ดู: 18863|ตอบกลับ: 52
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

Plastic Surgery Online In trend Update Fashion & Make up

[คัดลอกลิงก์]
ref : Men 's health  , Cleo , Slimming , Cosmatic , Cawaiii

4 เทรนด์ผมใหม่ ดาราฮอลลีวูด

4 แบบ  สไตล์ให้ได้สนุกกันไม่ซ้ำแบบ โดยทรงผมทั้ง 4 นี้กำลังเป้นที่นิยมในหมู่เซเลบริตี้และดาราฮอลลีวูด...

เป็นจริงแล้ว สำหรับคน ที่อยากมีทรงผมสวยอย่างนางแบบนายแบบบนแคตวอล์ก

"เวลล่า" ผู้นำผลิตภัณฑ์ผมระดับอินเตอร์ และผู้กำหนดเทรนด์ แฟชั่นผมโลก   มาพร้อมกับโลโก้ใหม่ซึ่งตอกย้ำความเป็นโปรเฟสชั่นนอล โดยเผย "เทรนด์แฟชั่นผมปี 2009" ที่ไม่เพียงแค่โชว์บนรันเวย์เท่านั้น   แต่สาวๆ สามารถนำมาแต่งเติมให้สวยเก๋และเหมาะกับตัวเองได้ ในคอนเซปต์ "เวลล่า เพอร์ซันนอลไลซ์ด เทรนด์" นำเสนอเทรนด์ผมที่กำลังฮอตฮิตในหมู่เซเลบริตี้และดาราฮอลลีวูดมีอยู่ 4 แบบ ได้แก่ พาสเทล เซอร์วิส (Pastel Service), เซ็นซัส เซอร์วิส (Sensous Service), คริสตัล กลอส เซอร์วิส (Crystal Gloss Service) และคัลเลอร์ แอคเซ็นท์ส เซอร์วิส (Color Accents Service)


พาสเทล

สำหรับเทรนด์ แรก พาสเทล เซอร์วิส เกิดขึ้นจากจินตนาการผ่านมุมมองของโลกที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน โดยดึงโค้งสร้างจากเส้นผม ด้วยความโค้งมนที่งดงาม ความพลิ้วไหวและความเที่ยงตรง ประยุกต์ให้เข้ากับรูปทรงแห่งอนาคต ด้วยผมสั้นความยาวระดับบ่า ซอยไล่ระดับดูพลิ้วไหว มีขอบมุมที่โดดเด่น สีผมเป็นประกายสว่างในโทน "บลอนด์ แพลทินั่ม" เซเลบริตี้ที่ดูดีในลุคนี้คือ วิกตอเรีย เบคแคม, เรเน่ เซลเวเกอร์



เซ็นซัส




ส่วน เซ็นซัส เซอร์วิส เป็นความงามในรูปแบบใหม่ เน้นความงามที่ไม่เรียบหรู ออกมาในรูปแบบผมยาวสลวยปล่อยตามธรรมชาติ เน้นลอนคลื่นที่นุ่มนวลโค้งมน   หรือเก็บผมยาวแล้วปล่อยให้สลวย จัดเป็นคลื่นลอนใหญ่อ่อนๆดูมีมิติ รวมทั้งการเกล้าผมในแบบดั้งเดิม เพิ่มเสน่ห์ให้ทรงผมด้วยประกายสีขิง โทนอุ่นร้อนแรงและประกายสีเข้มผสมผสานของสีเหลือง   น้ำตาลและความชุ่มฉ่ำของสีทองแดง คนดังที่เจิดจรัสในลุคนี้คือ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์, ฮีทเธอร์ เกรแฮม


คริสตัล กลอส




เทรนด์ต่อมาคือ คริสตัล กลอส เซอร์วิส เป็นทรงผมของสาวยุคใหม่ที่ฉีกกฎดั้งเดิม อย่างไร้ขีดจำกัดเป็นอิสระแห่งความคิดสร้างสรรค์   มีการเติมลูกเล่นเป็นแบบเงางาม ใช้เทคนิคการตัดแบบ "ราวด์แอนด์สแควร์ คัทส์" ผ่านการมิกซ์แอนด์แมตช์ของสองโทนสี เช่น ดำ-น้ำตาล, น้ำตาล-บลอนด์ หรือสีเข้ม ที่ผสมผสานกับไฮไลต์เฉดสีน้ำเงินเข้มจัดและสีม่วงแดง ดาราที่ทำในลุคนี้ได้แก่ เคธี่ โฮล์ม



คัลเลอร์ แอคเซ็นท์ส


ปิดท้ายด้วย คัลเลอร์ แอคเซ็นท์ส เซอร์วิส เป็นเทรนด์ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ตามธรรมชาติในทิศทางของความสนุกสนาน   โดยการสร้างบุคลิกใหม่ๆ ที่มีสีสันผ่านไฮไลต์   พร้อมสนุกสนานกับขอบคมของเส้นผมที่ผสมผสานกับปอยผมยาว และซอยไล่เลเยอร์ให้เส้นผมมีความแตกต่างกันและทำให้ดูเด็กลงด้วยเทคนิคเน้นประกายสีผมแบบ 3 มิติ กับสีผมในโทนสีเข้มที่คั่นด้วยไฮไลต์สะดุดตาอย่างประกายน้ำเงินหรือสีม่วงแดงเข้ม ทำให้สวยได้อย่างบียอนเซ่, เอวิล ลาวีน และไรฮันนา...ไม่อยากตกเทรนด์ลองเลือกซักทรง   ที่เหมาะกับคุณๆนะ.


Cleo

คะแนน

4

ดูบันทึกคะแนน

53#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-7-8 15:13:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ก็ก้องไม่ใช่เด็กเที่ยวนิ

แต่เป็นเด็กขายไง
อิๆๆ

คลองหลอดบ้าง สนามหลวงบ้าง สวนลุมบ้างอะไรบ้าง

ขายเรียงเบอร์
อ่านแล้วก้อช่วยดัน

แต่เบอร์ผับนี่ เก่าไปนิสนุงน้า ยังมี ซานติก้าอยู่เรยอ่ะ
ก้องตะวัน สมาชิกนี้ถูกลบไปแล้ว
หมายเหตุ: ผู้โพสต์ถูกแบนหรือถูกลบ โพสต์นี้ถูกปิดโดยอัตโนมัติ
อ่านแล้ว

ก็ช่วยดันอีกที
49#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-7-7 00:10:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ดับบ๊อบบี้อีกแรงครับ
ดัน กระทู้ดีๆ มาให้เพื่อนๆ อ่านกันคัฟ

อิ อิ
47#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-24 14:06:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คนที่เกิดวันพฤหัสบดี สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีเขียว

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันพฤหัสบดี คือ “ไพฑูรย์” (ตาแมว หรือ Chrysoberyl Cat’s Eye)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีขาว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน (จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีชมพู

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ (มีเดช มีอำนาจ) คือ สีฟ้า

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีแดง

   >> ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีส้ม หรือสีแสด เรียกว่า “ปิตาภรณ์” ได้แก่ โอปอลไฟ หยกแดง หยกแดงไต้หวัน สปิเนลสีส้ม แซปไฟร์สีส้ม ปะการัง เป็นต้น

           คนที่เกิดในวันศุกร์ สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีแสด

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันศุกร์ คือ “เพชรรัตน์” (เพชร หรือ Diamond)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีเขียว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน (จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ (มีเดช มีอำนาจ) คือ สีขาว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีชมพู

   >> ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน เรียกว่า “ปภัสราภรณ์” ได้แก่ ไพลิน โทแพซสีฟ้า เพทายสีฟ้า อะความารีน ลาพิส ลาซูลี เทอร์คอยส์ เพชรสีฟ้า หรือน้ำเงิน เป็นต้น

