|
***เพิ่งไปทำกับหมอสำรวยมา ก็ดูโหงวเฮ้งและทรงจมูกว่าทรงยังไงจะเข้ากับหน้าเราด้วย คนมาแก้กับหมอเยอะมาก ดองซิลิโคนคนที่มาแก้ไว้ในขวดไว้เต็มเลย ค่าแก้ซิลิโคนธรรมดาก็หมืนแปด สูงสุดแก้ฉีดสารไบโอสามหมื่นบาท ทำรวดเร็วฉีดยาชาเจ็บนิดเดียวไม่เจ็บอย่างที่เห็นในรีวิวต่างๆเลย และรูปจมูกแต่ละคนที่ทำก็ไม่เหมือนกัน เพราะอย่างที่บอกหมอดูรูปหน้าว่าจมูกอย่างไรจะเข้ากับหน้าเรา ดูทั้งโหนกแก้ม กราม ส่วนต่างๆบนใบหน้าเลย ซิลิโคนอเมริกาหมอให้จับดูทั้งแท่งเลย นิ่มๆหยุ่นๆ หมอไม่เน้นโด่ง เอาเท่าที่เนื้อจมูกทำได้ ใครมีจมูกสวยอยู่แล้วยิ่งทำยิ่งสวย อย่างเราจมูกไม่เป็นทรง เนื้อดั้งน้อยทำขึ้นได้นิดเดียว แต่ก็พอใจ เพราะเน้นความปลอดภัยระยะยาวเป็นหลัก และหลังการขายหมอก็แก้ฟรีให้ด้วยถ้ามีปัญหา
***โดยส่วนตัวแล้ว เราคิดว่าการเปิดคลินิคเสริมความงาม ก็เป็นธุรกิจอย่างนึง การที่ตั้งราคาไว้สูงๆ ก็เป็นการตลาดอย่างนึง เพื่ออัพเกรดตัวเอง ว่าของดีมีคุณภาพ ต้องราคาสูง ซึ่งก็ค่อนข้างมีผลต่อความมั่นใจกับลูกค้าหรือคนไข้ว่า ราคาขนาดนี้ต้องออกมาดีแน่นอน ซึ่งเราคิดว่า ถ้าจะสูงก็สูงตรงที่หมอตั้งราคาเอง คงไม่ได้สูงเพราะสั่งซิลิโคนมาแพง เพราะแหล่งผลิตก็คงมีไม่กี่ที่ ไม่กี่โรงงาน คงไม่ได้แตกต่างกัน เราว่าแพงเกินความจำเป็น หมอที่ทำหลักหมื่นสวยก็มีอีกตั้งมากมาย เพื่อนเราทำงานคลินิคแถวปิ่นเกล้า หมอประจำอยู่บำรุงราษก็มีนักร้อง+ดาราชื่อดังไปทำจมูกและฉีดโบท็อกมาเหมือนกัน ตอนนี้ราคาอยู่สามหมื่น ตอนแรกเราสนใจเพราะจมูกนักร้องคนนี้สวยมาก หน้าก็เรียว เค้าลดให้เหลือสองหมื่นห้า เนื่องจากเรารู้จักเพื่อนที่ทำงานอยู่ ดีมากเลย บางทีเพื่อนพนักงานเขาไม่ลดหรอก(ภรรยาหมอลดให้) แต่ก็เกินงบเนอะ มีลูกทำอะไรก็เอาแต่พอประมาณดีกว่า เก็บไว้เลี้ยงลูกด้วย ฮ่าๆ อีกอย่างที่เลือกหมอสำรวยเพราะเน้นอยู่ได้ตลอด โด่งเกินไป นานๆเด๋วก็ทะลุอีก กลับมาแก้เจ็บตัว เสียเงิน พักฟื้นอีก อีกอย่างหมอที่ราคาหลักแสน เราเห็นรีวิว เราก็คิดว่าไม่ได้สวยอะไรขนาดราคาแสนเลย หลักหมื่น หลักห้าพันยังสวยกว่าอีก อีกอย่างแพงระดับไหน ก็มีเคสผิดหวัง เคสหลุดเช่นกัน จริงอยู่คนทำออกมาสวยก็มี แต่เราว่าเก็บตังค์ไปทำอย่างอื่นได้อีกตั้งหลายอย่าง**ความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าเป็นเิงินเรา เราคงไม่ทำหรอก เสียดายจริงๆ ถ้าเป็นเงินคนอื่นก็เรื่องของเขา ความคิดของแ่ต่ละคนไม่เหมือนกันเนอะ** |
|