เจ้าของ: karat
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[โปรทัวร์ศัลยกรรมเกาหลี] ข้อมูลศัลยกรรมเกาหลี

[คัดลอกลิงก์]
26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:14:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตัวอย่างที่สามเป็นการทำให้หน้า สมมาตรขึ้นของ IDHospital ค่ะ

00.jpg (39.59 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 7)

00.jpg
27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:15:08 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลังการผ่าตัดผู้ป่วยควรจะบริหารกรามบ่อยๆเพื่อป้องกันกรามล๊อคค่ะ อันนี้คุณหมอที่ทำการผ่าตัดคงจะแนะนำอีกทีเรื่องการดูแลหลังการผ่าตัดค่ะ
ส่วนอีกหลายๆคลีนิคที่มีการผ่าตัดกรามเดี่ยวแนะนำด้านล่างบทความนะค่ะไปอ่าน ให้เพลินๆทีหลังได้ค่ะ
สนนราคาของโรงพยาบาลนี้ก็แพงเช่นกันค่ะ เริ่มต้น 4500 USD พักโรงพยาบาลฟรีสองคืนค่ะ
ส่วนที่คลีนิคอื่นๆก็อาจจะถูกหรือแพงกว่า บางที่ก็ประมาณ 3500 USD ค่ะ (ราคาต่างชาติ)
การเตรียมตัวรับกับอาการบวมนั้นแนะนำให้กินสมุนไพรที่กล่าวไว้ข้างต้นเพื่อ ลดการบวมและอักเสบค่ะ

อ้อลืมเล่าให้ฟังว่า เคยมีเพื่อนของเพื่อนไปผ่าตัดลดกรามที่ไทยนี่หละค่ะกับหมอชื่อดังท่านนึง ไม่ขอเอ่ยนามนะค่ะ ราคาก็แพง(แสนต้นๆ) แถมผ่าตัดเสร็จจากกรามที่เป็นแค่ข้างละเหลี่ยมกลายเป็นหน้ากระจกสี่เหลี่ยม (นึกออกไหมค่ะว่าการตัดกรามไม่ใช่แค่ตัด จะต้องเกลากรามด้านข้างให้สวยเนียนไปตามรูปกรามจริงๆด้วย ) แต่หมอท่านนี้สักแต่จะตัดแต่ไม่เกลาให้เขา เลยกลายเป็นหน้าด้านข้างมีข้างละสองเหลี่ยมค่ะ น่าสงสารจริงๆ

แสดงความคิดเห็น

เป็นการแก้ไขจุดบกพร่องของใบหน้า ทำแล้วดูดีมากเลยค่ะของเค้าแน่จิงๆ  โพสต์ 2011-2-12 19:20
28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:15:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต่อมาขอพูดถึงการผ่าตัด วีไลน์(v-line) หน้าแบบวีไลน์คือหน้ารูปไข่นั่นเอง คางมนๆ เรียวๆ
การผ่าตัดวีไลน์ก็คือการผ่าตัดช่วงล่างของใบหน้าให้แคบและเรียวลงนั่นเองมี การผ่าตัดรวมสองขั้นตอนค่ะ
1. เป็นการผ่าตัดลดขนาดกราม (ตัดมุมกรามและตัดแยกกระดูกด้านนอกออก)
2. ลดความกว้างของกระดูกคาง
ไม่ขอกล่าวในส่วนของการผ่าตัดลดขนาดกรามนะค่ะเพราะได้พูดแล้วข้างต้น
การลดความกว้างของกระดูกคางดูได้จากรูปชัดเจนเลยค่ะ
29#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:17:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สนนราคาในการผ่าตัดวีไลน์นั้นก็บวกไปสองเท่าตัวของการผ่าตัดกรามค่ะ(คำนวณดู นะค่ะ ) อาจจะมีส่วนลดในบางคลีนิคถ้าทำการผ่าตัดเกิน 10,000 USD ค่ะ
มาดูรูปตัวอย่างวีไลน์กันเลยค่ะ เป็นรูปตัวอย่างจาก ID Hospital ค่ะ(ที่เอาตัวอย่างจากไอดฮอสพิทัลมา เนื่องจากว่าเห็นเขาว่ากันว่าที่นี่จะเชี่ยวชาญด้านนี้ที่สุดค่ะ

