เจ้าของ: joy234
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ดูแลผิว] เคล็บลับดูแลผิวพรรณ

[คัดลอกลิงก์]
26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 08:59:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สูตรพอกตัว แบบธรรมชาติ เพื่อผิวเนียนใส
หากว่าคุณผู้หญิงที่เบื่อกับการขัดผิวลองมาใช้สูตรพอกตัวแบบ ธรรมชาติเพื่อผิวเนียนใสของดูไหมค่ะ เพราะ สูตรพอกตัว ของเรานั้นจะทำให้คุณมีผิวที่เนียนนุ่นไร้จุดด่างดำที่เกิดจากสิว และที่สำคัญยังทำให้ผิวของคุณสดใสขึ้นจนคุณรู้สึกได้ค่ะ วันนี้มีมาให้เลือก 2 สูตรพอกตัว ค่ะ เป็น สูตรพอกตัวแบบธรรมชาติ ที่คุณหรือใครก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านค่ะ
2 สูตรพอกตัว

1. สูตรพอกตัว แบบธรรมชาติ

สูตรพอกตัวนี้เหมาะ สำหรับผู้ที่มีผิวค่อนข้างแห้งเพราะน้ำมันมะกอกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และโยเกิร์ตยังทำให้ผิวเนียนนุ่มไม่แห้งกร้าน

ส่วนผสม

- ดินสอพองสะตุ  25 - 30  เม็ดใหญ่

- โยเกิร์ต   1/4  ถ้วย

- น้ำมันมะกอก  2 ช้อนโต๊ะ

- น้ำผึ้ง   2 ช้อนโต๊ะ

- น้ำมะนาว  1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ  นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียดใส่ส่วนผสมทุกอย่างคนให้เข้ากันแล้วนำมาทาให้ทั่ว ตัวทิ้งไว้ 20 - 30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อกระชับรูขุมขนสำหรับ คนผิวมันให้ลดน้ำมันมะกอกลงเหลือ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วเพิ่มน้ำมะนาวเป็น 2 ช้อนโต๊ะ


2. สูตรพอกตัว แบบสมุนไพร

นอกจากขมิ้นที่มีประโยชน์ต่อผิวแล้วไพลยังมีสรรพคุณช่วยแก้ฟกช้ำ แก้รอยด่างดำ ทำให้ผิวสดใสขึ้น สูตรนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว

ส่วนผสม

- ดินสอพองสะตุ  25 - 30 เม็ดใหญ่

- น้ำขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ

- น้ำไพล 1 ช้อนโต๊ะ

- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

- น้ำมะนาว  1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ นำดินสอพองสะตุมาบดละเอียดใส่ส่วนผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ 20 - 30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นตามด้วยน้ำเย็นอีกครั้งเพื่อกระชับรูขุมขนสำหรับ คนผิวมันให้ลดน้ำมันมะกอกลงเหลือ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วเพิ่มน้ำมะนาวเป็น 2 ช้อนโต๊ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health&Cuisine

27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:00:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง "เพื่อผิวหน้าเนียนนุ่ม"
วันนี้ชวนคุณผู้หญิงให้มีผิวหน้าเนียนนุ่มกันด้วยสูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งกัน แบบง่าย ๆ เลยค่ะ เพราะว่าขั้นตอนของ สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง นี้ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใดทำง่าย ๆ มาก ๆ แต่ก็มีผิวหน้าที่เนียนนุ่มได้แล้วล่ะจ๊ะ ใครอยากให้ตัวเองมีผิวหน้าเนียนนุ่มก็ลองนำ สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง นี้ไปใช้กันดูได้เลยนะจ๊ะ น้ำผึ้งนั้นเป็นส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติซึ่งไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ทานก็ดีต่อร่างกายนำมาทาผิวก็ยิ่งส่งเสริมผิวพรรณให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยเรียก ได้ว่าครบสูตรแบบทูอินวันเลยทีเดียวค่ะ นั้นเรามาเริ่มสูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งกันเลยค่ะ
สูตรพอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งนอกจากจะมีรสหวานอร่อยเพราะมีส่วนผสมของน้ำตาลกลูโคล์สถึง 79% แล้ว ยังมีกรดชนิดต่าง ๆ ผสมอยู่ในปริมาณสูงจึงสามารถนำมาเป็นมาส์กพอกหน้าเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตาย แล้วออกไปได้ โดยอุ่นน้ำผึ้งให้ร้อนขึ้นเล็กน้อยในไมโครเวฟ จากนั้นทำความสะอาดผิวหน้าและใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง ใช้นิ้วมือหรือแปรงที่มีขนอ่อนนุ่มทาน้ำผึ้งอุ่น ๆ (ไม่ใช่ร้อน) ลงบนใบหน้า ปล่อยทิ้งไว้สิบนาทีแล้วล้างออกเบา ๆ ด้วยน้ำอุ่นและซับด้วยผ้าขนหนูนุ่ม ๆ

การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งนี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าผิวเนียนนุ่มขึ้นได้ทันทีและ การพอกหน้าตำรับนี้คุณยังสามารถทำได้บ่อยตามต้องการ เพราะน้ำผึ้งไม่มีกรดที่รุนแรงต่อผิวหน้า


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa
28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:01:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
6 สูตร มาส์กหน้า
วันพาคุณผู้หญิงมาปรณิบัติผิวด้วยมาส์กหน้าอย่างไรได้ผล เพื่อให้ผิวของคุณได้รับสารบำรุงอย่างล้ำลึกและเพื่อเป็นการช่วยให้ผิว ของคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่อีกด้วยค่ะ หากว่าคุณ มาส์กหน้า อย่างสม่ำเสมอผิวของคุณก็จะเนียนนุ่มสดใสและมีชีวิตชีวาอย่างไม่น่าเชื่อเลย ล่ะค่ะ สูตรมาส์กหน้า ต่อไปนี้ควรทำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ
มาส์กหน้า

1.มาส์กหน้าสูตรน้ำผึ้ง

ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วใช้ปลายนิ้วแตะน้ำผึ้งลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบาๆ สักครู่ แล้วนวดหน้าด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาประมาณ 5 นาที จนน้ำผึ้งเหนียวนวดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนั้นให้นอนพักศีรษะอยู่ต่ำกว่าระดับปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมาหล่อเลี้ยงที่ใบหน้าและลำคอได้สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วค่อยๆ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำผึ้งออกให้สะอาด


2.มาส์กหน้าสูตรแอปเปิ้ล

ปอกแอปเปิ้ลคว้านเอาไส้และเมล็ดออก บดให้ละเอียด ขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย เมื่อบดจนเข้ากันดีแล้ว นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วใช้นมสดเย็นๆ ล้าง ตามด้วยน้ำสะอาดอีกที


3.มาส์กหน้าสูตรแตงโม

ฝานแตงโมเป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด นำมาแปะให้ทั่วใบหน้าแล้วใช้ผ้าคลุมหน้าไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

4.มาส์กหน้าสูตรไข่ขาว

ต่อยไข่ไก่ 1 ฟอง แยกไข่แดงออกเทเฉพาะไข่ขาวลงในถ้วย ใช้ส้อมตีไข่ขาวจนเป็นฟองพอสมควร แล้วใช้แปรงขนนุ่มจุ่มไข่ขาวทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หรือพอไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็งแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

5.มาส์กหน้าสูตรมะเขือเทศ

ฝานมะเขือเทศชิ้นหนาๆ ถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอเบาๆ ตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน มะเขือเทศมีวิตามินซีและกรด AHA จะช่วยลอกผิวหน้าที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ หลังจากนั้นจึงค่อยใช้สำลีชุบน้ำเย็นเช็ดมะเขือเทศออกให้สะอาด

6.มาส์กหน้าสูตรโยเกิร์ต

สำหรับทุกสภาพผิว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วย น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาวคั้นสดๆ 1 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากันแล้วพอกทั้งหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกและบำรุงผิว ให้ชุ่มชื้น

ข้อควรระวัง

หากมีอาการคันหรือระคายเคืองระหว่างการมาส์กหน้าให้หยุดขั้นตอนการทำแล้วรีบล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดทันที


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Woman Plus
29#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:02:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การดูแลผิวรอบดวงตา "ให้ผ่อนคลาย"
การดูแลผิวรอบดวงตาก็ จัดว่าสำคัญมาก ๆ ไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าเลยนะค่ะ เราควรจะทำ การดูแลผิวรอบดวงตา และหาวิธีผ่อนคลายให้กับผิวรอบดวงตาผู้บอบบางที่สุดค่ะ ด้วย เคล็ดลับ การดูแลผิวรอบดวงตา ให้ผ่อนคลายนี้จะได้ประโยชน์ทั้งผิวรอบดวงตาของคุณและดวงตาคู่งามของคุณก็ ได้ผ่อนคลายไปด้วยค่ะ จบจากการดูแลผิวรอบดวงตาแล้วก็มีวิธีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รอบดวงตามาฝากกัน อีกด้วยนะค่ะ
เคล็ดลับ การดูแลผิวรอบดวงตา

ใช้ ปลายนิ้วชี้ กลาง และนาง ยืดคิ้วออกด้านข้าง 3 ครั้งใช้นิ้วกลางของทั้งสองข้างหมุนวนรอบดวงตาพร้อม ๆ กัน โดยวนตามเข็มนาฬิกา ในทุกครั้งให้หยุดกดที่บริเวณหัวคิ้วทำแบบนี้ซ้ำทั้งหมด 6 รอบ และใช้นิ้วกลางกดจุดไล่ตั้งแต่หัวคิ้วถึงขมับ 3 รอบ กดจุดไล่ลงมาที่บริเวณใต้ตาไล่ตั้งแต่หัวตาถึงหางตา 3 รอบ ใช้นิ้วกลางนวดที่บริเวณขมับหมุนเป็นรูปเลขแปดทำซ้ำทั้งหมด 6 รอบ ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2-5 ทั้งหมด 3 รอบ นำมือทั้งสองข้างปิดที่ดวงตา ลากน้ำหนักที่ปลายนิ้วออกไปที่ด้านข้างกรอบหน้าแล้วจึงค่อย ๆ ยกฝ่ามือออกจากใบหน้าเพียงเท่านี้ก็จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้

หาก ต้องการความอ่อนเยาว์ของดวงตาควรเข้ารับการตรวจตาเป็นประจำทุก ๆ 2-4 ปี และทุก ๆ 1-2 ปี สำหรับผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป สำหรับผู้ที่ต้องนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ เริ่มฝึกนิสัยพักสายตาโดยการมองออกไปไกล ๆ ทุก ๆ 10-15 นาที สวมใส่แว่นตาดำที่ปกป้องและกรองแสงยูวีทุก ๆ ครั้งที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ปกป้องและระวังไม่ให้ดวงตาสัมผัสควันและฝุ่นละอองต่าง ๆ โดยตรง


การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รอบดวงตา

การ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรอบดวงตาควรเลือกครีมที่ใช้สำหรับรอบดวงตาโดยเฉพาะ ห้ามนำครีมทาหน้ามาใช้ปะปนกัน ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดอาการอักเสบบวมได้ เนื่องจากเนื้อครีมที่ข้นเกินไปอาจซึมลงไปอุดตันท่อน้ำตาได้ ควรเลือกซื้อครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อความอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง ที่สุด และสำหรับกลุ่มวัยรุ่นหรือผู้ที่มีผิวมันให้มองหาผลิตภัณฑ์ประเภทเจลเพิ่ม ความสดชื่นจะเหมาะที่สุด แต่ไม่ว่าเป็นครีมชนิดใดก็ตามควรมีกันแดดผสม

สำหรับ วิธีใช้ ให้ทารอบดวงตาด้วยนิ้วนาง (เพราะแรงกดน้อยที่สุด) ทาวนจากหัวตาด้านล่างวนขึ้นสู่หัวตาด้านบน จะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและลดริ้วรอยที่จะเกิดในอนาคตได้อีกด้วยอ่าน แล้วอย่าลืมหันมาดูแลรักษาผิวรอบดวงตาของเรากันด้วนะค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไอเอ็นเอ็น
30#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:05:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วิธีดูแลผิวรอบดวงตา ให้ถูกวิธี
วันนี้เรามีวิธีดูแลผิวรอบดวงตามาฝากคุณผู้หญิงที่กำลังมี อุปสรรคมากั้นกลางความสวยบนใบหน้าของคุณค่ะ ด้วย วิธีดูแลผิวรอบดวงตา จะช่วยในเรื่องของ ถุงใต้ตา ขอบตาคล้ำเป็นแพนด้าน หรือกระทั้งริ้วรอยเราก็ช่วยคุณได้ด้วย วิธีดูแลผิวรอบดวงตา นี้ค่ะ เฮ้ย..อุปสรรคในการสวยของผู้หญิงอย่างเรานี่มีเยอะเหลือเกินเนอะแต่ไม่ เป็นไรนะถ้าเป็นเรื่องรอบดวงตาละก็ให้ วิธีดูแลผิวรอบดวงตา ช่วยล่ะกันนะจ๊ะ

วิธีดูแลผิวรอบดวงตา

ในแต่ละวันคุณอาจต้องสบตากับคนนับร้อยผิวรอบดวงตาจึงเป็นส่วนที่คน อื่นจะมองเห็นชัดมากที่สุด ถ้าตาบวมตุ่ยหรือใต้ตาดำคล้ำก็เท่ากับสูญเสียความสวยไปแล้วครึ่งหนึ่ง ถ้าคุณเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขอย่างถูกวิธีก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีผิว รอบดวงตาที่สวยสะดุดใจ

ตาบวม

อาการบวมใต้ดวงตาเกิดมาจากการที่มีของเหลวมาคั่งอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งมักเกิดขึ้นในตอนตื่นนอนเนื่องจากการสะสมตัวของของเหลวขณะนอนหลับหรือ เกิดจากการร้องไห้มาก ๆ เป็นไซนัสมีอาการภูมิแพ้ นอนไม่พอ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปและอาการบวมน้ำช่วงก่อนมีประจำเดือน

ข่าวดีก็คือ ตาบวมนี้จะเป็นแค่ชั่วคราวและแก้ไขง่ายโดยการนอนหนุนหมอนสูงหรือช่วยเร่งการ ระบายของเหลว ด้วยการใช้ปลายนิ้วค่อย ๆ กดไล่น้ำบริเวณใต้ตาจากหัวตาออกไปทางหางตาหรือใช้ความเย็นประคบไม่ว่าจะเป็น น้ำแข็ง หรือทาครีม เจล หรือมาส์กบำรุงผิวรอบดวงตาที่แช่ไว้ในตู้เย็น

แต่อย่าสับสนระหว่างถุงใต้ตากับอาการตาบวมเพราะอาการคั่งของของเหลวเช่นนี้ มันอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเดียวกันแต่จริง ๆ แล้วถุงใต้ตาเกิดจากการสะสมตัวของไขมันไม่ใช่ถุงน้ำใต้ตา ซึ่งมักเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์หรือเมื่อมีอายุมากขึ้นคุณก็อาจพบกับปัญหา นี้ได้เช่นกัน เนื่องเพราะผนังกล้ามเนื้อรอบเบ้าตาอ่อนแอไขมันรอบนอกจึงย้อยออกมารวมตัว ด้านหน้าเป็นถุงซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดหรือถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อาจ บรรเทาได้ด้วยผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ช่วยเพิ่มอิลาสตินแต่ผลที่ได้ไม่ถาวรและอาจ เห็นผลไม่ชัดเจนเท่า

31#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:05:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รอยคล้ำใต้ตา

รอยคล้ำใต้ตาเหมือนหมีแพนด้าแต่ไม่น่ารักเหมือนหมีแพนด้าตัวจริง เป็นอีกปัญหาที่บั่นทอนความงามของสาว ๆ และสาเหตุที่ทำให้ตาคล้ำเช่นนี้มีอยู่ 3 ข้อใหญ่ ๆ ซึ่งมีวิธีแก้แตกต่างกันไปนั่นก็คือ

- โครงสร้างของกระดูกเบ้าตา สาวที่มีเบ้าตาลึกรอยคล้ำจะยิ่งเห็นชัดขึ้น วิธีเดียวที่ช่วยได้ก็คือปกปิดรอยคล้ำซึ่งมักจะเป็นสีออกน้ำเงินด้วยคอนซี ลเลอร์ที่มีสีออกเหลือง

- เม็ดสีใต้ผิวหนัง กรรมพันธุ์ทำให้เม็ดสีผิวใต้ตาคล้ำกว่าส่วนอื่น ๆ คุณอาจใช้ครีมบำรุงที่ผสมวิตามินเอช่วยได้บ้าง แต่ต้องซ่อนด้วยคอนซีลเลอร์จะดีที่สุด

- การอักเสบบวมของเส้นเลือด การนอนดึกติดต่อกัน ภูมิแพ้และขาดสารอาหารจะทำให้เส้นเลือดใต้ผิวบาง ๆ มีขนาดใหญ่ขึ้นเพราะเลือดไปคั่งอยู่จึงเห็นความคล้ำชัดเจนสามารถอำพรางได้ ด้วยคอนซีลเลอร์อีกเช่นกัน หรือหากมีเวลาก็แปะแตงกวาเย็น ๆ ที่ล้างสะอาดหรือถุงชาแช่เย็นซัก 5-10 นาที ความเย็นจะช่วยทำให้เส้นเลือดหดตัวลงได้แต่ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอและเปลี่ยน สไตล์การใช้ชีวิตด้วย

ริ้วรอยรอบดวงตา

ริ้วรอยรอบดวงตาส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นเนื่องจากวัยมันมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำ ให้เกิดริ้วรอยเมื่อเราอายุมากขึ้น โดยสาเหตุหลัก ๆ ก็คือ การลดลงของคอลลาเจนและอิลาสติน กรดไฮยาลูรอนิกในผิวที่ลดลงและสารอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวแสดงอารมณ์ต่าง ๆ บนใบหน้าที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ กัน ก็มีส่วนในการทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ แสดงตัวอย่างชัดเจนมากขึ้นด้วย

แต่การดูแลผิวอย่างเหมาะสมด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับดวงตาอย่างเช่น ครีมหรือเจลจะสามารถป้องกันริ้วรอยบาง ๆ รอบดวงตาได้โดยเลือกอายครีมที่ไม่เพียงแต่ให้ความชุ่มชื้นหากมีส่วนผสมที่ สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้ด้วย

อายครีมป้องกันริ้วรอยได้อย่างดีอายครีมเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกัน ริ้วรอยรอบดวงตาและควรใช้เป็นประจำทุกวัน เนื่องจากผิวบริเวณรอบดวงตามีปริมาณไขมันในผิวต่ำทำให้ผิวใต้ตาสามารถแห้ง ได้ง่ายเพราะมีปริมาณไขมันในชั้นผิวน้อย อายครีมจะช่วยรักษาทั้งความชุ่มชื้นและป้องกันรวมถึงลดเลือนริ้วรอยที่มี อยู่แล้วให้จางลงไปได้

สิ่งสำคัญไม่แพ้การเลือกอายครีมหรือเจลที่เหมาะกับสภาพผิวก็คือวิธีการทาควร ทาอายครีมลงบนผิวแห้งหรือชื้นเล็กน้อยหลังการทำความสะอาดและไม่มีผลิตภัณฑ์ อะไรทาอยู่ก่อน เราจึงแนะนำให้ทาอายครีมเป็นอย่างแรกก่อนทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ ซึ่งควรหลีกเลี่ยงบริเวณบอบบางรอบดวงตาด้วย ในขณะที่ทาครีมเหล่านี้ควรใช้วิธีการตบเบา ๆ ลงบนผิวอย่าลากหรือดึงผิวหนังที่จะทำให้ผิวใต้ดวงตาเพราะเส้นเลือดที่อยู่ ใกล้กับผิวในบริเวณนี้มีความบอบบางมาก

การถูหรือดึงผิวรอบดวงตายังสามารถทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลงและนำไปสู่ ความหย่อนคล้อยของผิวและรอยย่นที่มากขึ้นด้วย จึงควรหลีกเลี่ยงการถูหรือดึงผิวบริเวณนี้และใช้นิ้วก้อยหรือนิ้วนางในการทา ครีมเนื่องจากเป็นนิ้วที่มีแรงกดน้อยที่สุด

นอกจากนี้เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดดจึงเป็นไอเดียที่ดีในการทาครีม ซึ่งมีส่วนผสมของสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวรอบดวงตาในเวลากลางวันด้วย

ดูแลเปลือกตา

เปลือกตาต้องโดนกระหน่ำเมกอัพหลากชนิดแทบทุกวันคุณจึงลืมไม่ได้ที่จะถนอม เปลือกตาด้วยการชำระล้างเมกอัพและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ให้เกลี้ยงก่อนเข้านอน ด้วยการแปะสำลีชุ่มอายเมกอัพรีมูฟเวอร์เพื่อให้อายเมกอัพละลายก่อนค่อย ๆ ปาดลงแล้วเช็ดซ้ำเบา ๆ จนเกลี้ยง จากนั้นอาจใช้คอตตอนบัดชุบอายเมกอัพรีมูฟเวอร์แล้วเช็ดตามขอบตาและซอกมุม เล็ก ๆ ให้สะอาดหมดจดยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณขอมูลจาก lisa


32#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:06:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วิธีลดรอยคล้ำใต้ตา แบบง่ายๆ
วันนี้เรามีวิธีลดรอยคล้ำใต้ตาแบบง่ายๆ มาฝากคุณผู้หญิงค่ะ แต่หากจะใช้ วิธีลดรอยคล้ำใต้ตา อย่างได้ผลก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดด้วยนะค่ะ วิธีลดรอยคล้ำใต้ตา ถึงจะได้ผลจนถึงขีดสุดค่ะ ด้วย วิธีลดรอยคล้ำใต้ตา นี้จะเป็น วิธีลดรอยคล้ำใต้ตาแบบง่ายๆ ซึ่งขั้นตอนนั้นก็ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใดหากแต่มีเพียงบางข้อเท่านั้นที่คุณ ผู้หญิงอาจจะใจไม่แข็งพอ แต่ถ้าอยากสวยในไร้ความหมองคล้ำใต้ตาล่ะก็ต้องอดทนกันหน่อยนะค่ะ ฟังดูเหมือนวิธีลดรอยคล้ำใต้ตานี้จะยากอยู่สักหน่อย แต่อันที่จริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ
วิธีลดรอยคล้ำใต้ตา

