เจ้าของ: cmlady
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมหน้าอก] ประสบการณ์อัพสวยแพคเกจคุณแม่ เสริมหน้าอก ตัดไขมันหน้าท้อง เสริมจมูก กับคุณหมอธนย

[คัดลอกลิงก์]
ยกให้เป็นกระทู้ยอดเยี่ยมประปี สำหรับเราเลยค่ะ มีประโยชน์มากๆ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณมากค่ะ ดีใจค่ะ ที่เปนประโยชน์นะคะ  โพสต์ 2011-1-28 23:26
เห็นด้วยอีกคนค่ะ  โพสต์ 2011-1-28 19:03
เห็นด้วยค่ะ  โพสต์ 2011-1-28 16:52
102#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-28 23:23:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ sarah3851 ตั้งกระทู้

สวัสดีค่าาาา  คือ ไปร่าเริง เริงร่า ซะเยอะ ฮา ฮา ลืมไปเลย เดี๋ยวจะอัพเดทรูปแผลหลังผ่าตัดเกือบสองอาทิตย์นะคะ ตอนนี้ แผลที่หน้าอก ก็เปนสะเก็ดแห้งๆ ค่ะ ไม่น่ากังวลอะไรมาก
ส่วน ตรงหน้าท้องเนี้ย ถ้าเราใจอ่อน ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ก็อาจจะพาลกังวลได้นะคะ
สำหรับทราย ก็กำลังใจดีค่ะ บอกตรงๆ ว่า รู้สึกแฮปปี้มากมากกับ การศัลยกรรมครั้งนี้นะคะ
เพราะรอยแผลไม่เยอะ เปนแค่รอยกรีด ไม่ได้เปนรอยตีนตะขาบหรืออะไรน่ากลัวค่ะ
ตอนนี้ แผลก็เริ่มแห้งตกสะเก็ด ค่อยๆ ลอกออกบ้าง แผลข้างนอกเรียบร้อยดี แต่ข้างในเนี้ยต้องใช้เวลานิดหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังรัดสเตย์หน้าท้องไว้ตลอดเวลาค่ะ 24 ชม. เพราะจะช่วยในส่วนพยุงกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กลับเข้าที่น่ะค่ะ  คืออย่างนี้นะคะ ตามความเข้าใจ ตอนที่เราท้องเนี้ย กล้ามเนื้อตรงหน้าท้องจะห้อยย้อยหย่อนยาน  (ดังนั้นสังเกตว่า ทำไมคนมีลูกชอบปวดหลัง เพราะมันไม่สมดุลกันนี่เอง)
เคยอ่านของตปท.น่ะค่ะ  นอกจากตัดดึงไขมันหน้าท้อง จะช่วยในเรื่อง หน้าท้องแบนเรียบแล้วยังจะช่วย
ในเรื่องทำให้หายปวดหลังด้วยแน่ะ ไม่รู้จะอธิบายศัพท์เทคนิคยังไง เอาเปนว่า ถ้าใครมาอ่าน ก็ให้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกับสอบถามหรือปรึกษากับคุณหมอที่จะทำศัลยกรรรมด้วยน่ะค่ะ เพราะคุณหมอน่าจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่า  นอกเรื่องไปเยอะเลย ฮา ฮา  ตอบคำถามต่อ  
ตอนนี้ ในส่วนของหน้าท้องเนี้ย  การที่ตัดหนังไขมันหน้าท้องแล้วดึงหน้าท้องเนี้ย ก็คือเปนช่วงที่ความรู้สึกของหน้าท้องจะกลับคืนมาน่ะค่ะ บางก็ตึงๆ ชาๆ แต่ถ้าไม่มีอาการบวมแดงหรืออักเสบ นั่นเปนธรรมดาของร่างกายเราที่ปรับสภาพน่ะค่ะ  ทรายเองก็ผ่าตัดแต่แรกเนี้ย ช่วงหน้าท้องเหนือสะดือก็รู้สึกค่ะ ใต้สะดือก็จะตึง ๆ รู้สึกแต่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะผ่านไปแค่สองอาทิตย์เองเนอะ ต้องให้เวลาปรับตัวอย่างช้าสุด ก็คือภายในหกเดือนค่ะ  บางวันเดินเยอะ ใช้กล้ามเนื้อท้องเยอะ ก็จะรู้สึกตึงๆ รัดๆ ตรงหน้าท้อง เหมือนขมวดเกลียว แต่ไม่เจ็บนะคะ (คิดว่ากล้ามเนื้อกำลังฟื้นตัวค่ะ เพราะนอกจากตัดดึงหน้าท้องแล้ว คุณหมอก็ต้องดึงกล้ามเนื้อเราด้วยให้กลับคืนสภาพสมบูรณ์ที่สุด คิดออกมั้ยคะว่า ตอนเราท้องมันยื่นออกมาน่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่า กล้ามเนื้อแต่ละคนเปนยังไงนะคะ อย่างของทราย ก่อนผ่าคุณหมอก็บอกว่า กล้ามเนื้อก็ถือว่าโอเคค่ะ ถามหมอดีกว่าเนอะ)  ไม่ต้องวิตกกังวลไปค่ะ
ส่วนเรื่องการติดต่อคุณหมอนะคะ ถ้าเปนคนไข้ของคุณหมอจะมีเบอร์ที่สามารถโทรติดต่อสอบถามคุณหมอได้โดยตรงเลยค่ะ ทุกอาการ ไม่ว่าปวดหัวตัวร้อน อันนี้เรื่องจริงนะคะ แม้แต่เจ็บตา แต่ก็ไม่รบกวนบ่อยค่ะ นอกจากจำเปนจริงๆ ของทรายนี่เอง หลังออกจาก รพ. ก็ ลั้ลล้าค่ะ จนคุณหมอต้องโทรมาถามอาการเอง ถ้าเราโอเค คุณหมอก็จะย้ำว่า มีอะไรโทรมาน่ะค่ะ ของทรายคุณหมอนัดตัดไหมเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ ก็ไม่มีอะไรน่าเปนห่วง แต่ถ้ามีอะไร ก็สามารถเข้าไปที่คลีนิคได้ตลอดเวลา หรือโทรหาคุณหมอได้เลยค่ะ
นี่ก็กะว่าจะไปหาคุณหมอวันสองวันนี้อะค่ะ คือเข้าไปหาเฉยๆ ให้เช็คดู ก่อนกลับ เชียงใหม่ แล้วคงจะกลับมาเช็คอีกที เดือน มีนา ก่อนบินกลับน่ะค่ะ (เพราะถ้าไม่มีอะไรนะคะ)
แล้วตัดสินใจ จะทำอะไรบ้างคะ อย่างทำหน้าอก จริงๆ แล้ว อาทิตย์เดียว ก็น่าจะสบายสบาย ค่ะ
จะผ่าทางปานนมหรือว่าทางรักแร้คะ เพราะถ้าทางปานนม ทรายเองผ่าสามอย่าง สามวันก็ลั้ลล้า
แต่ทางที่ดี ก็คือพยายามงอตัวไว้ก่อนนะคะ สองอาทิตย์ให้แผลสมานกันดีที่สุด ถ้าเกิดผ่าตัดไขมันหน้าท้องด้วยน่ะค่ะ อ๋อ แผลตรงสะดือ ตอนนี้ก็ค่อยๆ ตกสะเก็ดไปค่ะ  ที่สำคัญที่สุดนะคะ กำลังใจค่ะ
คิดในสิ่งดีดี แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นได้เองค่ะ ในเมื่อเราผ่าตัดปลอดภัยมาแล้ว คุณหมอทำให้ดีที่สุดแล้ว ที่เหลือตอนนี้ก็อยู่ที่ เราเองดูแลตัวเองน่ะค่ะ พร่ามมายาวเลยเนอะ แต่ยินดีนะคะ เพราะอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองให้เปนประโยชน์กับคนอื่นมากที่สุดน่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีด้วยนะคะ ที่สำคัญ มีอะไรสอบถามคุณหมอที่เราทำศัลยกรรมโดยตรงเวลาที่มีข้อข้องใจ เพราะคุณหมอท่านจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดค่ะ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณมากค่ะ หายไวไวน๊ะ  โพสต์ 2011-1-29 03:22
103#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-28 23:26:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ makiny_346 ตั้งกระทู้

