ดู: 689|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

“ศัลยกรรมแก้ไขจมูก, จะต้องแก้ไขในกรณีใดบ้าง?”

[คัดลอกลิงก์]
“ศัลยกรรมแก้ไขจมูก, จะต้องแก้ไขในกรณีใดบ้าง?”



ตำแหน่งของการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หนึ่งในนั้น ก็คือ จมูก
การศัลยกรรมจมูกนั้น ไม่ใช่แค่ว่าจะทำให้อิมเมจหรือภาพลักษณ์เราเปลื่ยนไป
อย่างเห็นได้ชัดแล้ว ยังเป็นศัลยกรรมที่สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนได้ด้วยตาเปล่า
ดังนั้นจึงเป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ว่าอัตรา
การทำศัลยกรรมแก้ไขจมูกนั้น ก็มีมากกว่า 30%
ถ้าเทียบกับศัลยกรรมบริเวณอื่นแล้ว ถือว่ามีอัตราการศัลยกรรมแก้ไขค่อนข้างมาก

กรณีที่มีการศัลยกรรมแก้ไขจมูกมากที่สุด ก็คือ “กรณีที่ซิลิโคนเบี้ยว”
อาการเช่นนี้เกิดจากการที่ช่องว่างที่ใส่ซิลิโคนเข้าไปนั้นเบี้ยวหรือ การที่ซิลิโคน
ที่ใส่เข้าไปนั้นไม่เข้ากับรูปทรงของดั้งจมูก จึงทำให้ซิลิโคนเอียงไปอีกข้าง
ซึ่งทำให้ดั้งหรือสันจมูกดูเบี้ยว ในกรณีเช่นนี้ สามารถแก้ไขด้วยวิธีเอาซิลิโคนอันเก่าออกมา
แล้วทำช่องว่างที่จะใส่ซิลิโคนเข้าไปให้เท่ากันทั้งสองข้าง แล้วจึงใส่ซิลิโคนที่มีรูปทรง
เข้ากับดั้งของจมูกเข้าไป

ในกรณีที่”ปลายจมูกต่ำ”นั้น ถ้าใช้กระดูกอ่อนหรือซิลิโคนใส่
เพื่อเพิ่มความสูงของปลายจมูกแล้ว ประมาณอีก 1-2 ปี
ปลายจมูก ก็จะกลับมาต่ำลงเหมือนเดิม เนื่องจากปลายจมูกนั้น
เป็นเนื้อกระดูกอ่อนที่นิ่มๆซึ่งแตกต่างจากสันจมูก ดังนั้นต้อง
ใช้กระดูกอ่อนนผนังจมูกมาใช้ซัพพอร์ตที่ปลายจมูกก่อน
เพื่อที่จะให้เนื้อกระดูกอ่อนแข็งแรงแล้ว จึงใช้กระดูกอ่อนใส่เข้าไป
ที่ปลายด้านบน

ในกรณีที่”ความกว้างของสั้นจมูกแคบ” ในกรณีนี้ จมูกที่มีสันดั้งที่สวยงาม
จะต้องมีความกว้างที่แคบกว่า ความกว้างของปลายจมูกประมาณ 1 ซม.
ถ้าความกว้างสันจมูกแคบกว่านี้ จะดูแลปกหรือไม่ธรรมชาติ ซึ่งถึงแม้ว่า
ความกว้างปลายจมูก จะไม่กว้างก็ตาม แต่ก็จะทำให้ปลายจมูกดูใหญ่ หรือดูทู่ได้
เพราะว่าสันจมูกที่แคบเกินไป ดังนั้นในกรณีเช่นนี้ จะใช้ซิลิโคนที่มีความกว้างมากกว่า
ความกว้างของสันจมูก เพื่อให้สันจมูกดูสูง และดูมีรูปทรงที่ทันสมัยมากขึ้น

ส่วนในกรณีของ”ปลายจมูกเปลื่ยนรูปทรง”นั้น เกิดเนื่องจากเนื้อเยื่อภายในจมูก
มีการสร้างตัวเพิ่มมากขึ้น หรือเนื้อเยื่อแผลเป็นในจมูกเพิ่มมากขึ้น ทำให้กระดูกอ่อนที่
ไปเสริมที่ปลายจมูก เกิดอาการบิดเบี้ยว หรือเสียรูปทรงได้ ดังนั้นจึงจะต้องแก้ไข
ด้วยการเอาเนื้อเยื่อแผลเป็นในจมูกออกก่อน แล้วใช้กระดูกอ่อนหลังหูและ
กระดูกอ่อนผนังจมูกแล้วเสริมเข้าไปที่ปลายจมูก เพื่อทำให้ปลายจมูกกลับมาได้รูป
และสวยงามมากยิ่งขึ้น

กรณีที่ทำศัลยกรรมแล้วแต่ปลายจมูกดูสั้นลง หลังศัลยกรรมถ้าเกิดอาการอักเสบ
หรือห้อเลือด เมื่อเนื้อเยื่อบริเวณจมูกค่อยๆดีขึ้นแล้ว ซิลิโคนจะจะถูกดึงหรือรู้สึกตึงไปด้านบน
ซึ่งเนื่องจากสาเหตุนี้จึงทำให้จมูกดูสั้นลง ซึ่งถ้าต้องการที่จะศัลยกรรมแก้ไขจมูกเช่นนี้
ควรจะต้องรอให้เนื้อเยื่อข้างในมันอ่อนตัวลงก่อน ประมาณ 3-6เดือน
โดยวิธีศัลยกรรมแก้ไขจมูกเช่นนี้นั้น จะใช้กระดูกอ่อนผนังจมูกด้านใน
มาแต่งที่ปลายจมูกให้ปลายมีขนาดยาวลงมาข้างล่าง ส่วนตรงสันหรือดั้งนั้นก็ใช้ซิลิโคน
เพื่อเพิ่มความสูงได้

คุณหมอคิมอิลฮวาน ประจำโรงพยาบาลศัลยกรรมไอดี ได้กล่าวว่า ศัลยกรรมแก้ไขจมูกนั้น
มีความยากมากกว่าศัลยกรรมจมูกครั้งแรกมาก ดังนั้นเพื่อที่จะให้ได้ผลการแก้ไขจมูกออกมา
อย่างดีที่สุดนั้น จะต้องเข้ารับการรักษากับ รพ.ที่ได้มาตรฐานที่มีผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์
ด้านการศัลยกรรมจมูกให้การรักษา และทำการผ่าตัดที่ได้มาตรฐานอย่างเป็นระบบ ผลที่ออกมาจึงจะดีที่สุด


ซึ่งด้านของ รพ.ไอดี มีระบบการให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ในขึ้นตอนแรก ก่อนศัลยกรรม
ไม่ใช่แค่ผู้ป่วยจะได้รู้ถึงสาเหตุของความผิดพลาดของศัลยกรรมครั้งแรกแล้ว
ผู้ป่วยยังสามารถรู้ผลของตัวเองว่าหลังจากผ่าตัดจะออกมาเป็นอย่างไรล่วงหน้าก่อนผ่าตัดแบบ 3D
ด้วย ด้วยเหตุนี้ ความพอใจของผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดที่นี่ จึงสูงมาก โดยเฉพาะการบอกปากต่อปาก
จากลูกค้าที่ได้เข้ามาศัลยกรรมแก้ไขจมูกที่โรงพยาบาลไอดี
ซึ่งทำให้เป็นรพ.ที่ได้รับความสนใจย่างมากในตอนนี้


อ้างอิงจาก : http://www.anewsa.com/detail.php?number=864550&thread=10r03



ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้