แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bubimzz เมื่อ 2017-1-13 15:52
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรในไทย
หากคุณกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับโครงหน้าในส่วนของขากรรไกรที่ผิดปกติ ส่งผลในการใช้ชีวิต
ประจำวันและภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูไม่น่ามั่นใจเอาซะเลย เพราะทุกวันนี้ใคร ๆ ก็อยากมีหน้าเรียววีเชพกันทั้ง
นั้นแหละ การผ่าตัดศัลยกรรมเลื่อนขากรรไกรนั้น จึงนับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวนะคะ เราไปดู
กันค่ะว่า สิ่งที่เราควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรมเลื่อนขากรรไกร ก่อนตัดสินใจไปทำนั้นมีอะไรบ้าง?
การศัลยกรรมปรับแก้ไขขากรรไกร (Orthognathic SurgerY) เป็นการปรับส่วนของกระดูกคางบน
และคางล่างที่ยื่นออกมา วิธีง่ายๆ เลยคือ การตัดขากรรไกรบนและล่าง แล้วปรับเลื่อนกระดูกคางให้เข้าที่อยู่ใน
ตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันการศัลยกรรมขากรรไกรนอกจากแก้ไขจุดบกพร่องแล้ว มีศิลปินดาราหลายท่าน
ทำศัลยกรรมขากรรไกรเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความงามอีกด้วย
การผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกร เหมาะกับใคร?
- คางล่างยื่นออกมามากกว่าคางบน, ฟันล่างครอบฟันบน (คางยาว)
- คางยุบเข้าไปด้านใน (ไม่มีคาง)
- หน้ายาวมากเกินไป
- ปากยื่น
- คนที่คางบนและคางล่างต่างกันมาก ผิดสัดส่วน โครงหน้าเบี้ยว
ในปัจจุบันการจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกรนั้นมี 2 แบบคือ
1.แบบมาตรฐานทั่วไป หรือแบบจัดฟันก่อน (Presurgical orthodontic treatment) ทันตแพทย์
จัดฟันจะทำการตรวจและวิเคราะห์ความผิดปกติของใบหน้า เอ็กซเรย์กระดูกใบหน้าและฟัน ทำการพิมพ์ฟันและ
สร้างรูปหล่อจำลองฟันขึ้นมาวิเคราะห์และถ้าหากจำเป็นจะต้องผ่าตัด ก็จะติดเครื่องมือจัดฟันและจัดฟันเพื่อเตรียม
พร้อมสำหรับการผ่าตัด ซึ่งจะใช้ระยะเวลานาน 8-18 เดือน แล้วค่อยส่งผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติของกระดูก
ขากรรไกร หลังผ่าตัดแล้วแล้วทำการจัดฟันต่อไปเพื่อเก็บรายละเอียดอีกสักระยะประมาณ 6-12 เดือน
2.แบบผ่าตัดก่อนหรือ (Surgery-first) ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการตรวจและวิเคราะห์ความผิด
ปกติของใบหน้า เอ็กซเรย์กระดูกใบหน้าและฟัน ทำการพิมพ์ฟันและสร้างรูปหล่อจำลอง ฟันขึ้นมาวิเคราะห์เหมือนกัน
และหากพิจารณาแล้วว่าสามารถผ่าตัดก่อนได้ ก็จะติดเครื่องมือจัดฟันและส่งผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติของกระดูก
ขากรรไกรเลย หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วทำการจัดฟันต่อไปอีกสักระยะประมาณ 6-12 เดือนจนการสบฟันเป็นปกติ
ซึ่งปกติก็จะใช้ระยะเวลารวมไม่นานมากเท่ากับการรักษาแบบเดิม
การผ่าตัดขากรรไกรนั้นจะต้องใช้ศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญร่วมการดูแลรักษา เลือกโรงพยาบาลที่มี
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะ รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือจะต้องทันสมัย ครบครัน
และได้มาตรฐาน และสิ่งที่สำคัญควรเตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อมต่อการผ่าตัดใหญ่ครั้งนี้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
|