คุณบี จะฟิตไปไหนคะ.. บอกตรงๆ ว่า ครบเครื่องแล้วค่ะ ถ้าทรายไม่พุงหย่อน ยื่น ย้อยห้อย
แล้วสามารถออกกำลังกายแบบพี่ปอนด์นะ ก็จะไม่ผ่าตัดหนังหน้าท้องค่ะ เพราะทุกอย่างมันต้องใช้เวลาอะเนอะ อันนี้เปนทางเลือกสุดท้าย สำหรับคนที่ไม่สามารถค่ะ ฮา ฮา ฮา
ความเจ็บเนี้ย มันหายได้ เพราะความฮึด ใช่ไหมคะ คุณบี ทรายเองก็เหมือนกันค่ะ
ศรีทนได้.. ค่ะ

104#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-28 23:35:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอนนี้ หน้าอก ก็อยู่ในระยะที่ยังไม่ถือว่า เข้าที่นะคะ เพราะอกซ้ายก็รอเวลาหายจากเลือดคั่งเล็กน้อยค่ะ
เพิ่งผ่านไปสองอาทิตย์  เรื่องนวดก็นวดดัน ๆ ชิด แบบคุณหมอบอก ไม่ได้หักโหมค่ะ เพราะแต่เราขยับเนื้อ ขยับแขน กล้ามเนื้อหน้าอกก็ใช้งานอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ  ยังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เลยนะคะ แต่ตอนนี้หน้าท้องก็ไม่ตึงมากแล้วเวลานอนหงายเหยียดขาน่ะค่ะ แต่พอนอนพิงกึ่งหลับขาพับเนี้ย เปนท่าที่สบายที่สุด ถึงแม้ว่าตื่นมา จะเผลอไหลนอนหงายตะแคงซ้าย ตะแคงขวาไปบ้างน่ะค่ะ
ติดนิสัยนั่งกึ่งเอนหลับตอนเลี้ยงลูกน่ะค่ะ เลยสบายมาก ฮา ฮา ช่วงนี้ ข้อดีก็คือ ถ้าสามารถหาญาติที่สนิทมาช่วยเลี้ยงลูกได้ก็จะดีมากนะคะ เพราะตอนนี้สบายเลย ลูกคนเล็กจะขวบค่ะ ก็นอนกับแม่นมไป ส่วนคนโตจะสามขวบก็นอนกับพ่อไป นอกเรื่องอีกละ เรื่องหน้าอกน่ะค่ะ เปนเรื่องธรรมดานะคะ
บางทีก็ตึงๆ บ้าง ตอนนอนหงายกลางคืนน่ะค่ะ คุณหมอบอกว่าตอนกลางคืนโนบราได้ ให้ใส่บราแต่กลางวัน พอตึงๆ ก็ลุกมานั่ง ก็หายค่ะ ส่วนหน้าอกคุณหมอก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ นะคะ เพราะยังไม่เข้าที่ มันก็จะมีอาการนู้นอาการนี่ เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่แสบไม่ร้อน ไม่บวมขึ้น ก็ไม่เปนไร
อยากจะสารภาพว่า จนถึงตอนนี้ก็เช็ดตัวท่อนบนเอาค่ะ ใช้ผ้าขนหนูชุบอุ่นบิดหมาดเช็ด แต่ท่อนล่างก็ตามสะดวก จริงๆ แล้วคุณหมอให้อาบน้ำได้ค่ะ แต่ก็อยากจะให้แผลตกสะเก็ดให้หมดก่อน ก็เลยใช้วิธีนี้ไป แผลแห้งสนิทดีเลยค่ะ ฮา ฮา ใครจะใช้ก็ได้นะคะ
ส่วนอาหารการกิน  กับเรื่องแผลเป็นเนี้ย การทาครีม หรืออะไร ก็แล้วแต่บุคคล ความเชื่อกันไปค่ะ
คุณหมอเองก็บอกว่า แผลเปน มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยค่ะ ไม่ว่าจะกินไข่ กินไก่ อะไรก็ตามแต่
สำหรับทราย.. ถือคติว่า กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ ฮา ฮา  เพราะญาติให้เหตุผลว่า กินไข่ แผลหายเร็วแต่ทำให้แผลแฉะ เชื่อค่ะ เลยไม่กินดีกว่า ส่วนอาหารเผ็ดเนี้ย ไม่ทานค่ะ เพราะว่า ทำจมูก ถ้าเผ็ดก็นะขึ้นจมูก อักเสบได้
105#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-28 23:43:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ของแสลงในทัศนะคติของแพทย์ไทย
ให้งด เนื้อสัตว์ เช่น วัว , ควาย , ไก่ , เลือดสัตว์ ทุกชนิด , ข้าวเหนียว , ปลาไม่มีเกล็ดทุกชนิด ทั้งปลาทะเล และปลาน้ำจืด ( คาวจัด ) เช่น ปลาดุก , ปลาสวาย , ปลาไหล , เครื่องในสัตว์ทุกชนิด
อาหารมันจัด เช่นของทอดต่างๆ อาหารรสจัด , ผงชูรส
ของดองทุกชนิด โดยเฉพาะ หน่อไม้ดอง , ผักชะอม , ปลาร้า และน้ำบูดู

เครื่องดื่มชูกำลังทุกชนิด , น้ำอัดลม , เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

เน้น ปลาร้า , ข้าวเหนียว , ปลาไม่มีเกล็ดทุกชนิด , กุ้งทุกชนิด , ผักชะอม , สะตอ , ลูกเนียง , ลูกเหรียง , ลางสาด , ลองกอง , ลูกู , แตงโม , น้ำตาลสด , ปลาสลิด , ผักปรัง

จาก FWDder.com ค่ะ
106#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-28 23:50:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ sarah3851 ตั้งกระทู้