           คนที่เกิดในวันเสาร์ สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีฟ้า

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันเสาร์ คือ “นิลมณีรัตน์” (นิลกาฬ หรือ Blue Sapphire)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีขาว สีเหลืองอ่อน ๆ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีแดง

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีชมพู

   >> ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีม่วง หรือสีดำ เรียกว่า “กัณหาภรณ์” ได้แก่ แอเมทีสต์ แซปไฟร์สีม่วง นิลตะโก โอนิกซ์ หยกดำ สตาร์ดำ ไข่มุกสีดำ ปะการังสีดำ เป็น

ต้น

           และท้ายที่สุดคนที่เกิดวันอาทิตย์  สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีดำ สีเทา

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีแสด หรือสีส้ม

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ คือ สีชมพู และสีแดง

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีเขียว

   >> ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีแดง เรียกว่า “รัตนาภารณ์” ได้แก่ ทับทิม สปิเนลสีแดง โกเมนสีแดง ทัวร์มาลีนสีแดง เพทายสีแดง เพชรสีแดง เป็นต้น
46#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-24 14:06:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เกร็ดความรู้เรื่องการสวมใส่อัญมณี เพื่อความเป็นสิริมงคลและส่งเสริมดวงของผู้ใส่ ตามหลักความเชื่อโหราศาสตร์

สำหรับใครที่เกิดวันจันทร์ ควรใช้เครื่องประดับ อัญมณีที่เป็นสีเหลือง เรียกว่า “เศตาภรณ์” ได้แก่ บุษราคัม  โทแพซสีเหลือง ซิทริน เพทายสีเหลือง อำพัน หยกสีเหลือง  เพชรสีเหลือง ไข่มุกสีทอง เป็นต้น

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันจันทร์ คือ “มุกดา” (มุกดาหาร หรือ Moonstone) และ “โอปอล” (โอปอล หรือ Opal)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีแสด

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ (มีเดช มีอำนาจ) คือ สีเขียว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีฟ้า

           คนที่เกิดในวันอังคาร ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีชมพู เรียกว่า “ตามภาภรณ์” ได้แก่ ปะการัง แซปไฟร์สีชมพู เบริลสีกุหลาบ สปิเนลสีชมพู โทแพซสีชมพู เพชรสีชมพู ไข่มุกสีชมพู เป็นต้น

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันอังคารคือ “ประพาฬ” (ปะการัง หรือ Coral)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงินคือ สีเทา

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี(เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีแสด

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีแดง

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ (มีเดช มีอำนาจ) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีฟ้า

           คนที่เกิดในวันพุธ สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีขาว ถ้าเป็นพุธกลางคืน สีดำ สีเทา

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันพุธคือ “มรกต” (มรกต หรือ Emerald)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงินคือ สีฟ้า ถ้าเป็นพุธกลางคืน สีชมพู

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีแดง ถ้าเป็นพุธกลางคืน สีเขียว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีดำ สีเทา และถ้าเป็นพุธกลางคืน สีขาว สีเงิน ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีเขียว เรียกว่า “อินทนิล” ได้แก่ มรกต หยก หยกออสเตรเลีย หยกเม็กซิกัน ทัวร์มาลีนสีเขียว เพริโดต์ โกเมนสีเขียว เขียวส่อง เป็นต้น
45#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 22:43:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


เลือกสีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด

  
รู้หรือเปล่า? แค่เลือกสีกระเป๋าสตางค์ให้ถูกกับวันเกิด ก็สามารถทำให้คุณรวยได้นะ

คนเกิดวันอาทิตย์
คุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์สีฟ้า สีดำ หรือกระเป๋าที่ทำมาจากหนังของสัตว์ทะเล ส่วนสีที่คุณควรใช้คือ สีในโทนส่วาง หรือจะเป็นสีน้ำตาลหรือสีเขียว อันนี้ก็โอเค

คนเกิดวันจันทร์
กระเป๋าสตางค์สีแดงหรือกระเป๋าสตางค์ที่ทำมาหนังสัตว์ 2 แบบนี้คุณควรหลีกเลี่ยงไปเลย ส่วนสีที่เหมาะกับคุณมากที่สุดก็คือ สีน้ำตาลหรือสีม่วง

คนเกิดวันอังคาร
สีน้ำตาลและสีครีม 2 สีนี้เป็นสีที่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันอังคารเลยค่ะ และอีกอย่างที่ต้องห้ามก็คือ กระเป๋าที่ทำมาจากหนังสัตว์ ส่วนสีที่ถูกโฉลกกับคุณก็คือ สีชมพู สีแสด และสีส้ม 3 สีนี้ก็คงจะถูกใจสาวๆ นะ

คนเกิดวันพุธ
สำหรับคนเกิดวันพุธก็มีสีต้องห้ามอยู่ 2 สีคือ ดำและชมพู และไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ที่ทำมาจากหนัง โดยเฉพาะสัตว์ปีก ส่วนสีของกระเป๋าสตางค์ที่เหมาะกับคุณก็คือ สีเขียวครีมและน้ำตาล

คนเกิดวันพฤหัสบดี
สำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดีมีสีต้องห้ามอยู่สีเดียวคือ สีดำ และขนาดของกระเป๋าจะต้องไม่ใหญ่เกินไป เลือกชนิดมีช่องใส่พอประมาณ ส่วนสีที่เหมาะก็คือสีแดงหรือส้ม

คนเกิดวันศุกร์
สีของกระเป๋าสตางค์ที่ต้องห้ามสำหรับคนเกิดวันศุกร์ก็คือ สีดำ หรือสีทึมไม่สดใส แล้วก็ไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ที่ดูแปลกจนเกินไป เพราะจะทำให้คุณเก็บเงินไม่อยู่นะ ส่วนสีที่ควรใช้ก็คือ สีฟ้าและสีชมพู

คนเกิดวันเสาร์
คุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์สีเขียวหรือน้ำตาล และต้องพยามยามเลือกแบบที่ไม่เก่าเร็ว ต้องแลดูใหม่อยู่เสมอ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คนเกิดวันเสาร์ต้องซื้อกระเป๋าสตางค์บ่อยกว่าคนกิดวันอื่น เราะถ้าคุณปล่อยกระเป๋าสตางค์ของคุณเก่าขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็ เมื่อนั้นจะทำให้ไม่มีโชคลาภ ส่วนสีที่เหมาะกับคุณก็คือสีฟ้าหรือสีม่วง


ขอขอบคุณ คุณนันทพงศ์ เลิศมณีทวีทรัพย์

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

โอ๊ววววววววว!!!!!!!!

แม่เจ้า!!!!!!!

