รีวิวทำโครงหน้าทำบาโนบากิค่า อัพเดทรูปเรื่อยๆค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ >_<

bng56

อัพเดทหลังผ่าตัดมาได้ 7 วันค่ะ





รูปนี้ถ่ายทันทีที่ตื่นมาเลยค่ะ เห็นชัดเลยว่ายังบวกอยู่เยอะเลย
ช่วงเช้าตื่นมาก็จะบวมๆแบบนี้แหละค่ะ เพราะงั้นทุกเช้าพอตื่นปุ๊ปก็จะประคบเย็นก่อนเลยค่ะ

เข้าวันที่ 7 แล้ว ไม่มีอาการปวดหลังเหลือแล้วค่ะ เหลือแค่รู้สึกตึงเพราะยังเหลือไหมในปากนิกหน่อยแค่นั้นเอง
ส่วนอาหารบวม ตอนปรึกษาก่อนผ่าตัดเขาบอกแล้วว่า อาการจะบวมจากบนลงล่างตามแรงโน้มถ่วงทำให้อาจจะรู้สึกว่ามันหนักๆนิดนึง
แต่ไม่เจ็บไม่ปวดเลยค่ะ ^^​

Sppace

สวยมากเลยค่ะ

bng56

สวัสดีค่า~ ในที่สุดนี่ก็เป็นรีวิวสุดท้ายของการผ่าตัดโครงหน้าแล้วค่า ตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะเขียนรีวิวสุดท้ายเมื่อไหร่ดี แป๊บเดียวเข้าเดือนที่6แล้วจ้า ผ่านไปเร็วุง 5555
ช่วงแรกๆหลังจากผ่าตัด ฉันค่อนข้างกังวลเรื่องอาการบวมมากเลย เรียกว่าแทบจะนับรอว่าเมื่อไหร่จะหายบวมซักที ช่วงนั้นก็แอบเครียดอยู่นะ  เราก็พยายามทำใจว่างๆ พยายามไม่โฟกัสจุดนั้น ตอนที่บวมมากๆ แต่ก็วิตกตลอดเลย...  ตอนนี้6เดือนแล้ว คุณหมอบอกว่าอาการบวมยังลดได้อีกนะ ทีนี้ก็รอต่อไปค่า อยากรู้จังถ้าอาการบวมหายหมดแล้ว หน้าจะเป็นไงน้า ^^

นี่เป็นรูปก่อนผ่าตัดโครงหน้าค่ะ

;) จุดที่ฉันกังวล คือ เวลายิ้มจะเห็นโหนกแก้มและกรามชัดเจนมากค่ะ

รูปหลังผ่าตัดโครงหน้าค่ะ


:) เมื่อก่อนเวลาถ่ายรูป เราจะพยายามเลี่ยงมุมด้านข้างตลอด ตอนนี้ถ่ายได้ไม่กังวลแล้วค่า รูปที่ให้คนอื่นถ่ายให้ก็ออกมาสวยนะ เวลาใช้แอพก็ไม่ต้องลบกรามแล้วจ้า จะลงรูปทีไม่ต้องปรับเยอะเลยจ้า  ถ้าสังเกตุรูปด้านข้าง เพื่อนๆว่าสันกรามเปลี่ยนไปมั้ยคะ?
ตอนนี้น้ำหนักตัวขึ้นมาเยอะเลยจากก่อนผ่าตัดค่ะ แต่ถ้าดูแค่หน้า กรอบหน้าเรียวมาก ถ่ายรูปแล้วออกมาสวยทุกมุมเลยค่า ชอบๆๆ

ก่อนผ่าตัดโครงหน้า ท่าประจำเวลาถ่ายรูปของฉัน รูปมือบังหน้าค่ะ ปิดตรงกรามใหญ่ๆ แต่หลังผ่าตัดถ่ายได้ทุกมุม ไม่เอามือบังหน้าแล้วจ้า มั่นใจมากขึ้นเลยถ่ายรูป มีความสุขจัง  

สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดหลังผ่าตัดโครงหน้า เราว่าน่าจะเป็นตอนถ่ายรูปนี่แหละค่ะ และก็ภาพลักษณ์ด้วยค่ะ
รู้สึกว่าหน้าหวานดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น เป็นสิ่งที่ฉันอยากแก้ไขมากก่อนผ่าตัด และตอนนี้ก็ปรับ  ได้ตามที่ฉันต้องการแล้ว จุดนี้พอใจมากๆ เลยค่ะ
คุณหมอเคยบอกว่าการผ่าตัดจะไม่ได้ทำให้เราดูเปลี่ยนไปอย่างทันตา แต่จะค่อยๆเปลี่ยนจนคนอาจจะดูไม่ออก อารมณ์ประมาณเหมือนเราผอมลงรึป่าวนะ 555555 และก็ค่อยๆเปลี่ยนอย่างที่คุณหมอบอกจริงๆค่ะ
แต่ก็แอบรู้สึกว่าผ่าตัดมาทั้งที มันน่าจะเปลี่ยนแบบให้คนทักว่าทำอะไรมามั้ย 5555555 ชอบแบบว่าผ่าตัดแล้วเปลี่ยนไปเลยอ่ะคะ~~!!

