ดู: 4750|ตอบกลับ: 29
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ศัลยกรรมเกาหลี] ⭐ รีวิวปรับโครงหน้า ลดโหนกแก้ม + กราม ให้ใบหน้าดูเด็กและหวานละมุนขึ้น

[คัดลอกลิงก์]
ก่อนศัลยกรรมโครงหน้า





   สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาแชร์อีกประสบการณ์ การผ่าตัดโครงหน้าที่โรงพยาบาลบาโนบากิ ให้ฟังกันค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรามีปัญหาโครงหน้า คือ โหนกแก้มสูงและใหญ่ออกด้านข้าง มีกรามเล็กน้อย เวลาถ่ายรูปมีเนื้อแก้มส่วนเกินออกมา ทำให้ดูหน้าใหญ่และหน้าดุ อีกทั้งเรามีพี่สาว ไปไหนมาไหนเราโดนทักตลอดว่าาเป็นพี่ซะงั้น  โดนแบบนี้มาเรื่อยๆ ค่ะ

    ครั้งนี้อยากลองเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้ใบหน้าดูอ่อนหวานขึ้น จึงเริ่มหาข้อมูลการผ่าตัดโครงหน้าอย่างละเอียดค่ะ เราสนใจที่โรงพยาบาลบาโนบากิ จึงเข้าไปปรึกษาคุณหมอโอชางฮยอน ก่อนที่จะตัดสินใจตกลง จองวันผ่าตัดและบินมาที่เกาหลีค่ะ  





ปรึกษาคุณหมอ

    ก่อนหน้าที่เราจะบินมาเกาลี เราได้มีการปรึกษาที่เมืองไทยมาก่อนแล้ว ปกติคุณหมอโอจะบินมาให้คำปรึกษาศัลยกรรมที่ไทยฟรี  ให้กับคนที่สนใจอยากทำศัลยกรรม เพียงแค่นัดวันและเวลากับเจ้าหน้าที่
ก็สามารถได้ปรึกษา รับฟังคำวินิจฉัย พร้อมราคาและโปรโมชั่นประจำเดือนนั้นๆ ได้เลย

ของเราคุณหมอบอกว่าลดโหนกแก้มและกรามก็พอ ส่วนคางไม่จำเป็นต้องตัดเพิ่มค่ะ แก้มที่เยอะ คุณหมอบอกให้เอาไขมันกระพุ้งแก้มออกด้วยค่ะ หน้าจะได้ดูเล็กลงด้วย คุณหมอหันมาถามเราว่าฉีดโบท๊อกบ่อยไหม เราฉีดประมาณ ปีละ 2ครั้งค่ะ ในการทำกรามครั้งนี้คุณหมอจะทำด้วยวิธี All For One คือ ตัดกระดูกและเอาไขมันกระพุ้งแก้มกับกล้ามเนื้อบดเคี้ยวออกให้บางส่วนด้วย
ฉะนั้นบั๊ยบาย Botox ได้เลยจ้า

วันผ่าตัด

    เราแอบกังวลและนอนไม่หลับเล็กน้อย นี่เป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งที่2 ของเราค่ะ แต่ด้วยความที่จะถอยหลังกลับก็ไม่ได้แล้ว ต้องเดินหน้าท่องอย่างเดียวว่า เดี๋ยวสวยแล้ว  เดี๋ยวสวยแล้ว ก็ทำให้มีกำลังใจขึ้นมานิดนึงค่ะ  ก่อนผ่าตัด ทางโรงพยาบาลแนะนำต้องงดน้ำ อาหาร ทุกอย่างก่อนเวลาผ่าตัด 8 ชม. เราโชคดีที่ได้ผ่าตัดเช้า เพราะฉะนั้นจะไม่รู้สึกเหนื่อยมากค่ะ  พอเปลี่ยนชุด ล้างหน้าเข้าห้องน้ำเสร็จ ก็เข้าสู่ห้องผ่าตัด พยาบาลเข้ามาทำการเตรียมตัวผ่า สักพักคุณหมอวิสัญญีเข้ามาทำการดมยาสลบ 1 2 3 4 ZZZZZ  เข้าสู่โลกนิทรา

เดี๋ยวมารีวิวหลังศัลยกรรมให้ฟังต่อนะคะ ฝากติดตามด้วยค่ะ
30#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-10-29 14:28:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yunajjue เมื่อ 2020-10-29 14:30

ใครที่กำลงรอรีวิวอยู่ มาอัพเดทต่อแล้วจ้า!!
หลังศัลยกรรม 1 ปี






เผลอเเปบเดียว โครงหน้าที่ทำมา ได้เวลาครบ1 ปี พอดีค่ะ
ใบหน้าเข้ารูปมากขึ้น เราทำช่วงโหนกเเก้ม กราม
ปกติเเล้วเป็นคนโหนกใหญ่ หน้าดุ (ขนาดหน้านิ่งๆ คนก็กลัว)
หลังจากที่ทำมา พอใจมากๆค่ะ  ^^

