สวัสดีค่ะวันนี้ฉันจะมารีวิวทำโครงหน้าค่ะ
เพื่อประกอบการตัดสินใจให้สำหรับคนที่ยังลังเลที่จะทำโครงหน้า โดยฉันจะรีวิวแบบตอนเดียวจบ
วันนี้ฉันมารีวิวในแบบฉบับของคนที่ทำโครงหน้ามาได้ 1 ปีกับ 6 เดือนแล้วค่ะ
ช่วงแรกๆ ฉันไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้เยอะ จะมีแค่รูปก่อนทำ
และจะมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ
เริ่มจากช่วงแรกๆ ที่ทำโครงหน้าจะอ้าปากได้ค่อนข้างยาก จะอ้าปากได้แค่นิดหน่อย
ช่วงแรกยังต้องทานอาหารอ่อนๆ ไม่แข็งหรือเหนียวอยู่ค่ะ
อาหารส่วนใหญ่ที่ทานก็จะเป็นพวกโจ๊ก นม น้ำผลไม้ หรือพวกอาหารที่เป็นน้ำๆ เท่านั้นค่ะ
ช่วงแรกอาจจะรู้สึกวิงเวียนบ้างเป็นบางครั้ง เนื่องจากเราทานอาหารได้น้อย
เลยไม่ค่อยมีสารอาหาร แต่ช่วยเรื่องไดเอทของเราได้เยอะเลยล่ะค่ะ
เวลาผ่านไปเร็วมากๆ เหมือนเพิ่งเริ่มทานโจ๊กได้ไม่กี่วัน
แต่ปัจจุบันคือทำมาปีกว่าแล้ว555 ทานอะไรได้ปกติแล้วค่ะ
ช่วง 2 เดือนแรกฉันฝึกอ้าปากอย่างสม่ำเสมอ กินอะไรก้กินอย่างระมัดระวังอยู่ตลอด
พวกอาการบวมช่วงแรกเวลาผ่านไปค่อนข้างช้า(อาจจะเพราะเราใจร้อน อยากสวยเลยด้วยค่ะ)
แต่ช่วง 3 เดือนหลังผ่าตัด รู้สึกได้เลยว่าความบวมลดลงไปค่อนข้างเยอะ
แต่อาจจะเพราะว่าช่วงแรกบวมมากด้วยค่ะ พอหลังจากนั้นรู้สึกหน้าเล็กลงมาก
การทำศัลยกรรมต้องอาศัยเวลาจริงๆ ใจร้อนไปก็ไม่ช่วยอะไรค่ะ
เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวค่ะ
แล้ว
ช่วง 6 เดือนหลังผ่าตัดคือเป็นช่วงที่หน้าเริ่มที่จะเข้าที่ อาการทุกอย่างเริ่มกลับมาปกติ
อาการบวมจากการผ่าตัดแทบจะไม่มีเลยค่ะ
เราทำอาชีพที่ต้องพูดอยู่ตลอดเวลา ช่วงแรกอาจจะขัดใจนิดหน่อยเพราะพูดได้ไม่เยอะ
แต่พอพูดบ่อยๆ เข้าก็พูดได้คล่องขึ้น อาจจะดูอ้าปากได้ไม่มากแต่พูดคล่องจากการที่ต้องพูดทุกวันค่ะ
ช่วงนี้พวกอาการชาหลังผ่าตัดก็ดีขึ้นมาก แทบจะปกติแล้วค่ะ
ปัจจุบันฉันดูรูปตัวเองตอนก่อนผ่าตัดแล้วก็บอกวาค่อนข้างจะตกใจ
จำตัวเองไม่ได้แล้วค่ะ เพราะชินกับหน้าปัจจุบันไปแล้ว
ตอนที่มัดผมหรือรวบผมเข้าไป จะทำให้เห็นกรอบหน้าชัด กรามใหญ่ๆ ในอดีตหายไปแล้วค่ะ
หน้าเรียวเล็ก รูปไข่สุดๆ เหมือนไม่เคยหน้าโตมาก่อน
แล้วจะบอกว่าสมัยก่อนทำหน้าไม่ว่าเราจะผอมแค่ไหน แต่กราม โหนกแก้มเราใหญ่
คนก็จะดูว่าเราเป็นคนตัวอ้วนอยู่ดี
ปัจจุบันที่ทำโครงหน้าแล้ว ช่วงที่น้ำหนักเท่ากับก่อนโครงหน้า
ก็ยังดูผอมกว่าเยอะมากๆ เพราะหน้าเราเรียวเล็ก
ส่วนอื่นจะใหญ่ก็ออกกำลังได้ค่ะ แต่กระดูกออกกำลังกายก็ไม่สามารถหายไปได้ค่ะ