ดู: 1514|ตอบกลับ: 4
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมจมูก] รีวิว

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย BozzAnusorn เมื่อ 2024-4-5 14:23







ก่อนอื่นเลยผมขอออกตัวก่อนนะครับว่านี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกเลย กับการศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตด้วย  

bos 1.jpg (137.4 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 20)

bos 1.jpg
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-9-17 11:52:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย BozzAnusorn เมื่อ 2024-9-17 11:53

หลังผ่าตัดวันที่ 10



วันนี้ถึงวันที่ต้องกลับไทยแล้ว มาลุ้นว่าจมูกที่เป็นสันขึ้น + ตาขวาที่ปรับมาให้เป็นสองชั้นเหมือนกับข้างซ้ายนี้จะผ่านเครื่องสแกนอัตโนมัติหรือไม่ จริง ๆ ทางโรงพยาบาลก็เตรียมเอกสารไว้ให้เราอยู่แล้วด้วยว่าผ่าตัดศัลยกรรมมา ทำอะไรมาบ้าง ในเอกสารก็จะอธิบายมาให้ครบ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาทั้งฝั่งขาออกจากเกาหลี หรือขาเข้าประเทศไทย ก่อนวันเดินทางเราก็ทำการเช็กอินออนไลน์ไว้ก่อนล่วงหน้า เหลือแค่ไปโหลดกระเป๋าที่เค้าเตอร์ของสายการบินอีกที พนักงานก็ขอตรวจดู Passport ตามปกติ ก็ไม่ได้ทักอะไร (แสดงว่าหน้าเราธรรมชาติใกล้เคียงเหมือนรูปในเล่ม) ต่อไปก็ผ่าน ตม. ขาออก เราเลือกเข้าเครื่องแบบอัตโนมัติ สแกนหน้าผ่านแบบปกติมาก (ไม่ต้องไปหาทำPassport เล่มใหม่แล้ว) เดินทางมาถึงไทยก็เข้าช่องอัตโนมัติของคนไทยอีก ก็ผ่านฉลุย แต่เพื่อนที่ไปด้วยไม่ผ่าน เพราะว่าหน้ายังบวมอยู่เครื่องไทยน่าจะแมตหน้าไม่ได้ ฮ่า ๆ ๆ ๆ (แต่เครื่องที่เกาหลีเพื่อนผ่านมาได้นะ งงอยู่ว่าระบบจดจำใบหน้าคนละตัวกันรึป่าว)

ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี กลับบ้านหมาที่บ้านก็ยังจำเราได้อยู่ ชีวิตหลังผ่าตัดทั้ง 10วัน ของเราตั้งแต่วันที่เริ่มทำ พักฟื้นอยู่ที่เกาหลี จนกลับมาถึงไทย ได้จมูกใหม่ ตาใหม่ ที่โอเคมาก ๆ ฝากใครที่ยังลังเล หรือกำลังจะตัดสินใจทำ ถ้าจะคิดจะทำแล้วอย่ากลัว เพราะว่าหมอจะช่วยประเมินหน้าคุณก่อนทำอยู่แล้วว่าทำแบบไหนจะโอเคกับคุณมากที่สุด ว่าแล้วก็ลองโทรไปปรึกษาทางโรงพยาบาลบาโนบากิ และทำนัดปรึกษากับคุณหมอก่อนได้เลย หมอเดินทางมาไทยทุกเดือนอยู่แล้ว ปรึกษาเสร็จจองวันทำที่เกาหลี และแพ็คกระเป๋าได้เลยครับ