อาเฮีย คร๊ะ ถูกใจนู๋มากเลย

ขอบคุณคะ

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคัฟ ก้อง

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

ออกพ๊อคเก็ตบุ๊คเลยดีไหมน้องก้อง ขั้นเทพๆ ขอบคุณสำหรับ ข้อมูลเทพๆ ด้วยนะคับ จะได้อัพเดทตามเทรนได้เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ผ๊มจะได้อยู่ในรถไฟ(อินเทรน์)กับเค้าบ้าง อิอิ

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

ว้าวอาเฮียก้อง   แน่นปึ๊กเรยน้า

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

โอ้ว ข้อมูลมหาศาลเลยอะ

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

ได้สาระประโยชน์เพิ่มเติม อีกแล้วครับท่าน

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

38#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 01:24:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หนุ่มเนื้อหอม เลือกน้ำหอม เสริมเสน่ห์ เพิ่มความมั่นใจ





เมื่อ พูดถึงผู้ชายใช้น้ำหอม...นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด  แต่มาสมัยนี้ผู้ชายใช้น้ำหอมเป็นเรื่องธรรมดามาก หนุ่มๆทุกคนก็สามารถเติมกลิ่นหอมให้กับตนเองได้โดยไม่มีใครเห็นว่าเป็น เรื่องแปลก และน้ำหอมชนิดที่ผลิตขึ้นมาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะก็มีให้เลือกใช้มากมายไม่แพ้ น้ำหอมของผู้หญิงเลย

น้ำหอมนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท อย่างที่มีความเข้มข้นมากที่สุดมีกลิ่นแรงมากที่สุด และสามารถติดทนนานบนผิวกายได้มากที่สุดก็คือเพอร์ฟูม ( Perfume ) ซึ่งไม่ค่อยมีที่ผลิตมาเป็นกลิ่นสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะเท่าใดนัก ส่วนใหญ่มักจะผลิตเป็นกลิ่นสำหรับผู้หญิงมากกว่า ถัดมาคือ โคโลญ ( Cologne ) ซึ่งมีความเข้มข้น ความแรงของกลิ่น และความติดทนนานรองลงมาจากเพอร์ฟูม และที่อ่อนลงไปกว่าอีกหน่อยก็คือ โอเดอโคโลญ ( Eau de Cologne ) หรือโอเดอตัวแลต ( Eau de Toiltte ) ส่วนอาฟเตอร์เชฟ (Aftershave ) ที่หลายคนใช้กันหลังโกนหนวดนั้นก็เป็นอีกประเภทหนึ่งของน้ำหอมผู้ชายซึ่งมี ความอ่อนเบาที่สุดและมีความติดทนนานน้อยที่สุด

แล้วคุณหนุ่มเนื้อหอม...ของเราจะเลือกน้ำหอมอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

1.เลือกน้ำหอมที่เหมาะกับคาแรกเตอร์ของตัวเอง

ชายหนุ่มทุกคนมีความแตกต่างทั้งบุคลิก หน้าที่การงาน และการใช้ชีวิต ก่อนเลือกซื้อน้ำหอมต้องทำความเข้าใจในส่วนผสมที่หลากหลาย จึงต้องมีการทดสอบกลิ่นเสียก่อน ด้วยการทดลองเทสต์ลงบนผิวหนัง แล้วสังเกตว่ามีปฏิกิริยาเกิดขึ้นกับตัวเราไหม ถ้ามีแสดงว่าน้ำหอมขวดนั้นน่าจะเหมาะสมกับตัวเรา อีกอย่างหนึ่งต้องสังเกตปฏิกิริยาของผิวหนังด้วยว่าก่อนฉีดกับหลังฉีดมีความ แตกต่างกันอย่างไร ทดสอบไปเรื่อยๆแล้วในที่สุดเราจะรู้ว่าน้ำหอมขวดไหนที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา อย่างแท้จริง

2.ถามใจตัวเองว่าชอบไหม

ใช้ วิธีสังเกตจากกลิ่นท็อปโน้ตหรือกลิ่นแรกที่เราสัมผัสจากน้ำหอมเป็นหลัก ดูว่าเราชอบไหม อย่างน้ำหอม Light Blue Pour Homme ของ Dolce & Gabbana ที่มีกลิ่นโดดเด่นเหมาะกับหนุ่มรักอิสระ มอบความรู้สึกสะอาดและสดชื่นเหมาะกับอากาศบ้านเรา เวลาไปร้านน้ำหอม อาจให้พนักงานช่วยแนะนำแนวกลิ่นให้ตามความชอบและสเปรย์น้ำหอมไว้ที่ข้อมือ ด้านในสักประมาณ 15 นาทีแล้วตัดสินใจ

3.ฉีดน้ำหอมให้เหมาะสมกับโอกาส

บาง ครั้งเวลาจะฉีดน้ำหอม เราต้องสังเกตด้วยว่ากลิ่นอยู่ติดตัวเราทั้งวันหรือไม่ และควรจะเลือกกลิ่นที่จะฉีดให้เหมาะกับโอกาสที่แตกต่างกันไป เช่น เล่นกีฬา ทำงาน ประชุมนอกสถานที่ ซึ่งที่จริงแล้วเราอาจฉีดน้ำหอม 1-2 ครั้งต่อวันก็ได้ หรืออาจจะเลือกกลิ่นที่พิเศษที่เราชอบไว้สำหรับฉีดไปงานเลี้ยงช่วงหัวค่ำ ไม่ควรใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันทุกวัน แต่ควรมีกลิ่นอื่นเผื่อไว้ด้วยเพื่อใช้ในโอกาสต่างๆกัน อีกอย่างต้องคิดด้วยว่า อากาศข้างนอกเป็นอย่างไร และจะใช้น้ำหอมกลิ่นไหนดี ที่สำคัญคือฉีดแล้วเราชอบไหม รู้สึกดี มีความมั่นใจหรือไม่ การฉีดน้ำหอมทำให้เราเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง ส่งผลให้เรามีพลังงานในการทำงานมากขึ้น

4.สภาพอากาศและอุณหภูมิก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อน้ำหอม

สภาพ อากาศในหน้าหนาวยามนี้ยิ่งหนาวเท่าไหร่ยิ่งทำให้กลิ่นน้ำหอมอ่อนลง แต่ตรงกันข้ามหากเป็นหน้าร้อน อากาศร้อนชื้นในเมืองไทยก็จะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นฉุนกว่าปกติ คุณจึงควรมีน้ำหอมที่เหมาะสมกับฤดูกาลต่างๆโดยทดสอบว่ากลิ่นใดเข้ากับฤดุ หนาวกลิ่นใดเหมาะกับฤดูร้อน

5.จุดที่เหมาะสมในการพรมน้ำหอม

จุด ที่เหมาะสมในการพรมน้ำหอมประกอบด้วย 5 จุด คือ ข้อมือ ข้อศอกด้านใน ซอกคอ ร่องอกและหลังหัวเข่า จุดเหล่านี้ล้วนเป็นจุดที่เก็บกลิ่นได้ดี จุดที่หนุ่มๆควรหลีกเลี่ยงในการพรมน้ำหอมคือจุดหลังใบหู เพราะน้ำหอมอาจทำปฏิกิริยากับต่อมน้ำเหลืองโอกาสที่จะเกิดกลิ่นไม่พึง ประสงค์จึงมีสูงมาก

Credit : maxworth
37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 01:22:11 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
น้ำหอมกลิ่นเดียวกันจะส่งกลิ่นแตกต่างกันไป เมื่อใช้กับแต่ละคน เวลาลองน้ำหอม ให้ฉีดน้ำหอมตัวอย่าง
แล้วเดินเล่นสัก 20 นาที เพื่อให้แน่ใจว่ามันเหมาะกับคุณจริงๆหรือไม่
         - หลังฉีดน้ำหอม ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 นาที กว่าแอลกอฮอล์จะระเหยหมด และรอให้กลิ่นของน้ำหอมทำปฏิกิริยา
เคมีกับกลิ่นกายของคุณ

         - หลังจากลองน้ำหอม 2-3 กลิ่น ประสาทสัมผัสคุณจะเริ่มล้า หากคุณต้องการลอง น้ำหอมหลายชนิดมากๆ ก้ให้พก
เมล็ดกาแฟติดตัวไปด้วยและดมมันเพื่อป้องกันไม่ให้จมูก ของคุณสับสนกับกลิ่นหอม ทำเช่นนี้ทุกครั้งหลังจากดมน้ำหอมไปได้
2-3 กลิ่น

         - ลองขอตัวอย่างกลับมาใช้ที่บ้าน เพื่อคุณจะได้พักจมูกระหว่างการลองน้ำหอมแต่ละครั้ง

