ประโยชน์มากมายเกี่ยวกับโบท๊อกที่ควรรู้

daengnak

สารคลายกล้ามเนื้อ หรือที่เรยีกกันว่าโบทอกซ์
โบท็อกซ์" (Botox) เป็นชื่อทางการค้า (trade name) ของสาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่ง ที่สร้างจาก แบคทีเรีย ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษแก่มนุษย์ หากได้รับในปริมาณมากๆ เช่น จากอาหารกระป๋องที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อตัวนี้ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จากการที่กล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงาน ผู้ป่วยจึงหยุดหายใจ ซึ่งปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ โบท็อกซ์ที่รู้จักกันแพร่หลาย เป็นของบริษัท Allergan ของอเมริกา มีการฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงามมากว่า 40 ปี จึงน่าจะสามารถวางใจในเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง เพราะผ่านการใช้งานในคลีนิก มานานมากแล้ว (ถ้าจะมีปัญหาคงจะเป็นข่าวเยอะแยะมากมายแล้วด้วย) ที่สำคัญผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยา ทั่วโลกแล้วคับ
โบทูลินั่ม ท็อกซิน ออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท ทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ กล้ามเนื้อจึงคลายตัว หรือ อีกนัยหนึ่งก็คือ เกิด อัมพาตของกล้ามเนื้อเล็กๆนั้น โดยจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน และเห็นผลสูงสุดในเวลาประมาณ 7– 14 วัน

โดยทั่วไปผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 3-8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำ ผู้รับการรักษาอายุเท่าใด ซึ่งการที่ผลการรักษาอยู่ไม่ถาวรนั้น ที่จริงอาจนับได้ว่าเป็นข้อดี เพราะหากผลที่ได้รับไม่เป็นที่น่าพอใจ ในที่สุดก็จะค่อยๆ หายไปเองได้ ข้อเสียก็คือสิ้นเปลือง เพราะหากได้ผลดี ถูกใจก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ

daengnak

ติดต่อที่เบอร์  084-1066634  นะคับ

daengnak

ลืมขายของ แหะๆๆ
neuronox  korea  ขวดละ 6500 บาท
Allergan     usa     ขวดละ 12000 บาท
Botox fine  Hongkong  ขวดละ  3500 บาท
Syneurox Germany       ราคา 5,900.00 ฿

come

สุดยอดคับ....ข้อมูลแน่น

kurama

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคับ

daengnak

เทคนิค Microbotox (meso botox)

เป็นเทคนิคการฉีดโบทอกซทั้งหน้าแบบเจือจาง โดยอาศัยกลไกการออกฤทธิ์ของโบทอกซ์ที่ไปยับยั้งการทำงานของ Acetylcholine ( สวารสื่อประสาทที่ควบคุมการหดตัว- ยืดตัวของกล้ามเนื้อ) มาประยุกต์ใช้กะเทคนิคนี้

เป็นการนำโบทอกชึ่งจากเดิมจะฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ โดยพัฒนาให้สามารถมาฉีดในชั้น Mesoderm

เทคนิคนี้ มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อย เพราะใช้โบทอกซ์ปริมาณน้อยกว่าการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ( เป็นการเจือจางโบทอกซ์)
โดยการผสมกะน้ำเกลือในอัตราส่วน 0.12 ยูนิต/0.1ซีซ๊/1 จุดที่ฉีด โดยมีความเข้มข้นน้อยกว่า การผสมแบบเดิม ทั้งขวด ต่อ 100 ยูนิต


ประโยชน์ของ microbotox
1. ริ้วรอยย่นเล็กๆๆที่หลงเหลือจากการฉีดโบทอกแบบปกติ หายไป
2.รุขุมขนเล็กลง
3.ลดความมันของใบหน้า (เพราะโบทอกซืมีฤทธิ์ต่อ norepinephrine สารสื่อประสาทที่ควบคุมต่อมเหงื่อ)
4.เพิ่มความกระจ่างใสและเรียบเนียน
5.ผิวหน้ากระชับเต่งตึงขึ้น
6.ใช้โบทอกปริมานน้อย ขวดนึงได้ 2 คน ทั้งหน้า
7. อยู่ได้ 3-4 เดือน นะคับ


เทคนิคนี้ราคา ค่าฉีด 2000 บาท คับ

daengnak

ต่อ.....
ประยุกต์การฉีดโบทอกซ์ แบบ Nefertiti lift


เนเฟอติติลิฟท์ คือเทคนิคการ ฉีดโบท็อกซ์ แบบใหม่ เพื่อยกกระชับหน้าและลำคอ ทำให้ลำคอกระชับตึง และหน้ายกกระชับขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า

