ดู: 20988|ตอบกลับ: 31
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ใครเคยฉีดฟิลเลอร์ตัว aquaderm มั่งครับ

[คัดลอกลิงก์]
คือผมอยากฉีดฟิลเลอร์อ่ะครับ  เล็งๆตัวอควาเดิร์มไว้อยู่อ่ะ เพราะมันอยู่ได้นานกว่าเรสติเลนกับ เพอร์เลนอ่ะครับ  อยากถามว่ามันอันตรายมั้ยครับ ยังไงบ้างครับ ขอบคุณครับ
จริงๆ การทำจมูก ถ้าเป็นไปได้ ก้เลือกที่จะเสริมจมูกดีกว่าการฉีด

การฉีดบ่อยๆ นอกจากเจ็บตัวแล้ว

ไม่ได้แปลว่าหมอเก่งๆ ทุกคนจะฉีดแล้วไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้

การฉีดที่ปริมาณมากเกินไป หรือฉีดพลาดยาเดินไปทางกระแสเลือด จะทำให้เนื้อส่วนนั้นตาย เน่า เพราะขาดเลือดไปเลี้ยงได้

ที่สำคัญ Aqua หรือ Restylane หรือ มี อ.ย. ยังไงก็ตาม ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ใช้ และวิธีการใช้

ไม่ใช่ว่าใช้ Aqua แล้วจะเกิดปัญหาทุกคนไป

Restylane แม้มี อ.ย. หมอบางที่ฉีดพลาดหน้าเน่าก็มีมาแล้ว ไม่เว้นแม้แต่โรงบาลใหญ่ๆ

ดังนั้น การเลือกใช้ฟิวเลอร์ ย่อมต้องเลือกหมอ และโครงใบหน้าผู้ฉีดอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เสียน้อยเสียมาก เสียยากเสียง่าย เลือกใช้ Restylane ที่มี อ.ย. จะดีที่สุดค่ะ

แม้จะอยู่ได้ไม่นาน แต่ปลอดภัย ไร้กังวล

ยังไง ก็มีแต่คนแนะนำทำเป็นแบบซิลิโคนเลยดีกว่า แบบฉีด
จากที่จิ๊บเคยอ่านข้อมูลการเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงของหมอมานะคะ
เค้าบอกว่า ฟิลเลอี์ถึงแม้จะมี อย.ก็ตาม เมื่อฉีดแล้วไม่มีทางสลายไป 100%ค่ะ
หากฉีดแล้วอยากเสริทสิริโคน ก็ต้องมีขูดออกแถม ถ้าเสริมซิลิโคนตอนหลัง ไม่รู้จะเรียบสวยรึป่าว
ยังไงเน้น อย. ปลอดภัยไว้นะคะ จิ๊บก็อยากฉีด แต่ก็ไม่อยากมานั่งคิดมากหลังฉีด ก็เลยยังไม่ทำดีกว่า จิ๊บอยากให้อ่านข้อมูลหนึงจังเลย ถึงอันตรายของการฉีด ยังไงเลือกหมอดีๆนะคะ เพราะถ้าฉีดบางจุดมากไป อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงเส้นเลือดไม่ได้ และอาจทำให้เน่าได้ ยังไงก็ให้ฉีดมาหล่อๆๆเลยนะจ้าา ^^
พวกนี้เป็นสาร polyacrylamide นะคับ
จัดเป็น semi-permanent เลยคับ

ตามที่บริษัทต่างๆเคลมไว้ว่าอยู่ได้ 2-5 ปี จริงๆมันอยู่นานกว่านั้นมาก
ปัญหาที่พบคือ เมื่อฉีดไปเป็นเวลานาน จะเกิดเป็นก้อนแข็ง granuloma
complication เยอะมากๆๆ ลองไปศึกษาดูใน pubmed ละกันคับ


ลองไปถามหมอละกัน ว่ามีใครกล้าใช้กับตัวเองบ้าง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:35

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:27

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:26

4. สารสงเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ แบ่งเป็น

แบบแรก
Scaptra หรือ Newfill เป็น synthetic poly lactic acid เป็นสารกลุ่ม polylaclic acid ในยุโรปได้มีการใช้ฉีดใบหน้าและลดริ้วรอยในปัจจุบัน FDA สหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้ scaptra สามารถใช้ฉีดโดยถูกกฎหมายในคนไข้ที่ติดเชื้อ HIV แล้วมีใบหน้าตอบ

