คนเดียวกันนะครับ

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย Pnkberry เมื่อ 2012-5-27 02:39
แน่นอนค่ะว่ายังๆไม่เคยให้ แต่นั่นเพราะเรายังไม่เค ...

ตัวคุณไม่เคยทำอะไร แล้วมีสิทธิ์อะไรมาหาว่าคนอื่นหลอกลวง ตัวคุณเองไม่มีเวลาไปฉีดยาแล้วมาโทษผม ตัวคุณเองไม่เคยฉีดยาแล้วมาบอกว่า ทำตัวเป็นกูรู ถ้าคิดว่าผมหลอก ทำไมไม่ไปฉีดmesoline เลยละครับ ไปเลยครับ แล้วทำรีวิวให้คนอื่นดู

ผมพดูตรงๆนะครับ เหนื่อยใจกับคนแบบคุณครับ ผมก็คิดนะ ว่าผมมาเขียนไปเพื่ออะไร ทำเพื่ออะไร ที่มาบอกก็ดีแค่ไหนแล้ว ไม่ต้องมาเจ็บ ไม่ต้องมาปวด แบบผม แล้วสิ่งผมได้รับกลับมา คือ คำด่า กล่าวหาใส่ร้ายผม  แล้วผมจะมาเขียนไปเพื่ออะไร หลายคำพูดของคุณ มันทำให้ผมเสียกำลังใจมาก คุณต้องการแค่ให้ผมเอาเรื่อง คลอลาเจน มายืนยัน

1.จริงๆคุณไม่กล้าฉีดเพราะกลัวในสิ่งที่ผมพูด แต่ก็กลัวผมหลอกเลยต้องให้ผมหาอะไรมายืนยัน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ไปฉีดตัว Phosphatidylcholine และเพราะคุณไม่รู้จัก celluphase หาไม่ได้ mesoคุณก็ไม่เคยฉีดอะไรเลย ก็เลยคิดว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องหลอกลวง หลอกขายยา  ขอถามหน่อย ผมขายยาตรงไหน ถ้าผมจะขาย ผมไม่มาเขียนอะไร108อย่างให้มันเสียเวลาหรอก ผมจะเอารูปคนอื่นมาเปรีบยเทียบ ทำเหมือนคนอื่นๆที่เขาขายของกัน เขียนลายเซ็นให้เป็นที่อยู่ติดต่อของผมทั้งหมด
ผมไม่เขียนเรื่องmeso ตั้งแต่หน้า 11 ผมไม่เคยพูดถึงมันอีกเลย แล้วคุณกล้าดียังไงมาพูดกับผมแบบนี้

ต่อให้ผมไม่ขาย คนอยากได้ก็มีเยอะแยะ เพราะเขาเคยฉีด mesoline ที่ผสมPhosphatidylcholine แล้วเกิดอาการทั้งหมดอย่างที่ผมเลยว่า ไปฉีดmesoline ที่คลินิคเท่าไร แล้วยาที่ขายในเน็ตเท่าไร ลองไปเปิดดูบ้างนะครับ mesoline ถูกกว่า celluphase 3 เท่า ของคนละเกรดเลย แล้วมาหาผมหลอกขายยา แล้วยาพวกนี้มันมีหน้าร้านขายหรือไง ผมฝากคนอื่นซื้อผมผิดใช่ไหม ผมหลอกใช่ไหม เก่งจริงก็ไปหามาเองดิ ไปสั่งมาจากในเน็ตดิ ยากล่องละหมื่น ต้องโอนเงินไปก่อน ของมีไหมก็ไม่รู้ ส่งมายาแตกใครรับผิดชอบ ผมรับฝากซื้อก็ดีขนาดไหนแล้ว เงินก็ไม่ต้องโอนมา ยาก็ไปส่งให้เอง เจอกันตัวเป็นๆ

ถ้ายาในเน็ตกล่องละเป็นหมื่น ถ้าเข้าคลินิคจะเท่าไร ถ้าตัวคุณไม่รู้อะไรเลย ไม่เคยฉีดอะไรเลย แล้วเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ถ้าแน่นจริงก็ไปฉีดเลยสิ เอาเลย ลองดูเลย ตามสบาย


2.แต่ถ้าผมไม่ออกมายืนยันเรื่องนี้ คุณก็กล่าวหาว่าผมหลอกลวง ถามว่าผมมีเอกสารเป็นรายงานกระดาษไหม ผมไม่มี เป็นแค่คนธรรมดา เว็บหลักของ mesoline คุณหาเจอไหมละ นี่เว็บหลักของ celluphase http://www.mesotech.de/celluphase.html  แต่ถามผมว่าผมอธิบายเรื่อง Phosphatidylcholine ที่ไปทำลาย collagen กับ elastin ผมอธิบายได้ แต่ผมไม่อธิบาย คุณจะว่าผมหลอกลวง ผมไม่แคร์ ผมจะปล่อยให้คุณไปลองอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวคุณเอง ถ้าคุณคิดว่าคุณมีตังก็เอาเลย เสียเงินกันต่อไป คนที่ไปทำ ulthera หมดเงินไปเป็นแสนแล้วไม่ได้ผล ยังปรึษาผมเลย เขายังไม่โวยวาย ไม่ไปโทษคลินิคว่าหลอกลวงเลย แล้วคุณเป็นใคร อะไรก็ไม่เคยทำ มากล่าวหาผมทุกอย่าง ไปเถอะ ไปลองเองเลย หน้าคุณไม่ใช่หน้าผม เงินคุณไม่ใช่เงินผม ผมจะไม่อธิบายเรื่องนี้อีก ทำไมผมต้องอธิบาย คุณไปลองเองง่ายกว่า

ขนาดพิมพ์แทบตายยังหาว่าผมหลอกลวง ทำตัวเป็นกูรู ทุกอย่างที่คุณเขียนมา ผมเสียใจมากคุณรู้ไหม
ผมยังแอบดีใจที่คุณเคยเขียนว่า ก่อนผมทำ ผมดูตี๋ๆ น่ารักน่าหยิก ที่ดีใจเพราะคุณเป็นคนแรกที่เขียน แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงมากล่าวโทษผมแบบนี้ เพราะอะไร แค่ผมไม่มีเอกสารมายืนยันเรื่อง Phosphatidylcholine ที่ไปทำลาย collagen กับ elastin แค่นี้หรอ ตัวคุณเองก็ไม่เคยฉีดยา ไม่รู้อะไรคืออะไร ข้อมูลทั้งหมดที่ผมเขียนมา ถ้าผมไม่บอก แล้วใครจะบอกคุณ พอหาcelluphase ไม่ได้ ก็เลยมาโกธรผม กล่าวหาผมว่าผมโกหก

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย Pnkberry เมื่อ 2012-5-27 02:39
แน่นอนค่ะว่ายังๆไม่เคยให้ แต่นั่นเพราะเรายังไม่เค ...

งั้งคุณก็ไปลองเองเถอะ ฉีดPhosphatidylcholine แล้วอย่าลืมฉีดตัวrefirm ที่ชื่อ mesoline shap ด้วยละ อยากไม่ฉีดก็ตามใจปล่อยให้หน้าเหยี่ยวไป อยากเจ็บ อยากปวด อยากบวม อยากเสียเงิน2ต่อ ก็เอาเลยครับ

สุดท้ายไม่ต้องลากคลินิคอื่นมาเกี่ยวนะครับ ผมก็พึ่งเขียนไปว่าที่คลินิคนั้นทำปากให้ผมทำออกมาสวย ส่วนหมอจะใช้อะไรก็อีกเรื่อง มันไม่ได้ผิดที่หมอ อย่าเขียนชื่อคลินิคแบบนี้ เขาเสียหาย ผมไปฉีดPhosphatidylcholine มาจากที่ไหนผมยังไม่เคยเอ่ยชื่อเลย