การผ่าตัดโครงหน้าต้องให้เวลากับมันจริงๆค่ะ ตอนนี้เข้าเดือนที่6ของฉันแล้ว แต่ยังต้องรออีกนิดนึง กว่าหน้าจะเข้าที่เป็นโครงหน้าเราจริงๆ
ตอนนี้ที่ทำได้คือ ขยันออกกำลังกายลดบวมจ้า ไหนๆก็ผ่าตัดแล้วก็อยากให้ผลออกมาดีที่สุดค่ะ  
ขอบคุณรพ.ศัลยกรรมบาโนบากิที่เปลี่ยนให้ฉันสวยขึ้น^^ และยังใส่ใจ ดูแลหลังการผ่าตัดดีมากค่ะ ประทับใจมากๆเลยค่ะ

Oil469

น่ารักมากเลยคะ

bng56

หลังจากผ่าตัดมา ครบ5เดือน กับอีก 3วันแล้วค่า


พอเริ่มเข้าเดือนที่5 แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนและสัมผัสได้เลย คือ ตอนนี้ไม่รู้สึกถึงอาการความผิดปกติต่างๆ หลังจากผ่าตัดเลยค่ะ อาการตึงในปากก็หายหมดแล้ว และก็อ้าปากได้ตามปกติแล้ว
แต่ยังกลัวๆ ไม่กล้าอ้าเหมือนก่อนผ่าตัดค่ะ ตอนอ้าก็พยายามค่อยๆ อ้า ถ้าไปทำฟัน ก็น่าจะไม่มีปัญหาแล้วล่ะค่ะ 555555
พอถ่ายรูปแล้วรู้สึกว่าตอนยิ้ม ช่วงโหนกแก้มดูนูนออกมาเห็นชัดมาก  แต่ก็ดูดีขึ้นเยอะถ้าเทียบก่อนผ่าตัด
ไม่ได้รู้สึกแค่ฉันคนเดียวนะคะ คนรอบๆ ข้างก็ทักว่าสวยขึ้นเยอะเลยค่ะ แอบเขิล55555
หลายคนบอกว่าหันหน้าตรง หรือหันข้างก็ดูโอเค โหนกแก้มสมูทเนียนเป็นธรรมชาติ


รูปเสื้อน้ำตาลนี้รีวิวิวรูปด้านหน้า ด้านช้างซ้าย – ขวาค่ะ รูปนี้ใช้แอพปรับสภาพผิวเฉยๆ แต่ไม่ได้ปรับหน้าเรียวนะคะ5555555 ลองถ่ายแบบปกติสันกรอบหน้าก็ดูเรียวได้รูป มั่นใจมากขึ้นเลยค่ะ ตอนนี้เวลาส่องกระจกก็มองแต่สันกราม 555555 เหมือนคนหลงตัวเองเลย.. ถ่ายรูปใช้แอพปรับสีผิวนิดหน่อยรูปก็ออกมาสวย ถูกใจมากเลยจ้า

ถ้าสังเกตุด้านหน้าดีๆ รู้สึกว่าส่วนข้างจมูกมีอาการบวมนูนออกมานิดนึง มองจากด้านล่าง ก็ยังดูมีเหนียงอยู่นิดๆ
ยังลังเลอยู่เลยว่าจะเลเซอร์สลายไขมันดีมั้ยTT ตอนนี้อาการบวมลดลงจะเข้าที่แล้ว  ถ้าไปเลเซอร์อีกกลัวว่าจะกลับทำให้บวมมากว่าเดิมค่ะ
ลองกดหน้าแก้มที่เคยบวม รู้สึกว่านิ่มๆเหมือนเนื้อคนมีแก้มปกติค่ะ โหนกแก้มที่เสียวจี๊ดๆ ตอนนี้ไม่เสียวแล้วค่า   
คนที่เคยผ่าตัดโครงหน้าบอกว่า ส่วนใหญ่หลังจากผ่าตัดผิวหนังจะดูหย่อนคล้อยขึ้น ส่วนนี้เป็นผลจากการผ่าตัด โชคดีค่ะเราไม่เป็นแบบนั้นค่ะ>,<

ตอนนี้ที่ชอบมากๆ อีกอย่างหนึ่งหลังผ่าตัดโครงหน้ามา ก็คือ มุมในการถ่ายเซลฟี่ค่ะ~~!  ดูดีๆ หน้าก็แอบคล้ายเต้าหู้อยู่นะคะ5555555 สันกรามดูเรียวขึ้นเยอะชอบมากเลยค่า
นี่ก็ครบ 5 เดือนแล้ว อาการอาจจะลดได้อีกนิดนึง คุณหมอบอกว่าต้องรอดูผลระยะยาวประมาณ 1ปีเลยค่ะ   ตอนนี้อยากให้แก้มหายบวมเร็วๆ ถ้าหายแล้วหน้าก็คงจะเข้าที่กว่านี้อีกเยอะเลย  แล้วก็อยากแนะนำท่านผ่าตัดโครงหน้าตอนลดบวมควรทำควบคู่กับการไดเอท ฉันลองทำแล้ว เห็นผลค่อนข้างดีมากเลยค่ะ แนะนำๆ

และแผลผ่าตัดตรงหน้าหู ตอนแรกมันแข็งๆเป็นไต กังวลมาก กลัวว่าจะไม่หาย เป็นอย่างที่คุณหมอแจ้งค่ะ ว่าเวลาผ่านไปจะค่อยๆ ดีขึ้น จนหายไปมองไม่เห็น  
เราเข้าใจความรู้สึกท่านอื่นที่ผ่าตัดโครงหน้านะคะ แต่อยากให้ใจเย็นๆ รอดูผลหลังจากหายบวมจริงๆค่ะ

ตอนนี้ก็คงต้องรอต่อไปจนกว่าจะผ่าตัดครบ 1 ปีค่ะ 55555
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ เดี๋ยวมาอัพเดทค่า

bng56

:-X เวลาผ่านไปเร็วเร็วจริงๆ~ แปปเดียวถึงตอนที่12แล้วค่า 55555
ช่วงแรกที่ผ่าตัดโครงหน้ามา นั่งบ่นทุกวันเลยว่าเมื่อไหร่จะหายบวมน๊า..
แต่จริงๆ แล้วเราควรปล่อยใจว่างๆ ไม่คิดอะไร เดี๋ยวเวลาผ่านไปอาการบวมก็ดีขึ้นเองค่า~!

