|
comment เรื่องงานนิดหนึ่งนะคร้าบบ~~
สถานที่+ที่จอดรถเหมาะสมรองรับจำนวนคนปริมาณเยอะได้ดีและเดินทางสะด ...
ต้นฉบับโพสโดย rfvrfv เมื่อ 2009-10-19 22:11
ขอตอบน้องสต๊อบเป็นข้อๆเลยนะครับ
เนื่องจากงานนี้ต้องการให้มีรูปแบบงานแบบคุยกันสบายๆ
ไม่ได้คิดจะทำให้มีพิธีการมากมาย กลัวท่านที่มาจะเกร็ง
ช่วงปล่อยฟรียาว เป็นช่วงที่รอสมาชิกเดินทางมาร่วมงานอ่ะครับ
เพราะ ตามหมายกำหนดการ งานเริ่มตอน 18.00 น.
ถึงเวลาคนมาเยอะจริงๆหลัง 19.30 น.
แต่ทางทีมงานพยายามเข้าไปพูดคุยกับทุกท่าน
ซึ่งพี่ก็คอยดูว่า ใครบ้างที่นั่งคนเดียว มาคนเดียว ก็คอยบอกน้องๆให้เข้าไปดู
แต่อย่างที่บอกไว้ข้างบนว่า สมาชิกส่วนใหญ่มาค่อนข้างดึก
ไม่ได้ทยอยมาตามที่เราคาดไว้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้วครับ
บางทีแผนที่วางไว้ กับ เหตุการณ์จริง ก็ต่างจากที่เราคาด
และเป็นการจัดงานครั้งแรกของเวบเรา ซึ่งคงมีความยากอยู่บ้าง
สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
แล้วความต่อเนื่องของงานก็ถูกกำหนดโดยจำนวนของแขกที่มาในงาน
เรารอสมาชิกมาให้มากที่สุดก่อน จึงเริ่มเปิดงาน
ตรงนี้ก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะ เป็นการบอกเล่าที่มาที่ไปของการก่อตั้งเวบ
และแนะนำทีมงานทุกคนของเวบ ถ้าตอนแรกคนยังมาน้อย แล้วเราเริ่มจุดนี้ไปก่อน
คนที่มาทีหลัง ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่กว่า จะไม่รู้อะไรเลย
เพราะ นี่เป็นการเปิดตัวทีมงานทั้งหมดครั้งแรกที่คนที่มาเกือบทั้งหมดยังไม่รู้จักเลย
ส่วนเรื่อง จำนวน Staff ทีแรกพี่ตั้งใจว่า จำนวน Staff จะมีประมาณ 20 คน
ซึ่งแต่ละคนก็มาจากสมาชิกของเวบที่คุ้นเคยกันมาบ้าง
แต่เราคำนึงอีกจุดนึงว่า หากใครมาเป็น Staff ให้ทีมงานเรา
ก็ถือว่า เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานของเวบ
Staff จะหมดสิทธิ์ในการจับรางวัลทันที
ซึ่งเราไม่อยากให้คนเหล่านี้ถูกตัดสิทธิ์ที่สำคัญนี้ไป
เพราะ ทุกงานที่พี่เคยไปมา
Staff จะไม่มีสิทธิ์ในการรับรางวัลใดๆในงานทั้งสิ้น
แต่ปัญหาเรื่องนี้ลดลงไปมาก เนื่องจากมีสมาชิกหลายท่าน
ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี คอยช่วยทางทีมงานต้อนรับ
และพูดคุยกับสมาชิกท่านอื่นๆอย่างเป็นกันเอง
เพราะ บางท่านคุ้นกับการคุยกันในเวบมาบ้างแล้วก่อนจะมาเห็นหน้ากันในวันงาน
ส่วนเรื่อง พิธีกร พี่ก็เตรียมไว้ ชาย 1 หญิง 1
