ดู: 1721|ตอบกลับ: 16
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

จำได้ไหมเรื่องนี้ ผมว่าคงอยู่ในใจใครหลายคน

[คัดลอกลิงก์]
ได้ข่าวว่า Titanic 3D มีกำหนดเข้าโรงในเดือน เม.ย. 2012 เพื่อเป็นการรำลึกถึงวาระครบรอบ 100 การอับปางของ “ไททานิค”

ดีใจจังจะได้ดูแบบ 3D คงแปลกตาไปอีกแบบ

          หลายคนคงยังจำหนังโรแมนติกอย่าง “ไททานิก” ได้ดี หนังเรื่องนี้เป็นฝีมือกำกับฯ ของเจมส์ คาเมอรอน ผู้เคยฝากผลงานอันลือลั่นไว้หลายเรื่อง แม้ว่าคาเมอรอนจะปิดฉากตำนานรักระหว่างแจ๊คกับโรสในไททานิกไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังมีบางอย่างที่ค้างคาใจ เพราะสร้างหนังเรื่องนี้จนสำเร็จ หากทว่าไม่เคยได้สัมผัสหรือเห็นตัวจริงของนาวาลำนี้เลย จินตนาการของเขานั้นมันถูกต้องกับของจริงหรือเปล่า ดังนั้น คาเมอรอน จึงจัดทีมงาน ดำลงไปสำรวจซากเรือยักษ์ใต้สมุทรลำนี้ในเวลาต่อมา
          ไททานิกชนภูเขาน้ำแข็งและอับปางลงในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 หรือกว่า 80 ปีมาแล้ว ซากเรือลำนี้จมอยู่ใต้ความลึกถึง 12,500 ฟุต (ราว 4 กิโลเมตร) ซึ่งความลึกขนาดนี้จะมีแรงอัดมหาศาลถึง 5,500 ปอนด์ต่อ ตารางนิ้ว ด้วยเหตุนี้การดำลงไปสำรวจจึงต้องใช้ยานพิเศษที่ชื่อว่า เมียร์ (MIR) ซึ่งสามารถดำได้ลึกถึง 20,000 ฟุต และให้แสงสว่างที่ทำให้เห็นอะไรต่ออะไรได้ เนื่องจากใต้สมุทรนั้นมืดมิดไร้แสงใดๆ นอกจากนี้ ยังมีสายเคเบิลไฟเบอร์ออพติกพ่วงโยงไปยังเรือบนผิวน้ำ เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ระหว่างการสำรวจด้วย ซึ่งก็เป็นที่หวั่นเกรงกันนักหนาว่า ถ้าหากสายเคเบิลอันยาวเหยียดนี้ขาดผึงลง ก็อาจม้วนพันรัดเอายานเมียร์จมดิ่งอยู่ใต้สมุทรตลอดกาล

ไททานิค3.jpg (6.75 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 1)

ไททานิค3.jpg

ไททานิค4.jpg (5.26 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 2)

ไททานิค4.jpg

ไททานิค5.jpg (24.98 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 1)

ไททานิค5.jpg

ไททานิค6.gif (53.79 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 0)

ไททานิค6.gif

ไททานิค7.gif (56.51 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 0)

ไททานิค7.gif

ไททานิค8.jpg (128.32 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 1)

ไททานิค8.jpg
เขาน่าจะสร้างใหม่แล้วทำเป็นแบบ3Dมากกว่า เพราะเวอร์ชั่นเดิมดูจนเบื่อแล้วอ่ะ
เอาเวอร์ชั่นเดิมมาทำเป็นแบบ3Dก็ไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่

หรือไม่ก็เปลี่ยนเนื้อเรื่องไปด้วยเลยก็ยิ่งดี แบบไม่ต้องมีแจ็คกับโรส เป็นมุมอื่นแทน
เอาให้เหนือกว่าแจ็คโรส
ตอบกลับ 15# hazard


    อารายนะ เท่าหลอดหรอ ว๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา เล็กจัง อิอิอิ
ตอบกลับ 14# kurama


    อย่ามาดิ พี่เบิร์ด รู้ รึป่าวว่า นกฮูก หนะเป็นสัตว์ที่มีควมฉลาดมากนะ เพราะครั้งหนึ่งเคยเป็น สัตว์ เลี้ยง ของ เทพีอธีน่า  เทพีแห่ง ภูมิปัญญาและความรอบรู้  แล้วอีก อย่างป็อบ เป็น วอลล์ล็อค ต่างหากไม่ใช่พ่อมด 555555555
ตอบกลับ 13# hazard


    อ่อ ที่ต้องไปขึ้นชานชลา 3 ส่วน 4 อ่ะนะ ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เดี๋ยวนี้เค้าให้นกฮูกไปเรียนได้แว้วหยอ นึกว่าให้เรียนแต่พ่อมดแม่มด งิงิงิ
ตอบกลับ 12# kurama


