ดู: 1324|ตอบกลับ: 4

[ฟิลเลอร์/โบท๊อกซ์/ร้อยไหม] {เล่าละเอียดยิบ} อัพหน้าแบบไร้รอยแผลที่ Modiface Center

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย niyadaju เมื่อ 2016-8-15 18:30

เราเป็นเซลล์ ที่อายุจะ 30 ในปีนี้แหล่ะ

ก่อนนี้ไม่เคยทำอะไรกับหน้าเลย เพราะกลัวเข็มและหน้ายังไม่มีปัญหา  
แต่ตอนนี้คิดว่าถึงเวลา เพราะตีนกาเริ่มมา ร่องแก้มเริ่มมี กรามเริ่มห้อย  
เราเลยเริ่มคิดที่จะดูแลตัวเองเพื่อบุคลิกภาพ ไม่ได้อยากสวยอะไรนะ
แค่อยากดูดี น่าคุย น่ามอง และคงความอ่อนเยาว์เท่านั้นแหล่ะ
เริ่มต้นเราก็หาข้อมูลในเน็ต อย่างคนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่อะไร

เห็นช่วงก่อนนี้ bloger หลายคน รีวิวเครื่องจำลองหน้า 3D stimulate ที่ ModiFace Center ราชเทวีคลินิก เพลินจิต
ที่สามารถจำลองทั้งศีรษะของเราออกมาแบบ 3 มิติ เห็นทุกมุมทุกปัญหา และมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการดีไซน์ใบหน้า
ช่วยวิเคราะห์ปัญหา และแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสม โดยเน้นความเป็นธรรมชาติ อืมมมม.. น่าสนใจ
เราก็เลยโทรไปนัดคิว ขอคิวยากมาก คุณหมอคิวเยอะมากๆ เรารอเกือบเดือน สุดท้ายก็ได้พบค่ะ

คุณหมอที่ประจำศูนย์นี้ มี 2 คน ชื่อคุณหมอน้อง และคุณหมอต่อ
ดูแลคนไข้คู่กันทุกเคส (เราคนเดียว มีหมอประกบ 2 คน แปลกมาก เพิ่งเคยเจอ)

คุณหมอเล่าว่า การดีไซน์ใบหน้าเป็นศาสตร์ขั้นสูง ที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้าน anatomy
และใช้เทคโนโลยีจำลองหน้าขั้นสูง ผสมผสานกัน การมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้ง 2 คนดูแลพร้อมกัน จะให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด  
ซึ่งคุณหมอต่อชำนาญเรื่องโครงสร้างใบหน้า ตั้งแต่กะโหลก จนถึงกล้ามเนื้อ และผิวหนังทุกชั้น ส่วนคุณหมอน้องเชี่ยวชาญเรื่องการปรับแต่งรูปหน้าให้รับกับบุคลิก  การใช้เทคนิคชั้นสูง และการเลือกใช้สารที่เหมาะสม ซึ่งคุณหมอแจ้งว่า ที่นี่ไม่มีการผ่าตัด เน้นปรับรูปหน้าแบบ minimal invasive เพื่อความสวยที่เป็นธรรมชาติที่สุด

ก่อนอื่น คุณหมอก็ถามเราว่า อยากปรับเปลี่ยนตรงไหน เราก็บอกยังไม่รู้เลยค่ะ
แค่ช่วงนี้รู้สึกหน้าตาไม่สดใสเหมือนสาวๆ อยากกลับไปดูดีอีกครั้ง ให้คุณหมอช่วยแนะนำหน่อย


คุณหมอก็ถามว่า งั้นมาดูปัญหาที่เรามีก่อนเนาะ จะได้แก้ไขให้ตรงจุด  
จากนั้นคุณหมอก็แนะนำให้เข้าเครื่อง 3D Stimulate ที่สามารถจำลองใบหน้าได้ลึกถึงโครงสร้าง
จะช่วยให้หมอและคนไข้ เห็นปัญหาในจุดเดียวกันได้  เราก็ตกลงเลย เพราะอยากทำอยู่แล้ว

