ดู: 25986|ตอบกลับ: 145
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมจมูก] จะมาเล่าถึงการเสริมจมูกครั้งเเรกในชีวิต กับคุณหมอตุ๊กที่ดีมอร์คลินิก

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Puttaya2017 เมื่อ 2017-12-22 17:58

สวัสดีค่ะ เราเป็นคนนึงที่เรียกได้ว่าเกิดมาไม่มีดั้งติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด (ขำตัวเอง555)
ก็จะมีปมติดตัวอยู่ทุกครั้งเมื่อมีคนล้อบ้าง แซวบ้าง แต่ตอนนั้นก็คิดได้แต่ปลงๆ เพื่อปลอบใจตัวเอง  
เพราะในชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าจะศัลยกรรมใดๆ ในร่างกาย  เพราะรู้สึกกลัวเรื่องพวกนี้มากๆ
แต่ในความกลัวก็จะมีวูบนึงที่จะคิดสลับวนไปวนมาอยู่ตลอดเวลาว่า..อยากเสริมจมูกมาก อยากทำ ๆ
อยากสวย  เพราะเห็นคนนู้นคนนี้ทำมาก็สวยขึ้น เวลาที่เรามีความรู้สึกอยากจะทำขึ้นมา
เราก็จะค้นหารีวิวของคลินิกที่นู่นที่นี่ที่นั่นไปเรื่อยๆ ดูรีวิวจากดั้งโด่งตลอด
แต่สุดท้ายเราก็ปลงเพราะความกลัวของเราเอง  
เราจะมีความรู้สึกสลับไปสลับมาแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ปี 3  ซึ่งตอนนั้นอายุก็ประมาณ 22-23 ปีได้  
จนกระทั่งปัจจุบันเราอายุ 27 ปีแล้ว เรื่องของเรื่องที่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะทำจมูกก็คือ ในปลายปีนี้เรามีแพลนแต่งงาน
คือทางเรามีการพูดคุยเรื่องแต่งงานตั้งแต่ปี 2559 แล้ว  เราก็จะมีเวลาเตรียมงาน 1 ปี

      ตอนแรกเราก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าอยากทำจมูกมากมายอะไรขนาดนั้นนะ เพียงแต่คิดว่าตัวเองต้องลดน้ำหนักให้ได้
ซึ่งตอนนั้นเราเผชิญกับน้ำหนักเข้าเลข60ปลายๆ คืออ้วนมากๆ เราคิดแต่ว่าจะทำยังไงให้ผอมดี
เราก็ตั้งใจลดน้ำหนักลงมาได้ประมาณ50ต้นๆ ในช่วงต้นปีของปี 60 ประมาณเดือนมิถุนายนเรามีนัดถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง
เหตุที่รู้สึกว่าอยากทำจมูกมากกกกกกก จนลืมความกลัวได้เพราะมันเกิดตอนช่วงนี้แหละค่ะ  
ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้ทำจมูก ภาพที่ออกมาเราแฮ๊ปปี้กับรูปหน้าตรงของเรามาก
แต่!!ถ้าภาพไหนเป็นมุมด้านข้างนะ เราจะนอยด์ทันที เพราะ!!
โดยพื้นฐานรูปหน้าเราเป็นคนหน้ากลม และยิ่งถ้าอวบด้วย
และไม่มีดั้งด้วยนี่มันจะเหมือนซาลาเปาที่อยู่ส่วนล่างที่ติดกับกระดาษยังไงยังงั้นเลย 555