แบบสอง
ซิลิโคนเหลว ถือเป็นสารที่มีการนำมาฉีดเพื่อเสริมแต่ง ซิลิโคนเหลวถือเป็นสารแปลกปลอม เมื่อฉีดเข้าร่างกายแล้วจะมีการอักเสบอย่างต่อเนื่องเพื่อกำจัดสารแปลกปลอม  
และซิลิโคนเหลวจะไหลไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก โดยที่ซิลิโคนที่หน้าผากจะไหลมาที่เปลือกตาบน, สารที่อยู่ที่โหนกแก้ม จะไหลมาที่ด้านข้างของคาง
ทำให้มีลักษณะแก้มย้อยเหมือนคนสูงอายุ จากประสบการณ์ที่เคยดูแลคนไข้ พบว่า ซิลิโคนเหลวเป็นสารที่ฉีดแล้วสามารถเสริมใบหน้าได้สวยงามมาก
แต่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 8 เดือน - 1 ปี โดยที่หลังจาก 1 ปี สารพวกนี้จะไหลไปที่ต่างๆ


5. สารธรรมชาติจากร่างกาย

หมายถึง ไขมัน ซึ่งจะดูดออกทางผิวหนังหรือหน้าขาเพื่อใช้ฉีดในส่วนต่างๆ





แต่ปัญหาที่ฉีดฟิวเลอร์ ไม่ได้หมายความว่า สารกลุ่มที่ 1-3 จะไม่ด หรืออันไหนดีกว่าอันไหน ปัญหาจะไปอยู่ที่

1. ติดเชื้อ

อาการนี้ไม่เกี่ยวกับ ฟิวเลอร์ไม่สะอาด หรือเข็มไม่สะอาด แต่หมายถึงผิวหนังไม่สะอาด

เช่น คนที่เป็นเริมมาก่อน หรือเคยมีประวัติ ไม่ควรฉีดฟิวเลอร์ รวมทั้งเสริมจมูกด้วยประการทั้งปวง หากฉีดต้องมีการทานยาฆ่าเชื้อไว้ก่อนล่วงหน้าหลายวัน


2. ฉีดฟิวเลอร์ตื้นเกินไป หรือมากเกินไป

จะทำให้บริเวณนั้น ตึง บวมแดง หลายวันก็ไม่ค่อยจะหาย หายช้า หรือเกิดภาวะเส้นเลือดฝอย หรือรอยนูนช้ำบริเวณที่ฉีด


3. ฉีดในจุดอันตราย

เช่น ร่องน้ำตา ใต้ตา รอบดวงตา

จงจำไว้ว่า ฟิวเลอร์ ไม่ได้ออกแบบมาให้ฉีดบริเวณดังกล่าวเลย หากใครใคร่นำไปฉีด จะพบอันตรายที่โอกาสเกิดได้สูงมาก คือ

รอยบวมช้ำใต้ตา เป็นสีม่วง สีฟ้า สีเขียว หนาๆ หรือเป็นถุงก้อนเนื้อห้อย ซึ่งจะเกิดหลังฉีดไม่กี่วัน หรือ เกิดทันที หรือจะช้าจะเร็วก็จะเกิด อย่างดีหน่อย อาจเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ


4. ฉีดเข้าเส้นเลือด

อาการแบบนี้จะหนักสุด ทำให้เกิด ปัญหาใหญ่มาก คือ

4.1. อาการเนื้อตาย เพราะฟิวเลอร์ไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหนัง กล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่ได้

เช่น ฉีดจมูกแล้วจมูกเน่า เป็นต้น จะพบว่าอาการนี้ไม่เกี่ยวกับประเภทของฟิวเลอร์

ถ้าเป็นเส้นเลือดใหญ่ถูกอุดตัน อาจลามไปถึงหน้าเน่า บริเวณซีดนั้นๆ ปากเน่า ทั้งๆ ที่ฉีดจมูกเป็นต้น

