ดู: 6507|ตอบกลับ: 19
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

วิธีดูฟิลเลอร์แท้-ของก๊อป

[คัดลอกลิงก์]
เราเป็นคนนึงที่โดนฟิลเลอร์ปลอมมา อันตรายยิ่งกว่าซิลิโคนเหลว ซิลิโคนเหลวต้องรอหลายปีกว่าจะไหล แต่ฟิลเลอร์ปลอมไหลเลย เดือนเดียวก็ไหลแล้ว ตอนนี้เรารักษามาสามปีแล้ว ยังไม่ดีขึ้น ค่าฉีดไม่แพงแต่ค่ารักษาหลายแสน หมดไปห้าแสนแล้วค่ะ ยังไม่หาย เราเหมือนคนตาบอดที่หาหนทางไม่เจอ พ่อแม่ต้องกู้หนียืมสินมาเพือรักษา นี่เรายังคิดเลยว่าถ้าไม่มีเงิน เราคงต้องขายตัวเพื่อรักษาแน่นอน แต่ยังดีมีพ่อแม่ช่วยเหลือ จากชีวิตเรากำลังรุ่งโรงอายุ23วัยกำลังเป็นสาว มีผู้ใหญ่มาทาบทามให้เล่นหนัง โฆษณา แต่ชีวิตต้องมาพังทลายเพราะสารปลอมนี่ อยากเตือนเพื่อนๆที่คิดจะซื้อยาตามอินเตอร์เน็ต หรือยาข้างนอกต่างๆหรือหมอเถือนหมอกระเป๋า รวมทั้งคลินิคเอง เดี๋ยวนี้อันตรายมากๆๆ ยาปลอมระบาด เราได้เจอกับเพื่อนๆที่ร่วมชตากรรมเยอะมากๆๆจนคิดไม่ถึงบางคนเป็นนางงาม บางคนเป็นพริตตี้ แต่ชีวิตต้องมาจบที่สารพวกนี้ สารพวกนี้ไม่มีทางรักษาออกได้หมด เราฉีดแค่ครึงซีซีบริเวณร่องแก้มแต่มันไหลย้อยเหมือนคนแก่เหนียงยาน แต่บวมมากเหมือนอันมาเป็นกิโล ทั้งที่ฉีดนิดเดียว อันตรายมากจริงๆ ไม่อยากให้ใครเจอเหมือนเรา
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tik-do เมื่อ 2013-2-20 14:51

หากฉีดเจอของปลอมมันไม่คุ้มเลยคะสวย-หล่อแป็ปเดียวหลังจากนั้นจะทรมานทั้งชีวิต ของแท้จริงๆแล้วอยู่ได้ 4-7 เดือนคะหลังจากนั้นจะสลายไปเองคะ
โอ้ว เรื่องแบบนี้ต้องระวังเลย สวยหล่อแปปเดียวแต่หลังจากนั้นเล๊ะ ไม่คุ้มเลย ยังไงก็ทำกับหมอที่เชื่อถือได้ดีกว่าครับ ขอบคุณข้อมูลนะครับ
กำลังสนเรื่องฟิลเลอร์คางอยุ่ค่ะ จะพยายามทำความเข้าใจ และจำลักษณะ ระหว่างของแท้ กะของปลอม จะได้ไม่โดนย้อมแมวค่ะ  ขอบคุณเนื้อหาสาระ มากๆเลยค่ะ
เรามีข้อมูลดีๆมาฝากจ๊ะ
ปัจจุบันสาร Hyaluronic Acid หรือบางคนเรียกย่อๆว่า HA ถือว่าเป็นมาตรฐานในการฉีดฟิลเลอร์ มีความปลอดภัยสูงกว่าเมื่อเทียบกับสารตัวอื่นๆ จะมีราคาสูงกว่าพอสมควร เพราะเหตุที่มีราคาค่อนข้างแพงนี้เองจึงทำให้คลินิกเถื่อนหรือหมอกระเป๋าซึ่งแข่งขันในด้านราคา จึงพยายามนำสารอย่างอื่นมาใช้แทน ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก สำหรับสารที่ต้องระวัง ได้แก่
      
       1.สารไม่ปลอดเชื้อที่ห้ามใช้ทางการแพทย์ เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน หรือน้ำมันอื่นๆ
      