ถ้าผมเขียนอะไรที่ทำให้คุณมั่นใส้ ไม่พอใจ อะไรที่ดูเว่อร์ หรืออะไรก็ตามแต่ ผมขอโทษนะครับ ผมเขียนเพราะความสนุกและอยากให้ความรู้กับคนอื่นๆ เชื่อไม่เชื่อก็อีกเรื่อง ผมก็เคยคิดแบบคุณตอนดู เดียว ของพี่โน้ต ผมเคยคิดว่า ชีวิตพี่เขาตลกขนาดนั้นเลยหรอ พี่โน้ตโม้ป่าว ใส่ไข่บ้างป่าว แต่มันไม่สำคัญหรอกครับ จะมานั่งจับผิดที่โน้ตทำไม เพราะผมดูแล้วผมหัวเราะ ก็เหมือนคุณที่ยังคอยเข้ามาอ่านกระทู้ของผม เชื่อบ้าง สงสัยบ้าง จับผิดผมบ้าง ถ้าเป็นแบบนั้นจะเข้ามาอ่านกระทู้ของผมทำไมครับ


คุณพูดไม่เคยคิด เอาอารมณ์ตัวเองมาตัดสิน ไม่มีเวลาไปฉีดยาก็มาโทษผม ไม่เคยลองฉีดยาก็มาโทษผม หาข้อมูลเองไม่ได้ก็โทษผม หายาเองไม่ได้ก็โทษผม ไม่รู้เรื่องอะไรก็มาโทษผม แล้วเคยคิดจะขอโทษผมไหม  

ก่อนจะว่าคนอื่น เคยมองตัวเองบ้างไหม

frankywawah

สวัดดีครับ ทุกคน
ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะครับ ขอบคุณ ffc ที่เป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด
ขอบคุณทุกคำติชมนะครับ ผมยินดีรับฟังทุกความเห็นตลอด
แม้กระทู้อาจจะดูรกๆไปหน่อย แต่ผมก็หวังเล็กๆว่า เพื่อนยังอยากอ่านเรื่องของผมต่อ


ผมกลับมาแล้วครับ  จงมาเสพเรื่องศัลยกรรมกันต่อเลยนะครับ พี่น้อง 555

frankywawah

ต่อ เรื่องปากบางนะครับ

หลังจากทำปาก ปากผมเป็นไตๆทั้งสองข้างอยู่สักพัก ผมก็อาศัยการบีบๆนวดๆ ไปเรื่อยๆ นวดทุกวันๆ  สัก 2เดือนได้มั้งครับ ปากผมก็เริ่มหายเป็นก้อนไตแข็งๆ สุดท้ายปากก็สวยอย่างที่เห็นอะครับ ทำปากบางอย่าจิตตกนะครับ ใจเย็นๆ



2บรรทัดจบเรื่องปากบาง 555  ตา จมูก ปาก เขียนไปแล้ว ต่อมาก็ คาง

คางมลๆ ของข้าพเจ้าได้แต่ใดมา  ซิลิโคน หรือ ไฮย่า  ใครกำลังคิดจะทำคาง มาอ่าน นะครับ



ตา จมูก ปาก เขียนไปแล้วในหน้าเก่า หาอ่านกันตามสบายนะครับ

อยากถามอะไรก็ถามกันเข้ามานะครับ เพราะผมกลับมาแล้ว ขอโทษทุกคนนะครับที่ถามมาแล้วตอบบ้างไม่ตอบบ้าง
แต่ผมจะตอบให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้  แน่นนอนว่าผมหายไป ผมก็ต้องมีอะไรใหม่ๆมาเล่าสู่กันฟังแน่นนอน
รอบนี้คงถูกใจใครหลายๆคนไม่น้อย  แต่เชื่อผมเถอะ เดี๋ยวก็ดราม่ากันอีก

เพราะเรื่องอะไรก็ตามที่ผมเขียนแล้วมีคนสนใจเยอะก็มักจะดราม่าตลอด

อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป ผมจะทำให้กระทู้นี้กลับมาน่าอ่าน  ตื่นเต้น เร้าใจ มีสาระ

ผมขอแค่กำลังใจจากทุกคน แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ  

ส่วนตัวผม ผมก็ดูแลตัวเองอยู่เสมอ  ถ้าผมไปทำอะไรมาใหม่ๆ ผมจะมารีวิวให้ได้อ่านกันเรื่อยๆ  ไม่ต้องกลัวครับ มีให้อ่านกันอีกยาวๆๆ
เพราะผมไม่หยุดดูแลตัวเองอยู่แล้ว  จะได้เป็นประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของผม  เชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ครับ  
ผมอาสาเป็นหนูลองยาให้ ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองเองได้นะครับ

เดี๋ยวมาว่ากันต่อ เรื่อง คาง ครับ

  

frankywawah

หน้าเกือบพังก็เพราะทำคางนี่หละครับ  ผมดูดีขึ้นมาได้อีกก็เพราะทำคาง  หน้าผมเกือบเสียโฉมไปทั้งชีวิตก็เพราะทำคาง มันเป็นยังไงละ
เอารูปผมก่อนทำคางไปดูละกัน  เห็นผมดูเนี๊ยบแบบนี้  เมื่อก่อนผมโคตรเซอ  rocker มาเอง 555
คนเราก็ต้องมีหลายลุคโนะ ต้องลองเปลี่ยนตัวเอง เหมาะบ้าง ไม่เหมาะบ้าง หาแนวของตัวเองให้เจอ
เมื่อก่อนผมก็แอ๊บแบ๋วก็มี ใส่บิ๊กอายก็เคย ไว้ไปหารูปก่อน  





คางผมแหมขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนนะครับ  เพราะปากผมทั้งสองรูปอยู่ในต่ำแหน่งเดียวกัน  รูปด้านซ้ายผิวอาจจะดูขาวไปหน่อย เพราะเปิดflash ถ่ายในตอนกลางคืนนะครับ

frankywawah

มาต่อกันดีกว่าครับ  กับเรื่อง คาง

สรุปคางผมเป็น ซิลิโคน หรือ filler ผมขอตอบตรงนี้เลยนะครับ ว่าเป็น filler ฉะนั้นผมจึงไม่มีรูป พักฟื้น หรือรูปที่ผ่าตัดมานะครับ

ทำไมผมจึงตัดสินใจ ไม่ใส่ ซิลิโคน

ถ้าเพื่อนๆได้อ่านที่ผมเขียนมา คงทราบกันดีอยู่ว่าทำศัลยกรรมมาค่อนข้างเยอะ ขอตอบเลยนะครับ ว่า หลังๆผมเริ่มไม่ค่อยอยากผ่าตัด
เพราะอะไรหรอครับ คือ ทุกครั้งที่ผมผ่าตัด ผมเสียเลือดเยอะครับ เลือดผมหยุดช้าด้วย แผลผมหายช้า แล้วผมเป็นคนผอมด้วย ทำศัลยกรรมทีไร ผมผอมลงทุกที ทำปาก กินโจ๊กไป4วัน น้ำหนักลงมา3 กิโลกว่า อีกอย่างผมไม่อยากฟักฟื้นานด้วยครับ เพราะตอนทำคางผมเรียนจบแล้ว ต้องไปทำงาน จึงตัดสินใจที่จะฉีด filler ที่คาง  แต่มันก็มีเหตุการณ์ทำให้ผมเกือบเสียโฉมแล้ว เป็นยังไง มาอ่านกัน

เมื่อก่อนผมก็ไม่มีความรู้เรื่องพวกสารเติมเต็มหรอกครับ ไม่มีเลย ไม่รู้อะไรเลย แยกประเภทยังไม่ได้เลยครับ ซิลิโคนเหลว คลอลาเจนเหลว ฉีดไขมันสัตว์ ไหมละลายปั่น  filler คืออะไรผมก็ไม่รู้ เมื่อก่อนผมงงกับคำว่า "ไฮย่า" มากๆ สรุปมันมีกี่อย่าง แล้วต้องฉีดอะไรถึงดีที่สุด  

ผมจะเล่าแบบสมัยที่ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ เขาบอกผมมาแบบนี้ ถ้าผู้อ่านงง ยังไงค่อยถามผมนะครับ

