ดู: 3045|ตอบกลับ: 16
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ขอเบรคค่านิยม ความขาวครับ

[คัดลอกลิงก์]
1#
โพสต์ 2011-4-26 07:03:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอแค่ไม่มีสิวก้อใจแล้วอ่ะ หน้าใสหน้าเนียนหรอ ทำยากอยู่นะคะเนี่ยยยย 555

แสดงความคิดเห็น

ช่ายครับ ทำยาก แต่ทำได้แล้วน่ามองครับ  โพสต์ 2011-4-26 11:31
2#
โพสต์ 2011-4-26 12:17:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เคยเห็นกระทู้ที่เค้าซื้อจากเว็บมาฉีดเอง เราอ่านก้อกลัวแทนเลยอ่ะ
แต่ว่าบางคนเค้าอยากขาวไงเค้าคงไม่กลัว กล้าหาญจิงๆผู้หญิงเรา
3#
โพสต์ 2011-4-27 08:54:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
มาอ่านกันค่ะ วาทกรรมผิวขาว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/pirongrong_r/20110426/388070/%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%82%E0%B8%86%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.html
4#
โพสต์ 2011-4-27 08:55:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
บทความนี้เขียนขึ้นจากอารมณ์ที่ถูกกระตุกโดยสองเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย

เหตุการณ์แรก คือ คำถาม (แบบต้องการย้ำให้แน่ใจ) ของลูกสาววัยเพิ่งจบอนุบาลที่ว่า “เป็นผู้หญิงต้องขาวถึงจะสวยไม่ใช่หรือคะ” กับ การรายงานของนิสิตปริญญาโทซึ่งหยิบเอาการโฆษณาของเครื่องดื่ม (ที่กล่าวอ้างว่า) บำรุงความขาวยี่ห้อหนึ่งซึ่งนำเสนอในพื้นที่รถไฟฟ้าบีทีเอส ทั้งในตัวขบวนรถและพื้นที่ของรถไฟฟ้าว่า “สำรองที่นั่งสำหรับ...คนขาว” กับผลสะท้อนที่ตามมามาเป็นกรณีศึกษา


ในกรณีแรก หากดูเผินๆ ก็คงสรุปได้ง่ายๆ ว่า เด็กวัยหกขวบคนหนึ่งดูทีวีมากเกินไป เลยซึมซับเอาทรรศนะความงามตามแบบของโฆษณาผลิตภัณฑ์ประเภทไวท์เทนนิ่ง (ทำให้ผิวขาวขึ้น) มา แต่ถ้าวิเคราะห์ดีๆ คำพูดไร้เดียงสานี้ไม่เพียงสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างสีผิวกับความงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ของสีผิวกับเพศสภาพโดยเฉพาะเพศหญิงด้วย


แต่ไหนแต่ไรมา เรามักได้ยินคำกล่าวในสังคมไทยว่า เป็นผู้ชายผิวคล้ำไม่เป็นไร กลับดูแมนดีเสียอีก แต่กลับไม่เคยได้ยินว่า ผู้หญิงผิวคล้ำคือสวย อย่างดีก็ ดำขำ ผิวสีน้ำผึ้ง อะไรประมาณนี้เป็นทำนองปลอบใจมากกว่า แต่ตอนนี้อิทธิพลของวัฒนธรรมไวท์เทนนิ่งก็ขยายไปถึงเพศชายเรียบร้อยแล้ว ดังจะเห็นจากโฆษณาผลิตภัณฑ์บำรุงความหล่อต่างๆ ที่เน้นความขาว กระจ่างใส ไร้ริ้วรอยเป็นสาระสำคัญ


เรื่องของสีผิวในสังคมไทยไม่เพียงผูกพันอย่างแนบแน่นกับความคิดเรื่องความงาม ทว่ายังเป็นตัวบ่งชี้ชนชั้น และความสามารถในการข้ามชนชั้นของคนได้ด้วย โดยภาพรวม คนผิวขาวมักจะมีต้นทุนทางสังคมดีกว่าคนผิวคล้ำ คิดง่ายๆ ว่า คนสองคนที่มาจากชนชั้นล่างเหมือนกัน หน้าตา บุคลิกลักษณะ และความรู้พอๆ กัน แต่สีผิวต่างกันอย่างชัดเจน มีความเป็นไปได้ที่สูงที่คนที่ผิวขาวกว่าจะได้รับการหยิบยื่นโอกาสทางสังคมให้มากกว่า โดยเฉพาะผู้หญิง