หลังผ่าตัดวันที่ 11

หลังจากกลับมาไทย วันนี้เรามีนัดตัดไหมด้านในจมูกที่ไทย อันนี้ทางโรงพยาบาลก็ทำนัดให้เราเสร็จสับเรียบร้อยตั้งแต่อยู่เกาหลี (สำหรับคนที่กลับมาตัดไหมที่ไทย จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,000บาทนะครับ ดีลกับโรงพยาบาลเมโกะ สาขาจตุจักร) หลังจากตัดไหมเสร็จเราก็กลับไปบ้านไปหาพ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา เอาหน้าใหม่ไปให้พวกเขาดูด้วยตาเนื้อ เพราะว่าก่อนทำเขาก็ไม่ค่อยอยากให้เราทำสักเท่าไหร่(ความกังวลของคนที่บ้านเราคือกลัวหน้าเราแปลก และสำคัญสุดคือกลัวเราหลับไปตอนผ่าตัดแล้วไม่ตื่น ฮ่า ๆ ๆ ๆ ) ผลลัพธ์หลังจากเจอหน้าเราจริง ๆ ทุกคนต่างบอกว่าหน้าโอเคขึ้น ดูคมขึ้น ทำให้อยากลองไปทำศัลยกรรมกันหมด ขนาดจมูกกับตาเรายังมีบวมอยู่เล็กน้อยด้วยนะเนี้ย เดี๋ยวรอดูว่าถ้าทุกอย่างยุบครบ 100% จะชมกันไปทางไหนอีก (อวยกันไปให้สุด) เอาเป็นว่าคนที่กังวลหรือทางบ้านกลัวคล้าย ๆ กับของเรา บอกไปเลยว่าสบายใจได้ใจนะครับ เพราะทางโรงพยาบาลมีมาตรฐานที่ดี ทีมแพทย์ พยาบาลที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะทาง ที่มั่นใจได้ครับ






หลังผ่าตัดวันที่ 12-14



ความรู้สึกทุกอย่างดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่ทางโรงพยาบาลแนะนำมาเลย บวมก็ค่อย ๆ ลดลงตามเวลา (แต่ของเราไม่ได้บวมมากเท่าไหร่อยู่แล้วด้วย) แต่จะยังรู้สึกตึง ๆ ที่ปลายจมูกอยู่ โดยรวมก็แทบจะปกติแล้ว หลังจากตัดไหม ก็ไม่ต้องทายาแล้ว รวมถึงยาที่หมอจัดมาให้กินก็ครบพอดีในวันที่ 14 ต่อไปก็รอเวลาให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ทั้งจมูกและตาก็จะคอมพลีทสมบูรณ์ในอีกไม่เกิน 1ปี สามารถติดตามอัพเดทแต่ละเดือนได้ทางเพจของโรงพยาบาลได้ต่อเลยนะครับ หวังว่าไดอารี่การทำศัลยกรรมครั้งแรกของเราจะพอเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลและตัดสินใจทำศัลยกรรมเหมือนกันกับเรานะครับ สวัสดีค้าบบบ
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-4-24 15:36:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สวัสดีครับผมชื่อบอสนะครับ

                             วันนี้จะมาเขียนรีวิวต่อจากครั้งที่แล้ว เป็นหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ครับ


หลังผ่าตัดวันที่ 1

ตื่นเช้ามาทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ แปรงฟัน อาบน้ำ(ไม่โดนหน้า) กินข้าว กินยา

สังเกตหน้าตัวเองก็ไม่ค่อยบวมเท่าไหร่

วันนี้เจ้าหน้าที่นัดเข้าไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการ Check-up หลังผ่าตัด

และนัดล้างแผล + สอนวิธีการล้างแผลด้วยตัวเอง

พอทำแผลเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็ทำนัดเพิ่มเติมผ่านทางไลน์

ว่าเราต้องเข้าไปฉายเสียงลดบวมวันไหนเวลาไหนบ้าง

เอาเฝือกจมูกออกวันไหน และตัดไหมวันไหน

ทุกอย่างเขาสรุปเป็นรายการมาให้เราเลยผ่านช่องทางไลน์

หลังจากนั้นเราก็ออกไปใช้ชีวิตในเกาหลีต่อครับ







หลังผ่าตัดวันที่ 2


อาการตาช้ำจากเมื่อคืนค่อนข้างดีขึ้น ไปปวดและรอยช้ำจางลง จมูกไม่มีอาการอะไร

รู้สึกว่าเจ็บหลังหูมากกว่า เพราะหมอเอากระดูกอ่อนจากหลังหูเราไป แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บตลอดเวลา

จะรู้สึกแค่ตอนล้างแผลหรือตอนนอนแล้วเผลอหันข้างหูลงหมอน

ความยากลำบากสำหรับผมในการทำศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องของการเจ็บแผล หรือบวมช้ำอะไรเลย