ผมก็ไปถามพวกที่ชอบทำศัลยกรรมมา พวกนี้จะชอบทำกับหมอกระเป๋า เพราะยังวัยรุ่น งบน้อย ไม่ค่อยเข้าคลินิค เขาก็บอกผมว่า มันมีหลายแบบ ถ้าตัวที่สลายได้ก็แพงหน่อย ถ้าตัวที่อยู่ได้นานๆจะถูกหน่อย  ให้ตายเถอะ แล้วผมจะรู้ได้ไงว่าอะไรดีกว่ากัน  แทนที่อยู่ได้นานๆจะแพง อยู่ได้แปปเดียวจะถูก  เขาบอกว่าอยู่ที่งบของผม ถ้าเป็น filler ก็แพงหน่อย 1cc ก็หมื่นกว่าบาท แล้วผมก็ทำหน้า งงๆ ใสเขาก็เลยบอกอีกว่า มันจะมีสารอีกตัวนึง เรียกว่า "โพลี่" ตัวนี้เหมือน filler เลย แต่อยู่ได้นานเป็นปีเลย ถูกนี้จะถูกหน่อย 1cc  2000กว่าๆ  แล้วผมก็เลยถามไปว่าถ้าเติมคางผมต้องใช้กี่ cc เขาบอกผมว่า ประมาณ1 cc ไม่เกิน1.5cc ก็พอ
ผมก็ถามว่าทำไมตัว โพลี่ มันถูกจัง เขาบอกว่า มันมาเป็นถุงๆ แล้วมาแยกขายอีกที ผมฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเลย

เพื่อนๆลองคิดแล้ววิเคราะห์ตามผมนะ

คางผม ถ้าผมใช้ โพลี่ ฉีดเข้าไป 1.5cc ไม่เกิน3000บาท ให้ตายเถอะ ทำไมมันถูกแบบนี้อะ เกินมาไม่เคยเจอการทำศัลยกรรมถูกแบบนี้มาก่อนเลย ถูกเว่อ แถมยังบอกอีกนะ ว่าใครๆเขาก็ฉีดกันเพราะมันอยู่นาน พวกพริตตี้  ชอบฉีดกันเยอะ มันคล้ายๆคลอลาเจนเหลว

คางผม ถ้าผมใช้ filler ที่มันเป็น ไฮย่า ฉีดเข้าไป 1.5cc ประมาณ เกือบ20000  ราคานี้ ทำศัลยกรรมคางแบบใส่ซิลิโคนได้เลย
มันก็ยังดูสมเหตุสมผล เขาบอกว่ามันอยู่ได้ไม่นานนะ เต็มที่7-8 เดือน ไม่เกินปี ก็ต้องเติม แต่มันดีกว่านะ เพราะมันฉีดสลายได้

ตอนนั้นคิดว่า สลายได้มันดีกว่ายังไงอะ ฉีดแล้วต้องเติมบ่อยๆ มันดีตรงไหน แพงก็แพง สู้ฉีด3000อยู่ได้นานๆ ไม่ต้องเติมบ่อยๆไม่ดีกว่าหรอ  สารภาพ ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ ที่ไม่มีความรู้อะไรเลย เพิ่งเรียนจบ ยังไม่ทำงาน เงินก็ยังไม่ค่อยมี

โพลี่ 1.5cc =3000บาท     อยู่ได้หลายปี
filler 1.5cc = 20000บาท อยู่ได้7-8 เดือน

ผมขอถาม ถ้าเพื่อนๆเจอแบบผม ไม่มีความรู้เลย จะทำยังไง เขาบอกผมมาแค่นี้  โพลี่กับคลอลาเจนเหลวมันเหมือนๆกัน

เรื่องนี้ยาว ชัว  


  

frankywawah

คุณamplemiracle ผมขอร้องอย่าทำกระทู้ผมรกนะครับ เคารพในสิทธิ์ของคนที่มาอ่านผู้อื่นๆด้วยนะครับ แล้วก็ตัวผมที่เป็นเจ้าของกระทู้ด้วย ขอบคุณครับ

frankywawah

เดี๋ยวคืนนี้มาอธิบายต่อยาวๆไปเลยครับ  ขอบคุณทุกคนสำหรับการติดตามนะครับ ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ

บางอย่างมันก็ไม่มีค่าพอที่ต้องให้ผมพูดถึง อะไรที่ไร้ค่าเพื่อนๆก็ต้องมองข้ามมันไปบ้างนะครับ ก็เหมือนหมาเห่า ตอนมันเห่า ยิ่งไปทำอะไรมันก็ยิ่งเห่า หมามันไม่คอยรุ้เรื่องอะไรหรอกครับ ดีแต่เห่า มันก็ทำได้แค่นี้ จะให้หมามาฟังภาษาคนก็คงเป็นไปไม่ได้ ผมแนะนำอย่าไปใส่ใจอะไรมากครับ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไปฟังหมามันเห่า มองข้ามไปเลย ยิ่งไปแห่ยมันก็ยิ่งเห่า  แล้วหมามันก็ไม่คอยจะรู้ตัวหรอกครับว่ามันทำอะไร  เพราะมันทำไปตามสัญชาติญาณ มันเกิดมาเป็นหมา มันก็ต้องเห่า เราเป็นคนครับ เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร เพราะเราเป็นคนเราคิดเป็น เกิดมาเป็นคนก็ต้องทำความดี ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ไม่ทำให้คนอื่นรำคาญหรือเดือดร้อน

อย่างที่ผมบอกครับ หมามันก็ได้แต่เห่า ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก อย่าไปสนใจมัน  555  

frankywawah

มาต่อกันดีกว่า ขอให้สันติสุขจงกลับมาด้วยเถิด

โพลี่ 1.5cc =3000บาท     อยู่ได้หลายปี
filler 1.5cc = 20000บาท อยู่ได้7-8 เดือน

เพื่อนๆเคยทราบไหมครับว่า โพลี่ ที่ผมกล่าวถึง ชื่อเต็มๆมันคืออะไร มาดูกัน

ชื่อเต็มๆของโพลี่คือ polyacrylamide เป็นสารที่ใช้ฉีดมีผลถาวร มีการผลิตในประเทศจีน แล้วมันมาในรูปแบบไหน
มันมาในรูปแบบของ สารเติมเต็มที่ชื่อ aqualift เริ่มคุ้นหูขึ้นมาแล้วใช่ไหมครับ

aqualift คือสาร เติมเต็มที่ผลิตขึ้นมาจากสาร polyacrylamide ซึ่งเป็นสารเติมเต็มแบบถาวร คุณสมบัติของมันจริงเราไว้เติมเต็มช่วยตัว พูดง่ายๆคือ ต่ำกว่าหัวลงมา ไม่ว่าจะเป็น หน้าอก หรือ ลำตัว สะโพก ในต่างประเทศนิยมใช้กันมากและเป็นที่ยอมรับ เพราะเขาใช้กับตัว

aqualift เหมาะ สำหรับเต็มตัว ลำตัว ที่ต้องใช้ volume คือ จำนวนมากๆนั่นเอง แต่หมอหรือคนที่ไม่มีจรรยาบรรณในประเทศไทย ที่ไม่มีสามัญสำนึก มักจะเอาสารพวกนี้มาเติมเต็มให้กับหน้าลูกค้า สาเหตุหลักคือ เพราะมันถูก ซึ่งเป็นการลดต้นทุนอย่างมาก โดยเฉพาะหมอกระเป๋า นิยมใช้สารพวกนี้มากเพราะมันถูก ราคาแค่นี้เอง คนที่มีทุนทรัพย์น้อยก็สามารถเติมได้

