12
กลับไป ตั้งกระทู้ใหม่
เจ้าของ: DirtyNeedle
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

แชร์ประสบการณ์สำหรับผู้ที่มีอาการจิตตก

[คัดลอกลิงก์]
26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-25 22:45:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DirtyNeedle เมื่อ 2011-12-25 22:52

ตอบกระทู้ up11u ตั้งกระทู้

นั่นแหล่ะครับ คือกับดัก อุปสรรค ของความสุข
เราทำศัลยกรรมเพื่อความสุขของเรา
ไม่ใช่ทำศัลยกรรมเพื่อมารับความทุกข์จากคำพูดคนอื่นที่โยนมาให้เรา (แบบไม่ได้คิด ไตร่ตรอง สมเหตุสมผล ตามจริง) ในตอนที่เรากำลังยังฟื้นตัวอยู่

ผมคิดว่าการทำศัลยกรรมก็ต้องใช้เวลาครับ ขอแค่ให้อดทนเป็นพอ เคสตัวอย่างมีเยอะแยะ ที่ในช่วงแรกๆไม่พอใจ และในระยะหลังกลับรู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากการทำศัลยกรรมก็มีครับ เยอะมากๆด้วย
ทำเป็นไม่สนใจไปครับ อย่าไปพูด อย่าไปถาม ทำเป็น ไอดอนแคร์ไป เด่วแผลหายพวกที่ว่าก็รู้เองครับ^^

คำพูดแย่ๆจากคนเราอ่ะ มันพูดง่ายครับ และเขาก็ไม่มานั่งคิดหรอกว่าเราคิดอะไรบ้าง เจออะไรบ้าง เพราะเขาไม่เคยรู้
แต่คำพูดดีๆจากคนเราหาฟังยากครับ และก็มักจะมาจากคนที่คิดดีแล้ว แล้วค่อยพูดออกมาครับ สมเหตุสมผล ฟังแล้วชื่นใจ อิอิ

พูดคุยกันได้ตลอดนะครับ ไม่ต้องซีเรียส แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนในกระทู้ก็ได้ครับ ผมก็เคยทำแบบนี้เมื่อก่อน เป็นกำลังใจให้นะครับ
27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-25 23:12:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ porsheb2st ตั้งกระทู้

ทางกายภาพ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาครับ
ถ้าเราดูแลดี ผลดีครับ
ถ้าเราดูแลไม่ดี ผลก็ไม่ดีนะครับ

กระจกขอร้องให้เลิกยุ่งกับมันครับ อย่าไปคุยอย่าไปมองมัน
กระจก100บาน ส่องทุกบานก็ไม่เหมือนกันหรอกครับ

สิ่งที่สำคัญคือจิตใจครับ เราต้องมุ่งมั่นแน่วแน่ครับ ทำศัลยกรรมมันก็เหมือนทนทำปริญญาให้แม่แหล่ะครับ5555+ ทั้งใช้เวลา ทั้งเหนื่อย ทั้งสารพัด ต้องควบคุมตัวเองให้ดีครับ
อย่าเพิ่งไปคิดน้อยเนื้อต่ำใจไปเลยครับ คนเราจะให้ไปเหมือนคนนั้นคนนี้ตามที่ใจราอยากจะให้ไปเป็นไม่ได้หรอก พ่อก็คนละพ่อ แม่ก็คนละแม่ ผมว่าขอแค่ให้ที่ทำออกมาแล้วธรรมชาติเข้ากัน รับกันก็พอแล้วครับ ที่เหลือก็คงเป็นที่การแต่งตัวและบุคลิกภาพมากกว่านะครับ ถ้าบุคลิกภาพดี ก็จะทำให้ใบหน้าดูดีขึ้นมาทันตาเห็นเลยครับ

ยกตัวอย่าง เคน ธีรเดชนะครับ  เคนไม่ได้เป็นคนหน้าหล่อเลยนะครับ แต่หน้าตาดี และถ้าลองมองแยกส่วนจมูกเคนไม่สวยนะครับ ปากก็ไม่ แต่พอมารวมกันเป็นเคนหล่อทันตาเห็น5555+
(ผมว่าผู้ชายควรให้ความสำคัญที่บุคลิกภาพมากกว่าหน้าตานะครับ มันเป็นจุดดึงดูด และเสริมสร้างสเหน่ห์ได้มากเลยทีเดียว)