ขอโทษนะคะ นับถือศาสนาพุทธหรือเปล่าคะ อยากจะแนะนำว่า การสวดมนต์ก็ช่วยให้เราสบายใจได้นะคะ
อย่างทราย ก็สวดมนต์ก่อนนอน แล้วก็ก่อนเข้าห้องผ่าตัด พยายามคิดถึงแต่สิ่งดีดีน่ะค่ะ
พอหลังผ่าก็พยายามอ่านหนังสือธรรมะ  นี่ก็ซื้อมาอ่านตลอดค่ะ อยากจะแนะนำ หนังสือของท่านพระอาจารย์มัสซูโอะ เควสโกนะคะ อ่านง่าย แล้วก็ทำให้เข้าใจลึกซึ้งด้วยน่ะค่ะ

แสดงความคิดเห็น

ร้านหนังสือนายอินทร์ ของซีเอ็ดก็น่าจะมีนะคะ  โพสต์ 2011-1-29 07:39
ดีค่ะ เดี๋ยวกลับไปจะไปหาซื้อน๊ะค๊ะ {:12_786:} ที่ไหนมีค๊ะ ทราบหรือเปล่า  โพสต์ 2011-1-29 03:19
พี่ค่ะอยากทราบว่ารอยต่อระหว่างที่คุณหมอดึงหน้าท้องค่ะ ด้านข้าง มันเป็นหนึ่งเดียวกันไหม
หรือว่ามันเป็น 2 ท่อนค่ะ ช่วงตรงด้านข้างทั้ง 2 นะค่ะ
ตอบกระทู้ cmlady ตั้งกระทู้

ขอบคุณมากน๊ะค๊ะ น้องทราย    ขอให้หายไวไวน๊ะ   รอดูรูปอัพเดทน๊ะค๊ะ
ตอบกระทู้ cmlady ตั้งกระทู้

ดีค่ะ เดี๋ยวกลับไปจะไปหาซื้อน๊ะค๊ะ   ที่ไหนมีค๊ะ ทราบหรือเปล่า  

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณค่ะ จะลองไปดูน๊ะค่ะ  โพสต์ 2011-1-29 08:37
ร้านหนังสือนายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊ก ก็น่าจะมีค่ะ  โพสต์ 2011-1-29 07:39
110#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-29 07:47:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ Vikki ตั้งกระทู้

เดี๋ยวพี่อัพเดทรูปให้ดูนะคะ  หากเคยผ่านการผ่าคลอด จะพอทราบว่า แผลกรีดหน้าท้องจะเปนลักษณะไหนน่ะค่ะ อย่างของพี่ ก็เปนรอยกรีดตรงช่วงตัวตามรอยต่อของบิกินี่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่แต่ละกรณีไปนะคะ
ถ้าเราไม่ได้อ้วนมาก จริงๆ แล้วสามารถที่จะดูดไขมันแล้วตกแต่งได้ค่ะ เห็นคุณหมอบอก
แต่อย่างของพี่ ไม่ได้อ้วน แต่พุงมันหย่อนแล้วกล้ามเนื้อมันผลักออกมาตอนตั้งครรภ์น่ะค่ะ
พี่ทำหลังคลอดตัวเล็กได้ 10-11 เดือนเอง โดยปกติ ในกรณีเปนคุณแม่อย่างพี่ ถ้าอดทนรอสองสามปีแล้วออกกำลังกาย (เหมือนพี่ปอนด์อยู่ออสเตรเลีย ลูกสามแต่หน้าท้องฟิตเลยตอนนี้) ก็จะทำให้
หน้าท้องแบนเรียบได้โดยไม่ต้องอาศัยศัลยกรรมเลยค่ะ หรือหากมีย้อยคล้อยก็สามารถใช้การศัลยกรรมตกแต่งเล็กน้อย(ในกรณีนี้ต้องสอบถามรายละเอียดกับคุณหมอที่เราจะศัลยกรรมนะคะ)
เพียงแต่จังหวะอยากจะเสริมหน้าอก ก็เลยทำหน้าท้องไปพร้อมกันเลยค่ะ