         - หากจมูกของคุณได้กลิ่นน้ำหอมของตัวเอง ก็อาจเป็นไปได้ว่าคุณใส่น้ำหอมนั่นมากเกินไปแล้ว
36#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 01:20:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
‘น้ำหอม’ เพิ่มเสน่ห์ยวนใจ



ความหอมก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิง ยิ่งเลือกกลิ่นหอมๆ ให้เหมาะกับตัวเอง ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนใจมากขึ้น วันนี้ “ลังโคม” มีคำแนะนำน้ำหอมกลิ่นไหนเหมาะกับบุคลิกหญิงสาวมาฝาก



สาวเจ้าชู้แสนเสน่ห์


บุคลิกของสาวทรงเสน่ห์ คือมีความเป็นผู้หญิงเต็มตัว แถมชอบบริหารเสน่ห์ นิยมเครื่องแต่งกายที่ทำให้รูปร่างดูดีขึ้น ภายนอกแม้จะดูเป็นคนรักสนุก แต่ลึกๆ แล้วกลับเป็นคนช่างฝันหาชายหนุ่มมาคอยเปิดประตูให้ มีกุหลาบช่อโตมาฝาก และปฏิบัติกับคุณอย่างสุภาพ


สูตรน้ำหอมที่เหมาะกับสาวทรงเสน่ห์คือ น้ำหอมกลิ่นรัญจวนใจ เช่น กลิ่น “ดอกเสาวรส” เผยความเป็นผู้หญิงของคุณ ขณะที่กลิ่นหอมของวานิลลาและแฝก หอมชวนให้คุณอยู่ในอารมณ์อยากเริงระบำแบบข้ามคืน




สาวเจ็ตเซต


บุคลิกของสาวเจ็ตเซต เป็นหญิงสาวที่มีบุคลิกคล่องแคล่ว เพราะต้องพบปะพูดคุยกับคนมากมาย และมีหลายสิ่งที่อยากทำ เป็นคนที่รักการใช้อุปกรณ์ติดต่อสื่อสารไร้สายที่ครบเครื่องอย่างแบล็กเบอร์รี เพราะทำให้เธอสามารถติดต่อและทำธุรกิจไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก แถมเป็นสาวรักการเดินทางอีกด้วย


สูตรน้ำหอมที่เหมาะกับสาวเจ็ตเซตที่คุ้นเคยกับความหรูหราในชีวิต กลิ่นดอกหิมาลายันบลูป๊อป และกลิ่นหอมของดอกดาทูรา รวมทั้ง ดอกมิโมซา แดฟโฟดิลส์ ฟรีเซีย และกลิ่นกุหลาบชวนให้นึกถึงช่วงเวลาที่แสนสุขในเมืองตากอากาศสุดหรู




นางฟ้าใจดี


คุณคือราชินีแห่งความรื่นรมย์ รักการทำอาหารและการเข้าครัว จัดเป็นสาวแม่บ้านแม่เรือน แถมแต่งตัวเป็น เข้าตามสมัยนิยมและถูกกาลเทศะ


น้ำหอมที่เหมาะกับนางฟ้าใจดี คือ น้ำหอมกลิ่นแนว “สปาร์กลิง เฟรช ฟอลรัล” หอมเพลินใจ รวมทั้งกลิ่นของ “กุหลาบสีชมพู” และ “ดอกนาร์ซิสซัส” ผสมผสานความอ่อนหวานและเปรี้ยวเข็ดฟันไว้ด้วยกัน




สาวร่าเริง มองโลกแง่ดี


บุคลิกของสาวร่าเริง คือ ความซุกซนและรักชีวิตที่อยู่อย่างมีความสุข เปรียบดังแสงตะวันอันสดใส อยู่ที่ไหนก็ทำให้ที่นั่นมีชีวิตชีวา เพราะการมองโลกในแง่บวกของคุณนั่นเอง


น้ำหอมที่เหมาะกับสาวมีชีวิตชีวาเช่นคุณ คือ กลิ่นหอมของผลไม้ ส้มจีน แอปเปิล และลูกแพร์ ผสมกับกลิ่นหอมอ่อนหวานของลิลลีขาว




สาวช่างฝันและโรแมนติก


สาวช่างฝันและโรแมนติก มักเป็นสาวที่กระตือรือร้นกับการท่องไปในต่างแดน โดยเฉพาะสถานที่ที่ปราศจากนักท่องเที่ยว


น้ำหอมที่เหมาะคือ กลิ่นดอกไม้ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ในตัวยิ่งขึ้น เช่น กลิ่นกุหลาบ และดอกแอปริคอตที่หอมเข้ากันกับกลิ่นดอกลิลลีออฟเดอะวัลเลย์ ไอริสและไม้จันทน์ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนใจยิ่งขึ้น




สาวสวยคลาสสิก


ด้วยกริยาที่สง่างามและท่วงท่าที่สงบเยือกเย็นแบบออเดรย์ เฮปเบิร์น คือสาวที่มั่นใจ มีสไตล์และมีรสนิยมของตัวเองบ่งบอกสไตล์ของสาวคลาสสิกดี


สูตรน้ำหอมที่เหมาะกับคุณคือ ความหอมของฟลอเรียนทัลอันหอมหวานของโป๊ยกั๊ก แบล็กเคอร์แรนต์อ่อน และน้ำหวานดอกอัลมอนด์




เทพธิดาเดินดิน


แหม...ช่างเป็นสาวที่มีทั้งความอบอุ่น รักอิสระเสรี และรักธรรมชาติอะไรเช่นนี้ กิจกรรมโปรดของคุณคือความเรียบง่ายคือการเดินป่า หรือไม่ก็ปูเสื่อเพื่อเล่นโยคะ


น้ำหอมกลิ่นที่เหมาะกับเทพธิดาเดินดินคือ กลิ่นสไปซีฟลอรัล ผสมผสานกับกลิ่นหอมของลิ้นจี่ และดอกพรีเซีย ขณะที่กลิ่นหอมของดอกไม้และเครื่องเทศอย่างดอกแมกโนเลีย บูร์บองเป๊ปเปอร์ และจินเจอร์ก็เหมาะกับคุณด้วยเช่นกัน

ที่มา หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
35#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 01:11:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เบอร์โทรผับทั่วกรุงเทพ




เบอร์โทรผับทั่วกรุงเทพ (Pub Tel. No. In BKK)
Just for u !!! เบอร์ติดต่อผับ&ร้านเหล้าทั่วกทม. หามาให้แด่ทุกท่านที่ยังดื่มได้
*** คำเตือน *** : หามาให้เฉพาะเสือนักดื่มเท่านั้น
ควรดื่มไม่เกินวันละแก้วแต่เติมเหล้าโซดาได้เรื่อยๆ เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรสนใจ ^^"
ปล. เจ้าของกระทู้ไม่ได้เป็นขี้เมาผู้รวบรวมเบอร์มาแต่อย่างใด ไปเจอมาเลยเอามาฝากเท่านั้น

...ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน...
--------------------------

RCA
New route66 east & west ...(01) 440-9666......หรือที่เบอร์ 06-3000-817
Slim .... 02-203-0226-3............พี่ไวน์ 01-645-1177..
3 Some ...0-2203-1240-7
Club Astra .... 09-497-8422
Prop Bar ... 02-203-0669
REFEEL ...02-664-6459
ONE DOLLAR ...คุณโจ ผู้จัดการ... 09-767-3482
ทองหล่อสโมสร ...02-203-0516