พอถ่ายรูปแล้ว เหมือนแก้มดูบวมเป็นลูกออกมาเลย  แต่ถ้าเทียบกับรูปก่อนหน้านี้ ฉันว่ามันดูดีขึ้นเยอะเลยล่ะ อาการหน้าบวมหลังตื่นนอน ตอนนี้ก็ไม่ค่อยบวมแล้วค่า เย้ๆๆ
:) ตอนนี้เนื้อบริเวณขมับเริ่มขึ้นมาเต็มพอดีแล้ว แค่เนื้อขึ้นมาเติมเต็มทำให้ใบหน้าดูเข้าที่มากขึ้นแล้วค่า~ วันนี้ฉันไปเจอเพื่อนคนที่พาฉันไปรพ.วันผ่าตัดมาค่า   เพื่อนบอกถ้าตรงที่ปูดออกมาจากร่องแก้มหายไป แทบดูไม่ออกเลยว่าศัลยกรรมมา
ถ้าเป็นคนที่เคยเจอหน้ากันครั้งแรก ก็จะไม่รู้เลยว่าศัลยกรรมมา ดูเป็นธรรมชาติมากๆ นี่กราบคุณหมอเลย 5555

ลองถ่ายรูปแบบใกล้หน้าให้ดูบ้าง อย่าเพิ่งตกใจกันนะค๊า 5555  เราว่าตอนนี้หน้าดูเรียวได้รูปขึ้นแล้ว มั่นใจมากขึ้นตอนเซลฟี่ใกล้ๆ  อาการตึงรั้งแผลในปากหายไปหมดแล้ว รู้สึกเหมือนก่อนผ่าตัดเลย
ถึงตอนนี้จะอ้าปากไม่สุดเหมือนก่อนผ่าตัด แต่ตอนหายก็ไม่รู้สึกเจ็บหรือรั้งมุมปากเลยค่า
เพราะก่อนหน้านี้ตอนหาวอ้าปาก แล้วรู้สึกมันรั้งๆค่ะ
   มัดผมถ่ายรูปก็มั่นใจมากขึ้น เลยอยากจะตัดลองผมสั้นเปลี่ยนสไตส์ดูบ้างเลยค่ะ^^
ตอนนี้หน้าเรียวได้รูปแล้ว ลองเก็บผมลวกยังออกมาดูโอเคเลย คิดว่าถ้าทำผมทรงอื่นก็หน้าจะเข้ากับทรงหน้าตอนนี้นะคะ  เปลี่ยนทรงผมดีมั้ยน๊า เพื่อนๆ ว่าไงเอ่ย

นี่รูปก่อนศัลยกรรมค่ะ... ยิ้มเหมือนกันแป๊ะ แต่หน้าตอนนั้นดูดุมาก ไม่หวานเลย   :-[

       ตอนนี้ถ้าลองสังเกตุดีๆ จะเห็นเนื้อตรงคางพับเป็นชั้นเหมือนหนียงเล๊ย น่าจะเพราะน้ำหนักตัวเราขึ้นด้วยแหละ  หลังผ่าตัดช่วงหนึ่งเราก็อะไรค่อนข้างลำบาก ตอนนี้กลับมากินได้ตามปกติแล้ว เราก็เลยกินไม่ยั้งเลย น้ำหนักเลยขึ้นมากเหมือนเดิมมั้ง 5555
;D รูปที่3 ถ่ายหลังจากผ่าตัดครบ 4เดือน 19วันพอดี  ถ้าเทียบรูปเมื่อ 4 เดือนก่อน ตอนนี้หน้าเรียวได้รูปขึ้นเยอะเลย แล้วอาการบวมก็ลดลงไปเยอะแล้ว  แล้วหลังผ่าตัดได้ 4 เดือนอาการตึงแผลในปากตอนพูดก็ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ  ตอนอ้าปากก็ไม่รู้สึกแปลก และไม่รั้งตรงมุมปากแล้วด้วยค่ะ ตอนนี้ทานอาหารและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เหมือนก่อนผ่าตัดเลยค่ะ

  ::) รูปหน้าถ่ายก่อนศัลยกรรม หน้าดูไม่สมูท มีโหนก และเห็นเป็นชัดเจน
เราจะขยันลดอาการบวมอย่างสม่ำเสมอ  และเจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ

bng56

  ในที่สุด!ตอนนี้ฉันก็ผ่าตัดได้ครบ 4 เดือนแล้ว! ส่วนเรื่องอาการลดบวม ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ายังลดลงอยู่มั้ย ㅠㅠ  รู้สึกเหมือนจะเริ่มเห็นแก้มกับเหนียงแล้ว.. แต่ว่ามันไม่ใช่ไขมันน๊าค๊า
ช่วงนี้ไม่รู้เลยว่าอาการบวมยังลดลงอยู่มั้ย  แต่ก็พยายามออกกำลังกายสม่ำเสมอ และกินยาเพื่อช่วยลดบวมอยู่นะคะ><