เดี๋ยวมาอัพเดทรูปให้ดูนะคะ
อยากเหน หน้าอกค่ะ จิงๆน่ะ ลงรูปให้ชมหน่อยสิค่ะ ทางเมลก้อได้ค่ะ nokbooky@hotmail.com
ตอนนี้เปนไงบ้าง ของบีเหมือนมันเล็กลงอ่ะ แอบเซง 555 แต่ความนิ่มนี่โอเคเรย เกือบเหมือนปกติแล้วไม่หนักอกเหมือนช่วงแรก
112#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-29 10:19:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หน้าอก 2 อาทิตย์ค่ะ เป็นวิทยาทานแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ ขอให้ชมด้วยจิตเปนกุศลนะคะ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณมากค่ะยังไม่สวยเท่าคุณเบ๋เบ้เลย ยังห่างไกลอีกเยอะเลยค่ะ  โพสต์ 2011-1-29 23:02
อยากเห็นของบีบ้างอ่ะเมื่อไหร่จะเอามาให้ดูจ้ะ  โพสต์ 2011-1-29 21:53
หน้าอกสวยจริงอารายจริง ขอด้านตรงด้วย อิๆๆ แต่ดอกที่ใช้ปิดใหญ่ไปนะ55  โพสต์ 2011-1-29 21:51
สวยค่ะ ชอบตรงทีได้ชิดนี่แหล่ะ  โพสต์ 2011-1-29 10:22
113#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-29 10:51:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รูปแผลตัดไขมันหน้าท้อง กับสะดือ สองอาทิตย์ค่ะ แผลที่ตกสะเก็ดแห้ง ยังลอกออกไปไม่หมดค่ะ แต่โดยรวมพอใจค่ะ กับแผลและรอย
เพราะคุณหมอบอกว่า รอยแผลจะค่อย เลือน ไปน่ะค่ะ

แสดงความคิดเห็น

สะดืดใหม่ดูเหมือนจริงน๊ะ ท้องยังมีลายไหม แผลมีรอยนูนป่าวค๊ะ  โพสต์ 2011-1-31 02:00
ขอบคุณมากค่าา ก็รอดูเรื่อย ค่ะ แต่สำหรับตัวเองก็พอใจมากคะ  โพสต์ 2011-1-29 22:51
รอยแผลดูดีขึ้นมากแล้วจ้า เด้วก้อจางเน้อทุกอย่างใช้เวลา  โพสต์ 2011-1-29 21:52
น้องนมข้างซ้ายยังมีบวมอยู่เยอะไหม

แสดงความคิดเห็น

ไม่ค่อยเยอะค่ะ ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นค่ะ แฟนก็ว่าดูปกติ ขนาดเท่าๆ กัน  โพสต์ 2011-1-29 20:39
ตรงมุมรอยต่อทั้งสองข้างละค่ะพี่ มันไม่กลืนเป็นส่วนเดียวกันหรือค่ะ ที่เห็นจากฝั่งซ้ายมือของรูปพี่นะค่ะ
มันสูงขี้นมาหน่อยอะ มันจะสามารถทำให้ตึงเรียบเดียวกันได้ไหมค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ พี่เป็นคนเนื่้อละเอียดสวยมากเลย ผิวพรรณดีค่ะ
116#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-29 20:38:26 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ Vikki ตั้งกระทู้

ขอบคุณมากค่ะ มุมรอยต่อซ้ายมือน่ะเหรอคะ คือพี่เอียงถ่ายรูปนิดหนึ่งน่ะค่ะ ไอ่ตรงนั้นเปนสะบ้าหรือปะน่ะที่เค้าเรียกน่ะ คือ ที่ดูสูงน่ะ คือโครงกระดูกของพี่เองค่ะ คือแผลจริง ๆ ไม่มีอะไรค่ะ ก็เปนรอยกรีด แบน ๆ ไม่ได้นูนอย่างที่คิดนะคะ ก็เรียบ แต่แผลที่ตกสะเก็ดของพี่ยังลอกออกไม่หมดค่ะ รอยแผลก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรมากค่ะ เปนรอยกรีด แต่พอเวลานานไป รอยแผลก็จะจางลงมากขึ้นน่ะค่ะ
สำหรับพี่ ผลการผ่า กับรอยแผล นี่ ถือว่า พี่พอใจค่ะ ผ่านมาสองอาทิตย์นี่ก็ สองวันสุดท้ายก็เดินสะบั้นหั่นแรกทั้งวัน ก็หวังว่าคงไม่เกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นมา
117#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-29 22:58:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จมูกหน้าตรง 2 สัปดาห์ค่ะ กับรูปด้านข้าง ตรงหว่างคิ้วกับดั้งก็ยังไม่ยุบเต็มที่นะคะ





แสดงความคิดเห็น

เน้นทำแบบธรรมชาติมากมากน่ะค่ะ  โพสต์ 2011-1-29 22:59
118#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-30 10:54:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วันนี้เอาความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องอาหารแสลง มาฝาก ของคุณหมอแมวค่ะ

อาหารแสลงเป็นความเชื่อทางสุขภาพขั้นพื้นฐานแต่โบราณ มีอยู่ในทุกชนชาติ โดยพูดถึงว่าหากเจ็บป่วยแบบนี้จะห้ามกินอาหารชนิดใด