อย่าเพิ่งเครียดนะครับทุกคนเจอเหตุการณ์นี้เหมือนกันหมดครับ
กว่าจะเซทตัวได้สมบูรณ์ ข-อ-แค่-เว-ลา  ครับ อดทนนะ
28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-27 18:30:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ ยุตา ตั้งกระทู้

เป็นอาการปกติของการบวมนะครับ อย่าเพิ่งวิตกนะดูแลตัวเองดีๆครับ
พยายามอย่าไปสนใจในปัจจัยต่างๆที่ทำให้เรารู้สึกเครียดในขณะพักฟื้นนะครับ ต้องใช้เวลานะครับ
อ่านแล้วมีกำลังใจมากๆขอบคุณทุกๆความเห็นที่นำมาแชร์กันค่ะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย natchanonn เมื่อ 2011-12-27 18:59

ยิ่งทำเยอะ ก็ ยิ่งนอยด์ มาก แถมของอย่างนี้มันอยู่ไมได้ยั่งยืนหรอกสักวัน ผลที่ทำมามันก็ต้องปรากฏออกมาให้เหน ไม่ใช่แค่การเสริมอย่างเดียว

จงพอใจในสิ่งที่มีจะดีกว่านะ เพราะยังไงของแท้ถึงจะไม่สวยเท่าของปลอมแต่มันปลอดภัยและยั่งยืนกว่าแน่นอน แต่ถ้าอยากสวยอยากหล่อจริงๆ ก็ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงให้ได้
31#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-28 14:10:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ PV_love ตั้งกระทู้

ยินดีมากเลยครับ ยังไงก็ขอให้หายไวๆเช่นกันนะครับ
32#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-28 14:38:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ natchanonn ตั้งกระทู้

ถูกต้องครับ แต่สำหรับบางคนที่เขาอาจจะไม่ได้เป็นเคสที่ผิดพลาด แต่เป็นแค่อาการจากสุขภาพจิตที่ไม่ค่อยดี เนื่องจากการทำศัลยกรรมซึ่งมีเยอะมาก
ก็แค่อยากให้กำลังใจและแนวคิดไปปฏิบัติในเชิงบวก และผมก็คิดว่าน่าจะช่วยอะไรบางอย่างได้ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยพวกเราก็สามารถแชร์ความรู้สึกกันได้ครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ
เราอีกคนทำมาแล้วจิตตก อย่างที่ไปเดินตามห้าง เห็นคนที่รู้จักวิ่งหนีหลบๆคนที่รู้จัก ไม่อยากเจอใครๆ กลัวเขาจ้องหน้าเรา ใครไม่รู้คิดว่าเราทำไมหลบเขาโกรธเรื่องอะไร เมื่อก่อนเป็นคนร่าเริง เดียวนี้เปลี่ยนกลายซึมเศร้า ถ้าเราย้อนกลับไปได้ เราปล่อยให้หน้าตาเหี่ยวๆจะดีกว่าค่ะ ยิ้มได้แบบเต็มที่ หมอก็ทำให้เราเก่งๆยิ้มได้ เหมือนอึ่งอ่างปากขวด เราอ่านกระทู้นี้ ทำให้เเราคิดเลิกคบกับกระจก ไม่สนใจกับกระจก ปล่อยวางไปค่ะ
34#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-28 15:59:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ Linnysaweden ตั้งกระทู้

