|
พี่โอมพูดได้ตรงใจเลยคะ
ตอนแรกที่ได้ปรึกษากับคุณหมอและนัดคิวได้ เดือนกว่าๆก็รู้สึกว่านานจัง
แต่ตอนไปนัดก็ลังเล ชั้นจะทำดีมั้ยนะ ตอนเข้าไปก็เริ่มกลัวๆเกรงๆ
เห็นคนที่จะมาทำ บางคนก็คุณหมอนัดมาพบ บวมกันมาโด่งกันมา แล้วก้อพวกคือกลัวเอียงบ้างอะไรบ้าง
บางคนก็ทำจากที่อื่นมาจะมาแก้ (อันนี้เห็นแล้วก็บั่นทอนจิตใจไปเยอะเพราะของเค้าดูไม่สวยเอาซะเลย
เราทำแล้วจะเป็นแบบนี้มั้ย)
ใจหนึ่งก็อยากทำหาข้อมูลมาตั้งนานแล้ว แต่ที่บ้านก็คัดค้าน พอได้คุยกับคุณหมอก็รุ้สึกดีขึ้นมาอีกว่าเราทำแล้วสวยกว่าเดิม
แต่เดินออกมาจากห้องก็ได้เจอคนที่จะมาแก้จมูกอีก โอ้ย....ทำดีมั้ยเรา
แต่อยากสวยก็นัดคุณหมอเลยแต่คิดซะว่าคิดยาวก็มีเวลาทำใจและตัดสินใจ
และคิดอย่างที่พี่โอมบอกยิ่งคุณหมอผ่านมาหลายเคสก็ยิ่งเก่งขึ้นชำนาญขึ้น
เราต้องสวยขึ้นแน่ๆ คงไม่เป็นอย่างคนที่เราเห็น
การรอคอยมีเป้าหมายจิง คือรอวันที่เราจะดูดีขึ้นกว่าเดิม
ทำให้เราได้คิด ได้หาข้อมูลเพิ่มเติม เราอาจได้เห็นต้นแบบจากหลายๆคนที่ทำมาแล้วหน้าแบบนี้
ทำทรงนี้ออกมาเป็นไง แล้วถ้าเราละ จะเข้ากันมั้ย
มีเวลาทำใจ จากตอนแรกลังเลก็เริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆว่าชั้นจะทำแน่ๆแล้วไม่ลังเล เพราะถ้าชั้นไม่ทำก็ต้องคิดว่าอยากๆไปเรื่อยๆ
เวลาในการรอคอยช่วยให้เรามีสติมากขึ้น เมื่อถึงวันทำจริง จะได้เตรียมทุกอย่างให้พร้อม
ทั้งข้อมูล รูปภาพแบบ ความพร้อมของร่างกายและจิตใจ
การรอคอยช่วยได้เยอะจิงๆคะ |
|