ทีแรกพี่ติดต่อพิธีกรของทางแกรมมี่มาช่วยงาน
แต่เนื่องจาก พี่คิดว่า คงไม่เกินความสามารถที่พี่จะทำได้
จึงตัดรายจ่ายในข้อนี้ไป เพื่อให้เหลือรายได้ในการทำบุญให้มากสุด
พี่เตรียม น้องหนึ่ง กับ น้องหนิง เป็นพิธีกรคู่ไว้แล้ว
แต่ถึงเวลาจริง ทางร้านมีไมโครโฟน ให้ 2 ตัวเอง
ซึ่งถ้ามีพิธีกร ชาย 1 หญิง 1 อย่างน้อยต้องมีไมค์ 3 ตัว
ซึ่งพอพี่ถามทางเจ้าหน้าที่ที่คุมระบบเสียง เค้าบอกมี 2 ตัวเอง
ขนาดเวลาไมค์มีปัญหา เหลือไมค์อันเดียว ยังใช้ลำบาก
เพราะ ต้องส่งไมค์กันไปมาตลอด กับ คนที่พี่ต้องคุยด้วยบนเวที
และจะสังเกตุว่า ไมค์มีปัญหาบ่อย เพราะ เป็นไมค์ลอย เวทีก็มีพื้นที่จำกัด
น้องสต๊อบนั่งติดเวที คงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตามที่พี่เล่ามา
เลยเป็นไปได้ยากที่จะมีคนบนเวทีเกิน 2 คน จึงต้องเหลือพิธีกรเพียงคนเดียว
ขนาดตอนรับรางวัล คนที่ได้รางวัลยังไม่มีที่ให้ยืนบนเวทีเลย
แต่พี่ว่า การรับส่งในการคุยบนเวที ไม่ได้สะดุดมากนัก
จะเห็นว่า สะดุดตอนที่ไมค์มีปัญหาเท่านั้น และเป็นอยู่หลายครั้ง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทางร้านลีลาวดีที่คุมเครื่องเสียงอยู่ก็ช่วยแก้ปัญหาให้ตลอดเวลา
ส่วนการบรรยายของคุณหมอเป็นกึ่งเฉพาะทาง
แต่น้อยนะครับ ที่คุณหมอต้องพูดเป็นแนววิชาการบ้าง
เพราะ หลายด้านเป็นผลงานการวิจัยของคุณหมอซึ่งมีชื่อเสียง
เป็นที่ยอมรับของวงการแพทย์ทั่วโลก ซึ่งคุณหมอต้องกล่าว
อ้างอิงถึงบ้าง แต่ก็ไม่มาก เพราะ พี่เปิดดูวีดีโอที่คุณหมอมาบรรยาย
ในงานนี้ที่พี่ถ่ายเก็บไว้ ส่วนใหญ่เป็นคำพูดง่ายๆที่คนทั่วไปฟังเข้าใจ
และจะเห็นว่า คำถามที่พี่ถามคุณหมอ พี่เน้นถามในเรื่องที่คิดว่า
คนที่มาจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ มีบ้างที่เน้นเรื่อง เลเซอร์
ซึ่งคงต้องอธิบายเป็นเชิงวิชาการบ้าง แต่จะเห็นว่า
คุณหมอพยายามจะเปรียบเทียบเป็นคำพูดง่ายๆ เช่น
ถ้าทิ้งระเบิดลงตรงไหน จะเกิดอะไร ฯลฯ
เพราะ หลายคนถามพี่ในเวบเรื่อง เลเซอร์ เยอะมาก
และยังมีคนไม่เข้าใจเรื่อง ผลของการใช้เลเซอร์ ฯลฯ
พี่คิดว่า คุณหมอพูดได้ดีแล้วและไม่น่าเบื่อ
เพราะ พี่เปิดวีดีโอที่ถ่ายไว้ดูอีกไม่ต่ำกว่า 3 รอบ
ในคืนวันงาน ตอนที่พี่กลับมาบ้านแล้ว
ยังไงพี่ก็ขอบคุณที่ให้ข้อคิดมา ณ ที่นี้
และคงปรับปรุงให้ดีกว่านี้ หากยังมีการจัดงานในคราวหน้าอีก
ป.ล. ที่ถามเรื่อง ไอเดียรางวัลใต้เบาะ น่าจะเป้น
ไอเดียของบ๊อบบี้ ถ้าพี่จำไม่ผิดนะครับ |
|