ในฐานะที่ทำงานในเมืองเล็กๆ ได้ประสบกับเรื่องราวความเชื่อเหล่านี้มาพอสมควร จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ ทั้งที่ได้พบเจอด้วยตนเอง และจากที่มีผู้อื่นถ่ายทอดให้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะอ่านบทความนี้ ก็ขอให้มาทำความเข้าใจกันก่อน
แม้ว่าจะทำงานเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ผมเองก็พยายามที่จะไม่ปิดกั้นเรื่องการแพทย์แผนไทยหรือภูมิปัญญาชาวบ้าน แต่สิ่งที่ผมพบเจอในปัจจุบันและต่อต้านก็คือ “ภูมิปัญญาชาวมั่ว” ที่มักออกมาให้ความเห็นที่ดูน่าเชื่อถือ หากแต่ความจริงผิดทั้งหลักการแพทย์ทั้งแผนโบราณและแผนปัจจุบัน
ดังนั้นเมื่อทุกท่านได้อ่านบทความเนื้อหาเหล่านี้แล้ว ขอจงอย่าเพิ่งเชื่อในทันที แต่ขอให้นำไปคิดวิเคราะห์ต่อก่อนนำไปใช้ครับ

กลุ่ม ไม่แสลง แต่คิดว่าแสลง
1. ไข่
     มีคนไข้สูงอายุคนหนึ่งมารพ.ด้วยเรื่องติดแผลติดเชื้อที่แขนเรื้อรัง หลังจากรักษาไปได้ระยะหนึ่ง ก็เกิดความสงสัยว่าทำไมลุงถึงหายช้ากว่าคนไข้ทั่วๆไปแถมยังดูตัวบวมๆ ตรวจดูเรื่องอื่นๆก็ปกติ ไม่มีอาการของโรคหัวใจหรือไตที่จะมาทำให้ตัวบวม ซักถามคนไข้และญาติ ก็ไม่พบประวัติใดที่จะชี้ถึงความผิดปกติ
ด้วยความสงสัยว่าอาจจะมีปัญหาที่ซ่อนอยู่ ก็เลยตรวจเลือดเรื่องการทำงานของตับ(แม้ว่าประวัติตรวจร่างกายจะปกติก็ตาม) หลังจากผ่านไปหลายวัน ผลเลือดก็กลับมา พบว่าทุกอย่างปกติดี ยกเว้นโปรตีนในเลือดที่ชื่อโกลบูลินมีค่าต่ำมาก จึงได้ถามญาติและคนไข้ว่า ‘ได้กินไข่ขาวที่สั่งให้เพิ่มเข้าไปในมื้ออาหารหรือไม่’ ก็ได้รับคำตอบว่า “กินครบตามที่สั่ง” แต่ด้วยความสงสัยก็เลยลองถามเตียงข้างๆ คำตอบที่ได้จากเตียงรอบข้างคือ ทุกๆมื้อ เตียงนี้จะเอาไข่ที่เพิ่มเข้ามา แจกจ่ายให้เตียงรอบข้างโดยอ้างว่า “หมอสั่งไม่ให้กินไข่”
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่พบเจอบ่อยๆในการดูแลรักษาคนไข้ในกลุ่มที่มีบาดแผลตามร่างกายและพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
สาเหตุที่คนเชื่อว่าไข่เป็นของแสลงนั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่ว่าที่น่าเป็นไปได้น่าจะมาจากเมื่อเรามีบาดแผลตามร่างกาย จะมีน้ำเหลือง (Serum) ออกมาตามแผล ซึ่งมีลักษณะเป็นน้ำใสๆเหนียวเล็กน้อย คนโบราณที่เข้าใจผิดคิดว่าการเป็นโรคเกิดจากการที่มีน้ำเหลือง หรือว่าร่างกายที่เป็นโรคขับของเสียเป็นลักษณะเหมือนไข่ ดังนั้นจึงห้ามกินไข่ เนื่องจากไข่ขาวมีลักษณะเหมือนน้ำเหลือง แต่ในขณะเดียวกันกลับให้กินอาหารบำรุงอย่างอื่นเช่นกลุ่มเนื้อสัตว์ได้ทั้งที่เป็นโปรตีนเหมือนๆกัน
ความจริงเมื่อเรามีบาดแผลเกิดขึ้นไม่ว่าที่ใด การที่จะหายได้เร็วก็ต้องมีสารอาหารพวกโปรตีนมาช่วยในการซ่อมแซม คนเราจะมีโปรตีนทุนสำรองอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว(ที่ตับ)มากน้อยต่างๆกันไปโดยในผู้สูงอายุจะมีน้อยกว่า ดังนั้นเมื่อเป็นแผลก็จะหายช้ากว่า และในกรณีที่มีแผลอยู่นาน(ส่วนใหญ่นานเพราะติดเชื้อ)หรือเป็นมาก หากร่างกายไม่ได้โปรตีนทดแทนเข้าไปเพียงพอ แผลก็จะหายช้า และไปฉุดให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่สร้างจากโปรตีนให้อ่อนแอลง นอกจากแผลจะไม่หาย ร่างกายโดยรวมก็จะยิ่งอ่อนแอลงด้วย
สำหรับผู้สูงอายุคนนี้ หลังจากบอกญาติและคนไข้ให้เข้าใจ ก็ได้ให้ลองกินไข่ใหม่อีกครั้ง ในเวลาไม่นานตัวที่ดูบวมก็ยุบลงอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อกลับบ้านและนัดกลับมาตรวจซ้ำ ก็พบว่าแผลทั้งหมด หายสิ้นในเวลา1/2เดือน หลังจากที่แผลเคยไม่ลดขนาดลงเลยเป็นเวลาถึง3-4เดือน
119#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-30 10:55:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
2.น้ำเย็น