       2. สารที่ถูกผลิตมาใช้ฉีดอย่างปลอดเชื้อ มีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกับ Hyaluronic Acid เพราะเป็นเนื้อเจลใส หากดูด้วยตาไม่สามารถแยกจากสารHyaluronic Acid ได้เลย จึงต้องระมัดระวังมาก เช่น คอลลาเจนที่สังเคราะห์จากสัตว์,polyacrylamide , polyamide หลายประเทศมีการนำมาฉีดอย่างแพร่หลายรวมทั้งตามคลินิกในเมืองไทย เพราะมีราคาถูกกว่าสาร HA หลายเท่าตัว และยังคงทนอยู่นานถาวร มีปัญหาแล้วสลายไม่ได้ สารเหล่านี้ไม่ผ่าน อย. เพราะความปลอดภัยไม่เพียงพอ มีโอกาสเกิดปฏิกิริยากับผิวหนังได้สูง
      
       สารทั้งสองประเภทนี้เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายซึ่งเป็นสารแปลกปลอมที่ร่างกายไม่ยอมรับ จะทำให้เกิดอาการบวมแดง อักเสบ เนื้อตายอย่างถาวร เกิดปัญหาไหลย้อย บิดเบี้ยว เกิดผลข้างเคียงในระยะยาว สารที่ว่านี้ยังไหลไปบริเวณข้างเคียงทำให้ผิดรูปร่าง เกิดเป็นก้อนขรุขระหรืออาจไหลเลื่อนไปส่วนอื่นได้ สารอันตรายนี้จะอยู่ในร่างกายได้นานโดยไม่มีการสลายตัว ไม่สามารถฉีดสลายได้เลยจึงทำให้แก้ไขได้ยากมาก ก่อนฉีดก็พิจารณาดีๆนะคะ
ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับข้อมูลดีๆเป็นประโยชน์กับคนอื่นมากๆเลยค่ะ มีอะไรดีๆอีกนำมาแชร์อีกนะคะ
น่ากลัวจิงๆๆของปลอม >< แต่แบบซื้อมาแล้วให้ครายฉีดให้อะคับ
บางครั้งดูกล่องดูขวดก็แล้ว แต่ตอนที่คนฉีดดูดยาใส่สลิงค์แต่ว..ปลอม =_=!!
ต้องศึกษาหั้ยแน่จัย
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-12 15:10:26 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ของถูกเป็นของปลอมก็กลายเป็นแพงคะ เพราะใช้ไม่ได้ผล เป็นอันตรายกับคนไข้ ที่เราไม่ชอบที่สุดคือโกหกลูกค้าคะ บอกว่าของแท้ (ทั้งที่คนขายก็รู้แก่ใจ) ขายในราคาถูกชนิดซื้อของแท้ราคาทุนยังไม่ได้  เลยนำรูปมาเปรียบเทียบให้ดูเป็นความรู้คะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย cosman เมื่อ 2012-11-8 10:17

ปัญหาที่สำคัญที่เคยพบมา ที่เคยพบ ขออนุญาติไม่พาดพิงถึงใครนะครับ

ผู้ขายบางรายใน อ้่างว่า เป็น OEM บ้าง ,หิ้วบ้าง ,หนีภาษีบ้าง ,มีเพื่อนหิ้วมาได้ในราคาถูก,บลาๆ

ผู้บริโภคควรระมัดระวังให้มากครับ อย่าหวังเพียงแค่ ราคาที่ถูกเท่านั้น บางรายการฉีดราคาอาจจะเท่าของจริง

แต่เค้าไม่ได้ใช้ของจริงก็น่าคิด

บางเจ้า แท้แต่กล่องก็มีนะครับ ใช้กล่องแท้วนไส้ แบบเก้าอี้ดนตรี

ถ้าจะให้ดี เราเป็นคนแกะกล่อง เอง และเอากล่องกลับมาดูเล่น หรือ

จะเอาไว้หาข้อมูลเพื่อเทียบเคียงไปเลยเพื่อความสบายใจครับ

ขออนุญาติเอาข้อความของคุณ Pinkmaya

"ซึ่งทางที่ดี ให้ทำที่คลินิกโดยแพทย์ และไม่ซื้อมาทำเองค่ะ"

ขอเสริมนิดนึง "และไม่ควรใช้บริการหมอกระเป๋า เพราะอาจจะได้รับบทเรียนราคาแพง และท่านก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้"

ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแบ่งปันครับ
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2012-11-7 20:32:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การใช้ยาที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า หรือการรับรองของ อย. ล้วนสร้างความน่าเชื่อถือ และความมั่นใจให้ผู้บริโภค ทั้งนี้ทั้งนั้น เอาความปลอดภัยเป็นที่ตั้งแล้วกันนะคะ ฉีดเสร็จสวยสบายใจ ไร้กังวล
...สวย ดี ดี  กันดีกว่านะคะ ^^
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2012-11-7 20:15:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oilko เมื่อ 2012-11-7 20:29