ทองหล่อ/ เอกมัย
booze ... 02-715-0763
Room 25 - ทองหล่อ ซ.25 ....02-712-6448-9
Santika ...เบอร์ 02-711-5887 และ 02-711-5830 หรีอ 01-351-8683
barburee ..เอกมัย .. 02-392-4976-8
Z-mood..เอกมัย ซ.2 ..02-714-0493
นั่งเล่น - เอกมัย ....จองโต๊ะได้ที่.. คุณเอ้..0-1734-5102...เวลา 10.00 - 17.00 น. (ร้านปิดวันอาทิตย์)

ลิเบอตี้
Bombay bar ... 02-819-3768 หรือ 02-714-9459
ASHLEY'S RUMOUR ... 02-714-7861
แจ่มบาร์ .. 01-832-0675

สุขุมวิท
Bed supperclub ..สุขุมวิท 11.. 02-651-3537
Bar24 ..sukhumvit 24(soi emporiam) .. 02-6611062 , 09-000-2424
Narcissus ...สุขุมวิท 23 .... 02-258-4805
Zanzibar ...สุขุมวิท 11 ... 02-651-2700

รัชดา ซ.4
บางรัก .. 09-095-0990
Snop .. 02-819-3659
Gig club .. 01-834-5490
MonKey .. 01-828-9371
China bar .. 02-247-8823
Blue Bar .. 01-820-2000 , 06-389-0011

หลังสวน(ลุม)
70's Bar ... 02-253-4433

สีลม
Speed ...สีลม ซ. 4 ... 01-818-5064
Tapas ...สีลม ซ. 4 ... 02-632-7982

ข้าวสาร
Silk Bar ... 02-281-9981
The Club ..ข้าวสาร .. 02-629-1100
Cinnamon ...ซ.รามบุตรี .. 02-629-4075

เลียบทางด่วน.. รามอินทรา
Yes Indeed ... ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-907-7844-7
The Immortal ..ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-570-9999
The pool pub .. ถนน เกษตร- นวมินทร์ .. 02-578-3122-3
The Glasshome Bar ..เรียบด่วนรามอินทรา-เหม่งจ๋าย 02-934-7222-4
Camp of Havana ...ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-905-1133
กระฉูดผับ ...02-943-9531-4

อื่นๆ
CAFE DE MOC ผับบนถนนราชดำเนิน.. หยุดทุกวันจันทร์ ... 02-662-2571
Pump up .. 02-642-2222
แซกโซโฟน - อนุสาวรีย์ .... 02-246-5472
Wild west ..ถ.ทาวน์ อิน ทาวน์ .. 02-394-5161
RETRO LIFE CAFE .. ศุนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ .. 02-229-3398-9
River Bar ..เชิงสะพานกรุงธน.. 02-879-1747-8
Bale bar .. ลาดพร้าว 35 .. 02-938-1518-9
HELO(sarapa)..โชคชัย4 ซ.82..02.942-0911

และที่ลืมไม่ได้คือ...
ทะเลบางกอก...พระรามเก้า-เยื้องRCA.....02-641-4818
34#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 01:08:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ตลาดรัชดาไนท์






เชื่อว่าคุณคงเคยได้ยินถึงแหล่งหาซื้ออะไหล่เก่าของรถคลาสสิคอย่างเช่น โฟล์คเต่า ออสตินมินิ มอเตอร์ไซค์ เวสป้า ฯลฯ เป็นบริเวณพื้นที่ว่างแถวแยกรัชดา-ลาดพร้าว ช่วงตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษก จนถึง สถานีลาดพร้าว ที่เมื่อก่อนเคยทำเป็นโครงการรัชดาไนท์บาซาร์ มีร้านขายของเป็นล็อคๆ มีลานเบียร์ มีเวทีเล่นดนตรีสด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้รื้อถอนออกไปปล่อยเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไว้ ซึ่งตอนกลางวันจะใช้เป็นสถานที่ของโรงเรียนสอนขับรถยนต์แห่งหนึ่ง
ทุกค่ำคืนของวันเสาร์ บริเวณพื้นที่ว่างตรงนี้ ปัจจุบันได้กลายมาเป็นแหล่งช้อปปิ้งอะไหล่รถเก่า มอเตอร์ไซค์เก่าคลาสสิค ที่ย้ายมารวมพลกันที่นี่ สีสันที่คุณจะได้พบของตลาดรัชดาไนท์ก็คือการมารวมตัวกันของเหล่าผู้ใช้ (หรือมีใจรัก) รถ / มอเตอร์ไซค์คลาสสิค ที่มาเดินดูของ พบปะพูดคุย หาซื้ออะไหล่ ซื้อของไปตกแต่งรถของตัวเอง บ้างก็เอารถมาจอดติดป้ายขาย สภาพเดิม ๆ ก็มี ตกแต่งแล้วสภาพสวยปิ๊งก็มี รถสวย ๆ ขับขึ้นมาจอดเท่ ๆ ก็ไม่มีใครว่า (คงเพราะเข้ากับบรรยากาศสถานที่)

จากร้านที่มาวางขายของกันไม่กี่ร้าน ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น ผู้คนมาเดินกันคึกคักหนาตาขึ้น สินค้าก็เริ่มมีหลากหลายประเภทขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นของเก่าของมือสอง มีทั้งของเล่นเก่า ของเล่นสังกะสี ของสะสมโบราณ ขวดโหลหยอดเหรียญไขไข่ หนังสือเก่า เครื่องเล่นแผ่นเสียง แผ่นซีดี นาฬิกา เสื้อผ้า รองเท้ามือสอง เฟอร์นิเจอร์ ตู้โชว์ ป้ายไฟนีออนยี่ห้อเครื่องดื่มเหล้าเบียร์ของร้านที่เลิกกิจการแล้ว ฯลฯ และอีกส่วนก็เป็นของใหม่จำพวกสินค้ากิฟท์ช็อปแนวเอาใจสาว ๆ เช่น เครื่องประดับ ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ ของตกแต่งบ้าน จะว่าไปแล้วก็ดูคล้ายกับตลาดคลองถมที่ใครมีของเก่าของใช้แล้วอะไรก็เอามาวางขายได้หมด ต่างกันตรงที่ ที่นี่จะเน้นไปด้านอะไหล่รถเก่าเป็นหลัก และมีพวกรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคที่เจ้าของเอามาจอดขาย เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่น


เวลาที่ขายจะเริ่มกันตั้งแต่ 18.30 น. ไปจนถึงราว ๆ 02.00 น. เฉพาะคืนวันเสาร์เท่านั้น เวลาที่เหมาะมาเดินดูของน่าจะเป็นช่วง 19.30 น. – 23.00 น. ทุก ๆ ร้านจะตั้งวางของกันครบ ๆ พร้อมขาย

หากค่ำคืนวันเสาร์ คุณยังไม่มีโปรแกรมไปไหน คงถูกใจนักช็อปไม่น้อยเลยเชียวล่ะ...



