ดู: 4569|ตอบกลับ: 17
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ลดน้ำหนัก/ดูดไขมัน] เสริมปลายจมูก โดยใช้ไขมัน ใครรู้ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ

[คัดลอกลิงก์]
ปรึกษากับหมอเฉลิมมาค่ะ เนื่องจากว่าปัจจุบันที่ทำอยู่ตรงปลายจมูกมันตึง ๆ จะเห็นเป็นรอยคล้ายรอยซิลิโคนอะค่ะ (ประมาณครึ่งหนึ่งของเม็ดถัวเขียว ) แต่ไม่ทะลุนะค่ะ  คุณหมอเลยแนะนำว่าจะใส่ซิลิไปใหม่แต่ให้สั่นกว่าอันเก่าและจะใช้ไขมันใต้คางเสริมเพื่อไม่ให้ปลายจมูกตึงเกินไปค่ะ  แต่หมอบอกว่าใส่ไขมันไป 100 อาจจะเหลือ 30 หรือไม่เหลือเลย ใครเคยทำวิธีนี้บ้าง ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ
พึ่งเติมมาค่ัะไม่นาน ก้อลดลงจริงๆ... แต่ไม่ได้เอาไขมันใต้คางมา หรือที่พุงมา

ย้ายจากโคนขามาปลูกเลยค่ะ...ฟังดูโหดไปมะเนี่ยย... เพราะจะได้เลี้ยงไขมันใหม่เลย..อิอิ

ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ยุบไปเท่าไหร่นะคะ รอเข้าที่อยู่เหมือนกัน
เพื่อนหวานปายทามาค่า ตั้งสามหมื่อนห้าอ่า ความคิดหวาน หวานว่าม่ายเหมาะกับคนที่ แหมบๆ ๆ ๆ มาก ๆ ๆ ๆ ๆ ค่า
เพื่อนหวานคนหนึ่งเค้าแบบ ว่าดั้ง อ่าม่ายมีเลย ทามมา เหมือนม่ายดายทามมมอ่าค่ะ
ถ้าเติมตรงปลาย เอาไขม้นจากตรงคางมาเติมก้ได้น่ะคับ
^V^
สนใจเอาไขมันหน้าท้อง มาเสริมแหะ
เรามีข้อสงสัยค่ะ  เราต้องใช้ไขมันใต้คาง ต้องเสียเพิ่ม 5000 บาท  และหมอบอกว่าใส่ไป 100อาจจะเหลือ 30 หรือไม่เหล ...
ต้นฉบับโพสโดย noody เมื่อ 2009-9-15 23:40

ใส่เพื่อให้ไขมันพวกนั้นมาช่วยสมานเนื้อ ให้ผิวบริเวณนั้นไม่บางเท่าเดิมอ่ะค่ะแล้วจะทำให้ปลายจมูกนิ่มเหมือนคนไม่ได้ทำจมูกมาเรยนะคะ เคยไปลองแตะๆคนที่เค้าทำด้วยวิธีนี้มาแล้ว นิ้มนิ่ม

เคสของเรา เพราะว่า เราผิวบาง และเนื้อน้อยมากกกกกกก เวลาเราส่องกระจกบางทีจะเห็นเปนวงขาวๆตรงปลายจมูก แต่ไม่แดงหรือทะลุนะคะ เป็นมาตั้งแต่ตอนทำวันแรกแล้วค่ะ คนอื่นก้อดูไม่ออกนะคะ มีเราอยู่คนเดียวแหละค่ะว่ามันเป็นวงๆ
พอลองเข้าไปปรึกษาคุณหมอ ท่านเรยแนะนำให้ใช้วิธีนี้เหมือนกัน แต่ของเราหมอท่านบอกว่า รอให้มันเห็นชัดก่อนก็ได้ เพราะคุณหมอท่านก็เสียดาย เราก็ไม่ค่อยยอมทำ เพราะเราว่าตอนนี้ทรงจมูกมันโอเคสุดๆแล้ว ถ้าต้องเหลาสั้นลงเราเสียดายอ่ะ เราชอบทรงนี้แล้ว
เพิ่มเติมเคสของหมอชลทิศคับ มีรายงานว่า จากการดูผลของคนไข้ทั้งหมด