แล้วเวรกรรมตกอยู่ที่ใคร คนที่โดนฉีดไงครับ ลอง search คำว่า aqualift ใน google ดูนะครับ แล้วจะรู้ถึงมหัตภัย สำหรับคนที่เอา aqualift มาฉีดหน้า ผมเจอมาเยอะมากๆคนที่โดนเอา aqualift มาฉีด คาง ร่องแก้ม จมูก ผมรู้สึกเห็นใจและสงสารคนที่โดนสาร  
polyacrylamide ที่ใบหน้าครับ เพราะหลายคนเจอปัญหา หน้าย้วย คางย้วย ฉีดที่ร่องแก้มแล้วมันไหล ลงมากองที่แก้ม ไม่รู้วิธีแก้ ก็ไปฉีดสลาย ไปฉีด สเตลอยสเตอรอยด์(Steroid) มันยิ่งทำให้ก้อนพวกนี้ยิ่งจับตัวกันแน่น ยิ่งแข็งเข้าไปใหญ่ สุดท้ายก็เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ มีเงินล้นฟ้าก็แก้ให้หน้าเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ไปผ่าหรือขูดออก ยังไงก็ไม่หมด ถึงออกหมด เดี๋ยวกลับมาเป็นพังพืดอีก ไปผ่าอีก ก็เป็นพังผืดอีก คนที่โดนตรง จมูก กับคาง ยังพอแก้ไขได้ แต่คนที่โดนแก้มกับร่องแก้มอาจจะรักษายากกว่าหน่อย


คนที่ไปฉีดให้ก็จะมีความรู้ก็ดี ไม่มีความรู้ก็ดี ก็เหมือนสร้างตราบาปให้กับคนอื่น ทำลายหน้าคนอื่น หมอหรือหมอกระเป๋าบางคนก็รู้ แต่ไม่บอก จะเอาแต่เงิน เงินแค่ไม่กี่พันบาทที่คุณได้มาแลกกับมาทำลายหน้าคนอื่นไปทั้งชีวิต

ก็ลอง search google ดูนะครับ คนเป็นร้อยเป็นพันเจอกับปัญหาเรื่องนี้ ผมแค่อยากเตือนไว้สำหรับคนที่งบน้อยแต่อยากดูดี
คิดให้ดีก่อนทำ ไม่ใช่คิดแต่ว่า ใช้แทนกันได้ใช้ๆไปเถอะ ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้ามันใช้แล้วดี เขาจะผลิต hyaluronic acid หรือภาษาบ้านก็คือ ไฮย่า มาทำไมละครับ ลองคิดดูดีๆนะครับ คนที่เขาอยากจะได้เงินคุณ เขาก็ต้องบอกว่ามันดีอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ เพราะคนที่ลองคือพวกคุณ

แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะไม่มีวิธีรักษา ผมได้รู้จักกับคุณหมออยู่ท่านนึง คุณหมอบอกว่าเดี๋ยวนี้มันมีวิธีรักษาคนที่โดนpolyacrylamide โดนที่ไม่ต้องฉีด สเตลอยสเตอรอยด์(Steroid) หรือ Hyaluronidase แล้ว คุณหมอบอกแค่ว่ามันเป็นยาฉีด จะทำให้ก้อนนี้หายไปได้ แต่อาจจะทำให้เป็นล่องบุ๋มลงไป แต่สามารถแก้ไขได้โดยการเติม hyaluronic acid หรือ filler ทึี่่เป็น ไฮย่า เติมให้มันเต็มและเรียบเหมือนเดิมได้

แถมคุณหมอบอกอีกว่า ถ้าผมรู้จักคนที่มีปัญหาแบบนี้ขั้นหนักๆ คุณหมอจะรักษาให้ ฟรี  ย้ำนะครับว่า!!!!ฟรี!!!! ไม่ต้องเสียตัง ผมพูดจริงๆนะครับ ผมไม่พูดเล่น แต่คงได้แค่ไม่กี่คน เพราะการรักษาก็ต้องมีต้นทุน แต่คุณหมอจะรักษาให้ฟรี ครับ ดังนั้นใครที่เคยโทรมาคุยกับผมเป็นการส่วนตัว แล้วมีปัญหา ถ้าอยากรักษา กรุณาติดต่อผมกลับด้วยครับ หรือถ้าเป็นหนักจริงๆช่วยถ่ายรูปแล้วส่งมาให้ผมหลังไมค์นะครับ ผมจะให้สิทธิ์กับคนที่ผมคิดว่าเป็นหนักจริงๆก่อนนะครับ ย้ำนะครับว่า!!!!ฟรี!!!!!! ไม่ต้องเสียเงินครับ
แต่ต้องไปพบคุณหมอก่อนนะครับ ให้คุณหมอดูอาการ ว่าไปโดนอะไรมา ต้องดูประวัติว่าไปฉีดอะไรมาบ้าง จะได้หาวิธีรักษาที่ถูกต้อง แต่ไม่เสียเงินนะครับ ฟรีจริงๆ


ผมก็อยากช่วยทุกๆคนนะครับ แต่ผมช่วยได้แค่นี้ เพราะผมก็เป็นแค่คนธรรมดา ถ้าผมรวยเหมือนคุณตันก็ว่าไปอย่าง 555
ผมให้ได้แต่ความรู้ เชื่อไม่เชื่อก็อีกเรื่อง

เดี๋ยวมาต่อครับ

frankywawah

สวัดดีครับเพื่อนๆชาวดั่งโด่ง  ยังจำกันได้ไหมครับ ผมหายไปเกือบปี

หลายคนถามผมว่า ผมหายไปไหน ทำไมถึงเลิกเขียน

ลึกๆก็กะจะเลิกเขียนไปตลอดกาลแล้วครับ  แต่มันมีอยู่ว่า...


เมื่อวานผมได้รับโทรศัพท์จากพี่คนนึงที่รู้จักกัน  ชื่อ พี่อเล็กซ์  

พี่อเล็กซ์เป็น mc แถวหน้าของเมืองไทย  ผมรู้จักพี่เขาเพราะเคยประกวดเวทีเดียวกัน

พี่เขาถามผมว่า ทำไมถึงเลิกเขียน

ผมตอบตรงๆเลยครับ ว่าผมท้อแท้มาก โดนด่า โดนว่า ทำกระทู้ผมเละ เป็นดราม่า ไม่น่าอ่านอีกต่อไป ผมก็เลยไม่อยากเขียนต่อ  แล้วพี่เขาก็บอกว่า

"แฟรงค์รู้ไหม คนอ่านกระทู้เราเยอะมาก มีแต่คนถามถึง น่าเสียดาย ถ้าเป็นพี่ พี่จะเขียนต่อ มันมีประโยคต่อคนอื่นมากนะ ใครจะมาเขียนแบบนี้ได้ แต่เสียดาย แฟรงค์ไม่เขียนแล้ว"

ผมฟังแล้วก็ยังเฉยๆนะ แต่ผมถามคำถาม กับตัวเองว่า...

1.ชีวิตนี้ชอบอะไร        --------------ชอบเรื่องศัลยกรรม การดูแลตัวเอง อยากเปลี่ยนตัวเอง

2.ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบดีไหม----------ก็เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นระดับนึง

3.มีคนชอบเหมือนเราเยอะไหม--------ผมว่าคนชอบเรื่องศัลยกรรมและการดูแลตัวเองเยอะอยู่นะ

4.เคยแบ่งปันอะไรให้กับคนที่ชอบเหมือนกันไหม------ก็แบ่งปันนะ คนอ่านก็เป็นแสน

5.แล้วจะเขียนต่อไหม


ผมคิดอยู่สักพักนึง ถามอีกทำถาม  เคยทำประโยชน์อะไรให้แค่คนส่วนรวมหรือคนหมู่มากไหม

สิ่งแรกที่ผมคิดก็คือ กระทู้นี้ที่เว็บดั่งโด่ง  เพราะอ่านมันไม่มีประโยค คนคงไม่เข้ามาอ่านเยอะขนาดนี้

ผมยอมรับนะครับว่า  ผมเห็นแก่ตัว หนีปัญหา ตื่นเช้ามา วันๆทำแต่งาน หาเงิน เลิกงานกลับบ้าน เที่ยว นอน


ผมไม่ทำประโยชน์อะไรเลย ทั้งๆที่ผมก็พอจะทำได้และคิดว่าทำได้ดีในระดับนึง คือ เรื่อง "ศัลยกรรม"

frankywawah

สิ่งนึงที่ผมพอจะทำได้ คือ การแชร์เรื่องราวของตัวเอง รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ และความรู้ที่มี ในเรื่องที่ตัวเองถนัด