  :-[ ฉันว่ารูปที่ถ่ายมุมด้านข้าง ดูดีกว่ารูปที่ถ่ายหน้าตรงอีกค่ะ
วันนี้ฉันไปเจอเพื่อนมา เพื่อนๆถามว่าผอมลงหรือป่าวเนี่ย 55555 เหมือนที่คุณหมอบอกเลย ว่าผลลัพธ์จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบว๊าว แต่จะเหมือนเราลดน้ำหนัก และค่อยๆเปลี่ยนแปลงแบบธรรมชาติค่ะ ถ้านานๆ เจอกันทีอาจจะดูไม่ออกเลยก็ได้ค่ะ

รูปด้านบนเป็นรูปที่ถ่ายเทียบกันระหว่างตอนเช้า กับตอนเย็นค่ะ
รูปบนซ้ายคือรูปที่ถ่ายตอนเช้า ดูยังไงก็บวมใช่มั้ย 555555  ทำให้ตื่นเช้ามาฉันเลยส่องกระจกบ่อยมาก^^;;  แต่พอผ่านไปช่วงบ่ายก็จะค่อยๆ บวมลดลงค่ะ  ;D

วันนี้มีนัดอีกแล้ว เลยถ่ายรูปหน้าด้านซ้ายกับขวาเก็บไว้ค่ะ (รูปล่าง)
เอาจริงๆ พอฉันมาดูรูปที่คนอื่นถ่ายให้ ก็ไม่ค่อยรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่นะ ~
ฉันว่าช่วงแรกหลังผ่าตัดอาจจะไม่ค่อยบวมมาก แต่กลายเป็นว่าหายบวมช้าซะงั้น 55555
อยากให้หายบวมเร็วๆ จังเลยค่ะ

ฉันฝึกอ้าปากเรื่อยๆ ตอนที่นึกออก ตอนนี้คิดว่าอ้าได้ประมาณ 80 เปอร์เซ็นแล้วล่ะ
แพลนว่าจะรอดูผลอีกประมาณเดือนหนึ่งแล้วว่าจะไปทำฟันค่ะ ตอนนี้ก็เคี้ยวได้ตามปกติ ไม่ต้องตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ว  อาการตึงแผลในปากก็หายไปเกือบหมดแล้วค่ะ~~ ถ้าไม่ได้โฟกัสตรงนั้น ก็แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย  อีกอย่างเวลาพูดที่เคยรู้สึกรั้งๆ ตรงมุมปากหรือที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ ตอนนี้กับมาเป็นปกติแล้วค่ะ
  ;D ถ้าเซลฟี่จากมุมบนก็จะเป็นแบบรูปที่สามค่ะ 5555 มีคนบอกว่าดูจากในรูป หน้ายังดูเหลี่ยมๆ อยู่นิดนึง แต่พอมาเจอตัวจริงแล้วหน้าละมุนมาก
ไม่เชื่อก็ลงเลื่อนไปดูรูปก่อนผ่าตัดสิค่ะ!


ฉันดูแลตัวเองหลังอย่างดี และพยายามฝึกอ้าปากสม่ำเสมอ เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า
แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าค่า

bng56

เข้าสู่เดือนที่ 4 แล้วค่ะ!
เผลอแปปเดียวเอง เวลาผ่านเร็วจริงๆค่ะ 5555 อย่างที่บอกไว้ว่าครั้งนี้จะเป็นอัพเดทหลังจากไปเช็คอัพที่โรงพยาบาลมาค่ะ ตรงแก้มกับเหนียงใต้คางลดบวมลงช้ามากๆ สุดท้ายเลยตัดสินใจว่าเดือนครบ 5 เดือนจะสลายไขมันตรงแก้มกับใต้คางค่ะ (Accu) เขาบอกว่าพวกอาการบวมเล็กนี้การดูดไขมันออกจะช่วยได้ค่ะ แต่ว่าแทนที่จะทำเลยตอนนี้ คุณหมอแนะนำให้รอดูผลไปอีกซักระยะ แล้วเข้าเดือนที่ 5 ค่อยทำจะดีกว่า อาการบวมส่วนใหญ่หายไปเยอะแล้ว เหลือแต่บวมเล็กน้อย คุณหมอบอกว่ามันจะลดลงอีกต้องใช้เวลาค่า~~^^ ปัญหาหนึ่งที่กังวลตั้งแต่ก่อนผ่าตัดคือคางยื่น ไม่แน่ใจว่าทุกคนจะสังเกตเห็นมั้ยว่าตอนนี้คางไม่ยื่นแล้วค่ะ นอกจากโหนกแก้มแล้ว เส้นโครงหน้าตรงคางที่ดูละมุนขึ้นทำให้พอใจมากๆค่ะ

