รีวิว เสริมจมูกกับคุณหมอมนัส เมโกะ

a_Janjao

ไม่ใช่ว่าไม่มีดั้งน่ะค่ะพอมีบาง แต่เนื้อปลายจมูกหนาเหมือนชมพู่และก็สั้น ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง เวลายิ้มหน้าตรงจมูกจะเหมือนชมพู่เลยใหญ่มาก ต้องถ่ายด้านข้างถึงจะเห็นสันจมูกแต่ก็สั้นอยู่ดี ก็เลยทำให้อยากทำจมูก ปัญหาคือแล้วจะทำที่ไหนดีหล่ะ?? แรกๆก็ดูรีวิวในเน็ตเหมือนคนอื่นๆ ว่าเค้าทำที่ไหนกันบ้าง จนไปเจอชื่อคุณหมอมนัส เมโกะ แล้วก็ชอบเพราะดูแล้วสวยธรรมชาติไม่เวอร์ ก็เลยเจาะไปดูรายละเอียดของหมอท่านนี้อย่างเดียวเลย ดูเยอะมากทั้งบทสัมภาษณ์ต่างๆ กับพี่ม้าอรนภา ยิ่งอยากเจอหมอ แต่ตอนนั่นไม่ทราบรายละเอียดเรื่องราคา แต่คิดว่าถ้าทำก็อยากจะเลือกหมอที่ดีที่สุด เพราะมันคือหน้าของเราที่ต้องใช้ไปตลอดชีวิต เลยอยากทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องแก้ไขอีก ก็เลยเลือกที่จะไปปรึกษาก่อนโดยโทรไปที่นัดที่สาขาจตุจักรอยากบอกว่ารอคุณหมอนานมากกก จำได้ว่าวันนั้นไปคนเดียวแล้วไปเจอพี่คนหนึ่งเค้าก็จะมาปรึกษาหมอมนัสเรื่องจมูกเหมือนกันเลยมีเพื่อนคุยไปพลางๆ  พอได้เจอคุณหมอมนัส คุณหมอก็ถามว่ามาทำอะไร ก็บอกว่าอยากเสริมจมูก คุณหมอก็ให้ถือกระจกดูจมูกตัวเอง แล้วก็บอกว่าหนูเป็นคนจมูกสั้น ตรงข้างสันจมูกหนาต้องตะไบ ปีกจมูกกว้างแล้วคุณหมอก็เอาไมปั่นหูแหย่ไปในจมูก แล้วบอกว่าถ้าหนูเสริมสันอย่าเดียวมันจะเชิดหมือนจมูกหมู ต้องเสริมปลายหยดน้ำด้วยแล้วหน้าจะหวานขึ้น สรุปเลยแล้วกันน่ะค่ะ คือต้องตะไบ เสริมสัน เสริมปลาย ตัดปีก (ในใจ คิดว่าจะมาเสริมอย่างเดียวเอง) แล้วคุณหมอก็รวมราคาเสร็จสับ ได้ยินก็อึ้งไปสักพักเพราะเกินคาดอย่างแรง แต่ตั้งใจไว้แล้วก็เลยตกลง (อยากสวย อิอิ) พอตกลงปุ๊ปก็เริ่มกลัวๆ มีทั้งออกมาสวย ออกมาหน้าพัง หมอบอกว่าทำอะไรทุกอย่างมีความเสี่ยงหมดแหละ ดัดฟันก็มีความสี่ยง นั่งเครื่องบินก็มีความเสี่ยง ขึ้นอยู่ว่าจะมากหรือน้อย แต่หมอบอกว่ามั่นใจในฝีมือหมอ 99.99 % ได้เลยว่าปลอดภัยความเสี่ยง 0.11 % ในใจก็คิกว่าเราคงจะไม่ได้อยู่ใน 0.11% นั้นมั้ง ก้อเลยนัดทำวันที่ 23 ธ.ค. 57 พอใกล้ถึงวันพี่ที่เค้าดูแลเราก็โทรมาคอนเฟิร์มอีกกครั้ง วันที่ผ่าตัด ทำที่สาขาเซนทรัลเวิลซึ่งไกลจากบ้านมาก คิดว่าต้องรถติดมากๆแน่เลย ได้ทำตอนประมาณ 4 โมงเย็น ได้ยามา 2 ตัว คือ แก้ปวดกับแก้อักเสบ มีค่าใช้จ่ายคือค่า คลูเพค 2 อัน  