1. ควรลดปริมาณการดื่มกาแฟ และไม่สูบบุหรี่

การรับประทานอาหารเผ็ด อาหารเค็มและการสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า การทานช็อคโกแล็ตพฤติกรรมหล่านี้จะทำให้การไหลเวียนเลือดไม่สมบูรณ์

2. การทำความสะอาดรอบดวงตา

รอบดวงตาควรได้รับการล้างทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้น้ำยาล้างทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติในการล้างสิ่งสกปรกตกค้าง คราบไขมันได้สะอาดหมดจรดที่จากเกิดจากผลกระทบของลมและแสงแดด

3. พยายามอย่าเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ

ความเครียด การนอนหลับน้อย การพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวมีการผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น

4. ดูแลผิวบริเวณรอบดวงตาด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของวิตามินที่เหมาะสมเป็นประจำ จะสามารถคืนความกระจ่างใสแก่ดวงตาได้ง่ายขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา
33#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:07:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วิธีรักษาขอบตาดำ "เพื่อใบหน้าที่สดใส"
ขอบตาดำคล้ำ เป็นเหตุให้ ดวงตาไม่สวย ไม่สดใส วันนี้เรามีวิธีรักษาขอบตาดำมา ฝากด้วยนะ ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งต้องควรรู้ วิธีรักษาขอบตาดำ กันไว้ด้วยนะ เพราะว่าเวลาที่คนเรามีใต้ตาดำคล้ำหรือขอบตาดำคล้ำนั้นจะส่งผลต่อสีหน้าของ เราอย่างมากเลยค่ะ เวลามีคนที่มองหน้าเราก็จะรู้เหมือนว่าใบหน้าเราเศร้าหมองทั้ง ๆ ที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย คุณผู้หญิงคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับตัวคุณใช่ไหมค่ะ ฉะันั้นเรามารู้จักกับ สาเหตุที่ทำให้ขอบตาดำกันจะได้หาวิธีป้องกันกันไว้ก่อน หรือถ้าไม่มีล่ะก็เราก็ยังมี วิธีรักษาขอบตาดำ ของคุณอีกด้วยค่ะ

วิธีรักษาขอบตาดำ

สาเหตุของขอบตาดำ

ขอบตาดำ มีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ ดังนี้

- กรรมพันธุ์ ถ้าคนไทยมีขอบตาดำแล้วลองหันไปมองญาติพี่น้องพ่อแม่ของคุณดูว่าเป็นแบบเดียว กับที่คุณเป็นหรือไม่ ถ้าเป็นละก็ การรักษาและป้องกันอาจจะยาก

- ภูมิแพ้ คนที่เป็นภูมิแพ้จะพบว่า เส้นเลือดดำที่อยู่รอบตาจะขยายใหญ่มากกว่าคนทั่วไปและเส้นเลือดดำเหล่านี้ นี่เองที่เป็นสาเหตุให้ขอบตาของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ดูคล้ำกว่าคนทั่วไป

- การระคายเคืองแถว ๆ รอบตา เช่น การขยี้ตาบ่อย ๆ เพราะการขยี้ตาจะกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีให้เพิ่มจำนวนขึ้นบริเวณนั้น

- แพ้ครีมทารอบดวงตา บางคนอาจแพ้สารบางอย่างในครีมซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่า ใครจะแพ้สารตัวใด ใครบ้างที่จะเป็น ถ้ารู้ว่าแพ้คงต้องหยุดการทาครีมดังกล่าว ถ้าไม่ทราบอาจต้องพึ่งการทดสอบว่าแพ้สารที่ต้องสงสัยหรือไม่

- อดนอน สาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในสภาพสังคมปัจจุบัน ใครที่รู้ตัวว่าอดนอนบ่อย ๆ หรือนอนดึก ก็ขอให้นอนเร็วขึ้นเพื่อที่ขอบตาจะได้ดูสดใสกว่าเดิม

- เป็นปานโอตะ ปานโอตะคือ เซลล์เม็ดสีที่อยู่ในชั้นหนังแท้พบในบางคนที่มีความผิดปกติที่เซลล์สร้าง เม็ดสีอยู่ผิดที่ ซึ่งมักพบบริเวณรอบ ๆ ตา โดยมากมักจะเป็นข้างเดียว แต่มีบางคนอาจเป็นได้ทั้ง 2 ข้าง ทำให้ขอบตาดูเขียวคล้ำ

วิธีรักษาขอบตาดำ

ถ้าไม่ใจร้อนรักษาแบบได้ผลช้า ๆ ก็ใช้เป็นยาทาใต้ตาที่มีส่วนผสมของ Whitening เช่น วิตามินซี แต่ถ้าต้องการให้เห็นผลดีมากขึ้นและได้ผลเร็ว ๆ การรักษาด้วยเลเซอร์หรือเครื่องแสงเข้มข้นเป็นวิธีที่ได้ผลดี เลเซอร์ที่ใช้รักษาขอบตาดำได้ที่นิยมมากที่สุดคือ Nd-yag laser นอกจากนี้เลเซอร์ตัวนี้ยังสามารถรักษาภาวะปานโอตะได้ด้วย หลังยิงเลเซอร์ผิวบริเวณนั้นจะเป็นสะเก็ดและสะเก็ดจะหลุดออกภายใน 1-2 อาทิตย์ และผิวของตาดำคล้ำก็จะดูขาวขึ้น เครื่องแสงเข้มข้นคล้ายกับเลเซอร์แต่ต่างกันที่หลังจากยิงเสร็จแล้วจะไม่ เป็นแผล แต่อาจจะเป็นสะเก็ดฝอย ๆ เล็กน้อย แต่เครื่องนี้ไม่สามารถรักษาภาวะปานโอตะได้

ขอบตาดำเป็นเรื่องที่ต้องรักษากันนานและถ้าไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดีนอนหลับ ไม่เพียงพอไม่ช้าขอบตาก็กลับมาดำได้อีก ดังนั้น การดูแลเอาใจใส่รอบดวงตาเสียแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะเริ่มเป็นจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด


ขอขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา

34#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:08:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วิธีรักษารอยคล้ำใต้ตา "แบบเร็ว!!"
วันนี้เรามีวิธีรักษารอยคล้ำใต้ตาแบบเร็ว! มาฝากหลายคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านที่กำลังกลุ้มใจเหลือเกินกับรอยคล้ำใต้ตาเพราะต้องรีบออกไปงานปาร์ตี้ แล้ว เกิดเพื่อน ๆ หรือใครเห็นก็อดที่อายไม่ได้เลยค่ะ เดี๋ยวหาว่าเรานั้นไปอดหลับอดนอนที่ไหนมาอย่างงี้แย่เลย แต่ไม่เป็นไรนะค่ะเพราะวันนี้เรามี วิธีรักษารอยคล้ำใต้ตา แบบเร็วแถมยังมาจากธรรมชาติอีกด้วยค่ะ และ วิธีรักษารอยคล้ำใต้ตา วัตถุดิบที่ต้องใช้มีเพียงหนึ่งอย่างเท่านั้นก็คือ มันฝรั่งนั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่ามันฝรั่งช่วยรักษารอยคล้ำใต้ตาได้จริงหรือนั้นเรามี ดู วิธีรักษารอยคล้ำใต้ตา "แบบเร็ว!!" กันเลยค่ะ
วิธีรักษารอยคล้ำใต้ตา

ถ้าคุณมีรอยคล้ำใต้ตามากกว่าปกติ ก็วางมันฝรั่งที่ฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ไว้บนบริเวณใต้ตาเป็นเวลา 10 นาที มัน ฝรั่งมีเอนไซม์ที่ทำให้ผิวดูอ่อนจางลงได้ จึงช่วยลดความหมองคล้ำให้คุณได้ชั่วคราว วิธีนี้จึงเหมาะจะใช้เวลาที่คุณต้องการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa
35#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:09:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สูตรลดริ้วรอยรอบดวงตา "อย่างได้ผล!!!"
สาวไหนอยากลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาอย่างได้ผลมาฟังความลับทางนี้เลยจ้า เพราะว่าเรานำสูตรลดริ้วรอยรอบดวงตาอย่าง ได้ผลสูตรความลับแต่ต่อไปนี้จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะว่าเราจะนำ สูตรลดริ้วรอยรอบดวงตา นี้มาฝากสาว ๆ กันในวันนี้นะซิค่ะ และวัตถุดิบที่ใช้ใน สูตรลดริ้วรอยรอบดวงตา นี้คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนอาจจะคาดไม่ถึงก็ได้ว่าใช้ได้ด้วยเหรอ อยากรู้ไหมว่าวัตถุดิบที่ว่านี้ที่ใช้ในสูตรลดริ้วรอยรอบดวงตานี้คืออะไรกัน เอ่ย...นั่นก็คือ วิตามินซี นั่นเองค่ะ อยากรู้ไหมว่าเราจะใช้วิตามินซีกับสูตรลดริ้วรอยรอบดวงตาอย่างไรนั่นเราก็มา ดูกระบวนการสูตรลดริ้วรอยรอบดวงตากันเลยดีกว่าค่ะ
สูตรลดริ้วรอยรอบดวงตา VS วิตามินซี

เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่อายครีมของคุณด้วยการผสมน้ำร้อน 1/2 ช้อนชากับวิตามินซี 1 เม็ด ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นก่อนนำมาผสมกับอายครีมของคุณ แล้วนำมาแตะแต้มบริเวณใต้ตาเบา ๆ ก็จะช่วยลดเลือนริ้วรอยให้คุณได้ ถ้าคุณใช้อย่างต่อเนื่อง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa
36#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:14:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เป็นสิวทําไงดี? เรามี! "วิธีการรักษาสิว"
เป็นสิวทําไงดี? เป็นสิวทําไงดี? เป็นสิวทําไงดี? วันนี้เรามีวิธีการรักษาสิวแบบ ง่าย ๆ มาฝากกันด้วยค่ะ หนึ่งใน วิธีการรักษาสิว คือ ก่อนอื่นเราก็ต้องหลีกเลี่ยงสารก่อนอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เป็นสิวมากที่สุด วิธีการรักษาสิว ขั้นที่สองก็คือการเลือกใช้ยารักษาให้เหมาะสมนั่นเองค่ะ เพียงแค่คุณรู้เรื่องตัวการการทำให้เกิดสิวกับตัวยารักษาสิว เรื่อง สิว ๆ ๆ ก็จะกลายเป็นเรื่อง สิว ๆ ๆ แล้วล่ะค่ะ เห็นไหมค่ะว่า วิธีการรักษาสิว ของเราในวันนี้เป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังเป็นสิวอย่างคุณมากขนาดไหน นั้นเรามาดู สารก่อสิว เพื่อให้ห่างไกลและตัวยารักษาสิวกันเลยดีกว่าค่ะ


