เสริมคาง โดย พี่หมอโอ๋คนสวย ณัฐฐาคลินิก

khunhathai1992

กลับมาแล้วค่าทุกคน ตามที่เคยบอกไว้ว่าจะกลับมารีวิวคางที่ทำกับหมอโอ๋ นัฐฐาคลินิก ถ้ามีเวลาว่าง พอดีช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาวเลยมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆอ่านกันค่ะ
เอาละมาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่า พอหลังจากที่เราเห็นว่าจมูกเข้าที่แล้ว คือมันดีอ่ะแกร์ ก็สินใจเลยว่าฉันจะทำคางที่นี่แหละ ฉันมั่นใจ ทีนี้ก็เข้าไปปรึกษาหมออีกครั้งค่ะ

ก็เหมือนเดิม ทั้งคุณหมอทั้งผู้ช่วยก็ดี๊ดีอะ ให้คำแนะนำที่เหมาะกับหน้าเราที่สุด ต้องบอกก่อนว่าเคสเราเนี้ยคือเป็นคนคางหุบเข้าไป ฟันข้างบนก็ดูเหยินออกมา ถ้านึกไม่ออก ภาพปลากรอบค่ะมาค่ะ !



นี่แหละค่ะคางมันหุบเข้าไปเยอะมากและสั้นด้วย คุณหมอก็แนะนำว่าให้เสริมซิลิโคนออกมาข้างหน้าเพื่อให้ดูสมดุลกับหน้า ไม่ต้องคางแหลมตามกระแสหรอก เราก็โอเคเพราะไม่ชอบคางแม่มด ตกลงนัดวันกับคุณหมอเลย .. และแล้วก็ถึงวัดนัดค่ะ ทุกอย่างสบายกว่าครั้งแรกที่ทำจมูกมาก สภาพจิตใจเราพร้อมมาก (คงเพราะมีประสบการณ์แล้ว555555)



มาถึงพี่ผู้ช่วยก็จัดยาให้คะ พาไปทำความสะอาด แล้วก็ได้เวลาขึ้นเขียง เราสบายมากพูดเลย ไม่มีการใจเต้นรัวเหมือนครั้งแรกเลย ชิลล์สุดๆ ก็นอนคุยเล่นกับพี่ผู้ช่วยไปเรื่อยๆ คุณหมอก็เหลาซิลิโคน ผ็ช่วยก็เอาผ้าหรือสำลีอะไรนี่แหละยัดเข้าไปให้เรากัดเอาไว้ แล้วก็ฉีดยาชาค่ะ แต่ครั้งนี้ไม่รู้เจ็บเหมือนครั้งแรกนะ (บอกแล้วว่ามีประสบณ์การณ์5555) แล้วใจก็เริ่มเต้นแรงอีกครั้งทั้งที่ไม่ๆได้ตื่นเต้นอะไรเลยนะ เลยถามพี่ผู้ช่วยว่า ทำไมหนูใจเต้นแรงจังเลยพี่ มันปกติมั้ย พี่ผู้ช่วยบอกว่ามันเป็นผลจากการฉีดยาชา มันจะทำให้ใจเต้นแรงสักพักนึง เราก็อ๋อออออ นอนฟังเพลงอย่างสงบไป
เอาล่ะ ยาชาออกฤทธิ์ดีละ คุณหมอก็จัดการดึงริมฝีปากล่างออกมาแล้วกรีดข้างใน ฟังดูน่ากลัวมั้ยคะ แต่ในความจริงแล้ว ตอนนั้นเรานอนมองเพดานในใจคิดว่าถ้าทำเสร็จแล้วลงไปเดินซื้อเสื้อข้างล่าง อยากได้ชุดนั้นชุดนี้  คือคุณขา มันไม่เจ็บไง ไม่รู้สึกอะค่ะ เหมือนนอนอยู่เฉยๆแล้วมีคนมาจับปากเรา ได้ยินเสียงคุณหมอบอกว่า กัดผ้าไว้นะคะ เราก็พยายามกัดนะ แต่นึกออกมั้ย ปากเราชาอะมันคอนโทรลอะไรไม่ได้มาก แต่ก็พยายามนะ แล้วคุณหมอก็บอกว่า คางหนูทำง่ายนะเนี้ยไม่เหมือนตอนทำจมูกเลย แล้วคุณหมอก็หันไปหาผู้ช่วยบอกว่าเสร็จแล้ว เราก็คิดในใจ หื้มม เร็วไรขนาดนั้นอะ ยังไม่ทันรู้สึกอะไรเลย คุณหมอเย็บเสร็จก็เริ่มเช็ดหน้า นั้นนี่ เสร็จค่า !
ออกมาจากห้องพี่ผู้ช่วยก็มาแจกแจงการใช้ยา บอกวิธีการดูแลรักษาพร้อมให้ถุงประคบเย็นอีกด้วย น่ารักจริงๆ แล้วก็ตามคาดค่ะ เราเดินลงมาช็อปปิ้งระหว่างที่รอแม่มารับ ทำตัวเหมือนปกติมาก เหมือนไม่ได้ผ่าตัดใดใดมา