    ฮ็อกวอตท์ ไงคร้าบ รู้จักป่าว
ตอบกลับ 11# hazard


    มิน่า่ล่ะ ดีเนอะโรงเรียนอารายนิ หยุดบ่อยจัง
ตอบกลับ 10# kurama


    พุ่ง นี้ ว่าง ไมมีเรียนอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบกลับ 9# hazard


    เข้ามาซะดึกดื่น ม่ะหลับม่ะนอน พรุ่งนี้ม่ะต้องเรียนอ่ะไง
ตอบกลับ 8# kurama


    ดีมากๆๆๆ ช่ายปะ อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบกลับ 7# hazard


    นิสัย
ตอบกลับ 6# kurama


    55555555  เนี่ยอะนะโรส  ว่าแต่โรสหนายหละคร้าบ ท่านพี่  แต่ น้องว่า  ROAD นี่แน่น อิๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบมากเลยคับเรื่องนี้ ย้อนไปก็นึกว่าตัวเองเป็นโรสทุ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกที อิอิอิ
นายมีสาระอ่ะ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-7-20 01:27:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คณะสำรวจมุ่งต่อไปยัง ดาดฟ้าที่ไว้เรือชูชีพ ณ ที่นั้นคือ ฉากสุดยอดแห่งความโกลาหลวุ่นวายที่เกิดขึ้นในระหว่างเรือใกล้จม ที่นี่มีเสาห้อยเรือบดซึ่งสูงราว 4 เมตร ส่วนเรือบดหรือเรือชูชีพนั้นยาวลำละ 10 เมตร มีอยู่ 4 ลำ ซึ่งผู้โดยสารที่เหลือคงจะรุมล้อมแหงนมองมันอย่างมิรู้จะทำฉันใดและที่ดาด ฟ้านี่เอง ที่มีเหตุการณ์อันเหลือเชื่อ นั่นคือ นักดนตรีทั้งหลายแห่ง วงออร์เคสตราได้ร่วมใจ กันขึ้นมาบรรเลงเพลง เพื่อให้ผู้โดยสาร ที่ตื่นตระหนกได้สงบลง เพลงสุดท้ายเป็นเพลงช้าๆ ที่คาดกันว่าชื่อ Nearer My God To Thee ผู้กำกับวงที่มีนามว่า วอลเลซ ฮาร์ทลีย์ ได้รับความยกย่องในสมาธิ และความกล้าหาญที่คุมวงบรรเลง จนหยดสุดท้าย นักดนตรีทั้งหมดเสียชีวิต และได้พบร่างของฮาร์ทลีย์ในภายหลัง เขาได้รับพิธีฝังเยี่ยงวีรบุรุษ
          จุดสำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ ห้องวิทยุ นับเป็นโชคดีที่ยุคนั้นได้มีการสื่อสาร แบบไร้สายกันแล้ว โดย มาร์โคนี เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องส่งวิทยุขึ้น ซึ่งถ้าหากไททานิกไม่ได้ส่งสัญญาณวิทยุ ไปยังเรือต่างๆ ให้มาช่วย โดยเฉพาะเรือคาร์พาเธียแล้วละก้อ คงมีผู้เสียชีวิตกลางทะเล มากกว่านี้อย่างแน่นอน ในห้องส่งวิทยุนี้ คณะสำรวจพบอุปกรณ์ ต่างๆ ยังอยู่เกือบครบครัน นับตั้งแต่ไดนาโม ที่มีมอเตอร์ต้นกำเนิดพลังงานที่ใช้ส่งวิทยุ แผงสวิตช์ต่างๆ ซึ่งตำนานไททานิกในเรื่องนี้มีระบุว่าคืนก่อนหน้าความหายนะ อุปกรณ์ส่งสัญญาณวิทยุเกิดขัดข้อง แต่เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่ล้วนเป็นเศรษฐี และต้องการที่จะสื่อสารไปยังครอบครัวเพื่อเล่าถึงการเดินทางอันสุดแสนประทับ ใจนี้ ดังนั้น จึงมีหนุ่มน้อยสองคนขันอาสาเข้าแก้ไขอุปกรณ์ และหลังจากปลุกปล้ำอยู่นานถึง 6 ชั่วโมง แจ๊ค ฟิลลิปส์ กับ ฮาโรลด์ ไบรด์ ก็พบสายไฟลัดวงจรต้นเหตุ แล้วจึงจัดการซ่อมแซมจนสำเร็จใช้งานได้
    ต่อข้อสงสัยว่าพนักงานวิทยุ ได้อยู่ปฏิบัติการจนวาระสุดท้าย ของเรือหรือไม่ ข้อนี้ไบรด์กล่าวว่า พนักงานยังคงอยู่อย่างกล้าหาญ ไม่ได้ละทิ้งหน้าที่ ผู้ที่รอดชีวิต 703 คนนั้น ล้วนเป็นหนี้บุญคุณ เครื่องส่งวิทยุชิ้นนี้