น่ารู้เรื่อง วิธีการรักษาสิว

เขียนโดย รศ.ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกุล คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
- สารก่อสิว (Comedogenic agents) พบได้จากส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น

1. เครื่องสำอางที่มีไขมันและน้ำมันชนิดหนัก (heavy oils) เป็นองค์ประกอบสามารถก่อให้เกิดสิวได้ง่ายผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยง ตัวอย่าง เช่น น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะกอก, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันถั่ว, Cocoa butter, Lanolin (จากขนแกะ), Myristyl myristate, Isopropyl myristate, Isopropyl palmitate เป็นต้น

2. ผลิตภัณฑ์สเปรย์สำหรับเส้นผม มีองค์ประกอบที่สำคัญที่ก่อสิว คือ ไอโซโพรพิวแอลกอฮอล โพลีเมอร์ในกลุ่ม PVA/PVP ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เส้นผมอยู่ทรงได้ดี สารชนิดนี้หากหายใจเข้าไปสะสมในปอดก่อให้เกิดปัญหาโรคปอดได้ง่าย

3. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว สารก่อสิวที่สำคัญได้แก่ สารให้ฟองมาก Sodium lauryl sulfate (SLS), Ammonium lauryl sulfate (ALS) และสารปรับแต่งความเป็นกรด-ด่าง (พีเอช) เช่น โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NoaH), Triethanolamine (TEA)

4. สารกันเสียในผลิตภัณฑ์ทุกชนิด เช่น โพรพิวเมททิว พาราเบน (Propylmethyl Parabens) และอนุพันธ์ของสารพาราเบนอีกหลายชนิด

5. สีสังเคราะห์ สีสังเคราะห์ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เตรียมมาจาก coal tar จะมีส่วนผสมของโลหะหนัก นอกจากเป็นสารก่อสิวแล้วยังเป็นสารก่อมะเร็งผิวหนังอีกด้วย

6. แสงแดดและฝุ่นละออง รังสีดวงอาทิตย์มีผลต่อผู้ที่ผิวแพ้ง่ายก่อให้เกิดสิวได้ ฝุ่นละอองและควันเสียจากท่อไอเสียของรถยนต์ทำให้สิวเพิ่มความรุนแรงได้

7.ยารักษาโรค บางชนิดกระตุ้นการเกิดสิว เช่น ยาสเตียรอยด์

- ยารักษาสิว

ซาลิไซลิคแอซิด (Salicylic acid) และ เรตินเอ (Retin-A) ครีมหรือโลชั่น จะช่วยให้หัวสิวนุ่มลงและหลุดลอก

ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย เบนโซอิว เพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide), อีริโทรไมซิน ขี้ผึ้งหรือเจล, ครินดาไมซินด์โลชั่น

ซัลเฟอร์ (Sulfur) และ รีซอร์ซินอล (Resorcinol) ทำหน้าที่ทั้งต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยให้หัวสิวนุ่มลงและหลุดลอกง่าย

ยารักษาสิว บางชนิดอาจมีส่วนผสมของตัวยาหลายชนิดผสมกันระยะเวลาการรักษาและเห็นผลอย่าง น้อย 2 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน แล้วแต่ความรุนแรงของสิว ยาบางชนิดได้ผลดีแต่อาจทำให้ผิวหน้าแพ้ง่ายเมื่อโดนแสงแดด เช่น เรตินเอ จึงควรใช้ร่วมกับครีมกันแดดและควรทาก่อนนอนเท่านั้นจะปลอดภัยกว่า อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาเหล่านี้

- ข้อสังเกต

เครื่องสำอางที่มีฉลากคำว่า "Oil free" หรือปราศจากน้ำมัน ความจริงยังคงมีน้ำมันเป็นองค์ประกอบตามปกติ แต่เป็นน้ำมันชนิดพิเศษที่ให้ความรู้สึกไม่เหนอะหนะเท่านั้นเอง และเครื่องสำอางธรรมชาติจากสมุนไพรก็ยังคงมีส่วนผสมของสารต่าง ๆ ที่อาจเป็นสารก่อสิวได้มากมายตามที่ยกตัวอย่างข้างต้น ผู้บริโภคจึงควรพิจารณาจากฉลากและค่อย ๆ ศึกษาหรือทำความคุ้นเคยกับชื่อเคมีเหล่านี้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:15:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เคล็ดลับ ผิวสวยด้วยสูตรธรรมชาติ "แบบสมุนไพร ๆ"
วันนี้ขอหยิบสมุนไพรไทย ๆ ของเราเนี่ยแหละค่ที่จะทำให้คุณผู้หญิงมีผิวสวยด้วยสูตรธรรมชาติ ๆ สาวไหนอยากประหยัดแต่ได้อะไรที่คุ้มค่ายิ่งกว่าคุ้มซะอีกก็ต้อง เคล็ดลับ ผิวสวยด้วยสูตรธรรมชาติ "แบบสมุนไพร ๆ" ของเราเนี่ยแหละค่ะ นอกจากคุณจะได้ ผิวสวยด้วยสูตรธรรมชาติ แล้วคุณยังได้ไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีที่คุณยังไม่รู้อีกด้วยที่คุณกลัวว่า จะแพ้นะค่ะ จะมีอะไรที่ดีไปกว่าอะไรที่มาชากธรรมชาติแต๊ ๆ ๆ ละจริงไหมค่ะ ด้วย เคล็ดลับผิวสวยด้วยสูตรธรรมชาติ นี้จะช่วยรักษาผิวพรรณของคุณได้หลายอย่างอีกด้วยค่ะ นั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า


4 เคล็ดลับ ผิวสวยด้วยสูตรธรรมชาติ

1. ครีมมะเขือเทศ

ที่มีสรรพคุณใช้ในทำความสะอาดผิวหน้าและช่วยป้องกันรูขุมขนอุดตัน รักษาสิวได้อีกด้วย ส่วนผสมที่ใช้ทำมี มะเขือเทศ 4 ผลน้ำผึ้งบริสุทธิ์ 1 ช้อนชา ข้าวโอ๊ตบดละเอียดขนาดพอให้ครีมข้นพอกหน้าได้ ขั้นตอนเริ่มที่นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากันถูเบา ๆ บริเวณผิวที่มีปัญหาพอทั่วไว้ประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด

2. ครีมล้างหน้า ขมิ้นชัน-มะขาม

มีสรรพคุณใช้ทำความสะอาดผิวหน้าและช่วยรักษาสิวที่เกิดจากการติดเชื้อ ส่วนผสมที่ใช้มีขมิ้นชันบดละเอียด 1/2 ช้อนชา น้ำผึ้งบริสุทธิ์ 1 ช้อนชา มะขามเปียกที่เอาใยและเมล็ดออกหมดแล้ว 2- 3 ฝัก ทำได้โดยนำมะขามเปียกมาคั้นกับน้ำอุ่นและนมสดกรองด้วยผ้าขาวบางเติมน้ำผึ้ง และขมิ้นชันคนให้เข้ากันนำไปบดให้ละเอียดแล้วทาบาง ๆ ให้ทั่วหน้ารอให้แห้งล้างออกให้สะอาด

3. ครีมล้างหน้ามะขาม สำหรับผิวมัน

สรรพคุณใช้ล้างหน้าแทนสบู่เพื่อชำระล้างสิ่งสกปกแก่ผิวทำให้ใบหน้าขาว นุ่มนวล ส่วนผสมก็มีมะขามเปียกที่เอาใยและเมล็ดออกหมดแล้ว 2-3 ฝัก น้ำอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ นมสด 6 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้งบริสุทธิ์ 1 ช้อนชา ขั้นตอนการทำเพียงนำมะขามเปียกมาคั้นกับน้ำอุ่นและนมสดกรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำผึ้งคนให้เข้ากันนำไปบดให้ละเอียดแล้วทาบาง ๆ ให้ทั่วหน้า รอให้แห้งล้างออกให้สะอาดแต่ต้องจำไว้เสมอนะคะว่าต้องเก็บครีมล้างหน้ามะขาม ไว้ในตู้เย็นหรือนำไปนึ่งก่อนเก็บ

4. ครีมกล้วยหอม สำหรับผิวแห้ง

สรรพคุณใช้บำรุงผิวให้ความชุมชื้นและลดรอยเหี่ยวย่นของผิวโดยมีส่วนผสม ดังนี้ กล้วยหอมสุกบด 1 ผล (ประมาณ 250 กรัม) น้ำผึ้งบริสุทธิ์ 1 ช้อนชา วิธีทำให้นำส่วนผสมดังกล่าวมาผสมเข้าด้วยกันนำไปบดให้ละเอียดกันนำไปบดให้ ละเอียดและใช้พอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สสส.
38#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:16:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
น่ารู้เผย! เคล็ดลับ หน้าอ่อนกว่าวัย
วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับหน้าอ่อนกว่าวัยให้แก่คุณผู้หญิง ทุกคนเลยค่ะ เรื่อง หน้าอ่อนกว่าวัย ใคร ๆ ก็อยากมีโดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเราเมื่อย่างก้าวเข้าสู่อายุที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผิวที่ไม่ค่อยกระชับ ริ้วรอยเริ่มถามหา หรือแม้แต่ความหย่อนคล้อยของเซลล์ผิว สิ่งเหล่านี้คุณผู้หญิงคงจะไม่ต้องการจริงไหมค่ะ แล้วจะทําอย่างไรให้ดูอ่อนกว่าวัยดีล่ะทีนี้ ไม่ต้องเป็นกังวลค่ะเพราะด้วย เคล็ดลับหน้าอ่อนกว่าวัย นี้จะช่วยปกป้องผิวของคุณให้หากไกลสิ่งเหล่านี้แล้วกลับมามี หน้าอ่อนกว่าวัย อีกครั้ง และด้วย เคล็ดลับหน้าอ่อนกว่าวัย นี้ยังจะช่วยให้คุณแลดูมีผิวที่ สวย นวล เนียน และกระชับขึ้นอีกด้วยนะจ๊ะ

เคล็ดลับ หน้าอ่อนกว่าวัย
- กรดไขมันจำเป็น

กรดไขมันจำเป็นที่ช่วยให้ผิวและผมของเราสวยเป็นเงางามจะมีอยู่ด้วยกันสอง ประเภท คือ โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งกรดไขมันจำเป็นนี้ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เองจะต้องรับเข้ามาจากอาหาร ที่กินเข้าไปในแต่ละวัน คุณควรรับกรดไขมันจำเป็นเข้าไปประมาณ 15% ของแคลอรี่ทั้งหมด ซึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณได้รับกรดไขมันจำเป็นได้อีกทางหนึ่งก็คือ การใช้น้ำมันงาหรือน้ำมันถั่วเหลืองประกอบอาหาร แต่ที่สำคัญคุณควรลดการบริโภคไขมันอิ่มตัว และไขมันที่ผ่านกระบวนการด้วยนะเพราะไขมันเหล่านี้จะไปหยุดยั้งประสิทธิภาพ ในการทำงานของกรดไขมันจำเป็นค่ะ

