12
กลับไป ตั้งกระทู้ใหม่
เจ้าของ: pekk
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ใครเคยฉีดฟิลเลอร์ตัว aquaderm มั่งครับ

[คัดลอกลิงก์]
ฟิลเลอร์ตัวนี่ไม่สลายนะคัา ถ้าจะสลายต้องใช้เวลา5ปีและอาจมีผังผืด
ถามหมอมาเป็น10ๆท่าน แล้วอย่าหลงไปฉีดละ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:41

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:25

หลังจากได้สอบถามไปยังแพทย์หลายๆ คน ก็พบว่า ให้คำตอบไม่เหมือนกัน

แต่พอได้เจออาจารย์หมอ ซึ่งท่านบอกว่าเรื่องนี้หมอไม่ค่อยเอ่ยถึง เพราะคนไข้ หรือคนที่เข้ามาใช้บริการ จะรับไม่ได้

ความจริง คือ

1. แบบชั่วคราว

คอลลาเจน เป็นสารธรรมชาติที่สกัดจาก คอลลาเจนของวัว สามารถนำมาใช้ลดริ้วรอยที่ใบหน้าและเสริมแต่งบริเวณใบหน้าและริมฝีปาก

โดยปกติจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน เนื่องจากเป็นสารที่สกัดจากเนื้อเยื่อธรรมชาติ ทำให้มีโอกาสแพ้ประมาณ 3 - 5 %

ดังนั้นจึงต้องทำการทดสอบก่อนการฉีดยา  ข้อด้อยของคอลลาเจน คือ เป็นสารที่มีราคาแพงและอยู่ได้ระยะเวลาสั้น

แต่อย่างไรก็ตาม คอลลาเจน ถือเป็นสารธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูงในการใช้ฉีดที่ใบหน้า

เช่น  Zyderm, Zyplast

สารกลุ่มนี้สังเคราะห์จากสัตว์ เช่น วัว พวกนี้สลายหมดไวมาก และปลอดภัย แต่ต้องเทสก่อน ในรายที่แพ้สัตว์ชนิดนั้น เช่นแพ้เนื้อวัว


2. แบบไม่ถาวร

สารเจ้าปัญหา ที่ ในความเป็นจริงคือ ฉีดแล้วมีการสลาย แต่บอกไม่หมด คือ แปลว่า สลาย แต่อาจสลายไม่หมด

เช่น หากฉีดจมูก แล้วภายหลังไปเสริมจมูก ในขณะที่ยังสลายไม่หมด ก็จะต้องขูดออกเช่นกัน

สารกลุ่มนี้ เช่น Restylane , Hydrafill , Hylaform , Juvenderm เป็นต้น ยี่ห้อที่ผ่าน อ.ย. ไทยได้แก่ Restylane

สารกลุ่มนี้แบ่งได้ 2 อย่าง คือ

แบบแรก

Hyaform gel (Bio Matrix , me, Ridgefield, NJ) สกัดมาจากหงอนไก่ ในกลุ่มนี้จะมีสารที่ใช้ฉีด ได้แก่  Hyaform fineline, Hyaform, Hyaform plus โดยมีความเข้มข้นประมาณ 6 มก./ซีซี

สามารถนำมาใช้ลดริ้วรอยใต้ตา, ร่องแก้ม และร่องลึกของบริเวณใบหน้า โดยที่ Hyalorm fineline ใช้สำหรับฉีดใต้ตา ส่วน Hyaform plus เป็น form ที่ออกแบบให้มีอายุนานประมาณ 8 เดือน - 1 ปี ใช้สำหรับฉีดร่องลึก

แบบสอง

Restylane (Q Med, Uppsala, Sweden) เป็นสารที่สกัดมาจาก น้ำตาลที่ถูกย่อยโดยแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส

จึงได้สาร Hyarulan Restlane มีความเข้มข้นสูงกว่า Hyaform  โดยมีความเข้มข้น 20 มก./ซีซี

สารกลุ่มนี้ คือ Restylane และ Prolane โดยที่ Prolane สามารถอยู่ได้นานกว่า Restylane  สามารถใช้ฉีดเสริมใบหน้า, ริมฝีปาก และลดริ้วรอยของร่องแก้ม