อันที่จริง การให้ความสำคัญหรือให้คุณค่ากับผิวขาว หรือผิวสีอ่อนกว่าเป็นวาทกรรม (ชุดความคิดและการรับรู้ความจริงที่สร้างอำนาจให้คนกลุ่มหนึ่งและทอนอำนาจคนอีกกลุ่มหนึ่ง) ที่แพร่หลายอยู่ทั่วโลกโดยสามารถสืบสาวรากเหง้าที่มาไปถึง ลัทธิล่าอาณานิคม และโลกาภิวัตน์ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่ในโลกตะวันตกอันเป็นดินแดนแห่งคนผิวขาว ในบางบริบท วาทกรรมสีผิวนี้ก็ถูกยกระดับหรือทวีความเข้มข้นจนเป็นอุดมการณ์เหยียดสีผิว อย่างในกรณีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างสีผิวยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังจนถึงปัจจุบัน


นักวิชาการหลายคนโดยเฉพาะในกลุ่มสื่อและวัฒนธรรมศึกษามักวางตำแหน่งของวาทกรรมผิวขาวว่าเป็นปฏิบัติการเพื่อครองความเป็นเจ้า (hegemony) และครอบงำสังคม  ในสังคมของประเทศกำลังพัฒนาที่คนท้องถิ่นไม่ใช่คนผิวขาวโดยกำเนิด อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวพรรณ ตลอดจนผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และอาหารเสริมบางประเภท ก็มักจะตอกย้ำความจำเป็นที่จะต้องทำผิวให้ขาวขึ้น เพื่อเข้าใกล้อุดมคติแห่งความงาม คือ ความขาว โดยพยายามแสดงผลลัพธ์ที่เห็นได้ด้วยตาถึงความแตกต่างของสีผิวก่อนและหลังการใช้ผลิตภัณฑ์  แรกๆ จะมีเพียงผู้หญิงที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย แต่ในช่วงประมาณสิบปีที่ผ่านมา ก็จะขยายกลุ่มไปถึงผู้ชาย สิ่งที่เหมือนกันระหว่างโฆษณาผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งของทั้งหญิงและชายก็คือการใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เป็นดารานักแสดงซึ่งเป็นทีรู้จักและมีผิวขาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคุณแอฟ ทักษอร คุณพลอย เฌอมาลย์  คุณเคน ธีรเดช  หรือคุณโดม ปกรณ์ ลัม  ยังไม่เคยเห็นโฆษณาไวท์เทนนิ่งชิ้นใด อาจหาญเอาดาราผิวเข้มที่โด่งดังไม่แพ้กันอย่าง คุณป๋อ ณัฐวุฒิ หรือ คุณเบนซ์ พรชิตา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เลย เห็นคุณสองคนนี้ได้โฆษณาก็แต่รถกระบะกับยาสีฟัน ซึ่งในกรณีรถกระบะอาจจะดูว่าคุณป๋อซึ่งหล่อแบบคล้ำเข้มเหมาะสมกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่มีวิถีชีวิตที่โลดโผน สมบุกสมบัน และ ตจว. ขณะที่คุณเบ็นซ์ก็มีฟันขาวสวยตัดกับผิวสีเข้มบาดตา


5#
โพสต์ 2011-4-27 08:56:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Lafinta เมื่อ 2011-4-27 08:57

อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมโฆษณาก็ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งของการพยายามครอบงำสังคมเมืองด้วยวาทกรรมผิวขาว เมื่อผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ดังชื่อญี่ปุ่นแต่จริงๆ แล้วสัญชาติไทยลุกขึ้นมาเจาะกลุ่มตลาดผู้บริโภคคนเมืองที่เป็นผู้ใช้รถไฟฟ้าบีทีเอส จากการโฆษณาเครื่องดื่มเสริมผิวขาวด้วยการติดป้ายด้านนอกของตู้ขบวนรถว่า “ขาวอมชมพูขึ้นตู้นี้” ติดป้ายในหลายๆ จุดของตัวรถว่า “ที่ตรงนี้ ขาวอมชมพู” จนถึงป้ายพร้อมลูกศรเหนือที่นั่งในบางจุดว่า “สำรองที่นั่งสำหรับ...คนขาว”


สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นตามมาโดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่เป็นพื้นที่สาธารณะของคนรุ่นใหม่ สาระของการโฆษณาดังกล่าวถูกนำไปตั้งเป็นกระทู้ “สลดใจ--วรรณะในสังคมไทย...การเหยียดสีผิวที่น่าอดสู...BTS” โดยสมาชิกห้องโต๊ะเครื่องแป้ง เว็บบอร์ดพันธุ์ทิพย์ เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2554  และได้รับการตอบรับด้วยการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางและเผ็ดร้อนในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งก็ขยายไปถึงกระแสการต่อต้านโฆษณาชุดนี้ตลอดจนโฆษณาชิ้นอื่นๆ ของผลิตภัณฑ์เดียวกัน รวมไปถึงการต่อต้านการบริโภคสินค้าในแบรนด์เดียวกัน โดยการต่อต้านดังกล่าวได้ขยายตัวไปถึงห้องเฉลิมไทยในเว็บเดียวกัน ก่อนจะขยายออกไปถึงสื่อใหม่อื่นๆ เช่น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ เว็บบล็อกเอ็กซ์ทีน (www.exteen.blog) บล็อกแก๊ง (Bloggang.com) เว็บไซต์ของนิตยสารฟิวส์ (Fuse Magazine) จนเป็นเหตุให้บริษัทต้องออกมาขอโทษผู้บริโภค และแสดงความรับผิดชอบด้วยการถอดชุดโฆษณาดังกล่าวออกจากพื้นที่รถไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นและยุติลงภายในเวลา 3 วัน หลังจากการตั้งกระทู้เปิดประเด็นบนเว็บบอร์ด โดยนิตยสาร Positioning ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการตลาด ได้หยิบยกกรณีนี้เป็นกรณีศึกษาในเรื่องการทำตลาดอีกด้วย


โดยปกติ โฆษณามักผลิตซ้ำวาทกรรมซึ่งมีอิทธิพลหรือที่เป็นที่นิยมในสังคม ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ผู้ผลิตโฆษณาอาจมั่นใจว่า วาทกรรมผิวขาวได้กลายเป็นวาทกรรมหลักของสังคมไทยโดยเฉพาะสังคมเมืองไปแล้ว จึงกล้าที่จะนำเสนอสารของการโฆษณาในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่อย่างรถไฟฟ้าบีทีเอส  แต่อาจไม่ได้คาดคิดว่า จะเกิดการถอดรหัสสารในลักษณะตรงกันข้าม และการกระจายอย่างกว้างขวางและรวดเร็วของวาทกรรมที่ขึ้นมาคัดค้านและต่อกรด้วย อย่างวาทกรรมสีผิวกับชนชั้นในพื้นที่ของสื่อใหม่อย่างเว็บบอร์ด  เว็บเครือข่ายทางสังคมบล็อก และ ไมโครบล็อก ที่ให้อำนาจประชาชนในฐานะผู้ผลิตเนื้อหามากกว่าจะเป็นผู้รับสารเฉยๆ


แม้การวิพากษ์สื่อโฆษณาดังกล่าว ซึ่งภายหลังได้ขยายตัวเป็นกระแสต่อต้านการบริโภค จะไม่ได้ปรากฏให้เห็นในสื่อกระแสหลัก แต่การที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ต้องออกมาแก้ไขปัญหาและควบคุมความเสียหายด้วยการทำให้ป้ายโฆษณาอันตรธานไปหมดราวกับไม่เคยมีมาก่อน ก็น่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ดีว่า พลังของผู้ใช้สื่อใหม่นั้น “แรง” พอที่จะคัดง้างกับอุดมการณ์ที่มีอิทธิพลในสังคมอย่างวาทกรรมผิวขาวได้


เช่นนี้แล้ว ผู้เขียนก็เลยสามารถตอบคำถามลูกสาวหลังจากอึ้งไปครู่หนึ่งได้ว่า “ไม่ใช่หรอกค่ะ ผิวขาวหรือคล้ำก็สวยได้ทั้งนั้นค่ะ”

Tags : พิรงรอง รามสูต รณะนันทน์


6#
โพสต์ 2011-4-27 09:47:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
http://www.dungdong.com/forum.php?mod=viewthread&tid=24967
อันนี้ก็คือข้อควรระวังของการฉีดกลูต้าค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้