ต้องขอบคุณที่เราตัดสินใจเลือกทำที่รพ.บาโนบากิ กับคุณหมอ โอชางฮยอน
ไม่ใช่เเค่ทีมเเพทย์ทีมพยาบาลที่ดูเเลคนไข้อย่างดี ล่ามก็ดูเเลดีเช่นกันค่ะ
และขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกันมาจนตอนสุดท้ายด้วยนะคะ
ขอให้ทุกคนสวยขึ้นๆอย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ
29#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-7-10 16:19:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลังศัลยกรรม เดือนที่6




   
การทำโครงหน้าตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเราคุ้มค่ามาก ที่เราได้ตัดสินใจในวันนั้น  
เราจะมาอัปเดตอาการของเราที่ผ่านมาในช่วงครึ่งปีที่ทำโครงหน้าให้ฟังนะคะ
อาการเจ็บ และปวด ไม่มีให้วิตกกังวลเลย เราสามารถไปออกกำลังกายหนักๆ
เล่นเวท ว่ายน้ำ หรือแม้แต่วิ่งก็สบายมากแล้วค่ะ ไม่มีอาการอะไรเลย
เพราะฉะนั้นใครที่กังวลเรื่องนี้ สบายใจได้เลยค่ะ
        
คำถามที่หลังจากศัลยกรรมปรับโครงหน้ามาแล้ว ที่เราได้ยินมากที่สุด คำถามหนึ่ง
คงจะหนีไม่พ้นกับคำถามที่ว่า “หลังทำมาแล้ว หน้าหย่อนคล้อยไหม??”
ส่วนตัวแล้วนั้น ต้องยอมรับค่ะ ว่ารู้สึกว่าหน้าหย่อนลงกว่าก่อนทำ

แต่เราได้ยินจากคุณหมอ ตั้งแต่ประเมินแล้วว่า ใบหน้าเรามีเนื้อเยอะ ถ้าอาการลดบวม6เดือน – 1ปี
อาจจะต้องมีการดูดไขมันใบหน้า เหนียงร่วมด้วย แต่ถ้าถามว่ามันจะหย่อนเหมือนคนอายุเยอะๆ เลยหรือเปล่า
คิดจะยกกระชับเพิ่มหรือไม่ เราก็ไม่ได้รู้สึกว่า หย่อนมากขนาดนั้นค่ะ อาจจะรอให้ผ่านไปอีก 5-7ปี ข้างหน้าค่อยคิดทำ
ตอนนี้จึงอาศัยพวกเลเซอร์ยกกระชับไฮฟู่ ทำเพื่อความสบายใจไปก่อน 5555

โดยรวมแล้ว 6 เดือนที่ผ่านมานั้น สรุปสั้นๆ  ว่าทำออกมาแล้วคุ้มค่า หมอโอเก่ง
การดูแลเอาใจใส่ของพนักงานดีค่ะ เรามีปัญหา,ข้อสงสัยก็ไลน์ หรือโทรเข้าไปสอบถามบ่อยๆ
ก็จะได้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างดี  
ถ้ามีโอกาสได้พบคุณหมอที่เมืองไทย หรือได้ไปเกาหลี จะเข้าไปเช็คผลการผ่าตัดกับคุณหมออีกครั้ง

แปะรูปรวมหลังผ่าตัดครบ 3-6 เดือนให้นะคะ





** สุดท้ายนี้ ใครกำลังลังเลเรื่องการผ่าตัดไม่ว่าจะปรับโครงหน้าหรือศัลยกรรมส่วนอื่นๆ ลองปรึกษาโรงพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ที่ให้คำแนะนำ เพื่อลองตีค่าใช้จ่ายในเคสของเราก่อน และถ้าตัดสินใจผ่าตัดกับทางบาโนบากิแล้ว เราอยากเตือนไว้หนึ่งอย่างค่ะว่าต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วยนะคะ

-
-
-
-
-

“เผื่อใจว่าชั้นจะสวย และดูดี มากขึ้น”   หน่ะค่ะ ><
28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-7-3 10:32:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yunajjue เมื่อ 2020-7-3 10:33

หลังศัลยกรรม เดือนที่5



  ทำโครงหน้ามาได้ 5 เดือนแล้ว  
ช่วงนี้เรารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในเรื่องลดบวมได้มากยิ่งขึ้น ใบหน้าเรียวขึ้นมากอีก 1 step
แต่อาจจะยังมีบางช่วง เช่น กระพุ้งแก้ม ข้างในปากที่ยังรู้สึกได้ว่า ยังคงบวมอยู่
ถ้าไม่ติดเรื่องนี้ก็ถือว่าเราไม่มีเรื่องอื่นที่ต้องกังวลแล้วเลยค่ะ