สะพานพุทธ






คุณอาจแปลกใจ หากในตอนกลางวัน สะพานพุทธ จะเป็นท่าเรือด่วนและเรือข้ามฟาก รับส่งผู้โดยสาร ไปตลาดพลู แต่เมื่อเวลา ย่างเข้า หกโมงเย็น สะพานพุทธ จะแปรสภาพ เป็นตลาดนัด ในทันที ตลาดนี้มีเวลาเปิดและปิด ตามสภาพ ลมฟ้าอากาศ หากวันไหน อากาศดี ตลาด จะเริ่มตั้งแต่ 17.30 เปิดเรื่อยไป จนเกือบเที่ยงคืน แต่หากวันไหนฟ้าฝนไม่เป็นใจ ตลาดอาจเปิดช้า กว่าเดิมเล็กน้อย แต่รับรองว่าเปิดแน่ ปิดแค่วันพุธ วันเดียว

ตลาดนัดสะพานพุทธ เป็นที่รู้กันดี ในหมู่นักช็อปของถูกว่า ที่นี้เปรียบเหมือน สยามน้อยๆ เพราะสินค้า โดยทั่วไปแล้ว จะเป็นเสื้อผ้า ซึ่งมีตั้งแต่ยี่ห้อดัง อย่าง โปโล, อามานี่ ฯลฯ ( แต่เป็นของก๊อปมานะ ) สนนราคา มาตรฐานตลาดนัด ทั่วไป แต่ยังสามารถต่อรอง นอกจากเสื้อผ้าปะยี่ห้อดังแล้ว กางเกงยีนส์ สะพานพุทธ ก็ขึ้นชื่อมากพอกับ จตุจักรเลยทีเดียว ผิดกันอย่างเดียวคือ เวลาที่คุณเลือก ต้องใช้สายตาดีๆ หน่อย เพราะแสงสว่างที่มีอยู่น้อยนิดอาจหลอกตา ทำไม่เห็นตำหนิของเสื้อผ้าได้



ถนนข้าวสาร






ตั้งแต่ปากถนน ที่ข้าวสารก็เหมือนกับย่านการค้าอื่นๆ

แผงลอยที่ตั้งให้เห็นเป็นระยะ เห็นจะไม่พ้นหัวหุ่นที่เขาตั้งเอาไว้เป็นแบบรับบริการถักผม ที่ข้าวสารนี่ อีกบริการที่แผงถักผมมักจะทำควบคู่กันไปก็คือ เฮนน่า ที่นักท่องเที่ยวนั่งรอคิวให้วาดเลยทีเดียว

หากลองแหงนหน้ามองสูงขึ้นไป ตาก็จะลายไปกับ ป้ายโรงแรม และ เกสต์เฮ้าส์ที่ตั้งเรียงรายอยู่ทั่วถนน ราคาก็มีหลายระดับตามสภาพและประเภทของห้อง และยังมีร้านอินเตอร์เนตราคาถูก 50 หรือแม้แต่บาร์เบียร์ โดยมีร้านเช่า-ขายหนังสือมือสอง ร้านเสื้อผ้า และร้านขายของพื้นเมือง ตั้งแซมไปเป็นระยะๆ
33#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 01:06:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


ตลาดนัดสวนจตุจักร





"ตลาดนัดสวนจตุจักร" หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดนัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือ ชาวต่างชาติ มีน้อยคนนัก ที่จะไม่รู้จักตลาดนัดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุด อย่างสวนจตุจักร และจะเปิดเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 10.00- 18.00 น.แต่ทว่าการเราจะเดินท่องเที่ยว ให้ทั่วตลาดนัดแห่งนี้ ภายในช่วง เวลาสั้นๆ นั้นกับไม่ใช่ของง่ายดายเลย เพราะตลาดนัดสวนจตุจักรแห่งนี้ มีแผงจำหน่ายสินค้าจำนวนมากกว่า 8000 แผง ที่เต็มไปด้วยสินค้าทั้งแปลก ทั้งน่าสนใจและยังมีสินค้าจากทั่วภูมิภาคมากมายหลากหลายประเภทจำหน่าย เช่น สินค้าพื้นเมือง เครื่องจักสาน เครื่องประดับ เสื้อผ้า ไปจนถึงสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ในวันพุธและศุกร์ของสัปดาห์จะมีการจัดบริเวณเฉพาะสำหรับร้านค้าพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง จังหวัดทั่วประเทศไทย เมื่อคุณหลงเข้าไปในตลาดนัดแห่งนี้ คุณจะพบกับผู้คนจำนวนมาก แผงสินค้ายาวสุดลูกหูลูกตา อากาศที่ร้อนอบอ้าว ซอกซอยจำนวนมากที่ชวนให้หลงทิศหลงทาง กันได้ง่าย
วันหยุดเสาร์อาทิตย์ของใครหลายคนอาจหมดไปกับกิจกรรมมากมายแตกต่างกัน บ้างก็ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด บ้างก็นอนอยู่บ้าน ดูทีวี เล่นเกมส์ เล่นกับหมา แต่เราเชื่อว่าสาวๆ หลายคนเลือกที่จะไป “ช้อปปิ้ง” ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร แม้ว่าจะร้อนแหลก เหงื่อแตกทะลักตามที่ทุกคนกล่าวขาน แต่สินค้ามากมายจากทั่วสารทิศก็เป็นตัวดึงดูดให้ทุกคนมาเดินที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง



สวนลุมไนท์บาซาร์





ชีวิตคนทำงานในเมืองกรุง ช่วงกลางวันไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวหรือชอปปิ้งมากนัก หรือถ้ามีเวลาแต่ไม่ชอบแดดร้อนๆ ตลาดนัดกลางคืนอย่าง “สวนลุมไนท์บาซาร์” เป็นอีกคำตอบให้ได้เดินเที่ยวและเลือกช็อปได้เหมือนกัน
มีพื้นที่ทั้งหมด 120 ไร่ มีศูนย์รวมร้านค้ากว่า 3,700 ร้าน ลานกิจกรรม ร้านอาหาร รวมถึงนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก หรือโจหลุยส์ เธียเตอร์เดิม ที่เปิดการแสดงการเชิดหุ่นละครเล็ก ซึ่งเหลืออยู่เพียงคณะเดียวในประเทศไทย
นอกจากนี้ ก็ยังมี BEC Tero Hall เป็นสถานที่จัดการแสดง รองรับคอนเสิร์ตและการแสดงต่างๆ ทั้งจากต่างประเทศและไทย มาแล้วมากมาย นี่เองที่ดึงดูดเหล่าวัยรุ่นให้เข้ามาในโครงการมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนหรือหลังดูคอนเสิร์ตก็สามารถเดินเล่น ชอปปิ้ง หรือหาของกินได้ไม่ยาก

"สวนลุมไนท์บาซาร์" ตลาดนัดกลางคืนย่านพระราม 4 ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับสวนลุมพินี เปิดตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน แต่ร้านค้าส่วนมากจะเริ่มเปิดออกร้านประมาณบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป และจะเปิดทุกร้านจริงๆ ประมาณ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป เพราะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและเทศ จะเริ่มเข้ามากันมาก สำหรับสินค้าในร้านต่างๆ มีหลากหลาย จะว่าไป คล้ายๆ สวนจตุจักรอยู่มาก หลายร้านเปิดทั้งที่สวนลุมไนท์ฯ และที่สวนจตุจักร แต่จำนวนร้านไม่น้อย เปิดที่นี่แห่งเดียว
จุดเด่นประการหนึ่ง ซึ่งเป็นเสน่ห์ของร้านค้าในสวนลุมไนท์ฯ คือ เป็นสินค้าที่มากด้วยไอเดีย จากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ พบเห็นหรือหาซื้อได้ยากตามท้องตลาดทั่วไป ให้เลือกกันทั้งคืน
32#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 01:04:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
10 แหล่งช็อปปิ้ง กรุงเทพฯ




สถานที่ช็อปปิ้ง 10แห่ง ของเมืองกรุงเทพฯ โดยมีช่วงเวลาอันเหมาะสมของการช็อปได้ต่อเนื่องกันทั้งวัน



