|
เรามารีวิวประสบการณ์กันดีกว่าเนอะ ...
ก่อนทำก็ต้องเซ็นต์สัญญายินยอมกันก่อนว่า ถ้ามีอะไร ยังงัยเกิดขึ้นอย่างงี้ๆ ทางเราจะไม่เอาความกับคุณหมอและจะปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด เราก็เซ็นต์เรียบร้อยเลย
พอเก้าโมงกว่าๆ คิวที่สอง พี่พยาบาลผู้ช่วยให้จ่ายเงิน
พอได้เวลา เลดี้ก็จ่ายเงิน 15000 แนะ ก้อนใหญ่เลยนะขอบอก แอบใจวูบ เหอะเหอะ
สักพักพี่พยาบาลให้เข้าพบคุณหมอ คุยตกลงกันนิดหน่อยว่าต้องการยังงัย คุณหมอจะทำให้ยังงัย
คุณหมอขอถ่ายรูปก่อนทำไว้เปรียบเทียบและก็ขึ้นชั้นสองไปเตรียมตัวเจ้าค่ะ
หลังจากนั้น พี่พยาบาลก็ช่วยกันทำความสะอาดรูจมูกและใบหน้าทั้งหมด
อ่าๆๆ ได้เวลาขึ้นเขียงแว้วววว แอบขอพรคุณพระด้วยว่าให้การผ่าตัดครั้งนี้ปลอดภัยและสวยสมใจ
พอขึ้นเตียงปั๊บ รู้สึกตัวเองเหมือนตุ๊กตาเรยย ทุกคนมาจัดท่าให้ ทำนั่น นี่ โน่นน
อันดับแรก คุณหมอฉีดยาสลบอ่อนๆ เพื่อระงับความรู้สึก และถ้าง่วง คุณหมอบอกว่าให้หลับได้เลยนะคับ
แต่อิเลดี้ไม่ได้รู้สึกอยากจะนอนอะไรอย่างงั้น แถมรู้สึกตัวตลอดว่าโดนทำอะไรบ้าง
คุณหมอเอาเข็มมาจิ้มๆที่จมูก แอบเจ็บตอนเข็มแรก พอหลังจากนั้น สบายแระ
แต่ก็ไม่ได้สบายมากนักเพราะโดยเอาอะไรมายัดในรูจมูกตลอดเวลา เอาเข้า เอาออกอยู่นานเลย
นาทีสำคัญมาแว้ววว คุณหมอเอาแท่งซิลิโคนมายัดในจมูก ดังครืดๆๆๆ อยู่หลายรอบเลยละ
ทรมานใช้ได้แฮะ แต่ไม่เจ็บนะ แต่รู้สึกตึงๆที่สันจมูกมากๆ เหมือนมีอะไรทับหน้าไว้ แบบบอกไม่ถูก
หลังจากนั้น เข็มเย็บมาแล้วค้าาา เหอเหอ โดนเย็บเป็นตุ๊กตาผ้าอยู่หลายรอบเหมือนกันค่ะ
ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาเลยนะ ตอนจิ้มแอบรู้สึกเหมือนโดนมดกัดนิดๆ ไม่ได้เจ็บเว่อร์นะ โอเคเรยล่ะ
พอทุกอย่างเรียบร้อย พี่พยาบาลก็ช่วยพยุงให้นั่งแล้วคุณหมอให้หันซ้ายหันขวา
โอเคคับ เรียบร้อยแล้ว และก็โดนพยุงให้ลงไปชั้นสอง พี่พยาบาลช่วยถือกระเป๋า ไปส่งให้นั่งโซฟาด้านล่าง ตอนลงมา ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่อิชั้นค่ะ แล้วก็มีการถามไถ่กันเล็กน้อย
พี่พยาบาลก็เอายาแก้อักเสบและยาแก้ปวดมาให้ทาน พอเรารู้สึกว่าดีขึ้นก็บอกว่าจะกลับแล้ว
พี่พยาบาลก็บอกว่า งั้นฟังคำอธิบายนะคะ เค้าก็มาอธิบายๆๆ พร้อมให้วิธีการดูแลตัวเองมาด้วย
นัดตัดไหมวันที่ 9 เมษายน 53 และให้แกะปลาสเตอร์ที่จมูกได้วันที่ห้า นับจากวันพรุ่งนี้ค่ะ
พอกลับบ้านก็เลือดไหลเรื่อยๆ ต้องใช้ผ้าก๊อตซับทั้งวันเลยยย
แต่ทุกๆวันก็ต้องเอานิ้วกดระหว่างคิ้ว เพื่อไม่ให้ซิลิโคนเลื่อนขั้นไป ป้องกันจมูกสั้นด้วย
และถ้าคิดว่าด้านไหนเบี้ยวก็ให้ประคองไว้ พอเจอกันวันตัดไหม คุณหมออาจจะมีปรับทรงให้ละมั้งค่ะ
หลังจากนี้ก็ต้องอยู่บ้านยาวเลยสองอาทิตย์ พักฟื้นให้ได้มากที่สุด
มีพี่แนะนำว่าช่วงนี้ ให้ซื้อน้ำเขากุย จากร้านขายยา กินวันละ 1 ขวด เช้าครึ่งขวด เย็นครึ่งขวดจนหมด
เพื่อลดอาการบวมและร้อนจากแผลผ่าตัดค่ะ เป็นสมุนไพรจีน สรรพคุณเย็น ดับร้อนนะ
และวิธีการทำความสะอาดหน้า ก็ได้อานิสงค์จากเพื่อนๆในบอร์ดดั้งโด่งละคะ ขออนุญาติรีวิวอีกที คือ
1 น้ำเกลือล้างแผล
2 ครีมทำความสะอาดหน้า Cetaphil
3 Toner เช็ดหน้าหลังจากที่เราล้างหน้าอะคะ ป้องกันผิวแห้ง
4 สำลี 3 แผ่นค่ะ
วีธีการ
1 ให้ลง Cetaphil เช็ดหน้าก่อนคะ เพื่อทำความสะอาดหน้า ทิ้งไว้สักพัก
2 ลงน้ำเกลือล้างแผลเพื่อเช็ดสิ่งสกปรกต่างๆออกจากใบหน้าค่ะ
3 ขั้นตอนสุดท้าย โทนเนอร์เพื่อบำรุงผิวค่ะ
ปล ใช้สำลีในการทำความสะอาดทุกขั้นตอนนะคะ :)
แค่นี้ ใบหน้าก็จะสะอาด ไม่มัน โดยที่ไม่ต้องใช้น้ำแล้วละคะ ...
ขอบคุณเครดิตการทำความสะอาดหน้ามาจากคุณ wonderwall นะคะ เยี่ยมมากๆเลย
+ + + ส่วนรูป ขออนุญาตมาลงให้อีกทีตอนเอาปลาสเตอร์ออกก่อนนะคะ เพราะไม่กล้าโชว์จิงๆ แต่จะมาอัพเดทเรื่อยๆค่ะ สัญญา ^^ |
|