จะมีแค่เรื่องต้องนอนหงายตรง หมอนสูงตลอดเวลา เลยทำให้รู้สึกปวดหลังมาก ๆ



หลังผ่าตัดวันที่ 3


จมูกและตาวันนี้ยังทรง ๆ อยู่ ไม่บวมขึ้น รอยช้ำเปลือกตายังเป็นสีม่วง ๆ อยู่

ไม่เจ็บและไม่ปวดแผลใด ๆ เจ้าหน้าที่บอกให้พยายามเดินเยอะ ๆ

วันนี้เลยออกไปเดินหาของกินในย่านกังนัม

จะว่าไปการออกมาข้างนอกแล้วเจอคนทำศัลยกรรมที่นี่ถือว่าเจอได้ง่ายมาก ๆ

ถ้าลองคิดภาพตัวเองแปะเฝือกแบบนี้แล้วเดินอยู่ที่ไทย

คนที่เดินสวนไปมาก็คงจะต้องมีเหลียวมาดูและน่าจะมีขำกันบ้างแหละ



หลังผ่าตัดวันที่ 4

เช้านี้ตื่นนอน 10โมงไปเลย นอนหลับสบายเกิน น่าจะเหนื่อยจากหลาย ๆ

วันก่อนหน้านี้ ตื่นมาก็รีบล้างแผล ทายา กินยาก่อนเลย ห้ามขี้เกียจ ห้ามหลุดเวลา

เพราะเราต้องหมั่นทำความสะอาดแผลตลอดแทบจะทุกชั่วโมง

และยาทาก็ต้องทาเช้าและเย็น ยากินก็มีเช้า กลางวัน เย็นเลย

หากเราเผลอหรือลืมไปจะกินยาไม่ครบโดสตามที่หมอจัดมาให้

เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่คุณหมอจัดไว้ให้ก็ทำตามเขาหน่อยนะครับ

อาการวันนี้เหมือนกับทุกวันรอยช้ำเปลือกตาดูจางลง

จมูกรอลุ้นทรงหลังถอดเฝือกออกวันพรุ่งนี้ครับ





หลังผ่าตัดวันที่ 5


วันนี้เป็นวันที่ทางโรงพยาบาลนัดเข้าไปทำแผล+ฉายแสงลดบวม และก็ถอดเฝือกจมูกออก

ก่อนถึงวันล่ามก็ได้มีการรีเช็กกับเราเพื่อเตือนความจำว่ามีนัดนะ

พยายามไปตรงเวลาเพราะว่าเดี๋ยวจะไปชนคิวนัดของคนไข้อื่น ๆ เขา

และระหว่างที่กำลังเอาเฝือกจมูกออกผลปรากฏว่าทุกคนที่อยู่ตรงนั้น

คุณหมอ เพื่อนเรา และล่ามต่างออกปากว่าจมูกทรงดีมาก ออกมาดีเลย

รวมถึงคุณหมอก็บอกว่าออกมาอย่างที่คุณหมอตั้งใจไว้เลย

ถอดเสร็จส่องกระจกดูเองก็รู้สึกโอเคกับทรงจมูกมาก ๆ เหมือนกัน

ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ที่ทำออกมาได้ดีเลย กราบ





ความกังวลใจของเราตอนแรกก่อนจะทำเลยต้องบอกว่ากลัวทำออกมาแล้วหน้าจะแปลก

แต่ต้องยกความดีความชอบให้คุณหมอที่ประเมินเราก่อนแล้ว

ว่าต้องปรับแบบไหนที่จะให้ยังคงดูธรรมชาติและเสริมให้ดูดีเพิ่มขึ้น

แต่ใด ๆ วันนี้ถอดเฝือกแล้วก็ได้ตัดไหมด้านนอกออกได้ด้วย

แต่ไหมด้านในต้องกลับไปตัดที่ไทยเพราะว่าแผลด้านในยังไม่แห้งสนิท

และเราก็แพลนอยู่เกาหลีไม่ครบวันตามกำหนดตัดไหมรอบ 2(กำหนด 14วันหลังผ่าตัด)

แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเคลียร์งานมาอยู่เกาหลีได้รวม ๆ 12 วัน

รวมวันเดินทางก็ถือว่าเป็นการลางานที่ยาวนานมากแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ





ล่ามแนะนำเพิ่มเติมอีกว่าตอนนี้จมูกยังบวม ๆ อยู่เป็นเรื่องปกติ
ต้องรอประมาณเดือนนึงอาการบวมจะลดลงอีก 80% เลย
และเนื้อจมูกก็จะค่อย ๆ รัดแกนไปเรื่อย ๆ หน้าก็จะเป๊ะขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับที่พักรีบเช็ดหน้า ล้างหน้าเลย

เพราะไม่ได้ล้างมา 5วันแล้ว หน้าเมือกมาก หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยชีวิตก็กลับมาปกติ(เพราะไม่มีเฝือกแปะอยู่ที่หน้าแล้ว) หน้าที่ดูสะอาดเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และที่เพิ่มเติมคือจมูกที่เป็นสันขึ้น และตาของทั้งสองข้างที่เท่ากันสักที
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-4-5 14:24:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วันผ่าตัด