คือ เรื่องศัลยกรรม ให้คนอื่นได้อ่าน และนำไปเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น ในการดูแลตัวเอง จะได้ไม่ต้องผิดพลาดและ

เสียเวลา เพราะเรามีแค่หน้าเดียว พังแล้วพังเลย  


แล้วก็คิดอีกสักพักว่า ถ้าพรุ่งนี้ต้องตาย เคยทำประโยชน์อะไรให้กับคนอื่นไหม

ผมเลยคิดว่า สิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นที่สุดที่ผมทำได้ ก็คือ เรื่อง ศัลยกรรม


นั่นคือ คำตอบของผม  ผมจึงตัดสินใจ กลับมาเขียนรอบนี้ จะขอมอบความรู้และประสบการณ์ทุกอย่างที่มี ในทุกๆด้านเกี่ยวกับศัลยกรรมความงาม ทุกๆอย่าง  แบบคนธรรมดาคนนึงที่เคยทำมา และวีธีการดูแลตัวเอง มอบให้เป็นวิทยาทานแก่คนอื่น เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่ผมพอจะทำได้ และน่าจะมีประโยชน์แก่คนอื่น

ขอโทษ มิตรรักแฟนคลับ ที่หายไป ขอโทษที่ทำเป็นไม่สนใจ ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง ผมขอโทษจากใจจริงๆ

ขอโทษ คนที่ผมเคยคนที่ผมเคยทำให้ไม่พอใจ หรือ ได้รับผมกระทบจากกระทู้ของผม  

ดราม่ามาเยอะแล้ว  หายไปเกือบปี มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

เอาเรื่อง soft ก่อน ดูดหนองที่คางไปสองรอบครับ





ใน syringe นั่น หนองเกือบ 5 cc 2 syringe  

ทำมันผมถึงเป็น เป็นเพราะอะไร เดี๋ยวรู้กันครับ



ขอร้องอย่าเพิ่ง ดราม่านะครับ

frankywawah

เนื่องจากมีปัญหา เรื่องการนำภาพมาประกอบเรื่อง หนองที่คาง  ขอพักไว้แปปนะครับ มือถือพัง ไปซ่อมแปปนึง เดี๋ยวค่ำมาต่อจ้าา

ไม่ได้โพสนานครับ เก็บกดนิดนึง

เฉยสงสัยไหมครับ ว่าทำไมคนเราถึงมีหน้าที่ต่างกัน บางคนหน้าตาดี ทำไมเราหน้าตาไม่ดี ผมก็เคยคิดแบบนั้น จนมารู้จัก ศัลยกรรม

จุดเริ่มต้นก้เคยเล่าให้ฟังแล้วนะครับ  ผมอยากจะบอกว่า สมัยนี้เรื่องหน้าตาทำกันได้ ไม่ยาก แต่ต้องรู้วีธีทำ

อยากดูดี อย่ามัวแต่มองคนอื่น มองตัวที่เรา เราต้องรู้จักตัวเองก่อน  เริ่มจากผิวดีไหมครับ อ่าา น่าสนใจขึ้นมานิดนึง

วันนี้ผมจะมาเสนอเรื่องผิวๆ ที่มันไม่ผิวๆ ให้ทุกคนได้รู้กัน  อยากดูดีต้องรู้จักตัวเราก่อนครับ  รู้จักผิวของเรา อันนี้เป้นเรื่อง basic ของผิวหนัง ผมจะอธิบาย ง่าย ให้เข้าใจกันนะครับ

คนบนโลกนี้มีหลายเชื้อชาติ สีผิวก็มีหลายแบบ แบ่งง่ายๆก่อน คือ ขาว เหลือง แทน ดำ อ่า พวกนึกภาพออกใช่ไหมครับ  ซึ่งแน่นนอนว่า ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สิ่งนึงที่เหมือนกัน คือ ชั้นของผิวครับ

ข้อมูลและภาพบางส่วนมากจาก google นะครับ ขอบคุณครับ




ผิวหนังหลักๆ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นชอบเธอ ชั้นรักเธอ ชั้นเกลียดเธอ   ล้อเล่นครับ ฮาาา

3ชั้น เรียงลำดับจาก บนสุดถึง ล่างสุด คือ

1.ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)



พูดง่ายๆว่า ผิวชั้นบน หรือ ชั้น ขี้ไคล เรียก ภาษาบ้านๆว่า ผิวๆ บนๆหน่อย

เป็นชั้นผิวหนังที่อยู่นอกสุดและสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมโดยตรง  ผิวชั้นบนมันจะผลัดเซลล์ผิวของตัวมันเอง ทุกๆ28วัน

แต่ถ้าใช้ พวก โฟมล้าหน้า ครีม หรือ ยา บางประเภท เช่น retin a หรือ AHA หรือ วิตามิน C  มันจะไปเร่งการผลัดเซลล์ผิว บางครั้งหน้าจึงลอก

ทำไมถึงต้องรู้เรื่องพวกนี้  มันมีประโยชน์มากนะครับ สำหรับคนไทย เพราะคนไทย บ้าขายครีม 5555

ใครๆก็ขายแต่ครีม ครีม ดีไม่ดี ไม่รู้ละ ส่วนผสมก็ไม่รู้ ดาราถือในมือเป็นอันใช้ได้

ผมรู้สึกแย่มากกับเรื่องแบบนี้ เดี๋ยวผมจะอธิบายในตอนต่อไป

น่าแปลก คนที่ขายครีมในเน็ตส่วนใหญ่ ไม่มีความรู้อะไรเลย ส่วนคนซื้อก็เห็นดาราถือก็ซื้อ  ผมสลดใจจริงๆครับ

มีแต่คนถาม ทำไมคนมีความรู้อย่างผมไม่ขายครีมละ สำหรับผม ผมว่าใครๆก็ขายได้ เด็กมัธยมก็ขายได้

แต่จะหาคนมาอธิบายเรื่องพวกนี้ให้ฟัง มันคงไม่มี สำหรับผมขายครีม คงไม่รุ่ง แต่เขียนกระทู้นี้ให้คนอื่นอ่าน น่าจะรุ่งกว่า 555

ตี4แล้ว เพิ่งเขียนได้ถึง ผิวชั้นบน เขียนไปตังก็ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร ผมภูมิใจ ถ้าพรุ่งตายไปยังทำประโยชน์ให้คนอื่นได้บ้าง

คนขายครีมเขาก็หวังแต่ผลประโยชน์  ใครจะมานั่งบอกเรื่องพวกนี้ แต่บางครั้งชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง

ขอไปนอนก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ

กลับมารอบนี้ยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  

frankywawah

เลิกงานแล้วครับ รีบกลับมาอัพต่อ เดี๋ยวเพื่อนๆขาดตอน

จริงๆ ผิวชั้นบน หรือ epicdermis มันแยกออกเป็นอีกหลายๆชั้น  แต่เราไม่ได้เรียนเป็นหมอ ไม่ต้องรู้ก็ได้ครับ คำว่า epicdermis ให้เรียก ผิว บริเวณ บนๆ หรือ เรียกอีกอย่างนึงว่า ชั้น superficial

ถัดต่อมาชั้นที่ 2  ชั้นหนังแท้ (dermis)




  ชั้นหนังแท้ประกอบด้วยส่วนที่เป็นเส้นใยคือ collagen fibers, elastic fibers และ reticulum fibers ซึ่งเส้นใยจะมีลักษณะละเอียดและอยู่กันแบบหลวมๆในชั้นบนที่อยู่ชิดกับชั้นหนังกำพร้า เรียกว่าชั้น papillary dermis

เดี๋ยวหาว่าโม้ เรื่อง collagen fibers กับ elastic fibers



จะอธิบายอีกรอบ เรื่อง collagen อีกรอบ

คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นสายยาว ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนโดยทั่ว ๆ ไปเช่นแดียวกับเอนไซม์ สายเส้นใยของคอลลาเจนถูกเรียกว่า คอลลาเจน ไฟเบอร์ (Collagen Fiber) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย โดยปกติทั่วไปผิวหนังที่มีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มากจึงมีแรงสปริงตัวและ ยืดหยุ่นได้ดีตามไปด้วย คอลลาเจนนั้นไม่ได้มีอยู่ที่ผิวหนังส่วนนอกเท่านั้น อวัยวะภายในร่างกายเอง ก็มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่มาก ได้แก่ ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน (cartilage), เส้นเอ็น (ligaments), ข้อต่อ (tendons), กระดูก (bone) สารคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เคราติน Keratin