อาการเจ็บ: ไม่มีเลยค่ะ
อาการชา: ยังมีบ้างเวลาเอามือลูบๆไป แล้ว จะยังไม่เหมือนตอนที่ก่อนผ่าตัด
(แต่โดยรวมมันไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเรา เราจึงไม่กังวลเรื่องนี้ค่ะ)  
การอ้าปาก: อ้าปากได้ปกติ สามารถทานแฮมเบอร์เก้อ เนื้อก้อนโต ได้แล้วว (พูดถึงก็อยากกินเลย)




เราไปนวดหน้าที่สถานความงาม แล้วเตือนให้พนักงานคนที่จะให้บริการเรา รับรู้ว่าเราเพิ่งผ่าตัดมานะ  พอเราบอกว่าเราเพิ่งผ่าตัดโครงหน้ามานะ เมื่อ5เดือนทีแล้ว เขาตกใจมากกก เพราะจับไม่ได้เลย แผลเป็นก็ไม่มี หน้าก็ไม่บวม
แถมยังชม เล่นเอาปลื้มไปเลยค่า  ^---^
27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-7-3 10:27:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yunajjue เมื่อ 2020-7-3 10:29


หลังศัลยกรรม เดือนที่4




เวลาผ่านไป เหมือนเราผ่าตัดโครงหน้ามาแล้ว6 เดือนแต่เอาจริงๆแล้ว เพิ่งผ่านมาได้แค่ 4เดือนเองค่ะ ใครที่สงสัยว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาอัปเดตให้ฟังนะคะ น่าจะเป็นการคลายข้อสงสัยกับคนที่สนใจอยากจะปรับโครงหน้าเหมือนเรานะคะ



อาการเจ็บ: ไม่มีเลย ตั้งแต่ช่วงเดือนแรกแล้วค่ะ แต่เมื่อมีการเดินกระทบแรงๆ หรือกระโดด อาจจะรู้สึกสะเทือนที่ใบหน้าเล็กน้อยค่ะ



อาการชา: ช่วงโหนกแก้มเมื่อเดือนก่อน ยังรู้สึกว่าอาการชายังเหลือที่โหนกแก้มทั้งสองข้าง ใต้ตาค่ะ แต่ตอนนี้คือดีขึ้นมาอีกระดับแล้ว เริ่มกลับมามีความรู้สึกแล้วกว่า 80%



การอ้าปาก: อ้าปากได้ปกติ ยืดได้สุดแล้วค่ะ แต่เราจะไม่พยายามยืดเมื่อไม่จำเป็นค่ะ เพราะแอบกลัวถ้าใช้งานหนักอาจจะปวดขึ้นมาได้


ในความรู้สึกเราแล้ว ใบหน้าเราดูไม่เปลี่ยนนะคะ แต่วันนี้อยู่ว่างๆ เลยเอารูปก่อนและหลังมาเทียบกัน ปรากฏว่าสิ่งที่เห็น ทำเราดีใจที่คิดดีแล้วว่าจะปรับโครงหน้า เป็นยังไงเพื่อนๆลองดูกันนะคะ ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง






หน้าเราดูเด็กลงหรือเปล่า 5555555555555 จากเมื่อก่อนกระดูกโหนกแก้มชัดเจน จนทำให้หน้าดูโหด ถ้าไม่ยิ้มแล้วเหมือนโกรธใครมา ใบหน้ามีสัดส่วนที่ดีมากขึ้นค่ะ เมื่อก่อนไม่ได้สังเกตเลยว่าคางตัวเองดูยาว แต่พอตอนนี้ ช่วงหน้าผาก ช่วงกลาง และช่วงคางได้สัดส่วนมาก ปลื้มมากเลยค่ะ

ต้องขอชมคุณหมอโอชางฮยอน ที่เก่งเรื่องโครงหน้ามากจริงๆค่ะ
26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-7-3 10:25:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yunajjue เมื่อ 2020-7-3 10:32


วันนี้จะมาอัพรีวิวผ่าตัดฏครงหน้า (โหนกแก้ม + กราม)ต่อนะคะ
ฝากติดตามด้วยค่า
25#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-7-3 10:25:10 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
มาอัพต่อแล้วค่า ^^
24#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-7-3 10:23:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขอบคุณค่า><
23#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-7-3 10:23:08 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
kokkakon ตอบกลับเมื่อ 2020-6-16 12:53
สวยมากๆเลยค่ะ ตอนเราแก้จมูกก็ปวดเหมือนกัน เราต้องกิน บาคามอล ยาพาราเม็ดเหลือง ช่วยลดปวดได้ดีเลย