รูปก่อนทำนะคะ






จนเราตัดสินใจกับตัวเองได้ล่ะว่าจะทำ คือยังไงก็ต้องทำก่อนแต่งให้ได้แน่ ๆ คือในความคิดของเรานะ
ภาพตอนแต่งงานวันจริงนี่จะต้องมีรูปมุมด้านข้างนู่นนี่นั่นเยอะแน่ๆเลย ไม่ได้การล่ะ
ยังไงเราต้องมีสันให้ได้ก่อนแต่งแน่ๆ ก็เลยตัดสินใจว่าจะเข้าไปปรึกษาเรื่องเสริมจมูกกับหมอตุ๊กที่ดีมอร์ค่ะ
เพราะก่อนหน้านี้เข้าไปดูรีวิวเคสของคุณหมอมาค่อนข้างเยอะมาก และพึงพอใจกับฝีมือคุณหมอมาก
ก็เลยชวนเพื่อนให้พาไปปรึกษาคุณหมอ ก็โทรนัดคิวกับทางคลินิกว่าจะเข้ามาพบคุณหมอก็นัดเวลากัน  
พอถึงคิวก็มีพี่พนักงานที่ดูแลพาเข้าไปพบคุณหมอ คุณหมอก็สอบถามประวัติ สอบถามว่าทำไมถึงอยากทำ
ก็พูดคุยกันไปปกติเกี่ยวกับปัญหาของเรา คือตอนปรึกษาเราจำรายละเอียดได้ไม่ครบนะเพราะมันนานมากแล้ว  
แต่เท่าที่จำได้คุณหมอบอกว่าจมูกเราเป็นคนที่ฐานจมูกเบี้ยวอยู่แล้วนิดนึง
ปลายจมูกจะชี้ไปทางด้านขวาเล็กน้อย จมูกค่อนข้างสั้น และปีกจมูกกว้าง OMG!!
พอได้ยินคุณหมอบอกแบบนี้ก็คิดว่าจมูกเรานี่มันแย่ขนาดนี้เลยหรอ ถึงว่าล่ะทำไมไม่สวยสักที 555
คุณหมอก็แนะนำว่าคุณหมอจะเหลาซิลิโคนให้เข้ากับฐานกระดูกจมูกของเรา
และถ้าอยากมีจมูกที่สวยได้รูปเป๊ะเลยนั้น  คุณหมอแนะนำให้ใช้กระดูกอ่อนหลังหู
มาเสริมช่วงปลายจมูกเพราะจมูกเราสั้น ตอนนั้นเราก็อยากเสริมแบบใช้กระดูกอ่อนหลังหูด้วยนั่นแหละ
แต่มันติดตรงงบประมาณคงคลังของเราไม่พอ 555 ก็เลยตัดสินใจว่าไม่เอากระดูกอ่อนหลังหูแล้วกัน
ได้เท่าไหนก็เอาเท่านั้น เราคิดแค่ว่าที่แน่ๆ คือต้องดูดีกว่าเดิมแน่นอนนนน  
ปรึกษาเสร็จก็จ่ายเงินมัดจำประมาณ 5000 บาท มั้งคะถ้าจำไม่ผิดนะคะ
แต่เราขอว่าจะยังไม่ระบุวันเวลานัดที่จะมาเสริมเพราะช่วงนั้นเราทำงานจันทร์-ศุกร์
และก็มีเรียนเสาร์อาทิตย์ด้วย ก็เลยจะไปวางแผนชีวิตตัวเองก่อนว่าจะลาหรือมีวันหยุดยาวช่วงไหนบ้าง
ระยะเวลาผ่านไปราวสองสามเดือนได้ คือเป็นช่วงเวลาที่นานนะ
ซึ่งเป็นช่วงที่เรากลับมากล้าๆกลัวๆเหมือนเดิมอีกแล้ว 555
จะทำ ไม่ทำ ทำ ไม่ทำ จน assist ที่ดูแลเราโทรมาตามให้ไปทำ
เพราะถ้าทิ้งไว้นานโปรที่เราจองไปใกล้จะหมดอายุแล้ว  
ตอนนั้นเราก็โอเค นัดวันเลย 555 ความงกเข้ามาครอบงำจนลืมความกลัวซะล้าววว


มาอ่านต่อในคอมเม้นด้านล่างนะคะ

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-12-22 17:22:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Puttaya2017 เมื่อ 2017-12-22 17:37

......และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง
เราจำได้ว่าเรานัดคิวคุณหมอวันศุกร์ช่วงบ่ายสามโมงเย็น เราไปถึงก่อนเวลานิดหน่อย
เพราะพี่ที่ดูแลเราบอกให้มาก่อนเวลาจะได้เข้ามากินยาก่อนทำ ลืมบอกไปว่าวันที่เราไปทำนั้น
เราไปคนเดียวเลย ขับรถไปเองเลย ไม่รู้ว่าเอาความกล้ามาจากไหน ทั้งๆที่ผ่านมากลัวจนหัวหดอยู่หลายปี
ความรู้สึกตอนนั้นจะบอกว่าไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร  เพราะอะไรก็ไม่รู้นะ แต่จะคิดตลอดเลยว่าถ้าเราผ่านวันนี้ไปได้
พรุ่งนี้เราก็จะสวยแล้ว คิดแค่นี้จริงๆ อะเข้าเรื่องต่อๆ พอไปถึงคลินิกก็มีแบบสอบถามไรงี้ให้ทำนิดหน่อย
เป็นคำถามเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นของการทำจมูกที่ทางคลินิกดีมอร์ลงไว้ในเพจอยู่บ่อยๆ
เป็นการสำรวจตนเองด้วยแหละว่าเราศึกษาข้อมูลมามากน้อยเพียงใด เราจำได้ว่าเราตอบผิด 1 ข้อมั้งนะ แหะๆ
จากนั้นก็กินยาสมุนไพรหยุนหนานไป่เหย่า (เป็นสมุนไพรจีนที่ช่วยลดอาการบวมจากแผลผ่าตัดได้เป็นอย่างดี
ยาตัวนี้ดีมากที่คลินิกมีขายนะ) แต่จริงๆแล้วถ้าเรารู้ตัวว่าจะทำศัลยกรรมล่วงหน้า
เค้าบอกกันว่าให้กินยาตัวนี้สักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ก่อนมาทำจะดีมากๆ ช่วยลดอาการบวมช้ำได้ดีเลย
แต่เราคือกะทันหันไงก็ไม่ได้กินยาตัวนี้ก่อน  ต่อมาก็กินยาเม็ดเล็กๆ
รู้สึกจะเป็นยาที่ทำให้เลือดไม่ไหลออกมามาก (สรรพคุณคือแบบนี้ใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แอบลืม)
จากนั้นก็ไปล้างหน้า เช็ดเครื่องสำอาง และก็ถ่ายรูปก่อนเข้าห้องผ่าตัด จะมีทำท่าการวางซิลิโคนใต้เยื้อหุ้มกระดูกเเบบนี้นะคะ






เสร็จแล้วก็นั่งรอ ไม่นานพี่พยาบาลก็มาเรียกให้ไปที่หน้าห้องผ่าตัดโดยให้สวมชุดผ่าตัด  
และก็เข้าไปในห้อง  ความรู้สึกที่ก้าวเข้าไปในห้องอารมณ์เหมือนเราไปทำฟันอะค่ะ
บรรยากาศไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลางห้องมีเตียงอยู่ 1 เตียง มองขึ้นไปจากบนเตียงก็จะเห็นโคมไฟขนาดใหญ่
ที่สามารถส่องแสงสว่างมากกกก  ขณะที่เรารอคุณหมอเข้ามาในห้องผ่าตัด  
เราก็ถามพี่พยาบาลว่า พี่คะเจ็บมากไหมคะ? มีใครทนไม่ได้ไหมคะ? บลาๆ ๆ
คุยไปเรื่อยเพราะตอนนั้นเรารู้สึกเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาล่ะ + กลัวหน่อยๆ ฮ่าๆ ก็เลยหาเรื่องคุยให้ลืมๆ
เอ้อ ลืมบอกเลย ขณะที่เรารอคุณหมออยู่นั้น พี่พยาบาลจะเอาเหมือนเบตาดีนหรือเปล่าไม่แน่ใจนะ
มาทาที่หน้าเราทั่วหน้าเลย  เราจะรู้สึกถึงความหน้าตึง หน้าแบบแห้งๆ ไรประมาณนี้
น่าจะเป็นการฆ่าเชื้อนะเราว่าอะ  และแล้วได้เวลา....คุณหมอเดินเข้ามาในห้องปุ๊บเราก็ได้ยินคุณหมอหยิบเครื่องมือ
แต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไรบ้างนะ ได้ยินแต่เสียง จากนั้นคุณหมอหยิบซิลีโคนที่เราจะทำให้เราดู
ซึ่งเราเลือกซิลีโคนของอเมริกา ทรงตั๊กแตน แมนทิส นะคะ




3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-12-22 17:37:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Puttaya2017 เมื่อ 2017-12-22 18:09

เคล็ดลับของที่นี่คือ
1. ภายในห้องผ่าตัดจะไม่มีนาฬิกา จะไม่มีการล็อคเวลาใดๆ ทำไปเรื่อยๆ ทำไปจนกว่าจะสวยค่ะ
  
2. คุณหมอจะไม่เอาผ้ามาปกปิดใบหน้าของเราเลย  เพราะคุณหมอจะต้องพิจารณาตลอดว่าจมูกทรงนี้
เข้ากับใบหน้าของเราหรือไม่ ซึ่งเราก็จะหลับตาตลอดเนื่องจากข้างบนจะมีไฟที่ส่องจ้ามาก  
และอีกอย่างคือไม่กล้าลืมตาหลอกค่ะ กลัวววววเห็นเลือด  