กรดไขมันจำเป็นมีมากใน : ในสัตว์พบในปลาซาร์ดีน ทูน่า และแซลมอน ส่วนพืชพบในถั่ว เมล็ดพืช ถั่วเหลือง ไข่ และกุ้งนาง

- สารแอนตี้ออกซิแดนท์

ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องร่างกายจากการคุกคามของโรคร้ายต่าง ๆ อย่างโรคหัวใจและมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระ อย่างวิตามินเอ ซี อี วิตามินบีเชิงซ้อนบางชนิด ซีลีเนียม แมงกานีส สังกะสี และเอนไซม์บางตัว ยังมีบทบาทหลักในการทำลายอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปจู่โจมคอลลาเจนในผิวของเรา อีกด้วย ซึ่งถ้าหากคุณทำหยิ่งไม่ช่วยปกป้องเจ้าคอลลาเจนนี้ ผิวของคุณก็จะแห้ง เหี่ยว กร้าน และขาดความยืดหยุ่นได้ค่ะ

สารแอนตี้ออกซิแดนท์มีมากใน : ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อย่างสตรอเบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ บร็อกโคลี แครอท มะละกอ และมะเขือเทศ

- วิตามินเอ

มีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเซลล์ผิวหนังและช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นแถมยังมี ประโยชน์ต่อสุขภาพตาและผมอีกด้วย หากร่างกายได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอ ผิวจะแห้งกร้านและเป็นขุย

วิตามินเอมีมากใน : นม เนย ตับ น้ำมันปลา และไข่

- วิตามินอี

หนึ่งในสารแอนตี้ออกซิแดนท์เมื่อทำงานร่วมกับซีลีเนียมจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย สีผิวซีดจาง และเป็นสิว

วิตามินอีมีมากใน : น้ำมันพืช ถั่ว และเมล็ดธัญพืช เนยถั่ว ธัญพืช อะโวคาโด และมันเทศ
- เบต้าแคโรทีน

เป็นรูปหนึ่งของวิตามินเอที่พบในพืชที่ร่างกายสามารถดัดแปลงเพื่อนำไปใช้ ประโยชน์ได้ ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแก่เกินวัยอันมีสาเหตุเนื่องมาจากถูกแสงแดดทำลาย

เบต้าแคโรทีนมีมากใน : ผักสีเขียวเข้มอย่างผักโขม บร็อกโคลี ส้ม มะม่วง มันเทศ ฟักทอง มะเขือเทศ และแอพริคอท

- ซีลีเนียม

ป้องกันเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน เมื่อทำงานร่วมกับวิตามินอีจะช่วยให้การทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ

ซีลีเนียมมีมากใน : เนื้อสัตว์ อาหารทะเล เครื่องในสัตว์ ชีส ไข่ เห็ด ถั่ว และธัญพืช

- วิตามินบีเชิงซ้อน

วิตามินบีช่วยนำพลังงานจากอาหารมาให้กับกระบวนการเมตาบอลิซึ่มของผิวหนังทำให้ผิวชุ่มชื้นและเนียนสวย

วิตามินบีเชิงซ้อนมีมากใน : นม ไขมันปลา เนื้อหมู เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ ไข่ กล้วย ถั่วเหลือง ธัญพืช และเนยถั่ว

- วิตามินซี

จัดเป็นหนึ่งในสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มีความจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนช่วยไม่ให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร


เมื่อรู้คุณสมบัติอย่างนี้แล้ว ไหนเรามาลองเดากันเล่น ๆ ดูซิคะว่า เมนูข้างล่างนี้อันไหนนะมีวิตามินซีมากที่สุด

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (167 มิลลิกรัม)

สตรอเบอร์รี่ (97 มิลลิกรัม)

มะนาว (41 มิลลิกรัม)

มะเฟือง (33 มิลลิกรัม)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Woman Plus

39#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:17:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เผย! เคล็ดลับหน้าอ่อนเยาว์
วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับหน้าอ่อนเยาว์ให้กับคุณผู้หญิง ได้รู้กันค่ะ สัญญาณผิวร่วงโรงแห่งวัยนั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้หญิงอย่างเราไม่สามารถ หลีกเลี่ยงหรือหลีกหนีได้ ฉะนั้นเราจึงต้องการ เคล็ดลับหน้าอ่อนเยาว์ เพื่อช่วยชะลอสัญญาณผิวร่วงโรงแห่งวัยนี้ และวันนี้เราก็มี เคล็ดลับหน้าอ่อนเยาว์ มาบอกกันแล้วอย่าได้กังวลไปใย สำหรับริ้วรอยแห่งวัยมักจะเกิดขึ้นที่รอบดวงตาก่อนเป็นอันดับแรกมีเราเริ่ม มีอายุที่มากขึ้น เราจึงควรทำการป้องกันผิวสวยของเรากันก่อนเป็นอันดับแรกเลยนะค่ะ และเคล็ดลับหน้าอ่อนเยาว์นี้ช่วยคุณได้ค่ะ

4 เคล็ดลับหน้าอ่อนเยาว์

1. ดูแลผิวให้ดี สภาพผิวของคุณจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของคุณเอง ปัจจัยทางด้านสภาวะแวดล้อมและพฤติกรรมคือเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อน วัย ฉะนั้นถ้าคุณไม่มีความเครียด ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่โดนแดนเผา และไม่กินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพแล้วละก็ริ้วรอยตามวัยก็อาจจะไม่โผล่ออกมา ก่อนที่คุณจะอายุครบ 45 ปี

2. ใช้สารต่อต้านอนุมูลอิสระ การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจึงแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต่อต้าน อนุมูลอิสระอย่างชาเขียว ไลโคปีน โคเอนไซม์ คิว 10 รวมทั้งวิตามินซีและอีก่อนที่จะมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น

3. ใช้อายครีม สัญญาณแห่งวัยมักจะเกิดขึ้นแถว ๆ ดวงตาเป็นที่แรกคุณจึงควรใช้อายครีมเป็นประจำ ซึ่งในสมัยนี้มีครีมดี ๆ ให้คุณเลือกมากมาย แต่คุณควรทาอย่างเบามือเพราะผิวรอบดวงตานั้นค่อนข้างบอบบาง

4. งดน้ำตาล มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นได้ง่าย เพราะน้ำตาลจะเข้าไปเกาะเส้นใยโปรตีนในผิว ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่นคุณจึงควรลดการบริโภคน้ำตาลรวมทั้งอาหารประเภท แป้งด้วย เพราะแป้งเมื่อย่อยแล้วก็จะเปลี่ยนรูปเป็นน้ำตาลเหมือนกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa

40#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:20:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อาหารเสริมผิวสวย ผิวขาว ผิวใส ผิวอมชมพู
วันนี้เรานำความรู้อาหารเสริมผิวสวย ผิวขาว ผิวใส ผิวอมชมพู มาฝากคุณผู้หญิงทั้งกันด้วยค่ะ เป็นที่รู้กันดีว่าอาหารเสริมผิวสวย ผิวขาว ผิวใส ผิวอมชมพู ณ เวลานี้มีกันออกมามากมายและหลากหลายเหลือเกิน ฉะนั้นแล้วหากว่าคุณผู้หญิงต้องจะเลือก อาหารเสริมผิวสวย ให้เหมาะกับสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วยิ่งต้องรู้เรื่อง อาหารเสริมผิวสวย กันเอาไว้เลยนะค่ะ และวันนี้เราก็มี 7 อาหารเสริมผิวสวย มาฝากให้คุณผู้หญิงได้เลือกกันอีกด้วยค่ะ นั้นเรามาดูคำแนะนำของอาหารเสริมผิวสวย ผิวขาว ผิวใส ผิวอมชมพู กันเลยค่ะ ต่อไปคุณผู้หญิงหญิงจะได้เลือกอาหารเสริมเพื่อการบำรุงผิวพรรณได้อย่างถูก ต้องค่ะ


7 อาหารเสริมผิวสวย ผิวขาว ผิวใส ผิวอมชมพู

1. กลูตาไธโอน (Glutathione)

- เป็นสารสกัดที่ได้มาจากปลา เนื้อ แอสพารากัส อะโวคาโด และวอลนัท

- ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ จุดด่างดำดูจางลง และทำให้ผิวขาวขึ้น

- คุณสมบัติของสาร Detoxification ที่มีอยู่จะเปลี่ยนสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายและขับถ่ายทิ้ง

- ช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน C และ E ให้ดูดซึมได้ดีขึ้น

- ไม่พบว่ามีผลข้างเคียงใด ๆ ต่อผู้ใช้

- ขนาดที่ควรรับประทานอยู่ที่ 500-1000 มิลลิกรัมต่อวัน

2. โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)

- ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ลดการเกิดริ้วรอย ป้องกันผิวหนังอักเสบจากแสงแดด และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิวทำให้ผิวยืดหยุ่นแข็งแรง

- พบมากในอาหารทะเล เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ รำข้าว ผลิตภัณฑ์จากถั่ว น้ำมันถั่วเหลือง บรอคโคลี่ เป็นต้น

- ถูกดูดซึมได้ดีหากรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมัน

- ปริมาณที่แนะนำคือ 30 มิลลิกรัมต่อวัน

- เปลือกสนสกัด (Pine Bark)

- ช่วยทำให้ผิวขาว ใส และลดปฏิกิริยาการเพิ่มเม็ดสีของผิวหนังเมื่อถูกแดด รวมทั้งลดขนาดและความเข้มของฝ้าโดยไม่มีผลข้างเคียงกับผิวบริเวณอื่น

- ไม่มีปฎิกิริยากับยา สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวอื่น ๆ

- ปริมาณที่ควรรับประทานนั้นอยู่ที่ 20-25 มิลลิกรัมต่อวัน

3. สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)

- ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวและป้องกันผิวจากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตรวมทั้งลดอาการแพ้จากสภาพแวดล้อมและเครื่องสำอาง

- ควรรับประทานในปริมาณที่ 20-60 มิลลิกรัมต่อวัน

41#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:21:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
4. สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract)

- ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอย

- สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ได้ดี

- ขนาดรับประทานที่แนะนำอยู่ที่ 300-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน

5. ไลโคพิน (Lycopene)

- พบมากในผักและผลไม้บางชนิด เช่น แอพรีคอต เกรฟฟรุ๊ต แตงกวา มะเขือเทศ และแตงโม

- มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระและชะลอความชราสูงกว่าเบตาแคโรทีนถึง 2 เท่าและให้สารอาหารได้มากกว่ากว่าวิตามินอีถึง 1000 เท่า

6. น้ำมันสกัดจากดอกอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil)

- ป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิวหนังให้ผิวคงความชุ่มชื่น สดใส เปล่งปลั่ง ปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้ดูนุ่มขึ้น ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำของผิวพรรณ ลดการเกิดสิวอุดตัน ตลอดจนช่วยรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง เช่น ผิวหนังแห้ง รวมถึงอาการผมร่วง มีรังแค และเล็บเปราะได้

- อาจเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น อาการคลื่นไส้ ท้องอืดเฟ้อ ปวดศีรษะ อาการผื่นแพ้ และอาการลมชักกำเริบ ฯลฯ จึงควรรับประทานผลิตภัณฑ์พร้อม ๆ กับการรับประทานอาหารเพราะสามารถลดอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้

7. บริเวอร์ยีสต์ (Brewer's Yeast)

- อุดมไปด้วย Biotin หรือวิตามิน B ชนิดหนึ่งซึ่งช่วยให้เล็บที่เปราะแข็งแรงขึ้น และช่วยบำรุงสุขภาพผมและยังมีสรรพคุณในเรื่องการรักษาสิวได้ผลดี รวมทั้งมีประสิทธิภาพในการชะลอความชรา

- ขนาดรับประทานที่แนะนำอยู่ที่ 200 มิลลิกรัมต่อวัน

- บริเวอร์มีผลต่อตัวยาอื่น การใช้จึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน โรคเก๊าท์ หรือมีระบบภูมิคุ้มกันเสียหายอย่างรุนแรงควรหลีกเลี่ยง ทั้งนี้บริเวอร์ยีสต์ยังมีผลข้างเคียงกับผู้ที่ร่างกายแพ้ต่อการสัมผัสได้ ง่าย คืออาจก่อให้เกิดอาการไมเกรน ปวดหัว บางครั้งอาจมีอาการผื่นคัน อาการบวมน้ำ หรือเป็นหัดได้

- การใช้ครั้งแรกอาจก่อให้เกิดแก๊สในลำไส้ ดังนั้นจึงควรเริ่มใช้แต่น้อยก่อน จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่แนะนำ หากมีอาการคลื่นเหียนอาเจียน ควรหยุดใช้ทันทีและรีบปรึกษาแพทย์

น่ารู้เรื่อง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวสวย ผิวขาว ผิวใส ผิวอมชมพู

สารสกัดเหล่านี้มีทั้งในรูปของสารสกัดบริสุทธิ์และรูปของอาหารเสริมที่มีจุด มุ่งหมายเฉพาะด้าน เช่น เพื่อให้ผิวขาว ลดกระและฝ้า ลดริ้วรอยหรือให้ผิวพรรณผ่องใส ซึ่งบนฉลากผลิตภัณฑ์ไม่สามารถบอกสรรพคุณนั้น ๆ ได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ สังเกตได้จากกล่องอาหารเสริมทุกกล่องจะระบุว่า "การได้รับปริมาณอาหารที่จำเป็นนั้น ควรได้รับจากสารอาหารให้ครบ 5 หมู่" เพราะอาหารเสริมไม่ใช่สิ่งจำเป็น

ก่อนตัดสินใจเลือกใช้อาหารเสริมชนิดใดควรรู้ความต้องการของตนเองเสียก่อน เพื่อจะได้พิจารณาสารที่เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมได้อย่างเหมาะสมหลายคน เข้าใจว่า ยิ่งมีสารมากตัวเท่าไหร่ยิ่งดีประสิทธิภาพยิ่งสูงทั้ง ๆ ที่บางครั้งเราไม่ได้จำเป็นต้องใช้สารตัวนั้นเลย แถมยิ่งมีสารมากตัวราคาก็ย่อมมากขึ้นด้วย ที่สำคัญในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์จะระบุปริมาณของสารแต่ละชนิดที่ผสมอยู่ การมีปริมาณสารที่มากหรือน้อยเกินไปย่อมเกิดผลเสียทั้งนั้น

ถ้าคุณต้องการเลือกบริโภคอาหารตามธรรมชาติเพื่อให้ได้รับสารเหล่านั้นแทนการ กินในรูปอาหารเสริมก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องรับประทานในปริมาณที่มากกว่าเพราะตัวสารสกัดนั้นได้ดึงเอาเฉพาะ สารที่ต้อง
42#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:21:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การเพื่อความสะดวกเป็นสำคัญ แต่มีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียเพราะในกรรมวิธีการสกัดเอาสารนั้น ๆ ออกมาจำเป็นต้องใช้ตัวทำละลาย ซึ่งหากผู้ผลิตไม่มีความชำนาญเพียงพออาจพบปัญหาการตกค้างของตัวทำละลายที่ ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากบริษัทผู้ผลิตที่ต้องมีความ น่าเชื่อถือและไว้ใจได้

อีกทั้งต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนพิจารณาเลือกซื้อเพราะอาหารเสริมบางตัว อาจมีผลหักล้างกัน เช่น หากเรารับประทานไคโตซานเพื่อดักจับไขมันในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน แต่ต้องการน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสออยส์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวเจ้าไคโต ซานก็จะดักจับน้ำมันอีฟนิ่งไว้เพราะถือเป็นไขมันชนิดหนึ่งหรืออย่าง ผลิตภัณฑ์บางชนิดที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คอนลาเจนที่จะทำให้ร่างกายบวมน้ำคนที่ท้วมจึงไม่ควรรับประทานเพราะจะยิ่งทำ ให้ดูน้ำหนักมากขึ้นไปอีก

สิ่งที่ต้องพึงปฏิบัติคือการปฏิบัติตามคำเตือนบนฉลากโดยเฉพาะวิธีใช้ซึ่งเรา ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้อาหารเสริมมีประสิทธิภาพได้อย่างที่ควรจะเป็น

ธรรมชาติของอาหารเสริมทุกชนิดที่ควรเข้าใจให้ถูกต้องคือ เมื่อเรารับประทานอาหารเสริมชนิดนั้น ๆ ไปได้สักประมาณ 2 เดือน ควรหยุดประมาณครึ่งถึงหนึ่งเดือนเพื่อให้ร่างกายได้กำจัดส่วนเกินออกไป โดยอาจจะรับประทานวันเว้นวันเพื่อไม่ให้ร่างกายต้องปรับมากเกินไป จากนั้นจึงกลับไปใช้ใหม่ในปริมาณเท่าเดิม

การแพ้อาหารเสริมข้อสังเกตง่าย ๆ ที่บ่งว่าเกิดอาการแพ้คือ ขึ้นผื่น มีอาการบวม หรือความผิดปกติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น หากเกิดอาการเหล่านี้อันดับแรกให้กลับมายังร้านที่ซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสอบถาม ว่ามีคนเกิดอาการเหมือนเราไหมเพราะถ้ามีเป็นจำนวนมากก็น่าจะแสดงว่าเป็น เรื่องของผลข้างเคียงมากกว่าอาการแพ้ แต่ส่วนใหญ่อาการแพ้อาหารเสริมมักไม่ค่อยรุนแรงเพียงแค่หยุดรับประทานอาการ ก็จะหายไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Health&Cuisine
43#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:23:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การทำความสะอาดผิวหน้า อย่างล้ำลึก "เพื่อผิวขาว กระจ่างใส รูขุมขนกระชับ"
ผิวสวย หน้าขาวใส รูขุมขนกระชับ สีผิวสม่ำเสมอ ไร้สิวและริิ้วรอย ใคร ๆ ก็อย่างมี แต่สิ่งต่อไปนี้ช่วยให้คุณได้นั่นคือ การทำความสะอาดผิวหน้าอย่าง ล้ำลึกนั่นเองค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้เพียง การทำความสะอาดผิวหน้า แต่เพียงอย่างเดียวเรายังมีการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึกอีกด้วย และต่อไปนี้สิ่งที่เรากำลังจะบอกนั้นคือ ขั้นตอน การทำความสะอาดผิวหน้า และ ขั้นตอนการบำรุงผิวหน้า ที่จะช่วยให้คุณนั้นมีผิวสวย หน้าขาวใส รูขุมขนกระชับ สีผิวสม่ำเสมอ ไร้สิวและริ้วรอยอย่างที่ใจคุณต้องการเลยทีเดียวค่ะ

การทำความสะอาดผิวหน้า อย่างล้ำลึก

- ขั้นตอนแรก คือ การทำความสะอาด (Cleansing)

ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการชำระล้างที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวคุณเอง และทำความสะอาดผิวหน้าอย่างนุ่มนวลทั้งตอนเช้าและโดยเฉพาะเวลาก่อนเข้านอน หากคุณแต่งหน้าจัดอยู่เป็นประจำซึ่งการล้างหน้าที่ถูกวิธีนั้นให้หมุนขึ้น และวนออกเพื่อเป็นการเปิดและชำระล้างสิ่งอุดตันและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ติดอยู่ในรูขุมขนให้หลุดออกในขณะนวดล้างทำความสะอาด

- ขั้นตอนต่อมาที่ช่วยล้างผิวหน้าอย่างล้ำลึก (Deep Cleanser)

คือหลังจากการล้างหน้าตามปกติอาจยังมีสิ่งสกปรกที่ยังหลงเหลืออยู่ การมาร์คหน้า พอกหน้านั้นจึงเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งในการกระตุ้นการชำระล้างได้อย่างล้ำลึก อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวให้ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้ หลุดออกขจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขนให้หมดไป ลดการอุดตันของรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุของสิวเสี้ยนและยังช่วยป้องกันการเกิด สิวหัวขาว (สิวเม็ดข้าวสาร) ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผิวพรรณสะอาดอย่างล้ำลึกผิวแลดูสดใสเปล่งปลั่ง

- ปรับสภาพผิวให้เนียนเรียบกระชับ (Toners)

การใช้โทนเนอร์เช็ดผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสามารถคืนความสมดุลและ ปรับสภาพผิวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังเป็นเกราะป้องกันผิวจากเชื้อแบคทีเรียทำให้ผิวสดชื่นสดใสและ เปล่งปลั่ง อีกทั้งยังเป็นการกระชับผิวให้รูขุมขนเล็กลงช่วยควบคุมน้ำมันส่วนเกินบริเวณ หน้าผาก จมูก คาง (T-ZONE) ให้การแต่งหน้าได้คงทนยิ่งขึ้น

- บำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่นด้วยครีมบำรุง (Moisturizer)

ขาดไม่ได้เลยสำหรับอาหารผิวด้วยการเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว พรรณของคุณ การบำรุงให้ความชุ่มชื้นกลับคืนสู่ผิวด้วยครีมบำรุงผิวนั้นถือเป็นการคืน ความชุ่มชื่นสร้างความยืดหยุ่นสำหรับผิวชั้นนอกเพื่อคงความเปล่งปลั่งช่วย ให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้นช่วยให้ผิวมีน้ำหล่อเลี้ยงได้ถึงผิวชั้นใน ให้ผิวเนียนนุ่มไม่แห้งตึงสวยสมบูรณ์แบบสาวผิวสวยได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารสวยด้วยแพทย์
44#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:24:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
น่ารู้! ไวท์เทนนิ่ง ทำให้ผิวขาว
ไวท์เทนนิ่งอีกหนึ่งปัจจัยของสาว ๆ หลายคนค่ะ เพราะผู้หญิงนั้นรักสวยรักงานมด้วยกันทั้งนั้นทำให้ ไวท์เทนนิ่ง มีบทบทที่สำคัญมาก ๆ เลยในชีวิตของคุณผู้หญิงอย่างเรียกว่าขาดกันไม่ได้ทีเดียวค่ะ เพราะมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่อยากให้ตัวเองมีผิวขาวขึ้นซึ่ง ไวท์เทนนิ่ง นี้ก็มีส่วนอย่างมากที่จะทำให้คุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านนั้นขาวขึ้นได้ วันนี้เราเลยพาคุณผู้หญิงมาทำความรู้จักกับ ไวท์เทนนิ่งทำให้ผิวขาว กันให้มากขึ้น เพื่อให้คุณผู้หญิงได้เลือกไวท์เทนนิ่งที่ถูกกับตัวเองได้ประโยชน์อย่างสูง สุดและเป็นไปอย่างที่ใจคุณผู้หญิงการให้เป็นค่ะ นั้นเรามทำความรู้จักกับ ไวท์เทนนิ่งทำให้ผิวขาว กันเลยค่ะ


