ไหม PDO และไหมก้างปลา แตกต่างกันอย่างไร?

ContentSGR

        ไหมละลายPDO ข้อดีคือ ไหมสามารถละลาย สลายหายไปเอง ภายใน 6-8 เดือน เป็นไหมละลายที่มีความปลออดภัยสูงนำเข้าจากประเทศเกาหลี แต่ช่วยกระชับผิว ได้ 2-3 ปี ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง ไหมละลายเป็นไหมที่ใช้ในการเย็บ กล้ามเนื้อหัวใจ และหลอดเลือด กระตุ้นเซลล์ที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมาพันรอบแนวเส้นไหมซึ่งจะส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูสภาพผิว  ดังนั้นโอกาสแพ้เกือบ 0% ซึ่งน้อยมาก เห็นผลหลังทำทันที่ 20 – 30% จากนั้นต้องรอ 6 – 8 สัปดาห์ เพื่อเห็นผลเต็มที่ ข้อดีอีกข้อ คือ หลังจากร้อยไหมเสร็จ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถไปทำงานได้เลย

        ไหมก้างปลา เป็นไหมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด  ไหมก้างปลาถูกผลิตให้มีเงี่ยงเล็กๆคล้ายก้างปลาตลอดความยาวของเส้นไหม ทำให้สามารถยกกระชับและดึงผิวขึ้นได้ดี เพราะเงี่ยงของไหมจะช่วยยึดพยุงผิวและสามารถดึงผิวให้ตึงขึ้นได้ดีกว่าไหมละลาย PDO ชนิดเส้นเล็กๆ ผลที่ได้จะสามารถเห็นได้ทันทีหลังการรักษา และจะดีขึ้นอีกเรื่อยๆในระยะ 6 เดือนแรก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแก้ม ใต้คาง หรือหางคิ้ว ขมับ หน้าผาก ก็สามารถใช้ยกกระชับผิวได้ดีทุกแห่ง และให้ผลดีอยู่ได้นานประมาณ 1- 3 ปี เพื่อให้การรักษาได้ประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนการร้อยไหมก้างปลานั้นแพทย์จะดีไซน์แนวการร้อยไหมบนใบหน้าของแต่ละท่านก่อน แล้วจึงฉีดยาชาลงตามจุดต่างๆบนใบหน้า