vline_simul.gif (395.04 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 11)

vline_simul.gif
30#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:27:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เหนื่อย....จัง
พักแปบน่ะคับ
วิชาการมากมาย
31#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:28:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เนี่ยะเลยเป็นเหตุผลที่ทำมห้ผมอยากไปเกาหลี
ไปกันน่ะ
ไปกันๆ
จัดทริปในดั้งโด่งเลยครับ
อยากไปมากมาย
น๊าาาาาาาาาา....
32#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:29:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต่อๆๆ..........
33#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:30:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เราว่าคางแหลมไปนิดหรือเปล่า? แต่ถ้ายิ้มอาจจะกำลังพอดี เอะหรือว่าคางพอดีแล้วแต่ส่วนโหนกแก้มยังกว้างอยู่เลยดูคางแหลม?

1010.jpg (35.44 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 5)

1010.jpg
34#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:31:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นี่เรยยยยยยยย....ว๊าววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
การผ่าตัดลดโหนกแก้ม (Cheek (Zygoma) Reduction) ก็เป็นอีกวิธีนึงในการลดความกว้างของใบหน้าโดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างเราๆ ทีนี้ถามว่าเกาหลีกับไทยต่างกันไหม ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงโครงสร้างโหนกแก้มของเรากันก่อนว่าในการจะลด ความกว้างของโหนกแก้มนั้นมีสามจุด กระดูกโหนกแก้มนั้นจะมีส่วน body และ arch ส่วนบอดี้คือส่วนหน้า (หมายเลข 1) เป็นส่วนที่เพิ่มความนูนของใบหน้าทำให้หน้าเกิดมิติ ส่วนที่ 2 ก็เช่นกัน ซึ่งคนแถบๆเอเชียนั้นจะมีส่วนนี้มากกว่าคนแถวๆยุโรป (สังเกตุได้ว่าคนยุโรปมักจะชอบเสริมโหนกแก้ม ซึ่งเป็นการเสริมส่วนนี้ค่ะ) และ ส่วน 3 คือส่วนด้านข้าง (arch) คือส่วนกำหนดความกว้างของใบหน้าเรานี่ละค่ะ

แสดงความคิดเห็น

ดูแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะขอบคุณที่เอามาลงให้ชมนะค่ะ  โพสต์ 2011-2-12 19:22
35#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:31:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ในการลดความกว้างและความสูงของโหนกแก้มนั้นการตัดกรอกระดูกโหนกแก้มมักจะไม่ ได้ผลสักเท่าไรเพราะกระดูกโหนกแก้มเป็นกระดูกที่บาง และอาจจะส่งผลในอนาคตเมื่อกระดูกเราบางลง
การผ่าตัดลดโหนกแก้มที่เกาหลีนั้น จะขอกล่าวถึงวิธีที่ทราบว่าเขาทำๆกันนะค่ะ คือเคยได้ยินเพื่อนบอกว่าที่เกาหลีเขาทุบโหนกแก้มกัน (เห็นจากทีวี) อันนี้จากการที่ศึกษามา ไม่เห็นคนไปทุบ ก็เลยไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าเขามีกี่วิธี อันนี้ขอกล่าวถึงวิธีทั่วไปที่คลีนิค หรือโรงพยาบาลหลายๆแห่งที่เกาหลีนิยมกันค่ะ
หลายๆคลีนิคก็จะมีการตัดส่วนที่ 1 กับ 3 (หมอบางท่านก็ตัดส่วนที่ 2 ด้วยอย่างเช่นหมอPark ที่ Ozclinic เขากล่าวว่ามันทำให้เมื่อยุบทั้งสามจุดแล้ว ทำให้ดูกลมกลึงขึ้นกว่าการตัดยุบแค่สองจุด ) แล้วเลื่อนกระดูกที่ตัดเข้าไปไปหลังจากนั้นก็ใช้ตัวช่วยในการยึดกระดูกให้ ติดกัน ไม่ว่าจะเป็นสกรู ลวดหรือมินิเพลต (mini-plate)

45.JPG (20.35 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 7)