ไวท์เทนนิ่ง ทำให้ผิวขาว

คำว่า "ไวท์เทนนิ่ง" ก็คือ สารประเภทที่ทำให้ผิวขาว (Whitening Agents) ด้วยกระบวนการหลักของการลดการผลิตเม็ดสีใต้ชั้นผิว ซึ่งอาจจะปรากฏอยู่ในหลายรูปแบบ เช่น เป็นยารักษา เป็นเครื่องสำอางควบคุมและเป็นเครื่องสำอางที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป


สารที่ทำให้ผิวขาวนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น แบบที่เรียกว่า สารฟอกสี (Bleach Agents) ซึ่งค่อนข้างละเอียดอ่อนและต้องควบคุมโดยแพทย์ แบบเคลือบปกปิด (Covering Agents) สำหรับใช้ชั่วครั้งชั่วคราว โดยมี Titanium Dioxide เป็นสารหลัก คุณสมบัติของมันก็คือเคลือบผิวเฉพาะกิจพอล้างหรืออาบน้ำก็หลุดออกหมด


สารประเภทที่น่าสนใจและเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการของไวท์เทนนิ่งเต็ม ๆ ก็คือ AHA - Alpha Hydroxy Acids หรือกรดผลไม้หลากชนิด Retinol A,Kojic Acid และ วิตามินบี 3 ผลิตภัณฑ์ของไวท์เทนนิ่งเป็นแหล่งรวมของสารผสมที่ทำงานครอบคลุม


ปกติผิวของเราจะมีเซลล์สี Melanocytes เป็นตัวกลางสร้างเมลานินมากำหนดสีผิว ไม่ว่าผิวจะคล้ำเข้มทั้งตัวหรือคล้ำเป็นหย่อม ๆ เฉพาะที่เนื่องจากโดนกระตุ้นจากปัจจัยใด ๆ ก็ตาม แต่การที่เมลาโนไซต์สจะผลิตหรือสร้างเมลานินเมื่อไรนั้นมันจะต้องได้รับคำ สั่งจากเอนไซม์ที่ชื่อว่า Tyrosinase เสีย ก่อน เอนไซม์ไทโรซิแนสตัวนี้เองที่เหล่านักวิชาการความงามให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะหากควบคุมมันได้ก็จะส่งผลต่อการทำงานของเมลาโนไซต์สด้วยไม่ว่าจะสภาพ ผิดปกติหรือสภาพปกติ
จากการค้นคว้าอย่างต่อเนื่องยาวนานก็ทำให้พบสารที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น โคจิกแอซิด ซึ่งเป็นกระชนิดหนึ่งที่ได้จากการหมักกลูโคสของผลผลิตในธรรมชาติ มีคุณสมบัติบางอย่างที่ช่วยในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิแนสไม่ให้มันสั่งพร่ำ เพรื่อเสียจนผลิตเซลล์เม็ดสีออกมาเกินควร


ในส่วนของ เอเอชเอ ก็มีคุณสมบัติไปละลายเนื้อเยื่อที่เกาะเกี่ยวอ้อยอิ่งอยู่ตามเซลล์เสื่อม สภาพทั้งหลาย จึงมึผลด้านการผลัดลอกเซลล์ผิวชั้นบนโดยมีเรตินอลเอเป็นตัวเร่งการผลิตเซลล์ ผิวใหม่และวิตามินบี 3 จะไปช่วยลดการกระจายตัวของเซลล์เม็ดสีอีกแรงหนึ่ง


นอกจากนี้ในผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อยังมีการเติมสารประเภท อะมิโนโปรตีนเสริมเข้าไปเพื่อให้ทั้งแก้ไขปัญหา และบำรุงสภาพผิวพร้อมกันเมื่อทั้งหมดผนึกกำลังทำงานร่วมกันจึงมีส่วนช่วยทำ ให้ผิวดูสดใสขึ้นได้


อย่างไรก็ตามข้อสำคัญที่ควรทราบก็คือ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะทั้งเรตินอล เอ และ เอเอชเอ ไม่ชอบแดด โดนเมื่อไรจะยิ่งมีปฏิกิริยาระคายเคืองจึงต้องใช้ควบคู่กับครีมกันแดดเสมอ และแม้ว่าไวท์เทนนิ่งจะช่วยให้ผิวสดใสขึ้นแต่หากใช้อย่างบ้าคลั่งผิวก็มี สิทธิ์อ่อนแอและบางลงได้ง่าย ๆ ความที่ทั้งเร่งผลัดลอกเซลล์ผิวและควบคุมกลไกการทำงานของร่างกายมากเกินควร


ขอขอบคุณข้อมูลจาก อสมท.
45#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:25:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรื่อง ครีมบํารุงผิวหน้ากลางคืน Night cream
มีคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านถามกันเข้ามามากว่าครีมบํารุงผิวหน้ากลางคืนนั้น สำคัญและจำเป็นต่อผิวหน้าของเราขนาดไหน คำตอบนี้คือ แน่นอนค่ะว่า ครีมบํารุงผิวหน้ากลางคืน นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผิวหน้าเราค่ะ เพราะตอนกลางวันนั้นผิวหน้าของเรามีการสู้รบปรบมือกับมลภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แสงแดด ฝุ่น ควันต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อผิวหน้างาม ๆ ของเราเป็นอย่างมากเลยค่ะ ฉะนั้นแล้วใครไม่อยากผิวหน้าไปเร็วก่อนวัยก็ต้องหันมาใช้ ครีมบํารุงผิวหน้ากลางคืน กันสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ และวันนี้เราก็ยังมีเรื่องครีมบํารุงผิวหน้ากลางคืนเพิ่มเติมกันต่ออีกนิดมา ฝากด้วยค่ะ

ครีมบํารุงผิวหน้ากลางคืน Night cream

การบำรุงผิวหน้าและผิวพรรณในช่วงเวลากลางคืนนั้นจำเป็นนะคะ เพราะในช่วงเวลากลางคืนที่คุณนอนหลับผิวของคุณก็จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ กล้ามเนื้อใบหน้าได้ผ่อนคลายร่างกายเริ่มกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และที่แน่ ๆ ผิวมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่และกระตุ้นการผลัดผิวที่กระจ่างใสเนียนนุ่มกว่า เดิม

ดังนั้น ถ้าคุณอยากให้ผิวหน้าพิสุทธิ์ใสการบำรุงผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าใน ยามค่ำคืนด้วยไนท์ครีม (Night cream) ก่อนนอนเป็นประจำนั้น เรียกได้ว่าเป็นการให้อาหารเสริมเพื่อเข้าไปบำรุงปรนนิบัติผิวคุณ จากภายนอกสู่ภายใน นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะสารบำรุงต่าง ๆ จากเนื้อครีมจะเป็นตัวผลักดันให้เกิดขบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่เปล่งปลั่ง สดใสมีสุขภาพดี

ในการเลือกใช้ไนท์ครีมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดนั้นควรเลือกให้ เหมาะกับสภาพผิวพรรณ โดยคุณ ๆ ที่มีลักษณะผิวมันควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดที่เป็นโลชั่นน้ำนม ชึ่งจะซึมซาบได้ไม่เหนียวเหนอะหนะและคุณ ๆ ที่มีผิวธรรมดาถึงผิวแห้งผลิตภัณฑ์ชนิดครีมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นเปรียบ เสมือนน้ำหล่อเลี้ยงผิวในยามค่ำคืนให้ผิวคุณใสเหมือนวัยแรกสาวค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารสวยด้วยแพทย์
46#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:26:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วิธีทาครีมที่ถูกต้อง "ช่วยหน้าสวย เด้ง ได้นะ"
แม้ว่าครีมที่คุณซื้อมาจะมีราคาแสนแพงเพียงใดแต่ถ้าวิธีทาครีมของคุณยังไม่ ถูกวิธีล่ะก็ ครีมเหล่านั้นก็มักจะใช้ไม่ได้ผลหรอกนะค่ะ แต่วันนี้เรามีวิธีทาครีมที่ถูกต้องมา ฝากคุณผู้หญิงกันด้วยนะค่ะ เพื่อให้คุณผู้หญิงได้รู้จักกับ วิธีทาครีมที่ถูกต้อง และเพื่อการบำรุงที่ได้ผลอย่างสูงสุดจะทำให้ใบหน้าของคุณทั้งสวยทั้งเด้งเลย นะขอบอก ว่าแล้วอย่ารอช้าเรามาเริ่ม วิธีทาครีมที่ถูกต้อง กันตั้งแต่วันนี้กันดีกว่าค่ะ

วิธีทาครีมที่ถูกต้อง

เริ่มแรกควรต้องเตรียมผิวหน้าให้สะอาดเสียก่อนแล้วเลือกปริมาณครีมที่ต้อง ใช้ให้พอเหมาะ เพราะถ้าน้อยเกินไปก็จะไม่ได้ผล หรือถ้ามากเกินไปก็จะทําให้ผิวหน้ามัน และที่สําคัญคือเปลืองครีมโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ประมาณ 1 ลูกเชอร์รี่เท่านั้น


วิธีทาครีมใบหน้า

จากนั้นแต้มครีมให้ทั่วทั้ง 5 จุด บนใบหน้า คือ เริ่มจากหน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้างและคาง แล้วใช้นิ้วกลางและนิ้วนางในการเกลี่ยครีมให้ทั่วใบหน้า โดยเริ่มจากบริเวณที่กว้างที่สุดก่อน เช่น โหนกแก้มส่วนกลางไปยังส่วนข้าง ๆ โดยทางด้านซ้ายออกซ้าย และทางด้านขวาออกขวา แล้วตามด้วยแนวสันจมูก ใต้โพรงจมูก คาง และหน้าผาก โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาไว้


วิธีทาครีมที่คอ

อย่าลืมทาครีมบริเวณลําคอเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะดูแปลก ๆ หากหน้าเต่งตึงแต่คอยาน ซึ่งการทาครีมที่คอนั้นให้ใช้ปริมาณเนื้อครีมเท่ากับที่ใบหน้า โดยเริ่มจากบริเวณที่กว้างที่สุดของคอก่อนคือบริเวณฐานลําคอแล้วใช้ปลายนิ้ว ทั้งหมดค่อย ๆ ลูบไล้ขึ้น ไม่ควรทาลงเพราะจะทําให้ผิวบริเวณลําคอหย่อนทําให้เกิดรอยย่นภายหลังได้