ข้อดีของ hyaluran คือไม่มีการแพ้ และสามารถฉีดโดยไม่ต้องทดสอบถ้าต้องการฉีดเพิ่มเติมสามารถฉีดเพิ่มได้ใน 2 อาทิตย์


3. แบบกึ่งถาวร

เช่น Artecoll , Artrfill , Aquamid  , Radiesse เป็นต้น

สารกลุ่มนี้ผ่าน อ.ย. ในหลายประเทศ ยกเว้นไทยเรา

สาเหตุที่ไม่ผ่าน เพราะอยู่นานเกินไป หากจะทำอะไรในระหว่างที่ยังสลายไม่หมด จะต้องขูดออกเช่นกัน

สารกลุ่มนี้อยู่ในประเภท polymethylmethacrylate (PMMA) ซึ่งจะอยู่ในร่างกายได้นานถึง 3-5 ปี กันเลยทีเดียว บางชนิดจะนานกว่านี้ก็มี เช่น

-- Articoll (Rofil Medical International B.V.Bresda Netherlands) เป็นสาร Polymethyl methacrylate ที่แขวนลอยอยู่ในคอลลาเจน
โดยที่คอลลาเจนจะเป็นตัวพาอาคิดเลตเข้าไปในเนื้อเยื่อและคอลลาเจนจะสลายไปโดยที่อาคิเลตจะอยู่ในเนื้อเยื่อต่อไป  Articoll สามารถใช้ฉีดร่องแก้ม, ริมฝีปาก, แผลเป็น

-- Dermalive เป็นสาร  methylmethacrylate เช่นเดียวกับ Articoll แต่แขวนลอยอยู่ในไฮยาลูแรน โดยที่ไฮยาลูแรน จะเป็นตัวพาอาคิเลตเข้าไปในเนื้อเยื่อแล้วจะสลายไป โดยที่อาคิเลตจะยังคงอยู่ในเนื้อเยื่อต่อไป

-- Bioplast เป็นซิลิโคนที่มีขนาดเล็กๆ แขวนลอยอยู่ในสาร Polyvinyl pyrrolidone hydrogel หลังการฉีด hydro gel จะถูกดูดซึมไปใน 4 อาทิตย์ ซิลิโคนจะถูกจับโดยคอลลาเจนของร่างกาย

-- Aquamid ด้วย 2.5%  polyacrylamide และน้ำ 97.5%

-- Aqua Life และ Aquaderm เป็นสารกลุ่ม PMMA ที่อยู่ในร่างกายได้นาน 3-5 ปี ตัว Life จะมีโมเลกุลใหญ่กว่าฉีดง่ายกว่า

-- Amazing gel เป็นสาร polyacrylamide เป็นสารที่ใช้ฉีดมีผลถาวร มีการผลิตในประเทศจีน ใช้ฉีดใบหน้าและหน้าผาก

-- Radiance เป็น Hydroxyapatite ซึ่งเป็นสารที่เป็นไขมันและกระดูก และมีการนำมาใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมกระดูกมานาน โดยทั่วๆ ไป Radiance สามารถอยู่ได้นานประมาณ 3 - 6 ปี




แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:35

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:27

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:26

4. สารสงเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ แบ่งเป็น

แบบแรก
Scaptra หรือ Newfill เป็น synthetic poly lactic acid เป็นสารกลุ่ม polylaclic acid ในยุโรปได้มีการใช้ฉีดใบหน้าและลดริ้วรอยในปัจจุบัน FDA สหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้ scaptra สามารถใช้ฉีดโดยถูกกฎหมายในคนไข้ที่ติดเชื้อ HIV แล้วมีใบหน้าตอบ

แบบสอง
ซิลิโคนเหลว ถือเป็นสารที่มีการนำมาฉีดเพื่อเสริมแต่ง ซิลิโคนเหลวถือเป็นสารแปลกปลอม เมื่อฉีดเข้าร่างกายแล้วจะมีการอักเสบอย่างต่อเนื่องเพื่อกำจัดสารแปลกปลอม  
และซิลิโคนเหลวจะไหลไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก โดยที่ซิลิโคนที่หน้าผากจะไหลมาที่เปลือกตาบน, สารที่อยู่ที่โหนกแก้ม จะไหลมาที่ด้านข้างของคาง
ทำให้มีลักษณะแก้มย้อยเหมือนคนสูงอายุ จากประสบการณ์ที่เคยดูแลคนไข้ พบว่า ซิลิโคนเหลวเป็นสารที่ฉีดแล้วสามารถเสริมใบหน้าได้สวยงามมาก
แต่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 8 เดือน - 1 ปี โดยที่หลังจาก 1 ปี สารพวกนี้จะไหลไปที่ต่างๆ