45.JPG
36#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:32:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ในการลดความกว้างและความสูงของโหนกแก้มนั้นการตัดกรอกระดูกโหนกแก้มมักจะไม่ ได้ผลสักเท่าไรเพราะกระดูกโหนกแก้มเป็นกระดูกที่บาง และอาจจะส่งผลในอนาคตเมื่อกระดูกเราบางลง
การผ่าตัดลดโหนกแก้มที่เกาหลีนั้น จะขอกล่าวถึงวิธีที่ทราบว่าเขาทำๆกันนะค่ะ คือเคยได้ยินเพื่อนบอกว่าที่เกาหลีเขาทุบโหนกแก้มกัน (เห็นจากทีวี) อันนี้จากการที่ศึกษามา ไม่เห็นคนไปทุบ ก็เลยไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าเขามีกี่วิธี อันนี้ขอกล่าวถึงวิธีทั่วไปที่คลีนิค หรือโรงพยาบาลหลายๆแห่งที่เกาหลีนิยมกันค่ะ
หลายๆคลีนิคก็จะมีการตัดส่วนที่ 1 กับ 3 (หมอบางท่านก็ตัดส่วนที่ 2 ด้วยอย่างเช่นหมอPark ที่ Ozclinic เขากล่าวว่ามันทำให้เมื่อยุบทั้งสามจุดแล้ว ทำให้ดูกลมกลึงขึ้นกว่าการตัดยุบแค่สองจุด ) แล้วเลื่อนกระดูกที่ตัดเข้าไปไปหลังจากนั้นก็ใช้ตัวช่วยในการยึดกระดูกให้ ติดกัน ไม่ว่าจะเป็นสกรู ลวดหรือมินิเพลต (mini-plate)
37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:33:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วิ๊งๆๆๆ
Wow
เห็นทางสว่างแร็วววววววววววววววววววว

44.jpg (19.16 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 6)

44.jpg
38#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:34:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จากรูปการผ่าตัดแบบติดลวด mini plate,หรือสกรูค่ะ
บางคลีนิคก็จะทำการผ่าตัดสองทาง คือผ่านทางจอนผมแผลเป็นประมาณ 3 มิลลิเมตร กับเข้าทางปากเพื่อไปตัดส่วนหน้าของโหนกแก้ม บางคลีนิคก็ผ่านทางปากอย่างเดียว (ที่เกาหลีส่วนใหญ่จะเข้าสองทางค่ะ ) หมอไทยก็มีเช่นกัน ที่โด่งดังมีชื่อเสียงได้แก่คุณหมอจรัญ เพราะคุณหมอเป็นหมอท่านแรกที่คิดค้นวิธีการผ่าตัดลดโหนกแก้มผ่านทางปากคนแรก ของโลก(ถ้าจำไม่ผิด)ค่ะ สนนราคาของคุณหมอก็ 90,000 บาทค่ะ ส่วนทางเกาหลีจะเน้นวิธีการผ่าตัดเข้าสองทาง ซึ่งหมอบางท่านก็บอกว่าการผ่าตัดทางจอนผมร่วมด้วยนั้นเป็นวิธีเก่าแล้ว แต่ในทางกลับกันหลายๆท่านเชื่อว่าการผ่าตัดเข้าทางจอนผม(สำหรับการผ่าตัดที่ เกาหลีจะมีแผลเป็นเล็กมากแค่ 3 มิล) ร่วมด้วยนั้นเป็นการลดการกระแทกเนื้อเยื่อต่างๆให้มีการอักเสบและบอบช้ำน้อย เท่าที่สุด ทำไมหรือค่ะ? เนื่องจากว่าการผ่าตัดโหนกแก้มเป็นการผ่าตัดใหญ่ ฉะนั้นจึงต้องระวังการกระทบกรเทือนเนื้อเยื่อต่างๆ และการที่เราไปเซาะแยกเนื้อเยื่อกับกระดูกมากๆนั้น ไม่ได้เกิดผลดีสักเท่าไรค่ะ เนื่องจากหลังผ่าตัดนั้น หลายๆคนมีปัญหาเนื้อหย่อนหลังจากที่ยุบโหนกแก้มแล้ว แต่หมอหลายๆท่านก็แก้ด้วยการยุบโหนกแก้มลงแต่ไม่มากเกินควร 0.5 cm เพราะเชื่อว่ายิ่งยุบน้อยเท่าไรก็ยิ่งมีผลต่อเนื้อหย่อนน้อยเท่านั้น อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณาณนะค่ะ ว่าจะเชื่อแบบไหน
ภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ คือ
- เลือดไหลไม่หยุดและมีอาการบวม
- การติดเชื้อ
- การไม่สมมาตรของใบหน้า (ป้องกันได้ด้วยการผ่าตัดอย่างระมัดระวัง ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยก็สามารถป้องกันปัญหานี้ได้)
- การบาดเจ็บของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงส่วนหน้าผาก ดังนั้นการผ่าตัดเข้าสองทางจึงค่อนข้างจะดีกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ ของเนื้อเยื่อให้น้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของเส้นประสาทค่ะ
ทีนี้ถามว่าที่ไทยมีการผ่าตัดแบบไหนบ้างก็ต้องบอกว่ามีทั้งแบบผ่านจอร์นหู กับแบบเข้าในปาก หรือผ่าตัดทั้งจอนหูและในปากร่วมกัน (ถ้าคิดจะไปปรึกษาคุณหมอที่ไทย ยังไงก็ต้องถามเรื่องนี้ให้เคลียนะค่ะว่าเข้าทางไหนกันแน่ ที่สืบทราบมาคุณหมอจรัญจะผ่าตัดเข้าทางปาก อ้อมีอีกท่านคือคุณหมอจุฑาค่ะ ) และของไทยแท้ต้องติดสกรูค่ะ
39#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:35:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จากรูปสกรูสามารถมองเห็นได้ในแผ่น เอ็กซเรย์