4.2. อาการตาบอด หนักสุด เกิดจากฟิวเลอร์บริเวณหัวคิ้วเพื่อลบริ้วรอยเหี่ยวย่นระหว่างคิ้ว

แต่ดัน ฉีดฟิวเลอร์เข้าไปอุดเส้นเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา ทำให้ตาบอดทันที



จากบทสรุปตัว Aquaderm เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มกึ่งถาร ที่จะอยู่นร่างกายได้นาน 3-5 ปี แต่ไม่มีอันตราย

และการฉีดฟิวเลอร์ มีข้อควรใช้ คือ เมื่อแรกเริ่มใช้ ให้ฉีดตัว แบบชั่วคราว หรือ แบบไม่ถาวร ก่อน

จากนั้นเมื่อจะเติม หรือมั่นใจแล้ว ค่อยใช้แบบ กึ่งถาวรแบบสลายหมด เช่น Aqua ทั้งหลาย

ส่วนในรายที่จะฉีดจมูก แล้วจะไปเสริมจมูกในภายหลัง ไม่ควรฉีดฟิวเลอร์ด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม


ส่วนสารที่ไม่ใช่กลุ่มฟิวเลอร์ เช่น น้ำมันพื้ช เบบี้ออย รวมทั้งฟิวเลอร์แบบถาวร เช่น ซิลิโคน ไม่ควรนำมาใช้อย่างเด็ดขาด

เพราะจะเกิดปัญหา เน่า ตามมาในภายหลังไม่เกิน 3-8 เดือน

ส่วนซิลิโคน จะเกิดปัญหาเสื่อม และไหลย้อยตามมาในภายหลัง ทำให้หน้าดูแก่กว่าเดิม และขูดออกไม่ได้หมด






แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:41

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2012-8-21 00:25

หลังจากได้สอบถามไปยังแพทย์หลายๆ คน ก็พบว่า ให้คำตอบไม่เหมือนกัน

แต่พอได้เจออาจารย์หมอ ซึ่งท่านบอกว่าเรื่องนี้หมอไม่ค่อยเอ่ยถึง เพราะคนไข้ หรือคนที่เข้ามาใช้บริการ จะรับไม่ได้

ความจริง คือ

1. แบบชั่วคราว

คอลลาเจน เป็นสารธรรมชาติที่สกัดจาก คอลลาเจนของวัว สามารถนำมาใช้ลดริ้วรอยที่ใบหน้าและเสริมแต่งบริเวณใบหน้าและริมฝีปาก

โดยปกติจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน เนื่องจากเป็นสารที่สกัดจากเนื้อเยื่อธรรมชาติ ทำให้มีโอกาสแพ้ประมาณ 3 - 5 %

ดังนั้นจึงต้องทำการทดสอบก่อนการฉีดยา  ข้อด้อยของคอลลาเจน คือ เป็นสารที่มีราคาแพงและอยู่ได้ระยะเวลาสั้น

แต่อย่างไรก็ตาม คอลลาเจน ถือเป็นสารธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูงในการใช้ฉีดที่ใบหน้า

เช่น  Zyderm, Zyplast

สารกลุ่มนี้สังเคราะห์จากสัตว์ เช่น วัว พวกนี้สลายหมดไวมาก และปลอดภัย แต่ต้องเทสก่อน ในรายที่แพ้สัตว์ชนิดนั้น เช่นแพ้เนื้อวัว


2. แบบไม่ถาวร

สารเจ้าปัญหา ที่ ในความเป็นจริงคือ ฉีดแล้วมีการสลาย แต่บอกไม่หมด คือ แปลว่า สลาย แต่อาจสลายไม่หมด

เช่น หากฉีดจมูก แล้วภายหลังไปเสริมจมูก ในขณะที่ยังสลายไม่หมด ก็จะต้องขูดออกเช่นกัน

สารกลุ่มนี้ เช่น Restylane , Hydrafill , Hylaform , Juvenderm เป็นต้น ยี่ห้อที่ผ่าน อ.ย. ไทยได้แก่ Restylane

สารกลุ่มนี้แบ่งได้ 2 อย่าง คือ

แบบแรก

Hyaform gel (Bio Matrix , me, Ridgefield, NJ) สกัดมาจากหงอนไก่ ในกลุ่มนี้จะมีสารที่ใช้ฉีด ได้แก่  Hyaform fineline, Hyaform, Hyaform plus โดยมีความเข้มข้นประมาณ 6 มก./ซีซี