จริงๆแนะนำว่าถ้ายาไม่มีอย. อย่าใช้เลยดีกว่า เพราะเราไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ ถ้ายาจริงก็เสมอตัว แต่ถ้ายาไม่จริงขึ้นมา อย่างที่ถูกจับไปล่าสุดเป็นฟิลเลอร์ (Filler) ฉีดไปถ้าจมูกเน่าล่ะ จมูกผิดรูป หน้าเรากลับคืนมาไม่ได้ อย่างยาบางกล่องทำแพกเกจสวยงามเหมือนของจริงมาก แต่สุดท้ายเป็นยาปลอม ผลิตจากจีน ซึ่งไม่ได้คุณภาพเหมือนของที่ถูกต้องนะคะ
       ดังนั้นถ้าจะฉีดฟิลเลอร์ หรือจะทานยาอะไร อย่าลืมถามคุณหมอก่อนว่า ยานี้ผ่านการรับรองจากอย.ประเทศไทยหรือไม่ เพราะบางอย่างผ่านการรับรองอย.ของต่างประเทศแล้ว แต่ไม่ผ่านประเทศไทย ถ้าเกิดปัญหาขึ้นไม่มีคนรับผิดชอบ เช่น ถ้าเกิดอาการแพ้ ช็อก หรือเกิดการติดเชื้อ จะไม่มีใครรับผิดชอบได้เลย ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่เราหาโรคเข้ามาหาตัวโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เลย
      
       เราจะมีวิธีสังเกตเบื้องต้นว่าเป็นยาจริงหรือปลอมได้อย่างไรนั้น อย่างแรกเลยเราต้องมีความรู้เกี่ยวกับสารที่เราจะใช้อยู่แล้ว เช่น ถ้าเราจะไปฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เราควรรู้ว่าโบท็อกซ์มีหน้าตาเป็นอย่างไร โบท็อกซ์สัญลักษณ์เป็นอย่างไร บริษัท ผู้ผลิตคือบริษัทอะไร เหล่านี้สามารถดูได้จากเว็บไซต์ที่เป็นของผู้ผลิตได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวโบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์ ก็ตาม ยาฉีดก็ฉีดเราเองควรหาข้อมูลให้ชัดเจน จะได้เชื่อมั่นสบายใจค่ะ
      
       อย่างที่สอง ควรสอบถามจากสถานบริการว่า ให้บริการยาชนิดใดอยู่ โดยส่วนใหญ่คลินิกที่มาตรฐานเขาจะไม่โกหกเรา มักจะบอกตามตรงว่า โบท็อกซ์ที่ฉีด บางทีเขาจะแจ้งเลยว่า มี 2 ราคา ราคาแรกเป็นโบท็อกซ์ของสหรัฐอมริกา อีกราคาจะเป็นโบท็อกซ์ของเกาหลี เขาจะแจ้งให้คนไข้ทราบเลย เพื่อให้เราตัดสินใจเอง
      
       แต่เพื่อความมั่นใจของเราอีกประการหนึ่ง ก่อนจะฉีดทุกครั้งอย่าลืมขอดูผลิตภัณฑ์ก่อนฉีด เช่น ฟิลเลอร์ ควรจะต้องขอดูก่อนเลยว่า คุณหมอแกะกล่องใหม่ไหม แล้วกล่องใหม่ที่แกะออกมาฉลากตรงกับที่กล่องหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยควรรักษาสิทธิ์นะคะ
วิธีการดูเพียงแค่กล่อง ไม่ใช่บ่งบอกว่า ของแท้ หรือปลอม

เพราะนั่นเป็นเพียงดูว่า ยาที่เข้ามา ผ่าน อ.ย. หรือไม่ เพียงเท่านั้น

ยาบางตัวมาจากผู้ผลิต ไม่หิ้วเข้ามาโดยไม่ผ่าน อ.ย. เพื่ออัพราคา

ซึ่งไม่ได้บ่งบอกว่ายานั้นปลอมแต่อย่างใด เพียงแต่การนำเข้ามาไม่ถูกต้องเท่านั้น

ซึ่งทางที่ดี ให้ทำที่คลินิกโดยแพทย์ และไม่ซื้อมาทำเองค่ะ
เก็บข้อมูลครับ ขอบคุณมากๆๆๆ
ขอบคุณมากคับ สำหรับความรู้
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2012-11-6 17:48:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้