ดู: 27144|ตอบกลับ: 18
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ฟิลเลอร์/โบท๊อกซ์/ร้อยไหม] ของฉันกับการผ่าตัดเอาซิลิโคนเหลวในคางของฉัน (มากกว่า 12 ปี) + ไฮโดรเจลฟิลเลอร์ฉีดในบริเวณรอบดวงตาของฉันมากกว่า 6 ปี (บริเวณดวงตาและขมับ)

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AntonJ เมื่อ 2015-8-14 02:10

สวัสดี ทุกๆ คน, เพียง แค่ ต้องการ ที่ จะ แบ่งปัน ประสบการณ์ ของ ฉัน กับ การ ผ่าตัด เอา ซิ ลิ โคน เหลว ใน คาง ของ ฉัน (มากกว่า 12 ปี) + ไฮ โดร เจ ล ฟิ ล เลอ ร์ ฉีด ใน บริเวณ รอบ ดวงตา ของ ฉัน มากกว่า 6 ปี ( เปลือกตา บน และ เปลือกตา ล่าง) และ พื้นที่ สามารถ ช่วย ให้ ทุก คน ที่ มี ประสบการณ์ เดียวกัน มอง หา ฉัน กับ แพทย์ สามารถ ที่ ช่วย ให้คุณ ขอ ขอบคุณ โจ --------- การผ่าตัดครั้งแรก (บริเวณดวงตาและขมับ) = 27 กรกฎาคม 2558
มาเข้าเรื่องกันเลยครับ เป็นเวลามากกว่า 6 ปีแล้วที่ผมต้องทนทุกข์ทรมานและแบกรับความเจ็บปวดอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากฟิลเลอร์ที่ผมได้ฉีดเข้าที่ใบหน้า (บริเวณดวงตาและขมับ) ทำให้ผมไม่มีสมาธิและตาของผมหนักขึ้นเรื่อยๆและอ่อนแรงลงพอเวลาผ่านไป ผมมีโอกาสได้พบกับศัลยแพทย์หลายท่านในเมืองไทย บางท่านเป็นหมอที่ดีมาก มีมารยาทและสุภาพ แต่บางท่านก็ไม่ใช่อีกทั้งยังหยาบคาย ครั้งแรกที่ผมได้พบกับนพ.อนันต์สุวรรณเทวะคุปต์ ผมได้ยินชื่อเสียงของนพ.อนันต์มาตั้งแต่ต้นปี 2557 และในครั้งแรกที่ผมได้พบกับนพ.อนันต์ เรามีอุปสรรคในการสื่อสารเล็กน้อยในตอนแรกและรู้สึกแปลกๆ แต่คุณหมอก็ไม่ได้รีบให้ผมออกไปจากห้องทำงานของท่าน หรือไม่ใส่ใจความกังวลของผม หรือแม้แต่เลี่ยงสบตากับผมระหว่างที่ผมรับคำปรึกษา แต่สุดท้ายผมก็เลือกรักษากับคุณหมอโดยไม่ลังเลเพราะว่าผมรู้สึกสบายใจตลอดเวลาที่ผมปรึกษาคุณหมอ ทั้งนี้ คุณหมอไม่ได้ให้คำมั่นสัญญามากจนเกินไปที่ทำให้คนไข้มีความหวังที่สูง เช่น คุณหมอไม่ได้สัญญาว่าจะแก้ปัญหาหนังตาที่ตกให้กลับมาสมบูรณ์แบบ แต่คุณหมอเลือกที่จะแจ้งว่าคุณหมอจะพยายามอย่างเต็มที่และคุณหมอจะรับฟังความกังวลของคุณ คุณหมอเป็นหมอที่ถ่อมตนมาก ทั้งๆที่คุณหมอทำงานอย่างหนักหลายชั่วโมงในการผ่าตัดคนไข้หลายราย แต่คุณหมอก็ยังให้คำปรึกษาอย่างมีสติในสิ่งที่คุณหมอทำได้หรือไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มรวมทั้งข้อดีและข้อเสียของการรักษา โดยที่ไม่ได้บังคับให้คุณต้องฟังแต่คุณหมอหรือให้รีบออกไปจากห้องทำงานของคุณหมอโดยเร็ว การผ่าตัดครั้งแรกของผมใช้เวลาทั้งหมด 7 ชั่วโมงครึ่ง และเมื่อผมได้บอกกับคุณหมอว่าผมกลัวประสบการณ์การบาดเจ็บในอดีตของผมที่ผมเจอกับอาการชาที่ใบหน้า คุณหมอรับฟังและปลอบใจผม และสุดท้าย คุณหมอไม่ได้ปฏิบัติต่อผมเหมือนกับผมเป็น ‘เป้าหมายในการผ่าตัด' แต่คุณหมอปฏิบัติกับผมในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึก และเป็นเรื่องบังเอิญที่ญาติของผมเป็นหมอเช่นกัน ผมได้ไปร่วมงานศึกษาจบของเธอ ผมจำผู้อำนวยการโรงเรียนการแพทย์ได้ดี เพราะท่านได้กล่าวให้โอวาทให้แก่นักศึกษาที่จบใหม่ไว้ว่า “แพทย์ทุกคนจะต้องมุ่งมั่นไม่เฉพาะในฐานความรู้ทางการแพทย์และความสามารถทางเทคนิคที่ได้ศึกษา แต่ต้องใส่ใจในความรู้สึกและความกังวลของคนไข้เช่นกัน "ผมได้ถามเพียงสิ่งเดียว" และท่านได้บอกกับนักศึกษาที่จบว่า "เมื่อคนไข้มาพบคุณ คุณต้องใส่ใจและดูแลพวกเขาเหมือนกับที่คุณดูแลพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนสนิทของคุณ " ผมเห็นด้วยกับ ผอ. หมอที่ดีคือผู้ที่ใส่ใจคนไข้ สิ่งที่ทำให้หมอผู้รักษามีความโดดเด่น คือวิธีการปฏิบัติต่อคนไข้: พวกเขาทำให้คนไข้สัมผัสได้ว่าพวกเขาใส่ใจจริงๆ เขาจะปฏิบัติราวกับว่าจะทำการผ่าตัดให้กับพี่น้องของเขาจริงๆ และ นพ.อนันต์ ท่านนี้ เป็นหนึ่งในนายแพทย์ที่ดี และถึงแม้ว่าท่านจะไม่ใช่หมอที่ดีที่สุดในโลก ไม่ได้ทำงานในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดและมีเครื่องมือที่ดีที่สุด แต่ท่านคือแพทย์ที่ดีที่ได้ทำการผ่าตัดให้กับผม
ขอบคุณ นะคะที่มาแชร์เป็นวิทยาธานให้ ทุกๆคน