3. ขณะผ่าตัดเมื่อคุณหมอใส่ซิลีโคนที่เหลาพอดีและเข้ากับรูปหน้าเราเเล้วคุณหมอจะให้เราลุกขึ้นนั่งค่ะ
โดยที่ยังไม่ได้เย็บแผลปิดนะคะ คุณหมอบอกว่าการที่ต้องให้คนไข้นั่งนั้นเพราะใบหน้าของคนเรา
เวลาที่เรานอนกับเวลาที่เรานั่งหรือเดินจะไม่เหมือนกัน  และคุณหมอจะให้เราส่องกระจกดูค่ะว่าชอบหรือไม่?
แต่เอาจริงๆนะคะตอนนั้นคือเราดูไม่ออกหรอกค่ะว่าสวยหรือยัง เพราะมันจะบวมอยู่

.......อะเรามาเข้าเรื่องกันต่อ คุณหมอไม่พูดพร่ำทำเพลงบรรเลงลงบนหน้าเราเลยค่ะ โดยความรู้สึกแรกของเรา
คือการโดนเข็มจิ้มไปบริเวณใบหน้าด้านซ้ายมือก่อนค่ะ (ที่ใครๆก็พูดกันว่าทำจมูกจะเจ็บแค่ฉีดยาชาเข็มแรกนี่แหละ
ก็จริงค่ะ เจ็บแต่เจ็บแบบทนได้ ย้ำ!!นะคะ ว่าเจ็บแบบทนได้  ไม่ได้เจ็บแบบเว่อร์วังอะไรนะคะ ชิลๆ)
ต่อมาคือโดนเข็มจิ้มไปที่ด้านขวา  ช่วงจังหวะนี้คือจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรแล้วค่ะ เราจะรู้สึกว่าหน้าเราบวมๆ ชาๆ แล้ว
ซึ่งต่อจากนี้จะโดนจิ้ม ทุบ กระแทก ดึง ดัน อะไรก็ไม่เจ็บแล้วค่ะ มาค่ะๆ  
จากนั้นต่อด้วยโดนเข็มจิ้มมาด้านบนของจมูก ปิดท้ายด้วยปลายจมูกที่เค้าว่ากันว่าเจ็บมากกกก
แต่ของเราไม่รู้สึกอะไรเลย อาจเป็นเพราะคุณหมอมือเบาด้วยค่ะ จบค่ะ ความเจ็บในการทำจมูก
ที่เหลือคือความรู้สึกล้วนๆแล้วค่ะ ที่ว่าความรู้สึกนั้นก็คือ เราอาจจะได้ยินเสียงครืดๆ
เพราะคุณหมออาจใช้ตะไบขูดที่ฮัมพ์จมูกเราก็เป็นได้ (เดาล้วนๆ) เราอาจจะรู้สึกคับๆจมูก
เหมือนมีช่องว่างให้ลมหายใจเข้าออกน้อยกว่าปกติ อาจเป็นเพราะคุณหมอเอาเครื่องมือ
หรือซิลีโคนยัดเข้าไปอยู่ก็เป็นได้ต่อมาเราอาจจะรู้สึกว่าคุณหมอกดจมูกเราอยู่
เพื่อให้ซีลีโคนแนบกับฐานจมูกของเรา ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราคิดและรู้สึกเองในขณะที่คุณหมอกำลังทำให้เรานะคะ
และจะมีของเหลว(เลือด)ไหลลงคอเราตลอด ไม่ต้องกลัวนะ กลืนอย่างเดียวค่ะ
ไม่ได้รับรู้รสชาติใดๆทั้งสิ้นเพราะมัวตื่นเต้นอยู่ ขณะที่คุณหมอทำๆไป
คุณหมอบอกว่าอย่าจินตนาการว่าหมอกำลังทำอะไร ให้คิดเรื่องอื่นเรื่อยเปื่อยไป
คิดว่าเสร็จแล้วเราจะสวยก็ได้ ซึ่งเคล็ดลับที่คุณหมอบอกมาได้ผลแหะ
คือคนเราจะจินตนาการตามขณะที่คุณหมอทำ และภาพที่เราคิดมันค่อนข้างน่ากลัว
แต่ถ้าเราไม่คิดตามเราก็จะไม่ตื่นเต้น ไม่กลัว ไม่เจ็บอะไรทั้งสิ้นค่ะ
พอทำเสร็จแล้วสำหรับเราไม่มีความปวดตึงแต่อย่างใดนะคะก็ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ


หลังออกจากห้องผ่าตัด พี่Assist ก็จะมาสอนวิธีการดูเเลตัวเองหลังผ่าตัด





เพียงแต่ว่าต้องระวังตามคำแนะนำของAssist ที่ดูแลเราเพื่อให้แผลของเราสะอาดและหายบวมให้เร็วที่สุดค่ะ
ตอนกลับแฟนเรามารับกลับค่ะ เพราะตอนแรกกลัวว่าจะมึนขับรถไม่ได้  