วันนี้ออกไปเจอเพื่อนๆมาค่ะ แก๊งเดิมที่เคยเจอกันช่วงผ่าตัดเลย ก็จะเห็นกันมาตลอดตั้งแต่ช่วงผ่าตัดแรกๆ เพื่อนบอกว่า เทียบกับตอนแรกๆแล้วเวลายิ้มเวลาพูด รูปปากดูเป็นธรรมชาติ ก่อนหน้านี้เวลาพูดหรือยิ้มมุมปากจะดูยกขึ้นแบบแปลกๆนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกนั้นดูเป็นธรรมชาติแบบดูไม่ออกเลยว่าไปทำศัลยกรรมมาค่ะ ต้องเป็นผลจากการที่ฝึกอ้าปากตามคำแนะนำของคุณหมอแน่ๆเลยค่ะ 5555 อีกอย่างที่ชอบมากๆคือหลังจากที่ผ่าตัดแล้วตอนนี้เวลาถ่ายรูปเซลฟี่อออกมาแล้วชอบรูปหน้าตัวเองตอนนี้มากค่ะ ถ้าหน้าตรงโหนกแก้มก็ยังมีอยู่บ้างแต่น้อยลง ด้านข้างก็จะเห็นเป็นแก้มกลมๆ แต่ถ้าเป็นมุม 45 องศาจะแทบไม่เห็นความบวมเลยค่ะ ไม่เห็นความหน้าบาน แล้วก็ยังหน้าเรียวเป็น V เบาๆค่ะ เพราะแบบนี้ก็เลยชอบถ่ายเซลฟี่มุม 45 องศาค่ะ 5555 บอกเลยว่าทำมาแล้วมีความมั่นใจกับการถ่ายเซลฟี่มากขึ้นจริงๆ

วันนี้มีเรื่องมาอัพเดทแค่นี้ ไว้เจอกันอีกครั้งหน้านะคะ

bng56

ฉันผ่าตัดโครงหน้า กรามคางโหนกแก้มมาได้ 3 เดือนกับอีก 8 วันแล้วค่ะ วันนี้จะมาอัพเดทรูปให้ดูกันนะคะ ช่วงนี้ทำอยู่ 2 อย่างอย่างสม่ำเสมอค่ะ อย่างแรกคือฝึกอ้าปาก และอย่างที่สองคื ฝึกกล้ามเนื้อเวลายิ้มค่ะ เพื่อให้ยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ เลยฝึกยิ้มด้วยการคาบการ์ดไว้ที่ปากค่ะ  ไหนๆหน้าก็เรียวขึ้นแล้ว ยิ้มสวยด้วยก็จะดีใช่มั้ยล่ะคะ
ในหนึ่งวันแน่นอนว่าตอนเช้ายังเป็นช่วงเวลาที่ดูบวมที่สุด แต่พอช่วงกลางวันไปถึงช่วงเย็นก็จะลดลง เพราะงั้นก็เลยชอบถ่ายเซลฟี่ตอนเย็นค่ะ 5555 แต่เพื่อให้เห็นเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนก็ถ่ายไว้ค่ะ สั่งจากรูปแถว 2 นะคะ ถ้ามองจากด้านข้างเส้นกรอบหน้าเปลี่ยนไปเยอะเลยค่ะ ไม่มีความเหลี่ยมมุม แล้วก็เป็นเส้นละมุนมากขึ้น เทียบแล้วตอนนี้ชอบถ่ายรูปด้านข้างมากกว่าค่ะ 5555 เพราะเทียบแล้วมองจากด้านช้างหน้าดูเรียวสลิมมากค่ะ ถ้าจะเทียบก่อน-หลังผ่าตัด รูปด้านข้างจะเห็นได้ชัดเจนมากๆค่ะ

ส่วนเรื่องอาการตึงๆแผลในปาก ที่เล่าให้ฟังตอนไปเช็คอัพ 1 เดือนกับคุณหมอ ท่านบอกว่าเดือนที่สองจะรู้สึกไม่สบายตัวมากสุด ตอนนี้เข้าเดือนที่ 3 แล้ว อาการดีขึ้นเหมือนที่คุณหมอบอกเป๊ะเลยค่ะ 555555 ก่อนหน้าจะรู้สึกเสียวๆที่เหงือก แต่พอเข้าเดือนที่ 3 ปุ๊ปอาการนั้นก็ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่ก็ยังตึงๆอยู่นะคะ

โดยรวมแล้วหน้าตรงอาจจะยังดูบวมอยู่บ้าง ถ้าสลิมได้เหมือนหน้าด้านข้างจะดีมากๆค่ะ แล้วก็จากฝึกอ้าปากอย่างสม่ำเสมอทำให้ทานอาการได้เกือบปกติ
จะว่าไปก็ไวเหมือนกันนะคะ เผลอแปปเดียวก็เข้าเดือนที่ 3 แล้ว สิ่งที่รู้สึกได้คือการผ่าตัดฌโครงหน้า คือการต่อสู้กับเวลาและอาการบวมค่ะ
ต้องไม่ใจร้อน จริงๆที่ก็แอบคิดมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วว่าถ้าสมมติมันออกมาไม่สวยจะทำยังไงดี...แต่ก็พยายามมองโลกในแง่ดีแล้วก็รอเวลาค่ะ
วันนี้เอาๆไว้แค่นี้นะคะ แล้วยังจะมาอัพเดทหลังจากไปเช็คอัพกับคุณหมออีกที แล้วเจอกันใหม่ค่า