ขอบคุณที่แนะนำมากเลยค่ะ
ตอนนี้เราดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่มีอาการปวดแล้วค่ะ รอยุบบวมอย่างเดียว^^
สวยมากๆเลยค่ะ ตอนเราแก้จมูกก็ปวดเหมือนกัน เราต้องกิน บาคามอล ยาพาราเม็ดเหลือง ช่วยลดปวดได้ดีเลย
21#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-6-16 11:27:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลังศัลยกรรม เดือนที่3





     เวลาผ่านไปเร็วมากๆ เลย เราผ่าตัดมาได้แล้ว3เดือนค่ะ มาพูดถึงอาการทั่วไปหลังการผ่าตัดกันก่อนนะคะ

1.       เรื่องอาการชา   ตอนนี้อาการชาจะอยู่ในจุดโหนกแก้มซะส่วนใหญ่ค่ะ ยิ่งช่วงหางตาเวลาคัน อยากจะเกาแต่เหมือนเกาไม่โดนจุดคัน แล้วมันหงุดหงิดค่ะ 55555 แต่ถ้าไม่นับจุดนี้ก็ไม่มีอะไรที่ไม่สะดวกสบายค่ะ

2.       คีรอยด์ในช่องปาก  แผลกรีดที่คุณหมอเย็บให้ในเหงือก มันจะมีอาการนูนขึ้นมาตามรอยเย็บค่ะ แต่ไม่มีความเจ็บแต่อย่างใด เราเลยไม่ซีเรียสคะ (ตอนที่ลิ้นเขี่ยโดนก็จะมีความรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย เพราะมันไม่ได้เรียบเหมือนเมื่อก่อนค่ะ)

3.       ไม่มีอาการปวดช่วงกกหู ข้อต่อโหนกแก้มเหมือนช่วงเดือนที1-2 ที่ผ่านมา การใช้ชีวิตปกติเหมือนก่อนทำแล้วค่ะ

4.       สามารถอ้าปากได้กว้างขึ้นมากๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติค่ะ ช่วงก่อนหน้าเราหาวบ่อย เพิ่งมารู้สึกว่าเวลาหาวไม่ต้องเกร็งแล้ว อ้าได้สุดๆเลยค่ะ

5.       เวลาวิ่งหรือซ้อนมอเตอร์ไซท์ เวลาที่กระแทกจะรู้สึกตรงใบหน้านิดหน่อยค่ะ เหมือนจะกระเทือนอันนี้ยังคงต้องระวังต่อไปค่ะ

6.       อาหารแข็ง เรายังไม่ได้ลองเคี้ยวหนักๆ ดูค่ะ เพราะยังกลัวอยู่,อาหารเผ็ด ถ้าทานแล้วรู้สึกว่าอีกวันแผลในปาก และกระพุ้งแก้มจะรู้สึกบวมขึ้นแต่ไม่เจ็บค่ะ ถ้างดได้ ควรเว้นไว้ก่อนนะคะ เพราะเราไม่ร็ว่า อาการบวมเล็กน้อยในรางกายเรายังหลงเหลืออยู่หรือไม่ ถ้าจะเป็นปกติจริงๆคงต้องใช้เวลา 6เดือน-1ปี ขึ้นไปแน่นอนค่ะ



พูดถึงโครงหน้า หลังจากที่ศัลยกรรมมาแล้ว ส่วนตัวยังคงไม่ค่อยชินกับหน้าตัวเองเท่าไหรค่ะ แต่คนที่เจอกันตอนหลังทำใหม่ๆ กับเจอกันเร็วๆนี้ ชมว่าลดบวมลงเยอะมากๆแล้ว และดูเข้าที่ขึ้นเรื่อยๆ สวยขึ้น และอันนี้ที่รู้สึกได้ชัดเจนเลย คือดูหน้าเด็กขึ้นค่ะ ยังไงต้องขอบคุณโรงพยาบาลบาโนบากิ และคุณหมอโอชางฮยอน ที่กรุณาเนรมิตหน้าใหม่ และเพิ่มความมั่นใจ แก้ไขจุดบกพร่องให้เรามา ณ ที่นี้ด้วยนะ

20#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-6-9 10:32:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลังศัลยกรรม เดือนที่2



วันนี้เอาภาพใบหน้าที่ทำศัลยกรรมมาแล้ว 2 เดือนให้ชมกันค่ะ







ใบหน้าที่บวมเยอะๆ ค่อยๆลดบวมลงมาอีก ..... ในช่วงเดือน1-2 มานี้ ตอนตื่นนอนครั้งแรก ใบหน้าจะรู้สึกเมื่อยตึง นิดหน่อยค่ะ หลังจากเราได้บริหารใบหน้า และปาก โดยนวดเบาก่อนแปรฟัน หน้าก็จะผ่อนคลายขึ้นค่ะ