     แม่พาเด็กอายุ2-3ขวบมารพ.ด้วยเรื่องไข้สูง หลังจากดูอาการแล้ว ปรากฎว่าไข้สูง39.5องศา แต่เด็กดูปากคอตัวแห้ง หลังตรวจก็ได้ให้นอนในโรงพยาบาลเนื่องจากเหตุว่า มีอาการของไข้สูงและขาดน้ำ
หลังจากเข้ามาในโรงพยาบาล ก็ได้สังเกตพบว่า

ข้อแรก การเช็ดตัวค่อนข้างผิดวิธีและเช็ดน้อย

และข้อสองคือ พ่อแม่เด็กไม่ให้เด็กดื่มน้ำ!

โดยธรรมชาติเด็ก และคนป่วยไข้ จะต้องการน้ำมากขึ้นเพื่อนำไปใช้ในกระบวนการสร้างพลังงานความร้อนและการถ่ายความร้อนออกจากร่างกายทางเหงื่อ จะเห็นได้จากที่เมื่อมีไข้จะปากคอแห้งและกระหายน้ำมากขึ้น ถ้ายังจำกันได้ ตอนคุณป่วยครั้งสุดท้าย สิ่งที่คุณต้องการก็คือน้ำเย็นๆสักแก้ว.....

ใช่แล้วครับ น้ำเย็นๆ
พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคน ยังมีความเชื่อที่ว่า ถ้าหากให้เด็กดื่มน้ำเย็นเวลามีไข้ จะทำให้อาการไข้แย่ลงไปและอาการหนักต่างๆหนักขึ้น รวมทั้งถ้าเด็กไอ จะไปทำให้เด็กไอมากๆ , หรือในบางครอบครัวมีความเข้มงวดมาก ไม่ยอมให้ลูกหลานดื่มน้ำเย็นหรือน้ำอัดลมเพราะเชื่อว่าจะไปทำให้สุขภาพไม่แข็งแรง โดยทั่วไปในกลุ่มนี้พ่อแม่ผู้ปกครองมักเอาน้ำร้อนผสมน้ำธรรมดากลายเป็นน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อนให้เด็กป่วยดื่ม...

ผลก็ออกมาง่ายๆคือ ไม่มีเด็กคนไหนยอมดื่ม และกลายเป็นปัญหาวงจรอุบาทว์ คือ เด็กมีไข้ ต้องการน้ำ พ่อแม่ให้กินน้ำร้อน เด็กไม่กิน ก็ยิ่งขาดน้ำ....
ลองคิดสภาพเวลาเราอยู่ในอากาศร้อนๆ แล้วเอาน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นมากกินสิครับ ว่ามันทรมานแค่ไหน เด็กที่ป่วยอยู่ ยิ่งแย่ไปกว่านั้น เพราะจะกินน้ำ น้ำก็ร้อน จะไม่กินก็หิวน้ำทรมาน
ทางแก้ไขก็คือ ให้น้ำที่เย็นพอประมาณ แต่ไม่ถึงขนาดมีน้ำแข็งลอยให้เด็กที่มีไข้ดื่ม ในกรณีที่เด็กมีอาการไอร่วมกับการขาดน้ำพอสมควร ก็ควรยอมให้ไอได้บ้าง(ไอมักแย่น้อยกว่าขาดน้ำ)จนผ่านช่วงที่มีการขาดน้ำเสียก่อนค่อยเปลี่ยนเป็นน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่น
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไม่ยอมเปลี่ยนความคิด ผมเองมักขอให้ผู้ปกครองกินน้ำเหมือนกับเด็ก (เพราะเท่าที่เห็นเวลาอยู่ในตึกที่อากาศอบอ้าว ผู้ปกครองมักกินน้ำเย็นแล้วชงน้ำอุ่นให้เด็กกิน) ส่วนใหญ่มักเปลี่ยนใจยอมให้เด็กดื่มน้ำเย็นได้ในเวลาไม่ถึงวัน
120#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-30 10:56:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
3. อาหารพวกเนื้อสัตว์
เป็นที่น่าสังเกตว่าตามความเชื่อดั้งเดิม เนื้อสัตว์มักจะเป็นอาหารแสลงของคนที่มีบาดแผลสด แม้ว่าปัจจุบันความเชื่อนี้จะค่อยๆเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่ยังพบได้บ้างในบางพื้นที่โดยเฉพาะในกรณีหญิงที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ๆที่มักให้กินอาหารอ่อนๆและไม่ให้กินอาหารเนื้อสัตว์ด้วยเชื่อว่าจะช่วยให้ขับน้ำคาวปลาและมีน้ำนมมาก
ปกติร่างกายของเรามีการสะสมโปรตีนอยู่ การงดเนื้อสัตว์ไม่นานมักจะไม่มีผลมากนักเพราะยังได้โปรตีนจากพืชบ้าง แต่แม้ว่าการลดอาหารเนื้อสัตว์ระยะสั้นๆจะไม่มีผลมากนัก แต่พึงระลึกไว้ว่าการสร้างเนื้อขึ้นใหม่และการสร้างน้ำนมของแม่ จำเป็นต้องได้อาหารที่พอเพียง … ดังนั้นจึงควรพิจารณาก่อนที่จะให้งดครับ