IMG_4271.jpg    IMG_4310.jpg

คุณหมอก็ให้ผู้ช่วยก็มาเก็บผมให้เรา แล้วให้เรานั่งหน้าเครื่องเลย
เครื่อง 3D เป็นกล้อง 3 ตัว พอเราเข้าไปนั่งในตำแหน่งที่จัดไว้ แล้วผู้ช่วยจะกดถ่าย 2 แชะ
ก็เสร็จแล้ว รูปจะถูกส่งเข้าโปรแกรม เพื่อค่อยๆ จำลองหน้าเราออกมา
ละเอียดมาก เม็ดเล็กๆ จะลอยขึ้นจากขอบจอไปเรียงๆ กันทีละชั้นๆ จนกลายเป็นหน้าเรา ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที เหมือนเป๊ะเลยค่ะ

IMG_4316.jpg    IMG_4317.jpg


จากนั้นคุณหมอต่อ จะนำเครื่องมือมาวัดสัดส่วน Golden Ratio
และวิเคราะห์จากรูปจำลองว่า ปัญหาของเราคืออะไร

IMG_4361.jpg IMG_4415.jpg

ซึ่งจากการดูโครงสร้างกระดูก กล้ามเนื้อใบหน้า และไขมันใต้ผิว พบว่า

- กระดูกเหนือโหนกคิ้วยุบ ทำให้หน้าผากบุบ
- หนังตาหย่อนคล่อย ทำให้ตาเหมือนง่วงนอน
- ไขมันชั้นลึกในช่วง mid face หายไป ทำให้แก้มตก
- กล้ามเนื้อคางเกร็งหดตัว จึงดึงคางให้ดูสั้น
- ไขมันสะสมรอบกรอบหน้า ทำให้กรอบหน้าไม่ชัด

IMG_4413.jpg    IMG_4400.jpg


เมื่อรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาแล้ว คุณหมอน้องก็จะมาแนะนำวิธีการรักษา
ซึ่งมีให้เลือกทั้งเลเซอร์ ฟีลเลอร์ ร้อยไหม และโบท็อกซ์ อันไหนที่คนไข้ ok ก็เลือกทำวิธีนั้น
คุณหมอไม่ยัดเยียด เพราะมีตัวเลือกให้ ดีมากเลยค่ะ

IMG_4392.jpg

ซึ่งวิธีรักษาที่เราตกลงกับคุณหมอ คือ

- กระดูกโหนกคิ้ว เติมฟีลเลอร์
- หนังตาตก ฉีดโบท็อกซ์ ร่วมกับ Plasma Laser
- ไขมันชั้นลึก เติมฟีลเลอร์ ร่วมกับทำ Sygmalift Hifu
- กล้ามเนื้อคาง ฉีดโบท็อกซ์ 2 จุด
- ไขมันสะสมรอบกรอบหน้า ฉีดแฟต ร่วมกับ Plasma Laser
IMG_4397.jpg
IMG_4398.jpg
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-8-15 18:27:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย niyadaju เมื่อ 2016-8-15 18:30

ซึ่งคุณหมออธิบายว่า ที่ต้องทำหลายอย่าง
เพราะใบหน้าของคนเรานั้น ทุกส่วนเชื่อมโยงกันหมด
ทั้งชั้นไขมัน ทั้งกล้ามเนื้อ และโครงสร้างต่างๆ  
การเติมบางจุดที่นิยมทำกัน เช่น  เสริมคาง ทำตา หรือทำจมูก จึงแค่ทำให้หน้าเปลี่ยน
แต่ไม่ได้ทำให้หน้าดูดีขึ้น สวยขึ้น หรือ Positive ขึ้น  
การจะทำให้หน้าดูดีขึ้น ต้องมีความลงตัว และกลมกลืนของสัดส่วนใบหน้าด้วย   
ซึ่งวิธีรักษาที่ไม่แนะนำไปทั้งหมด คุณหมอก็ไม่ได้ให้ทำทุกอย่างในทีเดียวนะคะ
ให้ค่อยๆ ทำไป เพราะหน้าจะค่อยๆ เปลี่ยน จนบางอย่างอาจไม่ต้องทำก็ได้ค่ะ