และค่ำคืนแรกก็มาถึงค่ะ เย็นวันนั้นเรากินโจ้กแล้วก็ยาตามที่หมอให้มา (ใครบอกว่าทำคางมาจะผอมเพราะกินอะไรไม่ได้ เราเถียงนะเรากินเยอะม้าก)  เสร็จแล้วว่างๆเราก็มานั่งอ่านรีวิวนั้นนี่ คุยกับเพื่อนที่เคยทำมาก่อนแล้วว่าอาการเป็นไง เราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เพื่อนบอกว่า คืนแรกจะปวดระดับสิบ ทรมานมากให้เตรียมใจไว้เลย เราก็เชื่อนะเพราะเคยมีเพื่อนเราเคยไปทำคางแล้วมานอนพักฟื้นที่บ้านเรา คืนแรกมันนอนร้องไห้ทรมาน เรายังสงสารเลย ไม่คิดว่าวันนึงตัวเองจะได้ทำบ้าง  เราก็เอาล่ะ เตรียมใจเตรียมยา คืนนี้คงนอนไม่หลับแน่ๆ ..


(นี่คือรูปวันแรกกลับมาอาบน้ำใช่ชุดเตรียมพร้อมนอน)

ทุ่มนึงก็แล้ว สามทุ่มก็แล้ว ก็ยังไม่ปวด จนเราหลับไปเลย ตื่นมาอีกทีก็สิบโมงเข้าไปแล้ว เราก็เห้ยย !! ไม่ปวดเว้ย รีบโทรไปเม้าส์กับเพื่อนใหญ่เลยว่าเราโชคดีมาก เราไม่รู้สึกอะไรสักนิด  จริงๆนะแกร์ เรารู้สึกแจ็คพ็อตสุดๆเพราะหลายคนบอกมาว่าทำคางหน่ะเจ็บกว่าจมูกเยอะ นี่กลายเป็นว่าเราไม่รู้สึกเลย (หรือตายด้าน5555)  เอาเป็นว่าดีใจม้ากก

khunhathai1992

(นี่คือวันที่ 7 มันเข้าที่เข้าทางแล้วคุณขา)
7 วันค่ะ วันสุดท้ายแล้วที่ต้องใส่เฝือกอ่อนๆนี่  เราอยากรีบถอด รีบล้างหน้า รีบแต่งหน้าสุดๆแล้วอะ เห่อคางใหม่ไปอี้กก
        และแล้วฉันก็ได้ถอดเฝือกอ่อนนี่ออกแล้วอะแกรรรร์ ไปดูกัน


นี้เป็นรูปเปรียบเทียบก่อนและหลังทำค่ะ





และข้อดีของการผ่าด้านในคือไม่ทิ้งแผลเป็นให้เรากังวลใจค่ะ


นี่ค่ะพอแผลหายก็ปกติทุกอย่างเลยค่ะ

จบแล้วค่ะ สำหรับการรีวิวศัลยกรรมครั้งยิ่งใหญ่(ในชีวิตเรา) หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ใครบ้างไม่มากก็น้อยนะคะเราเองก็เป็นคนที่เคยตามหารีวิวค้นคว้าเรื่องศัลยกรรม พอวันนี้เราได้ทำแล้วเราก็คิดว่าคงมีคนอีกมากที่อยากจะทำแต่ยังตัดสินใจไม่ได้เหมือนกัน ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

JavaJudiz

ขอบคุณค่ะ เป็นประโยชน์มากเลย จะไปทำกับหมอโอ๋อีกไม่กี่วันนี้เองค่ะ