          ท้ายที่สุด คาเมอรอนกับคณะก็ได้สำรวจถึงส่วนนันทนาการของผู้โดยสารไททานิก มีบริการให้ครบถ้วนเหมือนสปอร์ตคลับ ไม่ว่าจะเป็นเตอร์กิชบาธ หรือสปาในปัจจุบันนั่นเอง เมื่อ 80 ปีก่อนโน้นสปาเป็นที่นิยมกันมาก ค่าเตอร์กิชบาธ บนไททานิกก็เพียงแค่ 1 เหรียญ แต่ถ้าคุณสมัครใจจะว่ายน้ำในสวิมมิงพูลก็ 24 เซนต์ ค่าเล่นสควอช 50 เซนต์ ต่อชั่วโมง (ในขณะที่ค่าโดยสารห้องสวีต พิเศษสุด 3,300 เหรียญ หรือราว 130,000 บาท และชั้นต่ำสุดแค่ 33 เหรียญ)
          คณะสำรวจต้องตื่นตะลึง เมื่อเห็นภายในห้อง เตอร์กิชบาธอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก ทั้งนี้เพราะวัสดุที่ใช้ล้วนเป็น ประเภทที่ไม่ถูกน้ำทะเลกัดกร่อน (ดังเหล็ก) อาทิ ไม้สัก เครื่องเซรามิก พรมน้ำมัน โคมไฟ บรอนซ์ ฯลฯ
          สิ่งที่น่าแปลกใจอีกอย่างหนึ่งคือ เฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องประดับใหญ่ๆ จะพินาศมากกว่าชิ้นเล็กๆ เช่นว่า แกรนด์เปียโน จะคว่ำเค้เก้อยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง ในขณะที่แก้วน้ำแบบบาง บนหิ้งกลับไม่กระทบกระเทือน ไม่มีแม้แต่รอยร้าว!?
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-7-20 01:26:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอย้อนเล่าถึงความหายนะที่เกิดขึ้นนิดนึง เมื่อตอนที่เรือสำราญสุดหรู ขนาด 46,000 ตัน แล่นชนภูเขาน้ำแข็งนั้น รูทะลุที่เกิดขึ้นไม่ใช่สาเหตุสำคัญ ของการจม แต่เป็นเพราะแผ่นเหล็ก ลำเรือที่ทยอยกันฉีกขาด และทำให้น้ำทะเล ไหลบ่าเข้ามาอย่างรวดเร็ว อันที่จริงไททานิกได้ป้องกันไว้แล้ว โดยสร้างห้องเก็บน้ำเป็นช่องๆ หากน้ำทะลักเข้ามาใน 2 ห้องด้านหน้า หรือแม้แต่ใน 4 ห้องแรกก็ไม่เป็นไร แต่รอยทะลุเกิดขึ้นในห้องที่ 5 จึงต้องอับปางลง
          ขณะที่จมดิ่งลงมาลึกราว 300 เมตร ลำเรือก็แตกร้าวเป็นสองท่อน ด้านหัวเรือซึ่งยาวกว่าพุ่งนำลงมาก่อน ลากเอาส่วนท้ายตามลงมาในแนวดิ่ง แล้วก็หักหลุดจากกัน ท่อนหัวดำดิ่งพุ่งลิ่วยังกับตอร์ปิโด โครงสร้างและอุปกรณ์ต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่ว แล้วหัวเรือก็ปักจมลงไปในโคลนใต้สมุทรลึกประมาณตึก 6 ชั้น และซากส่วนนี้แหละที่คาเมอรอนกับคณะสนใจสำรวจ
          แต่แรกนั้นเข้าใจกันว่าแกรนด์ บันไดนี้คงพังพินาศอยู่กับใจกลางเรือ หากทว่าคณะสำรวจกลับไม่เห็น ร่องรอยของมัน แม้ว่าจะมีเศษไม้ และราวเหล็กเกลื่อนกลาด แต่ก็เป็นชิ้นส่วนที่ตกลงมาจากเพดานห้อง ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าบันไดยักษ์นี้ หลุดออกจากฐาน และลอยขึ้นสู่เหนือน้ำทั้งแผง แต่มีข้อมูลจากผู้รอดตาย หรือไม่ว่าได้พบเห็นบันไดนี้ลอยขึ้นมา
          แจ๊ค ธาเยอร์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตให้การว่า เขาเห็นส่วนหัวเรือลอยอยู่เหนือน้ำ (ซึ่งแท้จริงยังจมอยู่ใต้โคลน) ดังนั้น เป็นไปได้ไหมว่า สิ่งที่เขาเห็นนั้นคือ ซากของบันได นอกจากนี้ ยังมีรายหนึ่งซึ่งเกาะท่อนไม้ล่องลอยอยู่จนมีเรือมาช่วยไว้ แต่ก็อีกนั่นแหละ เราไม่อาจรู้แน่ชัดว่าไม้ท่อนนั้นเป็นเศษของบันไดหรือไม่  

Wallace Hartley
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้