แล้วคุณหมอก็จะจำลองหน้าที่ทำเสร็จแล้วออกมาให้ดูก่อนค่ะ ว่าพอใจมั้ย? ถ้าไม่พอใจก็ปรับอีกค่ะ
แต่บางอย่างถ้าเราอยากทำมากไป แต่จะไม่สวย หรือมีผลข้างเคียง คุณหมอก็จะแจ้งตรงๆ ว่า ไม่ควรทำนะ
ซึ่งตรงนี้ดีมากๆๆ เพราะคนทั่วไปไม่มีความรู้ในจุดนี้ คิดว่าทำเยอะๆ ไปเลยจะดี  แต่กลับไม่ใช่
ทำออกมาแล้วแปลก ก็ต้องไปแก้ เจ็บตัวซ้ำ แล้วยังเสียเงินเพิ่มอีก
ซึ่งการที่ได้ดูรูปก่อนทำจริง ลดความเสี่ยงของความผิดพลาดลงเยอะเลยค่ะ

ปรับกันไปมา จนสุดท้ายได้ความพอใจทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคนไข้ และคุณหมอ จึงค่อยลงมือทำค่ะ
ส่วนตัวเราวันนี้ ฉีดโบท็อกซ์คาง 2 เข็ม กับฉีดลดแฟตที่กรอบหน้าก่อน จุดอื่นยังไม่ได้ทำค่ะ
(รูปตอนฉีดไม่มีนะคะ หมอไม่อนุญาตให้เพื่อนเข้าไปถ่ายค่ะ เพราะจะรบกวนคนไข้ท่านอื่นๆ)
ตอนฉีดไม่เจ็บเลยนะคะ เพราะยาชาดีมากค่ะ ต้องทาไว้ก่อน 30 นาที แล้วถึงฉีดค่ะ
ยาชาดีสุดๆ ชายาว 2-3 ชม เลยค่ะ

ถ้าใครอยากปรับรูปหน้าให้สวยขึ้นแบบธรรมชาติ โดยไม่มีแผลเย็บ
หรืออยากสวยขึ้น แต่ไม่รู้ว่า ตัวเองมีปัญหาอะไร ต้องแก้อะไร ตรงไหน
หรือด้วยวิธีอะไรถึงจะดีที่สุด แนะนำที่นี่เลยค่ะ
คุณหมอมีความเชี่ยวชาญมาก พร้อมให้คำปรึกษา  และแนะนำวิธีรักษาให้หลายทางเลือกมากๆ
รวมถึงบอกข้อดี และข้อเสียแต่ละวิธีให้ทราบด้วยค่ะ

ซึ่งถ้าปรึกษาแล้วยังไม่รักษาเลย จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับใช้งานเครื่อง 3D 5,000 บาทนะคะ  
แต่ถ้ารักษาเลย ก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการใช้งานเครื่อง 3D ค่า

ขอจบรีวิวแบบเล่าละเอียดยิบเพียงเท่านี้นะคะ ^^
ใครอ่านมาถึงจุดนี้ คุณเยี่ยมมากค่ะ อ่านหนังสือเกินปีละ 8 บรรทัดแน่นอน อิอิ
เพราะเราเล่ายาวมาก >////<


โพสต์ 2016-8-15 20:59:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
อัพเดดหน้าให้ดูอีกนะค่ะ อยากสวยแบบไม่ต้องผ่าตัดบ้างค่ะ
โพสต์ 2016-8-17 15:08:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ดีจังเลยค่ะ เครื่องสแกนหน้าเนี้ยะ เราจะทำจมูก แต่ยังเลือกทรงไม่ได้สักที  คลินิกที่จะไปทำก็ไม่มีเครื่องแบบนี้ค่ะ ไปเสียตังสแกนที่นี่ แล้วค่อยไปทำจมูก จะคุ้มมั้ยนะ กลัวทำแล้วไม่ชอบทรง ไม่อยากไปแก้ทีหลัง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้