ใจเย็นนะครับ
ผมก็เคยผ่านตรงนี้มา
ผมเคยลาออกจากโรงเรียนเพราะกระจกเนี่ยล่ะ
เคยทุบกระจกแตกไปบานนึง
เคยเกลียดกระจก
จนมันทำให้ผมแย่ และรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆถึงที่สุดในโลก
แต่ผลสุดท้ายมันก็ทำให้ผมคิดได้ว่า บางคนที่เขาแย่มากๆกว่าเราเขายังมีกำลังใจอยู่ต่อได้
เราก็ไม่ได้รู้สึกแย่มากๆเหมือนเขา แต่ในขณะนั้นที่เรากำลังรู้สีกว่าเรารู้สึกแย่ที่สุดในโลกก็ตาม แต่ไม่ได้แย่ที่สุดครับ
ผมเลยเอาเวลาที่เหลือมาทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น ผมไปหาโรงเรียนที่ใหม่เรียนถึงจะเรียนไม่มากไม่ทุกวันไปสู้กับเด็กโรงเรียนเกรดดีๆบางที่ไม่ได้หรือสู้ที่เก่าที่ผมก็เพิ่งออกมาไม่ได้ แต่ผมถือว่านี่เป็นการเรียนรู้ครับเป็นการถอยครั้งใหญ่ แต่ผมจะไม่หยุดก้าวแค่นี้ครับ ผมเอาเวลาที่ผมคอยต่อสู้กับกระจกทุกๆบานในโลกในกรุงเทพนั้น ไปหาอย่างอื่นทำ หางานทำ หากิจกรรมที่เราเคยชอบทำ แล้วก็เอาชนะมันให้ได้ครับ
บางอย่างมันเหมือนกับว่าถ้าผมไม่เจอจุดนี้ ผมอาจจะไม่ได้รู้สึกหรือคิดได้อะไรแบบนี้เลยก็ได้ ผมลองนึกถึงไปวันข้างหน้า ถ้าผมไปรู้สึกแบบนี้ตอนผมแก่ผมหงอกไกล้ตายล่ะ ผมคงจะรู้สึกว่า ผมโง่ที่สุดในชีวิตและโง่ที่สุดในโลกเลยครับ บางทีอุปสรรคที่เข้ามามันก็ทำให้เราเดินหน้าไปในทางที่ควรเดินครับ แค่เราต้องเอาชนะมันและผ่านไปให้ได้ หลังจากนั้นความเป็นตัวของตัวเองและความสุขก็จะค่อยๆเข้ามาหาเราทีละเรื่องสองเรื่องสามเรื่องสี่เรื่อง.....ไปเองเรื่อยๆครับ
เอางินี้ครับอย่าส่องกระจกนะครับ เลิกคิดอะไรบางอย่างที่ไม่จำเป็นไปดีกว่า สู้เอาเวลาไปนอน ไปออกกำลังกาย ไปหัวเราะกับเพื่อนๆ ไปกินข้าวดีกว่าครับ เมื่อเราทำอะไรที่ควรทำ หรือทำอะไรที่มีความสุขในชีวิต พอเราตื่นขึ้นมาอีกวัน เราก็จะรู้สึกเหมือนกับว่าทำไมเราถึงแตกต่างจากวันก่อนๆ ซึ่งมันทำให้จิตใจเรา สู้มากขึ้นและก็เพิ่มพลังชีวิตมากขึ้น เรื่องบางเรื่องที่เราไม่จำเป็นต้องคิด เมื่อเราไม่คิด สักวันก็จะลืม และเฉยๆไปเองครับ  เป็นกำลังใจให้นะครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย natchanonn เมื่อ 2011-12-28 23:16

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย natchanonn เมื่อ 2011-12-28 23:14

ชอบกระทู้นี้นะ ผมว่าโดนใจหลายๆ คนเลย
เห็นกระทู้ด้านบนของคุณ Linny.... แล้วผมก็มีเรื่องจะเล่าเหมือนกัน

เรื่องของผมต้องใช้วิจารณญาณ นิดนึงนะครับ ผมไม่ได้จะชมตัวเองหรือแต่อย่างใด

เดิมทีก่อนศัลจมูกผมเป็นคนที่หน้าตาก็ถือว่าดี-ดีมากอยู่แล้วในระดับนึง เดินไปไหนมาไหนในมหาลัยนี่เพื่อนๆ จะคอยแซวผมตลอดเลยว่า คนโน้นคนนี้ มอง คนโน้นคนนี้แซว และอีกเยอะแยะมากมาย......