เเละนี่คือยาทั้งหมดที่ปัถกินค่ะ



พอมาถึงบ้านก็นอนพักผ่อนค่ะ ทานอาหารอ่อนๆได้ ทานน้ำมะพร้าว ทานยาที่ได้มา ประคบเย็นตลอด
เราค่อนข้างดูแลตัวเองเยอะเพราะอยากกลับไปทำงานให้เร็วที่สุด สรุปเราลางานเพียง 1 วัน
คือเราทำเย็นวันศุกร์ พักเสาร์ อาทิตย์ และลาวันจันทร์ต่อ 1 วันจากนั้นก็ใส่แมทต์ปิดปากไปทำงานได้แล้วค่ะ
พูดถึงความช้ำ ความบวมสำหรับตัวเราค่อนข้างไม่บวม ไม่ช้ำเท่าไรค่ะ แฮ๊ปปี้มากๆเลย









วันที่ 4 เริ่มไปทำงานค่ะ แอบเขียนคิ้วนิดนึงค่ะ





เเกะผ้าเทปออกเเล้ว เย้ๆๆๆๆ












เดี๋ยวจะมาลงรูปอีกนะคะ ยังไม่หมด อิอิ
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-12-22 17:46:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Puttaya2017 เมื่อ 2017-12-22 17:51

รูปต่อไปนี้คือรูปที่ตัดไหมเสร็จเเล้วนะคะ ลงรัวๆ ยาวจนถึงปัจจุบัน 6 เดือนเเล้วจ้าาาา




























จะขอพูดสั้นๆนะคะ
.....การเสริมจมูกไม่ได้น่ากลัวเลย และการเลือกคลินิกที่จะทำเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ถ้าคุณเลือกทำกับคลินิกที่ดีมีมาตรฐานก็เหมือนคุณได้ชีวิตใหม่ไปเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณดีมอร์ที่ทำให้เราดูดีขึ้น ชีวิตดีขึ้น ขอบคุณหมอตุ๊กมากๆค่ะ
รีวิวได้ละเอียดมากๆเลยคะ จมูกก็สวย อ่านเเล้วอยากไปทำเลยนะคะ
ตอนนี้กำลังเก็บตัง อยากทราบว่าต้องพักฟื้นกี่วันคะ
อ่านเพลินเลยค่ะ สวยๆ ดูมีมิติขึ้นเยอะ^^
เขียนได้ละเอียดมากๆเลยค่ะ อ่านเเล้วอยากไปทำเลย
ว้าาวว!!!สวยเนียนมว๊าากก..ชอบๆ
สวยเนียนธรรมชาติมากๆเลย  อันนี้หมอจะดูให้เราเองใช่ไหมคะ

รีวิวได้ละเอียดมากๆเลยคะ จมูกก็สวย อ่านเเล้วอยากไปทำเลยนะคะ
ตอนนี้กำลังเก็บตัง อยากทราบว่าต้องพักฟื้นกี่วัน
สวยเนียนธรรมชาติมากๆเลย  อันนี้หมอจะดูให้เราเองใช่ไหมคะ
โอ้โห... อ่านเเล้วอยากไปทำเลยคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
สวยค่าา ต้องใช้ยาสลบไหมคะ อยากทำแต่แอบกลัว
จมูกสวยมากๆๆ ได้ข่าวมาคุณหมอมือเบามากๆๆ จริงไหมคะ
อ่านแล้วอยากทำเลย ขอบคุณจขกท.สำหรับข้อมูลดีๆนะคะ
ทำมาเท่าไหร่คะ เห็นมีหมอน มีเจลประคบของคลินิกให้ด้วย ดีจังไม่ต้องไปหาซื้อเอง
โอ้โหเขียนยาวละเอียดมาก แต่ก็อ่านจนจบนะคะ
เป็นการรีวิวที่ละเอียดมากเลยค่ะ ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คะ
ที่นี่รับประกันกี่เดือนคะ
ยังจัดฟันอยู่นะคะ ทำได้ไหมเอ่ย
รีวิวละเอียดมากเลยค่ะชอบมากเลย
สวยมากเลย ประกันกี่เดือนค่ะ
ต้องจองคิวคุณหมอก่อนไหมค่ะ
อ่านรีวิวแล้ว ทำให้อยากไปทำกับคุณหมอเลยค่ะ
ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ อยากทำที่นี่จังเลย
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้