bng56

เข้าเดือนที่ 3 หลังจากผ่าตัดแล้วค่ะ
วันนี้ไปวัดสายตาตัดแว่นมา เพราะสายตาแย่ลงเยอะมากเลยค่ะ จริงๆต้องตัดใหม่นานแล้วแต่ว่าจะผ่าตัดโครงหน้ากลัวอาหารหน้าบวมจะส่งผลอะไรต่างๆเลยเลื่อนมาเรื่อยเลยค่ะ ลองแบบแว่นที่ร้านเยอะมากๆ พอผ่าตัดโครงหน้าแล้วหน้าเปลี่ยนไป ตอนนี้ไม่ว่าจะใส่แว่นสายตาหรือแว่นกันแดดก็ดูโอเคหมดเลย เมื่อก่อนเพราะมีโหนกแก้มทำให้หาแว่นกันแดดที่เข้ากันกับใบหน้ายากมากดเลยค่ะ อ้ออีกอย่างตอนนี้ทานอาหารได้ปกติแล้วค่ะ อ้าปากกัดเบอร์เกอร์ได้ด้วย คงเป็นเพราะว่าฝึกอ้าปากอยู่สม่ำเสมอแน่ๆเลยค่ะ แต่ก็ยังพยายาบเลี่ยงอาหารที่แข็งมากๆหรือเหนียวมากๆอยู่นะคะ
ในรูป 3 คือรูปที่ถ่ายวันนี้ค่ะ แก้มยังดูบวมๆกลมๆอยู่เลย แต่ว่าเทียบจากตอนแรกแล้วก็ลดบวมลงเปลี่ยนไปยอะนะคะ แต่ช่วงที่ลดบวมจะบอกว่ารู้สึกได้เลยนะคะว่าสองข้างมันลดบวมไม่เท่ากันค่ะ น่าจะเป็นแต่ละคนไม่เหมือนกันด้วยแหละค่ะ ตอนยิ้มก็ยังมีโหนกแก้มขึ้นมาเหมือนเดิม เพียงแต่ว่ามันน้อยลงแค่นั้นเองค่ะ ถ้าลดบวมลงไปอีกก็จะเห็นโครงหน้าที่ละมุนขึ้นเนอะคะ

ตรงกลางเป็นรูปก่อนผ่าตัดค่ะ
พอมาดูตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดเลยว่าโครงหน้าเป็นเหลี่ยมชัดมาก เหมือนผู้ชายเลยค่ะ

ข้างล่างมีรูปหน้าด้านซ้ายกับขวาให้ดูค่ะ สังเกตว่าสองข้างลดบวมลงไม่เท่ากันด้วยค่ะ 555 อย่างของฉันด้านซ้ายจะยังบวมกว่าด้านขวาอยู่นิดนึงค่ะ แต่ที่เห็นได้ชัดกรอบหน้าที่ดูละมุนขึ้นมากเลยใช่มั้ย ถ้าลดบวมกว่านี้ต้องสวยมากแน่ๆเลยค่ะ การผ่าตัดโครงหน้าเป็นเรื่องที่อดทนต่อสู้เวลาจริงๆค่ะ แต่ในระหว่างที่รอจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ ทำให้มีกำลังใจในการรอนะคะ

bng56

ฉันศัลยกรรมโครงหน้า 3 อย่าง โหนกแก้ม กราม คางกับคุณหมอปาร์คจงริม รพ.บาโรบากิ มาได้ 2 เดือนครึ่งแล้วค่ะ ^^ จะอัพเดทรูปช่วงที่ผ่านให้ดูกันนะคะ

รูปแรกตอน 1 เดือน 3 สัปดาห์ค่ะ วันนี้ไปออกกำลังกายมา รูปนี้ก็ถ่ายที่ฟิตเนส
รูปนี้ไม่ได้ใส่ฟิลเตอร์เลย ชอบมากเพราะรู้สึกว่าโหนกแก้มมันเล็กลงแล้วค่ะ ^^ แต่ออกกำลังไปด้วยก็แอบรู้สึกว่าเนื้อแก้มหย่อนนิดหน่อย
แต่ยังไงเดี๋ยวมันก็คงจะดีขึ้นอีก ตอนนี้เน้นออกกำลังกายแบบเดินเร็วเพื่อให้อาการบวมมันลดลงไวๆอยู่ค่ะ!

2 เดือน + 1 วัน
รูปที่ 2 กับ 3 ถ่ายที่ที่ทำงานค่ะ ส่องกระจกตอนเช้าก็ยังรู้สึกว่ามันบวมๆอยู่ แต่ก็ไม่ได้มากมายนะคะ 5555 ตอนเช้าบวมแต่พอตกเย็นก็จะค่อยๆลดลงแล้วค่ะ เผื่อมีคนอยากเห็นด้านข้างด้วย รูปที่ 4 เลยลองถ่ายมาให้ดูค่ะ ใช้แอพถ่าย แต่ว่าไม่ได้แต่งเลยนะคะ 5555

2 เดือน + 3 วัน
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาออกไปเจอเพื่อนๆมาค่ะ เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับที่เจอกันเดือนที่แล้วเลย บอกใหญ่เลยว่าไม่เจอกัน 3 สัปดาห์อาการบวมหายไปเยอะเลย ตอนนี้เริ่มเป็นหน้าธรรมชาติแล้วค่ะ แต่ก็แอบบอกว่าที่คางยังดูออกอยู่ว่าไปทำอะไรมา...55555 เดี๋ยวมันก็จะลดลงอีกเนอะคะ วันนี้กินสเต็กกับเพื่อนค่ะ ดีใจมากที่ตอนนี้ทานอาหารได้เกือบเป็นปกติแล้ว ส่วนอาหารที่เหนียวมากๆยังไม่ได้ลอง เพื่อความปลอดภัยจะรอครบ 3 เดือนจะดีกว่าค่า

2เดือนครึ่งค่ะ
ช่วงนี้ก็ยังออกกำลังกายกล้ามเนื้อใบหน้าอยู่ตลอด  ซ้อมยิ้มเรื่อยๆ ตอนนี้อาจจะยิ้มดูแปลกๆอยู่ แต่ว่าเพื่อให้กล้ามเนื้อเข้าที่ก็ตั้งใจฝึกมากๆค่ะ

