|
โบท็อกซ์เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostridium Botulinum ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่สามารถสร้างท็อกซินหรือสารมีพิษที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ สารสกัดจากแบคทีเรียนี้มีสองชนิด คือ โบทูลินั่ม เอ (Botulinum A) และ โบทูลินั่ม บี (Botulinum B)
โบทูลินั่มท็อกซินนี้ถือว่าเป็นสารชนิดนิวโรท็อกซิน (Neurotoxin) โดยจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ซึ่งสารที่มีลักษณะเช่นนี้จะมีในพิษของแมงมุมและงู พิษเหล่านี้จะตัดการสื่อสารของเหล่าเส้นประสาทที่เรียกว่า Acetylcholine ซึ่งเป็นสารที่สั่งให้กล้ามเนื้อยืดและหดตัว เมื่อไม่มีสารเคมีนี้สื่อสาร กล้ามเนื้อจึงไม่ได้รับสัญญาณจากประสาทส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นเป็นอัมพาฒชั่วคราว
เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบคุณสมบัติของโบท็อกซ์ข้อนี้ จึงนำมาใช้ในทางการแพทย์โดยรักษาอาการกระตุกที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อ เช่น เปลือกตากระตุก อาการตาเข สำหรับโบทูลินั่มท็อกซินที่นำมาใช้นี้เป็นชนิดบริสุทธิ์ และใช้เพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น ฉีดบริเวณเฉพาะที่ ซึ่งสารนี้มีจำนวนน้อยนิดจนไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายและจะให้ผลเฉพาะที่ชั่วคราวอยู่นานประมาณ 3-5 เดือน จากนั้นจึงจะจางหายไป ต้องฉีดใหม่ ซึ่งองค์การอาหารและยาอนุญาตให้ใช้ได้ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1989 และในปีถัดมาจึงอนุญาตให้ใช้รักษาอาการคอกระตุก
ในทศวรรษ 1980 เอลาสแทร์ และจีน การ์รูเธอร์ส แพทย์สามีภรรยาชาวคาเนเดียนจากแวนคูเวอร์ เอลาสแทร์ซึ่งเป็นแพทย์ผิวหนังได้เริ่มทำการจดบันทึกการลบเลือนริ้วรอยด้วยการฉีดโบท็อกซ์แทนคอลลาเจน ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี ส่วนจีนภรรยาของเขาเป็นจักษุแพทย์ใช้โบท็อกซ์ฉีดตรงบริเวณหนังตาเพื่อลดอาการตากระตุก ผลที่ได้นอกจากจะช่วยรักษาอาการกระตุกแล้ว โบท็อกซ์ยังทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัวและริ้วรอยตีนกาจางลงด้วย เมื่อเห็นดังนี้ทั้งสองจึงได้ทำการทดสอบกับตนเองและพนักงานต้อนรับของตน ผลสรุปออกมาว่าโบท็อกซ์สามารถช่วยให้ริ้วรอยจางลง ผิวเนียนดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการฉีดคอลลาเจน จึงทำให้โบท็อกซ์กลายเป็นเครื่องมือทางศัลยกรรมตกแต่งที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา
ในปี ค.ศ. 2001 มีรายงานว่าผู้หญิงอายุระหว่าง 35 - 55 ปี จำนวน 1,500,000 ราย ได้ทำการฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอยบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา ในด้านความปลอดภัยของการฉีดโบท็อกซ์ แต่ละขวดที่บรรจุจะมีขนาดเพียง 100 ยูนิต และขนาดที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้นั้นต้องมีมากว่านี้ถึง 35 เท่า หรือประมาณ 3,000 - 3,500 ยูนิต ในการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยจะใช้เพียง 30 ยูนิต หรือประมาณ 1 ใน 100 ส่วน สำหรับการฉีดเพื่อลดริ้วรอยบริเวณกล้ามเนื้อคอจะใช้ประมาณ 50 - 100 ยูนิต และการฉีดเพื่อลดอาการเหงื่อออกจะใช้ประมาณ 200 - 300 ยูนิต |
|