ผมถ่ายรูป ผมก็รู้สึกขัดหูขัดตากับจมูกผมเพียงอย่างเดียวเพราะหน้าผมไม่มีอะไรบกพร่องเลย อันที่จริงจมูกของผมมันก็ไม่ได้มีอะไร บกพร่องนะ โด่ง-โด่งมากอยู่แล้วด้วย แต่จมูกผมมันโด่ง แบบ ดาราชื่อ อ๋อม อรรคพันธ์ อะ โด่งปลายช่วงระหว่างตามันดูหุบๆมีฮัมพ์ เห็นรูจมูกนิดนึงผมไม่ชอบใจเลยลองคุยลองปรึกษา พ่อแม่และเพื่อน พ่อแม่กับเพื่อนผมนะ ก็ไม่เห็นด้วยว่าจะทำทำไมนี่ก็ดีอยู่แล้ว แต่ก็นะ ใจเรามันไม่ชอบ..มันก็ต้องหาหนทางจนได้ จนผมคุยกับพ่อแม่ผมอีกที พ่อแม่ผมเขาก็ตามใจแถมออกเงินค่าใช้จ่ายให้ด้วย

ผมไปปรึกษา หมอ อยู่ 3 หมอ เทคนิคแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมก็เอาละสิ เลือกหมอไหนดีว้า (ต้องขอย้อนบอกนิดนึงว่า ผมเป็นคนที่ใจร้อนมากคือ คิดปุ๊ปจะตัดสินใจป๊ปเลยไมได้คิดอะไรมาก ไม่รอบคอบ)

ผมก็ตัดสินใจทำกับหมอท่านนึง ไมได้เสริมนะเนื่องจากทีแรกไม่รู้ความต้องการของตัวเองว่าจริงๆ ตัวเองต้องการอะไร ก็เลยแค่ตัดปีก กับ เหลาฮัมพ์ที่จมูกให้ตรง
หลังจากทำมาได้ไม่นานผมก็รู้สึกรับไมได้กับการเปลี่ยนแปลง ทั้งๆ ที่เปลี่ยนไปแค่นิดเดียวจริงๆ ขนาดเพื่อนที่สนิทกินหมูทะด้วยกัน ยังไม่รู้เลย ถ้าผมไม่ได้บอก จากนั้นก็ผีห่าซาตานเข้าสิงเลยครับ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่อยากเจอผู้คนเป็นคนเก็บตัว โวยวาย จนพ่อแม่ผมต้องพาผมไปพบจิตแพทย์ 55+ คุยแล้วมันก็สบายใจช่วงนึงครับ หมอก็ให้ยาคลายเครียดมาทาน ก็อยู่ได้ช่วงนี้แต่เหมือนความต้องการของเราอะนะ มันยังไม่ใช่ ก็กลับมาเป็นแบบเดิม จนพ่อแม่ผมบอกว่าให้หาหมอที่ดีที่สุดแพงที่สุดมาเลย หรือจะบินไปเกาหลีเลยมั้ย เพื่อแลกกับความสบายใจของผมท่านจะทุ่มเงินให้ พ่อแม่ผมท่านบอกว่า ยอมเสียเงินเป็นล้านๆ ดีกว่าเห็นผมเป็นแบบนี้ ผมก็เลยกะว่าปิดเทอมหน้าผมจะลองทำดูครับ ตอนนี้ผมก็ได้หาข้อมูลมาเยอะพอสมควรแล้ว รู้ปัญหาต่างๆ มากมาย เตรียมรับมือไว้แล่วครับ
ต้องขอบอกเลยนะครับ ว่า ที่หมอที่ผมทำมาไม่ใช่ทำมาไม่ดีนะครับ ทำมาดี พ่อแม่ผมเพื่อนผมก็บอกว่า เห้ย..มันดีขึ้น ดูเรียวขึ้น แต่เหมือนเราทำมาวันๆ เราก็ส่องแต่กระจกอะครับ เชื่อว่าเกือบทุกคนเป็นหาจุดติไปเรื่อยเขาว่าดีไม่ได้น่าเกลียด ผมก็ส่องหาจนมีที่ติจนได้อะครับ แล้วจากนั้นจากที่เป็นคนหน้าใสกิ๊กไร้สิวสักเม็ด
เดินไปไหนวิ้งๆ ตลอด หลังจากเครียดจิตตกนั่นแหละครับ เพื่อนผม พ่อแม่ผมบอกเลยว่าหน้าผมดูอมทุกมาก
ราศรีในตัวของผมตัวหายไปเลย หน้าสิวขึ้นเยอะมากแล้วไม่มีทีท่าว่าจะยุบ ตอนนี้อะไรๆก็ดูแย่ไปหมดเลยครับ

