|
ดิฉันเป็นคนนึงที่ตกเป็นเหยื่อของเจ้าไบโอตัวร้าย เมื่อประมาณ 9 ปี ก่อน ดิฉันได้ไปฉีดไบโอที่ คลีนิคแถวดอนเมือง โดยการหลงเชื่อจากสื่อโฆษณาต่างๆ รวมทั้ง คำพูดของหมอที่ บอกเสมอว่า "สวยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และสามารถดูดออก ในกรณีถ้าไม่ชอบ" หลังจากทำไบโอมาได้ประมาณ 4 ปี ก็เริ่มมีอาการ เช่น รู้สึกลมหายใจมีกลิ่นเหม็นๆ (ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะไบโอหรือเปล่า แต่น้าของดิฉันซึ่งฉีดไบโอเหมือนกันก็รู้สึกเหมือนกันว่าลมหายใจมีกลิ่นเหม็น), เริ่มมีเพื่อนทักเสมอ ว่าจมูกบริเวณดั้งเริ่มเขียวซีด (แต่ตอนนั้นในใจคิดเข้าข้างตัวเองว่าอาจเป็นเพราะอากาศหนาวมั้งเลยดูเขียวประกอบกับดิฉันเป็นผิวขาวด้วย) ทำให้ดิฉันไม่ทันสังเกตุลักษณะของไบโอที่เริ่มเปลี่ยนไป จนมากระทั่งวันนึง ดิฉันได้นั่งดูรายการๆ หนึ่ง ที่พูดถึงปัญหาการฉีด ฟิวเลอร์ และการทำศัลยกรรมที่ผิดวิธี ทำให้ดิฉันคิดเอะใจ ลอง ถาม google เกี่ยวกับ "ไบโอ" พอดิฉัน serch ไปเท่านั้นแหละคะ "โอ้แม่เจ้า" ไม่มีกระทู้ไหนหรือข้อความไหนที่ บอกว่า ไบโอ ดีเลยอะ มีแต่ สารพันปัญหา และอันตรายต่างๆ ที่สามารถทำให้เราเสียโฉมได้ในอนาคต (คืนนั้นดิฉันกังวลทั้งคืนเลยคะ)
จนกระทั้งดิฉันก็มานั้งหาข้อมูลและก็ได้ เจอกระทู้ของคนที่ประสพปัญหาเรื่องไบโอ เหมือนกัน ซึ่งทำให้ดิฉันรู้ว่าส่วนใหญ่คนที่มีปัญหาเรื่องไบโอจะมาเอาไบโอออก ที่ ณพลักษณ์ คลีนิค และส่วนใหญ่คนไข้ก็จะชื่นชมการทำงานและความเป็นมืออาชีพของคุณหมอ อรรถพันธ์ และภรรยา (คุณเฟียต) ทำให้ดิฉันตัดสินใจที่จะมาแก้ไขจมูกที่คลีนิคนี้ โดยไม่ลังเลใจเรื่อง คชจ เลย (เพราะคิดเสมอว่า ไม่ว่าค่ารักษาจะแพงแค่ไหน ก็ยอมเพื่อแลกกับการที่จะเอาไบโอออกไปให้เหลือน้อยที่สุดจากจมูกของดิฉัน เพราะดิฉันกลัวเสียโฉมในอนาคตมากคะ) จนกระทั่งดิฉันก็ได้นัดเข้าไปรับการคำปรึกษาและนัดวันผ่าตัดจากคุณหมอและคุณเฟียต ซึ่งก่อนการผ่าตัดประมาณ 3 อาทิตย์คุณหมอให้งดวิตามินบำรุงทุกอย่าง เพื่อป้องการปัญหาผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ในที่สุดวันผ่าตัดก็มาถึง ดิฉันเข้ารับการผ่าตัดวันที่ -22 oct 2012 คุณหมอนัดให้มา บ่ายสอง โมง (ดิฉันแอบมา เลท คะ เพราะต้องเดินทางมาจากชลบรี และมัวแต่ติดพันงานอยู่) ตอนแรกแอบเกร็งๆ เล็กน้อยที่มาเลท เกือบ ชม. แนะคะ แต่พอมาถึง คุณหมอท่านใจดีมากเลยคะ ไม่ตำหนิดิฉันเลย แถมยังให้ดิฉันไปทานข้าวให้เรียบร้อยก่อน (ตอนแรกดิฉันกะว่าจะไม่ทานหรอกคะเพราะเพิ่งทานมาล่าสุดตอน บ่ายโมง เอง ) แต่แอบรู้มาจากพยาบาลว่า ควรต้องทาน เพราะก่อนเราผ่าตัด คุณหมอจะให้เราทานยา เยอะมาก และถ้าเราไม่ทานข้าว จะมีผลกะเราเวลายากัดกระเพาะ ทำให้มวนท้องอยากอ๊วก ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบในระหว่างผ่าตัดได้ ก่อนการผ่าตัดดิฉันกังวลบวกกับกลัวมาก (ถึงขนาดแฟนของดิฉันขอให้คุณหมอฉีดยานอนหลับให้ระหว่างผ่าตัด) แต่คุณหมอบอกเสมอว่าการทำศัลยกรรมแค่นี้ไม่จำเป๊นต้องฉีดยานอนหลับหรอก เพราะมันอาจจะมีผลกระทบต่อหัวใจ และแล้ว เวลา ประมาณ 16.30 น. ดิฉันก็ขึ้นห้องผ่าตัด (ก่อนการผ่าตัดดิฉันก็ได้ผ่านกระบวนการทำความสะอาดต่างๆ นาๆ ตาม กระทู้ คนไข้อื่นๆ ของณพลักษณ์คลีนิค) ในความรู้สึกตอนนั้น บอกตรงๆ ดิฉันกลัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลัวที่สุดคือการต้องนอนเฉยๆ ท่าเดิม เป็นเวลา มากกว่า 4 ชั่วโมง พอดิฉันเข้ามาห้องผ่าตัดคุณหมอก็ให้นอนที่เตียงผ่าตัด โดยที่คุณหมออยู่ในชุดคล้ายๆ นักบินอวกาศ คุณหมอเริ่มจากการทำความสะอาดใบหน้าด้วยแอลกอฮอล ในระหว่างอยู่ในห้องผ่าตัดคุณหมอก็จะเปิดเพลง คลอ เบาๆ เพื่อผ่อนคลาย พอมาถึงการฉีดยาชา คุณหมอจะบอกก่อนว่าจะฉีดยาชาแล้ว อาจจะเจ็บนิดนึง แต่จะเจ็บแค่เข็มแรกเท่านั้น แต่พอคุณหมอฉีด ปรากฎว่าไม่รู้สึกเจ็บเลยคะ คุณหมอมือเบามากกกกก |
|