อาการที่ไม่พึงประสงค์ของการทำโครงหน้า เรารู้สึกปวดบริเวณกกหู เมื่อเคี้ยวอาหารเยอะ หรือทานของเหนียว เช่นเนื้อสัตว์ อาหารทะเล แต่อาการเหล่านี้เราลองสอบถามไปทางโรงพยาบาลแล้ว เป็นอาการเบื้องต้นของคนที่ทำโหนกแก้มค่ะ การศัลยกรรมทำให้ตำแหน่งของโหนกแก้มถูกเปลี่ยน การใช้งานที่มากเกินไป หรือบ่อยครั้ง อาจจะทำให้เกิดความปวดขึ้นได้ค่ะ ถ้าใครทนไม่ไหว ทานยาแก้ปวด และประคบเย็นร่วมด้วยได้ค่ะ

ส่วนการแสดงสีหน้าเริ่มทำได้มากขึ้นแล้วค่ะ หัวเราะได้สุดๆ เกือบปกติแล้ว ใครที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ต่างชมว่าใบหน้าสวยได้รูป 55555555 อีกทั้งแผลเป็นภายนอก ไม่เห็นเลยค่ะ ปลื้มมาก เราต้องทำงานเกี่ยวกับการพบปะลูกค้า ทำให้รุ้สึกมั่นใจขึ้นเยอะค่ะ







ต้องของคุณโรงพยาบาลบาโนบากิมาก ที่ดูแลดูตั้งแต่ต้น จนจบการผ่าตัด ถึงแม้ว่าจะกลับมาไทยแล้ว การดูแลของเขาก็ให้คำแนะนำใกล้ชิดมากเลย และรีวิวฉบับหน้า จะเข้าเดือนที่3แล้ว ใบหน้าน่าจะลดความบวมลงได้อีกเยอะ และจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร อดใจรอด้วยนะคะ
19#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-5-26 11:59:38 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yunajjue เมื่อ 2020-5-26 12:02

หลังศัลยกรรมครบ 1 เดือน



       อาการของเดือนแรกผ่านไปแล้ว การกินอาหารของเราเริ่มกินอาหารที่เคี้ยวได้ แต่ต้องตัดแป็นชิ้นเล็กๆ  ใช้ช้อนเล็กๆยัดเข้าปาก ส่วนการอ้าปาก ยังมีอาการอ้าปากได้ไม่สุด แต่ไม่มีการเจ็บ แต่อย่างใดค่ะ ในช่วงที่ตื่นนอนตอนเช้า จะรู้สึกว่าใบหน้าเมื่อยๆ  หลังจากที่แปรงฟันสักพัก ใบหน้าก็จะคลายขึ้นค่ะ
     


และในเดือนนี้เรามีกิจกรรมสำคัญในชีวิตเราเลยก็ว่าได้ นั่นคือการถ่ายพรีเวดดิ้งค่ะ ก่อนผ่าตัดเราคิดมากเรื่องความบวมที่ยังหลงเหลืออยู่  แค่1เดือนผ่านไปเราจะต้องถ่ายรูปแล้ว ความบวมจะเป็นอุปสรรคไหมนะ?? แต่โชคดีมากที่
ความบวมในช่วง15วันแรก ถึง 1เดือนสำหรับเราแล้ว ลดลงเร็วดีค่ะ อีกทั้งเพราะเรามีตัวช่วยเป็นยาลดบวมที่ซื้อที่ร้านขายยาของเกาหลี เขาจะจัดเป็นชุดให้เลย3-5 วัน  เป็นขวดดื่ม นำมาผสมกัน มีรสชาติกินง่ายค่ะ หาซื้อได้ง่ายอีกด้วย จึงทำให้



วันสำคัญผ่านมาได้อย่างดี
เมื่อมองหน้าตรงถ้าไม่บอกว่าเราทำศัลยกรรมมา จะไม่มีคนรู้เลยค่ะ แต่เรามองหน้าตัวเองตอนนี้ด้านข้างยังคงเหลืออาการบวมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาค่ะ มันจะดีขึ้นเรื่อยๆ



ใครที่กำลังลังเลว่าการทำโครงหน้าจะมีปัญหากระทบต่อการใช้ชีวิตไหม ลองอ่านรีวิวเราดูเพื่อประกอบการตัดสินใจดูนะคะ  ตอนต่อไปเราจะมาอัปเดตให้เรื่อยๆค่ะ


18#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-5-12 12:07:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yunajjue เมื่อ 2020-5-12 12:09