จากรูปเป็นฟิล์มเอ็กซเรย์การลดความ กว้างของใบหน้า(ลดโหนกแก้ม ตัดกราม ทำวีไลน์) ของ ID Hospital ซึ่งจะมีสกรูติดค่ะ

rrrr.jpg (16.6 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 5)

rrrr.jpg
40#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:35:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ลืมบอกไปว่าคลีนิค Oz clinic นั้นการลดโหนกแก้มบนใบหน้าจะไม่ติดสกรูค่ะ

ถ้าถามว่าแล้วมีแบบไม่ติดสกรูด้วยหรอค่ะ ขอตอบว่ามีค่ะ หลายๆคลีนิคในเกาหลีคำนึงถึงข้อเสียข้อนี้ดี เพราะหลายๆท่านไม่ชอบความรู้สึกที่ว่ามีสิ่งแปลกปลอมมาติดในหน้าของเรา จึงได้คิดค้นวิธีใหม่เป็นการผ่าตัดแบบไม่ติดสกรู
ทำอย่างไรหรือค่ะ?
คือการทำการตัดส่วนโหนกแก้มส่วนหนึ่งแบบ incomplete คือตัดแต่ไม่หมด แล้วก็ตัดส่วนที่สามหลังจากนั้นย้ายส่วนที่สามจมเข้าไปในกระดูกด้านข้างๆจอน ผมทิ้งไว้แบบนั้นโดยที่ไม่ต้องติดเหล็ก ลวดหรือสกรูใดๆ หลังจากนั้นร่างกายจะสร้างกระดูกมาสมานส่วนที่ไม่มีการเชื่อมเอง ก็เสร็จขั้นตอนค่ะ
ถามว่าแล้วมันดีกว่าหรือเปล่า หมอบางท่านเชื่อว่า (อ้างอิงมาจากคุณหมอ Hong-Cheol Lim จากคลีนิค Mecca Esthetic Clinic www.psmecca.com ) การที่ไม่ติดสกรูนั้นสามารถลดคามกว้างของโหนกแก้มได้มากกว่าการติดสกรูแน่ นอนค่ะ บาง และที่สำคัญไม่มีลวด เหล็ก หรือสกรูอยู่บนใบหน้าเราให้กวนใจค่ะ (เวลาเราไปเอ็กซเรย์ใบหน้าพวกเหล็กลวดอะไรพกนี้เห็นชัดเจนบนฟิล์มเอ็กซเร ย์ค่ะ ) ดูภาพกันเลยนะค่ะ ว่ามันต่างกับแบบสกรูจริงไหม
41#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:36:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
จากรูปเปรียบเทียบด้านขวา เป็นการติดสกรู ด้านซ้ายไม่ติดสกรูค่ะ จะเห็นได้ว่าด้านซ้ายดูแคบกว่าด้านขวาเล็กน้อย สักประมารสองสามมิล (ถือว่าลดได้เยอะนะค่ะ)