วิธีทาครีมรอบดวงตา

สําหรับการทาครีมรอบดวงตาควรใช้ปริมาณเนื้อครีมประมาณ 1 เมล็ดถั่วเขียว แล้วใช้นิ้วนางเพียงนิ้วเดียวในการทา ขอย้ำว่าต้องนิ้วนางเท่านั้นในบริเวณนี้เพราะจะให้น้ำหนักกดที่เบาที่สุด โดยไล่ตามแนวโครงกระดูกเบ้าตาจะเริ่มที่หัวตาหรือหางตาก่อนก็ได้ จากนั้นวนครีมรอบ ๆ ดวงตา จะวนเข้าหรือวนออกได้ตามถนัดแต่ต้องวนไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้าง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก daradaily

47#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:27:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วิธีนวดหน้า "เรียว" ด้วยตัวเอง
วันนี้พาคุณผู้หยิงมารู้จักกับวิธีนวดหน้าเรียวด้วยตัวเอง ค่ะ ด้วย วิธีนวดหน้า จะช่วยให้คุณผู้หญิงมีใบหน้าที่ยกกระชับและเรียวขึ้น หรือจะเรียกว่า วิธีนวดหน้าเรียว ก็ได้นะจ๊ะ ที่สำคัญ วิธีนวดหน้า นี้คุณยังสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านโดยไม่ต้องเสียเงินไปเข้าร้านกันเลย ทีเดียวค่ะ สำหรับ วิธีนวดหน้าด้วยตัวเอง นี้ควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้งนะค่ะ คุณผู้หญิงพร้อมจะเรียน วิธีนวดหน้าเรียว กันรึยังเ่อ่ย...ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มวิธีนวดหน้ากันเลยค่ะ

วิธีนวดหน้า

- เริ่มจากบริเวณหน้าผาก ให้ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางเริ่มจากกึ่งกลางหน้าผากนวดวนขึ้นเป็นแนวขดลวด (ขึ้นหนักลงเบา) นวดจนถึงบริเวณขมับ 6 จังหวะ ทำซ้ำ 3 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายให้กดจุดที่ขมับเพื่อความผ่อนคลาย

- บริเวณรอบดวงตาและยกกระชับริมฝีปาก ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางนวดเบา ๆ บริเวณใต้ตา โดยเริ่มจากแนวโครงกระดูกเบ้าตาล่าง วนไปมาเบา ๆ นับ 1 ครั้ง ทำซ้ำ 3 ครั้ง จากนั้นเริ่มนวดจากบริเวณใต้โพรงจมูกลูบออกด้านข้างในลักษณะยกผิวขึ้น ลูบไปมา 3 ครั้งและเลื่อนนิ้วลงมาบริเวณใต้ริมฝีปากล่างลูบออกตามแนวริมฝีปากในลักษณะ ยกขึ้นทำซ้ำ 3 ครั้ง

- ยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณมุมปาก ใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างนวดจากบริเวณกึ่งกลางคางขึ้นไปที่บริเวณมุมปากในลักษณะยกขึ้น ทำซ้ำ 3 ครั้ง

- ยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม ใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างนวดจากบริเวณมุมปากในลักษณะยกผิวขึ้นเป็นมุมกว้าง ค้างไว้สักครู่แล้วค่อยลูบลงทำซ้ำ 3 ครั้ง

- ผ่อนคลายความตึงเครียดบริเวณดวงตา ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางกดบริเวณหัวตาทั้ง 2 ข้าง กดเบา ๆ นับ 1-3 แล้วลูบผ่านเปลือกตาและวนรอบดวงตากลับมากดที่หัวตาทำซ้ำ 3 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายลูบผ่านเปลือกตาไปกดจุดที่บริเวณขมับ

ลองนำวิธีที่แนะนำไปใช้นวดหน้ากันดูได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์

48#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:28:29 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วิธีแก้รูขุมขนกว้าง "เพื่อผิวเนียนใสรูขุมขนกระชับ"
วันนี้เรามีวิธีแก้รูขุมขนกว้างมาฝากคุณผู้หญิงที่กำลัง เกิดปัญหารูขุมขนกว้างหรือรูขุมขนใหญ่ สำหรับ วิธีแก้รูขุมขนกว้าง นี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางให้คุณผู้หญิงนั้นลองไปปฏิบัติใช้กันดู นอกจากจะช่วยแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ใหญ่ ได้แล้วด้วย วิธีแก้รูขุมขนกว้าง นี้ยังจะช่วยให้คุณนั้นมีผิวเนียนใสรูขุมขนกระชับขึ้นอีกด้วยค่ะ เพราะสาเหตุที่คนเรามีรูขุมขนกว้างหรือใหญ่มักจะเกิดได้หลากหลายสาเหตุ บ้างก็เป็นเพราะกรรมพันธ์ บ้างก็เป็นเพราะเครื่องสำอางค์ที่เราใช้อยู่ ฉะนั้นแล้วลองใช้วิธีแก้รูขุมขนกว้างของเราก็ดูก่อนนะค่ะ เพราะจะเป็นสิ่งเริ่มแรกในการผิวสวยเนียนใสรูขุมขนกระชับค่ะ
4 วิธีแก้รูขุมขนกว้าง

1. รักษาความสะอาด ถ้ามีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนผิวหน้าก็จะผลิตน้ำมันนส่วนเกินออก มาซึ่งจะทำให้สิ่งสกปรกฝังตัวอยู่ในรูขุมขนมากขึ้น และทำให้รูขุมขนมีขนาดกว้างและใหญ่ขึ้นอีกด้วย คุณจึงควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดวันละสองครั้งรวมทั้งใช้มาส์กพอก หน้าเพื่อทำความสะอาดอย่างล้ำลึกและขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนออกไปสัปดาห์ละ ครั้ง

2. อย่าบีบ การบีบรูขุมขนเพื่อพยายามจะทำให้มันดูเล็กลงนั้นเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรทำ อย่างยิ่ง เพราะนั่นอาจสร้างความระคายเคืองให้แก่ผิวหน้าจนอาจนำไปสู่อาการอักเสบและ ติดเชื้อได้

3. ใช้โทนเนอร์ โทนเนอร์คืออาวุธลับในการช่วยทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ยังหลงเหลืออยู่บน ใบหน้า แต่ควรเลือกใช้แบบที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะโทนเนอร์ที่มีฤทธิ์แรง เกินไปนั้นอาจทำให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื้นซึ่งจะกระตุ้นให้ผิวหน้าผลิต น้ำมันออกมาชดเชยมากขึ้น

4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะ โดยใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยทำให้รูขุมขนเล็กลงซึ่งผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของกรดเอเอชเอ เรตินอลด์ หรือเปปไทด์

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa


49#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:29:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
กระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ

หลังการล้างหน้าตามปกติ ลองใช้เกล็ดน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ ห่อด้วยผ้าบาง ๆ มาประคบผิวบริเวณที่มีปัญหา โดยประคบเบา ๆ บนผิวไปมาให้ทั่วบริเวณประมาณห้านาที ความเย็นของน้ำแข็งจะช่วยกระชับรูขุมขน หากทำเป็นประจำรับรองว่าผิวจะดูสดใส ไร้ร่องรอยรูขุมขนกว้าง สูตรนี้นางงามหลายคนนิยมทำกันด้วยนะ
สูตรพอกหน้ากระชับรูขุมขน "อย่างได้ผล!"
วันนี้คุณผู้หญิงหรือใครก็ตามที่คิดว่าตัวเองนั้นมีรูขมขนโตหรือกว้างปัญหานี้กำลังจะหมดไปค่ะ เพราะเรานั้นมีสูตรพอกหน้ากระชับรูขุมขนอย่าง ได้ผลมาฝากกันค่ะ ด้วย สูตรพอกหน้ากระชับรูขุมขน นี้จะช่วยให้คุณผู้หญิงนั้นกระชับรูขุมขนให้เล็กลงและใบหน้าก็จะเรียบเนียน ขึ้นอีกด้วยค่ะ สำหรับส่วนผสมของ สูตรพอกหน้ากระชับรูขุมขน นี้ก็เป็นสูตรแบบธรรมชาติ ๆ ที่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด แถมสูตรพอกหน้ากระชับรูขุมขนนี้ยังใช้วัตถุดิบในการพอกหน้าไม่มากสุดท้ายเลย ก็คือราคาย่อมเยาว์อย่างแน่นอนค่ะ ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกระชับรูขุมขนกันเลยดีกว่ากับสูตรพอกหน้ากระชับรูขุมขน นี้ค่ะ
สูตรพอกหน้ากระชับรูขุมขน

- ส่วนผสม น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ผสมไข่ขาว 1 ฟอง คนให้เข้ากัน ทาทั่วหน้า เว้นรอบดวงตา นวดเบา ๆ 5 นาที แล้วทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็นจัด ทำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mother&Care
50#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-4-25 09:30:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เคล็ดลับ วิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ
วันนีเรามี วิธีกระชับรูขุมขนง่ายๆ ซึ่งก็เป็นวิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติเช่น เดียวกันที่เรากำลังจะนำมาฝากคุณผู้หญิงที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง และด้วย วิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ ที่เรากำลังจะแนะนำนี้ก็คือจะเป็น วิธีกระชับรูขุมขนด้วยน้ำแข็ง นั่นเองค่ะ หลายท่านคงแปลกใจกันใช่ไหมว่าเจ้าน้ำแข็งก้อนเดียวจะช่วย กระชับรูขุมขนได้จริง ๆ นะเหรอ ด้วยเจ้าน้ำแข็งเพียงก้อนเดียวก็ช่วยให้ใบหน้าของคุณ กระชับรูขุมขน ได้จริง ๆ ค่ะ แถมยังเป็น วิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ หาง่ายราคาประหยัดอีกต่างหาก เรามาลงปฏิบัติการกระชับรูขุมขนกันเลยดีกว่าค่ะ

เคล็ดลับ วิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ
วันนีเรามี วิธีกระชับรูขุมขนง่ายๆ ซึ่งก็เป็นวิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติเช่น เดียวกันที่เรากำลังจะนำมาฝากคุณผู้หญิงที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง และด้วย วิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ ที่เรากำลังจะแนะนำนี้ก็คือจะเป็น วิธีกระชับรูขุมขนด้วยน้ำแข็ง นั่นเองค่ะ หลายท่านคงแปลกใจกันใช่ไหมว่าเจ้าน้ำแข็งก้อนเดียวจะช่วย กระชับรูขุมขนได้จริง ๆ นะเหรอ ด้วยเจ้าน้ำแข็งเพียงก้อนเดียวก็ช่วยให้ใบหน้าของคุณ กระชับรูขุมขน ได้จริง ๆ ค่ะ แถมยังเป็น วิธีกระชับรูขุมขนแบบธรรมชาติ หาง่ายราคาประหยัดอีกต่างหาก เรามาลงปฏิบัติการกระชับรูขุมขนกันเลยดีกว่าค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก คู่หูเดินทาง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้