สามารถนำมาใช้ลดริ้วรอยใต้ตา, ร่องแก้ม และร่องลึกของบริเวณใบหน้า โดยที่ Hyalorm fineline ใช้สำหรับฉีดใต้ตา ส่วน Hyaform plus เป็น form ที่ออกแบบให้มีอายุนานประมาณ 8 เดือน - 1 ปี ใช้สำหรับฉีดร่องลึก

แบบสอง

Restylane (Q Med, Uppsala, Sweden) เป็นสารที่สกัดมาจาก น้ำตาลที่ถูกย่อยโดยแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส

จึงได้สาร Hyarulan Restlane มีความเข้มข้นสูงกว่า Hyaform  โดยมีความเข้มข้น 20 มก./ซีซี

สารกลุ่มนี้ คือ Restylane และ Prolane โดยที่ Prolane สามารถอยู่ได้นานกว่า Restylane  สามารถใช้ฉีดเสริมใบหน้า, ริมฝีปาก และลดริ้วรอยของร่องแก้ม

ข้อดีของ hyaluran คือไม่มีการแพ้ และสามารถฉีดโดยไม่ต้องทดสอบถ้าต้องการฉีดเพิ่มเติมสามารถฉีดเพิ่มได้ใน 2 อาทิตย์


3. แบบกึ่งถาวร

เช่น Artecoll , Artrfill , Aquamid  , Radiesse เป็นต้น

สารกลุ่มนี้ผ่าน อ.ย. ในหลายประเทศ ยกเว้นไทยเรา

สาเหตุที่ไม่ผ่าน เพราะอยู่นานเกินไป หากจะทำอะไรในระหว่างที่ยังสลายไม่หมด จะต้องขูดออกเช่นกัน

สารกลุ่มนี้อยู่ในประเภท polymethylmethacrylate (PMMA) ซึ่งจะอยู่ในร่างกายได้นานถึง 3-5 ปี กันเลยทีเดียว บางชนิดจะนานกว่านี้ก็มี เช่น

-- Articoll (Rofil Medical International B.V.Bresda Netherlands) เป็นสาร Polymethyl methacrylate ที่แขวนลอยอยู่ในคอลลาเจน
โดยที่คอลลาเจนจะเป็นตัวพาอาคิดเลตเข้าไปในเนื้อเยื่อและคอลลาเจนจะสลายไปโดยที่อาคิเลตจะอยู่ในเนื้อเยื่อต่อไป  Articoll สามารถใช้ฉีดร่องแก้ม, ริมฝีปาก, แผลเป็น

-- Dermalive เป็นสาร  methylmethacrylate เช่นเดียวกับ Articoll แต่แขวนลอยอยู่ในไฮยาลูแรน โดยที่ไฮยาลูแรน จะเป็นตัวพาอาคิเลตเข้าไปในเนื้อเยื่อแล้วจะสลายไป โดยที่อาคิเลตจะยังคงอยู่ในเนื้อเยื่อต่อไป

-- Bioplast เป็นซิลิโคนที่มีขนาดเล็กๆ แขวนลอยอยู่ในสาร Polyvinyl pyrrolidone hydrogel หลังการฉีด hydro gel จะถูกดูดซึมไปใน 4 อาทิตย์ ซิลิโคนจะถูกจับโดยคอลลาเจนของร่างกาย

-- Aquamid ด้วย 2.5%  polyacrylamide และน้ำ 97.5%

-- Aqua Life และ Aquaderm เป็นสารกลุ่ม PMMA ที่อยู่ในร่างกายได้นาน 3-5 ปี ตัว Life จะมีโมเลกุลใหญ่กว่าฉีดง่ายกว่า

-- Amazing gel เป็นสาร polyacrylamide เป็นสารที่ใช้ฉีดมีผลถาวร มีการผลิตในประเทศจีน ใช้ฉีดใบหน้าและหน้าผาก

-- Radiance เป็น Hydroxyapatite ซึ่งเป็นสารที่เป็นไขมันและกระดูก และมีการนำมาใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมกระดูกมานาน โดยทั่วๆ ไป Radiance สามารถอยู่ได้นานประมาณ 3 - 6 ปี




