รีวิวจมูกคุณหมอบุญถิ่น 14/05/2557 สดๆร้อนๆจ้า

pangpondko

สวัสดีค่า วันนี้จะมารีวิวเสริมจมูกกับหมอบุญถิ่นนะค้า
ก่อนอื่นเราต้องบอกเลยว่าศึกษาข้อมูลมาตั้งแต่จบมอหกก็ประมาณจะสามปีละเนาะ เพราะตอนนี้ขึ้นปีสาม ซึ่งมีหลายที่มากๆที่เราสนใจแต่ก็ตัดสินใจเลือกหมอบุญถิ่นเพราะเราชอบทรงของหมอ

-อันนี้รูปก่อนทำนะคะ จมูกเราจะประมาณนี้-

pangpondko

อัพเดตนะคะ
ตอนนี้ 9 เดือนละค่าาา ขอโทษนะคะที่ไม่ได้เข้ามาอัพเดตเลย

pangpondko

-อันนี้รอยเย็บนะคะ ซึ่งหมอบุญถิ่นเนี่ยจะเย็บด้านนอกค่ะ-



มีอะไรลองถามเราก็ได้นะคะเกี่ยวกับการเสริมจมูกที่คลีนิคนี้
จะมาอัพรูปให้ดูอีกนะค้า
เผื่อจะติดต่ออะไร ไลน์มาที่ id: pangpondko. มีจุดด้วยเน้อ
ขอบคุณค่า

monalizaep

หมอบอกว่ามีเนื้อจมูกเยอะรึเปล่าคะ ดูโด่งดีจัง

Napatchada18

สวยมากๆ เลยค่า

aliziawan

สวยมากเลยอะคะ ขอไลน์ไว้สอบถามได้ไหมอ่าคะ ><

donlaya_maneeya

โด่งมากเลย

Nongbambam

เป็นไซนัสเหมือนกันคะ. อยากทำมาก. กลัวตอนฉีดยากลับล้างจมูกนี้แหละ. กลัวหมดทุกอย่าง เจ็บมากเลยหรอคะ

darklight.peek

อยากปรึกษาอ่า  ขอfacebook ได้ไหมค่ะ

darklight.peek

เราว่าจะไปทำเหมือนกัน รอปิดเทอมก่อน  >< ตื่นเต้นๆ      แต่ทำออกมาสวยนะดูโด่งมากเลย

ddooww

หลังทำประคบเย็นทุกชั่วโมงค่ะ จะได้หายบวมและไม่ปวด ควบคู่กับทานยาแก้ปวด

segameza555

อัพเดทหน่อยจร้า เข้าที่รึยัง

siiry

สวยค่ะ ตอนนี้เป็นไงบ้างคะ

pangpondko

วันที่ 2 แล้วค่ะ
รอยม่วงหายไป
แต่ตรงหว่างคิ้วบวมๆ

pangpondko

เนื้อจมูกเราไม่เยอะเท่าไหร่นะคะ นี่เอาขึ้นมาสเตปเดียวเอง
อีกอย่างคงต้องรอมันยุบอีกด้วยมั้งคะ

แต่ตอนนี้มันปวดดดดดดดจนนอนไม่หลับ T^T
ใครรู้บ้างคะกี่วันมันจะบรรเทา มันปวดแบบตุบๆหนึบๆอะค่ะ

