไทยไม่ค่อยเป็นโรคนี้กันนัก
ฝรั่งน่ะเป็นมากกว่า แต่พอไลฟ์สไตล์ของที่เราเปลี่ยนไปเหมือนฝรั่งมากขึ้น
.
คือทำงานอยู่แต่ในห้องแอร์ ทานอาหารไม่เหมาะสม
และเกิดความเครียดก็เป็นมากขึ้นทุกที
..
และยิ่งอาการหนักในหน้าหนาว ซึ่งผมจะต้องเป็นทุกปี ทรมานทีเดียวครับ
แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะโรคนี้ไม่ได้เป็นโรคติดต่อ
..
อย่างไรก็ตาม เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันสักนิด
.
สำหรับคนที่เป็นโรคนี้เหมือนกับผม
.
หรือคนที่ไม่ได้เป็น จะได้รู้ที่มาที่ไปของโรคนี้
..
โรคผื่นไขมันอักเสบ (Seborrheic Dermatitis)
เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง พบบ่อยมาก
ลักษณะคล้ายรังแค (Seborrheic)
ต่างกันตรงที่รังแคเป็นสะเก็ดเฉพาะที่ศีรษะ
และไม่มีอาการอักเสบของหนังศีรษะ
ส่วนโรคผื่นไขมันอักเสบจะมีอาการอักเสบของหนังศีรษะร่วมด้วย
ถ้าเผลอไปแกะหรือเกาอาจจะมีน้ำเหลืองเยิ้ม
หรือถ้าทิ้งไว้นานๆไม่รักษา สะเก็ดจะหนามากขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้ผมร่วงได้
....
....
โรคนี้มักจะพบการอักเสบของผิวหนังที่อื่นร่วมด้วย
เช่น หน้าผาก, แก้ม, โคนคิ้ว, ข้างจมูก,
.
คาง, หลังหู, กลางอก, กลางหลัง หรือ ขาหนีบ
ลักษณะเป็นผื่นแดงๆ และมีสะเก็ดบางๆ เป็นๆหายๆ
...
....
.....
..
มักเป็นตอนที่ร่างกายอ่อนแอ เช่น เครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ
หรือช่วงที่เจ็บป่วย ไม่สบาย
..
สาเหตุของโรค
โรคนี้ เขาเชื่อว่าเป็นเพราะเชื้อยีสต์ที่ชื่อ p.ovale
.
หลังจากที่พบปริมาณเชื้อนี้มากกว่าคนปกติในคนที่มีอาการ
.
คือต่อมไขมัน จะมีเชื้อยีสต์ชื่อ p. ovale อาศัยอยู่
.
คือพอไขมันผลิตมาก ยีสต์ในต่อมนี่มันก็จะเพิ่มจำนวนมาก
.
ซึ่งไปทำให้ผิวหนังให้เกิดอาการระคายเคือง
.
เกิดอาการแดง และผิวลอกเป็นขุย
..
การรักษา
..
ต้องทำใจครับว่า โรคนี้เป็นตลอดชีวิต ไม่มีทางรักษาให้หายขาด
แต่โรคนี้มักเป็นๆหายๆ ถ้าใช้ยาแก้แพ้แรงเกินไปในเวลานานๆ
(โดยเฉพาะที่หน้า) จะทำให้สิวขึ้น ผิวหน้าบางลง
เส้นเลือดฝอยขยายตัว ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของยาแก้แพ้
..
สรุปว่าใครที่เป็น sepderm เหมือนกันกับผม
...
ก็ขอให้หมั่นดูแลตัวเองให้มากกว่าคนปกติ
....
ลด, เลี่ยง และเลิก สิ่งที่จะไปกระตุ้นให้ sebderm กำเริบ
...
ลดความเครียด นอนหลับให้เพียงพอ อย่าให้ผิวหน้าแห้ง
..
อย่าล้างหน้าบ่อย อย่าโดนแดดจัด งดสูบบุหรี่
.
เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
..
งดอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนจัดๆ
...
ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ให้หลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง
..
ที่อาจกระตุ้นให้เกิด sebderm เช่น อาหารทะเล ไข่ อาหารที่เผ็ดมากๆ
.