ฟิลเลอร์ตัวนี่ไม่สลายนะคัา ถ้าจะสลายต้องใช้เวลา5ปีและอาจมีผังผืด
ถามหมอมาเป็น10ๆท่าน แล้วอย่าหลงไปฉีดละ
อยากเดินไปตบหน้าคนที่ฉีดฟิวเลอร์ตัวนี้บนใบหน้าผมเหลือเกิน
ตบให้ดังๆ ชัดๆไปเลย

แล้วตัวไหนที่ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติบ้างคะ
ริงเคยฉีด อควาเดิม ที่คางไป 1 ซีซี ก็แอบกลัวแต่ไม่กลัวอ่ะ
อีกอย่างนึงค่ะ ถ้าปลอดภัยจริงทำไมไม่ผ่านอ.ย.หล่ะคะ...คิดนิดนึงก่อนจะสวยค่ะ
เราก็ฉีดอควาเดิมแบบ 2 ml. นะคะ แกะกล่องเลยค่ะ ข้างในกล่องจะมีเข็มกับสลิ้งให้ ทุกวันนี้ยังไม่สลายเลยค่ะ 3 ปีแล้ว ไม่ได้จะสร้างกระแสหรืออะไรนะคะ แต่เจอมากับตัวจริงๆค่ะ ถ้าอยากฉีดฟิลเลอร์จริงๆ แนะนำ Restylane ดีกว่าค่ะ ผ่านอ.เย. ปลอดภัยกว่า ไม่อยากให้ใครเจอแบบเราค่ะ ****อ่อ..เราก็ฉีดที่คลินิกนะคะ ไม่ได้ฉีดหมอกระเป๋า เด๋วนี้หมอไร้จรรยาบัญเยอะค่ะ สวยแบบมีอ.ย.ดีกว่า

แสดงความคิดเห็น

แง๊ๆ จิงหรา สามปีสลายไม่หมดอะ เอาแร้วไงๆ  โพสต์ 2012-9-18 11:00
ตัว Aquaderm จึงใช้ได้อย่างดี และปลอดภัย

แต่ระวังไว้หากไปฉีดที่ไหนก็ตาม ถ้าเห็นหมอ หรือพยาบาล ดูดยาออกมาจากถุง

ให้รีบหนีเลย เพราะ Aquaderm จะต้องเป็นยาที่อยู่ในแพ็กเก็ตที่ไซริ้งค์กระบอกฉีดและเข็ม ติดมาด้วยกันในกล่องแพ็กเก็ตอยู่แล้ว
ความแตกต่างของ Filler ต่างๆที่มีนิยมใช้กันอยู่ในขณะนี้มีประมาณนี้ค่ะ

1. สารประเภท HA ( Hyaluronic acid ) เป็นสารที่ปลอดภัย สกัดได้จากน้ำตาลเชิงเดี่ยว แล้วนำมา cross link ให้แข็งแรง จึงอยู่ในร่างกายได้นานพอควร เป็นสารที่ปลอดภัยที่สุดในขณะนี้ค่า

ยี่ห้อที่ผ่าน อย. ประเทศไทยและทั่วโลก มีเพียงของบริษัท Q med sweeden ค่ะมีชื่อการค้าว่า Restylane ไม่ไหลไม่ย้อย สลายได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด Restylane แบ่งเป็น

*** REstylane เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา แก้ม หน้าผาก ดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้ 4-8 เดือน

**Restylane Perlane เหมาะสำหรับฉีดผิวหนังชั้นลึก เช่น จมูก คาง อยู่ได้ 1-1ปีครึ่ง เพราะมีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า restylane ธรรมดา 4 เท่า

2. Filler ประเภทกึ่งถาวร ส่วนมากเป็นสารประเภท Polyamide อยู่ในร่างกายประมาณ 5-7 ปี (ยังไม่ผ่าน อย. ไทย แต่ผ่าน อย. ในหลายประเทศในยุโรป ) ปลอดภัย ไม่ไหล ไม่ย้อย เพราะเป็นสารประเภท Hydrophilic ไม่เกิดอาการแพ้ (แต่ที่ อย. บ้านเราไม่ให้ผ่าน ก่อเพราะ มันอยู่ได้หลายปีนี่แหละ เพราะใบหน้าแต่ละปีมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆๆ)ยี่ห้อตามท้องตลาดเช่น aquamid aquaderm aqualift เป็นต้นค่ะ