ใครเคยสงสัยไหมว่า ทำไม คลอลาเจน ถึงช่วยเรื่อง น้ำไขข้อในกระดูกเสื่อม คำตอบอยู่ข้างบน

collagen กับ elastin จะอยู่ด้วยกัน ในชั้น dermis นะครับ

นอกจากนั้นในชั้นหนังแท้ยังมีเส้นเลือด,กล้ามเนื้อ, เส้นประสาทและปุ่มประสาทพิเศษที่รับ
ความรู้สึกต่างๆ เช่น รับความรู้สึกสัมผัสความกดดัน ความร้อน ความเย็น เป็นต้น

เข้าประเด็น ทำไมถึงต้องรุ้เรื่อง ชั้นหนังแท้ (Dermis)

เพราะผมสุดทนกับเรื่องครีมที่ขายในเน็ต แล้วเรารูป before after หน้าหลุม กับไม่หลุม แล้วก็บอกว่า ครีม รักษา หลุมสิวได้

การรักษาหลุมสิว มีหลายวิธี แต่ที่นิยมกัน คือการ ยิง Frational  ดูจากรูป



เป็นการยิงคลื่นRF ผ่านชั้นผิวหนัง ผ่าน epicdermis ไปยัง dermis เพื่อให้คลื่นความร้อนกระตุ้น การสร้างคลอลาเจนและอีลาสตินให้ชั้นหนังแท้ พอคลอลาเจนถูกสร้าง การสร้างเนื้อยื่นเล็กก้จะเกิดขึ้น ทำให้ผิวฟูและเต็มบริเวณที่เป็นหลุมสิว

เดี๋ยวจะอธิบายลึกๆลงไปอีก ในเรื่องของ เลเซอร์ ฉะนั้น ครีมไม่สามารถรักษาหลุมสิวได้ ต่อให้ครีม ผสม hyaluronic acid เพราะด้วยโมเลกุลของ hyaluronic acid ไม่สามารถซึมผ่านชั้นผิวหนังได้หมด

จึงอยากจะบอกว่า เป็นหลุมสิว ให้ไปหาหมอ เลิกซื้อครีมในเน็ตมาทา

logic ง่าย ครีมกระปุกละไม่กี่บาท ถ้าผลการรักษา มันดีกว่าเลเซอร์เครื่องละ 2-3ล้าน เขาคงไม่ผลิตเครื่องมาขายหรอกครับ

frankywawah

ต่อมาชั้นสุดท้าย ชั้นที่ 3 ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutis)  ชอบรูปนี้เข้าใจง่ายดี เหมือนหมู 3 ชั้นอ่าา



เป็นส่วนล่างสุดของโครงสร้างผิวหนัง เป็นชั้นที่ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ช่วยรักษาแรงกระแทกและสะสมพลังงาน ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยไขมันและไฟเบอร์ซึ่งมีหน้าที่ในการปกป้องอวัยวะที่อยู่ลึกลงไป ช่วยทำให้ผิวหนาและนุ่ม ทำหน้าที่คล้ายผ้าห่มที่คอยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดังจะพบได้ว่า คนอ้วนซึ่งมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังหนากว่าคนผอมจะขี้ร้อนและรู้สึกอบอุ่นกว่าคนผอมเมื่อฤดูหนาวมาถึง

เมื่ออายุมากขึ้นเซลล์ไขมันในชั้นใต้ผิวหน้งจะมีน้อยลง ส่งผลให้ผิวบางลง ไม่ยืดหยุ่นเหมือนก่อน และเริ่มมีริ้วรอยมากขึ้น หากสังเกตุให้ดีเราจะพบว่าผู้มีน้ำหนักมากหรือ ค่อนข้างเจ้าเนื้อจะไม่ค่อยประสบปัญหานี้สักเท่าไร เนื่องจากมีเซลล์ไขมันที่ช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นตัวได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม ชั้นไขมันดังกล่าวจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เกิดการหย่อนคล้อย และเกิดเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่นในที่สุด


จะอ้วนจะผอมอยู่ระบบการเผาผลาญ metabolism ของแต่ละคน การกินอาหาร ขึ้นอยู่กับชีวิตประจำวันของแต่ละคน

แล้ว ผงบุกกวางแดง แผงละร้อยกว่า บาท มันทำให้ผอมจริงหรอ ?

ส่วนตัวคิดว่า พอกินเข้าไปแล้ว ผงบุกมันจะขยายตัวในกระเพาะอาหาร ทำให้เราอิ่ม ไม่กินข้าว

แต่การไม่กินข้าวเท่ากับ ไม่รับสารอาหารต่างๆ ซึ่งร่างกายจะเอาจะไรไปใช้ ขาดทั้ง วิตามินเกลือแร่ ใยอาหาร

เห็นขายกันเต็ม facebook พวก ผงบุกกวางแดง  เพื่อนๆพี่น้องผม หลายคนซื้อมากิน พอกินเข้าไปก็เวียนหัว เหมือนจะอาเจียน

อย่ากินเลยครับ สู้ กินข้าว แต่ลดแป้ง งดมื้อเย้น งดของหวาน กินผักเยอะๆ ออกกำลังกาย มันจะดีกว่าในระยะยาวนะจ๊ะ




ถัดจาก ชั้นไขมัน ก็จะเป็น ชั้นกล้ามขึ้น ถัดมาอีกก็จะเป็นกระดูกและ

ทีนี้พอเข้าใจผิวหนังของเราแล้วใช่ไหมครับ ว่ามันมีกี่ชั้น

ต่อไป เป็นเรื่องของสีผิว ซึ่งแน่นนอนแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติ สีผิวไม่เหมือนกัน

ขอตัวไปทานข้าวก่อนนะครับ หม่ำๆ

frankywawah

กลัวจำหน้ากันไม่ได้ เอารูปลงนิดนึง




ใช้กล้องหน้า มือถือ  ไม่ใช้ 360 ไม่แต่งรูป นะครับ

ผมเป็นคนหน้าตาธรรมดา บ้านๆ

แค่ถ้าเที่ยบกับเมื่อก่อน  แค่นี้ก็บุญโขแล้วครับ

frankywawah

ไม่คิดเหมือนกัน ว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้



หลายคนชอบถามว่าหมดไปกี่บาท

เอาตรงๆก็นับไม่ได้ครับ แต่สมัยเรียนผมจนจะตาย แต่ผมเก็บเงินเก่ง

ผมค่อยๆทำ จากวัน เป็นเดือน จากเดือน เป็นปี

หลายปี ทำๆ หยุดๆ มีตังก็ทำ ไม่มีก็ไม่ทำ

ทุกวันนี้ก็ยังดุแลตัวเองอยู่ แต่ตอนนี้ทำงานหาเงินเองได้แล้ว

เอาง่ายๆ ทุกวันนี้ปีนึง ต้องมี

allargan ปีละ 1 ขวด filler 3-4 cc ต่อปี  meso fat อีก 8 ครั้ง ต่อปี

ไม่นับเลเซอร์ อีกไม่รู้เท่าไร




มันคงซึมเข้าสายเลือดไปแล้ว ผมก็เหมือนดอกไม้ ต้องรอยรดน้ำ ถ้าไม่รดน้ำ มันก็จะเหยี่ยว ร่วงโรยตามกาลเวลา

frankywawah

ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้นะครับ  ผมจะพยายามมาเขียนบ่อยๆนะครับ

ผมไม่แน่นใจว่าเรื่องที่ผมเขียนไปมันจะดู วิชาการ ไปหรือป่าว ความตั้งใจของผมคือ อยากให้ทุกคนที่มาอ่านมีความรู้ จะได้เข้าใจเวลาเลือก