ครั้งต่อไป เราจะลองมาดู “เข้าใจว่าไม่แสลง แต่จริงๆแสลง” ครับ
ตอบกระทู้ cmlady ตั้งกระทู้

หลังจากมีลูกแล้ว
ก็เปนอันที่เข้าใจ ก็ตามสภาพนะคะ พุงหย่อน นมเหี่ยวหดเปนขนมครกแถมไม่พอหัวทิ่มดินอีกตะหาก


555555อะไรจะเปรียบซะภาพเห็นชัด...เลย...อิๆ....ไม่เป็นไรมั้งคะ....หน้ายังสวยอยู่...แบบว่าขำก๊าก....
122#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-1-30 17:56:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ ซี7 ตั้งกระทู้

. ขอบคุณมากนะคะ ยังอุตส่าห์เห็นความงามที่เหลืออยู่ ฮา ฮา ฮา
อันนี้ เรื่องจริง ไม่ได้อิงนิยายเลยค่าาา  สภาพจริงๆ มันยิ่งกว่าบรรยายอีกนะคะ
เสื้อผ้าเนี้ย ตั้งแต่นมเหี่ยวหด ปานนมหัวคว่ำพับเนี้ย ก็ชุดเดียว ชุดอยู่บ้านค่ะ
ไม่งั้นนะคะ ไม่ฮึด แบบ ทั้งนม ทั้งพุง ถ้้าสภาพมันพอทน แต่นี่ ยอมมานอนให้หมอช่วยคืนความชุ่มฉ่ำ
ให้ชีวิตอีกทีหนึ่งเท๊อะ  นมมันเหี่ยวแฟบฟีบไม่เท่าไหร่ค่ะ พุงมันยื่นล้ำหน้านมสิคะ
ใส่เสื้อผ้าอะไร ก็จะแบบว่า นมแบนพุงป่องน่ะค่ะ แถมห้อยปลิ้นทั้งนมทั้งพุง.. เอิ๊ก
ต้นฉบับโพสต์โดย cmlady เมื่อ 2011-1-30 17:56
ตอบกระทู้ ซี7 ตั้งกระทู้

. ขอบคุณมากนะคะ ยังอุตส่าห์เ ...

เอาน่า.....หน้ายังได้อยู่....สวยมากเดี๋ยวแฟนจะไม่ยอมไปไหนนะ.....แล้วจะอึดอัด.......

                 คอยดูละกัน    มีเงินทำก็ว่ากันไป...อย่าได้แคร์สื่อ....อิๆเหมือนเราเอง...

แสดงความคิดเห็น

กะว่ าคงจะไม่ทำอะไรอีกละค่ะ ตังค์หมด ฮา ฮา  โพสต์ 2011-1-31 18:34
อย่าได้แคร์สื่อ ฮา ฮา ชอบมาก..  โพสต์ 2011-1-31 18:34
ได้ความรู้มากๆเลยอ่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ หายไวๆ ยังงัยก็สวยอยู่แล้วเนอะ
สวยมากค่ะ   นี่แค่สองอาทิตย์เองเหรอ  หน้าอกไม่มีรอยช้ำเลย  ออกไปช๊อปปิงได้แล้วเหรอค่ะ

ขอถามว่า ทำแบบย้ายสะดืดหรือเปล่าค๊ะ  กี่วันถึงเดินได้คร่องค๊ะ

แสดงความคิดเห็น

แวะมาดูเรื่อยค่ะ  โพสต์ 2011-2-2 01:01
แวะมาดูเรื่อยค่ะ  โพสต์ 2011-2-2 00:59
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้