3.ประเภทถาวร

ซิลิโคนเหลว ไม่แนะนำนะค่ะ อันตรายมากกๆถ้ายังจำพี่ซันนี่ ยูโฟร์ ดาวมยุรี ได้นึกถึงพี่เค้าไว้ค่ะ
ตัว Aquaderm สลายหมดค่ะ ยืนยันมาจากหมอตรงสยาม

ตัวที่สลายหมดจะมาในแบบกล่องสำหรับฉีดหน้า ขนาด 2ml เท่านั้นค่ะ

ส่วนตัวที่มาแบบถุง จะสลายไม่หมด

ถ้าพบคลีนิคที่ไหนก็ตาม ดูดยาออกมาจากถุง ให้เดินหนีเลยค่ะ

และ ถ้าไม่พบว่าแกะออกมาจากกล่องจริงต้องระวังค่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใจหายหมดเรย เราเคยฉีดร่องแก้มควาเดิม 2mlกะคุณฟ้า ตอนนี้สบายใจแร้ว เฮ้อ  โพสต์ 2012-9-18 10:57

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

ขอบคุณมากนะคะที่แจ้งไว้เป็นข้อมูลดีๆๆอย่างมากค่ะme_meeja
อย่าฉีดตัว อควาเดิม หรือยี่ห้อที่ไม่ผ่านอ.ย.เด็ดขาดค่ะ เราเคยฉีดมาแล้วพวกนี้สลายไม่หมด และอาจเกิดการอักเสบเป็นหนองตามมาในระยะเวลา 1-2 ปี หลังจากฉีดไปแล้ว หากมีปัญหาอักเสบหมอก็จะไม่รับแก้ให้ด้วยระคะ เพราะฉะนั้นคิดให้ดีๆก่อนฉีดนะคะ เวลาแก้ก็ต้องขูดออก ระยะเวลาพักฟื้นก็นานขึ้น แถมเสียค่า แก้แพงมากๆค่ะ ดีไม่ดีหมอไม่ทำให้อีกตะหาก มีแต่เสียกับเสียค่ะ ด้วยความปรารถนาดี จากผู้มีประสบการณ์ตรง

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

โห โด่งสวยมาก มีรูปรีวิวอีกไหมอยากเห็นด้านตรง มุม ข้าง
ฉีดที่ไหนอา แล้วตัวนี้มันสลายได้ 100 เปอรไหม ว่าแต่ขอรูปก่อนฉีดด้วยน่ะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย eubie เมื่อ 2011-12-23 01:46

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ลงรูปเล็กๆนะคะ
เราใช้ของ ESthelis รุ่น Basic 1ml มีของเดิมอยู่แล้ว ฉีดวันที่7-12-54



ตัวนี้ปั้นยากกว่า เรสตอเรน เล็กน้อย เพราะมีความหนาแน่นมากกว่า
อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ http://www.esthelis.com

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x

แสดงความคิดเห็น

โอ๊ะ รูปไม่เล็ก O_O  โพสต์ 2011-12-23 01:47
ใช่ๆ เอาแบบสลายหมดเถอะ เพราะถ้าต้องขูดออก ไม่ไหวอ่า
ตอบกระทู้ pekk ตั้งกระทู้

คิดว่าถ้าฉีดแนะนำแบบผ่าน อย ไทย ดีกว่า เช่น เรสตอเรน เพอเรน เป็นต้น พวกที่อยู่ได้นานกว่า 1 ปีขึ้นไประยะยาวผลข้างเคียงมันเช่นรูปหน้าและจมูกเราที่เปลี่ยนแปลงไปอาจส่งผลกับของเหลวที่อยู่ในร่ายกายเราได้ แนะนำลองฉีดตัวเรสตอเรน ดูก่อนแล้วค่อยไปฉีดพวกอควาลิฟหรือตัวไฮโดร อื่นๆ แต่เรสตอเรนจะขึ้นรูปน้อยกว่าตัวอควาจิงๆ....ถ้าจะฉีดให้โด่งก็พวกอวาหรือไฮโดรอ่า จะดูโด่งกว่าเรสตอเรน เราฉีดเรสตอเรนดูรีวิวได้....โด่งระดับนึงเอง