qrerer.jpg (17.36 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 5)

qrerer.jpg
42#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:36:38 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แล้วทีนี้ผลหลังจากผ่าตัดหรือค่ะ บางท่านบอกว่าเวลาคลำ(แบบไม่ติดสกรู) เราก็จจะเจอปุ่มกระดูกตรงส่วนที่ไม่ได้ต่อกับส่วนสองนะค่ะ เป็นปุ่มเล็กๆนิดเดียวไม่ก่อให้กิดความรำคาญ ดีกว่าติดสกรูค่ะเพราะไม่อยากไปหาหมอแล้วเจอลวดบนแผ่นเอ็กซเรย์ใบหน้าค่ะ อันนี้แล้วแต่ชอบนะค่ะ
ส่วนสิ่งที่ต้องระวังนะค่ะคือ Sagging skin การหย่อนยานของเนื้อหลังจากผ่าตัดลดกระดูกโหนกแก้ม อันนี้ให้คำนึงถึงวิธีการผ่าตัดให้ดีอย่าให้คุณหมอไปรบกวนหรือแยกเนื้อเยื่อ กับกระดูกมากไปไม่งั้นอาจจะมีผลหลังผ่าตัดในเรื่องผิวหย่อนค่ะ บางคนก็บ่นหลังจากผ่าตัดแล้วตอนแรกขอให้หมอลดให้เยอะๆ (บางคลีนิคที่ชาวเกาหลีนิยมไปกันอย่างเช่น cinderella มักจะตัดลดแบบเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จนหน้าเล็กเลยค่ะ ) พอผลที่ออกมาคือหน้าเล็กไปเลยแต่ได้แก้มหย่อนเข้ามาเลยอยากเสริมกระดูกโหนก แก้มกลับไป อิอิ อันนี้พิจารณาคลีนิคดีๆนะค่ะ บางคลีนิคก็ตัดมากเกิน บางคลินิคทำพอดีๆเพราะเข้าใจเรื่องพวกนี้ดีค่ะ
อีกอันนึงคือ ความสมดุลระหว่างหน้าด้านขวากับซ้าย อย่างที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าคุณหมอ Park จาก IDhospital จะเชี่ยวชาญด้านนี้ค่ะ
ส่วนวิธีลดการบวมก็หาอ่านได้จากการ ลดอาการบวมหลังจากผ่าตัดเสริมจมูกค่ะ
ขอปิดประเด็นเรื่องผ่าตัดโหนกแก้มนะค่ะ ยังไงถ้าสนใจคลีนิคไหนก็หาอ่านได้หลังบทความด้านล่างนะค่ะ เดี่ยวจะเอารายชื่อคลีนิคมาแนะนำกัน
ขอเครดิตรูปภาพใก้กับคุณหมอพาร์ค จากคลีนิค ozclinic มา ณที่นี้ด้วยนะค่ะ
43#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:38:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มาต่อเรื่อง Facial contouring
45#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:39:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มาว่ากันถึงเรื่องของการผ่าตัดกระดูกคางบ้างค่ะ
การเสริมคางของเกาหลีนั้นสำหรับคนคางสั้นหรือคางหุบนั้น ก็มีทั้งใส่แบบซิลิโค กอร์เท็กซ์ เม็ดพอร์ ไขมัน ผ่าตัดผ่านข้างในปาก ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้นๆค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีอีกวิธีนึงที่นิยมเช่นกัน และผลที่ได้ก็ค่อนข้างธรรมชาติ คือการผ่าตัดเลื่อนคางด้วยกระดูกจริงของเรา หลักการก็คือการตัดกระดูกตรงส่วนคาง แล้วเลื่อนกระดูกคางของเราไปด้านหน้าและติดลวดค่ะ สำหรับการผ่าตัดแบบนี้ในไทยก็มีเช่นกันค่ะ ที่เคยได้ยินมาก็คุณหมอจุฑา จันทร์ศรีค่ะ ส่วนที่เกาหลีกรรมวิธีก็คล้ายกันเลยค่ะ วิธีก็ดูได้จากรูปค่ะ รูปแรกเป็นการตัดกระดูกคาง รูปที่สองคือการเลื่อนไปด้านหน้าแล้วใช้วัสดุเชื่อมคางเข้าด้วยกันค่ะ
46#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:40:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การตัดเลื่อนคางที่ยาวเกินไป กรรมวิธีก็คือตัดกระดูกคางออกสองส่วน แล้วเลื่อนเข้าค่ะ ดูจากรูปเลยนะค่ะ
ส่วนการพักฟื้นอันนี้ก็ไม่นานประมาณหกวันได้ค่ะแล้วแต่ว่าใครบวมมากน้อยแค่ ไหน