เริ่มจากที่แรกเลย ศูนย์การค้าตะวันนา

ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับบรรดานักช็อปตัวยง มีผู้มาจับจ่ายใช้สอยหนาแน่นมาก เปิดทุกวัน เริ่มเปิดทยอยตั้งแต่เวลา บ่าย 2 โมง จนถึงประมาณ 3 – 4 ทุ่ม ก็เริ่มทยอยเก็บ บางวันอาจเลยไปถึงเที่ยงคืน การตั้งแผงขายสินค้าต่างๆ อยู่ระหว่างห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์บางกะปิ และแม็คโคร สินค้าที่นี่จะหมุนเวียน ผลัดเปลี่ยนกันไป มีทั้งสินค้าใหม่ และ เก่ามาให้เลือกหา ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นสมัยนิยม , กระโปรง, กางเกงยีนส์ , รองเท้า , เครื่องประดับ , เครื่องแต่งกาย, น้ำหอม เครื่องใช้ไฟฟ้า, VDO VCD และ อื่นๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นศูนย์รวมในการจับจ่ายใช้สอยขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการจากฝีมือเฉพาะตัว อย่างเช่น การตัดผม, การเพ้นท์ เฮนน่า หรือ ศิลปินข้างถนน โชว์ฝีมือกับการวาดรูปเหมือนในราคาย่อมเยาว์



ตลาดวังหลัง





ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช ฝั่งท่าเรือท่าพระจันทร์
วังหลังเป็นแหล่งช็อปของมือสอง เหล่าบรรดาขาช็อปทั้งหลายคงจะรู้จักแหล่งช็อปแห่งนี้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือแม้แต่วันธรรมดา แหล่งช็อปแห่งนี้ก็ดูเหมือนจะคึกคักอยู่เสมอ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะของมือสองสภาพดีแบบสวยๆ ทั้งหลายจะทยอยเปลี่ยนแบบใหม่ๆ ทุกอาทิตย์ บางร้านลงของวันจันทร์บ้าง วันพุธบ้าง และวันที่ของมาลงใหม่ๆ แบบก็จะมีให้เลือกกันอย่างละลานตา มากมายที่คุณๆ ต้องการ กันอย่างจุใจ แถมมีแบบสวยๆ พร้อมราคาสมน้ำสมเนื้อไม่แพงจนกระเป๋าฉีก ใครชอบแบบไหนก็เลือกกันตามสะดวก มีหรือที่ขาช็อปทั้งหลายจะพลาด




ตลาดซอยละลายทรัพย์






ขึ้นชื่อมากในเรื่องแหล่งช็อปของสาวออฟฟิศ เรียกได้ว่าช็อปแต่ล่ะที ทรัพย์ละลายเลยทีเดียว ด้วยข้าวของที่มากมายหลากหลาย ล้วนดึงดูดให้ขาช็อปทั้งหลายมาที่นี่ จนทำให้ลูกค้าที่มาไม่ใช่มีแต่สาวออฟฟิศอย่างเดียว แม้แต่นักศึกษาหรือแม่บ้านก็เดินจับจ่ายซื้อของกันขวักไขว่ สินค้าที่นี่มีหลายระดับ ราคาก็มีตั้งแต่ถูกจนถึงราคาแพง ตั้งแต่ของธรรมดาจนถึงของแบรนด์เนมที่สั่งมาจากนอก จนบอกไม่ถูกว่าสินค้าไหนขึ้นชื่อมากกว่ากัน เอาเป็นว่าใครชอบแบบไหนก็เลือกซื้อกันได้ รับรองว่ามีสินค้ามากมายให้คุณเลือกอย่างจุใจเลยทีเดียว

ที่นี่จะเปิดทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนสีลม หลังธนาคารกรุงเทพ





สยามสแควร์





เป็นแหล่งช็อปปิ้งทันสมัยที่รู้จักกันดีของบรรดาวัยรุ่นทั้งหลาย เมื่อคุณไปถึงจะพบว่า มีร้านค้าที่เรียงรายอยู่สองฟากฝั่ง มีร้านขายสินค้าเบรนด์เนม นานาชนิด กระเป๋า ของใช้กระจุกกระจิกของผู้หญิง ร้านหนังสือ ร้านวีดีโอ ร้านขายเทป ซีดี ดีวีดี และยังแถมต่อด้วย แผงลอยขาย เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้จิปาถะไปตลอดทาง
ที่นี่ยังมีร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ให้คุณเลือกมากมายตั้งแต่ แผงลอยข้างทางหรือร้านฟาสฟูตส์ หลากหลายยี่ห้อหรือถ้าคุณ ขี้เกียจนั่งตามร้าน จะซื้อขนมนมเนยที่วางขายตาม ข้างทางแล้ว เดินไปกินไปด้วยก็ได้

บริเวณ Center Point จุดนี้มีร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ให้บริการ อยู่หลายร้าน ลองไปนั่งเล่นกันดูรับรองว่าคุณเองต้องตื่นตะลึง กับแฟชั่น ของวัยรุ่นสมัยนี้จริง
และยังมี อินดี้อินทาวน์ พื้นที่นี้มีไว้ให้คนไอเดียบรรเจิด เก๋ๆ กู๊ดๆ ใช้ฝีมือวัดกัน ด้วยการให้นักเรียนนักศึกษาทำของมาขายกันทุกวันศุกร์ ที่ลานเซ็นเตอร์ สยามสแควร์ นอกจากนี้ยังมีวงดนตรี Indy มาเล่นเพลงเพราะๆให้ฟังกันระหว่างเดินช็อปกันอีกด้วย ใครที่มีไอเดียเก๋ๆ แล้วยังไม่มีที่โชว์ลองไปที่นี่ หรือใครอยากได้ของ handmadeไอเดียเดิ้นๆ ก็แวะเวียนไปซื้อหากันได้
31#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 00:58:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เลือกกางเกงในอย่างไรให้เหมาะกับผู้ชาย





    แฟชั่นในตลาดชั้นในชายในประเทศไทย ไม่ค่อยคึกคักสักเท่าไหร่ เนื่องจากชายไทยส่วนใหญ่เป็นพวกขี้อาย ทำให้การเลือกกางเกงในสักตัวนั้น เป็นปัญหาใหญ่ สำหรับคุณสามี จึงต้องหันไปซื้อกางเกงในที่เป็นแพ็ค แต่หากคุณลองมองรอบตัวของคุณในแผนกชั้นในชายจะเห็นได้ว่า กางเกงในชายนั้น มีให้เลือกหลายรูปแบบ ดีไซน์มากมายหลายประเภท ทั้งนี้และทั้งนั้นผู้ชายแบบคุณสามีของคุณๆ แทบจะไม่รู้วิธีการเลือก ประเภทของกางเกงใน ครั้งนี้จะมาแนะนำกันว่ากางเกงในประเภทไหนเหมาะสำหรับการใส่แบบใดเอาล่ะ ไปดูกัน....

กางเกงในแบบขาสั้น หรือที่เราคุ้นกันว่า Boxer เป็นกางเกงในไม่กระชับ ใส่สบาย แต่ไม่สามารถใส่เคลื่อนไหวมากนัก เช่น การออกกำลังกาย เป็นต้น ที่เป็นที่นิยมคนไทยอย่างเราๆได้รับอิทธิพลมาจากชาวตะวันตก ส่วนมากจะมีความยาวครึ่งต้นขา





   กางเกงในขาสั้นรัดรูป ที่ต่างจากแบบแรกตรงที่ว่ากางเกงในแบบนี้เพิ่มความกระชับให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้โอบอุ้มน้องชายของคุณผู้ชายมากนัก






   Pouch boxer คือกางเกงในขาสั้นแบบกระชับอีกชนิดหนึ่ง ที่โอบอุ้มน้องชายของคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี






   กางเกงในยอดฮิต (๑) กางเกงในแบบนี้เราคงเห็นมากันตั้งแต่จำความได้ เพราะกางเกงในประเภทนี้ในเมืองไทยมีหลายยี่ห้อหลายรูปแบบ แต่ปัจจัยที่จำเป็นต่อการเลือกนั้น คือ คุณภาพของเนื้อผ้า การระคายเคือง และที่สำคัญอย่าเลือกที่กระชับมากจนเกินไปนักเพราะอาจจะทำให้น้องชายของเจ้าของกางเกงเจ็บปวดได้ ทั้งนี้กางเกงในแบบนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ ความสบายตรงที่เปิดต้นขาสูง เอวต่ำ เพิ่มเสน่ห์ต่อสาวๆ ได้มากทีเดียว