หลังศัลยกรรมวันที่ 13




วันนี้เกิดอาการเจ็บแปลบๆ (อาการเหมือนเป็นแผลกัดใส่ปาก หรือร้อนใน)
บริเวณแผลที่เหงือกช่วงด้านหน้าคาง  แอบตกใจเล็กน้อยเกรงว่าจะอักเสบ
แต่อาการเจ็บเป็นๆหายๆ เราสังเกตอาการตัวเองว่ามีอาการบวมแดง
หรือมีหนองหรือไม่และแจ้งไปทางโรงพยาบาล  
ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าให้รักษาความสะอาดของช่องปากให้ดี
ณ ตอนนี้เปนอาการปกติค่ะ ไม่ใช่อาการอักเสบแต่อย่างใด
มีลูกค้าหลายท่านที่ถามเข้ามาในอาการเดียวกัน เราเลยสบายใจไป
อาการเจ็บไม่รุนแรงมาก รอประมาณ 1 วัน อาการก็ดีขึ้น
เราไม่พยายามไม่แตะต้องช่วงนั้นเท่าไหรค่ะ ส่วนประคบเย็นก็ยังคงทำต่อไป



หลังศัลยกรรมวันที่ 14




    วันนี้เข้ามาตัดไหมครั้งสุดท้ายในช่องปากค่ะ เรามาตามนัดโรงพยาบาลเช่นเดิม
เจ้าหน้าที่ให้เข้าไปนอนบนเตียงตัดไหม ยอมรับว่าเรากังวลมากถึงมากที่สุด
เพราะได้ยินมาว่าเจ็บ และเมื่อวานนี้เรามีอาการเจ็บแปลบที่แผลตรงด้านหน้าแล้วด้วย
ยิ่งกลัวไปใหญ่ค่ะ ถึงกับขั้นนอนไม่หลับ


เราเลยกินยาแก้ปวดเตรียมก่อนการตัดไหมประมาณ 30นาทีเตรียมไว้ค่ะ
มาถึงขั้นตอนการตัดไหม พยาบาลยื่นตุ๊กตาหมี ให้กอดเอาไว้ ใจเสียไปอีก ....
เอาว่ะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ถอยไม่ได้แล้วได้แต่หลับตาหยีค่ะ >> อ้าปาก >> เอียงหน้า ไม่ถึง1นาที พยาบาลดึงไหมออกมา >> เอียงหน้าอีกข้าง เสร็จแล้วค่ะ


มันไม่เจ็บเลยค่ะ แต่เรานี่กลัวไปก่อนแล้ว ในใจท่อง
ยุบหนอ พองหนอ  และแล้วการตัดไหมผ่านได้ด้วยดีค่ะ
ในปากอาจจะมีเลือดซึมๆออกมาบ้าง พี่พยาบาลแจ้งว่า
วันนี้อย่าเพิ่งทานของร้อนและรสจัด และไม่พยายามไปยุ่งกับแผลค่ะ   
พอตัดไหมเสร็จเราฉลองไป กินของอร่อยต่อค่ะ 555555555
17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-5-7 15:00:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ของคุณค่า^^ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
16#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-5-7 14:59:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ขอบคุณจ้าา><
15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-5-7 14:59:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

ฝากติดตามด้วยนะคะ เราจะมาอัพเดททุกอาทิตย์เลยค่า^^
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-5-5 11:57:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yunajjue เมื่อ 2020-5-5 11:59

หลังศัลยกรรมวันที่ 11



      
  ใบหน้าที่มีรอยเขียวช้ำ กลายเปนรอบสีเหลืองๆแล้ว
แสดงว่าความฟกช้ำน่าจะกำลังหายดีแล้วในอีกไม่ช้า
จะมีก็แต่ห้อเลือดที่ตาขวา ที่มันจางช้ามาก  แต่ไม่เป็นไรค่ะ
เราค่อยๆให้ร่างกายฟักฟื้นไปเรื่อยๆ อยากสวยต้องอดทนค่ะ (เตือนตัวเองไว้บ่อยๆ5555) วันนี้ออกมาเที่ยวสูดอากาศ เดินขึ้นเขากันค่ะ
เดินเยอะๆจะได้ลดบวมเร็ว ให้เหงื่อออกเบาๆ จะช่วยคลายความบวมได้ค่ะ
ทานน้ำเยอะๆด้วย จะได้ขับออกมาทางปัสสาวะ
แต่เพื่อนๆอย่าหักโหมไปนะคะ ถ้ารุ้สึกไม่ไหว
     ใบหน้าที่บวมเลยทำให้ยิ้มได้ไม่เต็มที่ค่ะ เหมือนคนฉีดโบท๊อกแล้วเกร็งช่วงปาก 5555 มองรูปแล้วเอ็นดูตัวเอง





เราใส่แว่นเพื่ออำพรางตาที่ห้อเลือดด้วย กลัวคนจะตกใจเอาค่ะ
แต่เอาจริงๆแล้ว ถ้าไม่บอกว่าทำศัลยกรรม ไม่มีใครรู้หรอกคิดว่าเราหน้าอ้วนเอง อิอิ