ของใช้ หรือจะทำหน้า จะได้พอรู้บ้าง ว่าอะไร มันทำงานยังไง ไม่ใช่ ใครบอกว่าดีก็ทำตาม มันอาจจะดีสำหรับเขา แต่มันดีสำหรับเราหรือป่าว

พอดีวันนี้ไปมีโอกาศไปพบคุณหมอท่านนึง เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอยู่เกี่ยวกับเรื่องของ

การทำจมูก  คุณหมอเล่าให้ฟังว่า  



มีคนไข้มาให้คุณหมอทำจมูกรายนึง  ทำเสร็จก็ปกติ  แต่พอทำไปสักพัก สัก1เดือน จมูกเริ่มแดงและใส  

ผมขอถามเพื่อนๆว่า เพื่อนๆจะคิดยังไง  ระหว่าง

1. หมอทำไม่ดีป่าว ติดเชื้อหรือป่าว ไม่สะอาดป่าว

2.คนไข้ไปทำอะไรมาป่าว ทำเสร็จไม่ดูแลตัวเองป่าว กินเหล้าป่าว

3.คนไข้ แพ้ซิลิโคนป่าว


เมื่อก่อน ผมจะตอบข้อ1 ก่อน คือโทษหมอก่อน บอกว่าหมอชุ่ยบ้างละ หมอทำพลาดบ้างละ

แต่หมอบอกให้ฟังว่า กรณีแบบนี้หมอเจอมาไม่ต่ำกว่า 500 เคสแล้ว

เจอตั้งแต่สมัยเรียนกับอาจารย์หมอ ต่อให้หมอดังแค่ไหน ก็อาจจะเจอแบบนี้ได้ เพราะ

คนไข้แพ้ซิลิโคน หมอบอกว่า คนเรามันแพ้ได้ทุกอย่าง ขนาดภูมิคุ้มกันตัวเอง ยังแพ้ได้เลย

มันก็มีโอกาศที่เวลามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอยู่ในร่างกาย แล้วร่างกายเกิดการต่อต้าน

ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้ ปกติ หมอจะรับผิดชอบอยู่แล้ว โดยการถอดซิลิโคนออกก่อน แล้วอีกสัก3เดือนค่อยมาใส่ใหม่

อันนี้ถือเป็นเรื่องปกติ   แต่เคสนี้ไม่ปกติ




หมอเล่าให้ฟังต่อ ว่า พอลูกค้าเป็นแบบนี้ คุณหมอก็โทรไปตามบอกว่าให้รีบมาหาจะเอาซิลิโคนออกให้ แล้วพอหายจะใส่ให้ใหม่ ไม่คิด

ค่าใช้จ่าย  แต่คนไข้คนนี้  ก็ผลัดไปเรื่อยๆ ยุ่งบ้างละ ติดงานบ้างละ เป็นเดือนๆ จนสุดท้าย ซิลิโคนโผ่ลออกมา และเป็นหนอง

ซึ่งหมอหนักใจมาก เพราะตอนเอาออกแล้ว ปลายจมูกมันเป็น สีดำ เหมือน ซ้ำๆ พอดีตอนผมรอเจอหมอ ก็เห็นคนไข้คนนี้พอดี  พอคนไข้

กลับผมจึงถามว่า คนไข้เป็นอะไร  


รู้ไหมครับว่าการปล่อยให้บริเวณชั้นผิวหนังเป็นหนอง มันไม่ดียังไง

เอาง่ายๆ สิวที่มีหนอง  คือถ้าเป็นสิวหนองแล้วปล่อยไว้  หนองมันก็จะกินพวก เลือดจากเส้นเลือดฝอยเป็นอาหาร และก็จะค่อยๆกินเนื้อ

เยื่อทีละนิดๆๆๆๆ   จนบริเวณนั้นเกิดเป็นหลุม

frankywawah

นี่แค่สิวเม็ดเล็กๆนะครับ   แล้วถ้าเป็นบริเวณกว้างๆ  เช่น จมูก คาง

การที่ปล่อยให้หนองเกิดบริเวณ จมูก นั้น  หนองมันจะกินพวกเนื้อเยื่อ ทำให้เนื้อตรงบริเวณนั้น บางลง  พอบางลง เวลาใส่ซิลิโคนใหม่ ก็

ต้องใส่ให้สั้นกว่าเหมือน เผื่อความปลอดภัย แต่ทุกคนก็อยากจะให้จมูกยาว แลดูมีหยดน้ำ  แต่ถ้าเนื้อบางแล้ว แต่ใส่ยาว  มันก็อาจจะทะลุได้

ทุกเมื่อ เหมือนรูปข้างบนที่ผมเอาให้ดู มันแดงจะทะลุอยู่แล้ว  ส่วนหมอจะใส่ซิลิโคน  ยาว หรือ สั้น ก่อนทำนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับ โครงจมูกเดิม

ของเรา ถ้าจมูกเดิม ยาว เนื้อเยอะ ทำออกมายังไงก็สวย  แต่ถ้าจมูกสั้น แถมเนื้อน้อย  หมอก็จะพยายามทำให้ได้ออกมาดูดีที่สุด

จะโทษว่าหมอทำไม่โด่ง ไม่ดี ซะทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่โครงเดิมของเรา  บางคนแก้ 6-7 รอบ มันก็ไม่ต่างจากเดิมมากหรอกครับ

เพราะ มันอยู่ที่โครงเดิม จะเอารูปดาราไปให้หมอ แล้วบอกหมอ ให้ทำแบบในรูป หมอก็คงทำไม่ได้หรอกครับ



หมอบางคนเห็นคนไข้เอารูปดารามา จะเอาแบบนี้ๆ หมอก็ไม่ทำให้เลยนะครับ คือ หมอก็ตอบแบบตรงๆว่าทำไม่ได้  

ผมจะยกตัวอย่างให้ดู  ผมไม่มีเจนตนาจะล้อเลียนพี่เป้นะครับ  แต่รูปนี้มันเห็นภาพสุดๆ




ตอนแรกเห็นนึกว่าเป็นพี่เป้ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่  ผมถามว่า

พี่วินัย กับพี่เป้ มีโครงหน้า คล้ายกันไหม   แน่นนอนครับ 2 คนนี้มีโครงหน้าคล้ายๆกัน

ถามต่อว่า ถ้าพี่วินัย ทำศัลยกรรม  จะเหมือนกันเลยไหม   คงจะไม่เหมือนกันสะทีเดียว  แต่คงคล้ายๆกันมาก

ถ้าพี่วินัยทำเสร็จ คิดว่า จะแยกได้ไหมว่าคนไหน พี่เป้ คนไหน พี่วินัย    ก็คงแยกได้ แต่ถ้าทำผมแต่งตัวเหมือนกัน  ก็อาจจะดูยากหน่อย

แต่ก็ยังแยกได้

เห็นไหมครับ  ขนาดโครงหน้าคล้ายๆกัน ถ้าทำออกมาก็ยังไม่เหมือนกัน  แล้วเราละ มีส่วนไหนคล้ายกับรูปดาราที่เอาไปให้หมอทำไหม

ถ้าอยากทำศัลยกรรมเหมือน ณเดช ญาญ่า หรือดาราคนอื่นๆ  มองดูที่ตัวเราก่อนครับ ว่ามีส่วนไหนคล้ายเขาไหม  ถ้ามี มันก็มีโอกาศที่

ส่วนนั้นจะคล้ายเขา เช่น ตา จมูก ปาก  แต่ถ้าโครงหน้า มาเรื่องกระดูก คงแก้กันยาก   

แต่ถ้าถามว่า เราทำแล้วจะดูดีขึ้นไหม  ผมตอบว่า ดีขึ้นครับ เพราะเราต้องรู้จุดด้อย และแก้ไขให้ถูกต้อง

frankywawah

แล้วผมขอถามต่อว่า   มนุษย์เราเอาอะไรมาวัด ว่าคนไหน หน้าตาดี คนไหนหน้าตาไม่ดี

เพราะแต่ละคนหน้าตาไม่เหมือนกัน  เอาคนหน้าตาดี10มาอยู่ด้วยกัน ทำไม10คนนี้ถึงดูดี

ผมเชื่ออย่างนึงว่า คนทุกคนบนโลกนี้มีเสน่ห์ทุกคน  ย้ำนะครับ ว่าทุกคน แต่แค่ว่าเสน่ห์ของเรามันจะโดนใจ คนที่เราชอบหรือป่าว