   กางเกงในยอดฮิต (๒) รูปแบบนี้ อาจจะมีปัญหากับผู้สวมใส่บางท่าน เพราะขอบยางที่มีเฉพาะกางเกงในแบบนี้ทำให้ผู้สวมใส่บางท่าน เกิดการระคายเคืองเนื่องจากการเสียดสีระหว่างขอบกางเกงกับเนื้อของเราเมื่อเคลื่อนไหว ดังนั้นกางเกงในแบบนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมั่นใจในรูปร่างของตัวเองเท่าใดนัก




    ลองเลือกดูว่าคุณผู้ชายที่บ้านคุณเป็นคนแบบไหน(ชอบแบบไหนและมีรูปร่างอย่างไร)ลองแนะนำกางเกงในที่เหมาะสมให้เขาใส่จะได้แฮปปี้กันทั้งเขาและคุณ
30#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-6-18 00:56:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ความรู้เกี่ยวกับการเลือกชุดชั้นในให้เหมาะกับสรีระและชุดที่สวมใส่ของสาวๆ



โดยผู้เชี่ยวชาญจากซาบีน่าได้ให้หลักในการเลือกชุดชั้นในว่า ต้องคำนึงถึง "ขนาด หรือ คัพ ไซซ์" ของตัวเองเป็นอย่างแรก รวมถึง "รูปทรงของทรวงอก" ก็สำคัญ ต้องพิจารณาว่าทรวงอกของเราเป็นแบบใด

เช่น รูปทรง ลูกเกด เชอรี่ เป็นรูปทรงของเด็กที่เริ่มมีทรงเป็นส่วนใหญ่ ต้องเลือกบราที่ช่วยประคองทรง เช่นเสื้อใน First bra

รูปทรงเลมอน ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงของวัยรุ่น จะมีเนื้อเนินอกน้อย ฐานทรงไม่กว้าง ควรเลือกใส่บราที่ช่วยเสริมทรง เพื่อให้ทรงอกดูอวบอิ่ม

รูปทรงแอปเปิ้ล จะเป็นทรงที่สวยได้รูปอยู่แล้ว เพราะมีเนื้อเนินอก และเต้าทรงกลมได้รูป จะใส่เสื้อในใดๆ ก็ดูสวย เพียงแต่เลือกให้ตรงขนาด



รูปทรงสตรอเบอร์รี่ เต้าทรงเริ่มคล้อย ฐานทรงกว้างกว่าแบบเลมอน ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงของวัยสาว ต้องเลือกบราแบบมีโครงช่วยประคองทรง และโครงต้องมีฐานทรงกว้างขึ้นเพื่อเก็บเนื้อเต้าทรงได้หมด รูปทรงลูกแพร์ เต้าทรงเริ่มคล้อยมาก ฐานทรงกว้าง ต้องเลือกบราแบบมีโครงช่วยประคองทรง และเลือกแบบที่มีองค์ประกอบช่วยเก็บเนื้อทรงด้านข้าง

รูปทรงสับปะรด เนื้อเต้าทรงมีมาก ทรงพุ่งชันมาก เลือกเสื้อในแบบ soft bra ไม่มีฟอง และมีโครงเพื่อช่วยประคองทรง

ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า สาวอกไข่ดาว หรือ สาวที่มีเนื้อหน้าอกน้อย และไม่ค่อยมีความพุ่งชันของเนื้อหน้าอก ควรเลือกใส่เสื้อในที่เสริมทรง โดยเสริมทั้งโครง เพื่อดันเนื้อใต้อกขึ้น และเสริมทั้งฟองน้ำ เพื่อเพิ่มความพุ่งชันของทรวงอก ตรงข้ามกับสาวอกใหญ่ หรือ สาวที่มีเนื้อหน้าอกมาก และมีความพุ่งชันของหน้าอกมาก ซึ่งมักจะมีปัญหาตาม ก็คือความหย่อนคล้อยของหน้าอก เนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก ดังนั้นควรเลือกบราที่มีโครงช่วยประคองทรงไม่ให้หย่อนคล้อย โครงต้องกว้างเพื่อรับกับฐานทรง และเก็บเนื้อด้านข้างได้หมด และเลือกเสื้อในที่มีความลึกของทรงพอสมควรเพื่อให้เวลาใส่แล้วเสื้อในไม่กดทรง อาจทำให้ทรงเสียรูปได้ อีกหนึ่งรูปทรงที่คนมีหน้าอกนิยมใส่ คือ เสื้อในแบบ Soft Bra คือไม่เสริมฟอง หรือแบบซีทรู ทำให้ทรงดูไม่ใหญ่ขึ้นและไม่ดูเทอะทะและไม่อึดอัด



ส่วนเนื้อผ้าก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเช่นกัน ปัจจุบันชุดชั้นในมีผลิตจากเนื้อผ้ามากมาย ทั้งแบบเนื้อผ้าจากธรรมชาติ เช่น ผ้าคอตตอนใส่สบาย และระบายเหงื่อได้ดี ผ้าไนลอน สแปนเด็กซ์ มีความยืดหยุ่นสูง และทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ ต้องพิจารณาส่วนประกอบอื่นๆ เช่นสายแขน คนที่มีไซซ์ใหญ่ควรเลือกสายแขนขนาดใหญ่ตามเพื่อช่วย รับน้ำหนัก และประคองทรง เป็นต้น

สำหรับการเลือกชุดชั้นในให้เข้ากับชุดชั้นนอกที่สวมใส่นั้น ถ้าใส่เสื้อผ้ารัดรูป ควรเลือกบราแบบ Seamless ไร้ตะเข็บที่เต้าทรง และเนื้อผ้าเนียนเรียบ ควรหลีกเลี่ยงลูกไม้ เพื่อที่เวลาใส่เสื้อผ้าภายนอกจะได้ดูเนียนเรียบ หรือ ถ้าใส่กางเกงหรือกระโปรงรัดรูป ควรเลือกกางเกงชั้นในแบบรูปทรง Boy leg หรือรูปทรงจีสตริง เพื่อหลีกเลี่ยงรอยตะเข็บของชั้นในโผล่ออกมาภายนอก

ส่วนกรณีที่วันนั้นต้องใส่เสื้อผ้าสีขาว หรือเสื้อผ้าเนื้อบาง ควรเลือกชั้นในโทนสีเนื้อ เพราะจะดูกลืนไปกับสีผิว และสีของชั้นในไม่ดูโดดออกมายังเสื้อตัวนอก ซึ่งอาจทำให้สีของเสื้อตัวนอกเพี้ยน และหมดความสวยได้ และถ้าต้องใส่ชุดราตรีเพื่อไปงานหรู ควรเลือกเสื้อในที่เป็นแบบตัวยาว หรือ All in one เลือกแบบเสริมทรงสำหรับคนอกเล็ก และแบบเก็บทรงสำหรับคนอกใหญ่, ถอดสายได้ เนื้อผ้าที่ลำตัวเสื้อต้องกระชับเป็นพิเศษเพื่อช่วยกระชับเนื้อส่วนเกิน และเน้นให้มีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนขึ้น

ปิดท้ายด้วยเทรนด์ของชุดชั้นในช่วงท้ายปีนี้ ลายที่กำลังมาแรงได้แก่ลายประเภทรูปลายสัตว์ทั้งหลาย เช่น ลายเสือดาว เสือโคร่ง ม้าลาย รวมถึงลายดอกไม้เล็กๆ สีหวานๆ ในโทนชมพู ส้ม และม่วง

แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้