5. สารธรรมชาติจากร่างกาย

หมายถึง ไขมัน ซึ่งจะดูดออกทางผิวหนังหรือหน้าขาเพื่อใช้ฉีดในส่วนต่างๆ





แต่ปัญหาที่ฉีดฟิวเลอร์ ไม่ได้หมายความว่า สารกลุ่มที่ 1-3 จะไม่ด หรืออันไหนดีกว่าอันไหน ปัญหาจะไปอยู่ที่

1. ติดเชื้อ

อาการนี้ไม่เกี่ยวกับ ฟิวเลอร์ไม่สะอาด หรือเข็มไม่สะอาด แต่หมายถึงผิวหนังไม่สะอาด

เช่น คนที่เป็นเริมมาก่อน หรือเคยมีประวัติ ไม่ควรฉีดฟิวเลอร์ รวมทั้งเสริมจมูกด้วยประการทั้งปวง หากฉีดต้องมีการทานยาฆ่าเชื้อไว้ก่อนล่วงหน้าหลายวัน


2. ฉีดฟิวเลอร์ตื้นเกินไป หรือมากเกินไป

จะทำให้บริเวณนั้น ตึง บวมแดง หลายวันก็ไม่ค่อยจะหาย หายช้า หรือเกิดภาวะเส้นเลือดฝอย หรือรอยนูนช้ำบริเวณที่ฉีด


3. ฉีดในจุดอันตราย

เช่น ร่องน้ำตา ใต้ตา รอบดวงตา

จงจำไว้ว่า ฟิวเลอร์ ไม่ได้ออกแบบมาให้ฉีดบริเวณดังกล่าวเลย หากใครใคร่นำไปฉีด จะพบอันตรายที่โอกาสเกิดได้สูงมาก คือ

รอยบวมช้ำใต้ตา เป็นสีม่วง สีฟ้า สีเขียว หนาๆ หรือเป็นถุงก้อนเนื้อห้อย ซึ่งจะเกิดหลังฉีดไม่กี่วัน หรือ เกิดทันที หรือจะช้าจะเร็วก็จะเกิด อย่างดีหน่อย อาจเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ


4. ฉีดเข้าเส้นเลือด

อาการแบบนี้จะหนักสุด ทำให้เกิด ปัญหาใหญ่มาก คือ

4.1. อาการเนื้อตาย เพราะฟิวเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหนัง กล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่ได้

เช่น ฉีดจมูกแล้วจมูกเน่า เป็นต้น จะพบว่าอาการนี้ไม่เกี่ยวกับประเภทของฟิวเลอร์

ถ้าเป็นเส้นเลือดใหญ่ถูกอุดตัน อาจลามไปถึงหน้าเน่า บริเวณซีดนั้นๆ ปากเน่า ทั้งๆ ที่ฉีดจมูกเป็นต้น

4.2. อาการตาบอด หนักสุด เกิดจากฟิวเลอร์บริเวณหัวคิ้วเพื่อลบริ้วรอยเหี่ยวย่นระหว่างคิ้ว

แต่ดัน ฉีดฟิวเลอร์เข้าไปอุดเส้นเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา ทำให้ตาบอดทันที



จากบทสรุปตัว Aquaderm เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มกึ่งถาร ที่จะอยู่นร่างกายได้นาน 3-5 ปี แต่ไม่มีอันตราย

และการฉีดฟิวเลอร์ มีข้อควรใช้ คือ เมื่อแรกเริ่มใช้ ให้ฉีดตัว แบบชั่วคราว หรือ แบบไม่ถาวร ก่อน

จากนั้นเมื่อจะเติม หรือมั่นใจแล้ว ค่อยใช้แบบ กึ่งถาวรแบบสลายหมด เช่น Aqua ทั้งหลาย

