วันนี้จะมีเล่ารายละเอียดการทำจมูกครั้งแรก และครั้งที่ 2 ของเรานะจ๊ะ เข้าเรื่องเลยละกันเนอะ
เราทำจมูกครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557
ได้คิวแบบงงๆ คือเพื่อนเราเล่าว่าหมอเกมส์นี่ทำจมูกสวย คนทำเยอะ แล้วแบบคิวยาวมากนะ
แกได้คิวถือว่าโชคดีมาก เราก็รีบตกลงแล้วโอนค่ามัดจำทันที 3000 บาท
จากนั้นเค้าก็ส่งข้อมูลมาให้ จนใกล้จะถึงวันทำ ก็ตื่นเต้นนะ ช่วงนั้นยังไม่ปิดเทอม
ต้องเจียดเวลาบินไปกรุงเทพ (บ้านเราอยู่นครพนม)
ก่อนถึงวันนัด 1 วันทางเจ้าหน้าที่ก็โทรมาบอกเวลาว่าเราต้องเข้าไปคลินิก 10 โมงเช้า
พอถึงวันนัด เจ้าหน้าที่ในคลินิกก็โทรมาตาม เราก็แอบแว๊บกินข้าวเช้านิดนึง
เพราะเพื่อนบอกเดี๋ยวระบมจะกินไม่ได้นะ เลยกินๆๆ เลทไป10 นาที
พอไปถึงเค้าก็ให้อ่านรายละเอียด แล้วก็ให้เซ็นสัญญาอะไรบางอย่าง (ไม่ทันอ่านจริงๆดูรีบๆ)
แล้วก็ให้เราเลือกแบบว่าจะเอาโด่งมาก หรือแบบธรรมชาติ ซึ่งตัวเจ้าหน้าที่เองก็มาจับๆจมูกเรา
แล้วบอกว่าเนื้อเยอะนะคะ ทำโด่งๆได้ แต่ปลายจมูกสั้น และแกนใหญ่ เราก็เลือกแบบธรรมชาติไป เป็นอันเสร็จ
แล้วก็มาเลือกราคาซิลิโคน มีตั้งแต่ 13650 - 35650 โดยประมาณ ตัวเราเองเลือก 20650 บาทไป
จากนั้นก็มาชำระเงินก่อนที่เค้าจะพาเราขึ้นไปเตรียมตัว ล้างหน้า ใส่หมวกคลุม-เสื้อคลุม
แล้วก็คุยๆเรื่องยาที่ต้องกิน ต้องทา การประคบเย็น การนอนหลับโดยท่านั่งบลาๆ ซักพักก็มีคนพาไปห้องผ่าตัด
คุณหมอเค้าก็ถามว่าอยากได้ประมาณไหน เราก็บอก อยากได้โด่งกว่านี้นิด ไม่ต้องยาวมาก ไม่ชอบหยดน้ำ
หมอก็โอเค แล้วเค้าก็ให้เรานอน จัดแจงท่า มัดมือแล้ววางยาสลบให้เรา จำได้ประโยคสุดท้าย หายใจเข้าลึกๆนะคะ แล้วก็วูบไปเลย
ภาพก่อนทำ สดๆก่อนเข้าห้องผ่าตัดเลยจ้าา
หลังทำเสร็จทันที
![]()
ทำเสร็จจะมีพยาบาลพยุงเรามีนั่งพักที่ห้องตรงข้ามเลย เราก็นั่งซับเลือดไป ส่องกระจกไป
อันนี้กลับถึงห้องพักแล้ว ผ่านไป 3 ชั่วโมงหลังจากผ่าตัดเสร็จ
อันนี้วันที่ 3 บินกลับบ้านที่นครพนมแล้วจ้า (ยังไม่เห็นความเบี้ยวเท่าไหร่มั้ง)
มาถึงวันที่เอาพลาสเตอร์ออก (เค้าบอกว่าเอาออกได้วันที่ 4 ถ้าจำไม่ผิด)
![]()
โอ๊ะโอ มันเบี้ยว นี้คอเอียงด้วย มันเลยเบี้ยวไปกันใหญ่ แล้วหน้าแหกมาก ล้างหน้าไม่สะอาด สิวมาเต็ม อนาถใจสุดๆ วินาทีนั้น
อีกรูป
อันนี้ครบ 7 วัน เราก็ส่งรูปนี้ไปให้เจ้าหน้าที่ดู (ในไลน์) เจ้าหน้าที่บอกให้รีบเข้ามาคลินิกด่วน แต่เราไปไม่ได้ ติดเรียน โคตรจะซวย
จะเห็นได้ว่าจมูกเราเบี้ยวไปทางหัวคิ้วด้านซ้ายตลอด แต่ช่วงนั้นยังไม่ว่างไปหาหมอ เลยลากยาวไปเรื่อยจนถึงเดือนกันยายน
เนื่องจากทางคลินิกเองรับประกันแก้ให้ฟรีหากเบี้ยวภายใน 3 เดือน เราเลยไปปรึกษาหมออีกรอบ
เข้าไปถึงคลินิกช่วงปลายเดือนกันยายน เราเองช่วงนั้นปิดเทอม แต่ยังอยากไปเที่ยวตจว. เลยนัดแก้ไปวันที่ 19 ตุลาคม
เค้าก็โอเค ทำบัตรนัดให้ แล้วเราก็ไปเที่ยวสบายใจเฉิบแบบเบี้ยวๆต่อไปอีก 2 อาทิตย์
ถึงวันนัด เราก็ไปเลทอีกแล้ว เนื่องจากไม่มีคนพาไปต้องพึ่งพี่แท็กซี่ ไปถึงเจอเพื่อนร่วมชะตากรรม จมูกเบี้ยว มาหาหมอเกมส์ แก้พร้อมกันวันนั้นเลย
หลังจากนั้นหมอก็บอกว่า จะลดโด่งนะ โด่งไปเลยเบี้ยว เราก็โอเค เพราะจริงๆไม่ได้อยากพุ่งขนาดนี้อยู่แล้ว
แล้วก็ตามสเต็ปเดิมเลย หายใจเข้าลึกๆ แล้วก็วูบ ...