พยายามกลับมาเป็นแบบเดิมอยู่

ขอบคุณนนะครับที่อ่าน อิอิ
36#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-31 20:36:14 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ natchanonn ตั้งกระทู้

โอเคครับ ผมอ่านเรียบร้อยแล้วนะครับ  ขอบคุณเช่นกันครับที่อ่านข้อความจากผม

ผมอ่านแล้วก็เข้าใจดีเลยนะครับ555 นึกแล้วก็ตลกในบางเรื่องที่เรามีเรื่องราวคล้ายคลึงกันในบางเรื่อง

ผมมาคิดๆดูแล้วนะครับ ว่าเมื่อก่อนที่ผมจะทำศัลยกรรม ผมเป็นคนไม่ได้ติดกระจกเลย แต่แค่ไม่ชอบหน้าตาตัวเองในบางมุมเท่านั้น แต่ส่วนอื่นๆบางมุมมันก็เหมือนเป็นตัวของตัวเรามันก็ดูดีนะครับไม่เคยรู้สึกเบื่อ ความรู้สึกเบื่อหน้าตาตัวเองมันเริ่มเข้ามาหลังจากที่ผมทำหน้าเนี่ยล่ะครับ ผมเริ่มติดกระจก ผมสังเกตุสิ่งที่ไม่เท่ากันบนใบหน้า ผมเริ่มรู้ว่าไรผมของผมนั้นไม่เท่ากัน โครงหน้าช่วงกรามผมก็ไม่เท่ากัน
ริมผีปาก นัยตา แผลเป็นริ้วรอยต่างๆ ผมส่องจนพฤติกรรมดูผิดเพี้ยนผิดปกติ ชอบจับคาง บีบกรามตัวเอง ดึงปากตัวเอง อาการเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย จนคนไกล้ตัว อย่างพวกพี่ๆ เพื่อนๆ สั่งให้หยุดทำ บางทีว่างมากๆก็ชอบไปไล่ถามคนอื่นด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เพื่อนเรียกร้องความสนใจ เหมือนกับหวังเพื่อที่จะได้กำลังใจดีๆหรือคำพูดโดนๆ เพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้น แต่ส่วนมาก พอไปถามใครเขา พอเขาสังเกตุเขาก็คิดเหมือนเรา แล้วก็จะพูดว่าก็ดีอยู่แล้วนะ ไม่สังเกตุไม่เห็นหรอก อะไรทำนองนี้(เลยกลายเป็นว่าเหมือนเขาไม่ค่อยได้สนใจที่จะตอบเราสักเท่าไหร่) บางคนที่ตอบว่าก็ไม่เบี้ยวนะ ก็ดูดีแล้ว(ก็กลับไปคิดว่าเขาโกหกเราซะอีก55555+) มันเป็นอาการย้ำคิดย้ำทำอ่ะครับ แล้วก็จะนำพาความเลวร้ายต่างๆเข้ามาสู่ตัวเรา เช่น ส่องกระจกแล้วมีอาการจิตตก สมาธิสั้น นอนไม่หลับ ทานอาหารไม่ตรงเวลา แล้วก็จะนำมาสู่การไม่ดูแลตัวเองครับ(เหมือนกับว่าเราจะชอบคิดอยู่กับตัวเองคนเดียว เหมือนภาษาเทพที่ใครก็ไม่เห็นในสิ่งที่เราเห็น ใครก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เราเข้าใจอ่ะครับ5555)  หลังจากนั้นผมก็กลายเป็นคนไม่ดูแลตัวเองเลยครับโทรมมากๆ