ช่วงนี้อาการบวมคงที่เลยค่ะ
แทบมองไม่ออกเลยว่ามันหายบวมลงบ้างมั้ย คงจะลดแบบนิดหน่อยมากๆ ช่วงโหนกแก้มเวลาล้างหน้ายังรู้สึกเจ็บๆอยู่บ้าง แผลในปากก็เหมือนกันค่ะ แต่ก็ดีกว่าตอนแรกมากๆแล้ว คงเพราะว่าชินด้วยแหละค่ะ 555 ยังฝึกอ้าปากอยู่เรื่อยๆนะคะ
เชาแนะนำว่าก่อนจะเริ่มฝึกอ้าปากแต่ละครั้งให้ประคบอุ่นก่อนจะดีค่ะ เพื่อให้กล้ามคลายก่อนออกกำลังกล้ามเนื้อค่า ^^

bng56

ฉันได้รับการผ่าตัดกับคุณหมอปาร์คจงริมที่รพ.บาโนบากิมาได้ 1 เดือน 3 สัปดาห์แล้วค่ะ
ตลอดเวลาฉันถ่ายรูปไว้ตลอด เดี๋ยวจะลงให้ดูนะคะ



วันนี้ไปเช็คอัพที่โรงพยาบาลมาค่ะ  ก็ไปถามมาหมดเลยว่า ดูจากสภาพตอนนี้แล้วอาการบวมจะลดลงได้อีกเท่าไหร่ รอยแผลตรงข้างโหนกแก้มจะดีขึ้นเมื่อไหร่ แล้วก็อาการตึงๆแผลในปากต้องรอถึงเมื่อไหร่ถึงจะดีขึ้น คุณหมอให้คำตอบมาว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการบวม หลังจากนี้จะลดลงอีกเรื่อยๆ ส่วนเรื่องแผลตรงข้างโหนกแก้มกับในปากช่วงเดือนที่ 2-3 นี้จะค่อนข้างลำบากที่สุด ไม่แน่ว่าหลังจากนี้อาจจะรู้สึกมากกว่านี้อีก แต่เมื่อเวลาผ่านไปยังไงก็จะดีขึ้นตามลำดับ ที่สำคัญคือหลังจากนี้เริ่มฝึกอ้าปากได้แล้วค่ะ
คุณหมอให้แผ่นพับเกี่ยวกับการซ้อมอ้าปากมาด้วยค่ะ ใจดีมากๆเลย ในแผ่นพับอธิบายวิธีการฝึกเป็นขั้นตอนอย่างละเอียด เข้าใจง่ายมากๆ ต้องฝึกอย่างต่อเนื่องเป็นประจำนะคะ
ครั้งต่อไปมาเช็คอัพตอน 3 เดือนค่ะ คุณหมอบอกว่าสิ่งสำคัญตอนนี้คือความกว้างของใบหน้าเราเปลี่ยนไปแล้ว ต้องหมั่นฝึกยิ้มเยอะๆค่ะ เพราะฉะนั้นจะต้องเริ่มฝึกยิ้มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเลย ได้มาเช็คอัพวันนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลยล่ะค่า

1 เดือน + 18 วัน



1 เดือนกับอีก 18 วันแล้วค่ะ
วันนี้มีนัดทานข้าวกับเพื่อนค่า ตอนนี้อาการบวมลดลงไปเยอะมาก ออกไปเจอเพื่อน เพื่อนก็ดูไม่ออกว่าไปทำอะไรมา ที่บวมอยู่ตอนนี้น่าจะพอๆกับขนาดหน้าก่อนี่จะผ่าตัดแน่เลยค่ะ 55555 เขาบอกว่าตอนนี้ไม่ต้องใส่ผ้ารัดหน้าแล้ว ตอนนี้เลยไม่ได้ใส่แล้วค่ะ แต่ว่ายังฝึกอ้าปากอยู่ตลอดนะคะ
วันนี้ทานพาสต้าไปค่ะ ตอนนี้เริ่มทานอาหารได้หลากหลายมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ

1เดือน + 19 วันค่ะ



วันนี้มีนัดออกไปข้างนอก ก่อนออกเลยถ่ายรูปด้านข้างกับหน้าไว้ค่ะ
รูปด้านข้างเห็นได้ชัดเลยว่าอาการบวมลดลงไปเยอะมากๆ คางก็รู้สึกขยับได้มากขึ้น แต่ก็ยังฝากอ้าปากทุกเช้า-เย็นเลยนะคะ
ตอนนี้เริ่มทานอาหารได้เยอะขึ้น ก็เลยบวมนิดนึงค่ะ 555 ถ้าอยากให้เห็นผลชัดเจนคงต้องคุมน้ำหนักไม่ให้ขึ้นมากเกินไปด้วยค่ะ




วันนี้ออกมาทานข้าวข้างนอก ลองถ่ายรูปจากมุมล่างดู จะยังเห็นว่ามีอาการบวมอยู่แต่ว่ามันก็ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ อาจจะเป็นเพราะเนื้อตรงคาง 555 ตอนนี้เริ่มรู้สึกได้ว่าอ้าปากได้มากขึ้น รู้สึกตอนเวลาทานข้าวน่ะค่ะ คนที่มองก็อาจจะรู้สึกว่าเราอ้าปากได้มากขึ้นได้เหมือนกันนะคะ แต่ก็ไม่ได้กว้างขนาดกัดแฮมเบอร์เกอร์ได้นะคะ ยังต้องฝึกอ้าปาก แล้วก็ลดบวมลงอีกหน่อยค่ะ ส่วนวันนี้กินข้าวผัดค่ะ ตอนนี้สามารถทานอาหารข้าวได้ทุกประเภทแล้วค่ะ




