|
เด็กความจำสั้นวิธีแก้ที่พ่อแม่ต้องรู้
เมื่อพ่อแม่ทราบว่าอาการเด็กความจำสั้นในวัย 3-6 ขวบ เป็นเรื่องของพัฒนาการของสมองที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยังกังวลว่าหากลูกความจำสั้นทำไงดี หากลูกมีปัญหาความจำสั้นวิธีแก้ที่ต้องทำคืออะไร ควรให้ลูกได้เรียนเสริมพัฒนาการเลยดีไหม หรือมีวิธีฝึกสมองให้ความจำดี วิธีการแบบไหนที่ควรทำ หากพ่อแม่กำลังหาคำตอบนั้นอยู่ เรามีวิธีมาแนะนำ ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่สามารถฝึกให้ลูกได้เองที่บ้านค่ะ
ให้ลูกพักผ่อนอย่างเพียงพอ
การนอนหลับถือว่าเป็นการให้ร่างกายและสมองของเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และในวัยเด็กการนอนหลับยังเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้ Growth Hormone หลั่ง หากเด็กไม่ได้รับการพักผ่อนที่เต็มที่ อาจทำให้พัฒนาการทั้งด้านร่างกายและสมองช้ากว่าเด็กคนอื่นที่อยู่ในวัยเดียวกันได้
ดูแลเรื่องอาหาร ให้ลูกได้ทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะนอกจากจะช่วยพัฒนาสมองแล้ว ยังช่วยพัฒนาทางด้านร่างกาย และการรับประทานอาหารที่อร่อยยังทำให้ลูกมีความสุข ช่วยในเรื่องพัฒนาการด้านอารมณ์อีกด้วย เด็กในวัยนี้ควรได้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม
ให้ลูกได้ออกกำลังกายหรือหากิจกรรมที่สนใจให้ลูกทำ
การออกกำลังกายหรือให้เขาได้ทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เขาสนใจ อาจจะเป็นการวิ่งไล่จับ การเล่นซ่อนหา เมื่อร่างกายมีการออกกำลังจะทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดขึ้นไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองทำงานได้ดีมากขึ้น และสมองจะเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ไม่ให้ลูกทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมกัน
การที่ให้ลูกทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมกัน จะทำให้ลูกสับสนและไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ควรจะเรียงลำดับความสำคัญก่อนและหลังสิ่งที่ต้องให้ลูกทำ ลูกจะได้โฟกัสกับสิ่งที่ทำได้ตรงจุด และมีสมาธิอยู่กับงานนั้น ๆ ได้มากขึ้น
สร้างกิจวัตรให้ลูก
การสร้างกิจวัตรให้ลูกจะทำให้รู้ว่าในแต่ละวันเขาจะต้องทำอะไร จะต้องเตรียมตัวหรือเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง จะเป็นการฝึกให้ลูกมีวินัย ให้ลูกได้รู้ว่าเมื่อถึงเวลานี้แล้วเขาจะต้องทำอะไรบ้าง เช่น การกำหนดเวลาตื่นนอน เข้านอน การกำหนดเวลาอาบน้ำ การกำหนดเวลาที่ต้องทำการบ้าน การกำหนดกิจวัตรจะทำให้ลูกจดจำขั้นตอนกิจวัตรประจำวันได้ และไม่ลืมง่าย
หาตัวช่วยในการจำ
อาจจะเป็นการเพิ่มโน๊ตหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ไว้ในบ้าน ให้ลูกได้รู้ว่าในแต่ละวันลูกจะต้องทำอะไร เช่น การใช้กล่องข้าวเป็นรูปการ์ตูนที่เขาชอบ และอาจจะมีการติดสติ๊กเกอร์รูปแก้วน้ำลงบนกล่องข้าว เมื่อลูกทานข้าวเสร็จเขาจะได้จำได้ว่าต้องดื่มน้ำเปล่าต่อ
อ่านนิทานหรือร้องเพลงกับลูก
การอ่านนิทานหรือการร้องเพลงจะเป็นการฝึกสมองให้ความจำดีขึ้น และยังช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้ลูกน้อยได้อีกด้วย
ฝึกให้ลูกได้ทบทวนบ่อย ๆ
เมื่อลูกกลับมาจากโรงเรียน ให้ลูกได้เล่าถึงสิ่งที่เขาได้ทำที่โรงเรียนว่าในวัน ๆ นั้นเขาได้ทำอะไรบ้าง ให้เขาทำการบ้านและทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้มา การให้เขาได้เล่าถึงสิ่งที่ทำในแต่ละวัน จะเป็นการช่วยกระตุ้นสมองให้เขาได้นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในวันนั้น ๆ ทำให้ลูกจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
ฝึกบันทึกในเด็กโต
การให้ลูกได้ฝึกบันทึก จะคล้าย ๆ กับการที่ให้เขาได้ทบทวนความจำบ่อย ๆ แต่การจดบันทึกจะเป็นการทำงานร่วมกันของมือและสมอง ทำให้เขาจดจำได้ดีมากกว่า อาจจะเป็นการฝึกให้เขาเขียนบันทึกไดอารี่ หรือการวาดภาพที่สื่อถึงสิ่งที่เขาพบเจอมาในแต่ละวันก็ได้เช่นกัน
ดังนั้นหากลูกมีอาการความจำสั้นวิธีแก้ที่ดีที่สุดนั้นเราอาจจะบอกไม่ได้ว่าเป็นวิธีไหน เพราะในเด็กแต่ละคนการเรียนรู้และพัฒนาการก็แตกต่างกันออกไป รวมทั้งการเลี้ยงดูลูกของแต่ละบ้านก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย ทางที่ดีพ่อแม่ควรศึกษาและปรับหาวิธีข้างต้นที่จะเข้ากับลูกเราได้ดีที่สุดจะดีกว่านะคะ
|
|