|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nutsaga เมื่อ 2017-10-31 10:09
สวัสดีค่ะ สาวๆทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกสำหรับเรานะคะ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวล่วงหน้าด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ^^
เราเป็นนักศึกษา ที่เข้ากรุงเทพมาเรียนต่อค่ะ เดิมทีเราเป็นนางงามที่ประกวดตามเวทีระดับจังหวัดค่ะ ก็มีได้ตำแหน่งบ้าง ไม่ได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เรามักได้ตำแหน่งติดไม้ติดมือกลับไปฝากกองเชียร์เสมอ
ทีนี้พอเข้ามาเรียนในกรุงเทพ นอกจากเรียนแล้ว เราก็ยังไม่ล้มเลิกความฝันที่จะเป็นนางงามค่ะ แต่เปลี่ยนจากเวทีระดับภูธรสู่เวทีใหญ่ต่างๆ ที่ทำให้เรารู้ว่า มันแตกต่างจากที่เคยเจอมาก
ยังไงน่ะเหรอคะ?
ก็คนสวยเยอะมากกก ก.ไก่ร้อยตัว
มากแบบ เราไปยืนอยู่ในกลุ่มกองประกวด จากที่เคยมั่นใจว่า ตัวเองก็พอสวยแข่งกับเขาได้ กลายเป็นเริ่มฝ่อเลยล่ะค่ะ แล้วยิ่งแข่งไปเรื่อยๆจากเปอร์เซ็นต์ที่จะได้ตำแหน่งก็ยิ่งน้อยลงๆ จนขอแค่ผ่านเข้ารอบได้ก็ยิ้มหน้าบานแล้ว
ซึ่งตรงนี้ล่ะค่ะ ถึงการแข่งขันจะทำให้ชวดรางวัลไปเยอะพอควร แต่ก็ทำให้ได้กัลยาณมิตรจากการเดินสายมาเยอะเหมือนกัน ใครที่ว่าสงครามนางงามที่เคยเห็นตามละครโหดร้าย ของจริง …… ยิ่งกว่านั้นอีกค่ะ (อ้าว หลอกๆ ไม่ใช่ๆ 5555555) ทุกคนเป็นเพื่อนกันจริงๆค่ะ ยิ่งเรานอบน้อมเข้าหาก่อนเพราะเป็น คนใหม่ๆที่เพิ่งเข้าวงการมา พี่ๆนี่เอ็นดูเชียว เลยเป็นอานิสงค์ให้ได้เคล็ดลับงามๆมาบ้าง
พี่หญิง (ขอเรียกนามสมมุตินะคะ เดี๋ยวจะโดนเจ๊เฉ่งเรื่องที่เอาแกมาแฉ ฮ่าๆๆๆๆ) เป็นคนแนะนำให้เรารู้จักกับการทำศัลยกรรมสำหรับนางงามเป็นครั้งแรก เราเพิ่งรู้ว่าไม่ใช่แค่ในวงการดารา หรือ พริตตี้ แต่วงการขาอ่อนก็ทำกันค่ะ แต่ขึ้นอยู่กับว่า ทำมากทำน้อยเท่านั้นเอง
ซึ่งพี่หญิงที่สิงอยู่ในวงการนี้มานานมาก ประกวดมาแล้วกว่าสิบเวทีจนจะผันตัวไปเป็นพี่เลี้ยงนางงาม ก็ทำด้วยค่ะ พี่หญิงทำคางเพราะ แต่เดิมเป็นคนหน้าไม่มีเหลี่ยม ไม่มีมิติ เลยไปทำคางให้หน้าดูมีโครงมากขึ้น
โดยเทียบกับหน้าพี่หญิงก่อนทำที่เราดูเปรียบเทียบจากรูป พี่หญิงสวยขึ้นจริงๆค่ะ และโครงหน้าเดิมแทบไม่เปลี่ยนรูปเลย แค่ไปทำคางมาให้หน้าดูสวยเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และหลังจากไปทำมาก็มีได้ตำแหน่งบ้าง ซึ่งอันนี้เจ๊แกบอกด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มว่า รอมานาน ที่สุดก็ได้รางวัลกับเขาสักที 555
เราเลยสนใจ อยากทำมั่งคะ ก็ขอคำปรึกษาว่า เราควรมีตรงไหนที่ต้องแก้บ้าง โดยมีข้อแม้ว่า ต้องไม่ทำเยอะจนหน้าเดิมไม่เหลือเลย พี่หญิงก็บอก ทำคางอย่างเดียวก็พอ เพราะหน้าเรายาว มันไม่ใช่หน้ารูปไข่แบบที่คนสวยๆ เขามีกัน และพี่หญิงก็แนะนำให้เราทำคางพร้อมทั้งแนะนำคลีนิกที่ไปทำมาให้เราด้วย
เราก็โอเค และต้องขอบคุณพี่เขามากๆค่ะ เพราะเป็นธุระจัดการให้ทุกอย่างตั้งแต่ติดต่อหมอ ดูราคาให้ ให้คำแนะนำก่อนการทำและหลังทำ เป็นพี่สาวที่ทำให้เรารู้สึกโชคดีจริงๆที่ก้าวเท้าเข้ามาในวงการนี้แล้วเจอคนดีๆเลย
ยังไงก็ขอขอบพระคุณเจ๊มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
กลับมาที่การทำคางดีกว่า ส่วนตัวเราไม่ได้แอนตี้การทำศัลยกรรมอะไรนะคะ เพราะสมัยนี้คนก็ทำกันเยอะแยะ แถมที่สวยๆอยู่ในวงการบ้านเราก็ทำกันเสียเป็นส่วนใหญ่ มันก็เลยทำให้เราไม่ลังเลที่จะทำบ้าง แต่อย่างที่บอกว่า เราขอทำไม่เยอะ ไม่อยากทำจนหน้าเปลี่ยนเป็นคนละคน แล้วเราก็โอเค ถ้ามันทำให้เราดูสวยขึ้นกว่าเดิมค่ะ
คลีนิกที่เราไปทำชื่อว่า The Art Clinic ค่ะ เป็นคลีนิกที่มีรีวิวเยอะมาก ดังในเรื่องทำคาง แถมคนในวงการบ้านเรา นางแบบก็มี ทำที่นี่กันเยอะแยะ รวมถึงเจ๊หญิงก็ทำที่นี่ด้วย เราเลยมั่นใจที่จะทำที่นี่ค่ะ
เราไปทำหลังจากติดต่อกับหมอไปหนึ่งอาทิตย์ คุยเรื่องราคาและค่าใช้จ่ายที่รวมทุกอย่างแล้ว ไม่มีจ่ายเพิ่มทั้งค่ายา ค่าหมอ จ่าย 35,000 ซึ่งถือว่าไม่แพงอย่างที่เคยคิดไว้ค่ะ แถมคุณหมอยังพูดจาดีๆมากด้วย ก็ตัดสินใจจ่ายเงินแล้วก็นัดวันทำเลย
|
|