pangpondko

        จากนั้นได้เวลาลงมีดแว้ววว เค้าก็จะให้เรานอนบนเตียงแล้วก็มัดมือเรา จากนั้นเราก็นอนรอประมาณเกือบๆ ห้านาทีได้พี่เค้าก็เดินเข้ามาละบอกให้หลับตาจากนั้นก็เช็ดหน้าเราด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อซึ่งขอบอกว่าโคตะระแสบ (สำหรับเรานะ) แล้วเช็ดเข้าจมูกอีกรอบซึ่งแสบกว่าหน้าอีก จากนั้นพยาบาลก็มาฉีดยาชาซึ่งเข็มแรกแบบเจ็บที่สุดเราเกร็งสุดๆเลยจนพี่เค้าบอกไม่เกร็งนะคะ หายใจทางปากถ้ามีอะไรไหลลงคอให้กลืนลงคอนะคะ เราแบบท่องอิติปีโสในใจเลยคือทั้งกลัวทั้งเกร็ง  นับไม่ถูกว่าพี่พยาบาลฉีดยาไปกี่เข็ม (แต่เห็นเค้าว่ากันว่าสี่เข็มนะคะ) พอฉีดเสร็จคุณหมอก็เดินเข้ามาและเหลาซิลิโคนอยู่ทางด้านซ้ายมือของเราเราได้ยินเสียงแบบแคร่กๆและแอบลืมตาดูเล็กน้อยเลยเห็น 555+ จากนั้นก็มาทำการนวด ๆ บริเวณจมูกทั้งนวดทั้งกดอยู่นานมากจนชาไปทั้งจมูกและริมฝีปากส่วนบน และสักพักหมอก็ลงมีดไม่รู้สึกไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นเพราะเราพยายามตั้งสติสุดๆ จากนั้นหมอก็ยัดซิลิโคนตอนยัดนี่แบบน่าจะมีเลือดนี่แหล่ะไหลลงคอ เราก็กลืนๆ ตอนยัดซิลิโคนนี่ดังแบบกึกๆ ครืดๆ เหมือนอะไรขูดกับจมูกสักอย่างตอนยัดนี่ไม่ถึงสิบนาทีจากนั้นพี่พยาบาลก็เข้ามาเย็บแผลเป็นอันเสร็จสิ้น พี่ๆก็บอกให้ค่อยๆลุกจากเตียงแล้วเราก็ไปนั่งพักหน้าห้องแล้วก็ค่อยๆเดินลงไปหาคุณแฟน
        พอไปถึงคุณแฟนเท่านั้นแหล่ะ ฮีขำก๊ากบอกทำไมมันบวมจัง ตลกอะ เราก็พลอยขำไปด้วยหน้าตึง โอ้ยกลั้นขำนี่มันทรมานสุด ๆ อ้อ ค่าเสียหายนะคะ 5000 บาทรวมยาชา+ยาที่หมอให้กลับบ้านนะคะ ก็จะมี paracetamol และ clindamycin แล้วก็ตัวยาที่เป็นครีมเอาไว้ทาที่แผลนะคะ

-อันนี้หลังทำประมาณ 5 นาทีนะคะ-



-อันนี้หลังทำประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ค่ะ-



-ตอนนี้เลยค่ะ 14052557 22:02 น.-


ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ พิมพ์เยอะไปหน่อย แหะแหะ
เพิ่งรีวิวครั้งแรกผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยนะคะ ขอตัวไปนอนแล้วตอนนี้ปวดตุบตุบเลยจ้า
ปล.นึกได้อีกอย่างนึง วันไปทำห้ามแต่งหน้านะคะ

