|
สักคิ้ว 3 มิติ 4 มิติ 6 มิติ มันต่างกันยังไงน้า ???
สักคิ้วถือได้ว่าเป็นที่นิยมกันในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นการเซฟเวลาในการแต่งหน้า และทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น ดั่งคำที่ว่า …คิ้วเป็นมงกุฎของใบหน้า…บางที่ก็มีการสักคิ้วแบบ 3-4-5-6 มิติ บ้าง HD / Full HD บ้าง ว่าแต่ สักคิ้วแต่ละแบบ มันต่างกันยังไงน้า???
มาเริ่มกันที่เทคนิคการสักคิ้ว 3 มิติ การสักแบบนี้ได้ถูกเปิดตัวช่วงปี 1995 และเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้นในไทยหลังจากปี 2007 แล้วตามติดมาด้วยเทคนิค สักคิ้ว 6 มิติ ในปี 2012 จวนจนปัจจุบันก็มีร้านสักคิ้ว หลายร้านต่างพากันเพิ่มความมีมิติให้กับงานสัก กลายเป็น 4 มิติบ้าง 9 มิติบ้าง เล่นเอาผู้บริโภคสับสนไปตามๆกัน แม้แต่ช่างเองยังตามไม่ทันเลย เอาเป็นว่าจะกี่มิติก็แล้วแต่ ถือเป็นงานสักแบบลายเส้นเหมือนกันทั้งหมด โดยช่างจะใช้ด้ามสักเพ้นท์แบบใช้แรงกดจากน้ำหนักมือกรีดสีฝังเข้าใต้ผิว หรือเครื่องสักคิ้วที่มีเข็มเล็กๆ อยู่ข้างในทำงานด้วยมอเตอร์ทำให้เข็มขยับแทงลงในผิว ซึ่งเวลาใช้ก็จะเอาส่วนปลายเครื่องบริเวณที่มีเข็มจุ่มสีขีดหรือวาดไปที่ผิวหนังบริเวณคิ้วให้เป็นรูปทรงสวยงาม
สักคิ้ว 3 มิติ แบบ ที่จริงก็เขียนลายเส้นที่ละเส้นเลียนแบบขนคิ้วเหมือนคิ้วจริงเป๊ะ แบบเส้นต่อเส้นชัดเจนมากแล้วนะ หรืออีกแบบคือ การสักสไลด์เฉดสีคิ้วเลียนแบบการเขียนคิ้วทั่วๆไป แล้วก็โผล่ทะลุมาถึง สักคิ้ว 6 มิติ!
ส่วนสักคิ้ว 6 มิติ ผลลัพธ์ของ 6 มิติก็คล้ายกับ 3 มิติ แหละ เพียงแต่เป็นชื่อเรียกเพื่อให้เกิดความแตกต่างในผลงานของแต่ละเจ้าสำนัก แต่ไม่ได้หมายความตามจำนวนมิติจริง (ไม่งั้นคงเป็นการสักคิ้วแบบที่มีรส กลิ่น เสียง เพิ่มเน้อะ)
นอกจากนี้สิ่งที่ควรคำนึงในการสักคิ้ว คือ คุณภาพของเครื่องมือ ความสะอาด ความปลอดภัย และสีที่ใช้สักก็สำคัญเช่นกัน เพราะสีที่ใช้ในการสักคิ้วถาวรและการสักธรรมดานั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยทั่วไปแล้วสีที่ใช้สำหรับการสักธรรมดานั้น จะติดเร็วและมีสีสันที่สดใส แต่อย่างไรก็ดีสีที่ใช้นี้ไม่สามารถอยู่ได้ตลอดไป และเมื่อเวลาผ่านไปอาจจะเปลี่ยนไปเป็นสีเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางครั้งจะเหลือเพียงแค่สีแดงเมื่อใช้สีสักแบบธรรมดา คุณสมบัติของสีเหล่านี้คืออยู่ได้นานมาก แต่สีมักจะเปลี่ยนไปตามเวลา ในด้านเทคนิค สีจากธรรมชาติจะค่อนข้างใช้ระยะเวลานานกว่าสีแบบอื่นๆในการสัก แต่ข้อดีคือสีจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยที่สีและระยะเวลาที่สีสักจะติดบนผิวของแต่ละคนจะต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความลึกของเข็มที่ลงและสีที่ใช้ผลักเข้าไป
สรุปว่า มันก็คือเทคนิคลายเส้นนั่นเอง แต่ที่สำคัญต้องดูด้วยว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เช่น ยาชา ยาห้ามเลือด สีที่ใช้มีความปลอดภัยขนาดไหน และการทำความสะอาดเครื่องมือต้องได้มาตรฐานด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Wonjinthailand.com
|
|