ขอให้ จขกท หายไวไว นะคะ

แล้วตัว ฟีลเลอร์ ตัวที่ผ่าน อย.ไทย ที่บอกว่าสลายได้เอง ที่สามารถดูดซับน้ำได้ ตัวนั้น จะปลอดภัยกว่าตัวนี้ใช่ไหมคะ?
ขอบคุณที่แชร์ค่ะ  กำลังหาข้อมูลอยู่พอดี  แต่  ก้อชั่งใจว่า  จะทำกับหมอไหนดี  หลายคนก้อบอกว่า  หมออนันต์  ส่วนอีกหลายคนก้อบอกหมอ ชาลี  ตัดสินใจไม่ถูกเลยค่ะ   มีใครแนำนำหรือ เชียร์หมอไหนดี  ช่วย  รีวิวเพิ่มเติมด้วยคะ  
ขอบคุณที่แชร์นะคะ เป็นความรุ้ที่่ดีมากๆ
ขอบคุณมากคะ ที่ให้ประสบการณ์และเพื่อเป็นความรู้และวิทยาทานเป็นประโยชน์มากคะ เป็นกำลังใจนะคะ
ขอให้หายไวๆ อาการดีขึ้นๆ นะครับ
ตอนนี่เป็นยังไงบ้างแล้วคะ หายดียังคะ^^
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-8-18 12:53:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
meanney ตอบกลับเมื่อ 2015-8-17 16:52
ขอบคุณที่นำมาเเชร์เป็นวิทยาทานนะคะ ขอให้เจ้าของกระทู้หายไวๆ เเละใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ

ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณที่นำมาเเชร์เป็นวิทยาทานนะคะ ขอให้เจ้าของกระทู้หายไวๆ เเละใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-8-17 16:31:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AntonJ เมื่อ 2015-8-17 16:33
ririn11 ตอบกลับเมื่อ 2015-8-17 09:53
ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ


ไม่เป็นไรครับ


ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-8-16 21:38:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AntonJ เมื่อ 2015-8-16 23:27


คาง วัน 3



ยังคงบวมเช่นบอลลูน >_<
บริเวณดวงตาและขมับ = DAY 11
คางและริมฝีปากล่าง = DAY 7


การผ่าตัดวิดีโอของฉัน (ขมับ) โดยแพทย์อนันต์สุวรรณเทวะคุปต์











9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-8-15 22:28:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
armykubpom ตอบกลับเมื่อ 2015-8-15 13:40
ขอบคุณมากครับ กระทู้ของคุณมีประโยชน์มากครับ หายบวมไวๆนะครับ

ไม่เป็นไรครับความสุขของฉัน ขอบคุณครับ ! ^_^
ขอบคุณมากครับ กระทู้ของคุณมีประโยชน์มากครับ หายบวมไวๆนะครับ
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-8-14 14:47:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AntonJ เมื่อ 2015-8-14 15:55

ขอบคุณครับไม่เป็นไรครับความสุขของฉัน ^ _ ^
ถ้าคุณต้องการที่ฟิลเลอร์ฟิลเลอร์เพียงคนเดียวที่ปลอดภัยคือ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นเพียงชั่วคราว

อยู่ห่างจากฟิลเลอร์แบบถาวรและกึ่งถาวร ยังมีสินค้าปลอมมากเกินไปในตลาด ดังนั้นคุณจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องนี้

falada.s ตอบกลับเมื่อ 2015-8-14 08:48
ขอบคุณ นะคะที่มาแชร์เป็นวิทยาธานให้ ทุกๆคน

ขอให้ จข ...
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-8-14 14:46:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
thunho ตอบกลับเมื่อ 2015-8-14 13:46
-ขอให้หายเร็วๆ นะครับ

ขอบคุณครับ ^_^
-ขอให้หายเร็วๆ นะครับ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-8-14 01:44:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AntonJ เมื่อ 2015-8-14 02:15

ศัลยกรรมที่สอง (คางและริมฝีปากล่าง) = 2 สิงหาคม 2558












ในที่สุด การผ่าตัดครั้งที่สองของผมก็ได้ผ่านพ้นไปแล้วครับ!!
ครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงครึ่ง! เพื่อนๆเห็นซิลิโคนก้อนใหญ่ที่ฉีดเข้าไปไหมครับ?! มันใหญ่มาก! หากคุณเห็นรูปผมก่อนหน้านี้ คางผมมีขนาดเล็กลงในทันที!
ในที่สุด! 12 ปีที่ซิลิโคนก้อนนี้ติดอยู่กับคางของผม พอเวลาผ่านไปได้สร้างปัญหาให้กับผมมากมาย คางของผมมีขนาดใหญ่ผิดปกติ หนักขึ้น หนังตาตก ห้อยย้อย และทำให้ผมปิดปากได้ลำบาก ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการฉีดซิลิโคนและพังผืดที่ตามมา
ตอนนี้ ผมเริ่มเห็นรูปทรงคางใหม่ของผมได้ชัดเจนแต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอก (ใช้เวลา 1-2 เดือนกว่าจะหายบวม) แต่ผมพูดเลย ว่าเหมือนกับได้ยกภูเขาออกจากอก เพราะคุณหมออนันต์ ท่านรักษาผมได้ยอดเยี่ยมมากครับ!! นอกจากนี้ คุณหมอยังตรวจตาของผมและทำการวัดก่อนสั่งให้ผมนอนบนเตียงผ่าตัด การผ่าตัดในครั้งนี้ คุณหมอให้ยาระงับประสาทก่อนทำการผ่าตัด เพื่อที่ผมจะได้ไม่ตื่นเต้นจนเกินไปและใช้เวลาในการหลับระหว่างที่คุณหมอปิดตาของผมด้วยผ้าฝ้ายเย็นฆ่าเชื้อ หนึ่งนาทีหลังจากนั้น ผมหลับสนิท ..
ผมตื่นขึ้นในอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งและคุณหมอได้ทำการผ่าตัดบริเวณปากเรียบร้อยแล้ว (ผมทำการแก้ไขปากล่างด้วย) การทำปากอาจมีขั้นตอนไม่มาก แต่ผมรู้ว่ามันเจ็บแสนสาหัสเมื่อถูกฉีดยาชา และผมมีความสุขมากที่ได้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยการหลับและรู้สึกขอบคุณคุณหมออนันต์ที่เอาใจใส่ผมอย่างดี!!