7053.jpg (18.5 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 5)

7053.jpg

F_mento_reduce.jpg (25.56 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 5)

F_mento_reduce.jpg
47#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:41:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต่อไปคือการผ่าตัดเสริมหน้าผาก
อยากทำที่สุดในสามโลก..............เรย
เค้าว่ากันว่า ดาราเกาหลี ทำกันเยอะมากกกกกกกกกก
48#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:42:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เคยเห็นหน้าผากโหนกนูนของดาราเกาหลีไหมค่ะ หลายๆคนก็เลยฮิตไปทำการเสริมหน้าผากกัน ถ้าบ้านเราที่เห็นๆว่ามีหน้าผากโหนกนูนสวยก็คงน้องปอยนี่ละค่ะ วัสดุที่ใช้ในการเสริมหน้าผากนั้น เป็นซิลิโคนที่จัดเตรียมมาเพื่อหน้าผากเราโดยเฉพาะ จะจัดวัดสำหรับหน้าผากเราเองเลย หรือบางครั้งถ้าเราอยากจะใช้ไขมันตัวเองก็ได้ แต่ก็ต้องมีการผ่าตัดหลายที่และมีการจัดคัดไขมันอย่างดีไว้มิฉะนั้นการสูญ เสียไขมันในระหว่างทีฉีดกลับเข้าไปและหลังจากที่ปลูกไขมันถ้าเราเลือกไขมัน เกรดไม่ดีอาจจะติดได้น้อยด้ยค่ะ อันนี้เห็นเขาว่ามีคลีนิคที่เกาหลีที่เชียวชาญด้านไขมันโดยเฉพาะชื่อคุณหมอ ยัง ยีฮุย เวบไซต์ www.kangnamps.co.kr Kangnam plastic surgery Dr Young Yihui ค่ะ ส่วนข้อดีข้อเสียระหว่างซิลิโคนกับไขมันนั้น คือซิลิโคนจะอยู่ถาวร (คล้ายๆหน้ากากแต่สวมตรงหน้าผากค่ะ) ใช้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ในการจัดทำแผ่นหน้ากากหน้าผาก โดยใช้พลาสเตอร์เป็นหลอมจำลองหน้าผากเราค่ะ กรรมวิธีก็คือเจาะแผลไปที่หนังศรีษะประมาณสี่ถึงห้าเซ็นต์แล้วใส่ซิลิโคน เข้าไปค่ะ ดูรูปค่ะ
49#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:43:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
555+
เจ๋งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง.....มั๊กคัฟ
ไปทำกาน ไปทำกาน

F_foreheadimplant.jpg (4.73 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 6)

F_foreheadimplant.jpg
50#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-4-28 21:45:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ส่วนการเสริมด้วยไขมันข้อดีคือไม่มีแผลเป็นค่ะแต่หลังจากนั้นไขมันอาจจะสลาย อาจจะต้องมีการมาเติมทุกๆหกเดือนค่ะ
เกือบทุกคลีนิคที่เกาหลีจะมีบริการเสริมหน้าผากโดยซิลิโคนนะค่ะ ยังไงก็หาอ่านรายละเอียดได้ค่ะ อาจจะยากนิดนึงเพราะป็นภาษาเกาหลี แต่บางคลีนิคก็มีบริการภาษาอังกฤษค่ะ

F_forehead.jpg (6.37 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 7)

F_forehead.jpg
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้