คนไข้ยิ่งอายุน้อย ยิ่งสลายเยอะมากกว่าคนที่อายุมากคับ

พี่ที่ทำงานไปทำมาด้วย ปรากฏว่าเหลือเเค่30% เห็นจะได้ ทั้งที่ตอนเสริมใส่เเบบล้นๆเเล้วนะเนี้ย
ค่ะตามที่คุณปลาพูดค่ะ คือของหมอชลทิศใส่ทั้งแท่ง แต่เปอร์เซนต์การหายนี่มีเหมือนกันค่ะ ตอนนี้แทบไม่เหลือเลยค่ะ
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-9-15 23:40:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรามีข้อสงสัยค่ะ  เราต้องใช้ไขมันใต้คาง ต้องเสียเพิ่ม 5000 บาท  และหมอบอกว่าใส่ไป 100อาจจะเหลือ 30 หรือไม่เหลือเลย ถ้าไม่เหลือเลย ต้องเพิ่มเข้าไปใหม่หรือว่าทำอะไรไม่ได้แล้วอะค่ะ   แล้วของคุณปลาหมอใส่ให้สูงเท่าไรค่ะ ทำไมถึงต้องไปเพิ่มไขมันที่ปลาย  ปลายจมูกใสหรือค่ะ  ขอบคุณนะค่ะ  สงสัยมากมายไม่อยากแก้ ๆ หลาย ๆ รอบค่ะ
ยินดีค่ะ เพราะเราต้องทำเหมือนกัน แต่ของเรายังไม่มีกำหนดค่ะ เพราะหมอบอกแล้วว่าของเราไม่ทะลุแน่นอน แต่เนื้อเราบางไป หมอเรยอยากทำให้เพื่อความชัวร์มากกว่าค่ะ
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-9-15 22:07:37 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณคุณปลานะค่ะ :)
เคสของหมอชลทิศ คือเอาไขมันที่ท้องมาเสริมจมูกทั้งชิ้นนะคะ คือใช้ไขมันแทนซิลลี่ไปเรยนะคะ
ไม่ใช่เติมแค่ปลายจมูกแบบที่หมอเฉลิมบอกนะคะ
มันคนละเคสกะที่คุณจะทำน้า
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-9-15 17:50:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คุณ  candy   85 ค่ะ สอบถามนิดหนึ่งค่ะ  แล้วตอนที่ใส่ไขมันไปวันแรก ที่ทำแล้วทรงจมูกจะต่างกันมากไหมค่ะกับวันที่ไขมันเหลือ 30 ค่ะ
วงการศัลยกรรมความงามตื่นตัว แพทย์ไทยคิดค้นงานวิจัยนวัตกรรมใหม่ ด้วยการปลูกย้ายไขมันบริเวณใต้สะดือ ไปเ ...
ต้นฉบับโพสโดย porkung เมื่อ 2009-9-14 01:18




ขอบคุณนะคะ..สำหรับข้อมูลใหม่ ๆ ดี ๆ แบบนี้...
ค่ะตามที่หมอบอกแหละค่ะ เรายังไม่ได้ทำแต่อาจต้องทำเหมือนกันอ่ะค่ะ เพราะเคสที่ต้องทำแบบนี้ มันจะเปนเคสของผิวบาง เนื้อน้อย ต้องใช้ไขมันมาเติมผิวช่วงปลายให้เต็มแต่ต้องรื้อซิลลี่มาเหลาใหม่ให้สั้นลงจิงๆแหละค่ะ แต่กว่าจะจาก100 เหลือ 30ได้ นี่นานอยู่นะคะ เพราะไขมันใต้คางได้ได้สลายง่ายขนาดน้านนนนนน มันจะทำให้ปลายนิ่มและดูซอฟท์ลงมากกว่าค่ะ
เคยทำค่ะ ที่หมอชลทิศ สลายจริงจริงค่ะ แต่ธรมมชาติมาก และไม่อันตรายเลย  แต่ส่วนตัวชอบแค่50% ใช้ได้ดีสำหรับผู้ที่จะเอาจมูกออกค่ะ
วงการศัลยกรรมความงามตื่นตัว แพทย์ไทยคิดค้นงานวิจัยนวัตกรรมใหม่ ด้วยการปลูกย้ายไขมันบริเวณใต้สะดือ ไปเสริมจมูกของหญิงสาวให้โด่งเป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาซิลิโคนทะลุที่สร้างความเจ็บปวดและทรมาน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ว่า การเสริมจมูกด้วยการปลูกย้ายไขมัน เป็นนวัตกรรมเสริมความงามล่าสุด ที่ตนคิดค้นและพัฒนาขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำศัลยกรรมจมูกด้วยซิลิโคน พบบ่อยที่สุดคือเมื่อทำไปสักระยะ ซิลิโคนจะทะลุสร้างความเจ็บปวดทรมานให้แก่คนไข้เป็นอย่างมาก จึงเริ่มคิดค้นหาวัสดุทดแทนซิลิโคน โดยใช้เวลากว่า 5 ปี ในที่สุดจึงมาลงตัวที่การใช้ไขมันในร่างกายมนุษย์ ด้วยการเจาะเปิดผิวหนังบริเวณสะดือ กว้างประมาณ 1 ซม. แล้วนำไขมันที่มีลักษณะเป็นก้อนมันมีน้ำเหลือง เป็นเซลส์ที่มีชีวิต ประมาณ 4-5 ซีซี มาใช้เสริมใส่เข้าไปในจมูกตามรูปทรงต่างๆที่ต้องการ