รูปตอน 1 เดือน + 3 สัปดาห์นะคะ หน้าเหลือแค่นี้แล้ว ถ้าเอาไปเทียบกับตอนเดือนแรก อาการบวมลดลงเยอะมากๆค่ะ แต่ถ้าจับแถวๆแก้มอาจจะยังรู้สึกว่ามันเป็นก้อนๆได้ คิดว่ามันคือความบวมเวลาผ่านไปมันก็จะค่อยๆหายไปค่ะ 5555 ส่วนรอยแผลกรีดในปาก ถ้าลองเอาลิ้นไปโดนจะรู้สึกเหมือนมีอะไรยื่นออกมา แต่ก็คิดว่ามันเป็นร่องรอยของการผ่าตัด คงทำอะไรไม่ได้ค่ะ T_T เดี๋ยวมันก็คงดีขึ้นใช่มั้ยคะ...เชื่อว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น จะรอต่อไปค่ะ!

วันนี้เอาไว้แค่นี้ แล้วเจอกันใหม่ค่า ^^

bng56

วันที่ 37 ค่ะ
รูปที่ถ่ายวันนี้ค่ะ ตอนนี้เริ่มแต่งหน้าแล้ว รู้สึกดีขึ้นมาอีกหน่อยนึงค่ะ 5555
แต่ตอนนี้เวลาลูบๆแถวโหนกแก้มใต้ตาจะยังไม่มีความรู้สึก แล้วก็เจ็บๆนิดหน่อยค่ะ
ส่วนแผลในปากตอนนี้ดีขึ้นมาก ตอนนี้สามารถแปรงฟัน แปลงลิ้นต่างๆได้เหมือนตอนก่อนผ่าตัดแล้ว สดชื่นมากๆค่ะ อาหารก็ทานได้ปกติเลยค่ะ

bng56

วันที่ 29





ถ้านับเป็นวัน ก็วันที่ 29 แต่ถ้านับเป็นสัปดาห์ก็ สัปดาห์ที่ 4 แล้ว ครบ 1 เดือนแล้วลองไล่ดูรูปที่ถ่ายไว้รู้สึกว่าอาการบวมลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ถึงจะยังยิ้มกว้างสุดเลยไม่ได้ แต่ก็ถือว่ายิ้มได้แล้วล่ะค่ะ พอเริ่มอ้าปากได้ก็เริ่มทานอาหารอื่นๆได้บ้าง ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มฝึกอ้าปาก แต่ก็อ้าได้ประมาณนึงแล้ว อยากรีบไปเช็คอัพ 1 เดือนแล้วค่ะ

bng56

วันที่ 20 หลังจากผ่าตัดแล้วค่ะ
เผลอแปปเดียวก็ผ่านไป 20 วันแล้ว ปล่อยใจให้สบายๆเวลาก็จะผ่านไปไวมากเลยค่ะ
บอกตามตรงตอนนี้ยังไม่ได้รู้สึกว่าโหนกแก้มเล็กลง หรือว่าคางเรียวเป็นวีอะไรเลย T_T
คงต้องรอจนกว่าจะลดบวมลงอีก วันนี้มาพร้อมกับรูปที่ใส่ผ้ารัดหน้าค่ะ
วางแผนว่าจะไปสมัครฟิตเนสด้วยค่ะ เขาแนะนำว่าให้ออกกำลังกายวิ่งเบาๆจะช่วยให้เลือดไหลเวียน และช่วยให้พักฟื้นไวขึ้นด้วยค่ะ ทั้งเข้าฟิตเนส แล้วตอนนี้ก็ยังทานแต่อาหารที่มีประโยชน์อย่างเช่น ไข่ เต้าหู้ ซุปฟักทองจะได้ลดบวมไวๆค่ะ!​

bng56

นี่คือรูปที่ถ่ายทันทีหลังจากตื่นนอนค่ะ
บวมมากเลยใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นลืมตาตื่นปุ๊ปก็ประคบเย็นทันทีค่ะ แล้วก็ยังกินได้แค่พวกโจ๊ก ข้าวต้ม อาหารเหลวนะคะ
เมนูวันนี้ก็เป็นโจ๊กผักค่ะ พยายามอดทนที่จะไม่ใช้คางให้การเคี้ยวให้ได้ซัก 2 สัปดาห์ เพราะงั้นเบื่อแค่ไหนก็ต้องอดทนกินแต่โจ๊กไปก่อนค่ะ
แผนวันนี้คือว่าจะใส่มาส์กแล้วออกไปเดินเล่นข้างนอกค่ะ รู้สึกว่าการได้ออกไปเดิน ขยับตัวทำกิจกรรมข้างนอกบ้าง มันช่วยเรื่องอาการบวมได้ดีกว่านั่งๆนอนๆอยู่แต่ในบ้าน และสำหรับวันที่ 12 นี้แทบไม่มีอาการปวดเลยค่ะ เพียงรู้สึกตึงแผลในปากนิดหน่อย อาจจะฟังดูลำบากอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับความเจ็บครั้งแรกแค่นี้จิ๊บๆค่ะ

พอใส่มาส์กแล้วก็ดูไม่ออกเลยใช่มั้ยคะ?^^
เมื่อกลางวันทานก๋วยเตี๋ยวไปค่ะ ตอนนี้เริ่มทานพวกเส้นๆได้แล้ว อาหารนิ่มๆ ตัดเป็นชิ้นเล็กพอคำก็สามารถทานได้ไม่มีปัญหาค่า