|
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ สมาชิกชาวดั้งโด่ง
ชื่อปอนด์ค่ะ มาหาข้อมูลในดั้งโด่ง นานพอสมควรแล้วค่ะ ถึงเวลามาตอบแทน เปนรีวิว เพื่อช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนๆค่ะ
หลักจากหาข้อมูลอยู่นาน พร้อมกับการเตรียมตัว บินกลับไปทำศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตที่เมืองไทย สุดท้ายทุกอย่างลงตัวที่ คุณหมอ พีระ
คลีนิค PSC บินกลับเมืองไทย เมื่อวันที่ 8 ธค ถึงบ้าน ตีสาม เกือบตีสี่ มีนัด ตรวจ หน้าอก เสริม จมูก ตัดปีก ฉีดเรสติเลน 11.00 น
ขอย้อนท้าวความไปก่อนว่า ก่อนกลับเมืองไทย สองสามเดือนเห็นจะได้ ได้ซื้อครีม ยี่ห้อหนึ่ง ออกมาใหม่ ก็นะคะตื่นเต้ลลล อยากสวย
ซื้อไป มาประเิดิม ราคาเงินไทย ก็หกเจ็ดพันบาท หวังลึกๆ ว่ามันจะทำให้หน้าชั้นดูดีขึ้นบ้าง แต่อะพิโธ่ อะพิถัง กาละมังแตก งานเข้าเรยตรู
โห นะคะ วันสองวันเท่านั้น หน้าที่ เกือบจะพอดูได้ หลังจากเปน อีสุกอีใสตอนอายุ 32 มันก็กลับมานรกอีกครั้ง แบบว่า สิวป่าซาตาน มันมา
จากไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า ต้องเปนไอ้ครีมอันนี้แน่ๆ มือมันก็คัน อยู่ไม่สุก แกะโล่ด แกะมันส์มาก มารู้อีกที หน้าเปน ถนน เปนรอยดำๆๆๆ ดูแทบ
ไม่ได้เรย เฮ้อออออออออ ชีวิต ก็ทนอยู่อย่างนั้นไป ใช้มั่วไปหมด โอทอป น้ำผึ้ง มะนาว ผงชูชีพ สรุป บ้าไปเรย อิอิ ก็มีแผนไปกำจัดรอยดำ
ด้วยการยิงเลเซอร์ เมดไลท์ ซีหกที่เมืองไทยละกัน รอครีมไม่ไหวแร้วประมาณนี้ โอเค ข้ามไปถึง เรื่องทำศัลยกรรมต่อ
ก่อนมาเมืองไทย ส่งรูป (ที่หน้ายังไม่เน่า) ปรึกษา คุณหมอพีระ ทั้งเรื่องจมูกและหน้าอก เรื่องจมูก ตรงลงปลงใจทำกับคุณหมอ เพราะแนวทางการเสริมจมูกของคุณหมอเปนแบบ ติดกระดูก ไม่ใช่แค่ ใต้ผิวหนัง เพราะคุณหมอบางท่านเสริมใต้ผิวหนัง คือ จะออกมาสวยโด่ง เทพกันไปเรย แต่พอผ่านไป สองสามเดือน ปลายแดง สันโยกหรืออะไรมันก็ตามมา ดังนั้น อยู่หลังเขาห่างไกลความเจริญด้วย ขอความมั่นใจแบบไม่อยากมีงานแก้ ก็เลยตกลงทำกับคุณหมอ พีระ ทั้งจมูก และ หน้าอก
เล่าข้ามไปถึงตอนตรวจเรยละกัน ไม่งั้นมันจะยาวเปนมหากาพย์ไปค่ะ
สวัสดีคับ คุณปอนด์ เปนไง จำได้ นั่งก่อนคับ (คุณหมอก็หล่อ แบบว่า ไม่อยากคุยเรื่องอื่นเร๊ยยย นั่งมองหน้าคุณหมอจะดีกว่า ฮ่าๆๆๆ) ระหว่างนั้นก็อับอายผิวหน้า ที่มันช่างต่างกับรูปที่ส่งให้คุณหมอดูราวกับฟ้ากับเหว อิอิ แต่ก็นะคิดในใจ ถ้าสวยเฟอเฟคแล้วจะมาหาคุณหมอทำไมเนาะ
หมอต้องทำให้เราสวย มั่นใจก่าเดิม ถูกมั้ยย เรื่องจมูก เอารูป แอนเจลล่า เบบี้ เปนแบบให้คุณหมอดู คุณหมอก็บอกว่า คุณปอนด์เปนคนสันกว้าง จิงๆเนื้อเยอะ เสริมได้โด่งเรย แต่ ติดตรงที่ว่า เนื้อที่คางมันบุ๋ม หายลงไป !!! จ๊ากกกก มันเกี่ยวกันหรอว่ะนั้น หมอถามว่า เนื้อมันหายไปไหน โหหหหหหหหหห นะคะ จะเสริมจมูกมาติดตรงคางอีก หมอไม่ชุ่ย ใช่ว่านึกจะเสริมก็เสริมนะคะ คือดูด้วย ว่ามันเข้ามั้ย รับกับส่วนอื่นหรือป่าว ไอ้เนื้อที่คาง เราก็บอกคุณหมอไปว่า ตอนอยู่ มอสองอ่ะคะ มีสิว เม็ดช้างเม็ดม้า แล้วก็มือบอน คันตั้งแต่นั้น แกะจนเนื้อมันหายไปเรยค่ะ
เฮ้ออออออออออออออ หมอบอกว่า ถ้าเสริมโด่งมากไป มันจะหลอกกับคางที่เนื้อหาย สรุป หมอก็จะดูให้ แล้วก็ตัดปีกด้วย
ที่นี้ก็ไปดูหน้าอก (อันนี้ ต้องขอข้ามไปเรย เพราะเปนอะไรที่ยาว และ ดราม่า สุดๆ ทั้งตัวคุณหมอ และ ตัวเรา มันไม่ใช่อย่างที่คาดการณ์ไว้
ทุกอย่างมันพลิกไปหมด เราก็จ๋อย หมอก็เครียด ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หมอคงคิด งานเข้า เราก็คิด เวรกรรมไรของตรูฟร่ะเนี๊ย เพราะลูกสามคน
แท้ๆ ดูดนมแม่รวมสี่ปี ทำนม หมดสภาพ แบบชนิดที่เรียกว่า หน้าคุณหมอตีเครียด แบบคิดหนัก เฮ้อออออ ) (ไว้ค่อยมาเล่าให้ฟังถ้ามีโอกาสนะคะ)
|
|