เทคนิค Nefertiti Lift ทำงานโดยสารโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปที่ผิวหนัง บริเวณแนวกรามและลำคอ จะไปคลายการดึงรั้งของกล้ามเนื้อขากรรไกรและเหนียงคอที่เรียกว่ากล้ามเนื้อพลาทีสมา (Platysma Muscles) ซึ่งกล้ามเนื้อนี้จะดึงรั้งผิวหน้าบริเวณแนว ขากรรไกร คาง และคอให้หย่อนคล้อยลงเรื่อยๆ ตามวัยที่มากขึ้น กล้ามเนื้อผิวหน้าของเรา มีทั้งมัดที่ดึงขึ้นและดึงลง เมื่อมัดที่ดึงลงถูกยับยั้งการทำงาน กล้ามเนื้อมัดที่ดึงขึ้น จึงทำงานได้อย่างอิสระ ทำให้หน้ายกกระชับขึ้น คอกระชับตึงขึ้นได้

หลังฉีดสารโบท็อกซ์ ด้วยเทคนิค Nefertiti Lift ไปราว 1 สัปดาห์คนไข้จะมีผิวหน้า บริเวณแนวขากรรไกร คาง และลำคอ ตึงกระชับขึ้น แนวสันคางและกรอบหน้าชัดขึ้น เส้นที่ทำให้เป็นปล้องๆจางลงเหนียงคอกระชับตึงขึ้น มุมปากที่ตกห้อยจะยกสูงขึ้นเล็กน้อย หน้าเรียวลง และดูสดใสอ่อนเยาว์ขึ้น

การฉีดสารโบท็อกซ์ เพื่อยกกระชับรูปหน้า แบบ Nefertiti Lift นี้ มีความปลอดภัย
แต่ขอแนะนำให้เลือกแพทย์ผู้ฉีดที่ผ่านการอบรมการฉีดเทคนิคนี้มาก่อน และควรเป็นแพทย์ที่มีความชำนาญในเทคนิคนี้ด้วย เพราะถ้าผู้ฉีดไม่ชำนาญอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น ปากเบี้ยว หน้าไม่สมดุล กล้ามเนื้อคออ่อนแรง พูดไม่ชัด กลืนอาหารลำบาก เป็นต้น

ผลอยู่ได้นานราว 5-6 เดือน หลังจากหมดฤทธิ์สารโบท็อกซ์ ผิวก็จะกลับมาหย่อนคล้อยเหมือนเดิม ซึ่งถ้าคนไข้ต้องการยกกระชับ ก็ต้องไปฉีดซ้ำ

ค่าบริการณ์สำหรับเทคนิคนี้ 2500 บาท นะคับ

daengnak

ต่ออีกคับ
...
การฉีด ปรับรูหน้า ลดกราม ( JAW LINE)

ผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าเหลี่ยมจะมีลักษณะกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกรที่ใหญ่กว่าปกติ กล้ามเนื้อชนิดนี้มีชื่อว่า "Masseter" มักพบในคนที่นอนกัดฟัน สบฟันไม่สนิท หรือการเคี้ยวอาหารที่มีความเหนียวอย่างปลาหมึก หรือหมากฝรั่งมาก ๆ ก็เป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อบริเวณมุมกรามหรือขากรรไกรมีการพัฒนาให้หนานูนมากกว่าปกติ หรือบางรายอาจเป็นโดยกำเนิด เมื่อสังเกตบริเวณใบหน้าจะพบว่าคางเป็นเหลี่ยมชัดเจน หากลองกัดฟันจะเห็นลำของกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกรทั้งสองข้างชัดเจนกว่าคนปกติ
การฉีด Botox ทำให้ใบหน้าเหลี่ยมดูเรียวเล็กลงได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงเหมือนการผ่าตัดกราม เพราะ Botox จะออกฤทธิ์โดยการคลายกล้าม และช่วยลดการทำงานกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร ความหนานูนของกล้ามเนื้อบริเวณมุมกรามจึงลดลง ทำให้รูปหน้าดูเรียวเล็กลงได้

ฉีด Botox ลดกราม แล้วเมื่อไหร่จะเห็นผล ??
Botox จะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 2-4 สัปดาห์ และออกฤทธิ์เต็มที่ช่วง 2-3 เดือนหลังการฉีด ซึ่งผลการรักษาแต่ละครั้งจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละคน

ผลการรักษาขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

1.ชนิดของสาร botulinum toxin ที่นำมาฉีด
2.เทคนิคการฉีด
3.สภาพกล้ามเนื้อของผู้รับการฉีด

daengnak

ต่อนะคับ
...
ขอแนะนำยี่ห้อโบทอกซ์ นะคับ ตามหลักความปลอดภัย และผลที่จะได้รับ

1. Allergan ของอเมริกา เป็นโบทอกซ์ตัวแรก ที่ผ่าน อย. มีความบริสุทธิ์สูง ไม่แพ้ กระจายตัวได้น้อย เพราะโมเลกุลไม่เล็กเกินไป จึงไม่มีอันตราย ต่อกล้ามเนื้อข้างๆๆ เห็นผลจัดเจน ริ้วรอย หลังฉีด 3 วันก่อเห็นผล คับผม ลดกรามประมาน 4-6 สัปดาห์เห็นผล
2. Neuronox ของเกาหลี ตัวนี้เป็นอีกตัวหนึ่งที่ ผ่าน อย. ไทยเรียบร้อยนะคับ คุณสมบัติ ความคงตัว และความบริสุ?ธิ์ เหมือน ของอเมริกานะคับ ใช้แทนกันได้ และราคาถูกกว่ามาก ผลที่ได้รับ ก่อเหมือนกันนะคับ แต่ผลเสียคือ ตัวยาจะแสบมากคับ แต่ก่อพอทนได้เพื่อความสวย อิอิ
3. Fine ยังไม่มีรายงานยืนยันชัดเจนว่ามีแหล่งผลิต หรือ ของประเทศอะไร แต่เห็นคนไทย บอกของฮ่องกง แต่ผมไป Research มาแล้วว่า คนในประเทศเค้าไม่ยักกะใช้ยี่ห้อที่เค้าผลิตนะคับ เค้าใช้ Allergan และก่อ Neuronox กัน ตัวนี้ไม่ผ่าน อย. ไทยนนะคับ
4. ยี่ห้ออื่นๆๆ ที่ยังไม่ผ่าน อย. นะคับ เช่น Zentox Zyneurox Biotox เป็นต้น
สาเหตุที่ โบทอกซื ไม่ผ่าน อย.
1. สกัดได้ไม่บริสุทธิ์ อาจทำให้เกิดการแพ้ หรือ ดื้อยา
2. มีส่วนประกอบของโปรตีนมากเกินไป ( โปรตีนป็นประจุลบ) อาจทำให้เกิดการแพ้เช่นกัน ในบางคน
3. โมเลกุล เล็กเกินไป อาจทำให้ไหลไปสู่ บริเวณที่ต้องการได้ ก่อให้เกิดความเสียหาย แก้ไขได้ยาก
เป็นต้น
โดยสารโบทูลินัมท็อกซิน ที่จะนำมาใช้กับใบหน้าต้องเป็นชนิดที่สกัดบริสุทธิสูงสุด หรือชนิดเอ ซึ่งปัจจุบันมีเพียงประเทศสหรัฐอเมริกา(Allergan) และเกาหนี( neuronox)ที่สามารถสกัดได้ความบริสุทธิ์ชนิดเอ ส่วนสารที่ผลิตจากประเทศอื่นเช่น เกาหลี จีน ไต้หวัน รัสเซีย นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการจดทะเบียนที่มีข้อบ่งชี้ว่าสามารถนำมาใช้ในมนุษย์ได้ และอาจมีอันตราย เกิดผลแทรกซ้อน และเคยพบรายงานการเสียชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว อย.มีการเฝ้าระวัง แต่พบว่ามีการลักลอบนำเข้าโดยการหิ้วเข้ามาจำนวนน้อยๆ แบบกองทัพมด จึงทำให้จับกุมได้ยาก
การใช้สารชนิดที่ไม่บริสุทธิ์พอ หรือ ไม่ได้ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหากเกิดอาการแทรกซ้อน หรือ การแพ้เกิดขึ้น อาจทำให้ช่วยเหลือไม่ทัน โดยเฉพาะการฉีดนั้น ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเพราะต้องควบคุมปริมาณ และตำแหน่งที่ฉีด หากฉีดโดนเส้นเลือดอาจก่อให้เกิดอันตรายและเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ เพราะสารดังกล่าวมีฤทธิ์ในการจะทำให้ระบบการหายใจหยุดทำงานได้
เพราะฉะนั้น ก่อแร้วแต่ วิจารนยายนะคับ เพราะ ปัจจุบัน ผมก่อ ลองรับฉีด ของ Fine อยู่ กะลูกค้า ซึ่งเค้าเอายามาเอง กำลังติดตามผล ว่ายังไง ฉีดกรามนะ แต่ริ้วรอย ลองฉีด กะตัวเองละ ไม่ได้ผลอะไรเรย นี่กำลังลองฉีดปีกจมูกตัวเองดู ว่าผลออกมายังไง ส่วนยี่ห้ออื่น ยังไม่เคยลองคับ ส่วนของ เยอรมัน เคยฉีดให้คนไข้ คนนึง แต่ไม่ได้ติดตตามผล ใคร เคยฉีด ลองมารีวิว หน่อยนะคับ อยากรู้ เพื่อได้นำไปศึกษาต่อถึงความปลอดภัย