|
กรณีที่ปลายจมูกแดงอักเสบ
แน่นอนครับ เมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา ทั้งหมอและคนไข้ ต่างผิดหวังด้วยกันทั้งคู่ครับ หมอก็เศร้า คนไข้ก็เศร้าต่างคนต่างเศร้า แต่ความเศร้าไม่ได้ช่วยอะไรครับ มาร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดีกว่าจะได้สวยเหมือนเดิม
ตอนนี้คนไข้มีทางเลือก อยู่ 2 ทางครับ หนทางแรกที่ หมอเกาหลี แนะนำคือ
2.1 ) ถอด Silicone ออกแล้ว เย็บบริเวณปลายจมูกที่ ทะลุ รอประมาณ 6 -8 เดือนทำการเสริมใหม่ แต่ในช่วงที่รออยู่ แนะนำให้นวดบริเวณปลายจมูกทุกๆวัน ให้นิ่ม และไม่บุ๋มมาก ( แต่สำหรับ หมอเกมส์ แนะนำว่า หลังเย็บปิดแผลไปได้ 2 อาทิตย์ แนะนำให้คนไข้กลับมาฉีด filler ที่ปลายจมูกในตำแหน่งที่ทะลุ เพื่อป้องกัน การบุ๋มของปลายจมูก หลังจากนั้นให้ นวดทุกๆ วันที่ปลายจมูก รอ 6 -8 เดือนมาเสริมใหม่ )
2.2 ) ถอด Silicone ออก เย็บแผลบริเวณปลายจมูก แล้ว เสริมใหม่ด้วย dermal fat graft ทั้งหมดตั้งแต่ สันจมูก จนถึงปลายจมูก เหตุผลที่ต้องใช้เนื่อเยื่อตัวเองทั้งหมดเป็น เพราะว่า เมื่อจมูกอักเสบ หรือ ทะลุแล้ว แสดงว่ามีเชื้อโรคเข้าไปแล้ว ในบริเวณที่จะเสริม ดังนั้นถ้าเสริมจมูกโดย Silicone หรือ Gortex ก็อาจเกิดการติดเชื้อได้ง่าย แต่อย่างที่บอกนะครับ dermal fat graft เสริมแล้วมักไม่โด่ง แพทย์เกาหลี จึงให้ รอซัก 3 -4 เดือนเพื่อทำการแก้ไขใหม่โดยการเสริม silicone
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คนไข้คงจะพอมองออกว่า เมื่อเกิดปัญหา ปลายจมูกบาง หรือปลายจมูกทะลุ การแก้ไขคือ ต้องหา เนื้อเยื่อ หรือ อะไรก็ตามไปหนุน ปลายจมูกที่บางนั้นไว้ และไม่ให้มันลงไปติดกับ เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนด้านล่าง เพราะเมื่อกันลงไปติด หรือ เกิดการบุ๋มแล้ว แก้ยากครับ แก้ยากจริงๆๆ ฉะนั้น การเอา Dermal fat graft จากร่องก้นนั้น เอาไปเติมไว้ก่อนนั้น สำคัญมาก แล้วค่อยมาว่ากันในส่วนที่เหลือ ( สันจมูก ) ว่าจะเอากันยังงัยต่อดี |
คะแนน
-
2
ดูบันทึกคะแนน
-
|