เช้าวันผ่าตัด เจ้าหน้าที่จะนัดให้เราไปถึงก่อนเวลาผ่าตัดเพื่อรีเช็กข้อมูลต่าง ๆ ก่อนเข้าผ่าตัด เช็กเรื่องการงดน้ำ งดอาหาร(ส่วนนี้จำเป็นมาก ๆ) สอบถามประวัติอีกรอบ มีโรคประจำตัวไหม , มีแพ้ยาตัวไหนรึป่าว , แพ้เทปติดหน้าชนิดไหนหรือไม่ เสร็จแล้วก็เปลี่ยนชุดและเข้าห้องผ่าตัด ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกลังเลแล้วว่าจะทำจริง ๆ หรอ เพราะเริ่มรู้สึกกลัวนิด ๆ ปกติเป็นคนกลัวเลือดอยู่แล้วด้วย ทำให้ในหัวจินตนาการไปเรื่อย แต่ก็รวมความกล้าและฮึดใจดีสู้เสือไป ล่ามพาเดินไปที่ห้องผ่าตัด เข้าห้องเป่าลมฆ่าเชื้อ และเข้าห้องผ่าตัดเดินขึ้นเตียงรอคุณหมอ (ในห้องผ่าตัดจะมีล่ามอยู่กับเราด้วยตลอดเวลา) พยาบาลจะอธิบายไปเรื่อย ๆ ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ เริ่มจากจะเจาะสายน้ำเกลือให้แล้วนะ ให้เรากำมือแบมือไปเรื่อย ๆ , จะเริ่มเช็ดทำความสะอาดใบหน้าแล้วนะ และคุณหมอก็เข้ามา พยาบาลก็แจ้งว่าจะเริ่มฉีดยานอนหลับเข้าสายน้ำเกลือแล้ว หลังจากนั้นไม่ถึงนาทีเราก็หลับไปเลย



เวลาผ่านไป 2.30ชม. การผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย ล่ามเข้ามาปลุกเราให้ย้ายห้องไปที่ห้องพักฟื้น เพื่อประคบเย็น และรอดูอาการหลังผ่าตัด ความรู้สึกตอนนั้นไม่เจ็บเลย และปกติมากเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน ล่ามมาปลุกปุ๊บก็ลุกขึ้นเดินไปห้องพักฟื้นเองเลย นอนรอดูอาการอีกประมาณ 1ชม. ก็ออกจากห้องพักฟื้นลงไปหาเพื่อนที่รออยู่ที่ Lobby ของโรงพยาบาล แล้วเรียกรถกลับที่พักเลย ชีวิตดูปกติมาก



หลังจากกลับมาถึงห้องช่วงบ่าย ๆ ก็ยังไม่รู้สึกเจ็บใด ๆ เลย หมอน่าจะมือเบามาก ๆ หรือไม่เราก็น่าจะแข็งแกร่ง ก็เลยหยิบคอมออกมานั่งทำงานต่อเลย ฮ่า ๆ ๆ ๆ  จนถึงมืด ก็เรียกรถออกไปเยี่ยมเพื่อนอีกคน(พี่ตี๋)ที่มาศัลยกรรมด้วย (ไว้ไปอ่านรีวิวของพี่ตี๋ด้วยนะ คนนี้ทำแบบเปลี่ยนหน้าไปเลย) นั่งคุยเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่ที่ห้องพักของโรงพยาบาลสักพักก็รู้สึกหิว เลยขอตัวออกไปหาข้าวกินและกลับที่พักเลย วันแรกหลังผ่าตัดก็กินข้าวไปปกติเลย จะมีแต่พยายามเลี่ยงของเค็มและพวกอาหารหมักดองต่าง ๆ เพื่อที่แผลจะได้ไม่บวมและหายเร็ว และตอนนอนให้นอนหัวสูงกว่าตำแหน่งหัวใจด้วย ผมเลยนอนแบบหนุนหมอนสองใบเลย จบการรีวิวการผ่าตัดวันแรกแล้วครับ รอติดตามรีวิวหลังผ่าตัดกันต่อไปด้วยนะครับ  
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-4-5 14:23:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
และวันที่ผมนัดปรึกษาคุณหมอก็มาถึง ผมเดินทางไปสำนักงานสาขาที่ทองหล่อตามเวลานัด วันนี้หมอโอมาประเมินหน้าให้ เราก็บอกว่าเราอยากปรับหน้าเราแบบไหนบ้าง และให้คุณหมอแนะนำเพิ่มเติมให้ด้วยว่าควรทำอะไรเพิ่มดีบ้าง (ระหว่างการปรึกษาจะมีล่ามแปลไทยอยู่กับเราด้วยตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสารนะครับ)