แสดงความคิดเห็น

ฉีดแล้วเริ่มยุบยังคะ อยู่ได้จริงๆนานไม๊คะ เพิ่งไปฉีดเรสทิเรนมา  โพสต์ 2012-8-9 18:08
เราใช้EStherlis ผ่าน อย เหมือนกัน

แสดงความคิดเห็น

อยากเห็นค่ะ ลงรูปให้ดูหน่อยได้มั๊ยค่ะ พอดีกำลังจะไปฉีดจมูกอยู่ค่ะ  โพสต์ 2011-12-21 17:36
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-12-21 00:18:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต้นฉบับโพสต์โดย prince1150 เมื่อ 2011-12-21 00:01
ตอนนี้ก็เป็นปกติแล้วคับ ฉีดมาแรกๆอาทิตย์แรกจะบวมนิ ...

แต่ว่าฟิลเลอร์ แบบกึ่งถาวรนี้ก้ไม่ได้อันตรายใช่มั้ยครับ  แล้วถ้าผมฉีดของ aquaderm เงี้ยถ้าอีกสามสี่ปีพอผมเรียนจบ ผมเกิดอยากเสริมแบบซิลิโคนก้ต้องขูดออกใช่มั้ยครับ หรือไม่ถ้าเราเติมฟิลเลอร์ไปเรื่อยๆมันจะอันตรายป่าวครับ  

แสดงความคิดเห็น

อ่าไม่แน่ใจน่ะแต่ส่วนตัวแนะนำให้ฉีดเรสตอเรนแบบสลาย100เปอรเซนดีกว่า...  โพสต์ 2011-12-21 12:37
ตอนนี้ก็เป็นปกติแล้วคับ ฉีดมาแรกๆอาทิตย์แรกจะบวมนิสๆและจะดูโด่งเวอร์ ตอนนี้มันยุบหายบวมแล้ว ดั้งมีขึ้นมาบา้งแต่คงไม่ขึ้นรูปเหมือนซิลิโคลนที่เป็นแท่งแค่เติมตรงสันกับหยดน้ำและปลาย ก็ดูเป็นธรรมชาติมาก จับ บีม จมูกได้เหมือนก่อนฉีด แต่มันอยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 6 เดือน + ของผมตอนนี้ก็เริ่มเข้าที่แล้วคิดว่าคงจะสลายไปเรื่อยๆตามธรรมชาติอ่าคับ ต่อไปคงไปเสริมแท่งซิลีเลยดีกว่า เพราะว่าประหยัดกว่า แต่เรื่องหลังผ่าตัดจะยุ่ีงยากกว่าหน่อย กัวต้องแก้ เบี้ยว บวม หรือติดเชื้อมากๆ เลยไปฉีดก่อนแต่การฉีดข้อเสียคือรูปทรงมันจกัดเพราะเป็นของเหลว การที่จะฉีดแล้วให้สวยได้รูปโด่งเด้งต้องใช้เวลาฉีดหลายครั้ง และต้องใช้ฟิลเลอร์ตัวไฮโดรที่ไม่ผ่านอยไทย คือมันสลาย 2-3 ปี แต่ไม่สลายหมดน่ะต้องไปฉีดเรื่อยๆหรือไม่ก็ขูดออก ต่างจากฟิลเลอรไฮยาที่สลายเอง100เปอรเซ็น แต่ราถาการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะเรสตอเรน สวีเดน เนี่ยแพงมาก หมดไป 2 หมื่นแล้ว แต่จมูกก็ดูดเนียบเป็นธรรมชาติมากเหมือนไม่ได้ทำเลย อิอิ จาดีไหมเนี่ย...
ต้นฉบับโพสต์โดย prince1150 เมื่อ 2011-12-20 22:32
เราฉีดเรสตอเรนมา ตอนนี้จาเข้าเดือนที่ 2 แร้ว.. ...

ผลหลังฉีดเป็นไงบ้างอ่า
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้