นพ.ชลธิศเปิดเผยต่อไปว่า ขั้นตอนการเสริมจมูก ใช้วิธีเจาะเป็นช่องเข้าไปในจมูก ใส่ไขมันจากสะดือเข้าไปปลูกใหม่ที่จมูก เลือดบริเวณจมูกจะหล่อเลี้ยงไขมัน จนเป็นส่วนหนึ่งของจมูก เนื่องจากเป็นเซลส์มีชีวิตยังไม่ตาย กรรมวิธีดังกล่าวไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียง 20 นาที ต้องรีบผ่าตัดอย่างรวดเร็วและรอบคอบ เพื่อลดอาการบอบช้ำของร่างกาย โดยขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นหลัก คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีเมื่อผ่าตัดเสร็จและใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เซลส์เนื้อบริเวณสะดือจึงสมานเป็นเนื้อเดียวกับสันจมูก การทำศัลยกรรมด้วยวิธีดังกล่าว ไม่มีผลกระทบและผลข้างเคียงใดๆ เนื่องจากไขมันไม่ใช่สารแปลกปลอม หรือวัสดุสังเคราะห์ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังทำให้รูปทรงของจมูกสวยงามดูเป็นธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูงด้วย เท่าที่ทราบขณะนี้มีการเสริมจมูกด้วยวิธีดังกล่าวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลพญาไท 3 สนนราคาครั้งละ 2-3 หมื่นบาท มีศิลปินดาราหลายคนถึงกับถอดซิลิโคนที่เคยเสริมจมูกออก เปลี่ยนเป็นใช้วิธีเสริมจมูกแบบนี้เข้าไปแทน

นพ.ชลธิศเผยอีกว่า ที่ผ่านมาวงการศัลยกรรมจมูก มีการนำกระดูกอ่อน จากบริเวณใบหู หรือซี่โครงมาใช้จนแพร่หลาย เนื่องจากเป็นวัสดุที่หาง่าย แต่กลับไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะมีความยุ่งยากซับซ้อนมากกว่า ขณะที่วัสดุที่นิยมนำมาใช้อย่างกว้างขวางในปัจจุบันคือซิลิโคนที่มีความหลากหลาย แต่ละชนิดให้คุณสมบัติแตกต่างกัน อาทิ ซิลิโคนแบบแข็ง ต้นทุนต่ำ ข้อดีคือตัดแต่งรูปทรงได้ง่ายแต่เมื่อใช้กับร่างกาย ก็ส่งผลให้ทะลุได้ง่ายและมีปัญหาต่อเนื่องตามมา ซิลิโคนแบบอ่อน มีความยืดหยุ่นสูง แต่ตัดแต่งรูปทรงได้ยาก ส่วนซิลิโคนที่ให้ประสิทธิภาพดีในงานศัลยกรรมคือ ซิลิโคนที่มีความแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูงดูเป็นธรรมชาติ จัดแต่งรูปทรงได้ง่าย ซิลิโคนประเภทนี้จึงเป็นที่นิยมต่อการทำศัลยกรรม อย่างไรก็ตาม วิธีเสริมจมูกด้วยการปลูกย้ายไขมัน ยังไม่เป็นที่แพร่หลายในวงกว้าง แต่นับเป็นความก้าวหน้าของวงการแพทย์ ช่วยจุดประกายแนวคิดใหม่วงการศัลยกรรม ตลอดจนกระตุ้นให้แพทย์เร่งพัฒนาผลงานให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาประเทศต่อไป

ด้าน น.ส.อรุณี พงศ์ภัณฑารักษ์ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านเสื้อผ้า ย่านสยาม ซึ่งผ่านการเสริมจมูกด้วยวิธีปลูกย้ายไขมัน กล่าวว่า เดิมเป็นคนไม่มีดั้งทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ อยากเสริมจมูกมานานแล้ว แต่ไม่กล้าเพราะกลัวเรื่องซิลิโคนทะลุ แต่เมื่อทราบว่ามีวิธีปลูกย้ายไขมันเสริมจมูก จึงตัดสินใจทำทันที ตอนที่ไปทำไม่รู้สึกเจ็บ ใช้เวลาทำแค่ 20 นาทีก็กลับบ้านได้ หลังกลับมาบ้านก็ดูแลความสะอาดแผลระยะหนึ่งเท่านั้น และไม่มีผลข้างเคียง สามารถบีบ หรือขยี้จมูกได้โดยไม่รู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกเหมือนเป็นธรรมชาติมาก



ผมเอาขอมูลมาจากเวบอะครับก็เลยเอามาลงให้

21ff5ec1587a6c1a6b46ec755de3700a.jpg (24.46 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 16)

21ff5ec1587a6c1a6b46ec755de3700a.jpg
ก้องตะวัน สมาชิกนี้ถูกลบไปแล้ว
หมายเหตุ: ผู้โพสต์ถูกแบนหรือถูกลบ โพสต์นี้ถูกปิดโดยอัตโนมัติ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้