ตอนแรกๆที่ทำมาก็ดูดี มีแต่คนสนใจกันอย่างท่วมท้น มันเป็นเหมือนช่วงที่พีคมากๆเลยครับ น่าจดจำมากๆ เป็นสิ่งที่สวยงาม และดูเหมือนเรามีค่าอย่างสุดๆ ไปไหนก็มีแต่คนชมคนชอบ แต่หลังจากที่เริ่มเก็บเล็กเก็บน้อยรายละเอียดบนใบหน้าจากกระจกทุกๆบานในโลก ผมก็เริ่มมีอาการเครียด วิตก แล้วก็อย่างที่บอกอ่ะครับ เริ่มไม่ดูแลตัวเอง เริ่มคิดว่าอยากจะแก้ไขนั่นนี่ จนเกือบบ้า(หรือบ้าไปแล้วก็ไม่รู้55) ช่วงแรกที่เป็นก็จะกินไรไม่ลงครับโทรมมากๆ พอหลังๆก็เหมือนปลงกินจนอ้วนปล่อยให้หน้าตาที่ทำมานั้นกลายเป็นดูแย่ไปเลย คนที่เคยเห็นเราในสภาพดีๆก็ตกใจกันหมด ทักทุกคนจนขี้เกียจตอบ จนบัดนี้ไม่มีใครสนใจแล้วครับ555 ตั้งแต่เริ่มปลีกวิเวก ลาออกจากโรงเรียน อยู่แต่บ้าน ปล่อยให้ตัวเองทรุดโทรม ผมก็กลายเป็นคนที่ไม่น่าสนใจ คนธรรมดาๆเหมือนคนอื่นๆทั่วไปที่เขาเดิน กิน เดินซื้อของ ไปทำงาน อย่างคนอื่นๆเขา จนมันทำให้ผมคิดได้ว่า คนเรามันก็ไม่ได้มีอะไรยั่งยืนเนอะ ของอะไรที่มันสวยสด วันนึงถ้ามันจะถึงจุดเปลี่ยน มันก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่สวยสดได้เช่นกัน
37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-31 20:36:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ natchanonn ตั้งกระทู้


ผมกลับไปมองที่แม่ผม แม่ผมเป็นเบาหวานจนแทบทำงานไม่ได้ เขากินทุกๆอย่าง เขาเครียดเรื่องเงินทองมหาศาล เครียดเรื่องครอบครัว เครียดสุขภาพ และก็เครียดเรื่องของตัวผม(ผมเป็นเด็กมีปัญหาครับ55) แม้กระทั่งเครียดเรื่องเส้นผมที่เป็นพันธุกรรมเส้นผมเล็กและบางด้วย แต่ตอนนี้แม่ผมกลับมาลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร ดูแลตัวเองอย่างดีมากๆ แม่ใช้น้ำมันมะพร้าวนวดศีรษะ ทานอาหารอย่างถูกต้อง รู้มั้ยครับว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ผมหายจากโรคเบาหวานครับ และผมบนศีรษะแม่ก็ค่อยๆขึ้นมาทีละนิด มันดูหนาขึ้นอ่ะครับ รวมทั้งตัวผมที่เป็นลูกก็เหมือนทำตัวดีขึ้นด้วยมั้ง555 แต่ด้วยความที่สุขภาพดีเกินครับ แม่ผมเลยตั้งท้องน้องชายครับ555มหัศจรรย์ แล้วที่สำคัญโรคเบาหวานนั้นหายขาดเลยครับ คนแถวบ้านตกใจเรื่องแม่มากๆ

พอถึงตอนนี้ผมก็ลองกลับมานึกถึงเรื่องการใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพตัวเองของผมนั้นมีน้อยมากๆสู้แม่ไม่ได้เลย ผมกลับไปนึกถึงอดีตที่ผมเคยอดสูบบุหรี่ ทานอาหารสุขภาพ ทานอาหารเสริม จิตใจร่าเริ่ง เวลาว่างก็เขียนการ์ตูน อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง นอนเป็นเวลา อย่างมีความสุข ตอนนั้นผมหน้าใสมากๆเลยครับสุขภาพดีมากๆ อยากกลับไปเป็นแบบนั้นจัง55