ปรึกษาเสร็จเรียบร้อยล่ามก็ทำสรุปให้เราอีกทีว่าคุณหมอแนะนำให้ทำอะไรบ้าง และราคาการทำแต่ละอย่างอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้เราได้ตัดสินใจอีกที ซึ่งผมคอนเฟิร์มทำทั้งหมดที่คุณหมอแนะนำเลย ต่อไปก็หาคิวผ่าตัดที่เกาหลี เมื่อได้คิวผ่าตัดแล้วเราก็ทำการจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักเอง (สามารถสอบถามที่พักกับทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ให้เขาแนะนำได้เช่นกันนะครับ) เมื่อจองทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ส่งรายละเอียดการจองให้กับทางโรงพยาบาล เพื่อที่เขาจะออกเอกสารการศัลยกรรมให้กับเราเผื่อ ตม.ฝั่งเกาหลีถาม เราสามารถยื่นเอกสารตัวนี้ให้ได้เลย



ก่อนเดินทางจะมีเจ้าหน้าที่ฝั่งโรงพยาบาลที่เกาหลีแอดไลน์หาเราเพื่ออธิบายรายละเอียดการผ่าตัดกับเราอีกทีว่าการผ่าตัดของเราจะเป็นการผ่าตัดแบบไหน ใช้ยานอนหลับหรือยาสลบ , การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด , วิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด รวมถึงการทำการนัดหมายต่าง ๆ เพราะว่าเราต้องเข้าไปปรึกษากับคุณหมอที่เกาหลีอีกรอบก่อนวันผ่าตัด




ผมได้คิวเข้าปรึกษาคุณหมอที่เกาหลีก่อนวันผ่าตัด 1วัน เมื่อถึงโรงพยาบาลแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาเจาะเลือดก่อน วันนี้ผมเข้าปรึกษากับหมอยู ซึ่งเป็นคุณหมอที่ดูแลเรื่องตา กับจมูกโดยเฉพาะ โดยการประเมินหน้างานครั้งนี้หมอลียูจองได้ปรับแผนการผ่าตัดให้ผมใหม่อีกรอบ เพราะจากการที่คุณหมอดูอีกรอบแล้วหน้าผมไม่ค่อยมีปัญหาอะไร บวกกับผมที่อยากให้หน้ายังดูเป็นธรรมชาติอยู่ ไม่อยากทำแล้วหน้าเปลี่ยนไปอีกแบบเลย หมอลียูจองประเมินอยู่สักพักนึงและสรุปให้ทำปรับจมูกให้โด่งขึ้นอีกนิดนึง แล้วเสริมปลายโดยใช้กระดูกจากหลังหู ไม่ต้องใช้กระดูกซี่โครงอ่อน เนื่องจากกระดูกอ่อนที่จมูกของผมค่อนข้างแข็งแรงอยู่แล้วเลยไม่ต้องถึงขั้นใช้กระดูกซี่โครงอ่อน ส่วนเรื่องตาหมอยูบอกว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องตาตก มีแค่ชั้นตาขวามีชั้นเดียวไม่เท่ากับข้างซ้าย เลยจะสอยชั้นตาข้างขวาให้เท่ากับข้างซ้ายด้วยการจิ้มจุด คุณหมอยูเสริมตอนท้ายอีกว่าไหน ๆ ก็เข้าห้องผ่าตัดแล้วเดี๋ยวหมอจะเติมฟีลเลอร์ และโบท็อกที่หน้าผากกับหว่างคิ้วบริเวณที่เป็นร่องเพิ่มให้ด้วย



หลังจากประเมินหน้าเสร็จก็กลับที่พักเตรียมตัวงดน้ำ งดอาหารก่อนผ่าตัด 6-8ชั่วโมง มื้อเย็นก่อนงดน้ำ งดอาหาร แนะนำให้หาอะไรกินที่ย่อยง่าย ๆ หรือถ้าใครรู้สึกว่าไหน ๆ ก็ถึงเกาหลีแล้วก็ต้องกินปิ้งย่างสิ ก็รีบไปก่อนได้เลยครับ แต่กินในปริมาณที่พอดี ๆ พอนะครับ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้