CHIN BEFORE =




2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-8-14 01:40:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AntonJ เมื่อ 2015-8-14 02:12

EYES BEFORE =
วงกลมสีมาร์ค: ฟิลเลอร์ไฮโดรเจลอะคริเลตฉีดเป็นเวลา 7 ปี




ประวัติการฉีดฟิลเลอร์
รอยช้ำใต้ผิวหนัง : ฟิลเลอร์ Polycrylamide Hydrogel เป็นเวลากว่า 7 ปี
นพ.อนันต์ สามารถนำฟิลเลอร์ออกจากด้านบนและด้านล่างตาของผมได้เกือบ 80% และสามารถนำออกจากบริเวณขมับได้อีก 50-70% ทั้งนี้ สารฟิลเลอร์ คล้ายกับก้อนเจล ซึ่งประเภทที่ผมถูกฉีดเรียกว่า Polyacrylamide Hydrogel ซึ่งร่างกายของเราไม่สามารถดูดซึมได้ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปกว่า 7 ปีแล้วก็ตาม หากต้องการเอาออก ต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเดียว การฉีดฟิลเลอร์ประเภทนี้จึงจัดว่าเป็นการฉีดฟิลเลอร์แบบถาวร
หมายเหตุ: ขอให้หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์แบบถาวรทุกประเภท (อาทิ ซิลิโคนเหลว หรือ Polyacrylamide hydrogel เป็นต้น)!
โดยปัญหาที่แท้จริงไม่ได้มาจากการฉีดฟิลเลอร์ถาวร แต่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายที่มีต่อฟิลเลอร์ที่ฉีดไปนั้น
การตอบสนองของร่างกายเช่นนี้เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้และส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงแก่คนไข้ อีกทั้งยังไม่สามารถกำจัดออกไปจากร่างกายได้จนหมด
สำหรับซิลิโคนเหลวหรือฟิลเลอร์ถาวรประเภทอื่นๆที่ยังไม่เป็นที่รู้จักสามารถเร่งให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาผิดรูปร่างรวมทั้งเร่งกระบวนการทำลายเซลล์ ยังมีอีกหลายกรณีที่คล้ายกับของผมที่ร่างกายเกิดปัญหาจากฟิลเลอร์ถาวรที่ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ยังก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังจนเกิดเป็นก้อน หรือ granulomas นอกจากนี้ ยังเป็นที่ทราบกันว่า ฟิลเลอร์ยังสามารถไหลไปยังส่วนต่างๆของใบหน้าหรือร่างกายได้
และถึงแม้ว่าคุณไม่ได้ประสบปัญหาอย่างหนักจากฟิลเลอร์หรือกล้ามเนื้อติดกันเป็นก้อนหรือผังผืดในตอนนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผิวของคุณจะบางขึ้นและฟิลเลอร์จะโผล่ให้เห็นได้ชัดราวกับมีเกาะผุดขึ้นกลางผิวหนัง และวิธีการเดียวที่คุณสามารถกำจัดได้ คือ การผ่าตัดเลาะเอาฟิลเลอร์ออกมา และคุณจะได้ของแถม คือ แผลเป็น!
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้