แล้วที่สำคัญนะครับถ้าเราสุขภาพจิตดีบุคลิกภาพก็จะดีตามครับ แล้วผู้ชายก็ควรจะมีบุคลิกภาพที่ดีครับ

ตอนนี้เรื่องราวเลวร้ายต่างๆที่ผ่านมาของผมมันเหมือนเพิ่งผ่านไปครับ และผมก็คิดว่าตอนนี้ผมสมควรที่จะเริ่มดูแลตัวเอง บำรุงสุขภาพจิตและรักษาสุขภาพกายได้แล้ว สิ่งนี้มันทำให้ผมมีความหวังว่าสักวันอะไรๆก็คงจะดีขึ้นเรื่อยๆครับ
ตอบกระทู้ DirtyNeedle ตั้งกระทู้

ทำมาดีแล้ว จะจิตตก ทำไมอ่าครับ

แสดงความคิดเห็น

ก็ส่องกระจกไงครับ 555 เลยพบจุดบกพร่องเยอะมากๆ  โพสต์ 2012-1-3 14:14
ผมชอบกระทู้ของคุณมากเลยครับ
อ่านกระทู้ของคุณแล้ว รู้สึกเหมือนคุณเป็นนักจิตวิทยาที่ดีมากๆเลยครับ เขียนให้กำลังใจคนเก่งมากๆครับ
คนที่มีปัญหา ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง อ่านแล้ว น่าจะกำลังใจมีขึ้นมาอีกเยอะเลยครับ
40#
 เจ้าของ| โพสต์ 2012-4-10 21:03:36 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต้นฉบับโพสต์โดย popularity เมื่อ 2012-4-6 21:14
ผมชอบกระทู้ของคุณมากเลยครับ
อ่านกระทู้ของคุณแล้ว  ...

ขอบคุณมากเลยครับ ผมก็ดีใจเหมือนกันนะครับ ที่ผมได้รู้ว่ามีคนบางคนเห็นค่ากับสิ่งที่ผมกำลังคิดและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ขอบคุณมากจริงๆครับ
เขียนได้ฮามากเลยคะ แล้วเป็นข้อความที่คิดแง่บวกมากๆด้วย ^^ ชอบบบบบ ตอนนี้กำลังจิตตกมากคะ >< ทำตามาได้เดือนนึงแล้ว แต่ยังดูบวมและไม่เป็นธรรมชาติเลยคะ คิดตลอดว่าไม่น่าทำเลย แปะสติกเกอร์อยากเดิมก้อดีอยู่แล้ว คนรู้จักก้อทักว่าไปทำทำไม >< ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้นโดนผู้ใหญ่ที่บ้านบอกว่าน่าเกลียด เสียเซลฟ์ไปเยอะเลยคะ ตอนนี้ก็ได้แต่นั้งปลอบใจตัวเอง ทำมาแล้ว คืนไม่ได้เปลี่ยนไม่ได้เหมือนสินค้า ยังไงก้อต้องทำใจยอมรับ (แอบขอระบาย =v=")
เราชอบกระทู้มากเลย เหมือนนักจิตวิทยาอ่ะ
ทุกๆอย่างที่เขียนมาคือว่าเราเป็นแบบนั้นอ่ะจริงๆค่ะ 55
จิตตกตลอดเวลา ส่องกระจกทุกนาที ถ่ายรูปเก็บไว้ทุกวัน ทุกการเปลี่ยนแปลง
ยิ่งส่องกระจกมากๆ เราก็รู้สึกเหมือนจมูกมันเอียงมันเบี้ยวอย่างนั้นอย่างนี้ 555
ชอบคิดว่าทำไมไม่เห็นสวยเหมือนคนอื่นเลย
ยิ่งมาอ่านรีวิวของหมอหลายๆท่านก้ชอบคิดว่าทำไมไม่มาทำที่นี่นะ 555
ทำยังไม่ถึงเดือน เพิ่งได้ 21 วันเองค่ะ ตอนนี้อยากจะแก้มาก (จิตตก)
12
กลับไป ตั้งกระทู้ใหม่
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้