หลังศัลยกรรมวันที่ 12





วันนี้รอยเลือดที่ตาจางลงไปเยอะมากแล้ว ขอให้ใช้เวลาไม่เกิน 1 อาทิตย์
ก็คงจะหายเป็นปกติ100% แล้ว ใบหน้าดูเล็กลงมาอีกหน่อย
จากที่ถ่ายรูปด้านข้างแล้วจะมีโหนกแก้มออกมา ตอนนี้ไม่มีแล้วดีใจมากเลยค่ะ
คุณหมอโอฝีมือขั้นเทพ จิงๆ เดี๊ยวครบรอบ 14 วันจะไปตัดไหมและเช็คกับคุณหมออีกครั้ง จะได้เห็น CT Xray ของตัวเองแล้ว เย้!!  
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-4-28 12:40:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลังศัลยกรรมวันที่ 9





จากที่หยุดงานมานาน เราได้เริ่มกลับไปทำงานใช้ชีวิตปกติแล้วค่ะ
การศัลยกรรมโครงหน้าพักฟื้นช่วงวันที่ 9-10 ส่วนตัวแล้ว
ไม่นับความบวมช้ำ อาการเจ็บปวดไม่มีเลยค่ะ ใครที่กังวลว่าจะเจ็บยังคอนเฟิมว่าไม่เหมือนที่คิดไว้ค่ะ
ส่วนอาการชา มีช่วงสันกราม และริมฝีปากที่รู้สึกชาๆอยู่ค่ะ นอกจากนั้นไม่มีเลยค่ะ  
รอยแผลตรงจอนผมเริ่มมีสะเก็ดเล็กๆ พยายามไม่แกะเกานะคะ ปล่อยเขาลอกออกเองค่ะ





เพื่อนที่ทำงานทักว่า อาการบวมลดลง เริ่มเห็นใบหน้าที่เล็กลงนะ
ทำให้เรามีแรงใจที่จะลองทนต่อไปค่ะ 5555
อยากสวยต้องทนนะคะ คนที่ทำโครงหน้าคุณหมอแนะนำว่า
ช่วง3 เดือนแรก อยากจะให้ไดเอทต่อ พยายามอย่าทำให้น้ำหนักขึ้น
เพราะจะส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เล็ก อาหารรสจัด เค็ม หวาน เผ็ด
ควรงดเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบในช่องปากค่ะ
วันที่9 สามารถเริ่มใช้แปรงสีฟันเด็ก อันเล็กๆ เข้าไปแปรงเท่าที่เราจะอ้าปากได้
ส่วนยาสีฟันเลือกใช้เป็นยาสีฟันเด็กที่ไม่มีรสเผ็ด พกแปรงติดตัวเพื่อให้ช่องปากสะอาดตลอดเวลา  
ส่วนซอกฟันด้านในที่แปรงเข้าไม่ถึงใช้บ้วนน้ำยาตามค่ะ



หลังศัลยกรรมวันที่ 10






ผ่าตัดได้ 10 วันแล้ว อาการบวมจากช่วงวันแรกๆ จนมาถึงตอนนี้ ค่อยๆยุบลงเรื่อยๆเลย ดีใจค่ะ  
แต่ยังอ้าปากได้ไม่เยอะเท่าไหรแต่สามารถเอาช้อนใหญ่เข้าปากได้แลย
อาหารที่ต้องทานก็จะเน้นเป็นอาหารอ่อนๆ
อาหารชิ้นใหญ่ๆ เช่นชิ้นเนื้อยังทานได้ไม่เต็มที่ค่ะ
เพราะฟันกรามยังสบลงมาไม่ถนัดและไม่มีแรงพอจะทำให้เนื้อขาดออกจากกันได้ค่ะ
กลัวทานไปแล้วจะปวดตรงข้อต่อขากรรไกรค่ะ





เทปที่พยาบาลแปะไว้ตอนตัดไหมข้างหู มันลอกออกมานิดหน่อยเลยดึงออกไปค่ะ
สามารถล้างหนา สระผมได้ตามปกติเลยนะคะ วันนี้ลุยงานมาทั้งวัน ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ  
แล้วจะมาอัปเดตให้ฟังใหม่ค่ะ
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-4-21 13:29:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย yunajjue เมื่อ 2020-4-21 13:33

อัพเดทหลังศัลยกรรมวันที่ 7ค่า

  จริงๆแล้ว วันนี้ตรงกับวันตัดไหมครั้งแรกที่รอยแผลตรงจอนผม
แต่เป็นวันหยุกนักขัตฤกษ์ที่เกาหลี โรงพยาบาลจึงปิดทำการ
เลยเลื่อนเป็นวันถัดไปค่ะ (การตัดไหมสามารถเลื่อนออกไปได้
และไม่ควรตัดออกเร็วกว่าที่กำหนด  ซึ่งไหมไม่ควรเว้นไว้นานเกินไปค่ะ
เพื่อกันไม่ให้ไหมจม และยึดติดกับผิวแน่นเกินไป เวลาดึงออกจะเจ็บค่ะ)