แล้วเสน่ห์ ที่ว่า คืออะไร สารที่คลั่งออกมาจากต่อมข้างหลังใบหูที่เรา เรียกกันว่า ฟีโรโมน Pheromone หรือป่าว

หรือเสน่ห์ของเราจะออกมาจาก คำพูด เพราะ วาทะดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

แต่ผมเชื่ออย่างแรงกล้าว่า  ก่อนที่ กลิ่นฟิโรโมนจะเข้าไปทางจมูกของคนที่เราขอบ หรือ ก่อนที่เราจะอ้าปากคุยกับเขา  สิ่งแรกที่ สัมผัสก่อน

คือการมองเห็น มันอาจจะแปลได้ว่า เสน่ห์ อย่างแรกที่สัมผัสได้คือ หน้าตา  ลองลงมาคือ การพูดจา นิสัยใจคอ

แล้วเราเอาอะไรมาวัด  ว่า จมูกโด่ง ดีกว่า จมูกบี้  ปากกระจับดีกว่าปากเรียบ  ตา2ชั้น ดีกว่า ตาชั้นเดียว  หน้ายาว ดีกว่า หน้าสั้น  ทำไมต้อง

ไปสักคิ้ว 3 มิติ ทำให้คิ้วมันเข้ม ทำไมเราอยากผิวขาวมากกว่าผิวคล้ำ  เอาอะไรมาวัดกว่า ไม่มีสิว ดีกว่า มีสิว

เพราะอะไรรู้ไหมครับ  มันมี pattern ที่ฝังอยู่ในสมองของเรา เมื่อเราเห็น pattern นี้ มันจะกระตุ้นความรู้สึกทันที

แสดงว่า หน้าตาดีมันมี pattern ของมัน  ทำไมคนไทยอยากหน้าเกาหลี แสดงว่า เกาหลีเป็น pattern




ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่อยาก ดูดี ดูสวย หุ่นดี ขาเล็ก เหมือน girl gen แสดงว่า girl gen คือ pattern


แสดงว่าหน้าตาดีมันต้องมี blog ของมัน แสดงว่า มัน สามารถทำได้ คำนวนได้  ว่าจมูกโด่งเท่านี้ถึงดุดี ชั้นตากี่มิลลิเมตรถึงดูดี  


ธรรมชาติ โครงสร้างทางพันธุกรรม DNA เป็นสิ่งที่สร้างเรามา  เราจะไปปรับขนาดของกระโหลกให้ออกมา ทุกด้านทุกมุม เท่ากับ

ที่เราคำนวนออกมาไม่ได้   

บางคนผิวคล้ำก็สวย บางคนเป็นหมวยก็น่ารัก  แสดงว่า pattern มันไม่ตายตัว  มันมีอยู่ แต่มันไม่ตายตัว


สำหรับผมแล้ว ศาสาตร์ด้านการทำศัลยกรรมเป็นมันอะไรที่ลึกซึ้งมากๆ

ผมไม่ใช่หมอนะ  แต่ผมพูดออกมาในแง่ของคนทำ คนที่หน้าตาไม่ดีแล้วอยากดูดี

มันต้องพึ่งทั้งดวง ฝีมือหมอ กำลังทรัพย์ ผสมกับ  โครงสร้างทางพันธุกรรมเดิมที่ธรรมชาติสร้างมา และนวัฒตกรรมต่างๆ

และความโชคดี กว่าจะเป็นผมคนปัจจุบันได้  ผมไม่ได้ดูดีนะ แต่ผมภูมิใจมาก ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำได้

วันนี้ออกนอกทะเลมากๆ แต่แค่อยากให้เพื่อนๆรู้ว่าผมคิดยังไงกับเรื่องศัลยกรรม

ถ้าวันนึงผมไม่มีอะไรจะเขียนแล้ว  ถ้าสำนักพิมพ์ไหนอยากไปทำเป็นหนังสือบอกนะครับ  เพราะเล่มมันคงหนาหน้าดู

frankywawah

สวัดดีครับ เพื่อนๆชาวดั่งโด่ง ผมหายไปอีกเดือนกว่าๆ แล้วก็กลับมาแล้วครับ

วันนี้ผมอยากจะแจ้งว่า ผมจะไปเขียนใน bloggang แทนนะครับ เนื่องจาก ในกระทู้ เนื้อหาจะไม่เรียงตาหมวดหมู่ บวกกับ มันปา34 หน้า

แล้ว กระทู้ันอาจจะรกๆไปบ้าง ผมจึงขอย้ายไปเขีนที่ bloggang แทนนะครับ ยัไงรบกวนติดตามได้ที่

frankywawah.blogbang.com

ผมจะเขียนใหม่หมดเลยนะครับ เพื่อความสะดวกในการอ่านและจัดประเภทตาหมวดหมู่ต่างๆ  จริงๆผมมีเรื่องที่จะเขียนอีกเยอะมาก แต่ที่นี่

เป็นเว็บบอรด์ ศัลยกรรม บางเรื่องอาจะไม่เกี่ยวข้อง จึงอนุญาติย้ายนะครับ

สามารถติดต่อผมได้ทุกช่องทางนะครับ ไม่ว่าจะใน facebook,social cam,instagram,รวมถึงเว็บนี้ด้วย ผมยังเข้ามาอ่านเรื่อยๆครับ



นี่คือรูปปัจจุบันของผมนะครับ


สุดท้ายอยากจะฝาก ถ้าอยากดูดีผมยากจะแนะนำให้เลิกใช้ครีมหรือผลิตภันท์ ที่ขายในโลก social หรือของที่คนหน้าตาดีใช้  ส่วนใหญ่

ครีม พวกนี้เขาจะจ้างดารามาถือ เอาคนหน้าตาดีมาถือ ผลิตขึ้นมาเพื่อหาตัวแทนจำหน่าย และให้ตัวแทนจำหน่ายเอาไปขายอีกที

คนส่วนใหญ่ก็จะคิดไปเองว่า ถ้าใช้แล้วเราจะหน้าตาเราจะดีขึ้น ซึ่งจริงๆมันช่วยได้

ระดับนึง หรือบางคนก็แพ้หน้าพังกันไปเลย  ขนาดnet idol ที่เป็น presenter ให้ครืมหลายๆตัว หน้ายังแพ้ เป็นสิวเลย

อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น มันไม่ได้เป็นเหมือนที่พวกคุณเห็นเสมอไป  ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีทุกยี่ห้อ แต่อยากให้ระวัง พวกครีมรักษาหลุมสิว

มันไม่มีอยู่จริงๆนะครับ ณตอนที่ผมเขียน แต่อนาคตอาจจะมีนวัฒตกรรมใหม่มา แต่ตอนนี้ยังไม่มี ผมอธิบายเรื่องชั้นผิวหนังไปแล้ว


อยากดูดี ไปทำศัลยกรรม เก็บเงินไปหาหมอ รักษาสิว ยิงเลเซอร์ เติม botox filler  และบอกได้เลยว่ากว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นได้

ผมยังต้องใช้กำลังทรัพย์ในระดับนึง

ฉะนั้นครีมหรือของอื่นๆ  มันเปลี่ยนคุณได้ไม่เยอะหรอกครับ  ผมกล้าพูดตรงๆ เพราะไม่แคร์คนที่ด่าผม

ผมพูดเรื่องจริงและผมก็หวังดีกับเพื่อนๆในดั่งโด่ง  


ขอให้ทุกคนดูดี หล่อสวย สมใจกันทุกคน  อยากทราบอะไรถามผมมานะครับ ผมยังกลับมาตอบอยู่

frankywawah

สวัดดีครับ

frankywawah

สวัดดีครับ ใครอยากจะสอบถามพูดคุยกับผมติดต่อได้ที่
www.facebook.com/frankywawah

ขอบคุณครับ