ส่วนในรายที่จะฉีดจมูก แล้วจะไปเสริมจมูกในภายหลัง ไม่ควรฉีดฟิวเลอร์ด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม


ส่วนสารที่ไม่ใช่กลุ่มฟิวเลอร์ เช่น น้ำมันพื้ช เบบี้ออย รวมทั้งฟิวเลอร์แบบถาวร เช่น ซิลิโคน ไม่ควรนำมาใช้อย่างเด็ดขาด

เพราะจะเกิดปัญหา เน่า ตามมาในภายหลังไม่เกิน 3-8 เดือน

ส่วนซิลิโคน จะเกิดปัญหาเสื่อม และไหลย้อยตามมาในภายหลัง ทำให้หน้าดูแก่กว่าเดิม และขูดออกไม่ได้หมด






พวกนี้เป็นสาร polyacrylamide นะคับ
จัดเป็น semi-permanent เลยคับ

ตามที่บริษัทต่างๆเคลมไว้ว่าอยู่ได้ 2-5 ปี จริงๆมันอยู่นานกว่านั้นมาก
ปัญหาที่พบคือ เมื่อฉีดไปเป็นเวลานาน จะเกิดเป็นก้อนแข็ง granuloma
complication เยอะมากๆๆ ลองไปศึกษาดูใน pubmed ละกันคับ


ลองไปถามหมอละกัน ว่ามีใครกล้าใช้กับตัวเองบ้าง

จากที่จิ๊บเคยอ่านข้อมูลการเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงของหมอมานะคะ
เค้าบอกว่า ฟิลเลอี์ถึงแม้จะมี อย.ก็ตาม เมื่อฉีดแล้วไม่มีทางสลายไป 100%ค่ะ
หากฉีดแล้วอยากเสริทสิริโคน ก็ต้องมีขูดออกแถม ถ้าเสริมซิลิโคนตอนหลัง ไม่รู้จะเรียบสวยรึป่าว
ยังไงเน้น อย. ปลอดภัยไว้นะคะ จิ๊บก็อยากฉีด แต่ก็ไม่อยากมานั่งคิดมากหลังฉีด ก็เลยยังไม่ทำดีกว่า จิ๊บอยากให้อ่านข้อมูลหนึงจังเลย ถึงอันตรายของการฉีด ยังไงเลือกหมอดีๆนะคะ เพราะถ้าฉีดบางจุดมากไป อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงเส้นเลือดไม่ได้ และอาจทำให้เน่าได้ ยังไงก็ให้ฉีดมาหล่อๆๆเลยนะจ้าา ^^
ยังไง ก็มีแต่คนแนะนำทำเป็นแบบซิลิโคนเลยดีกว่า แบบฉีด
จริงๆ การทำจมูก ถ้าเป็นไปได้ ก้เลือกที่จะเสริมจมูกดีกว่าการฉีด

การฉีดบ่อยๆ นอกจากเจ็บตัวแล้ว

ไม่ได้แปลว่าหมอเก่งๆ ทุกคนจะฉีดแล้วไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้

การฉีดที่ปริมาณมากเกินไป หรือฉีดพลาดยาเดินไปทางกระแสเลือด จะทำให้เนื้อส่วนนั้นตาย เน่า เพราะขาดเลือดไปเลี้ยงได้

ที่สำคัญ Aqua หรือ Restylane หรือ มี อ.ย. ยังไงก็ตาม ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ใช้ และวิธีการใช้

ไม่ใช่ว่าใช้ Aqua แล้วจะเกิดปัญหาทุกคนไป

Restylane แม้มี อ.ย. หมอบางที่ฉีดพลาดหน้าเน่าก็มีมาแล้ว ไม่เว้นแม้แต่โรงบาลใหญ่ๆ

ดังนั้น การเลือกใช้ฟิวเลอร์ ย่อมต้องเลือกหมอ และโครงใบหน้าผู้ฉีดอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เสียน้อยเสียมาก เสียยากเสียง่าย เลือกใช้ Restylane ที่มี อ.ย. จะดีที่สุดค่ะ

แม้จะอยู่ได้ไม่นาน แต่ปลอดภัย ไร้กังวล

12
กลับไป ตั้งกระทู้ใหม่
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้