  อาการโดยรวมแล้ว ถือว่าดีขึ้นมากกว่าหลังวันผ่าตัดแรกๆค่ะ
เริ่มชินกับใบหน้าบวมๆ มากขึ้น เวลาออกไปข้างนอก แนะนำพกหมวกปีกกว้าง Mask ปิดหน้า
และถ้าไม่ได้ศัลยกรรมจมูกใส่แว่นกันแดดด้วยก็น่าจะดีค่ะ เป็นการอำพรางใบหน้า และป้องกันใบหน้าเราด้วยนะคะ


หลังศัลยกรรมวันที่ 8


วันนี้กำหนดการตัดไหม และการนวดลดบวมของทางโรงพยาบาล  
เมื่อถึงเวลาที่โรงพยาบาลนัดเราเข้าไปติดต่อแจ้งชื่อที่ชั้น1 กับเจ้าหน้าที่ค่ะ
อีกสักครู่ล่ามจะแนะนำว่าเราจะไปชั้นไหน พอเจ้าหน้าที่เรียกแล้ว เราได้ไปตัดไหมที่ชั้น3
เจอกับพี่พยาบาลสุดสวย ตัดไหมใช้เวลาไม่นานค่ะ และไม่เจ็บด้วย
ไหมที่บริเวณเป็นเส้นเล็กๆ เท่านั้นไม่รู้ตัวเลยค่ะ ว่าเอาออกมาหมดแล้ว5555 จากนั้นพยาบาลใช้เทปขาวๆ แปะไว้กันแผลเลือดซึมออกมา และแนะนำว่า 1-2วัน สามารถดึงเทปออกได้ค่ะ  ไม่จำเป็นต้องล้างแผลและใส่ยาขี้ผึ้งต่อแล้วก็ได้






จากนั้นข้ามมาอีกตึกนึงของโรงพยาบาลมานวดหน้าลดบวมกันค่ะ ใช้เวลาประมาณ20 นาที ขั้นตอนคือ คลีนซิ่งใบหน้าให้เบื้องต้น
ผลัดผิวด้วยวิตามิน และใช้เทคนิกนวดด้วยมือ เพื่อให้เลือดหมุนเวียน รวมถึงการใช้เครื่อง ทาเจลเย็นๆนวดให้โดยรอบ  
ตอนที่เครื่องกดโดนไปบริเวณโหนกแก้ม รู้สึกระบมเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่จะทำแบบเบามือให้อยู่แล้วนะคะ
ไม่ต้องกังวลค่ะ พอเสร็จก็เป็นการมาส์กหน้าให้ ขั้นตอนนี้ฟินมาก สบายหน้า หน้านุ่มเลยค่ะ หลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการ เราเหลือบไปเห็นที่ชั่งน้ำหนัก
เราเลยไปลองชั่งดู ปรากฏว่า การทำศัลยกรรมครั้งนี้ และการกินอาหารอ่อนๆของเราทำให้น้ำหนักเราลดจาก 65 กิโลกรัม
เหลือ 61.4กิโลกรัม ภายในเวลาประมาณ 1อาทิตย์

แอบดีใจ แต่มันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องค่ะ 55555555
ถ้าต่อไปเริ่มเคี้ยวแล้วทานได้ น้ำหนักคงจะเด้งมาเท่าเดิม



วันนี้พยาบาลให้ผ้ารัดหน้ามา สำหรับคนที่ทำโครงหน้าโหนกแก้ม ต้องมีการรัดหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน ล่ามจะแนะนำการรัดหน้าให้ค่ะ โดยใส่วันละไม่เกิน1 ชั่วโมงต่อครั้ง และห้ามใส่นอนค่ะ
เพื่อปล่อยให้ใบหน้าได้พักบ้างค่ะ คนที่ได้ลองใส่ผ้ารัดจะเข้าใจเลยค่ะ  ว่าแรงของผ้ารัดแน่นประมาณนึงเลย ใส่เกินชั่วโมงไม่ได้จริงๆค่ะ

>> การใส่ที่ถูกต้องต้องให้ผ้าแนบกับคางและโหนกแก้มแบบนี้
ปล่อยให้ช่องหูออกมาแบบในภาพเลยค่ะ


10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-4-21 13:28:26 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
baitong9993 ตอบกลับเมื่อ 2020-4-10 01:04
ติดตามค่ะะ ต้องสวยแน่ๆ

ขอบคุณค่า รอติดตามชมได้เลยค่ะ><
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-4-21 13:27:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
woonSunitsa ตอบกลับเมื่อ 2020-4-10 10:41
รอดูอยู่น๊ะคะ อยากรู้เลยว่าจะเปลี่ยนขนาดไหน

ขอบคุณนะคะ รอติดตามชมได้เลยค่า เราจะคอยอัพเดทเรื่อยๆค่ะ^^
รอดูอยู่น๊ะคะ อยากรู้เลยว่าจะเปลี่ยนขนาดไหน
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้