ขออธิบายละเอียดนิดนึงน่ะค่ะ

ความรู้สึกวันนั้นไม่ตื่นเต้นเลยเฉยๆน่ะ เริ่มแรกพี่เค้าก็ให้เราล้างให้สะอาด  ทานยาคลายเครียด 2 เม็ดแล้วพี่เค้าก็ให้ไปนอนที่เตียงเพื่อตัดขนจมูก พอเสร็จก็นอนรอยาออกฤทธิ์ ก็เลยใช้เวลานี้หลับไปเลย55 เป็นคนหลับง่ายอยู่แล้ว ดูเวลาก็ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ พี่เค้ามาเรียก ตอนที่ตื่นรูสึกมึนมาก เหมือนยืนเองไม่ได้ พี่เค้ามาพยุง (สงสัยจะง่วงค้างหรือฤทธิ์ยาก็ไม่รุ) ย้ายไปนอนอีกห้องหนึ่งพี่เค้าก้อมาฉีดยาชากี่เข็มไม่รุแต่เจ็บมากๆ มากที่สุดคือตรงปลายจมูกน้ำตาไหลเลย สักพักไม่นานมาก คุณหมอก็มาหมอถามว่าอยากได้แบบไหน แต่เราไม่ได้บอกสิ่งที่อยากได้แต่บอกสิ่งที่ไม่อยากได้คือบอกว่าไม่อยากปลายจมูกเหมือนชมพู่ และก็บอกว่าเอาแบบธรรมชาติแค่นั่นแหละ หมอก็เริ่มเลย หมอบอว่าถ้าเจ็บแล้วบอกนะเดี๋ยวเพิ่มยาชาให้ไม่ต้องทนเจ็บ ตอนทำไม่เจ็บ พอเริ่มเจ็บก็บอกหมอหมอก็ให้ยาชาเพิ่ม อยากบอกหมอว่า ฉีดยาชาเจ็บกว่าคุณหมอทำอีกค่ะ รวมแล้วเกิน10เข็มน่ะ เยอะอยู่แอบมองหมอทำเหลาซิลิโคนแล้วก็เสียบเข้าไปรู้สึกว่าหมอเสียบเข้าไป แต่ยังไม่ได้มั้งเลยดึงออกมาเหลาใหม่แล้วก็เสียบไปใหม่ ตอนที่เสียวที่สุดคือตอนตะไบ ไม่เจ็บน่ะแต่มันดังครืดคราดเหมือนมันจะทิ่มตายังไงไม่รุ ตัดปีกตอนไม่รุ ไม่รุสึก แล้วก็เย็บเสร็จสับ คุณหมอก็หยิบกระจกให้ดู แต่ตอนนั่นบอกตามตรงมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเลยแค่บวมขึ้นมา แต่พี่เค้าบอกว่าหน้าเปลี่ยนเลย (ในใจมองยังไงเปลี่ยนมันเหมือนบวมอย่างเดียว) แล้วพี่เค้าก็ใส่เฝือกให้ ทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วพาไปนอนอีกห้องนึงเพื่อประคบเย็น พี่เค้าบอกว่าอีก15 นาทีเดี๋ยวมาเรียก ก็เลยนอนหลับเลย สรุป45นาทีจ้า พี่เค้าลืมมาเรียก เราก้อหลับ จากนั่นก็กลับได้เลย แม่นั่นรอหง่าวเลย
ขอโทษที่พิมพ์ซะยาวเลยเด๋วให้ดูรูปก่อนทำน่ะค่ะ