pangpondko

เข้าขั้นตอนเลยแล้วกันนะค้า เริ่มแรกเลยเราโทรไปจองที่คลินิกล่วงหน้าประมาฯอาทิตย์กว่าๆ ก็จองวันที่ 14 พฤษภาคม บ่ายสามโมงครึ่ง เค้าก็จะถามเคยเสริมจมูกมั้ยเคยฉีดจมูกไหม กินอาหารเสริมหรือยาตัวไหนอยู่หรือเปล่า มีโรคประจำตัวอะไรไหมซึ่งโรคที่เราบอกเค้าไปคือ “ไซนัส” ค่ะแต่เราล้างจมูกทุกวันและรักษาตัวเป็นอย่างดี  แล้วจากนั้นทางคลีนิคจะบอกให้โทรไปคอนเฟิร์มล่วงหน้าหนึ่งวัน ซึ่งโชคดีมากๆพราะวันที่เราไปคนน้อยสุด ๆ (ลืมถ่ายรูปที่คลินิกช่วงที่เราเข้าไปทำเลยแฮะ) พอไปถึงปุ๊ปก็เอาบัตรประชาชนไปยื่นที่เค้าท์เตอร์เค้าก็จะถามว่า ชื่ออะไร นัดไว้กี่โมง วันนี้มีน้ำมูกไอจามเจ็บคอหรือเปล่า เราก็บอกไม่มี เค้าก็บอกว่า งั้นนั่งรอเรียกนะคะ เราก็ไปนั่งรอกับคุณแฟน แนะนำให้พาคนไปด้วยนะคะเผื่อเป็นลมหรือตื่นเต้นมากๆแบบเราจะได้มีคนคอยให้กำลังใจ
        รอประมาณไม่ถึงห้านาทีนะคะ เค้าก็เรียกเราขึ้นไปตรวจที่ชั้นสองกับคุณหมอผู้หญิง หมอก็จะวัดจมูกเราซึ่งหมอก็บอกว่าเราเนี่ยพอมีดั้งอยู่บ้างนิดหน่อยแค่มาทำให้มันดูมิติเพิ่มเติม แล้วเค้าก็บอกว่าฐานจมูกเดิมเราดูเหมือนจะแกนเบี้ยวแต่ไม่เบี้ยวนะคะเนื่องจากตาเราลึกเล็กน้อยข้างนึง ข้างนึงไม่ลึก แล้วเค้าก็หยิบๆว่าจะทำตรงไหนบ้างและก็บอกว่าเดี๋ยวไปปรึกษาคุณหมออีกทีนะคะ จากนั้นก็ลงไปข้างล่างไปรอ พี่พนักงานก็บอกว่าทานข้าวมาหรือยังไปทานข้าวมั้ย เราก็บอกไม่เป็นไรค่ะ พี่พนักงานเค้าก็บอก ระวังเป็นลมนะคะ อ้อลืมบอก พอลงมาแล้วเราก็จ่ายเงินเลยนะคะแล้วก็รับยาและใบคำแนะนำการปฏิบัติตัว
        ประมาณ 30 นาทีผ่านไปพี่เค้าก็เรียกคุณณฐอรค่าาาา ณ ตอนนั้นคือตื่นเต้นมากถึงมากที่สุดดด แล้วก็ขึ้นไปชั้นสามไปเจอคุณหมอบุญถิ่น จากที่เราอ่าน ๆ มาเค้าว่ากันว่าหมอดุ พูดจาห้วน ๆ แต่เราก็โชคดีชั้นที่สองพอเจอหมอก็สวัสดีแล้วหมอยิ้มให้เล็กๆ แล้วก็บอกว่าสวัสดีครับ แล้วบอกก็หมอให้ถือกระจกแล้วเค้าก็จะหยิบเนื้อจมูกเราขึ้นมาตอนแรกถามว่า “อยากเอาขึ้นตรงไหนบ้างครับ ตรงหัว ตรงกลางหรือว่าตรงปลาย” เราเลยบอกว่า “เอาทั้งหมดอะค่ะหมอ” หมอแกก็มาหยิบตรงหัวตาแล้วบอกว่า “เอาสูงเท่านี้พอไหมครับ”   เรา “ถ้าเยอะกว่านี้ล่ะคะหมอ” หมอก็จับอีกแต่มันสูงมากกกกจนตาเรารั้งสุดๆเราก็เลยบอกว่า “เอาเท่าครั้งแรกอะค่ะหมอ” หมอก็เอาหมึกน้ำเงินมาขีดๆ แล้วหมอกำลังจะลุกไปเราเลยกลั้นใจถามไปว่า “ถ้าสูงแบบครั้งที่สองนี่มันจะโด่งเกินไหมคะ?” หมอแกก็บอกว่า “เดี๋ยวมันจะทะลุได้นะครับ” เราก็เลยบอกว่าอ่อค่ะ แล้วหมอแกก็บอกสุดท้ายว่า “เดี๋ยวไปล้างหน้าและก็ทำความสะอาดจมูกนะครับ”
        แล้วเราก็ไปล้างหน้าพี่พนักงานก็บอกว่า “ล้างสองรอบนะคะล้างให้สะอาด เน้นขอบตากะบริเวณจมูกพอล้างครั้งสุดท้ายก็ให้สูดน้ำเข้าไปแล้วสั่งน้ำมูกออกมานะคะ” พอล้างเสร็จพี่เค้าก็จะเอาผ้าเช็ดหน้าให้เช็ดแล้วก็ให้เช็ดเข้าไปในรูจมูกด้วยแล้วพี่เค้าจะเอาคัทตอลบัทปั่นๆเช็ดในรูจมูกให้เราอย่างทะลุทะลวงมาก จากนั้นก็ให้กินยาซึ่งเรามาดูจากซองยาที่หมอให้มาคือ paracetamol และก็ clindamycin ซึ่งตัวหลังเนี่ยเอาไว้ฆ่าเชื้อ แก้อักเสบนะคะ